• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#7006
วันนี้ ChatStick มี 5 คำถามก่อนสร้าง "ภาพจำ" มาฝากค่าาาาา
https://www.chatstickmarket.com/single-post/5questionsbeforecreatinga-memory

#7007


ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (20 ก.ค.) เปิดตลาดปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยร่วงหนักช่วงปิดตลาดภาคเช้าลดลง 25.39 จุด อยู่ที่ 1,530.62 จุด ก่อนรีบาวด์ในช่วงบ่าย กลับมาปิดตลาดที่ 1,538.86 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ 1.10% มูลค่าซื้อขาย 92,956.58 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 5,410.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 811.83 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,062.54 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 5,160.17 ล้านบาท

นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ ที่เน้นกลยุทธ์การลงทุนเชิงเทคนิค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับทางเทคนิคต่อเนื่อง ตั้งแต่แนวรับ 1,585 จุด และล่าสุดแนวรับ 1,546 จุด โดยตนมองแนวรับดัชนีถัดไปที่ 1,515-1,500 จุด ตามลำดับ และในกรณีเลวร้ายที่สุดไม่ควรหลุด 1,483 จุด เพราะจะส่งผลให้ตลาดหุ้นพลิกกลับไปเป็นขาลง

ขณะที่การลงทุนส่วนตัวได้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยตั้งแต่ดัชนีหลุดแนวรับ 1,585 จุดไปแล้ว ส่วนโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นอีกครั้งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาหายเพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน


นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนรายใหญ่แบบเน้นคุณค่า (นักลงทุนวีไอ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงตอบรับความเสี่ยงที่สถานการณ์โควิด-19 ลุกลามและมีการติดเชื้อเพิ่ม รวมถึงความกังวลมาตรการล็อกดาวน์อาจมีความเสี่ยงต้องขยายออกไปอีก อย่างไรก็ดี เชื่อว่าท้ายที่สุดสถานการณ์จะสงบลงได้ เพราะโควิด-19 เป็นวิกฤติที่ประเทศขนาดใหญ่เผชิญเช่นกัน จึงมีการส่งต่อความช่วยเหลือมายังประเทศขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำ ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้วิกฤติจบลง

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในระยะสั้นคาดว่านักลงทุนจะยังขายหุ้นเพราะตื่นตระหนก และมีความเสี่ยงที่ดัชนีอาจหลุดแนวรับ 1,500 จุด แต่เชื่อว่าจะสามารถปรับขึ้นได้ในระยะถัดไป

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาวยังสามารถลงทุนได้ เพราะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไม่ได้เจ็บหนักจากโควิด-19 แต่สำหรับกลุ่มที่ถูกผลกระทบจากการระบาดโดยตรง เช่น กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงแรม ยังไม่แนะนำลงทุน เพราะหากสถานการณ์โควิด-19 ลากยาวจะเป็นความเสี่ยงให้ถึงจุดหนึ่งหุ้นกลุ่มนี้ต้องเพิ่มทุนหรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น


 นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นไทยปรับฐานรอบนี้ จากการแพร่ระบาด โควิด -19 สายพันธุ์เดลต้าที่รุนแรงขึ้นทั่วโลกและไทย โดยยอดผู้ติดเชื้อในไทยยังไม่เห็นจุดสูงสุด และยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ ยังต้องติดตามผลในช่วง 2 สัปดาห์ถึง1 เดือน ว่ายอดผู้ติดเชื้อในไทยจะลดลงได้หรือไม่

       ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงมาหลังจากปรับขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ และค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าทั่วโลกกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก  ทำให้มีผลต่อราคาตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรป แต่อย่างไรก็ตามความรุนแรงการระบาดรอบนี้ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน เพราะสหรัฐและยุโรป มีประชากรที่ได้รับวัคซีนไปมากกว่าครึ่งของประชากรแล้ว ทำให้อัตราการเสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ระดับต่ำ และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดน่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป มีโอกาสเลื่ือนการลดคิวอีออกไปได้  

        ดังนั้น เรายังมองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับฐานรอบนี้แค่ระยะสั้นและไม่น่ากลัว เท่าช่วงเดียวกันปีก่อน และเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหากดัชนีรอบนี้ยังยืนที่ระดับ 1,530 จุด บวกลบต่อได้ โดยยังมีอัพไซด์ปลายปีนี้คาดไว้ที่1,600 จุด  กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุนขณะนี้เปลี่ยนโหมดมาเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตและปรับตัวลงกว่า คือ กลุ่มเทคโนโลยี  และกลุ่มส่งออก ที่ได้ประโยชน์จากผลประกอบการปรับตัวดีต่อเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าและการส่งออกขยายตัวสูง 

       แต่การเข้าลงทุนหุ้นไทยยังต้องระมัดระวังรอความชัดเจนของสถานการณ์คุมการแพร่ระบาดรอบนี้ เพราะตอนนี้ยังคาดเดายากว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันจะทะลุ 20,000คนหรือไม่ยังเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นไทย

       นายวิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์   รองผู้อำนวยการฝ่าย กลยุทธ์การลงทุน ไพรเวทเมเนจท์เม้นท์ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เราแนะนำนักลงทุนปรับลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight)หุ้นไทย โดยคาดแนวโน้มหุ้นไทยมีแนวรับทางเทคนิคที่ 1,500จุด    หลังจากการระบาดอย่างหนักของ โควิด-19 สายพันธุ์ เดลต้า รอบล่าสุดส่งผลไปถึงการประกาศล็อดดาวน์  ทำให้เรามองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนักและยาวนานกว่า โดยมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะไม่ขยายตัวเลย ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนในการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่แย่ลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้   แต่สิ้นปีนี้ยังมองแนวโน้มดัชนีที่ 1,600จุด หากสามารถคุมการแพร่ระบาดคลี่คลายได้และตลาดต่างประเทศปรับฐานระยะสั้น 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันทำการแรกของสัปดาห์ (19 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการขยายมาตรการล็อกดาวน์และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังทรงตัวสูงที่ 1.1 หมื่นราย รวมถึงแรงขายตามข่าว (Sell on Fact) ภายหลังบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับลงล้อกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบจากความกังวลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง

อย่างไรก็ดี ระยะข้างหน้าคาดว่าดัชนีหุ้นจะเริ่มปรับลงอย่างจำกัด เพราะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักต่อดัชนีสูง ราคาหุ้นได้ปรับลงไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจ (Reopening) และประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,530 จุด และถัดไปที่บริเวณ 1,510-1,500 จุด ตามลำดับ ดังนั้น การลงทุนจึงแนะนำสะสมหุ้นบริเวณแนวรับเพื่อรอขายในช่วงที่ดัชนีฟื้นตัว

"เราไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวลงต่อเนื่องแบบไม่มีแนวรับ เพราะได้แรงหนุนจากกำไรบจ.ไตรมาส 2 ที่ออกมาดี รวมถึงปัจจัยบวกจากเงินเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาล และความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีน ยกเว้นในกรณีเลวร้ายที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตต้องหยุดนิ่ง คาดว่าดัชนีจะหลุดแนวรับ 1,500 จุด และเลวร้ายสุด 1,300 จุดอาจเอาไม่อยู่"
#7008
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#7009
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7010


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (19ก.ค.)ดิ่งลง 725 จุด ถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 725.81 จุด หรือ 2.09% ปิเที่ 33,962.04 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 68.67 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 4,258.49 จุดและดัชนีแนสแด็ก ลบ 152.25 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 14,274.98 จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และกลุ่มสายการบิน ต่างดิ่งลงในการซื้อขายวันนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกันตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต

หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงหลุดระดับ 1.20% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 30,000 รายต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สูงกว่าค่าเฉลี่ย 11,000 รายต่อวันในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่า การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น


ขณะนี้ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 5.4 ล้านราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นมากกว่า 50,000 รายต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกฟุต.ยูโร 2020 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งเป็นไปตามที่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนไว้ก่อนหน้านี้จากการที่อังกฤษไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในการจัดการแข่งขันดังกล่าว

"หุ้นมีราคาแพงเกินไปเมื่อพิจารณาถึงผลประกอบการในอนาคต และตลาดก็ยังคงเผชิญปัญหาต่างๆ ทำให้นี่เป็นตลาดที่อันตรายมาก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงอย่างมากในขณะนี้" นายไทซ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายไทซ์ยังเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ค แอ๊ปเปิ้ล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้

นายไทซ์ระบุว่า การทรุดตัวของตลาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์กำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
#7011
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7012
สำนักงานบัญชี  รับทำบัญชี  รับตรวจสอบบัญชี  จดทะเบียนบริษัท

สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

ให้บริการพื้นที่ดังนี้  บางคอแหลม , ยานนาวา , พระราม 1 , พระราม 3 , พระราม 4 , สาทร , บางรัก , ทุ่งมหาเมฆ , เพลินจิต , ชิดลม , ปทุมวัน และพื้นที่อื่นที่ใกล้เคียง

แบบรายเดือนราคาเริ่มต้นเดือนละ 3,000 บาท
แบบรายปีราคาเริ่มต้นเดือนละ 1,500 บาท
•   บริการจัดทำแบบภาษีและยื่นภาษี
o   ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30)  พร้อมรายงานภาษีซื้อ  และภาษีขาย
o   ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – เงินเดือน (ภ.ง.ด.1) และ (ภ.ง.ด.1 ก)
o   ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – สำหรับนิติบุคคล (ภ.ง.ด.3) และ (ภ.ง.ด.53)
o   ภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี (ภ.ง.ด.51)
o   ภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปี (ภ.ง.ด.50)
o   จัดทำแบบประกันสังคม (สปส.1-10)

ตรวจสอบบัญชีของบริษัทจำกัด  และห้างหุ้นส่วนจำกัด  (ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท/ปี)
•   ตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
•   บริการจัดทำงบการเงินและแบบภาษีภ.ง.ด.50  ส.บช.3  และ บอจ.5
•   นำส่งงบการเงินเข้ากระทรวงพาณิชย์และสรรพากร

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท  (ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท)

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#7013
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7014
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7015
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7016


นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเน้นขยายตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีทิศทางเติบโตได้ดี และกำลังซื้อ ที่สำคัญไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากนัก โดยเฉพาะโครงการแนวราบของจังหวัดที่เศรษฐกิจภายในแข็งแกร่ง อย่างจังหวัดขอนแก่น ทำให้บริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ศุภาลัย พัฒนาโครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น" ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของบ้านสวยสไตล์รีสอร์ท ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านเดี่ยว

โครงการ "ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ ขอนแก่น"เกิดจากแนวคิดพัฒนาบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น บรรยากาศรีสอร์ท ริมแม่น้ำชี บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 63 ไร่ บ้านสำหรับครอบครัว ราคาเริ่มต้น 3.06-8.59 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอย150-318 ตร.ม. ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV และเข้า-ออกโครงการด้วยระบบอัตโนมัติ Easy Pass

โดยล่าสุดจัดโปรโมชั่นร้อนรับหน้าฝน "ศุภาลัยให้เต็ม 10" จัดเต็มของแถม 10 รายการ ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า 6 รายการ ได้แก่ ตู้เย็น 2 ประตู Smart TV เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟและค่ามิเตอร์น้ำ ไร้กังวล! ด้วยเงื่อนไขกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจองภายในวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 64 เท่านั้น
#7017
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#7018


ลูกโป่งปาร์ตี้ ได้กลายเป็นไอเท็มสำคัญในงานต่างๆ หลายต่อหลายงาน เป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศภายในงานให้สวยงามและสื่อความหมายถึงความรื่นเริง สนุกสนาน ทำให้ลูกโป่งปาร์ตี้กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานเลี้ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิด งานรับปริญญา งานปีใหม่ หรือแม้แต่งานแต่งงานบางงาน ก็ยังใช้ลูกโป่งเป็นส่วนหนึ่งในการประดับประดา และลูกโป่งปาร์ตี้ก็มีอยู่หลากหลายดีไซน์ด้วยกัน ทำให้ไอเดียการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ มีหลากหลาย

ไอเดียการใช้ลูกโป่งปาร์ตี้

ลูกโป่งพยัญชนะ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มยอดฮิตก็คือลูกโป่งที่เป็นรูปร่างตัวพยัญชนะต่างๆ ตั้งแต่ A-Z ใช้ตกแต่งบริเวณหน้างานเรียงรายเป็นชื่องาน เช่น Happy new year, Happy birth day เป็นต้น ลูกโป่งสกรีนข้อความ นอกจากใช้ลูกโป่งพยัญชนะแล้ว การสกรีนข้อความบนลูกโป่งก็เป็นอีกหนึ่งไอเดีย วิธีนี้ยังสามารถสั่งทำข้อความได้ตามใจ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย หรือภาษาอื่นๆ ลูกโป่งใส ร้านลูกโป่งเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่นิยมในการนำไปตกแต่งส่วนต่างๆ บางครั้งมีการบรรจุลูกโป่งขนาดเล็กกว่าลงไปในลูกโป่งใส หรือบางครั้งก็มีการบรรจุวัสดุอื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้สวยงาม
ลูกโป่งฟอยล์ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มกับลูกโป่งฟอยล์ สีสันต่างๆ ที่มีความมันวาวประกายมุก ออกแบบเป็นรูปร่างต่างๆ ทั้งทรงกลม หัวใจ พยัญชนะ และอื่นๆ


วิธีการเลือกลูกโป่งปาร์ตี้ให้ปลอดภัย

ลูกโป่งมีทั้งแบบลอยไม่ได้และลอยได้ หากพูดเรื่องความปลอดภัยของลูกโป่ง ลูกโป่งที่ลอยไม่ได้จะไม่มีอันตรายใดๆ เพราะเป็นการอัดลมธรรมดาเข้าไป เพื่อให้ลูกโป่งมีลักษณะโป่งพองออกมาเป็นลูก แต่ลูกโป่งที่ลอยได้นั้นเป็นการอัดก๊าซเข้าไปโดยก๊าซนั้นมีมวลที่เบากว่าอากาศภายนอกของลูกโป่ง ทำให้ลูกโป่งลอยได้ และก๊าซที่อัดเข้าไปในลูกโป่งนี้เองที่อาจเป็นอันตราย โดยก๊าซที่ใช้สำหรับลูกโป่งนั้นมี 2 ชนิด ได้แก่ ไฮโดรเจนและฮีเลียม

ก๊าซไฮโดรเจน เป็นก๊าซไวไฟที่สามารถติดไฟได้ เพียงแค่มีประกายไฟอยู่ใกล้ๆ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ยิ่งในกรณีที่ลูกโป่งก๊าซไฮโดรเจนหลายๆ ลูกอยู่รวมกัน หากมีลูกใดลูกหนึ่งติดไฟจะยิ่งอันตราย เพราะทำให้เพลิงไหม้ลุกลามได้ หรือในบางกรณีหากลูกโป่งก๊าซไฮโดรเจนอยู่ในมือใครเกิดระเบิดขึ้นมา ก็อาจทำให้บาดเจ็บรุนแรงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงลูกโป่งที่อัดก๊าซชนิดนี้
ก๊าซฮีเลียม เป็นอีกหนึ่งชนิดที่นิยมใช้อัดเข้าไปในลูกโป่ง โดยก๊าซฮีเลียมเป็นก๊าซที่ไม่ไวไฟ แตกต่างจากไฮโดรเจนค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีความเฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยา ทำให้มีความปลอดภัยสูง และเป็นที่นิยมมากในการนำมาอัดลูกโป่งปาร์ตี้ แต่มักจะมีราคาที่สูง

กว่าลูกโป่งก๊าซไฮโดรเจน ถึงอย่างนั้นถ้าหากพูดถึงเรื่องความปลอดภัย ลูกโป่งก๊าซฮีเลียมก็ยังคุ้มค่ากว่ามาก
ถือเป็นไอเท็มที่เหมาะสำหรับการตกแต่งงานเลี้ยงต่างๆ อย่างมาก เต็มไปด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย มีความเหมาะสมสำหรับการจัดงานเลี้ยงต่างๆ ส่วนมากมักมีการผสมผสานกัน ลูกโป่งวันเกิด โดยใช้หลายๆ แบบเพื่อตกแต่งในงานเลี้ยงหนึ่งงาน นอกจากดีไซน์แล้วอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคำนึงถึงก็คือความปลอดภัย ไม่ควรใช้ก๊าซไฮโดรเจน แต่ควรใช้ก๊าซฮีเลียมจะปลอดภัยกว่ามาก


https://www.balloonbear.co
#7019

(15 ก.ค.64) นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า  วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มโครงการสมุยพลัส  (Samui Plus) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เปิดระบบให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียน เพื่อขอหนังสือรับรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย (COE) 

นายธานี กล่าวว่า ผู้เดินทางเข้าโครงการ Samui Plus ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 มีผู้ลงทะเบียนขอ COE ผ่าน สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก จำนวน 81 ราย ได้รับอนุมัติแล้ว 14 ราย โดยเป็นผู้เดินทางเข้ามาในวันที่ 15  กรกฎาคม 2564 จำนวน 11 ราย และรอเอกสารประกอบ 65 ราย



· คุณสมบัติผู้เดินทางเข้าสมุยพลัส ได้แก่

1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือไม่มีสัญชาติไทยที่อยู่ใน 69 ประเทศ/พื้นที่เป้าหมายเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน (ยกเว้นเป็นผู้พำนักอยู่ในไทย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ)

2. เป็นผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของไทย หรือได้รับการรับรองจาก WHO หรือตามที่ สธ.กําหนด ครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง โดยต้องแสดงเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน

****ผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สามารถเดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนแล้วได้) 

3.มีผลตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ ที่มีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

4.มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลกรณีติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ในวงเงินไม่น้อยว่า 100,000 ดอลลาร์ ตามระยะเวลาที่พำนัก

5.มีหลักฐานการจ่ายค่าตรวจโควิด-19 ล่วงหน้าตามจำนวนวันที่พัก

6.มีหลักฐานการชำระค่าโรงแรมมาตรฐาน Samui Extra+ สำหรับการพำนักใน 7 วันแรก และหลักฐานการจองโรงแรมมาตรฐาน SHA+ สำหรับการพำนักใน 7 วันถัดมา

****รายชื่อโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน Samui Extra+ เคยเป็นสถานที่กักกันตัวทางเลือก (AQ) มาก่อน สามารถดาวน์โหลดได้ตาม QR Code ที่ปรากฏบนภาพฉาย ส่วนโรงแรมตามมาตรฐาน SHA+ สามารถดูได้ที่ www.thailandsha.com

· การขอ COE สำหรับผู้เดินทางเข้าสมุยพลัส โมเดล มีขั้นตอนและรายละเอียดเช่นเดียวกับการขอ COE สำหรับเดินทางเข้า Phuket Sandbox โดยต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับ COE ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วันก่อนวันเดินทางเข้าประเทศไทย

· เมื่อเดินทางถึงสมุย จะมีข้อกำหนดดังนี้

o ผู้เดินทางจะต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น Thailand Plus โดยเปิดระบบติดตามตัวตลอดเวลา

o และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่เดินทางถึง หรือวันถัดมา หากเป็นลบ สามารถทำกิจกรรมนอกห้องพักในบริเวณโรงแรมและพื้นที่ที่โรงแรมกำหนดได้

o วันที่ 4 จนถึงวันที่ 7 หากเป็นลบ สามารถเดินทางท่องเที่ยวใน อ.เกาะสมุย ตามเส้นทางกำหนด และเข้ารับตรวจเชื้ออีกครั้งในวันที่ 7 

o วันที่ 8 ให้เข้าเช็คอินโรงแรม SHA+ และรอผลตรวจที่โรงแรม หากผลเป็นลบ สามารถเดินทางในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ โดยต้องเปิดแอพพลิเคชั่น Thailand Plus ไว้ตลอดเวลา

o หากอยู่เกิน 14 วัน หรือต้องการเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ หลังวันที่ 14 ผู้เดินทางต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 3  ในวันที่ 12 - 13

o หากพำนักน้อยกว่า 14 วัน ต้องมีหลักฐานบัตรโดยสารเที่ยวบินขาออก และเมื่อครบกำหนดพำนักต้องออกจากประเทศไทยเท่านั้น
#7020

(15 ก.ค.64) จากกรณี องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ออกแถลงการณ์วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา เรื่องแจ้งความเอาผิด นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นเหตุให้องค์การเภสัชฯได้รับความเสียหาย กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จการจัดซื้อวัคซีน "โมเดอร์นา" นั้น
 
ฝ่าย นพ.บุญ ประกาศลั่นว่า "หากองค์การเภสัชฯ ฟ้องผม จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเอกสารต่าง ๆ ขององค์การเภสัชฯ จะได้ถูกเปิดเผย (แฉ) กลางศาล มีหมดว่าซื้อเท่าไหร่ อย่างไร"
 
แน่นอนว่า เมื่อนพ.บุญ ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลายคนจึงสนใจเรื่องประวัติของนายแพทย์คนนี้ รวมถึง "อาณาจักรธุรกิจ" ที่อยู่ในการบริหารของกลุ่มบริษัท THG ของเขาด้วย
 
กรุงเทพธุรกิจ ได้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและเว็บไซต์ของบริษัท พบว่า บริษัทนี้ก่อตั้งโดย นพ.บุญและกลุ่มแพทย์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2519 ในชื่อเดิมว่า บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด ก่อนจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด (มหาชน) ในปี 2537
ใครถือหุ้นใหญ่ THG
 
ตั้งแต่นั้นมา THG เติบโตและขยายกิจการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่า มูลค่าบริษัท THG ณ วันที่ 13 ก.ค. 2564 อยู่ที่ 25,048 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เป็น บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ซึ่งถืออยู่ 17.19% และอันดับ 2 คือ นางจารุวรรณ วนาสิน ซึ่งเป็นคู่สมรสของ นพ.บุญ ถืออยู่ 13.96%
 
ส่วน นพ.บุญ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ระบุว่า ถือหุ้นอยู่ในอันดับ 13
ข้อมูลจากเว็บไซต์เดียวกัน เผยว่า นพ.บุญ สำเร็จการศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยมหิดล และยังได้วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบ วิชาชีพสาขาอายุรศาสตร์ และทางเดินอาหาร จาก มหาวิทยาลัย John Hopkins ในสหรัฐด้วย
 
 
ปัจจุบัน นพ.บุญ วัย 82 ปี นั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการบริษัท THG โดยมี นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ เป็นประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ
 
ผลประกอบการ 3 ปีหลังสุด
 
ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดของ THG แยกเป็นดังนี้
 
ปี 2563
รายได้ : 7,315 ล้านบาท
กำไร : 62 ล้านบาท
 
ปี 2562
รายได้ : 8,232 ล้านบาท
กำไร : 462 ล้านบาท
 
ปี 2561 ล้านบาท
รายได้ : 7,094 ล้านบาท
กำไร : 348 ล้านบาท
 
ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทรายงานว่า มีรายได้ 1,584 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท
 
ธุรกิจการแพทย์ที่ THG ถือหุ้นเกิน 50%
 
นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า บรรดาธุรกิจเกี่ยวกับ "บริการทางการแพทย์" ที่ THG ถือหุ้นอยู่เกิน 50% ประกอบด้วย 6 บริษัท ดังนี้
 
1. บริษัท ทันตสยาม จำกัด
ทุน 31.93 ล้านบาท จำนวน 3,174,930 หุ้น (99.42%)
2. บริษัท ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด
ทุน 100 ล้านบาท จำนวน 9,998 หุ้น (99.98%)
3. บริษัท ธนราษฎร์ทุ่งสง จำกัด -- ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน ใน จ.นครศรีธรรมราช
ทุน 600 ล้านบาท จำนวน 30,669,250 หุ้น (51.11%)
4. บริษัท โรงพยาบาล ราษฎร์ยินดี จำกัด (มหาชน) -- กิจการโรงพยาบาลเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ทุน 430 ล้านบาท จำนวน 244,734,031 หุ้น (56.91%)
5. บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด -- กิจกรรมโรงพยาบาล
ทุน 1,223 ล้านบาท จำนวน 48,926,453 หุ้น (99.99%)
6. บริษัท โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ธนบุรี จำกัด -- โรงพยาบาลเฉพาะทาง
ทุน 120 ล้านบาท จำนวน 11,999,700 หุ้น (99.99%)
 
ขณะเดียวกัน คาดว่าชื่อของ "นพ.บุญ" จะยังคงอยู่ในความสนใจของสังคมต่อไปอีก หลัง นพ.บุญ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในวันที่ 15 ก.ค. บริษัทจะลงนามสัญญาเพื่อนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 กับ บริษัท ไบออนเทค ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเยอรมนี โดยจะมีหน่วยงานรัฐที่มีสิทธินำเข้าวัคซีนร่วมลงนามด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยชื่อหลังจากการลงนามแล้วเสร็จ
 
การลงนามสัญญาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ก.ค. ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อและนำเข้า หลังจากกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินการมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ส่วนงานด้านเอกสารสำคัญ คำสั่งซื้อ ร่างสัญญาต่าง ๆ เตรียมไว้พร้อมแล้ว
 
"เหลือเพียงแค่ทางด้านสหรัฐ เท่านั้นว่าจะอนุมัติตามที่ขอไป 20 ล้านโดส ในระยะแรกหรือไม่" นพ.บุญ กล่าวกับบีบีซีไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ค.