• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#6241
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน
#6242
ลดกระหน่ำโควิด ขายบ้านเดี่ยว มณีรินทร์ 97วา 5.5ลบ. (บางคูวัด)ถนนเมน โทร 0837124115
#6246
BBIK เสริมทัพบุคลากรด้านไอทีกว่า 100 ตำแหน่ง หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายบริการ-รองรับเทรนด์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน พร้อมลงทุน Learning Academy Center คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65

นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT Digital) เปิดเผยว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทฯ ได้รุกเสริมทีมงานบุคลากรด้านไอทีครั้งใหญ่ เพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจด้านคอนซัลท์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เนื่องจากกระแสดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ทำให้องค์กรต้องเร่งยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ส่งผลให้บลูบิค ในฐานะผู้ช่วยการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ต้องเร่งขยายทีมงาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการก้าวเป็นผู้นำบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันในระดับภูมิภาค  

ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว บลูบิค จึงต้องมีทีมบริหารและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาบริการที่สามารถแข่งขันได้ในทุกตลาดได้อย่างทันการณ์และทันสมัยที่สุด ภารกิจสำคัญของบริษัทจึงเป็นการขยายทีมงานที่ดูแลด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี หรือ Digital Excellence and Delivery (DX) เพื่อยกระดับการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลในด้านต่างๆ ให้ลูกค้า

"พนักงานที่มีคุณภาพและความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี ถือเป็นหัวใจหลักขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ บลูบิค จึงต้องการขยายทีมไอทีเพื่อเข้าไปช่วยลูกค้าองค์กร เพื่อให้การทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนการสรรหาบุคลากรใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในระยะยาว"

โดยปกติแล้ว ภารกิจด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน จะเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก ซึ่งกระบวนการนี้จะเข้าไปแตะทุกภาคส่วนภายในองค์กร บลูบิคในฐานะที่ปรึกษาจึงต้องช่วยธุรกิจเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยี โดยทีม DXจะเข้าไปมีบทบาทเข้มข้นในส่วนสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถของฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรง เช่น การยกระดับแผนกงานด้านไอทีของธุรกิจต่างๆ ที่เคยเป็นหน่วยงานเชิงรับ ให้เริ่มเป็นส่วนงานที่สร้างรายได้หรือสามารถสร้างและดูแลระบบดิจิทัลให้กับฝ่ายธุรกิจขององค์กรได้ หรือเข้าไปช่วยลดเวลาในการออกแบบและพัฒนาระบบขนาดใหญ่ เป็นต้น

ในปัจจุบัน บลูบิคมีพนักงานกว่า 150 คน และให้บริการลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร ประกันภัย ค้าปลีก โทรคมนาคม เป็นต้น โดยบลูบิคมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 126.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 30.06 ล้านบาท คิดเป็นอัตราทำกำไรสุทธิที่ 23.67%

ทั้งนี้ บลูบิคมุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร บริษัทจึงเปิดโอกาสให้กับบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งนั้น ๆ ได้แก่ สายงานด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery: DX) เช่นSoftware Engineer, Business Analyst, UX/UI Designer, Technical Lead, Software Tester, IT Project Manager, System Analyst, Solution Architect, Infrastructure Engineer และ สายงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Insights) เช่นData Scientist, Data Engineer, Cloud Architect, Data Architect, Data Governance, Data Consultant


สำหรับตำแหน่งงานที่เปิดรับครั้งนี้มีจำนวนกว่า 100 อัตรา จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทบลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด และบริษัท แอดเดนด้า จำกัด ซึ่งทำหน้าที่จัดหาและบริหารบุคลากรชั่วคราวด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT staff augmentation) เพื่อเข้าไปช่วยลูกค้าองค์กรในการยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยี โดยให้บริการส่งบุคลากรไปปฏิบัติงานประจำ ณ ที่ตั้งของลูกค้า หรือสถานที่ที่ลูกค้ากำหนดตลอดระยะเวลาจ้างงาน ซึ่งบริการดังกล่าวนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความคล่องตัว มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย โดยเฉพาะการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันเข้าไปขับเคลื่อนแผนงานอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง 

จุดเด่นของบลูบิคคือมาตรฐานการทำงานที่เทียบเท่ากับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก มุ่งสร้างและส่งมอบงานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าองค์กร ขณะเดียวกันยังมีวัฒนธรรมการทำงานแบบสตาร์ทอัพที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ด้วยรูปแบบโครงสร้างองค์กรแบบราบ หรือ Flat organization จึงทำให้พนักงานได้เรียนรู้และพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความก้าวหน้าในสายงานและการเลื่อนขั้นจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของพนักงานมากกว่าความอาวุโส 

นอกจากนี้ บลูบิค ยังมีแผนลงทุนในการสร้างศูนย์การพัฒนาทักษะ (Learning Academy Center) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายในไตรมาส 2 ปี 2565 สำหรับให้บุคลากรได้เรียนรู้เนื้อหาขั้นสูงและทดลองปฏิบัติจริง เช่น Solution architect, Cloud Technology, Artificial Intelligence และ Blockchain เป็นต้น เพื่อสร้างทักษะและประสบการณ์ของบุคลากร ซึ่งสามารถนำไปช่วยพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน
#6247
หลังจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ถูกปิดมานานกว่า 5 เดือน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย. 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงระลอกที่ 3 ล่าสุด ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายมาตรการให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

การกลับมาของโรงภาพยนตร์จะเป็นไปตามมาตรการควบคุมเข้มงวดขั้นสูงสุด COVID Free Setting เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไข โรงภาพยนต์เปิดให้บริการได้ถึง 3 ทุ่ม จำกัดผู้ชม 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ต้องนั่งที่เว้นที่ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และห้ามรับประทานอาหารระหว่างรับชมภาพยนตร์

สำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์โดนพิษโควิด-19 เล่นงานแสนสาหัส  "บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)" หรือ "เมเจอร์"  ขาดทุนครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปีขาดทุนต่อเนื่องมาแล้ว 6 ไตรมาส ซึ่งก่อนหน้านี้ เมเจอร์ฯ ปักหมุด ปี 2563 เป็นปีทอง เพราะรายได้ในช่วงที่ผ่านมาต่างเติบโตทุกปี สะท้อนจากยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ ปี 2560 ขายได้ 29.5 ล้านใบ, ปี 2561 ขายได้ 33 ล้านใบ และปี 2562 ขายได้ 36.5 ล้านใบ ดังนั้นปีนี้ 2563 ประเมินว่าจะสามารถทำได้ 40 ล้านใบได้ไม่ยาก แต่กลับเกิดการแพ่ระบาดโควิด-19

อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดบริการรอบนี้ เมเจอร์ หวังพลิกโกยกำไร โดยปรับกระบวนทัพโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ประกาศ  Business Model ใหม่ด้วยกลยุทธ์ "3T" เพื่อผลักดันให้การเติบโตให้กลับมาโตแบบ "V Shape" ประกอบด้วย

1. Thai Movie ขยายการลงทุนในภาพยนตร์ไทย ซึ่งเมเจอร์มีฐานธุรกิจด้าน Content Provider ด้วยการร่วมทุนสร้างภาพยนตร์อยู่แล้ว และคอนเทนต์เหล่านี้สามารถนำมาต่อยอดขายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ ซึ่งทั้งสองช่องทางจะทำให้เมเจอร์มีฐานรายได้จากส่วนแบ่งกำไรในฐานะผู้สร้าง ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้หลักจากการขยายตั๋วชมภาพยนตร์ โดยปี2564 จะผลิตภาพยนตร์ไทยเพิ่มขึ้นเป็น 20 กว่าเรื่อง จาก 6 ค่ายจากที่ผ่านมาผลิตปีละ 10–12 เรื่อง

2. Technology ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย Major 5.0 เพื่อยกระดับองค์กรสู่ "Total Digital Organization" จะลงทุนไม่ต่ำกว่า 100–200 ล้านบาท ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์บริการแบบไร้สัมผัส เช่น การนำตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ E Ticket พัฒนาขึ้นมาใช้เป็นรายแรก และเตรียมต่อยอดสู่การเป็น Seamless Ticket ด้วยการซื้อตั๋วผ่านแอปพลิเคชั่น และนำมาสแกนที่ตู้เพื่อเข้าชมภาพยนตร์ได้ทันที

พัฒนาบัตรเงินสด M Cash เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงการชมภาพยนตร์ได้ง่ายขึ้น โดยเปิดขายตั๋วผ่านพาร์ทเนอร์ ทุกธนาคาร และระบบ Payment ต่างๆ พร้อมกับยกระดับแอปพลิเคชันเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ให้เป็น Super App เพื่อเป็นช่องทางขายตั๋วผ่าน Mobile Ticketing 100% ทั้งนี้เพื่อปรับสู่ Cashless ทั้งระบบรวมถึงนำระบบ AI & ML ในลักษณะ Movie Recommendation Engine เข้ามาพัฒนาโปรโมชั่นที่ตรงในแบบ Personalization หรือ One-on-One Offering เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่แตกต่างกัน เป็นต้น

3. Trading หลังจากทดลองจำหน่ายป๊อปคอร์นในช่องทาง Delivery ในงานอีเว้นท์และมาร์เก็ตเพลสอย่างช้อปปี้ ทำให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มองถึงการข้ามไลน์เข้าสู่ค้าปลีก ด้วยการเปิดตัว "ป๊อปคอร์น พรีเมียม POPSTAR" 3 รูปแบบคือ แบบซอง, แบบเข้าไมโครเวฟ, และป๊อปคอร์นบรรจุกระป๋อง โดยจะจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้จากป๊อปคอร์นมีกว่า 30% จากรายได้รวมของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยปี 2562 มียอดขาย 2,000 กว่าล้านบาท จากช่องทางเดียวคือโรงภาพยนตร์ 172 สาขา

การกลับมาของโรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ฯ จะดึดดูดผู้ชมด้วยหนังใหม่เตรียมลงโรงฉายอีกหลายเรื่อง เช่น No Time to Die ซึ่งถือเป็นการอำลาบทสายลับ "เจมส์ บอนด์ 007" ของ "แดเนียล เครก", Dune, Spider-man : No way Home ส่วนหนังไทยมีหลายเรื่องเช่นกันที่จ่อลงโรงส่งท้ายปี เช่น ร่างทรง, ส้มป่อย ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด, มนต์รักวัวชน, อโยธยา มหาละลวย ฯลฯ

อีกทั้ง ปลายปีจะมีหนังฟอร์มยักษ์ซึ่งฉายในต่างประเทศไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่น Fast & Furious 9, Black Widow, The Suicide Squad 2, Jungle Cruise และ Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings ที่โกยรายได้ติดอันดับ 1 Box Office เป็นต้น

โดยเปิดบริการเต็มรูปแบบภายใต้มาตรการสาธรณสุขปแบบ พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแและต้องตรวจ ATK ก่อนเริ่มงาน มีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยแอลกอฮลล์ก่อนใช้บริการ ภายโรงหนังจะจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง ระหว่างแถวจัดที่นั่งแบบสลับฟันปลา มีการอบโอโซนในโรงหนังทั้งก่อนและหลังบริการ พร้อมทั้งปรับเป็นโรงภาพยนตร์แบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ นำร่องให้บริการซื้อและชำระค่าบัตรชมภาพยนตร์แบบไร้เงินสดทุกสาขาใน กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นไป

สำหรับเบอร์รองในธุรกิจโรงภาพยนตร์  "บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)" หรือ "เอส เอฟ ซีเนม่า"  
ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2564 เช่นเดียวกันนั้น น.ส. พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่าโรงหนังเป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ต้องหยุดให้บริการ และมักจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้เปิดอยู่เสมอ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นจากโรงหนัง

อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์เสิร์ฟหนังฟอร์มยักษ์เต็มอิ่มเช่นเดียวกัน และในแต่ละสัปดาห์มีหนังใหญ่รอเข้าโรงเกือบจะทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น Black Widow, The Suicide Squad, No Time To Die, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Fast & Furious 9, Eternals, Venom: Let There Be Carnage, The Matrix 4, Spider-Man: No Way Home, The King's Man รวมทั้ง โปรโมชั่นจากเอสเอฟและพาร์ทเนอร์แบบจัดเต็ม เป็นการต้อนรับทุกคนกลับสู่โรงหนังอีกครั้ง

ภายใต้คอนเซ็ปต์ Keep Caring, Keep Entertaining มอบความห่วงใย เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข ชูมาตรการด้านสาธารณสุขของโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เตรียมความพร้อมด้านพนักงานที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงมีการตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และในส่วนของโรงภาพยนตร์ได้รับการประเมินผ่านมาตรฐาน THAI STOP COVID PLUS (TSC+) ของกรมอนามัย พร้อมทั้งได้ติดตั้งอุปกรณ์หลอด UVC ภายในระบบปรับอากาศ และอบ Ozone เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในโรงภาพยนตร์ทั้งหมด นอกจากนี้ มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อโรค

สำหรับกลยุทธ์ของ เอส เอฟ คือการสร้างความแตกต่าง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการชมภาพยนตร์ ขนานไปกับการใช้การตลาดแบบ Naming Sponsor เช่น Emprive Cineclub, CAT First Class Cinema, MasterCard Cinema, Zigma CineStadium, Happiness Cinema และ MX4D ซึ่งจะตอบโจทย์แบบ win-win ทั้งผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ และพันธมิตร

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าโรงภาพยนตร์จะล้มตายไปภายใน 5 ปี หลังสถานการณ์โควิด – 19 แต่ในสายตาผู้ประกอบการธุรกิจโรงภาพยนตร์มองต่างออกไป  นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ในประเด็นนี้ไว้ว่าธุรกิจโรงภาพยนต์มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง อย่างในอดีตเราผ่านยุคเทปผีซีดีเถื่อน โหลดหนังเถื่อนดูฟรี หรือเว็บดูหนังเถื่อนดูฟรีออนไลน์ แต่โรงภาพยนต์ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา มาถึงในยุคนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นกระแสใหม่ เสียค่าบริการรายเดือนรับชมคอนเทนต์หนังซีรีย์มากมาย แต่ความรู้สึกการรับชมแต่ต่างจากโรงภาพยนต์ที่เป็น Out of Home เปรียบเทียบกันไม่ได้เป็น Business Model ที่ต่างกัน อีกอย่าง สตรีมมิ่งดูไม่ดูก็ต้องจ่าย แต่โรงภาพยนตร์อยากดูค่อยจ่าย ซึ่งผู้สร้างรายใหญ่เองให้ความสำคัญกับการฉายในโรงภาพยนตร์เป็นลำดับแรก โดยเฉพาะกับหนังฟอร์มยักษ์ ต้องอาศัยระบบภาพและเสียง ที่ช่วยให้คอนเทนต์สมบูรณ์แบบกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

 การรับชมในโรงภาพยนตร์เป็น Cinematic Experience เป็นสิ่งที่สตรีมมิ่งให้ไม่ได้ในปัจจุบัน แน่นอนว่า คุณภาพของภาพยนตร์ทั้งภาพและเสียงของสตรีมมิ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่บ้าน ขณะที่โรงภาพยนตร์มีอุปกรณ์คุณภาพสูงราคาแพง พร้อมมอบประสบการณ์และสุนทรียภาพที่ดีที่สุดในการรับชม อย่างไรเสียการบรรยากาศในโรงหนังได้อรรถรสมากกว่า 


X


อย่างไรก็ตาม แม้โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แม้จะถวิลหาบรรยากาศในโรงภาพยนต์เพียงใด แต่ด้วยสถานการณ์การพร่ระบาดโควิด-19 ก็เป็นปัจจัยหยุดยั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเอาไว้ ตลอดจนคอนเทนต์หนังและซีรีย์ใหม่ๆ มีให้เลือกรับชมผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่งต่างๆ มากมาย

 สถิติปี 2562 ที่คนไทยใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง (Streaming) แบบบอกรับสมาชิก 1.33 ล้านราย ปี 2563 ที่ เพิ่มเป็น 1.52 ล้านราย และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ 

เริ่มตั้งแต่  Netflix ผู้ครองตลาดโลกด้วยจำนวนสมาชิก (subscription) กว่า 195 ล้านรายทั่วโลก และเป็นผู้นำในตลาดสตรีมมิ่งไทย คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายทั้งใหม่และเก่า ออริจินัลคอนเทนต์ที่ดูได้แค่ในเน็ตฟลิกซ์ รวมถึง กลยุทธ์แบบ Think Local for Global สร้างคอนเทนต์ท้องถิ่นออกไปสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก

หรือสตรีมมิ่งน้องใหม่มาแรงอย่าง  Disney+ ที่มีคอนเทนต์ออริจินอลของดิสนีย์ มีภาพยนตร์และซีรีส์กว่า 700 เรื่อง จาก Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี VIU สตรีมมิ่งผู้ครองตลาดซีรีส์เกาหลี รวมถึง WeTV และ iQIYI กับคอนเทนต์ซีรี่ย์จีนมากมาย

นอกจากนี้ รอบปีที่ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์เคลื่อนไหวอย่างน่าจับตา มีการฉายภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งพร้อมกับโรงภาพยนตร์มากขึ้น หรือฉายบนแฟลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่างเดียวก็มีให้เห็นกันบ้างแล้ว

 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Cinematic Experience หรือ ประสบการณ์การดูหนัง การรับชมในโรงภาพยนตร์เติมเต็มอรรถรสได้มากกว่า 
 
#6248
ข้อต่อท่ออ่อนสแตนเลส
ท่อรับการสั่น
ท่อรับการสะเทือน
ข้ออ่อนกันสะเทือน
#6249
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ประชุมทางไกล กับคณะนักธุรกิจ

จากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S.-ASEAN Business Council : USABC) นำโดยนายไมเคิล มิคาลัค รองประธานกรรมการอาวุโสและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคของ USABC พร้อมด้วยผู้แทนจาก 12 บริษัทชั้นนำของสหรัฐฯในอุตสาหกรรมสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง การผลิต การเงิน ประกอบด้วย Abbott, Adobe, Amazon, Citi, Facebook, FedEx, Ford, Google, Johnson & Johnson, MSD, UL และ Visa เข้าร่วมการหารือ

ทั้งนี้ ไทยได้ใช้โอกาสนี้สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนสหรัฐฯเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดจนการดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาวบนฐานเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model และการดึงดูดการลงทุนเข้าสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขณะเดียวกัน ได้ยืนยันการให้ความสำคัญกับกติกาการค้าโลกที่โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่สร้างภาระแก่ภาคธุรกิจในการทำการค้า การขยายตลาดการค้าใหม่ๆ
ผ่านการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) การค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการส่งเสริมพาณิชยอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลในทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต


 

ส่วนภาคเอกชนสหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับไทยในการเสริมสร้างความสามารถด้านห่วงโซ่การผลิต การขนส่ง ระบบสาธารณสุข การท่องเที่ยว การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลแก่บุคลากรและผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เพื่อให้ไทยและอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่งและพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลต่อไป

ADVERTISEMENT

ปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย รองจากจีนและญี่ปุ่น โดยในช่วง 8 เดือนของปี 2564 (มกราคม-สิงหาคม) การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีมูลค่า 36,460 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.56% โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 26,884 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 20.56% สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 9,576 ล้านเหรียญสหรัฐลด 12.79% สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น น้ำมันดิบเคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น
#6250
"ซิซซ์เล่อร์" กางแผนลุยฟื้นยอดรับเปิดเมือง! มั่นใจดีมานด์ไตรมาส 4 ขยับ ดึงเมนูขึ้นชื่อเยอรมนี ปั้น "อ็อกโทเบอร์เฟสต์"ฉลองเตรียมรับนักเที่ยว พร้อมเดินหน้าขยายสาขา ปรับโมเดล 'ไดน์อิน-เดลิเวอรี่-พิคอัพ' สร้างประสบการณ์ใหม่ลูกค้า

หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการและคลาย 'ล็อกดาวน์' ทำให้ธุรกิจร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้เป็นปกติ ในช่วงเวลาที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุขและการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ผู้ประกอบการต่างใส่เกียร์เดินหน้าระดมทุกกลยุทธ์เร่งฟื้นธุรกิจและช่วงชิงยอดขายที่หล่นหายไประหว่างปีกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด! โดยเฉพาะ 'ร้านอาหาร' ซึ่งได้รับผลกระทบไม่น้อยจากมาตรการล็อกดาวน์ ต้องปิดร้าน จำกัดการให้บริการอยู่เป็นระยะ 

'กรีฑากร ศิริอัฐ' ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ 'ซิซซ์เล่อร์' กล่าวว่า กว่า 9 เดือนที่ผ่านมาของปี  2564 ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับความท้าทายของการให้บริการท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง! ทำให้ 'ธุรกิจร้านอาหาร' รวมทั้ง 'ซิซซ์เล่อร์' ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ ได้ขยายบริการเดลิเวอรี่ พร้อมพัฒนา 'เมนูใหม่'  รองรับการรับประทานที่หลากหลายมากขึ้น มีการขยายสาขาภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน เดลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน รวมทั้งการสร้าง "ซิซซ์เล่อร์คลาวด์คิทเช่น" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร

'กลยุทธ์หลักของซิซซ์เล่อร์คือการรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อมอบความหลากหลายในการรับประทานอาหารของผู้บริโภค ควบคู่กับสลัดบาร์เอกลักษณ์เฉพาะ ตลอดจนบรรยากาศของร้านที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย' 

'ซิซซ์เล่อร์'เร่งปลุกมู้ดไฮซีซันบูม'อ็อกโทเบอร์เฟสต์'ปั๊มยอดโต20%

อย่างไรก็ดี หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการโดยขยายเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-03.00 น. เชื่อว่าเป็นผลบวกต่อภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่จะได้ขยายเวลาให้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มตลาดจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายนี้เป็นช่วงเทศกาลขายที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจร้านอาหาร 

'ไฮซีซันเป็นช่วงการใช้จ่ายของผู้บริโภค และมีการแข่งขันสูง  ผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ ต่างอัดแคมเปญโปรโมชั่นเพื่อดึงลูกค้า'

สำหรับการทำตลาด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา 'ซิซซ์เล่อร์' พบว่ายอดเดลิเวอรี่มีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันจำนวนผู้บริโภคกลับมาใช้บริการที่ร้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย. หลังคลายล็อกดาวน์  ทำให้ภาพรวมมีการเติบโตราว 20% โดยเติบโตเป็น 2 เท่าจากต้นปี และเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤติเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

แนวโน้มตลาดปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น 'ซิซซ์เล่อร์' มุ่งเดินหน้าขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากที่สุด

โดยภายในสิ้นปี 2564 เตรียมเปิดสาขาเพิ่ม อาทิ เดอะมอลล์ ท่าพระ โรบินสัน สระบุรี โรบินสัน ฉะเชิงเทรา และเซ็นทรัล ศรีราชา ขณะเดียวกันมีสร้าง "ซิซซ์เล่อร์คลาวด์คิทเช่น"  หลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตร ประชาอุทิศ สุขาภิบาล3 และดอนเมือง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับอาหารอย่างรวดเร็วขึ้น

ปัจจุบัน ซิซซ์เล่อร์ เปิดให้บริการทั้งนั่งรับประทานในร้าน แบบเดลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน ทั้งหมด 53 สาขาทั่วประเทศ รวมถึง ซิซซ์เล่อร์ ทู โก 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ

 

'ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2564หากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ มั่นใจว่าสถานการณ์ของร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบกันมากขึ้น และมีอัตราการเติบโตดีขึ้นตามลำดับ"

 

ด้าน 'นงชนก สถานานนท์' ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด กล่าวเสริมว่า หลังจากภาครัฐได้คลายล็อกดาวน์ทำให้ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้เป็นปกติ อีกทั้งเป็นช่วงปลายปีที่ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครหลาย ๆ คน 'ซิซซ์เล่อร์' ในฐานะร้านอาหารที่มีจุดเด่นด้านการนั่งรับประทานที่ร้าน รวมถึงบริการและอาหารที่มีคุณภาพ จึงได้เปิดตัวเมนู "อ็อกโทเบอร์เฟสต์" (Oktoberfest) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเยอรมนีและเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มักจะจัดขึ้นในระหว่างช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี

ซิซซ์เล่อร์ได้รังสรรค์เมนูดังกล่าวขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคทุกกลุ่มในทุกสถานการณ์ โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต้นกำเนิดก็สามารถลิ้มลองรสชาติของอาหารสไตล์เยอรมันแท้ ๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองความสุขของเทศกาลดังกล่าวได้

โดยตั้งเป้าเมนู 'อ็อกโทเบอร์เฟสต์' จะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ 20%  เสริมการเติบโตภาพรวมยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปีได้เป็นอย่างดี

'ซิซซ์เล่อร์'เร่งปลุกมู้ดไฮซีซันบูม'อ็อกโทเบอร์เฟสต์'ปั๊มยอดโต20%

สำหรับ "อ็อกโทเบอร์เฟสต์" (Oktoberfest) ประกอบไปด้วยอาหาร 5 เมนู 5 สไตล์ด้วยกัน เริ่มต้นที่อาหารจานหลักขึ้นชื่อของเยอรมนีที่ทุกคนรู้จักกันดี ได้แก่ "ขาหมูทอดและไส้กรอกสไตล์เยอรมัน" (Pork Knuckle & Mixed Sausages) ขาหมูชิ้นใหญ่ทอดกรอบมาพร้อมไส้กรอกเยอรมัน สามารถแบ่งทานได้ เสิร์ฟพร้อมสลัดบาร์ 2 ท่านในราคา 799 บาท ตามมาด้วยเมนู "ฟิชแอนด์ชิปส์ ผสมเบียร์ สไตล์เยอรมัน" (Beer Battered Fish & Chips) เนื้อปลาชุบแป้งผสมเบียร์ทอดสไตล์เยอรมัน เสิร์ฟความอร่อยคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ในราคา299บาท

ส่วนใครชื่นชอบทานไส้กรอกอย่างเดียวต้องไม่พลาดเมนู "ไส้กรอกรวม สไตล์เยอรมัน" (Mixed Sausages & Roasted Potatoes with Bacon) ไส้กรอกเยอรมันนำเข้าชิ้นโตหลากหลายรสชาติ เสิร์ฟพร้อมสลัดมันฝรั่งสุดอร่อยที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเบคอนกรอบ ในราคา 459 บาท หากใครที่อยากทานสเต๊กก็มีเมนู "สเต๊กหมูทอด สไตล์เยอรมัน" (Pork Schnitzel) สเต๊กหมูชิ้นใหญ่สุดชุ่มฉ่ำที่ถูกนำไปทอดกรอบ เพิ่มรสชาติด้วยซอสสูตรเฉพาะซิซซ์เล่อร์และเห็ด ในราคา369บาท และเมนูทานเล่น "ยำไส้กรอกเยอรมัน" (Mixed Sausages Spicy Salad) ไส้กรอกเยอรมันที่ถูกนำมาผสมผสานกับยำในสไตล์ไทย ๆ ให้รสชาติเข้มข้นถึงใจให้ได้ทานรองท้องระหว่างรออาหารจานหลักมาเสิร์ฟในราคา199บาท

ทั้งนี้เมนู "อ็อกโทเบอร์เฟสต์" (Oktoberfest)พร้อมให้ทุกท่านมาสัมผัสรสชาติของอาหารสไตล์ตะวันตกขนานแท้ที่เต็มไปด้วยความอร่อยและสนุกสนานได้ที่ร้านซิซซ์เลอร์ทั่วประเทศ และแบบเดลิเวอรี่ (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

'ซิซซ์เล่อร์' เป็นร้านอาหารประเภทสเต๊ก ซีฟู้ด และสลัด สไตล์ตะวันตก มีสาขาอยู่ทั่วโลก โดยซิซซ์เล่อร์ ประเทศไทยได้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ จาก บริษัท คอลลินส์ ฟู้ด เมืองแอนเนอร์เลย์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดย บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้นำ "ซิซซ์เล่อร์" เข้ามาในประเทศไทยและเปิดสาขาแรกที่อาคารฟิฟฟ์ตี้ฟิฟฟ์ พลาซ่า (Fifty Fifth Plaza) สุขุมวิท55 (ปิดบริการแล้ว) ในปี 2535 และได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มี 54 สาขา มีบริการช่องทางเดลิเวอรี่ และมีแบรนด์น้องใหม่สไตล์ Grab & Goคือ ซิซซ์เล่อร์ทูโก 5 สาขา โดยทุกสาขาของซิซซ์เล่อร์ในประเทศไทย ดำเนินงานตามหลักการของซิซซ์เล่อร์ทั่วโลกที่มีมาตรฐานเดียวกัน โดยมีอาหารหลายชนิดให้เลือกทั้งสเต๊กเนื้อ ไก่ หมู อาหารทะเลทั้งทอดและย่าง รวมทั้งสลัดบาร์ เติมได้ไม่จำกัด พร้อมทั้งของหวานและผลไม้
#6251
ลูกอมพระแม่ธรณี

จัดสร้างจากดินใต้ฐานพระแม่ธรณี ผงมหาจักรพรรดิ และมวลสารอื่น ๆ ช่วยในเรื่องการขายบ้าน ขายที่ดิน
#6253
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 18  ตุลาคม 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/10) ที่ระดับ 33.40/42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (15/10) ที่ระดับ 33.30/32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่า หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน ก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือน ส.ค. นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือน ส.ค. การปรับตัวขึ้นของดัชนีราคานำเข้าในเดือน ก.ย.ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 9.2% ในเดือน ก.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 8.9% ในเดือน ส.ค. ส่วนดัชนีราคานำเข้าพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% ในเดือน ก.ย. หลังจากลดลง 0.1% เช่นกันในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.7% ในเดือน ก.ย. นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 16.3% หลังจากพุ่งขึ้น 16.8% ในเดือน ส.ค.โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.42–33.48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 33.46/48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/10) ที่ระดับ 1.1590/92 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (15/10) ที่ระดับ 1.1603/05 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า ตามการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยนักลงทุนจับตาดูอัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายนของยูโรโซน รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของฝรั่งเศส เยอรมนี และยูโรโซนที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1571–1.1605 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1580/82 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร


สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/3) ที่ระดับ 110.65/67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (30/3) ที่ระดับ 110.25/27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีงบการเงินปัจจุบัน หลังการปิดโรงงานหลายแห่งในเอเชียได้ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัว ซึ่งกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออก ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินเยนลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 114.01-114.46 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 114.38/40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ


ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.สหรัฐ (18/10), ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) สหรัฐ (18/10), การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ก.ย. (19/10), อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.ยูโรโซน (20/10), ดัชนีการผลิตเดือน ต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟียสหรัฐ  และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (21/10), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ต.ค.จากมาร์กิต ของฝรั่งเศส, เยอรมนี และยูโรโซน (22/10), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน ต.ค.จากมาร์กิต ของสหรัฐ (22/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่  0.80/1.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +2.00/+3.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
#6254
ขออนุญาตดันกระทู้ครับ

17/10/2021 part2

รีวิวบอท V.3 ระบบ Optimus + เงินจริง

ทำกำไรจาก 335.02$ เป็น 424.62 $
กำไร 89.6 $ หรือ 2,987.26 บาท ใน 145 นาที

ดูคลิปคลิกเลย!!
https://www.youtube.com/watch?v=FWMI3xxB0pg

- เงื่อนไขการขอรับบอทฟรี
- https://www.autobotfree.com

- เฟสบุคแฟนเพจ
- https://www.facebook.com/Binaryrooms

- ติดต่อสอบถาม Line : @autobotfree
- http://line.me/ti/p/@autobotfree
#6255
ลดกระหน่ำโควิด ขายบ้านเดี่ยว มณีรินทร์ 97วา 5.5ลบ. (บางคูวัด)ถนนเมน โทร 0837124115