• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#2841


วันนี้ (24 ส.ค.)  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกรุงเทพมหานครที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เป็นการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด กรุงเทพมหานครจึงได้จัดตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 50 เขต โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย พร้อมทั้งตั้งสายด่วนโควิด 50 เขต ซึ่งเป็นสายตรงถึง 50 สำนักงานเขต เขตละ 20 คู่สาย เพิ่มเติมจากสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาโดยเร็ว โดยมีเจ้าหน้าที่ กทม. คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 3-22 ส.ค. 64  สายด่วนโควิด 50 เขตได้ให้บริการประชาชนไปแล้ว 58,442 สาย เป็นสายจากกลุ่มเขตกรุงเทพใต้มากที่สุด 20,577 สาย รองลงมาคือ กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 11,938 สาย กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 9,570 สาย กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 6,670 สาย กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 4,846 สาย และกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง 4,841 สาย ตามลำดับ

ทั้งนี้ สายด่วนโควิด 50 เขต เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็วขึ้น อันจะเป็นการลดโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยผู้ป่วยหรือผู้ที่ดูแลสามารถโทรติดต่อสายด่วน 1330 หรือโทรแจ้งสำนักงานเขตในพื้นที่ที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อประสานความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ป่วยติดเชื้อผ่านทางสายด่วนโควิดเขต จะมีการประเมินอาการในเบื้องต้นและความพร้อมในการเข้ารับการรักษาตามระดับอาการ หากผู้ป่วยสามารถแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation (HI) ได้ เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำและขั้นตอนในการดูแล รวมถึงการจ่ายยาและมอบอุปกรณ์พยาบาลในเบื้องต้น หากผู้ป่วยไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ จะดำเนินการนำผู้ป่วยส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (community isolation : CI) โดยมีทีมแพทย์พยาบาลประเมินอาการ ให้ยารักษา และส่งต่อเข้ารับการรักษาตามอาการต่อไป

สำหรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจโควิด-19 จาก Antigen test หรือ RT- PCR สามารถโทรติดต่อสายด่วน 1330 หรือสายด่วนของสำนักงานเขต ซึ่งนอกจากการดำเนินการเกี่ยวกับระบบ HI และ CI แล้ว ยังประสานให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย โดยสายที่โทรเข้ามาที่สำนักงานเขต จะมีการบันทึกข้อมูลผู้ป่วยไปที่ระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่อให้ สปสช. เป็นผู้แจกจ่ายเคสให้กับทีมที่ต้องเข้าไปประเมินตามลักษณะอาการของผู้ป่วย ส่วนผู้ป่วยที่ต้องเข้าสู่ระบบ HI และ CI กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง จะเป็นผู้ดูแล ร่วมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น และคลินิกภาคเอกชนที่เป็นเครือข่าย

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากทม. ได้เร่งดำเนินการค้นหาผู้ป่วยที่ติดค้างในชุมชนต่าง ๆ เพื่อแยกผู้ติดเชื้อจากครอบครัวและชุมชน และลดการแพร่ระบาดโดยนอกเหนือจากเปิดจุดตรวจค้นหาเชื้อทั้ง 6 จุดใน 6 กลุ่มโซนแล้ว ยังได้ส่งทีม Bangkok CCRT เข้าไปในชุมชนต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-22 ส.ค. 64 แล้วทั้งสิ้น 3,190 ชุมชน มีผู้ได้รับบริการ 176,963 ราย ตรวจ ATK 42,091 ราย มีผลบวก 4,819 ราย พร้อมกันนี้ทีม Bangkok CCRT ยังได้ฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่ม 608 ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ 62,518 ราย ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง 58,566 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 287 ราย สำหรับผู้ป่วยที่เข้าระบบ Home Isolation แยกรักษาตัวที่บ้าน ยอดสะสม 89,369 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 33,408 ราย อาการทั่วไป 33,189 ราย และส่งต่อโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการ 219 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ส.ค.64)
 
#2842


ซัมซุง เปิดให้สั่งซื้อ Galaxy Z Fold3 | Filp3 5G ล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ ด้วยข้อเสนอจากโอเปอเรเตอร์ เริ่มต้นเดือนละ 1,790 บาท พร้อมรับคูปองเงินสดมูลค่าสูงสุด 6,000 บาท เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ซัมซุง และร้านค้าที่ร่วมรายการเพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม

โดย Galaxy Z Fold3 5G สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ครั้งแรกที่รองรับ S Pen ทำให้สามารถจดโน้ตขณะที่วิดีโอคอลได้ในเวลาเดียวกัน บนหน้าจอขนาดใหญ่ 7.6 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีกล้องซ่อนใต้จอ ทำให้ดูคอนเทนต์ได้เต็มอิ่มไม่มีจุดรบกวนสายตา

รวมถึงยังตอบโจทย์คนที่ชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกับการเปิดใช้งาน 3 แอปได้พร้อมกัน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาในดีไซน์ที่บางและเบาลง ถือใช้งานมือเดียวได้สะดวกขึ้น พร้อมมาใน 3 สีคลาสสิค อย่าง สีดำ Phantom Black สีเขียว Phantom Green และ สีเงิน Phantom Silver ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 57,900 บาท 
ส่วน Galaxy Z Flip3 5G สมาร์ทโฟนที่รวมฟังก์ชันและแฟชันมาไว้ในเครื่องเดียว มีให้เลือกถึง 4 สี ครีม ดำ เขียว ม่วง เมื่อพับแล้วมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก และยังมาพร้อมจอด้านนอกที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า ทำให้เช็คข้อความต่างๆ ได้ง่ายโดยไม่ต้องกางเครื่องออก พร้อมตั้งถ่ายภาพทั้งเซลฟี่และกรุ๊ปช็อตได้แบบแฮนด์ฟรี เหมือนมีขาตั้งกล้องส่วนตัว โดยมาในราคาเริ่มต้น 34,900 บาท

ผู้ที่ซื้อผ่าน Samsung.com นอกจากจะได้คูปองเงินสดแล้ว ยังสามารถเลือกผ่อนชำระ ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 15 เดือน เริ่มต้นเพียง 2,327 บาทต่อเดือน และยังได้รับ Samsung Care+ มูลค่า 7,089 บาท รวมประกันความเสียหายต่อตัวเครื่องอันเกิดจากอุบัติเหตุ (ประกันหน้าจอแตก เครื่องตกแตก และความเสียหายจากน้ำ) ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับเครื่องรวมถึงบริการส่งช่างเทคนิคถึงบ้าน ทำให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ

พิเศษ กับแคมเปญเก่าแลกใหม่ นำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามาประเมินราคาซื้อคืนได้ ในราคาเกรด A แม้สภาพไม่สมบูรณ์ ที่samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม 2,000 บาท จากราคาเครื่องเก่าปกติ เมื่อนำรุ่นที่ร่วมรายการมาแลก และยังนำเครื่องเก่ามาขายรวมกันสูงสุดได้ถึง 3 เครื่อง
#2843


นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรวมในประเทศเฉลี่ย 2 หมื่นคน/วัน และสถานการณ์จำนวนเตียง อุปกรณ์การแพทย์ รถพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย LPP ในฐานะผู้บริหารนิติบุคคลอาคารชุด ได้จัดตั้งโครงการ "Livable Community Isolation" รองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่ทวีจำนวนยิ่งขึ้น โดยให้ความดูแลและช่วยเหลือลูกบ้านในโครงการที่ LPP ดูแลกว่า 1.2 แสนครัวเรือน ใน 200 โครงการ ทั้งโครงการที่พัฒนาโดย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) และโครงการภายนอก หรือ Non-LPN ให้ก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ การจัดเตรียมโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบการแยกกักตัวรักษาที่บ้านสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรงหรือเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียวนี้ LPP ได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลความรู้และหลักปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยแบบ Home Isolation จาก พญ. นาฏ ฟองสมุทร ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ สภากาชาดไทย และกรรมการแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยการจัดสัมมนาออนไลน์ให้กับคณะกรรมการทุกนิติฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคลากรของ LPP เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในแนวทางดำเนินการของ "Livable Community Isolation" และเพื่อให้บุคลากรในทุกชุมชนมีความพร้อมสูงสุด

พญ.นาฎ กล่าวว่า เมื่อผู้ป่วยลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation ของภาครัฐแล้วจะมีแพทย์ให้การรักษาแบบ Telemedicine หรือผ่านอุปกรณ์การสื่อสาร โดยทีมแพทย์ผู้ดูแลจะมีการทำ VDO Call กับผู้ป่วยเพื่อติดตามอาการทุกวัน และจัดส่งอาหาร 3 มื้อ ยา และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ผู้ป่วย 

สำหรับมาตรการดูแลและช่วยเหลือผู้ป่วยที่ LPP จัดเตรียมให้ลูกบ้านผู้พักอาศัยภายในโครงการ ในรูปแบบการแยกกักตัวภายในห้องพักอาศัยนั้น จะมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยสถานพยาบาลต่าง ๆ ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าระบบการรักษาของรัฐตามโครงการ "Home Isolation" และจะติดตามดูแลรวมถึงให้การสนับสนุนช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ จนกว่าผู้ป่วยจะได้รับความปลอดภัย อุ่นใจ และพบว่าผลตรวจเป็น Negative

นางสาวสมศรี กล่าวเพิ่มเติมว่าในด้านการดำเนินการ LPPได้กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ของแต่ละนิติฯ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากหรือไม่แสดงอาการ (ผู้ป่วยสีเขียว) ภายใต้หลักการสำคัญ คือ การอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำTimeline ของผู้ป่วยย้อนหลัง7-14 วันเพื่อแจ้งเจ้าของร่วมหรือผู้พักอาศัยทุกท่านให้สังเกตอาการของตนเอง จัดส่งอาหาร ยา รวมทั้งสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดเตรียมแม่บ้านคอยจัดเก็บขยะเศษอาหาร ขยะติดเชื้อตามเวลาที่กำหนดทุกวันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงพร้อมช่วยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหากผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือรวมถึงการอำนวยความสะดวกหากผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์หรือหากผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงของโรคจากผู้ป่วยสีเขียวเป็นสีเหลืองฝ่ายจัดการจะประสานงานกับโรงพยาบาลเจ้าของไข้เพื่อให้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งผู้ป่วยและผู้อยู่อาศัยทุกท่าน
#2844


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 316 ล้านบาท ที่สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 รัฐนิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นการชิงชัยในวันสุดท้าย

กำหนดการเดิมการแข่งขันต้องจบลงตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้ต้องเลื่อนการดวลวงสวิงในวันที่สี่ ออกมาเป็นวันจันทร์

ปรากฎว่า โทนี ฟีนัว โปรกอล์ฟอเมริกัน กับ คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย จบสกอร์สี่วันเท่ากันที่ 20 อันเดอร์พาร์ ต้องมาเล่นเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะในหลุม 18 และสุดท้ายเป็น โทนี ฟีนัว ที่เอาชนะเพลย์ออฟไปได้ คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ทั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี และถือแชมป์อาชีพรายการที่ 3 ของ ก้านเหล็กวัย 31 ปี จากยูท่าห์ โดยเป็นแชมป์ระดับพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 2 ในชีวิต หลังจากเคยได้แชมป์ที่เปอร์โตริโก โอเพ่น เมื่อปี 2016

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ จอน ราห์ม จากสเปน เกือบจะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ แต่ดันมาออกโบกี้ในหลุมที่ 15 และ 18 ทำให้เขาจบที่ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3, จัสติน โธมัส จากสหรัฐฯ จบที่ 15 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วม, แซนเดอร์ ชัฟเฟล จากสหรัฐฯ จบที่ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 16 ร่วม, ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ จบที่ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 27 ร่วม, ไบรสัน เดอแชมบัว จากสหรัฐฯ จบที่ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 31 ร่วม
#2845


โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังหลายปัจจัยใน-นอกประเทศเอื้อ โดยคาดว่าวันนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์และ Domestic play น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องด้วย ส่วนหนึ่งมาจากการทำ Cover short ของนักลงทุนต่างชาติ

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดยุโรป และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกถ้วนหน้า หลังคลายกังวลการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมืองแจ็กสันโฮล ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ ตลาดรับรู้และปรับฐานไปแล้วระดับหนึ่ง

อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) จากเดิม ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดของการซื้อและการใช้งาน เชื่อว่าจะช่วยให้การติดเชื้อลดลงได้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในระยะสั้นช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนบ้านเราได้แรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติวานนี้พร้อมใจกันซื้อ อีกทั้งวันนี้คาดว่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมีจะขึ้นนำตลาด หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรงกว่า 5% มากสุดในรอบ 5 เดือน และหลังจากที่ได้ปรับตัวลง 7 วันติดต่อกันจากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมถึงค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นด้วย

อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในประเทศได้ลดลง ทำให้คาดการณ์ว่าในเดือน ก.ย.น่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บ้าง รวมถึงวันนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์และ Domestic play น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องด้วย ส่วนหนึ่งมาจากการทำ Cover short ของนักลงทุนต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ และการชุมนุมทางการเมือง รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และงานไทยแลนด์โฟกัส ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-27 ส.ค.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,600 จุด
#2846
 



บจก.เล็ทส์โกฟอร์อิท จัดจำหน่ายสินค้าพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม ชั้นยอด ไม่มีเกรดบีมาขาย เนื่องจากว่าเราเน้นการใช้งานหนักในอุตสาหกรรม





ผลิตภัณฑ์ของพวกเรามี ลังพลาสติกกระจายสินค้า ลังพลาสติกพับได้ ลังพลาสติกขนาดใหญ่ ลังพลาสติกซ้อนได้สวมได้ ลังพลาสติกซ้อนอย่างเดียว ลังพลาสติกใช้เป็นชุด กล่องพลาสติกใส่อะไหล่ ถังขยะพลาสติก พาเลทพลาสติก ถังหล่อพลาสติก กระเช้าช็อปปิ้งพลาสติก ถังน้ำพลาสติก ลังพลาสติกโปรงใส ถาดพลาสติก ถังเคมี





สนใจ กล่องอะไหล่พลาสติก พาเลทพลาสติก พลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม
ติดต่อสอบถาม
Call : 029548292-5, 0863354801
LineID : 0863354801
Email : jumbo.nopparat@gmail.com
#2847


สำหรับสังคมชาวจีน ดูเหมือนว่า การสืบทอดวงศ์ตระกูลนั้นแทบจะสำคัญที่สุดก็ว่าได้ กับครอบครัวทั่วไป การเริ่มต้นสร้างครอบครัวอาจต้องมีการรัดเข็มขัด มีความจุกจิกด้านการเงิน ในขณะที่มหาเศรษฐีมักจะส่งเสริมให้คู่สามีภรรยามีลูกเร็วๆ โดยใช้เงินสด เพชรพลอย ไม่ก็คฤหาสน์หรู เป็นเครื่องล่อใจลูกสะใภ้ โดยเฉพาะหากได้ทายาทเป็นลูกชาย ยิ่งสุดๆ ไปเลย

มาริโอ โฮ & หมิงซี



หลังจากลูกชายของเจ้าพ่อกาสิโน สแตนลีย์ โฮ อย่าง มาริโอ โฮ สมรสกับนางแบบสาวสวยชาวจีน หมิงซี ได้ไม่นาน พวกเขาก็ได้ทายาทเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ ซึ่งกลายเป็นหลานชายคนแรกของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง คิดดูสิว่า พวกเขาจะฉลองกันยิ่งใหญ่ขนาดไหน



เหลียงออนไค แม่ของมาริโอ รับขวัญหลานชายทันที ด้วยบ้านสุดหรูมองเห็นวิวอ่าวดีพวอเทอร์ในฮ่องกง มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

แจคกี เหิง & บีอา เฮย์เดน





ตอนที่ แจคกี เหิง นักแสดงฮ่องกง และ บีอา เฮย์เดน นักแสดงสาวไต้หวัน มีทายาทเป็นลูกสาวคนแรกในช่วงใกล้วันไหว้พระจันทร์ของปีที่ผ่านมา คุณย่ามหาเศรษฐี ทิฟฟานี เชง ก็ได้ซื้อแมนชันหรู ในย่านซินยี่ กรุงไทเป มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้ โดยทิฟฟานี ได้โชว์ภาพการตกแต่งที่เรีนบง่ายแต่น่าอยู่ให้กับเว่ยป๋อด้วย

เคนเนท ฟอค & กั๊วจิงจิง





หนึ่งในคู่แต่งงานที่มีงานแต่งที่หรูหราฟู่ฟ่าที่สุดในฮ่องกง ระหว่างนักธุรกิจหนุ่มกับแชมป์โอลิมปิคว่ายน้ำหญิง 4 สมัย ได้ของรับขวัญลูกคนแรกเป็นคฤหาสน์หลังโต เป็นบ้าน 3 ชั้นติดถนนบีชโร้ด ในย่านรีพัลส์เบย์ มูลค่า 160 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยคุณปู่ทิโมที ฟอค เป็นคนซื้อ

ลีกาชิง & เคที ฉุ่ย



หรูหราที่สุดคงไม่มีใครเกิดสะใภ้บ้านนี้ โดยหลังจากที่ เคที ฉุ่ย นักแสดงค่ายทีวีบี ได้มีทายาทให้ครอบครัวของ "เจ็กสี่" ลีเชากี นักธุรกิจใหญ่ชาวฮ่องกง ลูกของเธอก็ได้ที่ดินรับขวัญมูลค่า 18,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ที่สร้างแมนชันบนพื้นที่ได้ถึง 3 หลัง -- นี่ขนาดว่าได้ลูกสาวนะจ๊ะ หนังสือพิมพ์โอเรียนทัล เดลีนิวส์ ยังรายงานว่า เคที ยังได้รับเรือยอชต์ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ สำหรับทุกๆ สมาชิกใหม่ที่ลืมตาดูโลกอีกด้วย
#2848


ครั้งแรกกับกีฬาสีรูปแบบใหม่ ยกขบวนมาทั้งค่ายกับ "War Y league" (วอร์ วาย ลีก) เชียร์ ชิป ชิง แชมป์ เมื่อ TikTok Live ร่วมกับ Star Hunter Entertainment สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญบนหน้าจอมือถือ PK Live Match เปิดศึกท้าดวลกัน 9 คู่ 9 วันรวด พร้อมวัน Final ชี้ชะตาอีก 1 วัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เพราะศึกนี้ต้องมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น! การแข่งขันที่คุณจะเป็นผู้ตัดสิน มาเชียร์คู่ที่คุณชิป ให้ได้เข้าไปชิงแชมป์ เริ่มเปิดศึกครั้งแรกวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคมนี้! เวลา 18.00 น. ทาง TikTok ของศิลปินที่แข่งขันเท่านั้น!

รูปแบบการแข่งขันของ 18 ศิลปินจาก Star Hunter Entertainment จะแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมสีฟ้า นำทีมโดย เต๋า - เศรษฐพงศ์, คิมม่อน - วโรดม, เจมส์ - กษม, แบงค์ - ธรณินทร์, แบงก์ - ธนาธิป, เฟอร์กี้ - ภวฤทธ์, จูเนียร์ - รณกร, ตั๋ง - วีรพงษ์, ดุล ร่มจำปา ด้าน ทีมสีชมพู นำทีมโดย บาส - สุรเดช, คอปเตอร์ - ภานุวัฒน์, บิ๊ก - ธนกร, ภณ - ธนภณ, โบนัส - ธนเดช, เจ็ท - เจษฎากร, แบงค์ - ธีวรา, กาด พลอยสุภา, ISBANKY โดยตัวแทนของแต่ละสี จะแข่งขันบน TikTok Live ด้วยการ PK นับคะแนนจากยอด PK ผู้ชนะต้องมียอด PK สูงกว่า 2 ใน 3 เกมส์ ผู้ชนะจะได้รับเหรียญรางวัล War Y League และผู้ที่มียอด PK สูงที่สุดในแต่ละสี จะพบกันใน Final Round เพื่อชิงถ้วยรางวัล War Y League

คิมม่อน - วโรดม ตัวแทนสีฟ้า ส่งสารเปิดศึกครั้งนี้ว่า ... "ยอมไม่ได้ครับ ศึก "War Y league" ครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก ผมและทีมสีฟ้าฝึกปรือวิทยายุทธหนักมาก ไม่พูดเยอะครับ เอาเป็นว่าแชมป์ต้องอยู่ในกำมือของผมและสีฟ้า"

คอปเตอร์ - ภานุวัฒน์ ตัวแทนสีชมพู ไม่รอช้า! รับคำท้าทันที ... "ของจริงอยู่ทีมสีชมพูครับ ศักดิ์ศรีค้ำคอ พวกเราสู้ไม่ถอย งานนี้หาปี๊บไว้ให้ทีมสีฟ้าแทนเหรียญรางวัล "War Y League" แล้วครับ"

ร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วยการส่งของขวัญให้กับคนที่คุณชอบได้ไปชิงเเชมป์ในรอบ Final พิเศษสำหรับ Top Spender ร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมาย อาทิ เหรียญ War Y League, War Y Headband, TikTok Gift box, Exclusive Video Call

เคลียร์ทุกคิวให้ว่าง เตรียมตัวให้พร้อม จะเชียร์ทีมไหนเลือกเลย!

สามารถติดตามรายละเอียดการส่งของขวัญ และ Top Spender ผ่านช่องทาง Star Hunter Official
#TikTokLivexStarHunterWarY
#StarHunterEntertainment
#2849
ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์    ข้าวออแกนิคสำหรับทารกส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




 ข้าวหอมมะลิสุขภาพข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงorganic เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22cs9b8acu9b9a7a3hub5cc1c.life/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิค จ.สุรินทร์
5. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก6.ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 
 
#2850


นายอาคม เติมไพสิฐพิทยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงข้อเสนอของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาทเพื่อเยียวยาโควิด-19และดูแลเศรษฐกิจหลังจบโควิด-19ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการกู้เงินเพิ่มดังกล่าวตามที่ธปท.เสนอมา เนื่องจาก ขณะนี้ยังมีเม็ดเงินที่ยังสามารถใช้บริหารจัดการในช่วงสถานการณ์โควิด-19ได้จากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ซึ่งยังเพียงพอต่อการเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้

ส่วนวงเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะใช้ดูแลเยียวยาและเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 ได้จนถึงปีหน้าหรือไม่นั้น จะต้องดูแผนการใช้เงินของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ที่กำหนดไว้ก่อนรวมถึง แผนดูแลประชาชนกรณีที่สถานการณ์โควิด-19 ลากยาวด้วย


สำหรับข้อเสนอเรื่องกองทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องผู้ประกอบการท่องเที่ยว จำนวน 1 หมื่นล้านบาทนั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังไม่ได้เข้ามาหารือกับตนแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันวงเงินกู้เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มีการอนุมัติไปแล้วกว่า 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การช่วยเหลือเรื่องการศึกษา 3.2 หมื่นล้านบาท และเยียวยาแรงงานในพื้นที่ล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา จำนวน 3 หมื่นล้านบาท
#2851


ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการบริหารทุน วว. และ กรรมการ ปณท. เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่าง ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) มุ่งศึกษา วิจัย พัฒนา นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าทุกรูปแบบ ผ่านช่องทางของไปรษณีย์ไทย ให้มีความแข็งแรง ทนทาน ได้มาตรฐาน ป้องกันความเสียหายของสินค้า ช่วยลดต้นทุนและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้รับสินค้า พร้อมรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งเป็นการเสริมแกร่ง เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย / ขนส่งสินค้า ให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน SMEs ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อย่างเข้มแข็ง ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี โอกาสนี้ ดร.พัชรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. และ ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม วว. ร่วมเป็นเกียรติด้วย ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา บริการวิเคราะห์ทดสอบ ด้านวิทยาศาสตร์และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่สากล รวมทั้งสร้างนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการเข้าไปตอบโจทย์แก้ปัญหา รวมทั้งสร้างโอกาสผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง สอดคล้องกับบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดำเนินงานร่วมกับ วว. มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือทั้งสองหน่วยงานมุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ขนส่งผ่านช่องทางไปรษณีย์ ดังนี้ 1.บรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรง ได้มาตรฐาน ช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้า และมีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในการตลาดยุคอีคอมเมิร์ซ 2.บรรจุผลิตภัณฑ์ที่เสื่อมสภาพได้ง่าย หรือต้องการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ไม้ดอกไม้ประดับ ยา เวชภัณฑ์ และปลาสวยงาม เป็นต้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจัดส่งในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม และ 3.การพัฒนามาตรฐานการใช้งานบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางไปรษณีย์ในประเทศ

นอกจากนี้จะมีการใช้ศักยภาพของหน่วยงานในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายหรือขนส่งสินค้านวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ ให้กับผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SMEs ในเครือข่ายของทั้งสองหน่วยงาน ตลอดจนการส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าที่ ปณท วว. หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นที่เป็นพันธมิตรของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และอำนวยความสะดวกในการให้บริการ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบกิจการและการขยายกิจการของธุรกิจไทยด้วย

"วว. และ ปณท. จะดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ 2 ปี โดยมุ่งผลิตผลงานให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ช่วยเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบไทย ทั้งนี้ วว. โดย ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย เป็นหน่วยงานกลางของชาติด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์มาตรฐาน ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลระดับนานาชาติ เพื่อช่วยรักษาคุณภาพสินค้า ลดความสูญเสียของสินค้าจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออก ตลอดจนส่งเสริมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป เพื่อยกระดับมาตรฐานการบรรจุหีบห่อของประเทศ วว. พัฒนาบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีบทบาทในตลาดอีคอมเมิร์ซ และจะช่วยเสริมให้การดำเนินงานร่วมกันของ 2 หน่วยงานเข้มแข็งยิ่งขึ้น อาทิ กล่องขนส่งมะม่วงสำหรับจำหน่ายออนไลน์ขนาดบรรจุกล่องละ 5 กิโลกรัม กล่องเก็บกลิ่นทุเรียนล็อคกลิ่นได้ 100% กล่องบรรจุต้นไม้ ขนาด 20 x 20 x 50 ซม. เป็นต้น ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร สร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทย พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอล" ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กล่าวถึงภารกิจหลักของไปรษณีย์ไทย ในการให้บริการด้านการขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญในการนำส่งพัสดุ สิ่งของ สินค้าต่างๆ ให้ถึงมือผู้รับครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากศักยภาพด้านการขนส่ง ไปรษณีย์ไทยยังให้ความสำคัญเรื่องของบรรจุภัณฑ์มาโดยตลอด ได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับขนส่งต้นไม้ ผลไม้ตามฤดูกาล หรือปลาสวยงาม เป็นต้น เพื่อรองรับการขนส่งให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสื่อมสภาพของสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน ด้วยราคาคุ้มค่า คุ้มต้นทุน ช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าออนไลน์ ได้เติบโตขึ้น


ครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้จับมือกับหน่วยงานที่แข็งแกร่งในด้านงานวิจัยและการพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และถ่ายทอดเทคโนโลยี อย่าง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น ไม้ดอก ไม้ประดับ หรือ ยา เวชภัณฑ์ต่างๆ ที่มีความจำเป็นและมีปริมาณการส่งจำนวนมากขึ้นในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะนี้ โดยเราคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นหลัก จึงได้มุ่งเน้นที่จะออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับการใช้งานให้มากที่สุด เพื่อช่วยคงสภาพสิ่งของในระหว่างการนำส่งให้มีความปลอดภัย รวมทั้งลดต้นทุนของผู้ส่งซึ่งส่วนใหญ่
#2852


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนสำหรับบริษัทต่างประเทศ ((Foreign Listing)  ถึงวันที่ 3 ก.ย. 2564 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนสำหรับบริษัทต่างประเทศ (Foreign Listing)  ถึงวันที่ 3 ก.ย. 2564 

 ทั้งนี้ตลท.มีนโยบายที่จะพัฒนาการเชื่อมโยงด้านตลาดทุนของประเทศไทยกับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมบทบาทของตลาดทุนไทยในการเป็นฐานการระดมทุนของภูมิภาค (Regional Exchange) โดยปัจจุบัน มีหลักเกณฑ์รองรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับบริษัทต่างประเทศใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 

1. Primary Listing หรือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแห่งแรก 

 2. Secondary Listing หรือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ภายหลังจากที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Home Exchange) ที่ตั้งอยู่ในประเทศที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อประเทศที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยอมรับ (Recognized Market) ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวเมื่อปี 2558

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทบทวนและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงความเหมาะสมของหลักเกณฑ์นี้ ซึ่งได้รับความเห็นว่าหลักเกณฑ์ส่วนใหญ่มีความเหมาะสมแล้ว อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ควรทบทวนและพิจารณาปรับปรุง ดังนี้

กรณี Primary Listing: ปัจจุบันตลท.กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนสำหรับบริษัทต่างประเทศที่จะเข้าจดทะเบียนแบบ Primary Listing จะต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับบริษัทไทย ยกเว้นระยะเวลาในการห้ามผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร1 และผู้ถือหุ้นขายหุ้น (Silent Period) ที่กำหนดระยะเวลาไว้นานกว่ากรณีของบริษัทไทย

ในกรณีนี้ มีผู้ให้ข้อเสนอแนะว่า หลักเกณฑ์การกำกับดูแลบริษัทต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนแบบ Primary Listing ไม่ควรมีความแตกต่างจากหลักเกณฑ์ที่ใช้กับบริษัทไทย ซึ่งรวมถึงระยะเวลา Silent Period ด้วย

กรณี Secondary Listing: ปัจจุบันตลท. กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนสาหรับบริษัทต่างประเทศที่จะเข้าจดทะเบียนแบบ Secondary Listing ที่ผ่อนคลายกว่าบริษัทไทย เนื่องจากเป็นบริษัทต่างประเทศที่ได้ผ่านการคัดกรองจาก Home Exchange ที่เป็น Recognized Market แล้ว

ในกรณีนี้ มีผู้ให้ข้อเสนอแนะว่า แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV2 จะไม่ใช่ Recognized Market แต่ตลท. ควรจะพิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์บางประการสำหรับบริษัทต่างประเทศที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV แล้ว และประสงค์จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น คุณสมบัติในส่วนของการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน เนื่องจากมีการเสนอขายหุ้นในกลุ่มประเทศ CLMV แล้ว เป็นต้น 

ตลท.ได้พิจารณาข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้นแล้วเห็นว่า ควรมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ตามที่มีผู้ให้ข้อเสนอแนะ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลท.และลดอุปสรรคในการเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างประเทศ (โดยเฉพาะบริษัทต่างประเทศที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มประเทศ CLMV แล้ว) ซึ่งจะช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกสรรได้ตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง ประกอบกับปัจจุบันผู้ลงทุนมีความคุ้นเคยและเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศมากขึ้น

โดยบริษัทต่างประเทศยังคงต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อจากัดของการบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศของบริษัทต่างประเทศดังกล่าว ทั้งนี้ตลท.จะกำหนดชื่อย่อท้ายหลักทรัพย์ของบริษัทต่างประเทศดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก่ผู้ลงทุนอีกทางหนึ่งด้วย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทต่างประเทศ และสนับสนุนนโยบายการเป็น Regional Exchange โดยท่านสามารถให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2564 

สำหรับประเด็นในการรับฟังความคิดเห็นดังนี้ 

1. การปรับลดระยะเวลา Silent Period สาหรับบริษัทต่างประเทศที่จะเข้าจดทะเบียนแบบ Primary Listing โดยอาศัยคุณสมบัติในเรื่องผลการดาเนินงานตามเกณฑ์กาไร (profit test) เป็น 1 ปี (เมื่อครบ 6 เดือนแล้ว สามารถขายได้ 25%) เพื่อให้เท่ากับระยะเวลา Silent Period สำหรับบริษัทไทย ซึ่งเป็นหลักการที่สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ    

ทั้งนี้ สำหรับบริษัทต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนด้วยหลักเกณฑ์สาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure Company) จะยังมีกำหนดระยะเวลา Silent Period เป็น 3 ปี (เมื่อครบ 1 ปีแล้วสามารถทยอยขายได้ 20% ทุก 6 เดือน) คงเดิมเช่นเดียวกับบริษัทไทยที่เข้าจดทะเบียนด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าว   

 สำหรับเกณฑ์ปัจจุบันคือ กำหนดระยะเวลา Silent Period ไว้ 3 ปี (เมื่อครบ 1 ปี แล้วสามารถทยอยขายได้ 20% ทุก 6 เดือน) เนื่องจากบริษัทต่างประเทศมีการประกอบธุรกิจหลัก และมีผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารอยู่ในต่างประเทศ  เพื่อให้บุคคลดังกล่าวยังคงถือหุ้นของบริษัทต่อไปภายหลังการเข้าจดทะเบียน ซึ่งกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเป็นกำหนดเวลาที่นานกว่ากาหนดระยะเวลา Silent Period สำหรับบริษัทไทยที่กาหนดไว้ 1 ปี (เมื่อครบ 6 เดือนแล้ว สามารถขายได้ 25%)  

   อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค เช่น Singapore Exchange (SGX), Bursa Malaysia และ Hong Kong Exchanges (HKEX) พบว่า การกำหนดระยะเวลา Silent Period ของบริษัทต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนแบบ Primary Listing ไม่แตกต่างจากที่กำหนดสำหรับบริษัทที่จัดตั้งในประเทศนั้น ๆ (Local Company)

2. การปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญของบริษัทต่างประเทศที่มีหุ้นสามัญจดทะเบียนอยู่ใน Home Exchange ที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV แล้ว เนื่องจากบริษัทต่างประเทศดังกล่าวมีการระดมทุนและจดทะเบียนใน Home Exchange แล้ว จึงเสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังต่อไปนี้ ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์สาหรับบริษัทต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนแบบ Secondary Listing

1. ยกเว้นคุณสมบัติเรื่องการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (PO)

2. ยกเว้นคุณสมบัติเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) เมื่อบริษัทแสดงได้ว่าหุ้นจะมีการซื้อขายและมีสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณีประกอบกัน ดังนี้

2.1 มีการเสนอขาย PO ในประเทศไทยโดยมีมูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Capitalization) ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท หรือ 5% ของทุนชาระแล้ว แล้วแต่จานวนใดจะต่ากว่า

2.2 มีการนาหุ้นมาฝากไว้ที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จากัด (TSD) โดยหุ้นที่นามาฝากมี Market Capitalization ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท หรือ 5% ของทุนชาระแล้ว แล้วแต่จานวนใดจะต่ากว่า2.3 แสดงให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นได้ว่าหุ้นจะมีการซื้อขายและมีสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ฯ

3. ยกเว้นหลักเกณฑ์ Silent Period และให้บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ Home Exchange กำหนด


โดยหลักเกณฑ์ปัจจุบัน กำหนดให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สาหรับบริษัทต่างประเทศที่เข้าจดทะเบียนแบบ Primary Listing เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV ไม่ใช่ Recognized Market ตามที่ ก.ล.ต. กาหนด รวมถึงจะต้องมีการกระจายการถือหุ้น โดย (1) มีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (PO) ขั้นต่าในสัดส่วน 10% - 15% ของทุนชาระแล้ว และ (2) มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย และต้องถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 25% ของทุนชาระแล้ว
#2853


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 66.57 จุด หรือ 0.19% ปิดที่34,894.12 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.53 จุดหรือ 0.13% ปิดที่ 4,405.8 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 15.87 จุดหรือ 0.11% ปิดที่ 14,541.79 จุด


หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างร่วงลงในการซื้อขายวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงเกือบ 4%

ทั้งนี้ รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้

ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดควรทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินคิวอี และเริ่มทำการปรับลดคิวอีในเดือนต.ค.

คำกล่าวของนายแคปแลนสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ที่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอี ภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ขณะที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด กล่าวเช่นกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว


นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 เหลือ 5.5% จากเดิมที่ระดับ 9% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไร้ทิศทางในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกต่ำสุดรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ
#2854


นายธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด (MDPC) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 64 เป็นต้นมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 และระลอก 3 ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อเช่า ทยอยได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคอนโดเพื่อเช่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/64 มีผู้สนใจเข้ามาสอบถามห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ขณะที่ในไตรมาส 2/64 จำนวนผู้ที่สนใจเข้ามาสอบถามห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63

จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจเช่าห้องชุดมากขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนทำเลและพฤติกรรมในการพักอาศัย เช่น เดิมผู้เช่าสนใจห้อง 1 ห้องนอน ขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม. ที่เน้นพื้นที่ภายในห้องนอนมากกว่าพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ แต่ปัจจุบันผู้เช่ามองหาห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43-60 ตร.ม. ที่เน้นประโยชน์จากการใช้ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่า พื้นที่ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำงานแบบ Work From Home หรือปรับเป็นพื้นที่ในการออกกำลังกายได้ รวมทั้งต้องการพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องพัก

นายธนา กล่าวว่า แม้พฤติกรรมการหาห้องชุดเพื่อเช่าจะเปลี่ยนไป แต่ผู้เช่ายังให้ความสำคัญกับเรื่องของ ทำเล โดยยังคงมองหาห้องชุดในทำเลกลางใจเมือง มีระบบการเดินทางที่สะดวกสบาย และใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ช้อปปิ้งมอลล์ สำหรับทำเลที่ผู้เช่าให้ความสนใจและมีอัตราการเช่าเติบโตอย่างต่อเนื่องคือ ทำสุขุมวิทตอนกลางถึงตอนปลาย ลาดพร้าว-พหลโยธิน

โดยทำเลย่านสุขุมวิทตอนกลาง เริ่มตั้งแต่แยกอโศกไปถึงสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง พบว่า มีความหลากหลายของการใช้ชีวิตมากที่สุด โดยเฉพาะ "ทองหล่อ-เอกมัย" เพราะเป็นทำเลที่มีปัจจัยหนุนเอื้อต่อการเติบโตในอนาคตอ อาทิ เป็นทำเลยอดนิยมในการพักอาศัยชาวต่างชาติ เพราะมีระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อครอบคลุมช่วยเสริมศักยภาพพื้นที่ ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการเช่าในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 40 % โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าชาวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% และมีอัตราค่าเช่าห้องชุดขนาดประมาณ 40-60 ตร.ม. เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพื่อปล่อยเช่าจำนวนมาก โดยมีอัตรา Rental Yield เฉลี่ย อยู่ที่ 4-6% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ในทำเลสุขุมวิท

ส่วนทำเลสุขุมวิทตอนปลาย ที่เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงไปจนถึงสถานีแบริ่งนั้นเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนวัยทำงาน หรือ First Jobber อย่างมาก โดยมีสัดส่วนการเช่าสูงถึง 50% จากกลุ่มผู้เช่าทั้งหมด เนื่องจากราคาปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมาก ห้องชุดขนาดประมาณ 40-60 ตร.ม. จะมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ. 24,000 บาทต่อเดือน

สำหรับทำเลย่านลาดพร้าว – พหลโยธิน ถือเป็นอีหนึ่งทำเลที่มีอัตราการเติบโตของตลาดเช่าค่อนข้างดี เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายใหม่อย่างสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต) ส่งผลให้มีประชากรในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพื้นที่อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ สถานศึกษา ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้ตลาดเช่ามีอัตราการเติบโตในอนาคต โดยปัจจุบันราคาค่าเช่าเฉลี่ยในพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาทต่อเดือน โดยกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน นักศึกษา สำหรับอัตราผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่า เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5%
#2855


สมาคมมีเดียฯ ปรับการคาดการณ์งบประมาณการใช้สื่อตลอดปี 2564 จะกลับไปติดลบอีก 2.7% ลดลงต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ จากผลกระทบโดยตรงของการระบาดระลอกใหม่ที่มียอดคนติดเชื้อ Covid-19 เฉลียแตะวันละ 2 หมื่นคน โดยมีภาพรวมการใช้สื่ออยู่ที่ 101,738 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ ดร. ธราภุช จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยคนใหม่ (Media Agency Association of Thailand : MAAT) เปิดเผยถึงปัจจัยลบที่จะส่งผลให้ตัวเลขการใช้สื่อโฆษณาลดลงจากที่สมาคมฯ เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นบวกจากงบการใช้สื่อในครึ่งปีแรกที่มีภาพบวกกว่า 5.2% โดยมีการคาดการณ์ปีนี้ว่าภาพรวมจะถดถอยลงไปไม่มากที่ 2.7% เทียบจากปีที่แล้วว่า "ภาพรวมสถานการณ์การระบาดระลอกล่าสุด ของ COVID-19 จะส่งผลกระทบที่ค่อนข้างชัดเจนในไตรมาส 3 และต่อเนื่องไปถึงต้นไตรมาสที่ 4 ที่เศรษฐกิจยังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าจนโรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับคนป่วยที่ติดเชื้อใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งมาตรการควบคุมการระบาดที่จะต้องเข้มงวดขึ้น ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักมากขึ้น อีกทั้งการระบาดที่เริ่มแผ่ลามถึงภาคการผลิตและภาคบริการ ทำให้มีผลกระทบมาที่ทุกมีเดียเอเจนซี่ ที่ต้องมีการปรับแผนงานช่วยเหลือให้ลูกค้าเจ้าของสินค้าและบริการตามสถานการณ์ ปัญหาใหญ่จะอยู่ที่การควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศให้ลดลงโดยเร็ว ด้วยการร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนออกมาทำโรงพยาบาลสนามมากขึ้น ตลอดจนการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถค่อยๆ กลับมาดำเนินต่อได้มากขึ้นใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาด"

นางสาวกนกกาญจน์ ประจงแสงศรี ที่ปรึกษาสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เสริมว่า "เมื่อพิจารณางบประมาณการใช้สื่อในปี 2564 ประกอบกับภาพการระบาดอย่างต่อเนื่องของสายพันธุ์เดลต้า สื่อโฆษณาที่แทบทุกสื่อจะอยู่ในสภาพลบต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เป็นไปตามผลกระทบของ CODIV-19 ที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค มาตรการเพื่อความปลอดภัย ที่ส่งผลให้ สื่อหลักอย่างสื่อโทรทัศน์ (รวมเคเบิ้ลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) ลดลงเพียงเล็กน้อยแค่ 3% สื่อกลางแจ้ง (Outdoor) ลดลงใกล้เคียงกันที่ 4% ในขณะที่สื่อโรงภาพยนต์ (Cinema) ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีแล้วอีก 26% รวมถึงสื่อเคลื่อนที่ (Transit) ที่ลดลง 18% และสื่อนิตยสาร (Magazine) 16% จากมาตรการล็อกดาวน์และนโยบายเวิร์คฟรอมโฮม ในขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ จะยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก 14% และสื่อ ณ จุดขาย (In-Store) ที่จะกลับเป็นบวกที่ 4%



นางสาวกนกกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ปัจจัยที่มีผลต่ออุตสาหกรรมโฆษณาปี 2564 โดยตรงคือ GDP ที่เติบโตแค่ 0.7% ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องการใช้จ่ายของประชาชนและธุรกิจโดยรวมถึงแม้จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐต่างๆ และการใช้สื่อของนักการตลาดที่จะต้องมีความหลากหลายในการเลือกใช้กลยุทธเพื่อเข้าถึงการใช้ชีวิตแบบ new normal ของผู้บริโภค ประกอบกับการวัดผลของนักการตลาดที่หลากหลายมิติมากขึ้นในทุกแพลตฟอร์มโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการใช้โซเชียลคอมเมอร์สให้เป็นประโยชน์กับกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนี้"

นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้ประเมินการขยายตัวของค่าสื่อ (Media Inflation) ในครึ่งปีหลังของปี 2564 ค่าสื่อส่วนใหญ่ยังคงราคาไว้ที่ราคาเดิม จะมีเพียงสื่อโทรทัศน์โดยรวม ที่จะการปรับขึ้นประมาณ 3.6% ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์จะลดลงไปอีก 4%



ดร. ธราภุช ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า "ถึงแม้ปี 2564 จะเป็นอีกปีที่ทุกธุรกิจยังจะต้องดำเนินต่อไปด้วยความลำบาก ที่ต้องเผชิญปัญหาที่ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั่วโลก และทุกอุตสาหกรรม แต่เราต้องมองปัญหาในมุมใหม่เพื่อเป็นโจทย์ความท้าทายที่ นักการตลาด นักวางแผนสื่อ ที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวด้วยกลยุทธใหม่ๆ ที่เฉียบคม ด้วยความเข้าใจในผู้บริโภคและการวางแผนสื่ออย่างแยบยล บริหารจัดการเม็ดเงินที่มีให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและคุ้มค่า ความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ในยุค new normal ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ทุกคนทั้งนักการตลาด และเอเจนซี่ต้องให้ความสำคัญของผู้บริโภคมาก่อน ถ้าผู้บริโภคอยู่ได้ แบรนด์ ธุรกิจ สื่อและเอเจนซี่ก็จะอยู่ได้ ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ"
#2856
เรียกได้ว่าในชีวิตประจำวันนั้น น้ำดื่มถือเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ร่างกานคนเราต้องการน้ำดื่มอย่างน้อย 1.5 ลิตรต่อวันหรือคิดตามน้ำหนักตัว โดยน้ำดื่มที่ร่างกายได้รับจะต้องเป็นน้ำดื่มที่สะอาดไม่มีสารเจือปน ดังนั้นอีกหนึ่งอุปกรณ์ยอดนิยมที่ถูกมาใช้เพื่อให้น้ำดื่มสะอาดขึ้นก็คือ เครื่องกรองน้ำซึ่งมีราคาไม่แพงสามารถนำมาใช้งานได้ทั้งน้ำดื่มและน้ำใช้ ท่านสามารถตัดสินใจได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ลักษณะการใช้งานต้องเหมาะสม

องจำแนกให้ออกก่อนว่ามีเครื่องกรองน้ำอยู่ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำดื่ม และ เครื่องกรองน้ำใช้ ซึ่งส่วนประกอบของอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้แก่ ไส้กรอง โดยสำหรับน้ำปะปาหรือน้ำใช้นั้นจะใช้วิธีกรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อแยกแร่ธาตุและสิ่งสกปรกที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้านออกไปโดยมักจะใช้ในลักษณะที่คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี ส่วนสำหรับน้ำดื่มนั้นมักมีการใช้ไส้กรองหลายชั้นเพื่อคัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรกได้อย่างละเอียด บางรุ่นมีคุณสมบัติที่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียอื่น ๆ วิธีใช้คือต่อเข้ากับน้ำประปาเพื่อกรองน้ำดื่มภายในบ้านและครัวเรือนได้เลย

2. เปรียบเทียบราคาของแต่ละรุ่น

ในตลาดนั้นมีให้เลือกหลายรุ่นมาก ๆ ซึ่งคุณภาพของการใช้งานก็จะแตกต่างกันไปตามเรทราคา ยิ่งมีคุณภาพสูง มีระบบกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย จุลินทรีย์ รวมไปถึงหากใช้ไส้กรองประสิทธิภาพสูงที่มีมากมายหลากหลายชั้น ก็ยิ่งทำให้มีราคาแพงมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นควรคำนึงถึงประสิทธิภาพที่คุณต้องการ เช่น หากอยากให้กรองครั้งเดียวจบก็อาจลงทุนซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด หรือหากมีงบจำกัด ก็อาจจะซื้อรุ่นถูกลงมาแต่ต้องต้มน้ำเพื่อให้น้ำสะอาดอีกชั้นหนึ่งด้วยตัวของท่านเอง เป็นต้น

3. คุณภาพและประสิทธิภาพที่ผ่านมาตรฐาน

ต้องเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี ไม่แตกหักหรือเสียง่าย สามารถใช้งานได้ในระยะยาวและมีความคุ้มค่าคงทน โดยเฉพาะเรื่องของฉลาด มอก. นั้นต้องห้ามพลาดที่จะพินิจพิจารณาเลยทีเดียว เพราะสำหรับ มาตรฐาน มอก. นั้นเป็นเครื่องการันตีได้ว่าท่านจะได้รับของที่มีคุณภาพสูง ผ่านมาตรฐานต่าง ๆ อย่างครบถ้วน เป็นของใหม่ ไม่มีวัสดุหรือสารเจือปน รวมถึงสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้อย่างปลอดภัยดังที่กล่าวมาข้างต้นการเลือกซื้อ เครื่องกรองน้ำนั้น ต้องดูอย่างละเอียถี่ถ้วนรวมถึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของท่านด้วย เช่น สำหรับน้ำดื่มหรือสำหรับน้ำใช้ เพื่อให้ร่างกายของท่านได้รับน้ำที่สะอาดในการอุปโภคบริโภค และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปได้
#2857


นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน6 เดือนแรกปี 2564  มีกำไรสุทธิ183.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191.74%  และมีรายได้ 826.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

สาเหตุหลักมาจากในปีนี้บริษัทจัดตั้งกองทุนรวมใหม่จำนวน 10 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(AUM) 8,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น314.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 998.4%

โดยมีกองทุนที่โดดเด่น ที่เป็นกองทุนยอดนิยม คือ MRENEW กองทุนพลังงานทดแทนกองแรกในไทย, M-EM กองทุนตลาดเกิดใหม่, MFTECH กองทุนฟินเทค, MEURO กองทุนหุ้นยุโรป, MCHINA กองทุนหุ้นจีน A-shares, MGF กองทุนหุ้นเติบโตคุณภาพดีทั่วโลก และ MMPLUS กองทุนตราสารหนี้ เป็นต้น

และปัจจัยจากการปรับขยายช่องทางการขายผ่านตัวแทนขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 31.55 % และมีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมเท่ากับ 22.21 %


พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้รับงานบริหารการลงทุน 2 แห่ง โดยเป็น "ผู้จัดการกองทรัสต์โรงพยาบาลรายแรกในไทย" และ "ทรัสตีรายแรกของกองโทเคน" ดังนั้นบริษัทตั้งเป้าขยายทีมงานและพัฒนาทักษะการดำเนินงานของทุกภาคฝ่าย ให้มีความพร้อมและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมรับการเข้าบริหารงานกองทุนในโครงการใหม่ๆที่กำลังจะมีเข้ามาในอนาคต

นายธนโชติ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเข้ารับหน้าที่เป็น "ผู้จัดการกองทรัสต์" โดยยื่นไฟล์ลิ่งขอจัดตั้งและเสนอขายกองทรัสต์โรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทยคือ "ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เครือโรงพยาบาลบางปะกอก" หรือ "Bangpakok Hospital Group Leasehold Real Estate Investment Trust" (ชื่อย่อหลักทรัพย์ BHGRT) คาดว่ามีมูลค่าเข้าลงทุนครั้งแรกไม่เกิน 5,200 ล้านบาท

โดยจะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโครงการโรงพยาบาลบางปะกอก1 (BPK 1) และโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (BPK 9) รวมถึงระบบสาธารณูปโภค งานระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนควบของสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว และกรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินกิจการใน

สำหรับโครงการดังกล่าว มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เป็นทรัสตี และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน การเข้าเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ BHGRT นั้นจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของประเภททรัพย์สินที่ MFC บริหารจัดการ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการเป็นผู้จัดการกองท

อีกทั้งบริษัทยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ทรัสตี ในโครงการ "โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ" หรือ "SiriHub Investment Token"มีหน้าที่จัดการกองทรัสต์ และติดตาม ดูแลการบริหารจัดการทรัพย์สินของผู้ออกโทเคนดิจิทัล ซึ่ง MFC เป็นทรัสตีรายแรกของไทย ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ประกอบธุรกิจการเป็นทรัสตีของทรัสต์สำหรับธุรกรรมการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 24มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

ด้าน "สิริฮับ" เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่อ้างอิงกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate-backed ICO) รายแรกในไทย ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่  29กรกฎาคม 2564 มีมูลค่าการเสนอขาย 2,400 ล้านบาท

จุดประสงค์เพื่อกระจายโอกาสให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าสูงได้ โดยมีกลไกการคุ้มครองนักลงทุนในทุกขั้นตอน ปลอดภัยสูงบนเทคโนโลยีบล็อกเชน เนื่องจากในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับครั้งนี้ ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ของเทโซส (Tezos) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ ยังเป็นการขยายช่องทางและโอกาสการเป็นทรัสตีในอนาคตอีกด้วย  
#2858
เพราะ "จุดด่างดำ" ที่เป็นอุปสรรคความสวยใสของผิวพรรณเกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งการเผชิญหน้ากับแสงแดดมลภาวะ การมีปัญหาสิวอักเสบ ไปจนถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป คงจะดีไม่น้อยหากเรามีผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยปรับโทนสีผิว ลดความหมองคล้ำพร้อมปกป้องการเกิดจุดด่างดำใหม่ได้ในหนึ่งเดียว





ขอแนะนำ Clearly Corrective™ Dark Spot Solution  เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใสที่ติดอันดับขายดีในไทยมาแล้วถึง 4 ปีซ้อน ตัวช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนและป้องกันการเกิดจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว


Dark Spot Serum กับประสิทธิภาพลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิวได้ฉับไว 

  • "จุดด่างดำ" เป็นภาวะที่ผิวหนังบางจุดมีสีเข้มขึ้นกว่าปกติ โดยมีสาเหตุจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปในบางตำแหน่ง ซึ่งอาจเกิดได้ทั้งจากแสงแดด กรรมพันธุ์ อายุ การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน รวมไปถึงอาการบาดเจ็บหรืออักเสบของผิวกรณีที่เป็นสิว ส่งผลให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ สีผิวไม่กระจ่างใส ไม่สม่ำเสมอ

  • การรับมือกับปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากแอคติเวเต็ดซี (ACTIVATED C) ซึ่งเป็นวิตามินซีออกฤทธิ์เร็ว ช่วยลดความเข้มและปรับสีของเม็ดสีที่ปรากฏ วิตามินซีตัวนี้มีคุณลักษณะพิเศษคือการซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การปรับสีผิวเป็นไปได้อย่างฉับไว ผู้ใช้สามารถสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ใช้งานและสามารถเห็นผลลัพธ์คือใบหน้าที่ขาวกระจ่างใสมากขึ้นเมื่อใช้เซรั่มลดจุดด่างดําเป็นประจำครบ 2 สัปดาห์
เซรั่มลดรอยสิว จาก Kiehl's เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสพร้อมปกป้องจุดด่างดำไม่ให้เกิดขึ้นใหม่

  • ซาลิไซลิกแอซิด (Salicylic Acid) ใน Clearly Corrective™ Dark Spot Solution เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนละเอียดขึ้นกว่าเดิม เมื่อผสานเข้ากับพลังของ ACTIVATED C ยังสามารถมอบคุณสมบัติควบคุมค่าความเป็นกรดด่าง(pH) มีประสิทธิภาพป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่และการเปลี่ยนสีของผิวรูปแบบอื่น ๆ ได้ในอนาคต

  • นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมีการเติมส่วนผสมสำคัญจากสารสกัด White Birch ที่ช่วยฟื้นฟูและมอบสารอาหารให้แก่ชั้นผิว ช่วยสร้างคอลลาเจน เพิ่มความเนียนนุ่มอิ่มฟูให้ผิวคุณ
 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เช็ดให้แห้งและปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนทา เซรั่ม Dark spot ให้ทั่วใบหน้า นวดเบาๆ เพื่อช่วยการซึบซาบสู่ผิว ภายในเซรั่มคีลส์ขวดนี้มีสีใส เนื้อเหลวบางเบา มีกลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนๆ บรรจุในขวดแก้วใสหรูเป็นเอกลักษณ์ มีหัวดรอปเปอร์ช่วยดูแลความสะอาดและช่วยให้ใช้งานได้สะดวก
#2859


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล โครงการ Phuket Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 วันที่ 15 สิงหาคม 2564 พบว่า มีเที่ยวบินรวมจำนวน 292 เที่ยวบิน โดยมีสายการบิน ที่ทำการบินเข้าประเทศไทย ได้แก่ การบินไทย, สิงคโปร์แอร์ไลน์, เอมิเรตส์, กาตาร์แอร์เวย์, สายการบินเอทิฮัด เป็นต้น โดย มีผู้โดยสารขาเข้าสะสมรวมจำนวน 21,545 คน 

โดยเป็นผู้โดยใน Phuket Sandbox จำนวน 21,135 คน (ต่างชาติ 18,654 คน คนไทย 2,481 คน) 

ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT รายงานว่า สายการบินที่ได้รับการจัดสรรเวลาการบิน ทำการบินจริงครบตามจำนวนเที่ยวบินที่รับการจัดสรรไม่มีการยกเลิกใดๆ โดยมีเส้นทางการบินมาจาก 17 เมือง ได้แก่ สิงคโปร์ 76 เที่ยวบิน ,โดฮา 34 เที่ยวบิน ,ดูไบ 28 เที่ยวบิน,อาบูดาบี 21 เที่ยวบิน,เทลอาวีฟ 15 เที่ยวบิน,กัวลาลัมเปอร์ 14 เที่ยวบิน,แฟรงเฟริ์ต 13 เที่ยวบิน,ลอนดอน 7 เที่ยวบิน,ซูริค 7 เที่ยวบิน ,ปารีส 7 เที่ยวบิน,โคเปเฮเกน 5 เที่ยวบิน ,ฮ่องกง 3. เที่ยวบิน ,พนมเปญ 2 เที่ยวบิน ,เวียงจันทน์ 1 เที่ยวบิน,ไทเป 1 เที่ยวบิน,ซาร์จาห์ 1 เที่ยวบิน,ย่างกุ้ง 1 เที่ยวบิน

สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศไปยัง Phuket Sandbox ในช่วงระหว่างวันที่ 5-17 สิงหาคม 2564 เป็นเส้นทางจากอู่ตะเภา-ภูเก็ต โดยพบว่ามีเที่ยวบินสะสม 18 เที่ยวบิน ผู้โดยสารสะสม 586 คน
#2860
ขายทาวน์เฮ้าส์ระยอง เพลินใจ2 ขายถูกกู้ได้สูง เนื้อที่ 18 ตร 3ห้องนอน 2 ห้องนำ

ขายทาวน์เฮ้าส์ระยอง เพลินใจ2 ขายถูกกู้ได้สูง  เนื้อที่ 18 ตร 3ห้องนอน 2 ห้องนำ ขายถูกกู้ได้สูง หมู่บ้านดีติดถนนสุขุมวิท ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญ

ทาวเฮ้าส์เพลินระยองขายถูกกู้ได้สูง ติดถนนสุขุมวิท ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
ขายทาวน์เฮ้าส์ระยอง เพลินใจ2 ขายถูกกู้ได้สูง ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาด 18 ตารางวา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ หมู่บ้านเพลินใจ 2 อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ราคา 1.95 ล้านบาท


สิ่งอำนวยความสะดวก
สวนสาธารณะ,กล้องวงจรปิด ที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย

รายละเอียดบ้าน
ชั้นล่าง หน้าบ้านหลังบ้าน ปูกระเบื่องทั้งหมด ห้องรับแขก ห้องครัว พื้นปูแกรนิต ชั้นบน มี 3 ห้องนอน พื้นปูปาเก้ บ้านทาสีใหม่ทั้งหลัง

สถานที่ ใกล้คียง
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง โรงเรียนเซ็นโยเซฟ ห้างแหลมทอง สถานีขนส่ง โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง การไฟฟ้า สนามกีฬา ชายทะเล หน้าหมู่บ้านมีเซเว่น เข้าออกได้ 2 ทาง

หมู่บ้านเพลินใจ 2 ตำบล เนินพระ อำเภอเมืองระยอง ระยอง

สนใจติดต่อ ปุ๊ก ปทิตตา เบอร์ 061-9915824 ไลน์ใช้เบอร์โทรได้เลยคะ
รายละเอียดเบื้องต้น
https://www.rubpostban.com/?p=1925


คำค้น

ขายทาวน์เฮ้าส์เพลินใจ2ระยอง,  ขายถูกกู้ได้สูงทาวน์เฮ้าส์เพลินใจ2ระยอง, ขายทาวน์เฮ้าส์ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง, ขายทาวน์เฮ้าส์ตำบลเนินพระระยอง