• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#2921



นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.เตรียมวางจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนส.ค.นี้ โดยอคส.ได้ซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิลพบุรีฤดูกาลผลิตปี 63/64 จากวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวชุมชนบ้านคลอง ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จำนวน 40 ตันมาบรรจุเป็นข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ "อคส." หรือ "PWO" ขนาด 2 กิโลกรัม (กก.) วางจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร 

"ข้าวหอมมะลิลพบุรี มาจากแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิกลุ่มเดียวกับแปลงสาธิต ที่ได้กระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ไปทั่วประเทศ และเป็นข้าวที่อคส.เสาะหาจนพบแหล่งเพาะปลูก ที่ปลูกด้วยนาดินขาว ทำให้ได้ข้าวหอมมะลิ ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เมล็ดเรียวยาว เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมโดยธรรมชาติ หากเป็นข้าวต้นฤดู จะมียางมาก ทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม และมีความอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิภาคอีสาน" 


สำหรับช่องทางการตลาด จะเริ่มต้นวางขายที่ร้านค้าของอคส.ภายในกระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ก่อน และจะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกหลายแห่ง เช่น เดอะมอลล์, เทสโกโลตัส, และซีเจ คาดว่า จะวางขายได้เร็วๆ นี้ ส่วนราคาขาย เบื้องต้นจะขายราคาโปรโมชัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

นอกจากนี้ อคส. ยังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมการสื่อสารโดยใช้ QR Code เพียงผู้บริโภคสแกน QR Code  ที่ถุง ก็จะทราบเรื่องราวที่มาของข้าว ถือเป็น "ข้าวพูดได้" ถุงแรกของไทย และในระยะต่อไป จะพัฒนาให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของข้าวได้ ขณะเดียวกัน อคส. ยังจะประสานงานกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินกระบวนการยื่นคำขอจดทะเบียนข้าวหอมมะลิลพบุรี เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของไทยด้วย 

 นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อคส.ยังมีแผนจะซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิภูเขาไฟบุรีรัมย์ มาบรรจุถุงและทำตลาดเช่นกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ข้าวถุงของอคส. รวมถึงประสานกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำข้าวที่เป็นสินค้าจีไอรายการอื่นๆ มาบรรจุถุงขายด้วยเช่นกัน และยังมีสินค้าอื่นๆ อีก เช่น พริกจากเพชรบูรณ์, ลำไยจันทบุรี  

ส่วนข้าวสารบรรจุถุงของอคส. ที่ทำตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งข้าวขาว และข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และวางขายในร้านธงฟ้าทั่วประเทศ และห้างค้าปลีกสมัยใหม่บางแห่งนั้น ขณะนี้ ยอดจำหน่ายลดลงบ้าง เพราะผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19  

"ตอนนี้ อคส.ต้องเร่งสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยการขายข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง  แต่ก็ยังน่าจะขาดทุนอยู่ ซึ่งปีนี้ ประมาณการขาดทุนไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เพราะมีหนี้สงสัยจะสูญร่วม 200 ล้านบาท จากการขายสินค้าบางโครงการ ที่รักษาการผู้อำนวยการอคส.คนก่อนได้ดำเนินการไว้" 

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952125
#2922



แง้มให้รู้ว่ากำลังจะมีผลงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่อีกไม่นานสำหรับกลุ่มศิลปินร็อกมากฝีมือ 7Days Crazy นำโดย โบ๊ต-ธีรพล มาลัยวงศ์ (ร้องนำ), โต้ง-ศรายุทธ พรหมประสาท (กีตาร์) และ ไอส์-พิเชษฐ์ สุวรรณพันธุ์ (เบส) แต่ก่อนจะได้ไปฟังพร้อมกัน ช่วงนี้วงไม่ปล่อยให้แฟนๆ คิดถึงนาน เลยขอหยิบเอาเพลง "ฉันนอนไม่หลับ" ซิงเกิ้ลเปิดตัววงในค่ายข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาทำใหม่ในแบบฉบับอะคูสติกเวอร์ชั่นให้ฟังแบบสบายๆ กันก่อน


โบ๊ต-ธีรพล นักร้องนำเล่าถึงการทำงานเพลงนี้ว่า "เพลงนี้เราได้ลองเปลี่ยนสไตล์ดนตรีที่แปลกใหม่กว่าเดิมในแบบของวงเรา จากที่เราเคยทำเพลงแบบร็อกหนัก เพลงนี้ก็จะปรับให้มีจังหวะมากขึ้น แฟนๆ ก็ชอบกันนะครับ บอกว่าดนตรีเรามีสีสันมากขึ้น ฟังง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้วงเรายังมีเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ก็คือนแบบอะคูสติกเวอร์ชั่นมาให้ฟังกันด้วย ซึ่งสไตล์ดนตรีเวอร์ชั่นนี้เราพยายามตัดซาวน์พวกอิเล็กทรอนิกส์ออกไป เหลือไว้ในพาร์ทกีตาร์โปร่ง จะได้ฟังง่ายขึ้น ในเรื่องดนตรีจะเป็นโต้งมือกีตาร์ของเราเป็นคนขึ้นโครงเพลงมาก่อน แล้วทุกคนก็มาช่วยกันปรับให้ลงตัว ส่วนการร้องของผมก็เป็นฟิลสบายๆ ครับ จริงๆ เพลงนี้เราเตรียมงานกันมาซักพักแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รวมตัวกันยากหน่อย แต่เราก็พยายามทำเพลงออกมาให้ดีมากที่สุด ฝากติดตามด้วยครับ"
#2923



รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้ง ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่31 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม18,912 ราย เสียชีวิต 178 ราย ขณะที่มาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่28 ให้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่20 ก.ค.จะครบเวลาประเมินสถานการณ์อย่างน้อย14 วัน ตามประกาศ ในวันที่2 ส.ค.นี้ 

 ในวันที่1 ส.ค.นี้ เวลา13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)หรือศบค. จะเป็นประธานประชุมศบค. ครั้งที่11/2564 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผ่านระบบซูมจากบ้านพักกรมทหารราบที่1 


โดยจะพิจารณาวาระต่างๆ และมาตรการที่ประกาศตามข้อกำหนด ฉบับที่28 ที่มีผลบังคับใช้มาแต่วันที่20 ก.ค.โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่จะยังคงมาตรการไว้ต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ หากล็อกดาวน์เข้มข้นและมีประสิทธิภาพจะลดจำนวนการติดเชื้อลงได้ หากไม่ล็อกดาวน์ตัวเลขจะยิ่งพุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีหารือปรับระดับพื้นที่จ.สีแดงเข้ม เพิ่มเติมหลังพบว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการเดินกลับภูมิลำเนา


รวมถึงจะพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการ เช่น ขายอาหารในห้างสรรพสินค้า ให้ขายแบบเดลิเวอรี่สั่งกลับบ้านเท่านั้น โดยจะเข้มงวดมาตรการป้องกันส่วนบุคคลของพนักงานในครัวมากขึ้น นอกจากนั้นติดตามการจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มแรงงาน รวมถึงจัดสรรวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมาย และการติดตามความคืบหน้าหลังการปรับแผนการฉีดวัคซีน
#2924



นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยขยายตัวมากกว่า 20% และหลายสินค้าขยายตัวสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลไม้สด โดยปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยส่งออกผลไม้สดเป็นมูลค่า 2,896.87 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 42.21 % สินค้าส่งออกหลักขยายตัวอย่างโดดเด่น ได้แก่ ทุเรียน  58.24%    ลำไย 51.43%  มะม่วง   50.09%  กล้วย  18.59%  สัปปะรด  98.85%  ผลไม้จำพวกส้ม   374.75%  ลิ้นจี่  32.35%  ซึ่งตลาดส่งออกหลักยังคงเป็นตลาดจีน มีสัดส่วนกว่า  83 %ของการส่งออกผลไม้สดทั้งหมดของไทย นอกจากนี้ ยังมีตลาดอื่นๆ ที่ขยายตัวเช่นกัน อาทิ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย และเกาหลีใต้ เป็นต้น

การส่งออกผลไม้สดไปยังตลาดหลักสำคัญที่สุดอย่างจีน มีมูลค่า 6 เดือนแรกอยู่ที่ 2,425.52 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 71.11% ผลไม้สำคัญที่ไทยส่งออกไปจีน ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด ซึ่งมีการส่งออกไปยังหลายมณฑล โดยมณฑลที่นำเข้าผลไม้สดจากไทยมากที่สุด คือ มณฑลกวางตุ้ง มูลค่า 867.56 ล้านดอลลาร์ รองลงมาเป็นเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มูลค่า 743.01 ล้านดอลลาร์  และมหานครฉงชิ่ง มูลค่า 485.79 ล้านดอลลาร์  นอกเหนือจาก 3 มณฑลที่กล่าวมา ยังมีมลฑลสำคัญที่นำเข้าผลไม้จากไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยูนนาน เจ้อเจียง หูหนาน มหานครเซี่ยงไฮ้ และซานตง เป็นต้น

นายภูสิต กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของการส่งออกผลไม้ไทย แม้จะยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การส่งออกผลไม้ของไทยยังขยายตัวได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้สินค้าส่งออกสำคัญอื่นๆ เนื่องจากนโยบายการทำงานเชิงรุกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนของประเทศ ทำงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัดในฐานะเซลส์ของแมนจังหวัด จับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าจากต่างประเทศกับผู้ประกอบการสินค้าผลไม้ไทย ทั้งรูปแบบออนไลน์และไฮบริด การจับมือกับศูนย์การค้าและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของต่างประเทศ เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดให้แก่ผลไม้ไทย เช่น จัดงาน Thai Fruit Golden Months เพิ่มยอดขายในประเทศจีนได้กว่า  20%  การจัดงานเปิดตัวและจำหน่ายมะม่วงมหาชนกเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้


ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับศูนย์การค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต AEON, Donki, Itoyokado Store และ Beisia จำนวน 150 สาขา ในเมืองรองที่มีศักยภาพ และตลาดฮ่องกง ทูตพาณิชย์ฮ่องกงได้ติดต่อกับผู้นำเข้ารายใหญ่ของฮ่องกง จัดเจรจาธุรกิจสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้ผ่านระบบออนไลน์ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์จากไร่สวนของตนมายังผู้นำเข้าผลไม้ฮ่องกงได้โดยตรง ช่วยลดต้นทุนและทำให้เกษตรกรได้เรียนรู้ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการส่งออก เพื่อต่อยอดการส่งออกสินค้าเกษตรอื่นๆ ต่อไปในอนาคต 


นายภูสิต กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ VDO Conference เพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ โดยเฉพาะมังคุด โดยมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้ส่งออกผลไม้ ล้งผลไม้ ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรประจำประเทศจีน เนื่องจากขณะนี้ การส่งออกผลไม้ของไทยเผชิญปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณด่านชายแดนเข้าสู่ประเทศจีน ณ ด่านโหย่วอี้กวน ซึ่งทูตพาณิชย์ และทูตเกษตรได้เจรจากับทางการจีน ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยแล้ว รวมทั้งขอให้จีนขยายเวลาเปิดด่านให้นานขึ้น ขณะเดียวกัน ได้มีการเจรจากับเวียดนามให้ช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางหล่างเซิน ผ่านด่านหม่องก๋าย จังหวัดกว่างนิงห์ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวของเวียดนาม เป็นเส้นทางผ่านแดนของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยเข้าสู่จีน

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้แนะนำให้ผู้ส่งออกกระจายไปใช้ด่านตงซิน และด่านรถไฟผิงเสียง เพื่อลดความแออัดและลดปัญหาที่ผลไม้อาจจะเน่าเสียระหว่างการขนส่ง โดยเจ้าหน้าที่ด่านตงซิง และด่านรถไฟผิงเสียง พร้อมอำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกไทยให้สามารถขนส่งได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์และปัญหาการส่งออกอย่างใกล้ชิด

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952120
#2925



ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหนหรือไม่มีแดดเลยก็ควรต้องทาเพื่อป้องกันไม่ให้ผิว หน้าโดนทำร้ายจากแสงและยังช่วยปกป้องผิวจากสัญญาณทั่วไป เช่น ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ริ้ว รอย ดังนั้นขั้นตอนการทาครีมกันแดดไม่อาจละเลยได้ ซึ่งครีมกันแดดนั้นไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อื่น ๆ เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ หรือ เซรั่ม ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวภายในไม่กี่วินาที หลายคนมีปัญหาทาครีมกันแดดทุกวันแต่ทำไมผิวหน้าแอบไหม้ นั้นแปลว่าคุณกำลังทาครีมกันแดดผิดวิธี

ถึงครีมบำรุงจะมีส่วนผสมของเอสพีเอฟ แต่ก็อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดด ปัจจุบันแม้มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟมากมาย แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่ากับครีมกันแดด ถ้าสาว ๆ เห็นผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟก็อย่าชะล่าใจให้นำมาใช้ควบคู่กับครีมกันแดดจะดีที่สุด โดยเกลี่ยครีมกันแดดให้ทั่วหน้าแล้วรอให้ซึมเข้าสู่ผิว การทาครีมกันแดดให้ทั่วหน้าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่า หน้าจะได้รับการป้องกัน อย่างเต็มที่ ทาครีมให้ทั่วใบหน้า คอ หู และริมฝีปากแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจากนั้นรอให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อนสัก 20 นาที หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าต่อได้เลย หรือในวันสบาย ๆ ไม่อยากแต่งหน้าก็แค่ทาครีมกันแดดแล้วรอสัก 20 นาที ก็พร้อมออกจากบ้านได้เลย


ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เมื่อต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน! สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องอยู่กลางแจ้งและโดนแสงแดดโดยตรง จำเป็นมากที่ต้องทาครีมกันแดดซ้ำ ทุก 2-3 ชั่วโมง แต่ก็มีไม่กี่คนหรอกที่จะทากันแดดระหว่างวันจริงมั้ย? เพราะจะไปทำลายเครื่องสำอางของเรา แต่มีตัวเลือกที่สามารถทาครีมกันแดดระหว่างวันได้โดยไม่ทำร้ายเครื่องสำอางคือ การใช้สเปรย์กันแดด หรือสาว ๆ คนไหนที่แต่งหน้าหนาก็ให้ใช้แป้งฝุ่น ที่มีส่วนผสมของเอสพีเอฟแทนก็ได้นะ เห็นอย่างนี้แล้วการทาครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ต้องใช้เวลาให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก่อน

ถ้าอยากมีผิวที่สวยก็ต้องใจเย็นกันนะคะสาว ๆ

https:// www.dailynews.co.th/news/112279/
#2926


เริ่มปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว ในขณะที่หลายคนกังวลใจถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยสุขภาพชั้นนำของโลกบ่งชี้ว่า การออกกำลังกายช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และมีแนวโน้มช่วยให้ร่างกายเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น 50% หลังฉีดวัคซีน

"ดร.ร็อบ นิวตัน" ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์การออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยเอดิธ โคแวน ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศออสเตรเลีย บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนทำให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน แต่เนื่องจากเราจะมีเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้มากขึ้นเมื่อออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงช่วยให้การตอบสนองทรงพลังมากขึ้น สอดคล้องกับ "ดร.โรเบิร์ต อี" แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและการกีฬา จากศูนย์การแพทย์ "ไคเซอร์เพอร์มาเนนต์ ฟอนตานา" รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เผยว่า ผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเดิน 30 นาทีต่อวัน ต่อเนื่อง 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อ 37% อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพหลังฉีดวัคซีน

ผลการวิจัยของ "กลาสโกว์ คาเลโดเนียน ยูนิเวอร์ซิตี้" มหาวิทยาลัยใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร พบว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลให้ระดับแอนติบอดี้ อิมมูโนโกลบูลิน เอ (IgA) สูงขึ้น ซึ่งแอนติบอดี้นี้ทำหน้าที่ต่อต้านการติดเชื้อ โดยยับยั้งการเกาะติดของแบคทีเรียและไวรัสกับเซลล์เยื่อบุผิว จึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันปอดและอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ตอกย้ำว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ CD4+T ซึ่งมีบทบาทในการต่อสู้กับเชื้อโรคและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ด้าน "ศาสตราจารย์จิม ซัลลิส" จากสถาบันวิจัยสุขภาพ "แมรี่ แมคคิลลอป" มหาวิทยาลัยออสเตรเลียน คาทอลิก ยูนิเวอร์ซิตี้ วิจัยถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างการออกกำลังกายกับความสามารถในการป้องกันโควิด-19 ค้นพบว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอัตราการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงยังพบว่าอัตราการเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูของผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 10 นาทีต่อสัปดาห์


จะเตรียมความพร้อมยังไง ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด "ฟิตเนส เฟิร์สต์ ประเทศไทย" มีเทคนิคแนะนำ

1) ช่วง 2 วันก่อน และหลังการฉีดวัคซีน ควรงดออกกำลังกายหนัก เช่น คาร์ดิโอ, แอโรบิก และยกเวท

2) ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี

3) งดเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์

4) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง

5) หากมีไข้สูงก่อนฉีดวัคซีน ควรเลื่อนนัด

6) หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

7) หลังฉีดวัคซีนให้รอดูอาการ 30 นาที ถ้ามีไข้ปวดเมื่อยมาก สามารถกินยาพาราฯ 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ด ทุก 6 ชั่วโมง

8) ถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ให้กินตามปกติ แต่เมื่อฉีดวัคซีนแล้วให้กดตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที.

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2113595
#2927
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#2928



ราคาบิทคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์คอยน์เดสก์ เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันนี้ (31ก.ค.)ปรับตัวขึ้น 3.72% เคลื่อนไหวที่ 41,249.28 ดอลลาร์

การเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงเช้าวันนี้ของราคาบิทคอยน์ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลเยอรมนี ออกกฏหมายฉบับใหม่อนุญาติให้กองทุนรวมพิเศษ เข้าลงทุนเงินหนึ่งในห้าของพอร์ตที่เป็นคริปโตเคอร์เรนซีได้ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิสราเอล ก็เตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อยับยั้งการหลีกเลี่ยงภาษีและปิดช่องโหว่สำหรับการฟอกเงิน โดยจะกำหนดให้พลเมืองที่ถือเหรียญคริปโต ที่มีรวมมูลค่ามากกว่า 60,000ดอลลาร์ต้องแสดงข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสร่วง 8 เซนต์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวลง 8 เซนต์ ปิดที่ 73.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 2 เซนต์ ปิดที่ 76.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดจะยังคงเผชิญภาวะน้ำมันตึงตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากการเปิดเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ

นอกจากนี้ แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงเดือนธ.ค. แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่คาดว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน การที่อิหร่านออกแถลงการณ์ตำหนิสหรัฐว่าเป็นฝ่ายทำให้การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง ก็ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐจะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านต้องล่าช้าออกไป ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
#2929



จากการบรรยายพิเศษ Chula Pharma Talk เรื่อง "ประเด็นสำคัญในการเก็บและการเตรียมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech" ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ผศ.ภก.ดร.ปดินทร์ ติวสุวรรณ และ ผศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า วัคซีนโควิดชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech ที่สหรัฐอเมริกาจะบริจาคให้ประเทศไทยและจะส่งมอบสู่กลุ่มเป้าหมายคือบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าเพื่อพร้อมฉีดในต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้วัคซีนคงประสิทธิภาพจนได้รับการฉีดเข้าสู่ผู้รับวัคซีน มีข้อควรระวังทั้งในด้านการขนส่ง การเก็บรักษา ตลอดจนรายละเอียดในการเตรียมวัคซีน ผู้รับผิดชอบในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัคซีนต้องเตรียมการอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอุณหภูมิและการควบคุมห่วงโซ่ความเย็น เนื่องจากวัคซีนชนิด mRNA ต้องควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งที่ต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส และมีความคงตัวที่อุณหภูมิต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น เมื่ออยู่ที่ -70 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้จนถึงวันหมดอายุหรือประมาณ 6 เดือนหลังจากผลิต หากสถานพยาบาลที่รับวัคซีนมาไม่มีแหล่งที่สามารถเก็บวัคซีนไว้ได้ในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส วัคซีนที่ได้รับจัดสรรมาจะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้เพียง 31 วัน หรือ 1 เดือนนับจากวันที่เริ่มเก็บ และเมื่อวัคซีนถูกนำออกมาจากตู้เย็นและถูกเตรียมโดยการละลายและผสมเพื่อพร้อมจะฉีดแก่ผู้รับวัคซีนแล้ว ความคงตัวหลังผสมยาเสร็จจะเหลือเพียง 6 ชั่วโมงที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ดังนั้นในการบริหารจัดการต้องมีการวางแผนการดำเนินการที่รัดกุมเพื่อให้ผู้รับบริการรับวัคซีนได้ทันเวลา ลดโอกาสสูญเสียยาที่เตรียมแล้วอาจหมดอายุก่อนฉีด รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและแสง UV โดยตรงในระหว่างการเก็บรักษา แต่สามารถเตรียมผสมวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วในห้องที่มีแสงสว่างได้

ในการบรรยายพิเศษครั้งนี้ ผศ.ภก.ดร.ปดินทร์ และ ผศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดายังได้กล่าวถึงการเตรียมผสม เทคนิค รวมถึงอุปกรณ์ในการบริหารวัคซีนชนิด mRNA ที่แตกต่างจากวัคซีนโควิดชนิดอื่นที่เคยใช้ ผู้เตรียมและผู้บริหารยาต้องทราบและเพิ่มความระมัดระวังในการเตรียมวัคซีน เช่น ห้ามเขย่าวัคซีนโดยเด็ดขาด มีคำแนะนำให้ใช้เข็มดูดวัคซีนเป็นอันเดียวกันกับเข็มฉีดให้ผู้รับวัคซีนเพื่อลดการสูญเสียยาจากการเปลี่ยนเข็ม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการตั้งแต่การรับยา เก็บรักษา เตรียมผสม และฉีดยาจึงควรเตรียมการอย่างรัดกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมอุณหภูมิในแต่ละขั้นตอนอย่างดี เพื่อให้วัคซีนคงประสิทธิภาพสูงสุด
#2930


บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% โดยมีกำไรสุทธิ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% โดยมีปัจจัยจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ได้ถูกปิดสาขาชั่วคราว ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ โดยโฮมโปร ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งบนช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์จึงทำให้สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่ม

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมา 2 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2564 เท่ากับ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 16,154.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,330.14 ล้านบาท หรือ 16.86% เป็นผลจาก จำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งปิดสาขาชั่วคราวตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo เป็นต้น สำหรับยอดขาย "โฮมโปรมาเลเซีย" ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากคำสั่ง Lockdown ของรัฐบาลมาเลเซีย ในช่วงเดือน พฤษภาคม และเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าเช่า 302.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.70 ล้านบาท หรือ 42.17% เป็นผลจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ยังคงมีการปรับลดค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า ที่ยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19 และบริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นอีก 497.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.58 ล้านบาท หรือ 44.23% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าในสาขา

ทั้งนี้ บริษัทฯ มี กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,065.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 778.03 ล้านบาท หรือ 23.67% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 23.78% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.17% เป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากาไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนจัดซื้อสินค้าเช่นกัน

"สำหรับผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีผลกำไร 2,795.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 585.86 ล้านบาท หรือ 26.52% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 32,786.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,080.08 ล้านบาท หรือ 10.37% และ ณ ปัจจุบัน โฮมโปร มีสาขารวมทั้งสิ้น 86 สาขา โฮมโปรเอส 8 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา" นายคุณวุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่า

แม้สถานการณ์ยอดขายในไตรมาส 2 โดยรวมจะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายสาขาเดิมของทั้งธุรกิจโฮมโปรในประเทศ และธุรกิจเมกาโฮม ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนหน้า เนื่องจากฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาจากการปิดบางสาขาชั่วคราว รวมถึงในช่วงต้นเดือน เมษายน บริษัทฯ มีการจัดงาน HomePro Super Expo ผ่านช่องทาง E-commerce และทุกสาขาทั่วประเทศ แทนการจัดงานในรูปแบบเดิม

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯ ได้ปรับตัวเปลี่ยนแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะ จึงเพิ่มความสำคัญให้กับสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ที่คนยังต้องใช้ชีวิตในบ้าน หรือลดความเสี่ยงในการไปสถานที่ที่ผู้คนแออัด โดยมีการเพิ่มสินค้าในกลุ่มป้องกันและฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Work From Home และ Cooking at Home ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาช่องทางขายอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้การใช้งานสะดวกและง่ายขึ้นในส่วนของช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น แอปพลิเคชั่น HomePro Application และ Home Service Application

"นอกจากนี้ โฮมโปร ได้พัฒนาการให้บริการ Chat Shop4U ที่เสมือนมีผู้ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าและบริการในช่วงที่ลูกค้าไม่สามารถออกมาซื้อที่สาขาได้ โดยได้พัฒนาในส่วนของบริการขนส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ (Sameday Delivery) และในส่วนของการรับสินค้าที่สาขา (Click & Collect) นอกจากนี้ เนื่องจากการที่คนอยู่บ้านมากขึ้นทางบริษัทฯ ได้สร้างความน่าสนใจและสรรหาโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทาง social media ซึ่งการพัฒนา Omni Channel ในช่องทางออนไลน์เหล่านี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่ยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 และเป็นตัวช่วยเสริมรายได้ไตรมาส 2 ให้ยังสามารถเติบโตได้เช่นกัน".
#2931



เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการให้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ได้ดำเนินการพัฒนาสถานีรถไฟฟ้า "MRT บางซื่อ" ให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน กับ "สถานีกลางบางซื่อ" เพื่อให้ประชาชนสามารถเปลี่ยนระบบการเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว อันเป็นการพัฒนาระบบราง เพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างศักยภาพของสถานีกลางบางซื่อให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางให้ต่อเนื่องทั้งระบบ

โดยก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อกับบริเวณทางเดินชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 จุด ซึ่งทางเดินเชื่อมต่อจุดที่ 1 จะอยู่บริเวณทางเดินผู้โดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ และทางเดินเชื่อมต่อจุดที่ 2 จะอยู่บริเวณชั้นจำหน่าย บัตรโดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ  

ปัจจุบัน รฟม. ได้เร่งรัดการก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อทั้ง 2 จุด ให้แล้วเสร็จเร็วกว่าที่แผนงานกำหนด และเตรียมเปิดให้บริการในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เพื่อรองรับการเปิดทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วง บางซื่อ – รังสิต และช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน และสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทั้งจัดเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกภายในระบบรถไฟฟ้า MRT เพื่อรองรับการเดินทางเชื่อมต่อของผู้โดยสาร อาทิ การจัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ เครื่องออกเหรียญโดยสารอัตโนมัติ (Automatic Ticket Vending Machine  หรือ TVM) ห้องออกบัตรโดยสาร (Ticket office) ประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (Automatic Fare Collection Gate หรือ AFC GATE) ป้ายประชาสัมพันธ์/ป้ายบอกทางไปยังสถานีกลางบางซื่อ (ทางออกที่ 3) ลิฟต์ บันได บันไดเลื่อน เป็นต้น พร้อมทั้งเพิ่มจุดตรวจคัดกรองรักษาความปลอดภัย และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยตลอดระยะเวลาให้บริการ 


ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเดินทางจากรถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเพื่อเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน หรือเดินทางต่อไปยังรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เพื่อเข้าสู่พื้นที่ปริมณฑล อันเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่รอบนอกและพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานครที่สะดวกสบาย บรรเทาปัญหาการจราจรและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม.  โทร.  0 2716 4044
#2932



นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ความต้องการในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง พิสูจน์จากความสำเร็จในการ Sold out ปิดการขายโครงการ "1517 NIMMAN" (1517 นิมมาน) เชียงใหม่ จากความโดดเด่นของโครงการ ดีไซน์การออกแบบ สุดยอดทำเลที่ตั้งไข่แดงใจกลางย่านนิมมานฯ ราคาและศักยภาพโครงการที่ลูกค้าเชื่อมั่น ให้การตอบรับเพื่อลงทุนในอนาคต โดยโครงการ 1517 นิมมาน เป็น Co - Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจ และการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต


บนสุดยอดทำเลไข่แดงใจกลางย่านนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่นับเป็นย่านศูนย์รวมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ บูทีคโฮเทล รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกและแหล่งเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในแง่การลงทุนและการมองหาบ้านหลังที่สองในไทยที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี โดยเฉพาะชาวจีน และตอบโจทย์ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มองหาโลเคชั่นศักยภาพในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อประกอบธุรกิจและ ผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองในย่านชั้นนำของเชียงใหม่ ตลอดจนกลุ่มผู้ลงทุนทั้งภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ที่มีความมั่นใจในเรื่องทำเลและผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึง 6 - 7% ต่อปี เทียบจากอัตราค่าเช่าอาคารพาณิชย์ในย่านนิมมานฯ ในปี 2564 ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นจากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดเมืองท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ที่คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ทำเลย่านถนนนิมมานฯ มีแนวโน้มราคาอสังหาฯ เติบโตพุ่งสูงขึ้นในทุกๆ ปี และส่งผลให้โครงการ 1517 นิมมาน Sold out ปิดการขายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดตัวโครงการได้เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดเชียงใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากการปิดการขาย Sold out รวดทั้งดีคอนโด ริน และ ดีคอนโด พิงค์ รวมถึงการพัฒนาทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วกว่า 10 โครงการในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างยอดขายแนวราบล่าสุดเป็น 13,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้ายอดขายแนวราบ 20,000 ล้านบาท พร้อมแผนการรุกตลาดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในปี 2565


ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต มีทิศทางที่ดีจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในโมเดล "ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์" ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก โดยล่าสุดมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 9,358 คน สร้างรายได้ 534 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนในธุรกิจต่างๆ ก็เร่งพลิกฟื้นธุรกิจภายหลังจากที่ประเทศต้องฝ่าวิกฤตโควิด–19 มามากกว่า 1 ปี ภาคธุรกิจโรงแรมเดินหน้าต่อ พนักงานเอกชนเริ่มมีรายได้กลับมา 100% และความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัว ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีจากเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ อาทิ พัทยา ที่เริ่มเดินหน้าโครงการ "พัทยา มูฟ ออน" เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศพื้นที่สีเขียว 61 ประเทศ วันที่ 1 กันยายนนี้ และ "หัวหิน แซนด์บ็อกซ์" ที่ดีเดย์เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 ตุลาคมนี้

แสนสิริมองถึงทิศทางข้างหน้า ที่ต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาดก่อนการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร ภายใต้ "ความพร้อมในการปรับแผนรองรับในทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา" โดยบริษัทมีแผนรองรับดีมานต์ที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัด อาทิ  

ช่วงเวลาที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัย  #โปรSAVEทั้งเกาะ

ขณะที่กลยุทธ์ในการรุกตลาดภูเก็ต รองรับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หมดห่วงเรื่องผ่อน สบายใจเรื่องกู้ เข้าอยู่แบบมีเงินติดกระเป๋า กับ แพ็คเกจโปรโมชันพิเศษ ที่พร้อมเซฟคนภูเก็ตทุกทาง   #โปรSAVEทั้งเกาะ  2 โครงการบ้านและทาวน์โฮมภูเก็ต อณาสิริ ป่าคลอก โครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ในทำเลศักยภาพใหม่และแบบบ้านใหม่ สไตล์ European Cottage ฟังก์ชันครบ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5 - 8 ล้านบาท และ สิริ เพลส แอร์พอร์ต ทาวน์โฮม สไตล์ LOFT ใกล้สนามบินและหาดไม้ขาว ราคาเริ่มต้น 1.99 - 3 ล้านบาท ไม่ต้องผ่อนสูงสุดถึง 12 เดือน พร้อมเงินติดกระเป๋าสำหรับการแต่งบ้านให้อีกสูงสุด 300,000 บาท* แถมโปรพิเศษ อีก 3 ต่อ* รับแพ็คเกจช่วยโอน* ค่าส่วนกลาง* ค่าจดจำนอง*

ขณะที่เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอน ที่มียอดโอนไปแล้วกว่า 80% สวยงามด้วยกลิ่นอายการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมเพอรานากันแห่งภูเก็ต จองเพียง 999 บาท* ไม่ต้องผ่อน อยู่ฟรี 1 ปี ได้คืนสูงสุดถึง 350,000 บาท* มีเงินนำไปแต่งห้อง ทำธุรกิจ หรือเก็บเป็นเงินสำรอง ได้ตามใจคุณ เป็นเจ้าของห้องวิวดี ยูนิตสวยได้ง่ายๆ ในราคาเริ่มเพียง 2.09 ล้าน* ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้า*

สำหรับโครงการ "ลา ฮาบานา" (La Habana) หัวหิน คอนโดมิเนียมตากอากาศสุดชิค พร้อมเข้าอยู่ สีสันใหม่ใจกลางหัวหิน ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายโครงการไปแล้วถึง 80% จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในทำเลหัวหิน มีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการได้ง่ายขึ้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท ฟรีโอนและค่าส่วนกลาง 10 ปี ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้แสนสิริยังเตรียมโอน EDGE Central Pattaya (เอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา) คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา ดีไซน์โดดเด่นในธีม ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่งให้ครบ ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่ม 3.99 ล้านบาท* ในวันที่ 4 - 5 กันยายนนี้ ตอกย้ำความมั่นใจถึงดีมานต์การเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคตอีกด้วย


"แสนสิริมองว่าตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ในที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการได้จริง ทั้งนี้จากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิริในตลาดต่างจังหวัดและความเชื่อมั่นของลูกค้า ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น ราคาที่เข้าถึงง่าย สะท้อนความเชื่อมั่นในการเป็น "แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน" ด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ ตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัยและความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัย จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าเมืองท่องเที่ยวยังคงให้ความเชื่อมั่นแสนสิริในการเปิดโครงการในอนาคต

นอกจากนี้ แสนสิริยังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าสูงสุด ทั้งความมั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการภายใต้มาตรการดูแลความสะอาดและนวัตกรรมความปลอดภัยสูงสุดในทุกสำนักงานขายคอนโดฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือเลือกซื้อและจองโครงการแบบออนไลน์ได้ทุกช่องทางกับ Sansiri Multi-Channel ครบทุกช่องทาง


ตั้งแต่การเลือกซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว ด้วย "Sansiri Virtual Sales Gallery" เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงแบบ Online บน www.sansiri.com ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่สะดวก ในรูปแบบ PRIVATE TOUR ชมบรรยากาศแบบ 360 องศา พร้อมพนักงานที่คอยแนะนำโครงการและตอบทุกคำถามเหมือนมาเยี่ยมชมโครงการจริงด้วยตัวคุณเอง ชมโครงการได้ทั้งบนมือถือ, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก พร้อมแชร์ VIRTUAL TOUR ชมโครงการไปพร้อมกับครอบครัวหรือเพื่อนได้แบบ REAL TIME แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถจองคอนโดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 24 Hrs. Online Booking  

เกาะติดทุกข่าวสารที่ www.sansiri.com สนใจโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล @Sansiriplc, หรือ Inbox ผ่านเฟซบุค Sansiri PLC. รวมถึง อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร. 1685 หรือเลือกนัดหมายเยี่ยมชมโครงการแบบ "Private Tour" เฉพาะครอบครัวคุณได้ที่โครงการที่ให้ความเชื่อมั่นด้วย "WE ARE VACCINATED" ทีมงานแสนสิริทุกคน รวมทั้งพนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว พร้อมการเดินหน้าช่วยประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19 ก้าวไปพร้อมกันด้วย "แสนสิริและสังคม..คนละครึ่ง" ภายใต้ "Sansiri Care...เพราะเราห่วงใย" ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมของแสนสิริในปีนี้" นายอุทัย กล่าว
#2933



โรคโควิด-19 ที่ระบาดมาเป็นปีๆ มีขึ้นมีลงไปหลายระลอก จนบริษัทยาต่างๆ ต้องรีบทำวิจัยวัคซีนออกมาหยุดยั้งการระบาด สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดให้ได้

เฉพาะในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียว ก็มีบริษัทยาเป็นสิบๆ แห่งที่ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 หลายแห่งยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มี 2 แห่งใหญ่ๆ ที่ได้วัคซีนประเภท mRNA ออกมาใช้ในภาวะฉุกเฉินและได้รับความนิยมทั่วโลก อย่าง ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ส่วนที่จะตามมาในปีหน้า โดยมุ่งหมายจะเป็นวัคซีนตัวบูสเตอร์ ต้านเชื้อร้ายที่กลายพันธุ์ ยังมี โนวาแวกซ์

ขณะที่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 ชนิด ไวรัลเวคเตอร์ อย่างแอสตรา ซีเนกา ส่วนประเทศต้นทางของเชื้อโควิด-19 อย่างจีน ผลิตวัคซีนโดยอาศัยเชื้อตายออกมา ทั้งชิโนแวค และชิโนฟาร์ม

เรามาทำความรู้จักหน้าค่าตาของผู้นำบริษัทยาเหล่านี้กัน...



:: อัลเบิร์ต บูร์ลา - ไฟเซอร์

บริษัทยาอเมริกันที่มีรายได้เป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยที่มาของรายได้ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐเอง 52% กับอีก 6% จากจีนและญี่ปุ่น และ 36% ที่เหลือจากที่อื่นๆ ทั่วโลก



ประธานบริษัทไฟเซอร์ อัลเบิร์ต บูร์ลา เป็นสัตวแพทย์ชาวกรีก เข้ามาร่วมงานกับไฟเซอร์ในปี 1993 โดยได้ทำงานบริหารแผนกต่างๆ ของบริษัทหลายแผนก ก่อนจะขึ้นเป็นกรรมการบริษัทและเป็นประธานในที่สุด

อัลเบิร์ต ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มาเปลี่ยนโฉมหน้าของการผลิตยา โดยเฉพาะการไม่เบียดเบียนสัตว์ รวมทั้ง การพยายามต่อสู้ด้านราคาและสิทธิบัตรยา ซึ่งเขาเห็นว่า มีความสำคัญในการค้นคว้าวิจัยยาอื่นๆ ในอนาคต และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในความร่วมมือกับ ไบออนเทค ของเยอรมนี ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยเขาเป็นผู้ผลักดันให้ทีมวิจัยเร่งทำงานให้เร็วขึ้น



:: สเตฟาน บองเซล - โมเดอร์นา

บริษัทยาอเมริกันในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ ที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งชื่อโมเดอร์นา ก็มาจากเทคโนโลยีในการผลิต nucleoside-modified messenger RNA (modRNA) นั่นเอง

ก่อนหน้าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาเคยผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอชไอวี และอื่นๆ มาแล้วกว่า 24 ชนิด พวกเขามี สเตฟาน บองเซล มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสนั่งเป็นซีอีโอ



สเตฟานจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยปารีส-ซาคเลย์ วิทยาเขตซองทรัลซูเปเลค และที่มหาวิทยาลัยมินเนโซตา นอกจากนี้ยังได้เอ็มบีเอจากฮาร์วาร์ด บิซิเนส สกูล อีกด้วย

เขาเริ่มงานครั้งแรกด้วยการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย ของบริษัทยาอเมริกัน อีไล ลิลลี แอนด์ โค. โดยไปประจำอยู่ที่สาขาเบลเยียม ก่อนจะย้ายไปเป็นซีอีโอของบริษัทยาฝรั่งเศส ไบโอเมริเยอร์ซ และเข้ามาเป็นซีอีโอของบริษัท โมเดอร์นา ในปี 2011

ว่ากันว่า หลังจากการทดลองเฟส 2 ของวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา หุ้นที่สเตฟาน บองเซล ถืออยู่ก็มีมูลค่าพุ่งไปกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ก็อย่าได้ไปพูดถึง



:: ลิฟ โยฮันสัน + ปาสกัล โซริโอต์ - แอสตราซีเนกา

บริษัทร่วมทุนอังกฤษ-สวีเดน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในคณะชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อังกฤษ ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 พวกเขาอาศัยเทคโนโลยีจากการวิจัยของออกซ์ฟอร์ด ที่เป็นวัคซีนแบบไวรัล เวคเตอร์ หรือจำลองดีเอ็นเอของตัวเชื้อไวรัสขึ้นมา ให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาต้านทาน

นักธุรกิจชาวสวีเดน ลิฟ โยฮันสัน นั่งในตำแหน่งประธานของแอสตราซีเนกา โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นประธานและซีอีโอของวอลโว กรุ๊ป และเคยเป็นประธานบริษัท อีริคสัน เขาจัดว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลลำดับที่ 6 ของสวีเดน

ลิฟ จบปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในโกเตนเบิร์ก เขาทำงานในอุตสาหกรรมของสวีเดนมาตลอดชีวิต เริ่มจากเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทมอเตอร์ไซค์ฮุสกวานา เคยเป็นซีอีโออีเลคโทรลักซ์ และเป็นประธานกับซีอีโอของวอลโว ประธานบริษัท อีริคสัน ก่อนจะมาเป็นประธานของแอสตราซีเนกา



บุคคลสำคัญของแอสตราซีเนกาอีกคน คือ ปาลกัล โซริโอต์ ที่เพิ่งได้รางวัลสุดยอดซีอีโอโลก 100 ของนิตยสารฮาร์วาร์ด บิซิเนส รีวิว ในปี 2019 โดยดูจากผลประกอบการ รวมทั้งการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ปาลกัล ได้รับยกย่องว่า เป็นผู้ปฏิวัติการทำงานในแอสตราซีเนกา เขาดูแลพนักงานฝ่ายต่างๆ กว่า 60,000 ให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการตอบสนองความคาดหวังของคนในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19

ปาลกัล ศึกษาจบด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ ก่อนจะศึกษาเพิ่มเติมด้านเอ็มบีเอ ในปี 1986 เขาเข้าทำงานในบริษัท รุสเซล ยูคลัฟ บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฝรั่งเศส ในตำแหน่งพนักงานขายโดยไปประจำอยู่ในออสเตรเลีย แล้วย้ายไปประจำที่กรุงโตเกียว

ในปี 2000 เขาย้ายไปบริษัท อะเวนติส สหรัฐ ตามด้วย โรช ฟาร์มา ในปี 2006 และได้ขึ้นเป็นซีอีโอในปี 2010 Ffp.oxu 2012 ได้กลายมาเป็นซีอีโอของแอสตาซีเนกา บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก



:: สแตนลีย์ เอิร์ค - โนวาแวกซ์

วัคซีนที่คาดกันว่าจะเป็นความหวังของมนุษยชาติ ผลิตโดยบริษัทยาอเมริกันในแมรีแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคอีโบลา ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอาร์เอสวี มาแล้ว

สแตนลีย์ เอิร์ค ประธาน ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทโนวาแวกซ์ บริษัทยาเกิดใหม่วัย 10 ปี ของอเมริกา เห็นว่า วัคซีนโควิด-19 เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทเติบโต และก้าวไปในแนวทางที่ต้องการ แม้ว่าในขณะนี้ยังมีเครือข่ายไม่มากพอ ทำให้การวิจัยพัฒนาไม่ราบรื่นเท่าที่ควร

สแตนลีย์ จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย ชิคาโก บูธ เขาเชี่ยวชาญด้านเชื้อโรคและภูมิคุ้มกันหมู่ จากประสบการทำงานที่ผ่านๆ มาของเขาในหลายๆ แห่ง ก่อนหน้าจะมาก่อตั้งโนวาแวกซ์



:: อินเว่ยตง - ชิโนแวค ไบโอเทค

วัคซีนเชื้อตายเมดอินไชน่า ที่กลายเป็นข้อถกเถียงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก

ชิโนแวค ไบโอเทค มี อินเว่ยตง นั่งเป็นประธาน หลังจากจบทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในบ้านเกิดแล้ว เขาก็ไปเรียนต่อทางด้านไวรัสวิทยาที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ จึงไม่แปลกที่จะเข้าทำงานอยู่ในสายการผลิตยามาโดยตลอด ตั้งแต่ ชิโนไบโอเวย์ กรุ๊ป ถังซาน ไบโอเอนจิเนียริง และชิโนแวค ไบโอเทค

ก่อนหน้านี้ เขาเคยประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส รวมทั้งไข้หวัดใหญ่ และกวาดรางวัลทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของจีนมามากมาย
#2934



ความไม่แน่นอนของดิน ฟ้า อากาศ ส่งผลให้เกษตรกรของไทยเสียโอกาสที่จะได้ผลผลิตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย  รวมถึงผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าจากแรงงานที่ลงทุน และยังส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยติดกับดักอยู่กับการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งการแก้ปัญหาความไม่แน่นอนหลาย ๆ ด้านที่เกษตรกรต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านฤดูกาล ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หรือการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรจะทำให้เกษตรกรมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


วันนี้ "เอ็นไอเอ" ได้จุดประกายความว้าวจาก 3 สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนา "ดีพเทค" ด้านเกษตรกรรมที่สามารถช่วยพี่น้องเกษตรกรให้รอดพ้นจากสภาพปัญหาความไม่แน่นอน พร้อมเปิดมิติใหม่ทางนวัตกรรมที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมหลักของประเทศก้าวไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยเริ่มกันที่ ดร.มหิศร ว่องผาติ ประธานกรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด ผู้ริเริ่มโครงการระบบวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยโดรนแบบ TAILSITTER เล่าว่า จากปัญหาผลผลิตตกต่ำของเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่พบว่า ในแต่ละปีเกษตรกรได้ผลผลิตจากการปลูกอ้อยต่ำมาก ทำให้ผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยพบว่าปัญหาที่ส่งผลให้ผลผลิตในแต่ละปีต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือเกษตรกรวางแผนการตัดอ้อยในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมทำให้ค่าน้ำตาลในต้นอ้อยต่ำกว่าค่ามาตรฐาน

จนเกษตรกรขายอ้อยได้ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน รวมไปถึงการที่เกษตรกรไม่สามารถตรวจสอบจุดที่อ้อยล้มและไม่เจริญเติบโตได้ เนื่องจากการปลูกอ้อยแต่ละครั้งจะปลูกเป็นจำนวนหลายไร่ การใช้แรงงานคนในการตรวจสอบไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้แต่ละปีเกษตรกรไร่อ้อยได้รับผลผลิตไม่มากพอ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกษตรกรกำลังเผชิญ ทางบริษัทจึงได้ทำระบบการวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกษตรไม่สามารถทำได้ด้วยตาเปล่า

 โดยการทำงานของระบบจะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายโดยโดรน ซึ่งมีความละเอียดสูงทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลให้อ้อยเจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ รวมไปถึงตรวจหาบริเวณที่อ้อยล้มหรือไม่เจริญเติบโตเพื่อทำการปลูกทดแทน โดยปกติเกษตรกรจะไม่สามารถมองได้จากระดับสายตา เนื่องจากอ้อยที่โตแล้วจะสูงถึง 2-3 เมตร ดังนั้นการใช้ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรนจึงสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างดี ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้ในพื้นที่จ.อุทัยธานี และจ.ขอนแก่น โดยมีพื้นที่ที่ใช้บริการเฉลี่ยแล้วกว่า 50,000 ไร่ และพบว่าเกษตรกรสามารถส่งอ้อยไปขายได้ราคาดีมากยิ่งขึ้น  โดยบริษัทคาดหวังว่าระบบนี้จะช่วยให้เกษตรกรรมเพาะปลูกอ้อยมีความแม่นยำ สามารถช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตต่อพื้นที่ รวมไปถึงสามารถกะระยะเวลาในการตัดอ้อยได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยในประเทศไทยได้ดีมากยิ่งขึ้น


ต่อกันที่ นางสาวรัสรินทร์ ชินโชติธีรนันท์ ประธานกรรมการบริษัท  บริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด ผู้ริเริ่มระบบบริหารจัดการการเพาะปลูกข้าวแบบรวมกลุ่มด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีและภาพถ่ายจากดาวเทียม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการมาจากปัญหาของเกษตรกรที่ปลูกข้าวและมักจะได้ผลผลิตต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งจากการเก็บข้อมูลทำให้เราพบว่า สภาพดินเป็นตัวแปรหลักในการสร้างผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้มีการวางแผนตรวจสอบสภาพดินผ่านระบบฟาร์ม AI ให้แก่เกษตรกรที่ทำนาข้าว โดยการเก็บตัวอย่างดินและนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อหาว่าดินในที่นาแต่ละแปลงของเกษตรกรจะต้องปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสม นอกจากการตรวจสภาพดินแล้ว ทางบริษัทได้มีการเก็บบันทึกข้อมูลพร้อมทั้งจัดทำโมเดล เพื่อทำการวิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ ประเมินประสิทธิภาพการเจริญเติบโตแบบอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลกรณีฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในดินจากน้ำฝน รวมไปถึงมีระบบการเตือนอัตโนมัติในพื้นที่ที่การเจริญเติบโตต่ำด้วยระบบ AI ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นช่วยให้เกษตรมีข้อมูลมากพอสำหรับนำไปวางแผนเพราะปลูกข้าวได้อย่างเหมาะสมมากกว่าการคาดคะเนจากประสบการณ์ของตัวเกษตรกรเอง   


โดยปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีที่นาเข้าร่วมการทดสอบประมาณ 200 ไร่ มีทั้งเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบดั้งเดิม และเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบอินทรีย์  เป้าหมายหลักในการทำโครงการครั้งนี้ทางบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระบวนการทำนาข้าวให้แก่เกษตรกร ตั้งแต่การเริ่มต้นปลูกข้าวไปจนถึงการหาช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการเกษตรกรรมไม่ว่าจะเป็นการซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ข้าว สารเคมี ให้ได้ประมาณ 20 % จากรายจ่ายเดิมที่เกษตรกรต้องจ่าย สำหรับช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลนั้น ผู้เพาะปลูกสามารถเข้าถึงได้ทางแอปพลิเคชันฟาร์มเอไอ-เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บและรายงานข้อมูลผ่านบน Web Dashboard สำหรับให้วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ เกษตรจังหวัดได้เข้าไปไปใช้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกข้าวเพื่อนำไปวางแผนในการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าให้แก่เกษตรกรผู้ทำนาข้าวต่อไป


ปิดท้ายกันที่บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ แอปพลิเคชันที่จะช่วยเกษตรกรจัดการกระบวนการเพาะปลูกอย่างครบวงจร โดยนายอุกฤษ อุณหเลขกะ กรรมการผู้จัดการบริษัท รีคัลท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตนเองและทีมต้องการเห็นเกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะจากการหาข้อมูลก่อนที่จะเริ่มทำสตาร์ทอัพ พบว่ามูลค่าการเกษตรในประเทศไทยสูงมาก และประเทศไทยมีคนประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่ทำไมเกษตรกรยังคงมีรายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ดังนั้นตนจึงอยากยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีเหมือนในต่างประเทศ

โดยทางบริษัทจึงเริ่มต้นเก็บข้อมูล และศึกษาปัญหาที่เกษตรกรไทยจะต้องเผชิญทุกปี ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาสภาพอากาศเป็นตัวแปรสำคัญในการทำเกษตรกรรม รวมไปถึงช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลด้านการเกษตรที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ ขึ้นมา เพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นทาง โดยเริ่มจากการเช็คปริมาณฝนซึ่งแอปฯสามารถคำนวณได้ล่วงหน้านานกว่า 9 เดือน  การวิเคราะห์ปัญหาที่เกษตรกรจะต้องเผชิญในแต่ละช่วงฤดู ไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวและขายสินค้าทางการเกษตร โดยเกษตรกรสามารถบริหารจัดการกระบวนการทำการเกษตรผ่านแอปพลิคชันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  


นายอุกฤษ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ามาใช้บริการแอปพลิคชันมากกว่า 4 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ทำพืชไร่ เช่น นาข้าว ไร่อ้อย มันสำปะหลัง และจากการติดตามผลพบว่าระบบสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้มากขึ้นกว่า 30 % นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บข้อมูลของเกษตรกร และเชื่อมโยงข้อมูลกับโรงงานอุตสาหกรรม หรือธนาคาร เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างถูกกฎหมาย เกษตรกรไม่ต้องอาศัยการกู้เงินนอกระบบเพื่อมาลงทุน นอกจากนี้ ในอนาคตยังจะมีการขยายบริการด้านการเกษตรให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อปุ๋ยผ่านแอปพลิเคชัน การเรียกใช้งานโดรนฉีดพ่น และช่องทางการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซได้ด้วย
#2935



นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า บทบาทหน้าที่หลักของดีพร้อม คือ การเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพภาคการผลิตให้อุตสาหกรรมไทย โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ดีพร้อมได้เร่งดำเนินการ คือ การบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล รวมทั้งสถานประกอบการที่มีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง จะต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ทั้งในด้านการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การจัดการการขนส่ง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด


จากแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ดีพร้อมจึงได้เดินหน้าเร่งผลักดันโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดรวมถึงการเพิ่มความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันขององค์กร การพัฒนาระบบมาตรฐานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานสากลของโลก เพื่อให้มีศักยภาพและได้ผลสัมฤทธิ์ต่อการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ รวมไปถึงการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

ซึ่งต้นทุนโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก 1. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Inventory Holding Cost) ได้แก่ ต้นทุนการถือครองสินค้าคงคลัง (Inventory Carrying Cost) และต้นทุนการบริหารคลังสินค้า (Warehousing Cost) 2. ต้นทุนการขนส่งสินค้า (Transportation Cost) และ 3. ต้นทุนการบริหารจัดการ (Administration Cost) นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสำหรับสถานประกอบการใน 3 มิติหลัก ๆ คือ ต้นทุน เวลา และความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ


ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญของโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก คือ 1. กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. กิจกรรมพลิกธุรกิจด้วยโลจิสติกส์กับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ (Business Rebirth by Logistics (BRL))  3. กิจกรรมเสริมสร้างความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ดำเนินการโดยการ Coaching การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง (Supply Chain Network) และสร้างความร่วมมือในโซ่อุปทานทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอุตสาหกรรม 4. กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) สัญจรขยายผลความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาค 5. กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับบุคลากร

"ดีพร้อมตั้งเป้าในการดำเนินงานในปี 2564 คือการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการลดลงคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาทซึ่งสถานประกอบการเป้าหมายในปี 2564 อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนโลจิสติกส์สูง ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและพลาสติก ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางพาราและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และสถานประกอบการ เช่น เกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลรวมถึงดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 170 กิจการ และพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมให้มีทักษะและองค์ความรู้ด้านจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่นำไปใช้ได้จริงไม่ต่ำกว่า จำนวน 100 ราย" ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
#2936
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี
#2937



ภายหลังจากที่ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าพร้อมสละสัญชาติเกาหลีใต้ เพื่อที่จะรับสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย และบุคคลในรัฐบาลขานรับพร้อมพิจารณากรณีดังกล่าว

โดย "โค้ชเช" ที่มารับงานคุมทีมชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 ได้ถูกทาบทามจากหลายชาติด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่า หลังทำผลงานกับทีมชาติไทยอย่างยอดเยี่ยม ทว่าเจ้าตัวก็ปฏิเสธไป เนื่องจากทำใจไม่ได้ที่จะไปฝึกให้นักกีฬาชาวต่างชาติมาแข่งขันกับลูกศิษย์ของตนเอง

ทั้งนี้ผลงานในโอลิมปิกเกมส์ ของนักกีฬาไทย ภายใต้การดูแลของ "โค้ชเช" ประกอบด้วย

- เยาวภา บุรพลชัย เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ
- บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
- ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองโอลิมปิก ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยก่อนหน้ามีการเปิดเผยว่า "โค้ชเช" ได้ชื่อสำหรับรับสัญชาติไทย คือ "ชัยศักดิ์" อย่างไรก็ตาม ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เผยว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ชื่อ ชัยศักดิ์ อย่างที่เข้าใจกัน โดย โค้ชเช มาปรึกษาขอให้ตั้งชื่อไทยให้ ซึ่งผมเห็นว่าควรให้พระตั้งให้ จึงไปกราบเรียน "เจ้าคุณธงชัย" หรือ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี แห่งวัดไตรมิตรฯ นำวันเดือนปีเกิดไปตั้งให้ ซึ่งตอนนี้ได้เหรียญทองโอลิมปิกกลับมาก็จะกลับไปขอชื่อไทยกับท่าน

ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยด้วยว่าก่อนเดินทางไป "โตเกียวเกมส์" ครั้งนี้ ทีมเทควันโดของไทย ได้เข้าพบ "เจ้าคุณธงชัย" โดยได้รับมอบยันต์มาทั้งทีม ซึ่งตัว "โค้ชเช" เผยว่าตนได้พกติดตัวไปด้วย และระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้นำมาลูบหน้า "น้องเทนนิส" ก่อนที่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก บอกให้ลูบที่เกราะลำตัวด้วย

ซึ่ง "โค้ชเช" ยอมรับว่าเขาได้ภาวนาว่า ขอให้น้องเทนนิส ทำอะไรก็ได้คะแนน และคู่ต่อสู้ทำอะไรน้องเทนนิสไม่ได้อีกด้วย
#2938



นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ได้รับแจ้งจากบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทถือหุ้นทางตรง และ ทางอ้อมรวมเป็นจำนวน 35% ว่า เตรียมรับเงินค่าชดเชยจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นเงินกว่า 1.6 พันล้านบาทภายในเดือนส.ค.นี้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงและยื่นต่อสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว

ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชำระเงิน 1,654,604,627.54 บาท ให้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี นับจากวันฟ้องจนถึง 10 เม.ย. 2564 ต่อจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 3% บวกเงินเพิ่มอีก 2% จนถึงวันชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วัน ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น


โดยที่ประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากได้มีมติชำระหนี้กรณีสัญญาจ้างบริการระบบเกมสลากให้แก่ ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค ดังนี้ 1. ชำระหนี้จำนวน 1,654,604,627.54 บาท ภายในเดือนสิงหาคม 2564

2. ชำระดอกเบี้ยจำนวน 444,745,338.27 บาท ภายในปีงบประมาณ 2565 โดยชำระงวดแรกภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 งวดที่สองภายในวันที่ 4 มกราคม 2565 งวดที่สามภายในวันที่ 1 เมษายน 2565 และงวดที่สี่ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยแบ่งจ่ายงวดละเท่า ๆ กัน
#2939


ลูกา ดอนซิช ซูเปอร์สตาร์ของ สโลวิเนีย ทาบสถิติคะแนนสูงสุดอันดับ 2 ของการแข่งขันบาสเกตบอลชายระดับ โอลิมปิก เกมรอบแบ่งกลุ่ม เอาชนะ อาร์เจนตินา ขาดลอย 118-100 วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม

ในการแข่งขัน โอลิมปิก ของ สโลวีเนีย ครั้งแรก ดอนซิช ปิดสกอร์ 31 แต้ม เฉพาะครึ่งแรก และมีโอกาสทำลายสถิติสูงสุดของ ออสการ์ ชมิดท์ ตำนานยัดห่วงบราซิเลียน 55 แต้ม เมื่อปี 1988

การ์ดสังกัด ดัลลัส มาเวอริกส์ แทบไม่ต้องทำอะไรมากมายช่วงครึ่งหลัง เนื่องจาก สโลวิเนีย ทิ้งห่างไปไกล แต่ยังคงอยู่บนสนามถึงควอเตอร์ 4 และทาบสถิติของ เอ็ดดี ปาลูบินสกัส ที่ทำไว้ 48 แต้ม เมื่อปี 1976 ที่เมืองมอนทรีอัล

ดอนซิช วัย 22 ปี ยังมีเวลาเพียงพอ สำหรับทำลายสถิติ ก่อนออกมานั่งพัก ทว่าไม่อยากทำคะแนนเพิ่ม "ผมไม่สนใจเรื่องสถิติ เราได้ชัยชนะ และนั่นคือเป้าหมายที่เรามาที่นี่"

สโลวีเนีย ยังไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วม โอลิมปิก กระทั่งช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีมระดับลุ้นเหรียญ ด้วยความโดดเด่นของ ดอนซิช บนสังเวียน เอ็นบีเอ (NBA)

ขณะที่ อาร์เจนตินา แชมป์ป๊ 2004 อาศัย หลุยส์ สโคลา อดีตผู้เล่นระดับ NBA แบกทีม 23 แต้ม และ ฟาคุนโด คัมปาซโซ การ์ด เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เสริม 21 แต้ม 6 รีบาวน์ด 4 แอสซิสต์ สถิติชนะ 0 แพ้ 1
#2940



นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และกรรมการ บริษัท สยาม ทาโก้ จำกัด กล่าวว่า ชลบุรีนับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยวตลอดมา โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนชลบุรีสูงถึง 19 ล้านคน และราว 9.7 ล้านคน จะต้องแวะไปเที่ยวที่พัทยา ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 (COVIDd-19) เศรษฐกิจของเมืองพัทยาก็ยังขับเคลื่อนต่อไปได้ ด้วยกำลังซื้อของผู้สูงอายุชาวต่างชาติหลายพันคนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่

ร้านทาโก้ เบลล์ สาขาพัทยา เป็นสาขาสำคัญ เพราะเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการนอกเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการขยายสาขาของทาโก้ เบลล์ ประเทศไทย



นายเฉลิมชัย กล่าวว่า "บริษัทฯ ยินดีอย่างยิ่งเมื่อมีโอกาสขยายฐานลูกค้าของทาโก้ เบลล์ ไปในเมืองใหญ่และในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศอีกจำนวนไม่น้อย บริษัทฯ จึงไม่รีรอที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์ใหม่แก่บรรดาลูกค้าที่หลงใหลอาหารแนวเม็กซิกันที่นี่ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยจัดจ้านของอาหารเม็กซิกันที่เป็นเอกลักษณ์ของทาโก้ เบลล์ โดยร้านทาโก้ เบลล์ สาขาพัทยา ตั้งอยู่ที่ชั้น G ศูนย์การค้ารอยัล การ์เด้น พลาซ่า บนถนนเลียบชายหาดพัทยา ซึ่งเดินทางไปมาสะดวก และในโอกาสฉลองเปิดร้านทาโก้ เบลล์ พัทยา ก็ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ซื้อชุดคอมโบ 1 ชุด รับฟรี ครั้นชี่ ทาโก้ (Crunchy Taco) 1 ชิ้น จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564"

ร้านทาโก้ เบลล์ สาขาพัทยา โดดเด่นด้วยศิลปะการตกแต่งที่บ่งบอกถึงปรัชญาของแบรนด์ ทาโก้ เบลล์ ที่กล่าวว่า 'Live Más' ('จงใช้ชีวิตอย่างเต็มที่') ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ในการรับประทานอาหารสไตล์เม็กซิกันที่มาควบคู่กับรสชาติอร่อยเด็ดลงตัวกับทุกเมนูยอดนิยมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นครั้นชี่ ทาโก้ ซูพรีม (Crunchy Taco Supreme™) ครั้นช์แรป ซูพรีม (Crunchwrap Supreme™) ชิกเก้น เคซาดิญ่า (Chicken Quesadilla™) กริลด์สตัฟท์ เบอร์ริโต้ (Grilled Stuft Burrito™) โล้ดเด้ด นาโช่ (Loaded Nachos™) และอีกหลากหลายเมนู ทางร้านยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้บริการลูกค้า อาทิ Wi-Fi และจุดชาร์จอุปกรณ์เคลื่อนที่ และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ร้านเป็นรูปแบบครัวเปิดที่ลูกค้าสามารถยืนชมพนักงานจัดเตรียมอาหารของตนเองได้อย่างสบาย



"เนื่องจากผู้บริโภคชาวพัทยาชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ทาโก้ เบลล์ สาขาพัทยา มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูง และอาจจะกลายเป็นสาขาหลักของทาโก้ เบลล์ ในภาคตะวันออกต่อไปในอนาคตก็ได้ เมื่อมีการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง" นายเฉลิมชัย กล่าวเสริม
ทาโก้ เบลล์ ยึดหลักปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับสากล และพร้อมส่งมอบบริการแบบไร้สัมผัสให้แก่ลูกค้าทุกท่าน

ขณะนี้ ร้านทาโก้ เบลล์ ยังสามารถเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 21.00 น. สำหรับลูกค้าที่สั่งซึ้อกลับบ้าน โดยปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการของจังหวัดชลบุรีอย่างเคร่งครัด และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม ข่าวสาร และโปรโมชั่นของ Taco Bell ได้ที่ Facebook: facebook.com/TacoBellTH, IG: @TacoBellTH, Twitter: @TacoBellTH และ Line: @TacoBellTH


ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาโก้เบลล์ เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ปั๊มคาลเท็กซ์ประชานุกูล(บจก.ซี.แทรคเอนเนอร์ยี่)และถือเป็นสาขาแรกที่ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันเนื่องจากสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักที่มีผู้สัญจรไปมาหนาแน่นมากในแต่ละวัน
ทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ที่จะต้องเดินทางไปทำงานในเขตอื่นๆ จึงคาดว่าจะมียอดการสั่งซื้อกลับบ้านเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทฯ เห็นว่าทาโก้ เบลล์ สาขานี้มีศักยภาพที่จะเป็น "Delivery Hub"ในพื้นที่บริเวณแถบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่โรคโควิด-19 (COVID-19)ยังคงแพร่ระบาด และผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารที่บ้าน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ยอดการสั่งดีลิเวอรีของทาโก้ เบลล์ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในปี2564 บริษัทฯ จึงได้วางเป้ายอดขายจากดีลิเวอรีให้เพิ่มขึ้นเป็น 25% ของยอดขายทั้งหมด