ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ

Future Home บ้านมือสอง ขอเสนอขายบ้านมือสองคุณภาพดี ทำเลดี ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ คัดสรรมาให้คุณและครอบครัวได้เลือกสรร บ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ บ้านใหม่ บ้านในฝัน ที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ



บ้านใหม่มาก คุณภาพมือหนึ่ง

- มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ ชอบแบบไหนเลือกได้เลย
- เน้นฟังช์ชั่นภายใน และ ภายนอก พร้อมตอบโจทย์กับทุก Generation
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการบ้านดี บ้านสวย เข้าอยู่ได้เลย
- ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่น่าอยู่สุดๆ



ทำเลดี

- ฝั่งธน พระราม2 ท่าข้าม บางขุนเทียน บางบอน พันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร



ราคาไม่แรง

- บ้านเดี่ยวราคาถูก มือสอง คุณภาพสุดเจ๋งสุดๆ ราคาไม่แรง ไม่แพงอย่างที่คิด
- เริ่มต้นเพียง 2.99 - 12.39 ล้านบาทเท่านั้น



บ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ มีพื้นที่กว้างๆ

- เน้นบ้านคุณภาพดี มีพื้นที่สีเขียว เพื่อนบ้านน่ารัก อากาศดีดี
- มีบ้านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากชิดธรรมชาติ ด้านหลังมีวิวแม่น้ำ ไว้พักผ่อน 365 วัน แบบชิว ชิว
- มีบ้านหลายแบบหลายสไตล์ ให้เลือก ทำเลดี ที่ดินเยอะ พื้นที่ใช้สอยกว้าง สำหรับครอบครัวใหญ่ๆ ก็มีน้าา



Future Home บ้านมือสอง บริการด้านสินเชื่อทุกธนาคารฟรี!!!

- มีเงินเดือน 25,000บาท - 90,000 บาท ก็กู้บ้านเดี่ยวได้แล้วน้าา
- กู้ร่วม 2-3 คนได้แบบไม่จำกัด ดำเนินการให้ฟรี!!!



นัดชมบ้านได้ สอบถามเพิ่มเติม

- โทร : 094-8468866 ,092-2092638
- Line : 0922092638
- Youtube : https://www.youtube.com/@FutureHomeBaanmue2/videos
- Facebook : https://www.facebook.com/futurehomebaanmue2

Thin Client เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพของระบบไอทีองค์กร ช่วยให้ใช้งานทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และลดภาระงานของทีมไอที



Thin Client คืออะไร

Thin Client คือ อุปกรณ์ที่มาทดแทนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทรัพยากรที่จัดเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง (central server) แทนที่จะเป็นฮาร์ดไดรฟ์ของตัวเอง Thin Client ทำงานโดยการเชื่อมต่อจากระยะไกลกับระบบการประมวลผลกลางบนเซิร์ฟเวอร์ซึ่งทำหน้าที่จัดเก็บแอปพลิเคชันและข้อมูล การใช้งานคือการเข้าใช้พีซีเพียงเครื่องเดียว (Host) โดยผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้พร้อมกันหลายคน โดยการแบ่งทรัพยากรการใช้จากเครื่อง (Host) ระบบ Thin Client มีที่มาและแนวคิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องให้เต็มประสิทธิภาพโดยจากการวิจัย และทดสอบผลออกมาว่าพนักงาน Office ใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ที่ 30 % ของประสิทธิภาพของเครื่อง ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เต็ม โดยระบบ Thin Client สามารถแชร์ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Hardware, Software, Network สามารถใช้งานร่วมกันและพร้อมกันหลายคน และเกิด Solution ระบบที่ชื่อว่า Visual Personal Center Solution (VPCS)

ประโยชน์ของ Thin Client

- ช่วยลดต้นทุนการลงทุนด้านคอมพิวเตอร์ (PC) ได้ถึง 50% 
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 80%
- ช่วยลดต้นทุนในการซื้อซอฟต์แวร์
- มีระบบจัดการระบบแบบรวมศูนย์
- สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มีระบบติดตามและควบคุมการทำงานจากเครื่องศูนย์
- เพิ่มความสะดวกและลดเวลาการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (IT)
- อุปกรณ์ดูแลรักษาง่าย ทั้ง Thin Client และ Server
- ปลอดภัยจากการใช้งานระบบไอทีที่ไม่พึงประสงค์โดยผู้ใช้
- สามารถรองรับระบบและการใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน

ด้วยประโยชน์มากมาย Thin Client จึงเป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับองค์กรที่ต้องการปลดล็อกศักยภาพของระบบไอที

วันนี้เราไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองต้องมานั่งหาเตียงเด็กกันวุ่นวาย เพราะมีรายละเอียดเตียงที่น่าสนใจมาแนะนำอย่างหมดเปลือก เพื่อการตัดสินใจอย่างแน่วแน่และได้ผลลัพธ์ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ อย่าง DREAM CAR KID CASTLE SLIDER สีน้ำเงิน / ขาว ที่เป็นรูปแบบ 2 ชั้นด้วย ว่าแล้วก็ไปศึกษารายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า



เตียงเด็กแบบ 2 ชั้นยี่ห้อ DREAM CAR KID CASTLE SLIDER

สำหรับ DREAM CAR KID CASTLE SLIDER เป็นเตียง 2 ชั้นที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก มีช่องเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ หรือใครจะตกแต่งตามไอเดียได้เลย มีฟังก์ชันที่ครบครันโดยที่เพิ่มพื้นที่ห้องในการทำภารกิจต่าง ๆ ได้มากมาย เพิ่มความสนุกด้วยสไลเดอร์ที่เล่นก่อนนอนได้เพลิดเพลิน ใช้งานได้หลากหลายจะตกแต่งห้องนอนเด็กก็ทำได้อย่างลงตัว

- โครงสร้างไม้ที่เป็นแบบ MDF ที่ได้มาตรฐาน E1 ที่มีสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่ต่ำเพียง 0.008% ที่ไม่ทำร้ายทางเดินหายใจหรือผิวหนัง
- พ่นด้วยสีที่ปลอดสารพิษแบบ non – toxic ที่ผ่านการอบมาตรฐานที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานได้อย่างดี
- คานสามารถรับน้ำหนักได้จากเหล็กที่กล่อง โดยมีความแข็งแรงสูง รองรับน้ำหนักได้ 150 กก./ชั้น
- เตียงแบบ 2 ชั้นที่ถอดแยกออกจากกันได้ เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บและวางของตกแต่งได้ดี ลงตัว
- ชั้นล่างมีไว้เพื่อนอนโดยมีขนาด 5 ฟุต ความกว้าง 120 ซม. ยาว 190 ซม. ชั้นบนที่นอน 4 ฟุต กว้าง 120 ซม. ยาว 190 ซม.
- มีช่องเก็บของที่เป็นบานโล่ง ชั้นวาง และลิ้นชักที่เพิ่มพื้นที่จัดเก็บและวางของตกแต่งได้ลงตัวสุด ๆ
- ออกแบบสีสันสดใสมาก มีสไลเดอร์ข้างเตียง ฟังก์ชันครบครันมาก ๆ ทำให้ห้องนอนมีความโดดเด่นแบบสุด ๆ
- สินค้ารับประกันโครงสร้าง 1 ปี

ข้อควรระวังในการใช้งาน DREAM CAR KID CASTLE SLIDER

ในส่วนของข้อควรระวังคือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่นอนเด็กเตียงของเด็กที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ให้เจอปลวก มอด มด ห้ามวางสิ่งของที่น้ำหนักมากเกินไปลงบนเตียงชั้น 2 ห้ามมีการกระโดด กระแทกเตียงทั้ง 2 ชั้นเพื่อคงสภาพการใช้งานอย่างยาวนาน หากใครต้องการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ต้องไม่ผลัก หรือลากเด็ดขาด ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์ตำแหน่งที่โดนแสง หรือมีความชื้นสูง อย่างใต้แอร์ หรือห้องน้ำ กรณีที่จะเช็ดทำความสะอาดต้องไม่ใช้ผ้าเปียก น้ำยา ของแข็ง ผิวหยาบ หรือสารเคมีมาเช็ดเด็ดขาด เพื่อให้การใช้งานยืนยาวมากขึ้น

การใช้งานเตียงเด็กแบบ 2 ชั้นยี่ห้อ DREAM CAR KID CASTLE SLIDER เหมาะกับการพักผ่อนนอนหลัง เหมาะกับเด็กอายุ 3 – 18 ปี รองรับได้ตั้งแต่เด็กโต วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ก็ยังได้ ทั้งนี้ ควรมีการตรวจสอบการประกอบ ติดตั้งที่ต้องแข็งแรง แน่นหนาก่อนเริ่มใช้งาน และหากเฟอร์นิเจอร์เปียกน้ำต้องเช็ดให้แห้งทันที

สำหรับเครื่องผลิตออกซิเจนปัจจุบันถือว่ามีความจำเป็นกับผู้คนอย่างที่สุด โดยที่คุณสามารถเข้าถึงการใช้งานได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด และหากใครที่กำลังมองหาเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานไม่มากก็น้อยแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ เราไม่รอช้าที่จะมาบอกต่อทุก ๆ คนให้ได้เลือกใช้ CANTA HG5-WN-NS สีเทา จำนวน 10 ลิตร เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยเชียว



เครื่องผลิตออกซิเจนCANTA HG5-WN-NS สีเทา จำนวน 10 ลิตร

นอกจากเครื่องผลิตออกซิเจน 5 ลิตรแล้ว ปริมาณที่มากขึ้นก็กำลังเป็นไอเท็มที่สำคัญและสำหรับ CANTA HG5-WN-NS สีเทา มีจำนวน 10 ลิตร ถือเป็นสิ่งที่จะมาช่วยมอบความบริสุทธิ์ของอากาศได้อย่างดี ทำให้มีปริมาณออกซิเจนเพียงพอต่อความต้องการ สามารถเลือกอัตราการไหลเวียนได้อย่างดีตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 10 ลิตรต่อนาที อีกทั้งยังมีไฟแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่องได้ดีไปอีก มีการแสดงสถานะออกซิเจนได้ดี ไฟแจ้งเตือนอุณหภูมิสูง เพื่อให้รับรู้ข้อมูลอย่างทันท่วงที แต่เพื่อการทำงานเครื่องที่ได้ผลลัพธ์ มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรมีการปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ร่วมด้วย

- มีกระปุกน้ำเพื่อกันความชื้น ชุดพ่นยา ไส้กรองอากาศ และสายออกซิเจน cannula
- มีอายุการใช้งาน 20,000 ชม. มีฟังก์ชันตั้งเวลาเปิด – ปิดเองอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 5 ชม.
- สามารถเลือกโหมดอัตราการไหลเวียนของออกซิเจนได้ 1 – 10 ลิตรต่อนาที
- มีความเข้มข้นของออกซิเจนมี 93% มีค่าความคาดเคลื่อน 3%
- สามารถเลือกอัตราการไหลเวียนออกซิเจนได้ 1 – 10 ลิตรต่อนาที มีฟังก์ชันการพ่นยาในตัวด้วย
- มีไฟแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไฟแสดงสถานะ 02, ไฟแจ้งเตือนอุณหภูมิเครื่องสูง
- ระบบการทำงานเสียงไม่เกิน 50 เดซิเบล สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แบบไม่ถูกการรบกวน

ข้อควรระวังในการใช้งาน CANTA HG5-WN-NS สีเทา

ในส่วนของข้อควรระวัง CANTA HG5-WN-NS สีเทา เครื่องผลิตออกซิเจน 10 ลิตรนี้ ต้องยอมรับว่าควรศึกษาทำความเข้าใจไว้ ไม่ว่าจะการเก็บให้ห่างจากเปลวไฟหรือความร้อน ผู้ป่วยที่บำบัดด้วยเครื่องอาจจะต้องปรึกษาการใช้งานกับแพทย์ก่อน เป็นเครื่องที่เพิ่มปริมาณความเข้มข้นของออกซิเจนให้สูงขึ้น ไม่ได้ช่วยชีวิตแต่อย่างใด ตั้งเครื่องในแนวตั้งเท่านั้น ห้ามวางแบบแนวนอนเด็ดขาด จัดเก็บพื้นที่แห้ง ห่างไกลจากเด็ก ไม่เหมาะกับการใช้ผสมก๊าซไนตรัสออกไซด์เพื่อการดมยาสลบ ห้ามดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภท และห้ามใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่ได้มาตรฐานเด็ดขาด

การใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจน CANTA HG5-WN-NS สีเทา จำนวน 10 ลิตร  ก็จะใช้เพื่อให้ออกซิเจนผ่านสายออกซิเจนออกไป แต่ก็อยากให้ผู้ใช้งานอ่านคู่มือใหม่ละเอียดอีกครั้ง และย้ำเสมอว่าก่อนจะใช้ต้องปรึกษาแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

สำหรับใครที่ต้องการใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนปลายนิ้วแล้วหากใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อยังไง เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับหลักการของเครื่อง และการเลือกซื้อที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย รับรองว่าจะทำให้การใช้งานราบรื่น เข้าใจมากยิ่งขึ้น



หลักการใช้งานเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

สำหรับที่วัดออกซิเจนปลายนิ้วจะใช้หลักการวัดคลื่นแสงที่ปล่อยผ่านทางเล็บของผู้ใช้งาน ที่มีการวัดค่าแสดงผลของหน้าจอที่ใช้หลักการดูดซับของสเปกตรัมของเฮโมโกลบิน โดยมีโมเลกุลของออกซิเจน แล้วก็จะมีการคำนวณค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนมีสูตรคณิตศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเครื่องนี้ยังถูกนำไปใช้ในช่วงโควิด – 19 แม้ปัจจุบันจะกลายเป็นโรคทั่วไปแล้วแต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่

มีการวัดค่าออกซิเจนที่บ่งบอกการทำงานของปอดว่าผิดปกติหรือไม่ หรือจะใช้วัดหลังออกกำลังกายก็เป็นได้ ต้องเท่ากับหรือมากกว่าค่าที่วัดเอาไว้ก่อนออกกำลังกาย หากได้น้อยกว่าเดิมที่เคยวัด 3% ควรเข้ารับการตรวจรักษาเพิ่มเติม ตรวจสุขภาพเพิ่มเติมกับทีมแพทย์ โดยค่าปกติก็จะอยู่ที่ 96 – 100% เลขตัวบนคือค่าออกซิเจนในเลือดที่มีหน่วยเป็น % และเลขตัวล่างคืออัตราการเต้นของหัวใจที่มีหน่วยเป็นครั้งต่อนาที

การเลือกซื้อเครื่องช่วยวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วให้ได้ประสิทธิภาพ

ด้วยเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วนั้นเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ซื้อมาใช้งานอยู่บ้านได้เลยเหมือนกับเครื่องวัดความดัน หรือเครื่องเจาะหาค่าน้ำตาลในเลือด ทำให้การหาซื้อนั้นมีได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือตามเว็บไซต์ออนไลน์โดยก่อนเลือกซื้อสิ่งที่อยากแนะนำมากที่สุดคือความคุ้มค่า หรือการเทียบราคาที่มีในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ซึ่งก่อนซื้อสิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมคือ

- เครื่องควรมีความแม่นยำสูง บอกผลออกมาได้ตรวจกับระบบในร่างกาย
- ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เผื่อว่าบ้านไหนผู้สูงอายุใช้งานก็จะได้เข้าใจง่ายสุด
- มีคู่มือที่ช่วยแนะนำเราให้ได้รับความรู้ความเข้าใจหลาย ๆ ด้านอย่างชัดเจน
- ได้มาตรฐานการผลิตจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียง มีหน่วยงานที่ได้มาตรฐานสากลรับรอง

สำหรับค่าความเปลี่ยนแปลงของออกซิเจนในเลือดจะช่วยบอกเรื่องของปอดที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ จึงมีการนำมาประเมินความรุนแรงที่มีต่อโรคกับปอด กระนั้นก่อนซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนปลายนิ้วก็อยากให้ศึกษาถึงวิธีการอ่านค่าด้วยเพื่อไม่ให้การแปลผลผิดพลาดไป ทั้งนี้ เครื่องที่ว่าจะไม่สามารถใช้ตรวจสอบอาการโควิด – 19 แต่อย่างใด ต้องดูอาการอื่น ๆ ของโรคเพิ่มเติม หรือใช้เพื่อดูความผิดปกติในร่างกาย และหากไม่มั่นใจให้รีบพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา รักษาต่อไป

วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องวัดความดันให้กับหลาย ๆ คนที่กำลังมองหาเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งาน ได้ผลลัพธ์การวัดความดันที่มีประสิทธิภาพ และหากใครอยากรู้ว่าจะมีเครื่องไหน ยี่ห้อไหนอะไรบ้าง เราไปติดตามกันเลยดีกว่า การันตีว่าราคาตอบโจทย์อย่างที่สุด ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!



แนะนำ 5 เครื่องวัดความดันคุณภาพสุดเจ๋ง ราคาตอบโจทย์

1. BEURER BM57

เริ่มต้นกับ BEURER BM57 สะดวกต่อการใช้วัดความดันมาก โดยใช้วัดชีพจรต้นแขนกับเส้นรอบวง 23 – 43 ซม. โดยที่มีระบบสามารถควบคุมลมได้ง่ายมากอย่าง Oscillometric ที่ยังลดอาการบาดเจ็บจากการบีบที่แขนได้ มีหน้าจอแสดงตัวเลขแบบ LED ให้การอ่านง่ายมากขึ้น บันทึกค่าผู้ใช้ได้ 2 คน หรือ 60 ต่อคน ราคาอยู่ที่ 4,250 บาท สั่งซื้อตอนนี้ลดเหลือ 2,890 บาท

2. FIGSUR B22

ต่อมาคือเครื่องวัดความดันโลหิต "FIGSUR B22" มีความอัตโนมัติ ใช้วัดต้นแขนขนาดพัน 22 – 40 ซม. สามารถบันทึกค่าผู้ใช้ได้ 2 คน (120 ค่า/คน) โดยที่ผู้ใช้งานแบ่งเป็น A หรือ B ก็เรียกดูผลบันทึกแบบย้อนหลังได้ด้วย รองรับการแสดงผลด้วยเสียงที่เป็นภาษาไทย สะดวกสบาย เข้าใจได้ง่ายมากกว่า ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเครื่องนี้จะมีราคา 1,150 บาท

3. 3C MEDICAL HK-601

สำหรับ 3C MEDICAL HK-601 มีความสะดวกสบายต่อการใช้สำหรับการวัดความดันเลือดด้วยตัวเอง โดยที่มีระบบปั๊มลมที่เป็นอัตโนมัติ ควบคุมต่อเนื่อง เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากแรงบีบได้ดี ซึ่งหน้าจอจะเป็นแบบดิจิทัลแสดงผลเป็นตัวเลข ที่ง่ายต่อการอ่าน และแจ้งผลด้วยเสียงที่เป็นภาษาไทยฟังชัดเจน ราคาอยู่ที่ 1,650 บาท สั่งตอนนี้ลดเหลือ 1,290 บาท

4. ALLWELL 2005

ที่วัดความดันที่ไม่ควรพลาดก็คือ ALLWELL 2005 มีช่วงการวัดความดันได้ 0 – 300 mmHg ที่มีค่าความคลาดเคลื่อน +-mmHg จะมีหน้าจอเป็นรูปแบบ LED แสดงผลการวัดรูปแบบ Diastolic, Systolic และมีอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำมาก ๆ ซึ่งมีราคาที่ 2,690 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 1,890 บาท

5. BLUEDOT B – BM01

และแล้วก็ปิดท้ายกันที่ 3C MEDICAL HK-601 มีความสะดวกสบายต่อการใช้งาน มีชีพจรที่ต้นแขนด้วยเส้นรอบวง 22 – 42 ซม. ระบบปั๊มลมรูปแบบอัตโนมัติ บีบรัดไม่เจ็บ มีความนุ่มนวลด้วย Intel Comfort เพื่อลดอาการบาดเจ็บของต้นแขน ที่สำคัญก็มีหน้าจอ LCD ที่แสดงผลเป็นตัวเลข  ออกเสียงภาษาไทยได้ บันทึกค่าผู้ใช้งานเส้นรอบวง 2 คน (60 ค่าต่อท่าน) โดยเครื่องนี้มีราคาที่ 1,990 บาท สั่งซื้อตอนนี้ลดเหลือ 1,490 บาท

เป็นยังไงกันบ้างกับเครื่องวัดความดันที่เรานำมาแนะนำเหล่านี้ แต่ละเครื่องค่อนข้างน่าสนใจ ส่วนใหญ่เป็นหน้าจอดิจิทัลที่แสดงผลได้ดี มีเสียงให้เรารู้ค่า รวมถึงมีราคาที่จับต้องได้และคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายออกไป

การเลือกผ้าอ้อมผู้ใหญ่หรือแพมเพิสให้ผู้ป่วยติดเตียง บางคนอาจจะยังไม่เคยมีความรู้มาก่อน เราไม่รอช้าที่จะพาทุก ๆ คนไปทำความรู้จักอย่างหมดเปลือก เพราะเรารวบรวมการเลือกที่เหมาะสมพาผู้ป่วยสวมใส่ได้สบาย หากใครอยากรู้แล้วก็ไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า



แนะนำการเลือกผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่เหมาะสม

1. ก่อนเลือกต้องตรวจสอบดูว่าผู้ป่วยดูแลตัวเองได้มากน้อย

ปกติแล้วผ้าอ้อมแบบแพมเพิสมีด้วยกัน 2 แบบคือ เป็นรูปแบบกางเกง หรือเทปกาวเท่านั้น โดยที่แบบกางเกงจะเหมาะกับผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ผู้ป่วยสามารถสวมใส่เองได้โดยที่มีผู้ช่วยเหลือ หรือเทปกาวจะเหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องอยู่ท่านอนตลอด ถอดหรือใส่ทำได้ง่ายมากกว่ากางเกง สะดวกต่อการถอดและใส่ของแพมเพิสแบบเทปกาว ที่ทำให้แพมเพิสเหมาะกับผู้ป่วยตอนกลางคืนไม่ให้รบกวนการนอนกลับของผู้ป่วยน้อยที่สุด

2. ให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างและขนาด

ต่อมาคือเรื่องของขนาดและรูปร่างที่จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คืออยู่ที่เอว หรืออยู่ที่สะโพก โดยมีตั้งแต่ M ไปจนถึง XL โดยที่ระบุความยาวรอบเอว หรือสะโพกตามไซซ์ที่มี ผู้ดูแลควรรู้ขนาดเอวและสะโพกผู้ป่วย มีการบันทึกที่แม่นยำเพราะแพมเพิสต้องกระชับการสวมใส่ เพราะผู้ป่วยต้องติดเตียงอยู่ตลอด อาจจะรู้สึกไม่สบายตัวหากแพมเพิสหลวมหรือแน่นเกินไป ส่งผลต่อการรั่วซึม และแผลกดทับ

3. พิจารณาคุณสมบัติของแพมเพิส โดยเฉพาะการซึมซับ

สิ่งที่ต้องรู้อีกก็คือการพิจารณาคุณสมบัติของแพมเพิสผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องของการซึมซับนอกเหนือจากเรื่องของรคาหรือความอ่อนโยนต่อผิว โดยที่จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสบค์ได้ ความยืดหยุ่น ความกระชับเมื่อมีการสวมใส่ ความยาว ความกว้างของแผ่นหรือบางยี่ห้อก็จะมีแถบระบุความเปียกชื้นมาให้ด้วย ซึ่งก็จะสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนที่มีความสะดวกสบายมากกว่าเดิม ไม่ต้องมาเปิดดูบ่อย ๆ

ทั้งนี้ นอกจากการเลือกที่เหมาะสมผู้ป่วยผู้ดูแลต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยด้วยเช่นกัน อาจจะใช้ครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น และป้องกันการระคายเคืองที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะผู้ป่วยอาจต้องสัมผัสปัสสาวะ หรือเหงื่อเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งปัจจุบันแพมเพิสผู้ใหญ่ ราคามีแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อ คุณสมบัติ ขนาดไซซ์ยังไงก็ไปลองพิจารณาเลือกซื้อกันได้

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนจะเกิดความเข้าใจ และสามารถเลือกผ้าอ้อมผู้ใหญ่แบบแพมเพิสให้กับผู้ป่วยได้อย่างดี ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและด้านทุนทรัพย์ เพื่อการเป็นอยู่ที่มีประสิทธิภาพ สบายกายสบายใจทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลเองนั่นเอง

ใครที่มีผู้ป่วยติดเตียง หรือนอนอยู่เฉย ๆ ไม่สามารถขยับไปไหนเองได้ อีกไอเท็มที่อยากแนะนำให้มีติดเตียงไว้เลยก็คือที่นอนลม เพราะสิ่งนี้ถือว่าสำคัญตรงที่จะมาช่วยเหลือผู้ป่วยให้ขยับตัวง่ายมากขึ้น ช่วยป้องกันแผลกดทับได้อย่างดี การันตีว่าคุณภาพคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน แต่จะมียี่ห้อไหน รุ่นไหนน่าสนใจบ้างวันนี้เรารวบรวมมาให้ศึกษากันถึง 4 ยี่ห้อไปเลย



4 ที่นอนลมที่ควรมีติดบ้าน เพื่อการดูแลผู้ป่วยง่ายมากขึ้น

1. FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์

เริ่มต้นกันที่ยี่ห้อ FASICARE FB-411 พร้อมมอเตอร์ โดยที่จะมีรูพ่นอากาศขนาดจิ๋วที่ลอนของที่นอน เพื่อเป็นการช่วยระบายอากาศ ความอับชื้น โดยมีระบบ CPR ที่สามารถปล่อยลมออกมาได้รวดเร็ว สะดวกสบาย สำหรับกรณีฉุกเฉิน ทั้งยังสลับวงจรลมแบบอัตโนมัติได้ทุก 12 นาทีไปอีก ช่วยลดการกดทับ ทำให้แรงกระจายทั่วถึง ไม่ทำให้ติดเตียงเกิดแผล ราคาอยู่ที่ 7,450 บาท ซื้อตอนนี้ผ่านออนไลน์ลดเหลือ 6,230 บาท

2. HOSPRO H-AM02 สีน้ำเงิน

ต่อมาเป็นอีกที่นอนลมกันแผลกดทับกับ HOSPRO H-AM02 สีน้ำเงิน ที่ผลิตจากวัสดุพลาสติก PVC ผสมไนลอนเกรดดี สามารถรองรับน้ำหนักของตัวผู้ใช้งานได้ 140 กก. โดยที่บนผืนจะมีจำนวนเซลล์ที่นอน 20 ลอน แยกเปลี่ยนได้ ช่วยลดกระจายแรง ไม่ทำให้เกิดการกดทับ ทำงานด้วยระบบเป่าลม สลับลอนเว้นลอน ปรับระดับความเร็วได้หลายระดับ ราคาอยู่ที่ผืนละ 8,500 บาท แต่หากซื้อตอนนี้ลดเหลือ 6,200 บาทเท่านั้น

3. HOSPRO H-AM01 สีครีม

เป็นอีกรุ่นที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ กับที่นอนเตียงลม HOSPRO H-AM01 สีครีม ที่ใช้ PVC เกรดดี กันน้ำมาผลิต มีความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่ 135 กก. บนผืนจะมีเซลล์ที่นอน 130 เซลล์ ขนาดแตกต่างกันออกไป ช่วยนวดและกระจายแรงกดทับร่างกาย ทำงานด้วยระบบเป่าลม ปรับระดับความเร็วในการปั๊มได้เยอะ ราคาอยู่ที่ 3,200 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 2,500 บาท

4. FASICARE FB-412 สีชมพู

ปิดท้ายกันที่ FASICARE FB-412 สีชมพู ที่เป็นรูปแบบรังผึ้ง ช่วยป้องกันการเกิดแผลกดทับ รองรับน้ำหนักการเข้าถึง 135 กก. (กระจายน้ำหนัก) ผลิตจาก PVC 0.32 มม. ระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้นได้สูง โดยจะขึ้นรูปที่นอนโดยเทคโนโลยีจากเครื่อง Japan Toshiba power tube ที่จะช่วยลดการรั่วของที่นานตามตะเข็บได้อย่างดี ราคาอยู่ที่ 2,870 บาท หากซื้อตอนนี้ลดเหลือ 2,150 บาทเท่านั้น

และทั้งหมดนี้ก็เป็นที่นอนลมที่เรานำมาฝาก มาแนะนำ มาบอกต่อ เผื่อว่าใครกำลังลังเลไม่รู้จะตัดสินใจซื้อยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็จะได้ตัดสินใจทันท่วงที เพื่อการใช้งานทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลสบายใจ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ดีเอ็นเอ เทสติ้ง แล็บบอราทอรี่ บริษัทเอกชนแห่งแรกในไทยที่ให้บริการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด และ ตรวจ DNA พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี เรามุ่งมั่นให้บริการตรวจดีเอ็นเอ ราคา ย่อมเยา รวดเร็ว แม่นยำ  ทราบผลภายใน 3 วันทำการ



บริการของเรา

- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นบิดา
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นมารดา
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นพี่น้อง
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นฝาแฝด
- ตรวจ DNA พิสูจน์ทารกในครรภ์
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นลุง ป้า น้า อา



จุดเด่นของเรา

- เชี่ยวชาญและแม่นยำ: ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้บริการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอด้วยมาตรฐานระดับสากล ISO 17025:2017
- ทันสมัย: เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ช่วยให้ผลตรวจแม่นยำ รวดเร็ว
- ราคาไม่แพง: เข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับทุกคน
- รวดเร็ว: ทราบผลภายใน 3 วันทำการ
- เก็บรักษาความลับ: ข้อมูลลูกค้าทุกท่านจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

- เบอร์โทร: 098-556-9644, 02-140-0364
- เว็บไซต์: www.dnathailand.com

เป็นอีกสิ่งที่ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยมีรถเข็นจำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจอย่างดี อย่างละเอียดมากที่สุด เพื่อให้การเข็นผ่านไปได้ราบรื่น มีความปลอดภัยไม่เป็นอุปสรรคหรือปัญหาตามมาได้ แต่จะเป็นการใช้งานรถเข็นผู้ป่วยอย่างไรบ้าง? เอาเป็นว่าเราไปติดตามทักษะการใช้งานเลยดีกว่า



การใช้งานรถเข็นผู้ป่วยที่ถูกต้อง ทักษะที่ผู้ดูแลมองข้ามไม่ได้

จริง ๆ แล้วการใช้งานวีลแชร์จะให้ดีที่สุดต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเลือกที่เหมาะสมกับการดูแล การออกแบบก็จะอาศัยอยู่ในมุมมองของเราส่วนใหญ่ เช่น รถที่ไม่ต้องก้มเวลาเบรก ตำแหน่งมือจะช่วยประหยัดแรงและทำให้การเข็นง่ายมากขึ้น ยิ่งได้ทักษะที่ดีก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูกผู้ดูแลได้ดีไปอีก

- วิธีการเข็น : เมื่อเข็นรถต้องทำให้เอวตั้งตรง
- เมื่อขึ้นลงรถเข็น : ก็ต้องมีการช่วยเหลือผู้ป่วยทั้งการขึ้นและลง จำเป็นต้องเอาที่พักเท้าออก หรือหมุนขึ้น ทั้งนี้ ช่วยลดความเสี่ยงผู้ป่วยลื่น และยังช่วยลดระยะห่างของรถเข็นลงไปได้ยิ่งขึ้น ลดภาระที่จะเกิดในช่วงเอวด้วย
- การขึ้นลงที่พื้นหรือทางต่างระดับ : ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับพื้นที่ยกสูงต่างระดับ จะต้องใช้แท่นเหยียบข้ามพื้นเพื่อประกอบการใช้งาน จะทำให้เลี่ยงข้อมือได้รับการบาดเจ็บ ไม่ทำให้ออกแรงยกมากเกินไปกับตัวรถ ซึ่งน้ำหนักผู้ป่วยบางคนอาจจะมีเยอะทำให้เราต้องใช้แรงมากตามนั่นเอง
- การเคลื่อนย้ายรถเข็น : ที่จะต้องยกรถทั้งคัน อย่าง การนำรถใส่ที่ท้ายรถ ก็ควรเป็นรถที่สามารถพับได้เพื่อให้พับเก็บง่าย หรือสามารถถอดบางชิ้นส่วนออกได้ เพื่อลดน้ำหนักโดยรวมออก ช่วยในการยกย้ายได้ดี

เพิ่มเติมความสะดวกอีกขั้นด้วยการใช้งานแบบไฟฟ้า

แต่กระนั้นในการใช้งานรถเข็นสำหรับผู้ป่วยจริง ๆ ก็ยังมีที่สะดวกสบายมากขึ้น อย่างการเลือกใช้งานเป็นรถเข็นไฟฟ้าที่สามารถเคลื่อนย้ายทั้งรถและผู้ป่วยที่บางยี่ห้อก็สามารถบังคับเองได้ด้วยผู้ป่วย หรือเราเองก็บังคับได้ง่าย สามารถพับ หรือถอดชิ้นส่วนได้ตามต้องการ ทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นทั้งตัวเราในฐานะคนดูแล และผู้ป่วยที่จะสร้างความรู้สึกว่าไม่ทำให้ใครต้องลำบาก แต่ก็ต้องรู้ว่าราคาวีลแชร์ไฟฟ้าก็จะค่อนข้างสูงหากใครสะดวกแบบไหนก็ลองซื้อแล้วใช้งานตามทักษะที่เราแนะนำไปดูได้

รถเข็นผู้ป่วยนับว่าเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่จะมาทำให้การเคลื่อนย้ายกลายเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น แต่หากจะไม่มีผู้ดูแลเลยก็คงจะไม่ใช่เรื่องดี ทว่าแม่จะมีผู้ดูแลก็ต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจในการใช้งาน เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยที่มีทั้งต่อผู้ดูแลและผู้ป่วยนั่นเอง และหากจะให้สะดวกสบายแน่นอนว่ารูปแบบไฟฟ้าก็เป็นอีกทางเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจ

สำหรับใครที่มีความลังเลถึงการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอยากให้ลองมาศึกษาเกี่ยวกับประเภทและชนิดที่มีให้บริการกันดู เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรเราไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า เพื่อการเลือกซื้อที่ดีตอบโจทย์มากที่สุด



แนะนำประเภทของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ควรรู้

สำหรับประเภทอาหารเสริมก็จะมีหลากหลาย โดยจะเป็นรูปแบบองค์รวมและเสริมเฉพาะด้านนั้น ๆ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการใช้ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าต้องการบำรุงร่างกายของตนเองในด้านไหน แบ่งออก ดังนี้

- ประเภทบำรุงสายตา : เพื่อช่วยให้มีสุขภาพตาที่ดี ลดความเสี่ยงโรคตาต่าง ๆ ช่วยให้ไม่เสื่อมสภาพไปตามอายุ
- ประเภทบำรุงสุขภาพผู้หญิง : จะช่วยเสริมสร้างสิ่งต่าง ๆ ของผู้หญิง การปรับฮอร์โมน บำรุงผิวจากภายใน กระตุ้นการเผาผลาญได้ดี
- ประเภทบำรุงสุขภาพผู้ชาย : ที่เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้ตอบสนองความต้องการได้ดี ช่วยให้ผู้ที่หย่อนสมรรถภาพทางเพศดีขึ้น ลดการหลั่งเร็ว มีความต้องการมากขึ้น อาการดีมากขึ้นด้วย
- ประเภทบำรุงสมอง : โดยที่จะมาช่วยเพิ่มโฟกัส ปรับปรุงให้สมองมีสุขภาพที่ดี ลดอาการสมองล้า ทำให้ความจำดีมากขึ้น
- ประเภทสร้างภูมิคุ้มกัน : ที่จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ฟื้นฟูให้โดยรวมมีประสิทธิภาพดีมากขึ้น ป้องกันการเสื่อมโทรมของอวัยวะต่าง ๆ
- ประเภทช่วยการนอนหลับ : โดยที่จะมาช่วยให้มีสุขภาพการนอนหลับที่ดี ลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่จะมาหากนอนไม่หลับ

ชนิดของผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้สุขภาพดีมากขึ้น

ต่อมาคือชนิดของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพโดยที่เป็นทั้งรูปแบบเสริมแคลเซียม ที่เหมาะกับวัยรุ่น เด็กเล็ก จนถึงผู้สูงอายุ ที่จะเสริมสร้างกระดูก ข้อเข่า ฟัน ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น หรือวิตามินซีที่จะเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณให้ผิวกระจ่างใจมากขึ้น หรือวิตามินดีที่จะมาปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากขึ้น ป้องกันกระดูกบาง หรือโรคกระดูกพรุนได้ดี นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบถั่งเช่าที่จะมากระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนของเลือดได้ดี เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศได้ดี รวมถึงรูปแบบธาตุเหล็กที่แก้อาการเลือดจาง ภาวะเลือดน้อย บำรุงเลือด บำรุงเม็ดสีของเลือด เสริมสร้างให้ภูมิต้านทานร่างกายดีมากขึ้น

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนที่กำลังลังเลกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะสามารถตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ และเลือกตามความต้องการด้านการบำรุงที่สุด ทำให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์ต่อสุขภาพมากขึ้นด้วย

เป็นอีกความน่าสนใจอย่างมากกับ "3CMEDICAL FI-01" ที่เป็นมากกว่าปรอทวัดไข้ไปแล้ว เพราะนี่คือเครื่องวัดที่ช่วยวัดอุณหภูมิได้อย่างดี ใช้งานง่าย และยังมีค่าความแม่นยำที่สูงอย่างมากด้วย โดยที่คุณสามารถเข้าถึงผลลัพธ์วัดไข้ได้อย่างดี แต่หากใครที่ยังไม่มั่นใจอยากรู้อยากใส่ใจก่อน เราก็ไม่รอช้าที่จะพาทุก ๆ คนไปศึกษารายละเอียดอย่างดี ว่าแล้วก็ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้



มากกว่าปรอทวัดไข้ต้องเครื่องช่วยวัดอุณหภูมิ "3CMEDICAL FI-01"

สำหรับเครื่องวัดอุณหภูมิ "3CMEDICAL FI-01" ที่มีให้คุณได้ใช้งานติดตามอุณหภูมิร่างกายยามป่วยไข้ โดยที่เครื่องสามารถวัดได้ทั้งอุณหภูมิร่างกาย วัตถุของต่าง ๆ หรือใช้งานได้สะดวกสบายแบบที่ขนาดมีความกะทัดรัด ซึ่งน้ำหนักที่เบานี้จะมาพร้อมกับการออกแบบที่สามารถจับมือถือได้ถนัดมือ กระชับมือ หน้าจะสามารถแสดงผลได้ขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นชัดเจนสุด ระบบไฟพื้นหลังเป็นรูปแบบ 3 สี ช่วยแจ้งอุณหภูมิของร่างกายได้ดี

- สามารถปรับโหมดในการวัดได้ทั้งอุณหภูมิห้อง ร่างกาย หรือวัตถุ
- หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ที่มีไฟ Backlight 3 สี คือเขียว เหลือง แดง ที่ช่วยแจ้งสถานะอุณหภูมิของร่างกายอย่างดี
- ตรวจวัดอุณหภูมิที่มีแสงอินฟราเรด  ที่วัดได้โดยไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง มีระยะห่างเมื่อวัด 5 – 15 ซม.
- มีฟังก์ชันหน่วยความจำ สามารถบันทึกข้อมูลได้ทั้งสิ้นถึง 32 ครั้ง
- มีเสียงเตือนอุณหภูมิร่างกายที่สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส
- มีสีช่วยแจ้งสถานะอุณหภูมิของร่างกายได้ดี ทั้ง สีเขียว เหลือง แดง
- วัดค่าได้ไวมาก ใช้เวลาแค่ 1 วินาที รวดเร็วแบบสุด ๆ รู้ผลได้เลย
- ใช้แบตเตอรี่ 3 โวลต์ ที่มีถ่ายขนาด AA 2ก้อน
- มีระบบเครื่องรูปแบบอัตโนมัติ ที่หากไม่ได้ใช้งานก็จะปิดเครื่อง
- ปรับค่าได้ทั้งองศาฟาเรนไฮต์ หรือองศาเซลเซียส

ข้อมูลทางเทคนิค 3CMEDICAL FI-01

3CMEDICAL FI-01 ไม่ใช่แค่ปรอทวัดไข้ดิจิตอลแต่ยังเป็นเครื่องช่วยวัดอุณหภูมิที่มีเทคนิคบางอย่างที่ต้องรู้และทำความเข้าใจ มีไฟแสดงสถานะอุณหภูมิ ที่มีเป็นสีเขียวเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย 32.0 – 37.3 องศาเซลเซียส สีเหลือง 37.4 – 37.9 องศาเซลเซียส และสีแดงเท่ากับ 38.0 – 42.9 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ยังมีค่าอุณหภูมิคลาดเคลื่อน +- 0.2 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิพื้นผิววัตถุ +- 1 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ การวัดอุณหภูมิร่างกายที่ไม่สัมผัส อย่างอุณหภูมิร่างกายที่วัดได้ 32.0 – 42.9 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิพื้นผิว ช่วงอุณหภูมิที่วัดได้ 0 – 100 องศาเซลเซียส

เครื่องช่วยวัดอุณหภูมิ "3CMEDICAL FI-01" ที่เป็นมากกว่าปรอทวัดไข้นี้ราคาเครื่องละ 1,350 บาท ซื้อตอนนี้ลดเหลือ 1,190 บาท ทั้งนี้ มีข้อควรระวังให้ต้องรู้คือควรถอดแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์ หากไม่มีการใช้งานเป็นเวลานาน ห้ามดัดแปลง แก้ไขสินค้าหรือใช้งานแบบผิดประเภท เลี่ยงการนำอุปกรณ์ไปใช้ในที่แสงแดดจ้า สถานที่ที่มีสนามไฟฟ้า ห้ามทำความสะอาดด้วยกรด หรือด่าง และต้องจัดเก็บในที่แห้ง ห้ามชื้นหรือร้อนจัด

วันนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปทำความรู้จักกับเตียงผู้ป่วยคุณภาพ REALMED A-006 3 ไกร์ HYBRID ที่นอกจากจะได้เตียงแล้วก็ยังได้ฟูกที่นอนด้วย ซึ่งมีคุณสมบัติน่าสนใจ เชื่อว่าเตียงนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจแน่นอน และผู้ดูแลเองก็จะไม่ต้องทำงานหนักแล้ว แต่จะมีรายละเอียดน่าสนใจขนาดไหนไปติดตามพร้อม ๆ กันได้



แนะนำเตียงผู้ป่วย REALMED A-006 3 ไกร์ HYBRID

สำหรับเตียงคนไข้ REALMED A-006 3 ไกร์ HYBRID เป็นอีกเตียงที่น่าสนใจมาก เพราะเสริมสร้างความสะดวกสบาย และความต้องการต่าง ๆ ได้อย่างดี โดยที่เตียงมีระบบไฟฟ้า 3ไกร์ มาพร้อมการทำงาน 2 ระบบ มีระบบการสั่งงานไฟฟ้าที่เพิ่มความสะดวกได้ มีระบบมือหมุนรองรับการใช้งานได้ดีหากเกิดไฟฟ้าดับ จะปรับเตียงสูงหรือต่ำก็ได้ทั้งสิ้น มีพนักพิงหลัง และระดับเข่า ที่เหมาะสมของผู้ใช้งานที่เสริมสร้างความปลอดภัยได้ดี มีชุดบีบสำหรับล็อคและปลดล็อคที่พับได้แนบขนานกับเตียง ทำให้การขึ้น – ลง หรือลุกนั่งมีความคล่องตัวมากขึ้น สะดวกด้วยการเคลื่อนย้าย 4 ล้อ ล็อคล้อได้ทำให้เตียงลื่นไถล

- ใช้งานได้ 2 ระบบ ได้ทั้งไฟฟ้า และมือหมุน 3 ไกร์ เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
- ปรับเตียงได้ต่ำสุด 45 ซม. และสูงสุด 86 ซม.
- เคลื่อนย้ายสะดวก ด้วย 4 ล้อ ที่ล้อจะมีตัวล็อคป้องกันไม่ให้เตียงไหลลื่น
- เลือกปรับระดับพนักพิงหลัง 0 ถึง 75 องศา และปรับระดับเข่าได้สูงสุด 40 องศา
- มีครอบกันชน 4 มุม เพื่อลดแรงกระแทกที่มีจากการชนแบบไม่ได้ตั้งใจ
- โครงสร้างได้เหล็กมาผลิต คุณภาพสูง เคลือบด้วยสีระบบ Powder Coating รับน้ำหนักได้อย่างดี
- มีครอบกันชนทั้ง 4 มุม ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนได้ดี
- มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ระดับเสียงทำงานเพียง 65 เดซิเบล
- มีราวกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานตกจากเตียงได้ มีชุดมือบีบทั้งตัวล็อคและปลดล็อค

ข้อควรระวังในการใช้งาน REALMED A-006 3 ไกร์ HYBRID

ในการใช้งานเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้อยู่ด้วย เพื่อให้การใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น

- ทุกครั้งที่มีผู้ป่วยนอนต้องเอาราวกั้นเตียงขึ้นเสมอ ป้องกันผู้ป่วยตก
- ไม่ควรวางสิ่งของที่น้ำหนักมากเกินไปลงที่เตียง
- ไม่วางเตียงในห้องทึบ อึดอัด หรืออับชื้นเป็นเวลานาน ป้องกันการเกิดเชื้อรา
- ห้องกระโดด กระแทกบนเตียง เพื่อคงสภาพในการใช้งานยาวนาน
- ไม่วางเตียงตำแหน่งที่มีแสงแดดมาก ใกล้แอร์ หรือห้องน้ำมากเกินไป

เมื่อรู้อย่างนี้ก็หวังว่าทุก ๆ คนจะตัดสินใจเลือกซื้อเตียงผู้ป่วย REALMED A-006 3 ไกร์ HYBRID ซึ่งจะมาพร้อมเตียงนอนที่ทำให้การนอนหลับมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเตียงนี้มีราคาอยู่ที่ 45,300 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ตอนนี้ลดเหลือ 38,500 บาทเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เป็นฤกษ์ดีในการเปิดโครงการจิตธรรมและจิตแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และพระสงฆ์ด้วยสมุนไพรในพระไตรปิฏก โดยทางศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา กัญชงทางการแพทย์ CKC ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยจุราลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา เพื่อเป็นศูนย์การรักษาโรคด้วยสมุนไพรทางเลือก (สมุนไพรในพระไตรปิฏก) ระดับชุมชน เพื่อดูแลประชาชนและพระสงฆ์ได้อย่างทั่วถึง



อีกทั้งวันงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆในเรื่องสมุนไพรในพระไตรปิฏก กัญชาทางการแพทย์และกิจกรรมให้ความรู้ในเรื่อง "กินอาหารให้เป็นยา" จากนักโภชณาการอาหารมืออาชีพ พร้อมทั้งร่วมชิมอาหารภายในงาน นวดแผนไทย เพื่อบำบัดรักษาโรค ชมบูธอาหารและเครื่องดื่มจากสมุนไพรนานาพรรณที่คัดสรรเป็นอย่างดี ในโครงการ "กินอาหารให้เป็นยา" บูทจำหน่ายสินค้า จากสมุนไพรในพระไตรปิฏก กัญชาและกัญชง ทางการแพทย์ เช่นยาหม่องนาโน น้ำมันรักษาโรคไมเกรน ครีมนวดรักษาโรคเก๊า ยารักษาเบาหวาน ฯลฯ

ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม เยี่ยมชมและเข้าใช้บริการ "ศูนย์ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และพระสงฆ์" หากท่านใดสนใจ สามารถเข้าร่วมงานได้ วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

เคยรำคาญไหมกับสายไฟ เกลียวท่อ หรือเชือกที่พันกันยุ่งเหยิง บ้านเหมือนโดนพายุเฮอริเคนถล่ม? เคยไหมเวลาทำงานแล้วหาอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่เจอ เสียเวลาค้นหาจนแทบกรีดร้อง? ถ้าคุณเคยเจอปัญหานี้ บอกลาความยุ่งเหยิงไปได้เลย! เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ "เคเบิ้ลไทร์" สายรัดสารพัดประโยชน์ที่จะเปลี่ยนบ้านและที่ทำงานของคุณให้เป็นระเบียบเรียบร้อยน่าอยู่ เหมือนโดนแม่บ้านเวทมนตร์เสก!



เคเบิ้ลไทร์คืออะไร?

เคเบิ้ลไทร์ (Cable Tie) หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า "ซิปไทร์" นั้นแท้จริงแล้วคือสายรัดพลาสติกที่มีลักษณะคล้ายเข็มขัด มีปลายแหลมด้านหนึ่งไว้สอดเข้ารูห่วงด้านปลายอีกข้างหนึ่ง เมื่อดึงสายรัดก็จะเกิดแรงตึงทำให้สิ่งของที่รัดแน่นหนา ปลอดภัย ไม่คลายออกง่ายๆ เคเบิ้ลไทร์เป็นไอเท็มเล็กๆ แต่ทรงพลังที่ช่วยจัดระเบียบสายไฟ ท่อ สายสื่อสาร หรือแม้กระทั่งสิ่งของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ สะดวกต่อการค้นหา และปลอดภัยจากไฟช็อตหรืออุบัติเหตุจากสายพันกัน

ประเภทของเคเบิ้ลไทร์

เคเบิ้ลไทร์ไม่ได้มีแบบเดียว! เลือกให้เหมาะกับงานแต่ละประเภทจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี เริ่มต้นจาก:

- ตามวัสดุ: นิยมใช้กัน 3 แบบหลักๆ คือ ไนล่อน ทนทาน แข็งแรง เหมาะกับงานทั่วไป สแตนเลส ทนความร้อน สภาพอากาศ เลือกใช้กับงานหนัก ไฟเบอร์กลาส ทนไฟ ทนกรด เหมาะกับงานเฉพาะด้าน
- ตามรูปทรง: มีแบบมาตรฐาน ปลายหัวซี่ หนา หัวแบน หัวกลม แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
- ตามคุณสมบัติพิเศษ: บางแบบติดแถบกาว เพิ่มความเหนียว หนืด ทน UV เหมาะกับสภาพแวดล้อมพิเศษ

เคล็ดลับการเลือกเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะกับงาน

ก่อนคว้าเคเบิ้ลไทร์ไปรัดรัวะ ใจเย็นๆ นิดนึง! เลือกให้เหมาะกับงานจะดีกว่า เรามีเคล็ดลับการใช้งานเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะกับงาน

- ขนาด: วัดขนาดสิ่งของที่ต้องการรัด เลือกความกว้างและความยาวของเคเบิ้ลไทร์ให้พอดี ไม่รัดแน่นเกินไปจนของเสียหาย
- วัสดุ: พิจารณาตามสภาพแวดล้อม ถ้าทนร้อน ทนแดด ทนสารเคมี เลือกวัสดุที่เหมาะสม
- คุณสมบัติพิเศษ: เลือกตามความต้องการ เช่น ติดแถบกาวสำหรับพื้นผิวเรียบ ใช้แบบทนไฟสำหรับงานไฟฟ้า

ไอเดียเจ๋งๆ ใช้เคเบิ้ลไทร์นอกเหนือจากรัดสายไฟ

เคเบิ้ลไทร์ไม่ใช่แค่สำหรับสายไฟเท่านั้นนะ! ลองไอเดียเจ๋งๆ เหล่านี้ดู:

- จัดระเบียบอุปกรณ์: รัดสายชาร์จ หูฟัง สายเคเบิ้ลต่างๆ ให้เป็นระเบียบ ค้นหาสะดวก
- แขวนของใช้: รัดทัพพี กระบวย ตะหลิว ให้แขวนเป็นระเบียบ ประหยัดพื้นที่
- ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์: ใช้รัดขาเก้าอี้ โต๊ะ ที่โยกเยกให้แน่นหนาขึ้น
- DIY งานประดิษฐ์: ทำเป็นห่วงคล้องกุญแจ สายคล้องกระเป๋า สร้างสรรค์ได้หลากหลาย
- ปิดซองเอกสาร: ใช้แทนเทปกาว ปิดซองเอกสาร ชั่วคราว สะดวก แกะง่าย

ข้อควรรู้ก่อนใช้เคเบิ้ลไทร์

แม้เคเบิ้ลไทร์จะเป็นไอเท็มอเนกประสงค์ แต่ก็มีข้อควรระวัง:

- เลือกขนาดที่เหมาะสม: รัดแน่นเกินไปอาจทำให้สายไฟหรือสิ่งของเสียหาย
- อย่าใช้กับของที่เปียก: อาจทำให้ลื่นหลุด
- ไม่เหมาะกับของหนักมาก: เลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับงานหนัก
- ระวังปลายแหลม: เก็บให้พ้นมือเด็ก เลือกแบบปลายมน

สรุป

เคเบิ้ลไทร์อาจดูเป็นแค่สายรัดพลาสติกเล็กๆ แต่ประโยชน์นั้นเกินตัว! ช่วยจัดระเบียบบ้านและที่ทำงานให้เป็นระเบียบ สะดวก ปลอดภัย แถมยังมีไอเดียใช้สอยหลากหลาย สนุกกับการค้นพบวิธีใช้เคเบิ้ลไทร์แบบของคุณ แล้วคุณจะพบว่าไอเท็มชิ้นนี้ช่างเป็น "ผู้จัดการเริ่ดๆ" ตัวจริง!

ลองอ่านบทความใน YORU Cable Tie Blockdit ที่รวมบทความเคเบิ้ลไทร์ ทั้งประวัติความเป็นมา วัสดุที่ใช้ ประเภทต่าง ๆ วิธีการใช้ รวมไปถึงเรื่องน่ารู้ๆ อีกเพียบ

When it comes to pet care, ensuring the comfort and well-being of our furry companions is of utmost importance. For pet owners, the topic of "dog diapers" or "dog nappies," also known as "Hundblöjor" in Swedish, might seem unusual at first. However, these handy pet accessories can be a game-changer for both pets and their owners. In this comprehensive guide, we will explore everything you need to know about dog diapers and how they can improve the quality of life for your four-legged friend.



Why Do Dogs Need Diapers?

Many pet owners wonder why dogs might need diapers in the first place. The reasons can vary, but the most common ones include:

1. Incontinence

Just like humans, dogs can suffer from incontinence due to age, illness, or other factors. Diapers provide a hygienic solution to keep your home clean and odor-free.

2. Female Heat Cycles

For female dogs during their heat cycles, dog diapers are a must to prevent mess and avoid unwanted attention from male dogs.

3. House Training

Puppies are adorable, but they can be messy during their house training phase. Diapers help in containing accidents and speeding up the training process.



Types of Dog Diapers

When it comes to dog diapers, one size does not fit all. There are different types available to cater to various needs:

1. Disposable Diapers

Convenient and easy to use, disposable diapers are ideal for short-term use, such as travel or during female heat cycles.

2. Washable Diapers

Eco-friendly and cost-effective, washable diapers are a sustainable choice for long-term use. They come in various sizes and designs.

3. Belly Bands

Designed for male dogs, belly bands are wraps that go around the dog's midsection, preventing urine marking and accidents.

Choosing the Right Diaper

Selecting the perfect diaper for your dog is crucial for their comfort and your peace of mind. Consider the following factors:

Size Matters

Ensure you choose the right size for your dog to prevent discomfort or leakage. Most brands provide sizing guides to help you make the right choice.

Absorbency

Different dog diapers offer varying levels of absorbency. Pick one that suits your dog's needs, especially if they have heavy incontinence.

Material

Consider the material of the diaper to avoid skin irritation or allergies. Cotton and microfiber are popular choices for comfort.

Putting on a Dog Diaper

Learning how to properly put on a dog diaper is essential for it to be effective. Here's a step-by-step guide:

Step 1: Lay the Diaper Flat

Lay the diaper flat on a clean surface with the absorbent side up.

Step 2: Lift Your Dog's Tail

Gently lift your dog's tail and guide it through the hole in the diaper.

Step 3: Secure the Diaper

Fasten the diaper snugly around your dog's waist, ensuring it's not too tight or too loose.

Benefits of Using Dog Diapers

Dog diapers offer numerous benefits, both for your pet and you as the owner:

1. Hygiene

Keeps your home clean and odor-free, especially for incontinent dogs.

2. Convenience

Saves you time and effort in cleaning up accidents and messes.

3. Stress Reduction

Reduces stress for your dog during heat cycles or when dealing with incontinence.

4. Travel-Friendly

Ideal for traveling with your furry friend, ensuring a hassle-free journey.

Conclusion

In conclusion, dog diapers are a valuable addition to any pet owner's toolkit. Whether you're dealing with a young puppy's accidents or supporting an aging companion with incontinence, these diapers provide a convenient and hygienic solution. Choosing the right type, size, and fit is crucial for your dog's comfort. Embrace the use of dog diapers to enhance the quality of life for your beloved pet.

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหารถเข็นผู้ป่วยเพื่อการใช้งาน อย่ารอช้าที่จะเลือกใช้บริการยี่ห้อคุณภาพ อย่าง MATSUNAGA MV-888 สีแดง ที่ฟังก์ชันน่าสนใจสุด แถมยังมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ด้วย กระนั้นจะเป็นลักษณะอย่างไรบ้างเผื่อใครอยากเอาไว้ประกอบการตัดสินใจเราไปติดตามรายละเอียดกันดีกว่าอย่ารอช้า



คุณสมบัติต่าง ๆ ของ รถเข็นผู้ป่วยยี่ห้อ  MATSUNAGA MV-888

อุปกรณ์ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ผู้พิการ วีลแชร์รุ่นนี้มีวัสดุโครงสร้างผลิตจากอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง มีการรองรับน้ำหนัก 100 กก. ที่สามารถวางแขนได้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการลุกหรือเคลื่อนย้าย ที่พักก็ปรับระดับได้ ทำให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายมาก ๆ เวลาที่นั่ง ทั้งยังสามารถพับเก็บได้เลย ทำให้การพกพาสะดวกสบายมากกว่าเดิมไปอีก

- โครงสร้างใช้อะลูมิเนียมอัลลอย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม มีน้ำหนักเบา
- รถเข็นจะเหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้พิการ ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ 100 กก.
- สามารถพับเก็บได้ พกพาได้สะดวก พื้นที่มีความประหยัดมากขึ้นในการจัดเก็บ
- ที่พักแขนสามารถพับยกขึ้นได้ เพื่อสร้างความสะดวกในการลุกนั่ง ที่พักเท้าสามารถปรับระดับได้อย่างดี
- สามารถพับเก็บได้ พกพาสะดวกมาก โดยที่พักเท้าสามารถปรับระดับได้
- มีการใช้งานอย่างปลอดภัยที่มีเซฟตี้เบลท์ เบรกเท้าล็อคล้อให้ด้วยระบบ Drum Brake ไม่ทำให้ล้อไหลไปได้เอง

วิธีใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวังใช้รถเข็น MATSUNAGA MV-888

สำหรับวิธีการใช้งานรถเข็นไฟฟ้ายี่ห้อ MATSUNAGA MV-888 ที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ซึ่งควรมีการศึกษาคู่มือในการใช้งาน ทั้งก่อน และขณะใช้งานให้ดีเพื่อความปลอดภัย ควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงที่ต่อการบาดเจ็บได้ ทั้งนี้ มีข้อควรระวังด้วย

- ห้ามจัดเก็บใกล้ความร้อน ความชื้น หรือเปลวไฟ
- ห้ามใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่าง ในการทำความสะอาด
- ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภท
- ควรมีผู้ดูแล ที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอ
- มีความระมัดระวังเรื่องการกระแทก เพราะอาจจะทำให้สินค้าเสียหายได้ง่าย ๆ

รถเข็นผู้ป่วยยี่ห้อ  MATSUNAGA MV-888 ค่อนข้างน่าสนใจในการเลือกซื้อใช้งานอย่างที่สุด ด้วยคุณสมบัติ ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ทันสมัย น่าใช้งานอย่างที่สุด ซึ่งก็อยากแนะนำให้ศึกษาเรื่องของ วิธีใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวังที่มีเสมอ เพื่อการใช้งานกับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการที่จะปลอดภัยไร้ปัญหาตามมาภายหลัง ทั้งนี้ ด้านราคาก็เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้รับ นั่นคือ 20,820 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 17,900 บาท รับรองว่าไม่ผิดหวัง

เป็นอีกผลิตภัณฑ์ปั๊มนมที่ต้องมีกันอย่างที่สุดกับเครื่องปั๊มนมรูปแบบแบตเตอรี่และไฟฟ้ายี่ห้อ HAENIM 7V 24 มม. ที่เราภูมิใจนำเสนออย่างที่สุด ที่สำคัญหากคุณสั่งซื้อผ่านออนไลน์ตอนนี้ก็จะได้ในราคาที่ลดลงจากเดิมไปอีก ซึ่งหากใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม บวกกับราคาที่ลดลงเราไม่พลาดอาสาพาไปค้นหาคำตอบผ่านบทความนี้



แนะนำเครื่องปั๊มนมแบบแบตเตอรี่และไฟฟ้า HAENIM 7V 24 มม.

ใครที่สนใจอยากจะหาซื้อเครื่องช่วยปั๊มนมแต่ก็ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี เรามีมาแนะนำกับที่ปั๊มนมแบตเตอรี่และไฟฟ้ายี่ห้อ HAENIM 7V 24 มม. ที่การันตีด้านคุณภาพ และราคาที่เข้าถึงง่าย เครื่องละ 9,900 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 6,900 บาทเท่านั้น ถามถึงคุณสมบัติน่าสนใจมาก ๆ

- โหมดกระตุ้นน้ำนมเพิ่มปริมาณน้ำนมให้ได้มากกว่าเดิม เกลี้ยงเต้า ปรับแรงดูได้ 15 ระดับ
- เครื่องปั๊มทำงาน 2 โหมด คือทั้งกระตุ้นด้วย และปั๊มนมให้เราด้วย ขนาดกรวยที่ 24 มิลลิเมตร
- โหมดนวดกระตุ้นน้ำนมช่วยเพิ่มปริมาณนำนมได้มากขึ้น ดูดได้ 5 ระดับ และปรับความเร็วรอบดูดได้ 5 ระดับ
- ระบบ 1 มอเตอร์สามารถเลือกปั๊มแบบเดี่ยวหรือคู่ได้เลยตามสบาย
- มีเสียงการทำงานที่เบาสุด น้อยกว่า 45 เดซิเบล ไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนผุ้อื่นขณะใช้เครื่อง
- มีฟังก์ชัน Pause ที่หยุดพักระหว่างที่เราจะปั๊มนมได้สบาย
- ขนาดกะทัดรัด มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสุด ๆ
- มีโคมไฟ และมีหน้าจอแสงไฟ ที่สามารถนำมาใช้ปั๊มในช่วงเวลากลางคืนได้แบบที่ไม่ต้องเปิดไฟห้อง
- มีโหมดช่วยจดจำ และมีบันทึกเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ประหยัดเวลาในการปั๊มนมได้อย่างดี

ข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องช่วยปั๊มนม HAENIM 7V 24 มม.

- เป็นเครื่องที่ห้ามดัดแปลง แก้ไข ใช้ร่วมอุปกรณ์เสริมอื่นที่ไม่ได้มาจากผู้ผลิตเอง ไม่ควรซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง
- เป็นเครื่องที่ใช้งานแบบส่วนบุคคลเท่านั้น การใช้ร่วมกับผู้อื่นจะเกิดปัญหาด้านสุขภาพ และอาจถูกยกเลิกรับประกันได้
- ควรตรวจสอบอุปกรณ์ปั๊มให้ครบถ้วนก่อนที่จะเริ่มต้นใช้งาน
- สายยางปั๊มหากขึ้นราต้องหยุดใช้ในทันที และเปลี่ยนชุดใหม่ (ยังไม่ใช่เครื่องปั๊มนมไร้สาย แต่ก็มีคุณภาพจัดเต็มได้)
- ควรมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นก่อนที่จะสัมผัสเต้านม และน้ำนมแม่ ทั้งก่อนและหลังใช้งาน
- ไม่ควรใช้งานเมื่อมีอาการง่วงนอน หรือขณะนอนหลับเด็ดขาด

สำหรับการใช้งานเครื่องปั๊มนมรูปแบบแบตเตอรี่และไฟฟ้ายี่ห้อ HAENIM 7V 24 มม. หรือจะเรียกว่า 2 in 1 ก็ได้ จะใช้งานเพื่อช่วยรีดน้ำนมเพื่อเก็บไว้ โดยที่อยากแนะนำว่าให้อ่านคู่มือก่อนใช้งานและปฏิบัติตาม พร้อมล้างและทำความสะอาดให้แห้งทั้งก่อนและหลังใช้งานเสมอ

ตอนนี้หม้อทอดไร้น้ำมันถือเป็นอีกไอเทมของมันต้องมีติดบ้านไว้มาก ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือยี่ห้อ PHILIPS HD9880/90 8.3ลิตร ที่เราจะมาแนะนำข้อมูลรายละเอียดให้ได้ทำความเข้าใจ เพื่อการตัดสินใจซื้ออย่างดีที่สุด ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นใครใคร่อยากรู้แล้วก็ไปศึกษารายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย



รีวิวหม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อ PHILIPS HD9880/90 8.3ลิตร

เพื่อให้การทำอาหารในมื้ออาหารของคุณเต็มไปด้วยความอร่อยแบบไม่ทำให้อ้วน การเลือกใช้หม้อทอดเป็นอีกไอเท็มที่น่าสนใจ และหม้อทอดไร้น้ำมัน Philips HD9880/90 8.3ลิตร ก็ถือเป็นอีกไอเท็มที่น่าซื้อ อยากเอามาบอกต่อมาก ๆ เป็นของที่ต้องมีติดบ้านไว้ โดยที่จะทำให้คุณเข้าสู่โลกการทำอาหารที่เพียบพร้อม ไม่จำเป็นต้องพึ่งน้ำมันใด ๆ ทั้งสิ้น รองรับการทำอาหารภายในครอบครัวได้อย่างดี โดยคุณสมบัติได้แก่

- มี 22 ฟังก์ชัน ที่ทำอาหารได้ง่าย ทั้งคั่ว ทอด อบ ย่าง ตุ๋น อบเบเกอรี่ หรือผัด
- เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน NutriU เพื่อเป็นการสั่งทำงาน และเข้าถึงสูตรอาหารที่เป็นเมนูทั่วมุมโลกได้ด้วยสูตรตัวเอง
- ขอแสดงผลเป็นแบบเรียลไทม์ เพรียวบาง สามารถใช้งานได้อย่างง่าย
- มีเทคโนโลยี Rapid CombiAir สามารถปรับอุณหภูมิ ปรับเวลาในการทำอาหาร และความเร็วแบบอัตโนมัติได้
- ให้ความอร่อยแบบเต็มร้อย ไม่มีการใช้น้ำมันมีประกอบ เพราะจะเป็นการอบลมร้อนปรุงอาหาร
- รองรับความจุ 8.3 ลิตรที่เหมาะกับการทำอาหารสมาชิก 7 คน หรืออาหารชุด
- เครื่องสามารถวัดอุณหภูมิอาหารในตัว รูปแบบFoodThermometer ช่วยควบคุมระดับความสุกมาก – น้อย ได้เลยตามต้องการ

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่ต้องรู้

สำหรับหม้อทอด ยี่ห้อ PHILIPS HD9880/90 8.3ลิตร นี้นั้น มีเรื่องของการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่ต้องรู้อยู่ ซื้อการใช้ควรต้องเสียบปลั๊กโดยดึงเอาตะกร้าออกมาจากตัวเครื่องเพื่อใส่อาหาร แล้วใส่ตะกร้าเข้าตัวเครื่อง เมื่อครบเวลาที่กำหนดเครื่องก็จะส่งสัญญาณเตือน แปลว่าเครื่องทำงานเสร็จสิ้นแล้ว นำอาหารออกมาได้เลย

แนะนำว่าให้ศึกษาและปฏิบัติตามคู่มือการแนะนำได้เลย พร้อมตรวจสอบสภาพเครื่องให้พร้อมก่อนเสียบปลั๊กใช้งานเสมอ โดยข้อควรระวังคืออย่าให้ตัวเครื่องอยู่ใกล้เปลวไฟ ควรเก็บเครื่องห่างจากมือเด็ก ห้ามสัมผัสด้านในตัวเครื่อง หรือพึ่งใช้งานเสร็จ และห้ามวางสิ่งของใด ๆ ก็ตามไว้ด้านบนเครื่อง ซึ่งหม้อทอดไร้น้ำมัน ราคาไม่แพงอยู่ที่ 15,990 บาท เมื่อเทียบกับฟังก์ชันคุณสมบัติที่มี

และนี่ก็คือรีวิวหม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อ PHILIPS HD9880/90 8.3ลิตร ที่ควรค่าต่อการมีติดบ้านไว้อย่างที่สุด ซึ่งเหมาะมากกับสมาชิกในบ้านที่มีอยู่เยอะ หรือ 7 คน หรือมากกว่านั้น รับรองว่าได้มื้ออาหารที่ไม่ธรรมดา ไม่อ้วน อร่อยสุด ๆ

ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำถึงเครื่องวัดความดันที่น่าสนใจ ที่ดีมีคุณภาพทั้ง 5 ยี่ห้อ เพื่อการใช้งานมีติดบ้านไว้อย่างดีที่สุด ได้ค่าความดันที่เหมาะสมถูกต้อง ซึ่งจะมียี่ห้อไหนบ้าง มีความน่าสนใจของตัวเครื่องอย่างไร เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า จะได้ซื้อใช้งานอย่างเร็วไว



แนะนำ 5 เครื่องวัดความดันที่ดีมีคุณภาพ พร้อมบอกค่าอย่างถูกต้อง

1. BEURER BM57

ที่จะสะดวกสบายต่อการวัดทั้งความดันและชีพจรที่ต้นแขนด้วยเส้นรอบวง 23 – 43 ซม. หน้าจอแบบ LED ที่แสดงผลง่ายอ่านง่าย มีบันทึกค่าได้ 2 ผู้ใช้งาน 60 ค่าต่อคน มีระบบ Oscillometric ที่สามารถควบคุมลมได้ง่าย ลดอาการบาดเจ็บจากแรงบีบได้ดี ราคาเครื่องละ 4,250 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 2,800 บาท

2. ALLWELL BSX532

เครื่องวัดความดันโลหิตยี่ห้อ ALLWELL BSX532 ที่จะมีช่องการวัดที่กว้าง สามารถวัดค่าได้ และตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจได้อย่างแม่นยำ มีฟังก์ชันการบันทึกผล วันที่ เวลาที่ทำการวัด โดยที่จะบันทึกได้ 2 คน คนละ 99 ค่า แสดงค่าตัวเลขที่หน้าจอดิจิทัลได้อย่างชัดเจน หน้าจอจะเปลี่ยนสีไปตามอาการที่มีตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ราคา 1,950 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 1,290 บาท

3. BLUEDOT B-BM01

อีกเครื่องที่น่าสนใจ สะดวกต่อการใช้งานสุด ทั้งใช้วัดความดัน และชีพจรที่ต้นแขนโดยมีเส้นรอบวง 22 – 42 ซม. มีระบบปั๊มลมอัตโนมัติบีบรัดได้อย่างนุ่มนวลด้วยระบบ Intel Comfort จะช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ดี รวมถึงหน้าจอก็เป็น LED แสดงผลเป็นตัวเลข แจ้งได้ในเสียงภาษาไทย บันทึกค่าผู้เล่นได้ 2 คน คนละ 60 ค่า ราคาเครื่องละ 1,990 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 1,415 บาท

4. BOSO MEDICUS X

ที่วัดความดัน BOSO MEDICUS X มีอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้วัดความดันแบบอัตโนมัติที่ใช้วัดต้นแขน ขนาดผ้าพัน 22 – 32 ซม. ระบบการวัดบีบตัวอัจฉริยะ ที่บีบด้วยความเหมาะสมกับต้นแขนผู้ใช้งาน ไม่ต้องบีบซ้ำ โดยการวัดจะมีค่าที่แม่นยำมาก ได้รับการทดสอบมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ESH กับราคาเครื่องละ 2,900 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 2,490 บาท

5. 3C MEDICAL HK-601

สะดวกต่อการใช้งานมาก หน้าจอแบบดิจิตอลที่ใช้วัดความดันตัวเองแล้วบ่งบอกตัวเลขได้ ง่ายต่อการอ่านข้อมูล ซึ่งสามารถแจ้งผลด้วยเสียงภาษาไทยได้ ระบบปั๊มลมแบบอัตโนมัติ ควบคุมได้นุ่มนวลไม่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยราคาเครื่องละ1,650 บาท ซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 1,290 บาท

และนี่ก็เป็นทั้ง 5 เครื่องวัดความดันที่ค่อนข้างน่าสนใจแบบสุด ๆ โดยที่เราสามารถเลือกซื้อได้เลยตามสบาย เพราะแต่ละยี่ห้อมีคุณภาพ มีฟังก์ชันต่าง ๆ อย่างดีที่สุด อ่านค่าได้ถูกต้อง แถมราคาเครื่องก็ไม่ได้แพงมาก ยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งราคาถูกลงกว่าเดิมไปอีก