• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#2921


'สี จิ้นผิง'ตั้งเป้าส่งวัคซีนโควิดช่วยทั่วโลก 2 พันล้านโดสในปีนี้ พร้อมบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า จีนจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในปี 2564 นี้

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสียังระบุว่าจีนจะบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์ซึ่งเป็นโครงการกระจายวัคซีนให้แก่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย หลังจากที่ผ่านมา จีน ได้จัดส่งวัคซีนจพนวนกว่า 770 ล้านโดสไปให้ประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ในการประชุมฉุกเฉินในระดับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก)ทางออนไลน์ ประธานาธิบดีสี สัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ แก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อนำไปต่อสู้กับโควิด-19 ให้ฟื้นตัวจากผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
#2922


การจับมือกันครั้งแรกของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่น ระหว่าง ห้องเสื้อ วนัช เฟิร์ส และ แบรนด์จิวเวลรีชั้นนำระดับโลก คาร์เทียร์ ที่มาร่วมถ่ายทอดผลงานคอลเลคชันใหม่ล่าสุดขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง L'officiel Wedding Thailand ซึ่งครั้งนี้ทาง ห้องเสื้อ วนัช เฟิร์ส ได้เปิดตัวคอลเลคชันใหม่ล่าสุดกว่า 12 ชุด ด้วยสองนางแบบ ชื่อดัง อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2563 และ แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นแบรนด์ชั้นนำแถวหน้าของเมืองไทยที่ถูกยกให้เป็น Luxury Wedding ภายใต้การกำกับดูแลของ สรรค์ สุดเกตุ เจ้าของห้องเสื้อ วนัช เฟิร์ส และ วนัช กูตูร์ โดยคอนเซปต์ของชุดที่ทางดีไซเนอร์ ได้วางเอาไว้ถ่ายแบบร่วมกับ คาร์เทียร์ ในครั้งนี้ ต้องการที่จะสื่อถึงความเป็นเจ้าสาวโซนเอเชีย ถึงแม้นางแบบที่เลือกใช้จะเป็นสาวไทยลูกครึ่ง ทั้ง อแมนด้า และ แพทริเซีย แต่ทั้งสองสาวก็สามารถ่ายทอดผลงานชุดแต่งงานออกมาได้อย่างงดงาม มีความสวยหวานละมุน และโดดเด่นแบบชาวตะวันออก ซึ่งมูลค่าของชุดที่นางแบบทั้งสองใส่นั้นมีมูลค่ารวมสูงถึงหนึ่งล้านบาท เลยทีเดียว



สรรค์ สุดเกตุ ได้กล่าวถึงคอลเลคชันชุดแต่งงานในครั้งนี้ว่า "นับเป็นโอกาสที่ดีมากๆที่ห้องเสื้อของเราได้ร่วมงานกับ แบรนด์ใหญ่ ๆ ระดับโลก อย่าง คาร์เทียร์ ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นและหัวใจพองโตมาก ๆ เราอยากให้ทุกคนได้เห็นและได้สัมผัสผลงานของเราที่พัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในคอลเลคชันนี้ที่เราเน้นความพรีเมียมและหรูหราเป็นพิเศษด้วยงานปักทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น คริสตัล ไข่มุก และหินต่างๆ รวมทั้งรูปแบบของชุดที่มีความหลากหลายและมีสไตล์เฉพาะตัว ดีเทลของชุดเราเน้นเลเยอร์ของผ้า และ การนำผ้ามาจับเดรป หรือ ขยุ้มให้มีระบาย เป็นสไตล์ของแฟชั่นชุดแต่งงานแบบเอเชียนลุคที่เหล่าแฟชั่นนิสต้านิยมสวมใส่ในงานแต่งงาน และครั้งนี้เราได้นางแบบสาวลูกครึ่ง คุณอแมนด้า และ คุณแพทริเซีย สองสาวสองสไตล์ที่สามารถถ่ายทอดผลงานออกมาได้สวยงาม ตรงคอนเซ็ปต์ และ ตรงใจเรามากที่สุด และด้วยความเพอร์เฟคทั้งหมดนี้ ทำให้ห้องเสื้อของเราได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ มากเลยทีเดียว แถมยังได้แฟนคลับมากขึ้นอีกด้วยสำหรับใครที่ชื่นชอบชุดแต่งงานของทางห้องเสื้อ วนัชเฟิร์ส และ วนัช กูตูร์ สามารถติดตามผลงานทั้งหมดได้ผ่านทาง https:// www.facebook.com/Vanus-First และ www.facebook.com/vanuscouture ขอบคุณแฟน ๆ ทุกท่านที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ"
















 
#2923



ความหวังที่ว่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกจะเริ่มฟื้นตัว เพราะหลายประเทศเริ่มเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะดูเหมือนสายการบินอเมริกันหลายแห่งเริ่มมีรายได้เข้ามาแต่สายการบินในเอเชีย โดยเฉพาะสายการบินชั้นนำของญี่ปุ่นกลับขาดทุน

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ (เจเอแอล)เผยตัวเลขขาดทุนสุทธิ 5.792 หมื่นล้านเยน (531 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2/2564 สวนทางกับบรรดาสายการบินอเมริกันหลายแห่ง ทั้งเดลตา แอร์ไลน์ และอเมริกัน แอร์ไลน์ที่รายได้เพิ่มขึ้น

ถึงแม้เจเอแอลขาดทุนแต่ก็เป็นตัวเลขขาดทุนสุทธิที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความพยายามลดต้นทุนของบริษัทโดยบริษัทเคยขาดทุนสูงถึง 9.371 หมื่นล้านเยนในไตรมาสที่ 2/2563 ซึ่งถือเป็นการขาดทุนมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส นับตั้งแต่บริษัทจดทะเบียนใหม่เมื่อปี 2555 ส่วนยอดขายขยายตัว 74.1% จากปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.3303 แสนล้านเยน

อย่างไรก็ตาม เจเอแอลไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปีงบการเงิน 2564 โดยระบุถึงความไม่แน่นอนของธุรกิจ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การจราจรทางอากาศยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาด แต่จำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ของสายการบินขยับขึ้น

ถึงอย่างนั้น เจเอแอลก็มองว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากผลกระทบที่ยืดเยื้อของวิกฤตสุขภาพทั่วโลก แต่มีความหวังมากขึ้นว่าธุรกิจการบินจะฟื้นตัวจากอุปสงค์ด้านการเดินทางภายในประเทศ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน

จำนวนผู้โดยสารสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าอยู่ที่ 2.71 ล้านคนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่อุปสงค์ด้านการเดินทางลดลง เนื่องจากญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ

แต่ไม่ได้มีแค่เจเอแอลเท่านั้นที่ประสบปัญหาในการสร้างรายได้และผลกำไร สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สายการบินแควนตัส ของออสเตรเลียก็เจอปัญหาเช่นกันจากผลพวงของโรคโควิด-19 ทำให้สายการบินต้องปรับลดเที่ยวบินจากเดือนพ.ค. ซึ่งอยู่ที่เกือบ 100% ของระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด ลงเหลือน้อยกว่า 40% ในเดือนก.ค. เพราะมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลออสเตรเลียประกาศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา

ซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลียได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และคาดว่าทางการซิดนีย์จะยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไปนานกว่า 3 สัปดาห์ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลียก็เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด

"ดูจากยอดผู้ติดเชื้อในขณะนี้ ผมคาดว่าซิดนีย์จะยังคงปิดพรมแดนต่อไปอย่างน้อย 2 เดือน" "อลัน จอยซ์" ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)สายการบินแควนตัส กล่าว

นอกจากลดเที่ยวบินแล้ว แควนตัสยังตัดสินใจให้พนักงานประมาณ 2,500 คนพักงานเป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือนโดยงดจ่ายค่าตอบแทน

สายการบินระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อนักบินประจำเที่ยวบินภายในประเทศ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และพนักงานประจำท่าอากาศยานในรัฐนิวเซาท์เวลส์

ส่วนสายการบินยุโรปก็เจอชะตากรรมคล้ายกัน โดยอินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (ไอเอจี)บริษัทแม่ของบริติช แอร์เวย์ส รายงานตัวเลขขาดทุนหลังหักภาษีในไตรมาส2 อยู่ที่ 981 ล้านยูโร (1,160 ล้านดอลลาร์)โดยอ้างถึงผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

สวนทางกับบรรดาสายการบินรายใหญ่ๆของสหรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปแล้ว 70% เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวให้เห็น โดยสายการบินรายใหญ่ 3 รายอันได้แก่ สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เดลตา แอร์ไลน์ และอเมริกัน แอร์ไลน์มีกำไรสุทธิรวมกัน 237 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสล่าสุด โดยสายการบินสองรายสุดท้ายมีกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2563 ​

ผลกำไรของสายการบินชั้นนำทั้งสามแห่งเป็นผลมาจากการเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยผู้โดยสารในสหรัฐใช้บริการเที่ยวบินในประเทศเดือนมิ.ย.ปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 85% เทียบกับในญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนเพียง 32%

ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(ไออาต้า)ระบุว่า การจราจรทางอากาศระหว่างประเทศในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินข้ามพรมแดนระยะสั้นๆมีสัดส่วนแค่ 31% ของจำนวนเที่ยวบินข้ามพรมแดนเมื่อสองปีก่อน
#2924


ขณะนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เร่งเดินหน้าโครงการหมู่บ้านปลอดโควิด-19 ท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดมากขึ้น ซึ่งมีชุมชน/หมู่บ้านเข้าร่วมโครงการแล้ว 188 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 415 หมู่บ้านของจังหวัด คิดเป็นร้อยละ 45.3

เฉพาะ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จากเป้าหมายจะต้องประกาศหมู่บ้านปลอดโควิดให้ได้อย่างน้อย 50 หมู่บ้านนั้น ล่าสุดเริ่มดำเนินการนำร่องได้แล้ว 3 หมู่บ้าน คือ บ้านทบศอก หมู่ที่ 8 ต.หมอกจำแป่, บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ต.ปางหมู และที่บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ที่ 8 ต.ผาบ่อง

โดย "บ้านห้วยเสือเฒ่า" เป็นหมู่บ้านด้านการท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาว แต่ในหมู่บ้านมีทั้งกะเหรี่ยงคอยาวและกะเหรี่ยงแดงอาศัยอยู่ ณ ขณะนี้แทบจะปิดหมู่บ้านเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว แต่การรณรงค์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านนั้นจะต้องใช้คนที่สื่อสารภาษาที่เข้าใจอย่างดีจึงจะได้ผล ซึ่งพบว่าชาวบ้านต่างตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะหากป้องกันการแพร่เข้าไปยังหมู่บ้านไม่ได้ก็จะกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากหย่อมบ้านแต่ละแห่งนั้นอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น ง่ายต่อการแพร่ระบาดที่รวดเร็วได้

สำหรับแนวทางหมู่บ้านปลอดโควิดของแม่ฮ่องสอนนั้น กำหนดให้แต่ละหมู่บ้านนำทุกมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายเข้าสู่ชุมชน ใช้ธงฟ้าเป็นสัญลักษณ์ ให้ผู้นำหมู่บ้านทำงานร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.เดินหน้าเคาะประตูทุกหลังคาเรือนทำความเข้าใจและให้รู้ถึงพิษภัยของโควิด แนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยครบ 100% การตั้งจุดตรวจผ่านเข้าออกของหมู่บ้าน มีการบันทึกการเข้าออกและสอดส่องบุคคลแปลกหน้าที่จะเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับแม่ฮ่องสอน จนถึง 4 สิงหาคม 64 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแล้วรวม 182 ราย รับจากต่างจังหวัด 115 ราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย รักษาหายแล้ว 100 ราย
#2925


นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย "สิริฮับ" หรือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token) มูลค่าเสนอขาย 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.ให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อและเข้าซื้อขายบนตลาดรองภายในปีนี้

โครงการสิริฮับ เป็นการลงทุนในกระแสรายรับค่าเช่าของกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส ซึ่งมีบมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นผู้เช่าระยะยาวเต็มพื้นที่ 100% โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ภายในพื้นที่ T77 ของบริษัท เอสพีวี 77 จำกัด สัญญาเช่าระยะยาว 12 ปี ค่าเช่าปีละ 149.4 ล้านบาท ขณะที่โครงการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ มีอายุโครงการ 4 ปี ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะมีรายรับที่ต่อเนื่อง


ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลในครั้งนี้ จะแบ่งเสนอขายทั้งหมด 2 ชุดอายุ ได้แก่ 1. สิริฮับ A (SiriHubA) จำนวน 160 ล้านโทเคน มูลค่า 1,600 ล้านบาท กำหนดส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสที่ 4.5% ต่อปี โดยนักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการจำนวนไม่เกิน 1,600 ล้านบาท 

2. สิริฮับ B (SiriHubB) จำนวน 80 ล้านโทเคน มูลค่า 800 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 8% ต่อปี นักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 8% ต่อปี และยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการเฉพาะส่วนเกิน 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป

การประเมินมูลค่าทรัพย์สินจากผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 2 ราย คาดการณ์ว่าในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดของโครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท

"เรากำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาทต่อ 1 โทเคน เพื่อกระจายโอกาสให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าโครงการระดับพันล้านบาทได้ ในขณะเดียวกันยังมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่ดีและสม่ำเสมอเป็นรายไตรมาส"

นายอัฏฐ์ กล่าวว่า ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับครั้งนี้ ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ของเทโซส (Tezos) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ ทำให้ระบบดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง 

สำหรับรายละเอียดวันที่เปิดให้จองซื้อและวันที่เข้าซื้อขายในตลาดรอง บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนอีกครั้ง เพราะจะต้องได้รับการอนุมัติจากก.ล.ต.ให้แบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) มีผลบังคับใช้ก่อน แต่เบื้องต้นนักลงทุนสามารถลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น "XSpring" ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทจะเปิดให้จองซื้อโทเคนดิจิทัลได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android เพื่อเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนใช้บริการ ซึ่งจะต้องผูกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ไว้สำหรับการรับเงินปันผล

ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อประมาณ 10 วันทำการนับตั้งแต่วันที่เริ่มขาย แต่สามารถปิดขายได้ก่อนกำหนด หากกระจายได้ครบจำนวนแล้วและจะดำเนินการตั้งกองทรัสต์หลังจากปิดการขายภายใน 15 วันทำการ ก่อนจะนำโทเคนดังกล่าวเข้าไปซื้อขายในตลาดรองของพันธมิตรบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยอีอาร์เอ็กซ์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดรอง
#2926












โควิดลดกระหน่ำ บ้านเดี่ยวเมืองปทุม 97 วา 5.3 ลบ. มบ. มณีรินทร์ เลค แอนด์ ปาร์ค ถนน 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซื้อผ่อนเจ้าของได้
เครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ โครงการหรูมีระดับ บ้านติดถนนเมนโครงการ หน้ากว้างถนนประมาณ 12 เมตร ทำเลดีบรรยากาศเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสาธารณูปโภคครบครัน สวยเลิศอลังการ ดีงามน่าอยู่ฟินสุดๆ  สโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเน็ส สนามเทนนิส สนามเด็กเล่น สวนออกกำลังกาย ยามรักษาการณ์หลายป้อม ปลอดภัยสูงสุด 24 ชั่วโมง อบอุ่นมั่นใจ เหมือนเมืองเมืองนึง แบบบ้านสวยเข้าอยู่ได้เลย จอดรถได้ถึง 6 คัน โครงการติดถนนเมนใหญ่ ถ.345 ไปเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสายสะดวกสบายในการเดินทาง  ใกล้ทางด่วนศรีสมาน ใกล้โรงเรียนสาธิตปทุมธานี  โรงเรียนหอวัง แยกสวนสมเด็จ ใกล้โลตัส ห้างโรบินสัน พบข้อเสนอพิเศษมากมาย โทรและไลน์

โทร  083-712-4115
line id : 0837124115

หมู่บ้านมณีรินทร์
ตำบล บางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12000
https://maps.app.goo.gl/8DoARcX7WmggGE7z6
 
#2927


ทีมชาติเกาหลีใต้ ภายใต้การนำของ "กัปตันคิม" คิม ยอน คยอง วัย 33 ปี สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หลังเอาชนะ ตุรกี 3-2 เซต

การแข่งขันกีฬาวอลเลย์.หญิง ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นชาติเอเชีย เพียงชาติเดียวที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หลังเอาชนะตุรกี 3-2 เซต 17-25, 25-17, 28-26, 18-25, 15-13

โดยก่อนหน้านี้ในมหกรรมโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกาหลีใต้ เคยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมาแล้ว ก่อนแพ้ ญี่ปุ่น รอบชิงอันดับ 3

ขณะที่คู่แข่งของ เกาหลีใต้ ในนัดต่อไป จะพบผู้ชนะระหว่าง สหรัฐฯ และ โดมินิกัน ต่อไป
#2928


วัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค มีประสิทธิภาพ 58.5% ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบแสดงอาการในประชาชนชาวชิลีที่ได้รับวัคซีนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชิลีในวันอังคาร (3 ส.ค.) ขณะที่ไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 87.7% และแอสตร้าเซนเนก้า มีประสิทธิภาพ 68.7% แต่สุดท้ายเชื่อว่าวัคซีนทุกตัวคงต้องฉีดเข็ม 3 รับมือกับตัวกลายพันธุ์เดลตา

ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่างๆ จากการใช้งานจริงกับประชาชนชาวชิลี

ชิลีเป็นหนึ่งในชาติที่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนรวดเร็วที่สุดในโลก โดยพวกเขาเริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม และเวลานี้มีประชาชนชาวชิลีที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของจำนวนประชากร ส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัทสัญชาติจีน "ซิโนแวค"

นายแพทย์ราฟาเอล อาราออส เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวระหว่างแถลงข่าวในวันอังคาร (3 ส.ค.) ว่าวัคซีนโคโรนาแวค มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อเข้าโรงพยาบาล 86% ป้องกันการป่วยหนักถึงขึ้นเข้าห้องไอซียู 89.7% และป้องกันการเสียชีวิต 86% ในบรรดาประชาชนที่ฉีดวัคซีนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม

ในเดือนเมษายน ผลการศึกษาเดียวกันพบว่าโคโรนาแวค มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการ 67% ป้องกันการติดเชื้อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 85% และป้องกันการเสียชีวิต 80% จากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าพอเวลาผ่านไปมันยังคงมีประสิทธิภาพระดับสูงในการป้องกันการป่วยหนัก แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการลดลง

อาราออส ระบุว่า พอเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพการป้องกันที่ลดลงของวัคซีนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการคืบคลานเข้ามาและอัตราความชุกของตัวกลายพันธุ์ต่างๆ อย่างเช่นตัวกลายพันธุ์เดลตา

"ถ้าเดลตาแพร่ระบาดมากกว่านี้และวัคซีนก่อการตอบสนองที่อ่อนแอลง เราอาจได้เห็นประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงเร็วกว่านี้" เขากล่าว พร้อมส่งเสียงเรียกร้องขอวัคซีนเข็มที่ 3 หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในเวลานี้

รัฐบาลยังเผยแพร่ข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนตัวอื่นๆ ที่ฉีดในชิลี ได้แก่ ไฟเซอร์/ไบออนเทค และแอสตร้าเซนเนก้า

นายแพทย์อาราออส ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการ 87.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้ออาการหนักเข้าห้องไอซียู 98% และป้องกันการเสียชีวิต 100%

ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการ 68.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้ออาการหนักเข้าห้องไอซียู 98% และป้องกันการเสียชีวิต 100% เช่นกัน จากการเปิดเผยของอาราออส

การศึกษาของชิลี เป็นการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มประชากรต่างๆ ที่ทั้งได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ได้รับ 1 เข็ม หรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าในการวิจัยนั้น วัคซีนซิโนแวคมีกลุ่มประชากรเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษามากถึง 8.6 ล้านคน ไฟเซอร์/ไบออนเทค ใช้กลุ่มประชากร 4.5 ล้านคน และแอสตร้าเซนเนก้า ศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนจากประชาชน 2.3 ล้านราย

(ที่มา : รอยเตอร์)
#2929


ผลจากมาตรการ "ล็อกดาวน์" ตั้งแต่ปี 2563 ลามมาปีนี้ โดยล่าสุดมีการ "ขยายล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้มจนถึง 31 ส.ค.นี้ เป็นปัจจัยลบ!!ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และมีผลต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่ำที่สุดในรอบ17 ปี!! ทีเดียว

"อิสระ บุญยัง "นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ในฐานะประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรก แม้ยอดการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 40-50% ช่วงแรกผู้ประกอบการต่างคาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 จะไม่รุนแรงทุกบริษัทน่าจะทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ออกมาในช่วงไตรมาส 3-4

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดรุนแรงในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอารมณ์ซื้อ และกำลังซื้อ "หดตัว" หนักขึ้นกว่าเดิม ขณะที่มาตรการเข้มงวดต่างๆ ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะการเว้นระยะห่างทางสังคม การจำกัดการเดินทางทั้งในและระหว่างประเทศ ทำให้ปี 2564 น่าจะเป็นปีที่การเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่ำที่สุดในรอบ17ปี!!! นับตั้งแต่2547เป็นต้นมา น่าจะเหลือยอดไม่เกิน 40,000 ยูนิต ทั้งคอนโดและบ้านจัดสรร

"ปีนี้ต้องยอมรับว่าปัจจัยลบจำนวนมากที่เข้ามากระทบตลาดอสังหาฯ ขณะเดียวกันตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันมีโครงการคอนโดหยุดแล้วกว่า 10,000 ยูนิต ส่งผลให้ซัพพลายในปีนี้ต่ำสุดในรอบ17 ปี"

ขณะเดียวกันยอดโอนรับรู้รายได้อาจจะลดลงไม่ถึง 50% เพราะมีการล็อกดาวน์ยอดโอนในเดือน ก.ค.- ส.ค. ลดลง คาดว่าภาพรวมทั้งปีลดลง 10-15% ต่ำกว่าปี 2563 แต่ยังถือว่าดีมากแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะแนวโน้มสถานการณ์โควิดยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร และยังมีความโชคดีที่ยอดโอนในครึ่งปีแรกไม่แย่มากนักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

อิสระ ระบุว่าในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีการโอนเพราะมีสต็อกมีบ้านที่รอส่งมอบอยู่แต่ เดือน ส.ค. ต่อเนื่อง ก.ย. คงถูกเลื่อนไป ยกตัวอย่าง กานดา พร็อพเพอร์ตี้ ในช่วงล็อกดาวน์ ไม่มีงานประกอบติดตั้งใหม่ ฉะนั้นปลายปีที่มีงานประกอบติดตั้งจะถูกร่นไปเดือนหนึ่ง หากว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมดีทุกไซต์งานหรือผู้ประกอบการทุกรายคงมีมาตรการเร่งรัดงานก่อสร้าง มีทำล่วงเวลาโดยไม่ทำให้ชุมชนเดือดร้อน หรือมีเสียงรบกวน แต่หากเศรษฐกิจรวมอยู่ใน "ขาลง" ผู้ประกอบการไม่น่าจะสปีดงานก่อสร้าง! มิเช่นนั้นจะมีแต่เงินไหลออก (Cash Out) ฉะนั้นต้องวางแผนให้เหมาะกับเงินไหลเข้า(Cash In)

"สภาพการณ์ต่อจากนี้ใน 6 เดือนข้างหน้าก็เชื่อเหลือเกินว่า โดยภาพรวมผู้ประกอบการยังคงระมัดระวังการก่อสร้างมากขึ้น แม้ว่าอาจจะไม่ได้ล็อกดาวน์ พร้อมกันนั้นแรงงานที่กระจัดกระจายไปคงยังไม่ได้กลับมาโดยเร็ว จาก 2 ปัจจัยทั้งเศรษฐกิจชะลอตัวและแรงงานที่หายไป การเร่งก่อสร้างทำได้ยาก วิธีแก้ปัญหาคงต้องใช้ระบบสำเร็จรูปหรือพรีคาสท์ในการติดตั้ง "

ช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องเข้าใจว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ยิ่งมีการล็อกดาวน์ต่อเนื่องการจับจ่ายใช้สอยย่อมชะลอตัวลงเป็นธรรมดา ดังนั้นการก่อสร้างก็ต้องสมดุลกับยอดขาย

"สถิติและผลกระทบที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้รับต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายเดือนก.ค. ที่ผ่านแย่ที่สุด โดยเฉพาะคอนโด"

สถิติของกานดา พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า เดือนก.ค.เป็นเดือนที่มีคนเข้าเยี่ยมชมโครงการ (Walk-in) น้อยที่สุดในรอบปีหลังจากเผชิญมาตรการล็อกแคมป์ก่อสร้าง ตามมาด้วยมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดการจองน้อยที่สุดในรอบปีตั้งแต่ ก.ค.2563 ในภาพรวมของกรุงเทพฯ และ ปริมาณฑล ฉะนั้น ครึ่งปีหลังผู้ประกอบการอสังหาฯ ระมัดระวังในการเปิดตัวโครงการมากขึ้น

สอดคล้องกับ "พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ "นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำนิวไฮเป็นระยะๆนั้น ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ จากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่เชื้อ หรือที่ผ่านมาคือการปิดแคมป์ก่อสร้างอย่างชัดเจน ทำให้ธุรกิจเดินต่อไม่ได้หรือไปได้อย่างยากลำยาก ไม่นับรวมผลกระทบที่เกิดจากกำลังซื้อของลูกค้าที่หดตัวลงจากรายได้ที่ลดลง ส่งผลให้ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากภาคธนาคาร รวมทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯที่ต้องอาศัยเงินกู้ตั้งแต่การซื้อที่ดิน การพัฒนาโครงการ ปัจจุบันสถาบันการเงินแทบไม่อนุมัติสินเชื่อใหม่แล้ว เพราะมีกังวลต่อความเสี่ยงเกิดหนี้เสีย

"ปีนี้ตลาดอสังหาฯ ได้รับผลกระทบหนักมากโดยเฉพาะพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชะลอตัวอย่างรุนแรง ยอดขายน้อย ขณะยอดโอนกรรมสิทธิ์ มีปัญหา หมุนกลับมาเป็นรายได้ให้ผู้ประกอบการได้ยาก เนื่องจากลูกค้ากู้ไม่ผ่าน ส่วนตลาดต่างจังหวัดตลาดแนวราบยังพอไปได้ในหัวเมืองใหญ่ คาดว่าปีนี้ตัวเลขเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำกว่าปี 2540 "

จากข้อมูลของ โจนส์ แลง ลาซาลล์ พบว่า ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันตัวเลขคอนโด ชะลอโครงการมีทั้งหมด 12,700 ยูนิต เป็นโครงการที่ยกเลิก 5,900 ยูนิต ชะลอการก่อสร้าง 2,500 ยูนิต และยังไม่กำหนดวันเปิดตัวโครงการ 4,300 ยูนิต พร้อมกันนี้ ด้านราคาคอนโดปรับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 101,900 บาท ต่อตร.ม. ส่วนคอนโดระดับไฮเอนด์ใจกลางเมืองราคาอยู่ที่ 218,000 บาทต่อตร.ม. สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการอสังหาฯ ปรับตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวด้วยการเบรกการลงทุนโครงการใหม่ และเร่งระบายสต็อกซัพพลายที่เหลืออยู่เพื่อกำเงินสดไว้ในมือ

สถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบรอบด้านทั้งจากมาตรการล็อกดาวน์ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงอารมณ์ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังในการตลาดหรือเปิดโครงการใหม่ มิเช่นนั้น ยอดขายแป้ก!! ได้ง่ายๆ
#2930


ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) เดินหน้าสร้างสังคมแห่งความรับผิดชอบอย่างทั่วถึงและยั่งยืนประกาศความสำเร็จของแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซ (DRINKiQ Quiz) ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยยอดการทำควิซมากกว่า 34,000 ครั้ง

โดยมีผลสำรวจทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เผยว่าคนไทยที่เข้ามาทำแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซจำนวน 98.6% อยากปรับพฤติกรรมการดื่มให้ดียิ่งขึ้นเพื่อผู้อื่นหลังทำแบบทดสอบ ผู้ทำแบบทดสอบจำนวน 90.6% จะแนะนำให้ผู้อื่นดื่มให้ดียิ่งขึ้น และผู้ทำแบบทดสอบ 97.9% ระบุว่าควิซนี้ช่วยให้เข้าใจเรื่องการดื่มอย่างพอดีมากขึ้น

ทั้งนี้ เว็บไซต์ดริ้งค์ไอคิว (DRINKiQ) โฉมใหม่จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จของแบบทดสอบ ดริ้งค์ไอคิวควิซด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความรู้เรื่องการดื่มให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดื่มหรือไม่ดื่ม ด้วยช่องทางออนไลน์ที่สะดวกในการเข้าถึง ซึ่งจะช่วยสร้างสังคมแห่งการดื่มอย่างรับผิดชอบ



นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมียมระดับโลก กล่าวว่า "ดิอาจิโอให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการดื่มอย่างรับผิดชอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานด้านความยั่งยืน SOCIETY 2030: SPIRIT OF PROGRESS และยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่จะลดการดื่มอย่างเป็นอันตรายทั่วโลกให้ได้ 10% ภายในปี 2568

ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการลดการดื่มอย่างเป็นอันตรายคือการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง DMHT มุ่งมั่นให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ผ่านโครงการดริ้งค์ไอคิวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 โดยเน้นในรูปแบบสื่อออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งผู้ที่ดื่มและไม่ดื่มแอลกอฮอล์ สามารถเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งในรูปแบบแพลตฟอร์ม E-Learning ตามมาด้วยควิซออนไลน์ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2563 และมียอดการเข้าทำควิซมากกว่า 34,000 ครั้ง ความคิดเห็นของผู้ทำควิซยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าดริ้งค์ไอคิวควิซสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อการดื่มแอลกอฮอล์"

DMHT ได้มีการทำแบบสำรวจทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสำรวจทัศนคติของผู้ที่ทำแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซเพื่อวัดประสิทธิภาพของแบบทดสอบ และพบว่าแบบทดสอบมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับการดื่มในทิศทางที่ดีขึ้น โดย 98.6% ของผู้ทำแบบทดสอบระบุว่าตนเองมีความคิดอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มให้ดียิ่งขึ้นเพื่อผู้อื่น 90.6% ระบุว่าจะชักชวนผู้อื่นเข้ามาทำควิซ และ 97.9% ของผู้ทำแบบทดสอบระบุว่าควิซนี้ช่วยให้เข้าใจเรื่องการดื่มอย่างพอดีมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ทำแบบสำรวจ ทั้งผู้ที่ดื่มและไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ยังระบุอีกด้วยว่าพวกเขาได้ความรู้ใหม่ๆ และแก้ไขความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ จากการทำแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซ

เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซ DMHT จึงเปิดตัวเว็บไซต์ดริ้งค์ไอคิวโฉมใหม่ (https://www.drinkiq.com/th-th/) เพื่อเป็นพื้นที่ในการให้ความรู้เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น และยังสะดวกในการเข้าถึงทุกที่ ทุกเวลา โดยในเว็บไซต์ใหม่นี้จะมีทั้งข้อมูลที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างแอลกอฮอล์กับร่างกาย แอลกอฮอล์กับจิตใจ บทความที่จะช่วยสำรวจตนเองว่ากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับแอลกอฮอล์หรือไม่ รวมถึงความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ที่จะช่วยแก้ไขความเข้าใจที่ผิด เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลที่ถูกต้องในการตัดสินใจดื่มอย่างมีสติ และสามารถแนะนำคนใกล้ชิดให้ดื่มได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ยังมีแบบทดสอบดริ้งค์ไอคิวควิซ และแบบทดสอบที่ใช้ประเมินความเสี่ยงของพฤติกรรมการดื่มของตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงช่องทางติดต่อของหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหาเกี่ยวกับแอลกอฮอล์อีกด้วย
#2931


รัฐฟลอริดาและรัฐลุยเซียนา ในวันจันทร์ (2 ส.ค.) ทุบสถิติหรือใกล้ทุบสถิติมีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด จากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ในขณะที่แพทย์คนหนึ่งเอ่ยปากเตือนกำลังเผชิญช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดเท่าที่เคยมีมา

มีคนไข้โควิด-19 มากกว่า 10,000 คน เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ในรัฐฟลอริดา จนถึงวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลของรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรัฐลุยเซียนา คาดหมายว่าจะทุบสถิติสูงสุดภายใน 24 ชั่วโมง กระตุ้นให้ผู้ว่าการรัฐ จอห์น เบล เอ็ดเวิร์ดส จากพรรคเดโมแครต สั่งให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้งยามอยู่ในร่ม

"นี่คือวันเวลาที่มืดมิดที่สุดของโรคระบาดใหญ่" แพทย์หญิงแคเธอรีน โอนีล หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์แห่งศูนย์การแพทย์อาวร์ เลดี ออฟ เดอะ เลค เรเจีย. เมดิคอล เซ็นเตอร์ ในเมืองบาตันรูช รัฐลุยเซียนา กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ เอ็ดเวิร์ดส "เราไม่สามารถให้การดูแลคนไข้อย่างเพียงพอได้อีกแล้ว"

โอนีล เรียกร้องชาวลุยเซียนาเข้ารับวัคซีน พร้อมเตือนว่าคนไข้กำลังล้นโรงพยาบาล และพยาบาลจำนวนมากติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้รัฐแห่งนี้ขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์กว่า 6,000 คน

ตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐอาร์คันซอก็กำลังเพิ่มขึ้นเช่นกัน และท้ายที่สุดแล้วก็น่าจะทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ในแคลิฟอร์เนีย พวกผู้นำทางการเมืองใน 8 เคาน์ตีย่านอ่าวซานฟรานซิสโก กลับมาบังคับสวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่สาธารณะในร่มอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันอังคาร (3 ส.ค.) เป็นต้นไป

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ระบุว่าจะบังคับพนักงานด้านการขนส่ง เจ้าหน้าที่เรือนจำ บุคลากรตามโรงพยาบาลต่างๆ และเจ้าหน้าที่ประจำบ้านพักคนชรา ฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อเป็นประจำ ส่วนไมเคิล แฮนค็อค นายกเทศมนตรีเมืองเดนเวอร์ ระบุว่า จะบังคับฉีดวัคซีนลูกจ้างของเมืองที่มีมากกว่า 11,000 คน

แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกร้องบาร์ ร้านอาหารและธุรกิจเอกชนอื่นๆ อนุญาตเฉพาะคนฉีดวัคซีนแล้วเข้าไปในร้าน พร้อมระบุว่า จะบังคับฉีดวัคซีนสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำบ้านพักคนชรา ครู และบุคลากรด้านสาธารณสุข หากเคสผู้ติดเชื้อไม่ลดลง

ฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ บ่งชี้ว่าเขาจะบังคับอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะทั้งชาวบ้านหรือภาคธุรกิจทั้งหลาย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นตัวแทนความพยายามล่าสุดของบรรดาผู้กำหนดนโยบาย ที่กำลังดิ้นรนกระตุ้นให้ชาวอเมริกันชนผู้ลังเลเข้าฉีดวัคซีน ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่พุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา จากพรรครีพับลิกัน กลับมีจุดยืนตรงกันข้าม เขาออกคำสั่งพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ห้ามโรงเรียนทั้งหลายบังคับสวมหน้ากาก โดยบอกว่าบรรดาผู้ปกครองควรเป็นคนตัดสินใจแทนเด็กๆ ในเรื่องนี้

เจ้าหน้าที่เขตในโบรวอร์ด เคาน์ตี และกัดสเดน เคาน์ตี ถึงขั้นเคยถูก เดอซานติส ขู่ระงับงบประมาณจากกรณีที่บังคับสวมหน้ากาก และในวันจันทร์ (2 ส.ค.) พวกเขาเผยว่าจะยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากในฤดูใบไม้ผลิ

ฟลอริดาเป็นหนึ่งในรัฐที่กำลังเผชิญการแพร่ระบาดเลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ รัฐแห่งนี้มีคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ

แมรี เมย์ฮิว ประธานสมาคมโรงพยาบาลแห่งฟลอริดา ระบุว่า การแพร่ระบาดระลอกล่าสุด ส่งผลให้จำนวนคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 2,000 คนเป็น 10,000 คน ภายในเวลาไม่ถึง 30 วัน แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดพีดสุดก็ตาม

"กลุ่มคนอายุน้อยจำนวนมากกำลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล" เมย์ฮิว กล่าว "ปีที่แล้ว ผู้คนคงได้ยินว่าโควิดก่อความเสี่ยงสูงกับคนชราของเรา หรือบุคคลที่มีโรคประจำตัวรุนแรง แต่สำหรับตัวกลายพันธุ์เดลตา ชัดเจนว่ามันก่อความเสี่ยงอย่างมากต่อคนหนุ่มสาว"

(ที่มา : รอยเตอร์) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075716
#2933


"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เปิดใจขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างโดยเฉพาะพ่อ เพราะสิ่งนี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ปลดล็อคคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกได้สำเร็จในศึก "ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวิลด์ อินวิเตชันแนล"

การแข่งขันกอล์ฟรายการไอเอสพีเอส ฮันดะ เวิลด์ อินวิเทชั่น ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์หรือราว 46.5 ล้านบาท รายการร่วมของ แอลพีจีเอ ทัวร์ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2564 โดยสองรอบแรกแข่งขันที่สนาม กัลกอร์ม คาสเซิ่ล กอล์ฟ คลับ พาร์ 73 และ สนามมาสเซอรีน กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 หลังจากนั้นรอบ 3 และ 4 แข่งขันที่สนาม กัลกอร์ม คาสเซิ่ล กอล์ฟ คลับ ผ่านไปสามวันแรกนั้น "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ นำร่วม

วันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่่ 1 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ออกสตาร์ทในฐานะผู้นำร่วม และทำสามเบอร์ดี้ใน 3 หลุมแรกนำร่วมที่สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ แต่เธอไปพลาดออกทริปเปิ้ลโบกี้หลุม 6 พาร์ 4 เสียตำแหน่งผู้นำก่อนจะแก้กลับมาทำอีกเบอร์ดี้หลุม 8 และ 9 จากนั้นทำเบอร์ดี้หลุม 13 ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ตามหลัง เจนนิเฟอร์ คุปโช โปรชาวอเมริกันผู้นำอยู่แค่สโตรกเดียว และทั้งคู่เสียโบกี้หลุม 16 คัพโช ยังคงนำเดี่ยว 16 อันเดอร์พาร์ ปาจรีย์ 15 อันเดอร์พาร์ เมื่อเหลือสองหลุมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ปาจรีย์ ขึ้นไปนำร่วมหลังทำเบอร์ดี้หลุม 17 พาร์ 4 สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ โดยที่ คุปโช ทำพาร์ และเอ็มม่า ทัลเลย์ โปรชาวอเมริกันนำร่วมอีกคนเมื่อเธอทำเบอร์ดี้หลุมเดียวกัน และหลุม 18 คุปโช เสียโบกี้จบลงสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 276 จบลงอันดับ 3

ในขณะที่ ปาจรีย์ และ ทัลเลย์ ทำพาร์ สกอร์จบลง 3 อันเดอร์พาร์ 70 เหมือนกันสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 275 เท่ากัน ต้องไปเล่นเพลย์ออฟตัดสินแชมป์

การเล่นเพลย์ออฟหลุมแรกใช้หลุม 18 พาร์ 5 ทั้งสองต่างก็ทำพาร์ต้องไปเล่นต่อหลุมที่สองก็ใช้หลุม 18 เหมือนเดิมโดยที่ปาจรีย์ ทำพาร์หลังจาก ทัลเลย์ ออกโบกี้ทำให้ปาจรีย์ ชนะคว้าแชมป์ไปครองนับเป็นแชมป์แรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ รับเงินรางวัลไป 225,000 ดอลลาร์หรือราว 7.2 ล้านบาท

โปรสาววัย 22 ปี เผยหลังการคว้าแชมป์รายการแรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ ว่า"เมียวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี แต่อยากจะขอบคุณทุกๆคนที่สนับสนุนเมียวมาตลอด และเชื่อมั่นเมียวมาระยะเวลายาวนานมันจะคงจะไม่มีวันนี้ได้หากไม่มีพวกเขา เมียว มีพี่โม พี่เม เป็นแบบอย่างก็ตั้งใจเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเมียวก็อยากจะเป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ และเมียวจะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีทีสุดเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศเราด้วย"

และเธอ ยังได้กล่าวถึงคุณพ่อวีระพล ซึ่งเข้าไปแสดงความดีใจสุดหลังจากเธอคว้าแชมป์ว่า"คุณพ่ออยู่เคียงข้างฉันมาตั้งแต่เริ่มต้นการเล่นกอล์ฟของฉัน ดังนั้นฉันก็สามารถได้ร่วมแชร์ทุกสิ่งทุกอย่างทุกๆสิ่งที่พิเศษกับท่าน"

ปาจรีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ ต่อจาก ปภังกร ธวัชธนกิจ โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล และยังเป็นคนไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์อาชีพในแอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจาก "โปรเม" เอรียา(12) และ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล(2) โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ(2) และ"โปรเหมียว" ปภังกร ธนวัชธนกิจ(1) ทำให้ขณะนี้นักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ ไปแล้ว 18 แชมป์

ไม่เพียงแค่นั้น ปาจรีย์ กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์อาชีพรายการแรกของตัวเองในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปีนี้ ต่อจาก ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เอเอ็นเอ อินสปิเรชั่น(เมเจอร์) ซวี เว่ยหลิง จากจีนไทเปแชมป์เพียวร์ ซิลค์ แชมเปี้ยนชิพ ยูกะ ซาโสะ จากฟิลิปปินส์ แชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น(เมเจอร์) และมาทิลดา คาสเตรน จากฟินแลนด์แชมป์แอลพีจีเอ เมดีฮีล แชมเปี้ยนชิพ

และการคว้าแชมป์ของ ปาจรีย์ ในครั้งนี้จะให้เธอได้สิทธิ์เล่นในทัวร์ 2 ปี และได้สิทธิ์เล่นรายการไดมอนด์ส รีสอร์ท ทัวร์นาเมนส์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ รายการเปิดฤดูกาลของแอลพีเอ ทัวร์ฤดูกาล 2022 และ 2023

https:// m.mgronline.com/sport/detail/9640000075337
#2934


นายประกฤต ธัญวลัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ("บล. Zcom") เปิดเผยว่า จากการสนับสนุนทางการเงินอย่างแข็งแกร่งจากบริษัทใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นและสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรทั้งหมดที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของตลาดมาร์จิ้นในไทย บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของยอดลูกหนี้มาร์จิ้นได้อย่างต่อเนื่อง

 โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 บริษัทมียอดมูลหนี้จากการให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีกว่านับตั้งแต่บริษัทเริ่มเปิดให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกในไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าในการปรับกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม และก้าวสู่อันดับหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นในธุรกิจหลักทรัพย์ของประเทศไทย

บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นหรือบัญชีเครดิตบาลานซ์ ของ บล. Zcom เปิดให้บริการแก่นักลงทุนที่ต้องการกู้ยืมเงิน เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อหลักทรัพย์ โดยนักลงทุนจำเป็นต้องนำหลักประกันมาวางไว้กับบริษัทฯ ตามอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ของหลักทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 600 หลักทรัพย์ ในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 5.95% ต่อปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ 02-088-8111
#2935


เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30)

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ ๑๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น

โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดสายพันธุ์เดลตาที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายและติดต่อโรคกันได้โดยง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อร่ายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยฝ่ายสาธารณสุขได้รายงานผลการประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่แสดงผลว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงเพิ่มมากขึ้นหากมิได้ดำเนินมาตรการควบคุม และจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางและการรวมกลุ่มของบุคคลอย่างรัดกุม มีประสิทธิภาพเพียงพอแม้ปรากฏว่าผู้ติดเชื้อที่หายป่วย หรืออาการดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลได้ในแต่ละวันมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วยก็ตาม ด้วยเหตุผลตังกล่าว จึงจำเป็นต้องบังตับใช้บรรตามาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติต่าง ๆ อย่างเข้มงวดกวดขันเพื่อการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องออกไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง และยกระดับบางมาตรการเพื่อให้การควบคุมการระบาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันมิให้การระบาดเพิ่มความรุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน โดยปิดสถานที่ก่อสร้างและบริเวณที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน ตลอดจนได้มีการกำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงบางกรณีเพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งผลการดำเนินการในช่วงเวลาที่ผ่านมาปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้รับผิดชอบในการปรับปรุงสถานที่พักคนงาน และการสุขาภิบาลให้ถูกสุขลักษณะ การปรับปรุงสถานประกอบกิจการและเตรียมมาตรการ ด้านป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งการกำกับติดตามให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสมควรปรับการบังคับใช้บางมาตรการต่อกลุ่มบุตคล สถานที่ และกิจการ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนทั้งด้านเรษฐกิจและสังคม แต่ยังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและกำกับติดตามการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) 
#2936


การระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากจะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคนี้แล้ว ยังทำให้บริษัทต่างๆในทุกภาคอุตสาหกรรมปรับตัว ปรับรูปแบบบในการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ การทำงานทางออนไลน์ข้ามพรมแดนจึงเพิ่มขึ้นถึง 30% หรือมีมนุษย์เงินเดือนทำงานทางไกลทั่วโลกประมาณ 600 ล้านคน

"ริชาร์ด บัลด์วิน" นักเศรษศาสตร์ระหว่างประเทศระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่การทำงานทางไกลจะกลายเป็นการทำงานกระแสหลักในตลาดแรงงานโลกและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั้งหลายทั้ง อินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศต่างมีส่วนช่วยเสริมให้แนวโน้มนี้เติบโตมากขึ้น

มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ในปี 2563 แรงงานในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ทำงานทางไกลหรือทำงานทางออนไลน์มีสัดส่วน 82% เป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยจ้างแรงงานรายชั่วโมงโดยเฉลี่ย 10 ดอลลาร์เทียบกับในสหรัฐที่ 33 ดอลลาร์

ด้านองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ไอแอลโอ) ยังคงมีความเห็นว่า งานหลายประเภทสามารถทำทางออนไลน์ได้ดี ให้ผลผลิตและผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจแก่เจ้าของกิจการ

ไอแอลโอประเมินว่า หนึ่งในหกของแรงงานทั้งโลก รวมถึงวิศวกรเทคโนโลยีสารสนเทศและเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน สามารถทำงานทางไกลได้ หมายความว่ามีแรงงานทั่วโลกที่สามารถทำงานทางไกลได้ 600 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ อย่างญี่ปุ่น ยังคงล้าหลังเกี่ยวกับแนวโน้มในเรื่องนี้ และอาจจะได้เห็นญี่ปุ่นแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ได้เลย หากไม่เร่งเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ทรัพยากรบุคคลในประเทศ

แรงงานทั่วโลกที่ลงทะเบียนกับฟรีแลนเซอร์ เว็บไซต์จัดหางานชั้นนำของออสเตรเลีย ที่ทำหน้าที่นำผู้ต้องการหางานและผู้ต้องการพนักงานทางออนไลน์มาพบกัน มีจำนวน 50.8 ล้านคนในช่วงปลายปี 2563 เพิ่มขึ้น 8.9 ล้านคนจากปีก่อนหน้านี้ และภายในเดือนมิ.ย.จำนวนแรงงานที่ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 53.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด-19

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและที่อื่นๆบ่งชี้ว่าการเสนอตำแหน่งงานผ่านทางโบรกเกอร์หางานออนไลน์มีฐานดำเนินงานในอังกฤษในช่วงเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 30% จากช่วง2ปีก่อนหน้านี้

นอกจากมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทางเข้า-ออกข้ามพรมแดนเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว นโยบาย"อเมริกันต้องมาก่อน"ของนายโดนัลด์ ทรัม์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ส่งผลต่อแรงงานในระบบ โดยสหรัฐออกวีซ่าสำหรับคนทำงานลดลงอย่างมากในปีงบประมาณ 2563 นับจนถึงเดือนก.ย.ปี 2563 สหรัฐออกวีซ่าประเทศH-1B แก่ผู้มาขอจำนวน124,983 คน โดยวีซ่านี้อนุญาตให้เจ้าของบริษัทว่าจ้างแรงงานต่างชาติในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และอาชีพอื่นๆ ลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

ประมาณกลางปี2563 ทรัมป์ลงนามคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีห้ามไม่ให้มีการอพยพถิ่นฐานเข้าสู่สหรัฐเป็นการชั่วคราวด้วยความหวังว่าจะปกป้องตำแหน่งงานให้กับชาวอเมริกันที่ตกงานในช่วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ความเข้มงวดในการออกวีซ่าทำงานของรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลกระทบอย่างมากแก่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่ส่งวิศวกรจำนวนมากไปอเมริกาเหนือ อาทิ อินโฟซิส ของอินเดีย และทาทา คอนซัลแทนซี เซอร์วิสเซส แต่ถึงแม้จะเจอปัญหาเรื่องวีซ่าทำงานแต่บริษัทเหล่านี้ยังคงทำรายได้ในตลาดอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น โดยอินโฟซิส มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในปีงบการเงิน ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค. เป็น 8,300 ล้านดอลลาร์

บรรดาบริษัทไอทีทั้งหลายที่เจอข้อจำกัดต่างๆรวมทั้งการออกวีซ่าทำงาน พยายามรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือว่าจ้างพนักงานในท้องถิ่นเพิ่ม ขณะเดียวกันก็ดำเนินนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือที่อื่นโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

" เวนกาทาระมาน รามากฤษณันท์" อดีตประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของบริษัททาทา คอนซัลแทนซี เซอร์วิสเซส มีความเห็นว่า การทำงานทางไกลช่วยให้บริษัทสามารถจัดสรรตำแหน่งงานให้เหมาะสมกับสถานที่ต่างๆและวีซ่าการทำงานของพนักงานคนนั้นๆได้ ทั้งยังลดความเสี่ยงในการให้บริการด้านต่างๆของบริษัทด้วย

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952270
#2937
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2938



จากกรณีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกข่าว จี้ 'Gojek' รีบคืนเงินให้ลูกค้า หลังประกาศยุติการให้บริการ 31 ก.ค. แต่ยังพบปัญหาคืนเงินผ่าน e-Wallet" นั้น

ล่าสุด (30 กรกฎาคม 2564) บริษัท เวล็อคซ์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบแอปพลิเคชัน Gojek ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยระบุว่า ทางบริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการ GoPay (ระบบกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ของ Gojek) ใช้หรือถอนเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และมีข้อความแจ้งเตือนส่งไปยังผู้ใช้บริการเป็นระยะ ๆ โดยระหว่างวันที่ 7 -31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ผู้ใช้บริการ GoPay จะยังคงสามารถใช้เงินในกระเป๋าสตางค์สำหรับ การทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน Gojek หรือถอนเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ได้  อีกทั้งบริษัทฯ จะยังเปิดช่องทางการให้บริการและสนับสนุนลูกค้าเพื่อตอบคำถามหรือช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่เกิดปัญหาจากการถอนเงิน

ส่วนสาเหตุที่จำกัดการคืนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพียง 3 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ นั้น ทางบริษัทฯ ชี้แจงว่า เนื่องจากลูกค้าสามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน GoPay ของตัวเองได้ผ่านทางแอปฯ ของ 3 ธนาคารดังกล่าวซึ่งเป็นคู่สัญญาให้บริการกับบริษัทฯ และเวล็อคซ์ ฟินเทคเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การถอนเงินออกจากกระเป๋าเงิน GoPay จะต้องทำผ่านบัญชีธนาคารที่ลูกค้าเติมเงินเข้ามาเท่านั้น


ทั้งนี้ แม้ว่า Gojek จะยุติการให้บริการในประเทศไทยนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป แต่บริษัทฯ จะยังคงเปิดช่องทางให้สามารถถอนเงินออกได้ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยผู้บริโภคสามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านแอปฯ Gojek ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 และหลังจากระยะเวลาดังกล่าวผู้บริโภคสามารถติดต่อเพื่อทำเรื่องขอถอนเงินจากกระเป๋าสตางค์ทาง E - mail ได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

สำหรับขั้นตอนการขอถอนเงินจากกระเป๋าเงิน GoPay ผู้บริโภคสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับเงินคืน พร้อมส่งเอกสารได้ที่แบบฟอร์มในแอปฯ Gojek (เปิดเฉพาะระบบช่วยเหลือและการถอนเงิน) พร้อมแนบเอกสารดังนี

- เอกสารการทำธุรกรรม เช่น สลิปการโอนเงิน ข้อมูลบันทึกการเคลื่อนไหวของบัญชีจากธนาคาร

- สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ หรือ ธนาคารกสิกรไทย พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง (ชื่อและนามสกุลต้องตรงกับเอกสารการทำธุรกรรม ข้อ 1)

- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง (ชื่อและนามสกุลต้องตรงกับเอกสารการทำธุรกรรม ข้อ 1)


โดยการขอเงินคืนจะมีระยะเวลาในการดำเนินการ 7 - 14 วันทำการ สำหรับผู้บริโภคที่ไม่สะดวกยื่นคำขอผ่านทางแอปฯ Gojek สามารถขอถอนเงินจากธนาคารต้นทางที่เติมเงินเข้ามาได้ และทางธนาคารจะประสานกับ Gojek เพื่อดำเนินการคืนเงินในลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตาม สภาองค์กรของผู้บริโภค เห็นว่า เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ขอให้ Gojek เร่งประกาศเงื่อนไขดังกล่าวให้ประชาชนผู้ใช้บริการทุกคนทราบผ่านทุกช่องทางของ Gojek  ด้วย และหากมีผู้บริโภครายใดมีปัญหาในการขอเงินคืน

สามารถร้องเรียนได้สภาองค์กรของผู้บริโภค E - mail : tcc.complaint@thaiconsumerscouncil.org, Inbox Facebook : สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือร้องเรียน ร้องทุกข์ผ่าน google form สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ในลิงก์นี้ https://forms.gle/Uz8Wb4ZrnuVeFSeu6
#2939


นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ค่อนข้างไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงยังคงมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ แต่กำลังซื้อของคนกลุ่มนี้ไม่ลดลง ทำให้บางโครงการสามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง


" แม้ทิศทางของตลาดบ้านจะมียอดขายดี แต่การที่มีอุปทานใหม่เข้ามาเพิ่มเกินความต้องการอาจจะทำให้ตลาดชะลอตัวได้ เนื่องจากตลาดบ้านหรูยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างเล็กและอุปสงค์ของตลาดกลุ่มนี้ยังคงมีเพียงจำกัด "


อุปทานบ้านในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่ได้รับการอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน (ทั้งโครงการ) พบว่าการอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับกลุ่มบ้านที่มีระดับราคาขาย 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2560 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2564 มีอยู่ในช่วงปีละตั้งแต่ 1,489 หน่วย จนถึง 2,278 หน่วย โดยจำนวนใบอนุญาตจัดสรรในปี 2561 มีจำนวนสูงสุด คือ 2,669 หน่วย ส่วนในระยะเวลา 5 เดือนของปีนี้พบว่ามีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในกลุ่มบ้านที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 578 หน่วย


จำนวนหน่วยเหลือขายของโครงการบ้านระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ณ ครึ่งปีแรกของปี 2564 มีทั้งสิ้น 224 โครงการ มีหน่วยสะสมจำนวนทั้งสิ้น 20,018 หน่วย และขายไปได้ทั้งสิ้น 13,276 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 66 โดยอัตราการขายเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 30 และปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขายเพิ่มมาอยู่ที่ร้อยละ 66 ในครึ่งปีแรกของปี 2564

นายณัฎฐา ระบุ จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในครึ่งปีแรก 2654 พบว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ทั้งสิ้น 1,610 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยขายได้ที่มีจำนวนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่เฉลี่ยประมาณ 2,500 หน่วยต่อปีเท่านั้น และคาดว่าในครึ่งปีหลังของปี 2564 นี้ จำนวนหน่วยขายได้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นเกือบประมาณ 3,000 หน่วย

บ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10-20 ล้านบาท มีอุปสงค์สูงสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7,218 หน่วย รองลงมาคือบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 21 – 30 ล้านบาท และ 31 – 40 ล้านบาท มีอุปสงค์อยู่ที่ 2,612 หน่วย และ 1,871 หน่วยตามลำดับ ในส่วนของอัตราการขายที่สูงสุด คือ บ้านระดับราคาสูงกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากอุปทานที่มีอยู่จำกัด ทำให้อัตราการขายสูงที่สุด ซึ่งมีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 83 รองลงมาได้แก่ บ้านระดับราคาระหว่าง 21 – 30ล้านบาท และ ระดับราคา 51 – 60 ล้านบาท มีอัตราการขายอยู่ในอัตราร้อยละ 77 และ 74 ตามลำดับ ส่วนบ้านระดับราคา 61 – 70 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีอุปสงค์ต่ำที่สุดและอัตราการขายต่ำที่สุด

แนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ในครึ่งปีหลัง 2564 ยังมีสัญญาณที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดอสังหาฯ ประเภทอื่น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อบ้านในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจหดตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบจากการเข้มงวดสินเชื่อของธนาคาร เพราะเป็นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งทางการเงินที่ยังสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ตามปกติและส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสดมากกว่าการขอสินเชื่อ แม้ในช่วงนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงก็ตาม


โดยในครึ่งปีหลังผู้ประกอบการรายใหญ่ค่อนข้างที่จะระมัดระวังการเปิดตัวโครงการใหม่และขยับขยายการพัฒนาโครงการแนวราบไปในบริเวณชานเมืองมากขึ้น เช่น โซนเหนือและตะวันตกของกรุงเทพฯ เพราะยังมีพื้นที่ให้เหลือพัฒนา อีกทั้งราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในตัวเมือง เพราะพื้นที่ย่านชานเมืองมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการพัฒนาถนน รถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ประเภทมิกซ์ยูส ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มีการพัฒนาและกระจายออกไปยังพื้นที่บริเวณชานเมืองมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อสามารถเลือกทำเลที่อยู่อาศัยได้ตามความต้องการ

นอกจากรูปแบบบ้าน ทำเล คุณภาพที่มีผลต่อการตัดสินใจ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง คือ สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการรวมไปถึงสภาพแวดล้อมหน้าโครงการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อได้เห็นถึงความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น

"จากจำนวนผู้ประกอบที่มีการพัฒนาโครงการแนวราบและเปิดตัวโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มอุปทานของตลาดบ้านเพิ่มขึ้นและมีมากกว่าอุปสงค์ ทำให้เกิดภาวะการแข่งขันสูงเพราะตัวเลือกที่หลากหลายไม่สอดคล้องกับผู้ซื้อที่ค่อนข้างมีจำกัด อย่างไรก็ดีหากแต่สามารถพัฒนาโครงการที่มีจุดเด่น ออกแบบโครงการได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการต่อผู้อยู่อาศัยโครงการก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน"
#2940



หลังจากจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศออกคำสั่งล่าสุด 3 ฉบับเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.นี้ 2.มาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-12 ส.ค.2564

และ 3.การปิดสถานที่หรืองดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยมีมาตรการปิดสถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือโต๊ะพูล, ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์, โรงเรียนสอนมวย และโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกประเภท รวมถึงสระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการประชาชนเป็นการทั่วไปทั้งในส่วนของราชการและเอกชน ส่วนมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะโล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ และผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

วันนี้ (30 ก.ค.) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผ่านช่องทางออนไลน์ระบบ ZOOM ว่า ทางจังหวัดฯขอยืนยันว่าการออกมาตรการดังกล่าว "ไม่มีผลกระทบ" ต่อการดำเนินโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาเที่ยวภายในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน จึงจะสามารถออกไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นภายในประเทศไทยได้

"จุดประสงค์ของการออกคำสั่งภูเก็ตล่าสุดนี้คือต้องการเซฟภูเก็ต เซฟภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย ด้วยการยกระดับมาตรการเริ่มจากเบาไปหนัก เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ และสามารถเดินหน้าเศรษฐกิจได้ด้วย"

สำหรับหนึ่งในหลักเกณฑ์ของแผนเผชิญเหตุโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คือจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯเมื่อพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ใน จ.ภูเก็ต มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ โดยหลังจากเริ่มโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าสัปดาห์ที่ 1 (1-7 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 25 ราย, สัปดาห์ที่ 2 (8-14 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 48 ราย, สัปดาห์ที่ 3 (15-21 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 69 ราย และสัปดาห์ที่ 4 (22-28 ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 185 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 148 ราย ผู้ติดเชื้อที่คัดกรองพบจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 6 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 19 ราย และโครงการรับคนกลับบ้านอีก 11 ราย

"ในช่วงวันที่ 22-28 ก.ค.ที่ผ่านมา พบจำนวนผู้ติดเชื้อ 185 รายต่อสัปดาห์ เมื่อเกิน 90 รายต่อสัปดาห์ตามหลักเกณฑ์ จึงได้ประกาศมาตรการ 3 ฉบับล่าสุดเพื่อลดการเดินทางเข้าภูเก็ต ลดและงดการจัดกิจกรรมเพื่อควบคุมโรค อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นร่วมแล้ว เช่น อัตราการครองเตียงซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 249 เตียง คิดเป็น 36% ของจำนวนทั้งหมด 694 เตียงในภูเก็ต ยังอยู่ในภาวะที่รับมือและดูแลได้ จึงพิจารณาไม่ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"

ทั้งนี้ในช่วง 4 สัปดาห์แรกของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้าโครงการฯ พบว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.มีจำนวนรวม 12,599 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อจากในกลุ่มนี้ 30 คนเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนน้อยมากที่ 0.2% และเป็นการติดเชื้อมาจากนอกประเทศอยู่แล้ว โดยมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 400 กว่าคนต่อวัน จำนวนการจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.นี้อยู่ที่ 298,858 คืน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 192,403 คืน เดือน ส.ค. 98,735 คืน เดือน ก.ย. 7,720 คืน และเมื่อรวมจำนวนการจองห้องพักในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือน ต.ค.2564-ก.พ.2565 อีก 6,586 คืน จะมีจำนวนการจองห้องพักโรงแรมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ 305,444 คืน

"คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ในช่วงนี้จึงถือเป็นการทดสอบระบบของโครงการฯ เมื่อมีการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ย่อมมีแรงงานเข้ามาทำงาน และอาจนำเชื้อเข้ามา ทางจังหวัดจึงยกระดับมาตรการเพื่อควบคุมโรค เพราะภาพที่เราอยากเห็นคือสามารถควบคุมโรคได้ด้วย และเดินหน้าเศรษฐกิจได้ด้วย ไม่อยากเห็นการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วต้องมาปิดภายหลัง" นายณรงค์กล่าว

ด้านนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตช่วง 3 วันที่ผ่านมาหลังพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น พบการชะลอตัวจากก่อนหน้านี้เติบโต 15% ต่อวัน เหลือเติบโตที่ 10% ต่อวัน

นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ประเมินว่านักท่องเที่ยวใช้จ่ายคนละ 60,000 บาทต่อทริป ทำให้ภูเก็ตมีรายได้ด้านการท่องเที่ยวกว่า 800 ล้านบาทแล้ว โดย ททท.ต้องประชาสัมพันธ์เชิงรุกในต่างประเทศต่อไปเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้มีเอเย่นต์ทัวร์ของอังกฤษเริ่มขายแพ็คเกจเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว

ส่วนข้อจำกัดด้านการเดินทางภายในประเทศขณะนี้ ภายหลังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งระงับเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารเข้าออกจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการช่วยจัดหารถบริการพิเศษรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วนที่ต้องการเดินทางออกจากภูเก็ตเพื่อมาขึ้นเครื่องบินกลับที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายสุนทร ศักดาสาวิตร รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเขตการบิน ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวเสริมว่า  ตามคำสั่งของจังหวัดภูเก็ตล่าสุด ส่งผลให้สายการบินนกแอร์จำเป็นต้องหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-อู่ตะเภา ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์สต้องหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-สมุย ซึ่งมีเป้าหมายเชื่อมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไว้ก่อนเช่นกัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.นี้

นายศิริปกรณ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหยุดให้บริการเส้นทางบิน ภูเก็ต-สมุย ไม่ใช่เพราะเรื่องของระเบียบข้อบังคับที่ทางจังหวัดภูเก็ตเพิ่งประกาศ หรือเพราะดีมานด์ของนักท่องเที่ยว แต่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยเป็นหลัก ซึ่งอาจจะมีจำนวนเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุยไม่เพียงพอ