ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อสังหาริมทรัพย์ => Topic started by: Panitsupa on February 06, 2022, 11:39:26 AM

Title: BKD รุกปั้นแบรนด์ใหม่จับตลาดบ้านเศรษฐี
Post by: Panitsupa on February 06, 2022, 11:39:26 AM
BKD รุกปั้นแบรนด์ใหม่จับตลาดบ้านเศรษฐี (https://www.chainatnews.com/bblam-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2/) พร้อมมั่นใจปี 65 พลิกเป็นกำไร

นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอกเดค-คอน (BKD) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมกลับมาลุยธุรกิจเต็มรูปแบบในปี 65 ทั้งในส่วนของลูกค้าโครงการภาครัฐและเอกชน รวมทั้งกลุ่มลูกค้าบ้านเศรษฐี หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยล่าสุดบริษัทมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) แล้วราว 1.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์หันไปจับกลุ่มลูกค้าบ้านเศรษฐีที่มีกำลังซื้อสูง ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตที่ชัดเจน และบริษัทมีแนวคิดที่จะปั้นแบรนด์ใหม่ที่จับตลาดบ้านเศรษฐีโดยเฉพาะ ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นดำเนินการจดลิขสิทธิ์ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาส 1/65 หลังจากได้ส่งมอบงานตกแต่งเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูมูลค่า 200 ล้านบาทไปแล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจางานอีกกว่า 10 ราย

"BKD ยังมีงานรอรับรู้รายได้กว่า 1.5 พันล้านบาท และยังไปจับตลาดที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก กระแสตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดบริษัทได้รับชำระเงินค่าขายหุ้นน้ำประปาจากบริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์พาวเวอร์ จนครบถ้วน 550 ล้านบาทแล้ว ทำให้มั่นใจว่าปี 65 บริษัทจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้" นางนุชนารถ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าภาครัฐจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากโครงการลงทุนต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย โดยในส่วนของ BKD แม้จะได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่การดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเดินต่อไปได้โดยไม่มีการปลดพนักงาน เพราะยังมีรายได้ที่รอการรับรู้เข้ามาในอนาคต ส่งผลให้พนักงานมีงานทำได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ประกอบกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดมากพอที่จะรองรับการดำเนินธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนน้อยมากแค่ 0.2 เท่า ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นการค้า และหากสถานการณ์ต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัทก็พร้อมที่จะรับงานตกแต่งได้ทันที