• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Joe524

#6136


"ศักดิ์สยาม" ประชุมกก.กลั่นกรองฯเคาะต่อใบอนุญาตท่าเรือเดินทะเล 20 แห่ง และ ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ท่าเรือเดินทะเล ขนส่งสินค้าอันตราย 1 แห่ง กำชับกรมเจ้าท่า ดำเนินการรอบคอบตามกฎหมาย เพื่อรักษาประโยชน์ ของกิจการเรือของไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองและดำเนินการภารกิจตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปฯ ของกรมเจ้าท่า (กจท.) ครั้งที่ 3/2564ว่า ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานจากการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองและดำเนินการภารกิจตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปฯ ของกรมเจ้าท่า ครั้งที่ 1/2564 และ 2/2564 ในการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 จำนวน 4 แห่ง และการพิจารณาอนุญาตให้เรือของบุคคลผู้ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือไทย ทำการค้าในน่านน้ำไทยตามมาตรา 47 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทยพุทธศักราช 2481 จำนวน 5 ลำ

และที่ประชุมได้พิจารณาการอนุญาตเช่าหรือใช้เรืออื่นที่มิใช่เรือไทยในการขนส่งทางทะเล จำนวน 1 ลำ พิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 จำนวน 20 แห่ง (ขนส่งสินค้าทั่วไป 12 แห่ง และขนส่งสินค้าอันตราย 8 แห่ง) และพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ท่าเรือเดินทะเล จำนวน 1 แห่ง (ขนส่งสินค้าอันตราย) และพิจารณาอนุญาตให้เรือของบุคคลผู้ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือไทยทำการค้า ในน่านน้ำไทยตามมาตรา 47 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทยพุทธศักราช 2481 จำนวน 2 ลำ

ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ประกาศ ตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการในกิจการต่าง ๆ เป็นไปเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เท่าที่จำเป็น และคงรักษาประโยชน์ของธุรกิจประกอบกิจการเรือของไทย
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้คณะกรรมการกลั่นกรองและดำเนินการภารกิจตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง หรือบทบัญญัติอื่นที่ผลบังคับเป็นการทั่วไปฯ ของกรมเจ้าท่า ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส เป็นไปตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด

สำหรับคณะกรรมการกลั่นกรองและดำเนินการภารกิจตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปฯ ของกรมเจ้าท่า มีบทบาทและหน้าที่ในการพิจารณาอนุญาต การต่ออายุและการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล และการพิจารณาอนุญาตให้ผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลซึ่งถือกรรมสิทธิ์เรือไทยเช่าและใช้เรืออื่นที่มิใช่เรือไทยในการขนส่งทางทะเล และการพิจารณาอนุญาตให้เรือของบุคคลผู้ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือไทยได้สามารถทำการค้าในน่านน้ำไทยได้
#6137
www รถบ้านมือสองเจ้าของขายเอง com เว็บซื้อขายรถมือสอง

http://xn--22canbbc0hzdoc3f9abdd8ee3f5ii5p.com/
#6138


ราคาน้ำมันขยับลง 2% ในวันจันทร์(20ก.ย.) ได้แรงหนุนจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบหนักและทองคำพุ่งแรง ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน จะผิดนัดชำระหนี้ ผลักนักลงทุนเทขายหุ้นแล้วหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.42 ดอลลร์ ปิดที่ 73.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดอลลาร์ถูกมองในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังความกังเวลเกี่ยวกับการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ เขย่าขวัญตลาดทุน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาไปที่ประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ว่าจะมีการลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่

ด้านวอลล์สตรีทปิดลบแรงในวันจันทร์(20ก.ย.) จากแรงเทขายทั่วกระดาน เอสแอนด์พี500และแนสแดคขยับลงวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ความกังวลเกี่ยวกับการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ ผลักนักลงทุนเทขายหลักทรัพย์แล้วหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

ดาวโจนส์ ลดลง 614.41 จุด (1.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,970.47 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 75.26 จุด (1.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,357.73 จุด แนสแดค ลดลง 330.07 จุด (2.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,713.90 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แล้วหันมาถือครองพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน

แลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เอเวอร์แกรนด์ออกถ้อยแถลงยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้

ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์(20ก.ย.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความกังวลเอเวอร์แกรนด์ล้มละลาย ขณะเดียวกันโลหะมีค่าชนิดนี้ยังได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทางกายภาพในเอเชีย โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,763.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#6140



ถึงแม้มหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกจำนวนมากยังคงเป็นสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ แต่ผลการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่า ภายในปี 2025 นี้ พวกมหาวิทยาลัยจีนจะสามารถผลิตผู้จบการศึกษาปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี-วิศวกรรม-คณิตศาสตร์ หรือที่เรียกกันว่า "สะเต็มศึกษา" ได้เป็นจำนวนเกือบๆ 2 เท่าตัวของที่สหรัฐฯทำได้

โตเกียว - ในบทความชิ้นก่อน เรื่อง China-US contest will come down to education (การแข่งขันระหว่าง'จีน-สหรัฐฯ' ใครแพ้ใครชนะจะตัดสินกันที่'การศึกษา') ผมได้เขียนถึงวิกฤตการณ์ในการศึกษาระดับประถมและระดับมัธยมของอเมริกัน อย่างที่ผมได้สัญญาเอาไว้ในข้อเขียนดังกล่าว สำหรับในบทความชิ้นนี้ผมจะพูดถึงความเสื่อมโทรมย่ำแย่ลงโดยเปรียบเทียบของพวกมหาวิทยาลัยอมริกันในสาขาวิชาทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, และคณิตศาสตร์ (science, technology, engineering and mathematics เรียกย่อๆ ว่า STEM ภาษาไทยมีผู้ใช้ว่า สะเต็มศึกษา -ผู้แปล)
(ดูบทความเรื่อง China-US contest will come down to education ภาษาอังกฤษได้ที่ https://asiatimes.com/2021/07/china-us-contest-will-come-down-to-education/ สำหรับที่เก็บความเป็นภาษาไทยแล้ว ดูได้ที่ https://mgronline.com/around/detail/9640000092985)

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ยังไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างถนัดชัดเจนแล้ว มหาวิทยาลัยระดับดีที่สุดของโลกจำนวนมากยังคงเป็นสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ พวกเขายังคงรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณอันดีเลิศเอาไว้ได้

ตัวอย่างเช่น ในการจัดอันดับ "มหาวิทยาลัยทั่วโลกยอดเยี่ยม" (Best Global Universities) ประจำปี โดยนิตยสาร ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต (US News & World Report) ซึ่งล่าสุดจัดกันเป็นปีที่ 7 และนำออกเผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคม 2020 นั้น พบว่าในจำนวนสถาบันการศึกษาระดับท็อป 25 แห่ง มี 19 แห่งทีเดียวเป็นสถาบันอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ QS (QS World University Ranking) ซึ่งเผยแพร่โดย ควัคควาเรลลี ไซมอนด์ส (Quacquarelli Symonds) บริษัทในสหราชอาณาจักร และอาจจะมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากกว่า เวอร์ชั่นของล่าสุดซึ่งออกมาเมื่อเดือนกรฎาคมปีนี้ พบว่า มหาวิทยาลัยท็อป 25 ของทั่วโลก มี 12 แห่งอยู่ในสหรัฐฯ, 5 แห่งอยู่ในสหราชอาณาจักร, 3 แห่งอยู่ในจีน, อยู่ในสิงคโปร์กับในสวิตเซอร์แลนด์ประเทศละ 2 แห่ง, และ 1 แห่งอยู่ในญี่ปุ่น
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.topuniversities.com/university-rankings/world-university-rankings/2022)

ครั้นแล้ว ตอนต้นเดือนสิงหาคม ศูนย์กลางเพื่อความมั่นคงและเทคโนโลยีเกิดใหม่ (Center for Security and Emerging Technology หรือ CSET) แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown University) ในกรุงวอชิงตัน ได้ออกรายงานฉบับหนึ่ง ใช้ชื่อเรื่องว่า "China is Fast Outpacing US STEM PhD Growth," (จีนกำลังมีฝีก้าวแซงหน้าสหรัฐฯอย่างรวดเร็วเรื่องอัตราเติบโตของผู้จบ PhD สาขา STEM) โดยมีข้อสรุปว่า "จากการคำนวณโดยอิงอยู่กับแบบแผนการลงทะเบียนเรียนในปัจจุบัน เราคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 มหาวิทยาลัยต่างๆ ของจีนจะผลิตผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก PhD ในสาขา STEM เป็นจำนวนมากกว่า 77,000 คนต่อปี เปรียบเทียบกับในสหรัฐฯซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 คน"
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://cset.georgetown.edu/publication/china-is-fast-outpacing-u-s-stem-phd-growth/)

แน่นอนอยู่แล้วว่า พวกมหาวิทยาลัยจีนนั้น โดยสาระสำคัญแล้วคือมุ่งให้การศึกษาแก่พวกนักศึกษาชาวจีน ขณะที่พวกมหาวิทยาลัยอเมริกันนั้นทำหน้าที่ให้การศึกษาแก่นักศึกษาจากทั่วโลกมากกว่า ด้วยเหตุนี้ การศึกษาของจอร์จทาวน์ชิ้นนี้จึงพบว่า "ถ้าหักพวกนักศึกษานานาชาติออกไปจากตัวเลขของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯแล้ว ผู้จบการศึกษา PhD สาขา STEM ที่เป็นชาวจีน จะมีจำนวนมากกว่าผู้สำเร็จการศึกษาที่เป็นชาวอเมริกันในอัตราส่วนมากกว่า 3 ต่อ 1 ทีเดียว"

จีนแซงหน้าสหรัฐฯในเรื่องจำนวนของผู้จบการศึกษา PhD สาขา STEM มาตั้งแต่ปี 2007 แล้ว และเมื่อถึงปี 2019 ก็นำหน้าทิ้งห่างออกไปเป็นราวๆ 47% ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเวลานี้แนวโน้มก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ ถึงแม้ย้อนกลับไปเพียงเมื่อปี 2000 นี้เอง สหรัฐฯยังผลิตผู้จบ PhD STEM ได้ในระดับเป็นกว่า 2 เท่าตัวของจีนอยู่เลย

พร้อมกันนี้ คุณภาพของการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของจีนในสาขา STEM ยังกำลังปรับปรุงดีขึ้นเรื่อยๆ

"อัตราการเติบโตขยายตัวของชาวจีนที่ลงทะเบียนเรียนระดับ PhD ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วในระยะหลังๆ มานี้ ส่วนใหญ่ที่สุดเป็นการลงทะเบียนเรียนในพวกมหาวิทยาลัยระดับคุณภาพสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อน" นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่การศึกษาของ CSET ค้นพบ และระบุว่า "เนื่องจากชาวจีนผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกมากกว่า 3 ใน 4 เป็นผู้ที่มีความชำนาญเชี่ยวชาญในสาขาทางด้าน STEM นี่จึงเป็นหลักฐานบ่งบอกว่า สายท่อบรรจุผู้มีความรู้ความสามารถด้าน STEM ของจีนกำลังแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ"

ไม่น่าประหลาดใจเลย เมื่อการศึกษานี้ยังบอกต่อไปว่า "เมื่อพิจารณาจากขนาดขอบเขตของการลงทุนที่จีนทุ่มเทลงไปในการศึกษาขั้นอุดมศึกษา และการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่มี.สูงลิ่ว ช่วงห่างในการผลิต PhD สาขา STEM สามารถที่จะกลายเป็นตัวบ่อนทำลายเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติในระยะยาวของสหรัฐฯได้"
#6141
ขายที่ดินริมหาดส่วนตัว ติดทะเลหาดสะพลี [ปะทิว] ชุมพร แบ่งขาย 6ลบ.โทร 083-7124115
#6142
ข้าวน้ำตาลต่ำข้าวโภชนาการสูงคุณภาพดีสำหรับคุณแม่ให้นมลูก
ต้นข้าวอินทรีย์  เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์  คนทำนาข้าวอินทรีย์  รูปภาพสำหรับข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวหอมมะลิอินทรีย์)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  กลุ่มข้าวอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.  ข้าวหอมมะลิออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  กลุ่มข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลอินทรีย์กรมการข้าว, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวหอมมะลิแดงสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิคคือ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์  ข้าวหอมผกาอำปึลอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ 6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิก  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#6144
 ข้าว Low GI คนเป็นโรคเบาหวานควรทานข้าวกล้องโภชนาการสูง ข้าวปลอดสาร ข้าวหอมทุ่งกุลาร้องไห้ แท้  100% 
ข้าวฮอร์   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ส่งทั่วไทย
ข้าวหอมมะลิorganic   ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
"ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์"  ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิก ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




ข้าวหอมมะลิorganic ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออร์แกนิค
Facebook : hor-boutique.business.site/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์
6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#6145
www รถบ้านมือสองเจ้าของขายเอง com เว็บซื้อขายรถมือสอง

http://xn--22canbbc0hzdoc3f9abdd8ee3f5ii5p.com/
#6146
ขายที่ดินริมหาดส่วนตัว ติดทะเลหาดสะพลี [ปะทิว] ชุมพร แบ่งขาย 6ลบ.โทร 083-7124115
#6148
อย่าเพิ่งยิงแอด ถ้ายังไม่เรียน คอร์สออนไลน์ 98 บาท
#6149


ส่องฐานะทางการเงิน 6 เดือนแรกปี 2564 โดยเฉพาะไตรมาส 2 ของ 3 หุ้นธุรกิจไทย ในธุรกิจเกี่ยวข้องกับแดนมังกรยังเหนื่อย !! หลังยอดขายที่เคยฝากไว้บน กำลังซื้อคนจีน ยังไม่กลับมาเช่นเดิม ด้าน เอกชน กลับมารุกตลาดมากยิ่งขึ้น หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก !

'คนจีน'!! ถือเป็นหนึ่งใน 'กำลังซื้อ' ที่สำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการไทยในช่วงที่ผ่านมา จนกลายมาเป็น 'ผู้ซื้อหลัก' ไปแล้ว ทว่าตอนนี้ผู้ซื้อหลักดังกล่าวกำลังฉุดรั้งตัวเลข 'ยอดขาย' ให้ผลการดำเนินงานให้ 'ยังไม่สดใส!' เฉกเช่นเดิม 

จากเมื่อวันวาน... กลุ่มธุรกิจคนไทยเคยเอ็นจอยกับ 'กำลังซื้อของคนจีน' ที่นำพาความเฟื่องฟูสุดๆ หนึ่งในนั้นต้องมี '3 หุ้นธุรกิจไทย' บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ถูกกฎหมายเชื่อถือได้ที่มีสัดส่วน 'ยอดขาย' พึ่งพิงกำลังซื้อจากคนจีนเป็นหลัก !! นั่นคือ บมจ.ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD , บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY และ บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ที่โฟกัสกลุ่มลูกค้าจีนทั้งที่มาท่องเที่ยวในไทย และขยายตลาดไปปักหมุด ณ ดินแดนมังกร

ทว่า เมื่อทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รุมเร้าและลากยาว ส่งผลให้รัฐบาลในหลายประเทศต้องพยายาม 'สกัดกั้น' เพื่อหวังหยุดตัวเลขการแพร่ระบาดของผู้ติดโควิด-19 ให้ลดน้อยที่สุด ด้วยการออกมาตรการต่างๆ มา 'จำกัด' ประชาชนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปิดประเทศ (ล็อกดาวน์) หรือ การให้ประชาชนทำงานอยู่บ้าน 

จนกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้กำลังซื้อทั่วโลกเริ่มชะลอตัว ! ยิ่งเฉพาะคนจีนที่เป็น 'ผู้ซื้อหลัก' ของหลากหลายอุตสาหกรรมในไทย

อ่านข่าว : พาณิชย์ เร่งเครื่องดันส่งออก มั่นใจ ปี 65 ยังโตแรง หนุนฟื้นวิกฤตโควิด

3ธุรกิจไทย ยังเหนื่อย ! รอ กำลังซื้อจีน คืนชีพ


สอดคล้องกับ สถานการณ์ 6 เดือนแรกปี 2564 ตัวเลขผลประกอบการ 3 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ DDD-BEAUTY-TKN 'ไม่สดใส' ลดลงหรือแม้แต่ยังขาดทุน โดยเฉพาะไตรมาส 2 ปี 2564 ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนไม่เบา โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2564 พบว่า หุ้น DDD มี 'ขาดทุนสุทธิ' 141.65 ล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 2563 มี 'กำไรสุทธิ' 48.04 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 107.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนแรกปีก่อน 37.18 ล้านบาท ตามลำดับ

หุ้น BEAUTY ไตรมาส 2 ปี 2564 มีขาดทุนสุทธิ 35.17 ล้านบาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 61.36 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีขาดทุนสุทธิ 50.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 101.04 ล้านบาท 

และ หุ้น TKN ไตรมาส 2 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 22.23 ล้านบาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 88.91 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 78.44 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 174.59 ล้านบาท 

ดังนั้น สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ทำให้ 'ความมั่งคั่ง' (Wealth) ของธุรกิจปรับตัว 'ลดลง' ไปด้วย หากย้อนกลับไปดูความมั่งคั่งของธุรกิจเมื่อปี 2560 เทียบกับปัจจุบัน (13 ก.ย.2564) จากระดับหมื่นล้านเหลือพันล้านบาท สะท้อนผ่านตัวเลข 'มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด' (Market Capitalization) โดย หุ้น DDD มีมาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 27,966 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 5,594.82 ล้านบาท (13 ก.ย.64) หุ้น BEAUTY มาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 62,456.88 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 4,660.65 ล้านบาท (13 ก.ย.64)และ หุ้น TKN มาร์เก็ตแคปปี 2560 อยู่ที่ 28,842 ล้านบาท ลดลงมาอยู่ที่ 9,798 ล้านบาท (13 ก.ย.64) 


'อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า 'เถ้าแก่น้อย' รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทได้เพิ่มน้ำหนักการทำ 'ตลาดต่างประเทศ' มากขึ้น รองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น

โดยเฉพาะตลาดใน 'ประเทศจีน' ที่ถือเป็นตลาดหลักของ TKN นั้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในการทำตลาด โดยแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทาง E-Commerce จากเดิมที่มีตัวแทนจำหน่ายได้แก่ Pan Orion Corp รับผิดชอบการจัดจำหน่ายสินค้าเข้าสู่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) จึงทำให้ TKN มั่นใจกว่า การผสานกำลังร่วมกันระหว่าง 2 ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดส่งออกต่อจากนี้

เช่นเดียวกับตลาดในสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเริ่มเปิดประเทศในช่วงเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น บริษัทได้เดินสายออกบูธงานแสดงสินค้า (Roadshow Exhibition) ตามสถานที่ต่างๆ คาดว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนได้ในไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภาวะค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือรวมถึงราคาค่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังสูงที่ TKN ยังต้องบริหารจัดการให้เอื้อประโยชน์และสนับสนุนแผนการเติบโตด้านผลการดำเนินงานให้ดีที่สุด

ขณะที่ ทิศทางตลาดในประเทศ ยังเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักและกำลังซื้อชะลอตัว ดังนั้น TKN จะบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้รัดกุมในทุกด้าน รวมถึงติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อแผนงาน TKN 

ในเบื้องต้นประเมินว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยบริษัทมีแผนนำเสนอสินค้าใหม่พร้อมทำแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโมเมนตัมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนหรือ Quick Service Restaurant (QSR) ของบริษัทในเครือ จะมุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่มากขึ้น

ขณะที่ บมจ. บิ้วตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายประเทศเผชิญกับการระบาดในรอบใหม่ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งตลาดในประเทศ จากการระบาดในรอบนี้ที่ค่อนข้างรุนแรงกว่ารอบก่อนๆทำให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ใน 13 จังหวัด 25 สาขา

ส่วนตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดจีน ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์ที่เป็นสินค้าจีนมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลจีนส่งเสริมให้คนใช้สินค้าแบรนด์จีน และเข้มงวดการนำเข้าสินค้าต่างประเทศเข้ามาขายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ความนิยมในสินค้าต่างประเทศ 'ลดลง' ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทจึงต้องกลับมาทำการตลาดใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ ใน 3 ด้านหลัก เพื่อรับวิกฤติดังกล่าว คือ ด้านแรก การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ด้านที่สอง การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ และด้านที่สาม การขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง โดยมุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีโอกาสขยายตัว สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะการเปิดสาขาร้านค้าปลีก เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากฐานลูกค้าในประเทศ และสามารถสร้างตลาดที่ครอบคลุมในระยะยาว

ทั้งนี้ จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว ช่วยลดผลกระทบจากสภาวะต่างๆได้ เพื่อรองรับกับสถานการณ์และสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป โดยคาดว่าหากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มปรับตัวดีขึ้น โครงสร้างธุรกิจใหม่ของบริษัทจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานทั้งในแง่การจำหน่าย การบริหารจัดการ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวกลับมาดีขึ้น

'ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์' ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บมจ. ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดส่งผลกระทบต่อยอดขายมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 3 ปี 2564 ทำให้บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เป็นเติบโต 20-30% จากเดิมที่คาดเติบโต 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,490.62 ล้านบาท

อย่างไรตาม บริษัทได้ดำเนินการด้วยการเน้นการลดค่าใช้จ่ายโดยรวมให้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเช่าคลังสินค้า และ ค่าขนส่งในแต่ละกลุ่มธุรกิจมาไว้ที่เดียวกัน ซึ่งคาดจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3 และ เห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4 ปี 64 รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และ การลดค่าใช้จ่ายในการผลิตผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสปาร์คเคิลมาผลิตที่โรงงานของบริษัทเอง โดยจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยเฉลี่ยลงตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 64 เป็นต้นไป

สำหรับตลาดในฟิลิปปินส์คิดเป็นสัดส่วน 20% ของพอร์ตรวม โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 64 ยอดขายยังเติบโตได้ดี แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะสูงกว่าประเทศไทย และ มีมาตรการล็อกดาวน์ แต่ผู้บริโภคในฟิลิปปินส์มีพฤติกรรมใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ช่วงเทศกาล shopping 6.6 และ 7.7 แบรนด์ของบริษัทติดอันดับผลิตภัณฑ์ขายดีทุกรายการทั้งสเนลไวท์ และ OXECURE

ในขณะเดียวกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา บริษัทยังเจาะตลาดด้วยแบรนด์สปาร์คเคิล ทั้งยาสีฟันแปรงสีฟัน และ น้ำยาบ้วนปาก โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ดังนั้นภาพรวมผลการดำเนินงานของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่า ยอดขายจะยังเติบโตได้ 20-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2564 บริษัทประเมินว่า ยอดขายจะฟื้นตัวได้ดีจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ตามการกระจายวัคซีน และ คาดว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะฟื้นตัวตามนโยบายรัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ฟื้นตัว ประกอบกับ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพ และ การปรับขนาดของผลิตภัณฑ์ให้คุ้มค่า คุ้มราคามากขึ้น ตลอดจนปิดดีลการควบรวมกิจการ (M&A) 1 ดีล ภายในสิ้นปีนี้ 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีแผนรองรับในส่วนกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางการขาย การออกผลิตภัณฑ์ และ การปรับขนาดผลิตภัณฑ์ เช่น แบรนด์ SOS ที่เป็นแบรนด์ได้รับความนิยมกลุ่มวัยรุ่นเกาหลี และ ญี่ปุ่น ซึ่งปกติแล้วราคาจะเฉลี่ย 200-300 บาท จึงปรับขนาดลงจาก 50 มิลลิลิตร ลงเหลือ 25-30 มิลลิลิตร เพื่อกระตุ้นยอดขายควบคู่กับการทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

รวมทั้งมีการออกแบบสินค้าใหม่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น แบรนด์ N Life Plus ได้แก่ โปรไบโอติก Ginger plus shot และผลิตภัณฑ์ดูแลผม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการในเทรนด์ปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคสนใจเรื่องสุขภาพมากกว่าความสวยงาม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร+Zinc ในรูปแบบสเปรย์เพื่อพ่นปากและ ลำคอ นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 64 และ ต้นปี 65 เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับกัญชงกัญชาเพิ่มเติมด้วย
#6150
อย่าเพิ่งยิงแอด ถ้ายังไม่เรียน คอร์สออนไลน์ 98 บาท