• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Naprapats

#6391



สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นวีคของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา จากรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD เลยก็ว่าได้ เพราะออร่าความบลิ้งค์ประกายซะจนไปนั่งใจหัวใจแฟน ๆ ไอดอลไทยหลายต่อหลายคน

ล่าสุดความฮอตของสาวซีโมนแผ่กระจายไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมาทางรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้จัดทำซับไทเทิ้ลภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาใจแฟนคลับจากแดนปลาดิบให้พวกเขาได้อรรถรสในการรับชมอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจบ EP.8 ปุ๊บก็มีชาวญี่ปุ่นแสดงความเห็นเกี่ยวกับความน่ารักสดใสของซีโมน-ปุณณาสา ผ่านช่องทางโซเชียลอย่างคึกคัก



"ซีโมนจัง" โดนท้าแล้วก็จริงแต่พอได้ดูเพอร์ฟอร์มละ คงไม่มีคู่แข็งปรากฏตัวแล้วมั้ง คือมันสุดยอดมากจริง ๆ แถมน่ารักขึ้นด้วย"



"ซีโมน" นี่อายุ 14 จริง ๆ ใช่ไหม การแสดงเหมาะกับการเป็นดารานักแสดงมากเลย พอบวกกับออร่าเซนเตอร์ของ "ต้นน้ำ" กับความเป็นไอดอลของ "ม่านมุก" 3 คนนี้ผู้ท้าชิงน่าจะเริ่มหนีกันแล้วมั้ง



"อายจัง" น่าจะเลือกท้าผิดคนไปหน่อย พอ "อายจัง" เดินออกมานึกว่าจะท้า "ตาล" ซะอีก แต่กลายเป็น "ซีโมน" ซะงั้น เพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" คือมันสุดยอดมาก เหมือนทำให้ทั้งสตูกลายเป็นคอนเสิร์ตของตัวเองเลย เท่มาก



เพอร์ฟอร์มนี้เหมือนโดนดูดเข้าไปในโลกของ "ซีโมน" เลย คงไม่น่าจะตกแล้วมั้ง

- (คอมเม้นตอบ) พอดูเพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" ละกลัวเลย ไม่น่ามีผู้ท้าชิงมาท้าแล้วแหละ ดูมีของและอะไรซ่อนอยู่อีก สุดยอด



ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบลีลาการร้องเพลง "นักมายากล" ของ ซีโมน ปุณณาสา เท่านั้น แต่วงดนตรีฝีมือเก๋าเจ้าของบทเพลง "นักมายากล" อย่าง "พาราด็อกซ์" ได้แชร์คลิปการแสดงของซีโมนผ่านเฟสบุ๊คของวง เช่นเดียวกับวงร็อคชื่อดังอย่าง "เคลียร์" แชร์คลิปที่ ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1 ร้องเพลง "กระโดดกอด" ของวง "เคลียร์" ผ่านเฟสบุ๊คของวงด้วย

และในวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคมนี้ ห้ามพลาดกับการลงสนามชิงชัยครั้งแรกของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย กับผู้ท้าชิงคนที่ 11 ศึกครั้งนี้ใครจะอยู่ใครจะไป ติดตามได้ทางช่อง 7 HD เวลา 12.30-13.30 น.

และพิเศษสุดสามารถรับชมเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท้นต์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น True ID นอกจากนี้ยังสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่นชอบที่สุด 5 อันดับ ตลอดรายการ เพื่อเดบิวต์เป็นยูนิตพิเศษ True 5G Special Unit ง่ายๆ เพียงกด *472* ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่อชอบ ตามด้วย # แล้วกดโทรออก หรือโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น True Money Wallet และยังสามารถใช้ทรูพอยท์ร่วมโหวตได้อีกด้วย สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันที่ 3 ต.ค. 64 เวลา 24.00 น. เท่านั้น
#6392



การระบาดของ "โรคโควิด-19" ระลอกใหม่ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ขยายพื้นที่สีแดงเข้มให้มาครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี ในขณะที่หลายฝ่ายต้องการให้ภาครัฐดำเนินการคู่ขนานในการวางแผนเตรียมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับหลังการระบาด 

รวมทั้งเมื่อการระบาดเริ่มคลี่คลายจะทำให้ประเทศไทยสามารถเตรียมดึงการลงทุนและการท่องเที่ยวใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้อย่างเต็มที่ทันที โดยเฉพาะการเตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาในการจัดทำโครงการ

ปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้เวลาช่วงจังหวะนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่เพียงเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพราะเราไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะจบเมื่อไร และจบแบบไหน สิ่งที่ควรจะทำในขณะนี้คือเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและยังไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ในช่วงเวลาปกติ บางโครงการต้องใช้เวลานานทั้งขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ ระยะเวลาดำเนินการ

สำหรับเมืองท่องเที่ยวในอีอีซี เช่น เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ควรต้องเร่งดำเนินการในหลายเรื่องนอกเหนือจากที่มีการพัฒนาชายหาด

บริเวณอ่าวนาจอมเทียน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคตะวันออกซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายประเด็นเช่น ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ปัญหาการจราจร การซ่อมแซมถนน ระบบการระบายน้ำ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

"ผมมองว่าขณะนี้ช่วงเวลาเป็นช่วงเวลาที่ดีในการที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงกฎหมาย แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โครงการต่างๆ ที่ค้างท่อ โครงการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวควรเร่งทำให้เสร็จ อะไรที่ควรทำก็ทำ ไม่ใช่เปิดประเทศแล้วค่อยมาเริ่มทำ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นหากจะทำอาจก็ไม่ทันการณ์แล้ว"


วิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคมให้เร่งปรับปรุงชายฝั่งทางทะเลเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการต่อเนื่องของกรมเจ้าท่า ในการบูรณะชายฝั่งในพื้นที่ภาคตะวันออกและเป็นแหล่งธุรกิจภาคการท่องเที่ยว

"ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้ดำเนินการเสริมทรายชายหาดพัทยา เพื่อเพิ่มพื้นที่บริเวณชายหาดให้กว้างขึ้น เหมาะแก่การทำกิจกรรม และสนับสนุนการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี" 

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจึงได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องบริเวณหาดจอมเทียนเพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ และยังอยู่ระหว่างจัดสรรงบประมาณปี 2565 เพื่อศึกษาเสริมทรายชายหาดบางเสร่เพิ่มเติม

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับชายหาดบางเสร่ที่กรมเจ้าท่า เตรียมศึกษาการเสริมทรายชายหาด อยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้ชายหาด "บางเสร่" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างสัตหีบและหาดจอมเทียน โดยเป็นชายหาดติดถนนที่เดินทางสะวด มีความยาวของชายหาด 1,500 เมตร รวมทั้งมีการพัฒนาพื้นที่ชายหาดรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมต่อกัน

วิทยา กล่าวว่า สำหรับชายหาดจอมเทียน ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ภาคพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.จึงได้ประสานขอให้กรมเจ้าท่าดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยิ่งหนัก! พบเสียชีวิตสูง 178 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 18,912 ราย
เคาะ! 'ประกันโควิด' ป่วย-ตายที่บ้าน เคลมค่ารักษาพยาบาลได้
'3กูรูเศรษฐศาสตร์' ชี้ 3 เดือน ไทยเผชิญความเสี่ยง สาธารณสุขล่ม - ศก.ทรุด - ตกงานพุ่ง 
อีกทั้งการรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2552 ได้ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยตะวันออก และจัดให้พื้นที่ชายหาดจอมเทียนเป็นพื้นที่กัดเซาะรุนแรงต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ส่งผลให้ในปี 2557 กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี

โดยมีพื้นที่ศึกษาตลอดแนวชายหาดจอมเทียน ความยาว 6.2 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณหน้าร้านอาหารลุงไสวถึงบริเวณแนวโขดหินหน้าสวนน้ำพัทยาปาร์ค วอเตอร์เวิล์ด ระยะที่ 1 มีความยาว 3,575 เมตร และ ระยะที่ 2 มีความยาว 2,855 เมตร

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนระยะที่ 1 มีระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.2563–พ.ย.2565 รวมระยะเวลา 900 วัน วงเงินราว 586 ล้านบาท โดยแหล่งทรายที่จะนำมาใช้เสริมบริเวณชายหาดจอมเทียนนำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเลประมาณ 15 กิโลเมตร ปัจจุบันเริ่มเสริมทรายชายหาด ตั้งแต่โรงแรมจอมเทียนชาเล่ต์จนถึงโรงแรมยู จอมเทียน พัทยา มีผลการดำเนินงานคิดเป็น 4.39%

อย่างไรก็ดี ภายหลังโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนแล้วเสร็จ จะช่วยบูรณะฟื้นฟูชายหาดจอมเทียนให้กลับมาสวยงาม และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายหาดจอมเทียน สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ ให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป
#6394

  

แรงบันดาลใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคน หรือสร้างอนาคตให้ใครสักคน อาจมีที่มาหลากหลายแหล่ง หนังสือสักเล่ม เพลงสักเพลง หรือหนังสักเรื่อง เช่นเดียวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งเติบโตมาเป็นศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ของโลก มาจากฉากเดียวในหนังดังเรื่องหนึ่ง

จอห์น เมเยอร์ ในวัย 8 ขวบ หลงใหลเสน่ห์ของกีตาร์จากการดู ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ในบท มาร์ตี แม็คฟลาย เล่นกีตาร์ในหนัง Back to the Future แต่กว่าจะได้จับกีตาร์จริงจังก็ตอนอายุ 13 ปี และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เริ่มฟังเพลงบลูส์จากศิลปินระดับตำนาน อย่าง บี.บี. คิง, บั๊ดดี กาย, อัลเบิร์ท คิง, โอทิส รัช, เฟร็ดดี คิง, ไลก์ทนิน' ฮ็อปกินส์ จนถึง สตีวี เรย์ วอห์น

เมเยอร์ เริ่มเรียนกีตาร์พื้นฐานจากเจ้าของร้านขายกีตาร์ในบริดจ์พอร์ท, คอนเนตทิคัต บ้านเกิด และเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ดิ่งลึกกับดนตรี เขาตั้งวงเล่นดนตรีร็อกกับเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยม ก่อนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์คลี แต่เพียง 2 ภาคเรียน เมเยอร์ ก็ตัดสินใจทิ้งการเรียนมุ่งหน้าสู่อาชีพดนตรีเต็มตัว

หลังจากตระเวนเล่นหาเลี้ยงชีวิตตามผับบาร์ เมเยอร์ ก็ได้ทำผลงานชุดแรกเป็นอีพี.ออกขายอิสระชื่อ Inside Wants Out ซึ่งเป็นที่มาของการได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ ในเวลาต่อมา

Room for Squares เป็นอัลบั้มแรก ออกในปี 2002 ไม่เพียงเป็นอัลบั้มขายดี ยังได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก และทำให้ เมเยอร์ ได้รางวัล แกรมมี่ สาขานักร้องชายยอดเยี่ยมจากเพลง "Your Body Is a Wonderland"

Heavier Things อัลบั้มที่ 2 ออกในปีถัดมา แม้ยอดขายจะไม่เท่าอัลบั้มแรก แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นเหนือกว่าทุกด้าน ติดอันดับ 1 บนตาราง บิลล์บอร์ด 200, คำวิจารณ์บวกจากสื่อยักษ์ใหญ่ทุกแห่ง และเพลง "Daughters" ได้รางวัลใหญ่สุดของ แกรมมี่ คือรางวัลเพลงแห่งปี

เมเยอร์ ไม่เพียงได้การยอมรับจากผู้ฟัง บรรดาศิลปินอาวุโสในทางบลูส์และแจ๊ซมากมายก็ให้ความชื่นชมเขา โดยเฉพาะในฐานะมือกีตาร์ฝีมือเยี่ยม ทำให้ เมเยอร์ ได้ร่วมเล่นกับศิลปินเหล่านั้นมากมาย ขณะเดียวกันเขาเองก็ขยายขอบเขตดนตรีของตนด้วยการร่วมงานกับศิลปินร่วมรุ่นต่างแนวทาง ทั้งป็อป, ร็อค, ฮิป-ฮอป ฯลฯ



ในปี 2005 เมเยอร์ ตั้งวง จอห์น เมเยอร์ ทริโอ เพื่อออกตระเวนทัวร์คอนเสิร์ต เป็นวงที่ฮือฮากันมากเพราะสมาชิกอีก 2 คนนั้น จัดเป็นสุดยอดนักดนตรีที่ฝากฝีมือไว้ในการบันทึกเสียงให้ศิลปินนับพันๆ นั่นคือ พิโน พาลลาดิโน มือเบส และ สตีฟ จอร์แดน มือกลอง ทั้งสามออกอัลบั้มแสดงสด Try! มาชุดหนึ่งก่อนแยกย้ายกัน

เมเยอร์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ออกอัลบั้ม, ออกทัวร์ และรับเชิญไปบันทึกเสียงหรือขึ้นคอนเสิร์ทจากเพื่อนศิลปินมากหน้าหลายตา อัลบั้มที่ตามติดมา Continuum (2006), Where the Light Is (2007) และ Battle Studies (2009) ยังรักษาระดับความสำเร็จทุกด้านไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินดนตรีจะรักษาความต่อเนื่องได้ขนาดนี้

หลังจากอัลบั้ม Born and Raised ออกในปี 2012 เมเยอร์ ก็ประสบปัญหาส่วนตัว ซึ่งมีผลทำให้ต้องยกเลิกการทัวร์ทั้งหมด แต่ระหว่างที่หยุด เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เพราะกลางปี 2013 เขาออกอัลบั้มใหม่ Paradise Valley ซึ่งพลิกแนวดนตรีไปเป็นโฟล์ค-ร็อคและคันทรี่-ร็อค จากนั้นก็ออกทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มทั้งสองควบกัน ยาวไปจนถึงปี 2015

ปี 2016 ขณะที่เริ่มทำเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่ เมเยอร์ ก็ไปรวมตัวกับอดีตสมาชิกวง เกรทฟูล เดด ตั้งวงขึ้นมาเพื่อออกแสดงคอนเสิร์ทในนาม เด๊ด แอนด์ คอมพานี ซึ่งมีเป็นระยะๆจากปี 2016-2018 ระหว่างช่วงเวลานี้ เมเยอร์ ก็ออกอัลบั้ม The Search for Everything (2017)

และกลางเดือนกรกฎาคม 2021 นี้ เมเยอร์ ออกอัลบั้มล่าสุด Sob Rock เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอชุดที่ 8 ของเขา โดยพลิกแนวอีกครั้งไปเป็นซอฟท์-ร็อคแบบเวสต์โคสต์ที่นิยมกันในทศวรรษ 1970-1980

เมเยอร์ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพและด้านจิตใจตั้งแต่วัยรุ่น แต่มีคนไม่น้อยพยายามวิเคราะห์ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของเขา ถ้ามองภาพกว้างๆจะพบว่า เมเยอร์ มีคุณสมบัติครบเครื่องของการเป็นดารา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา, ทักษะทางดนตรีชั้นเลิศ และเสียงร้องที่ไพเราะ

แต่ถ้ามองลึกลงไป เพลงของ เมเยอร์ จับความรู้สึกของผู้ฟังได้ดี เขาไม่พยายามเขียนเพลงที่เข้าถึงยากเกินไป เป็นอารมณ์ที่มีอยู่ในคนทั่วไป และที่สำคัญ ผลงานทุกชิ้นของเขาไม่ถูกปล่อยผ่านออกมาสู่สาธารณะอย่างลวกๆ ผ่านกระบวนความคิดที่แน่นอนมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในแนวร็อคอเมริกัน, บลูส์ หรือคันทรี่-ร็อค และด้วยท่วงทำนองฟังไม่ยาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เปิดกว้างกับการรับดนตรีแนวต่างๆ และพร้อมหาประสบการณ์จากการร่วมงานกับคนอื่นๆทุกครั้งที่พร้อม

ยิ่งกว่านั้น ใครที่ติดตามมาพอสมควรและช่างสังเกต จะพบว่า จอห์น เมเยอร์ ใช้สื่อเก่งมาก โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง

ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ https:// siamrath.co.th/n/266350
#6395
สอนทำการตลาดออนไลน์ แบบจับมือทำ
#6396
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#6397



แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ตามปกติเที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ หลังเคลีย์พัสดุคงค้างในศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยเรียบร้อย ยืนยันลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการชดเชยอย่างแน่นอน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ในทุกสาขาทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการทุกคนมั่นใจในความปลอดภัย

บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจร พร้อมเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ทั่วประเทศนับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ภายหลังก่อนหน้าได้รับคำสั่งปิดศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยจากคณะกรรมการโรคติดต่อ ในส่วนพัสดุตกค้างที่อยู่ในศูนย์ฯวังน้อยจะสามารถเคลีย์ได้ทั้งหมดภายในวันที่ 30 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ภายในศูนย์กระจายพัสดุ และในสาขาอื่นๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะสุขอนามัยของพนักงานที่เข้ารับส่งพัสดุถึงหน้าบ้านลูกค้าผู้ใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

ทั้งนี้มาตรการชดเชยให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีปิดศูนย์ฯ มีรายละเอียด ดังนี้
1) ตามประกาศของบริษัทฯ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 พัสดุที่ถูกจัดส่งระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ถึงเที่ยงคืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ระบบจะดำเนินการคำนวณพัสดุที่มีระยะเวลาอยู่ที่ศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) นานเกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินค่าขนส่ง 100% สำหรับพัสดุที่ลูกค้าปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของปัญหาจากศูนย์กลางกระจายพัสดุ ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าตีกลับไปยังผู้ส่งต้นทาง และสำหรับพัสดุบางส่วนที่ถูกรับฝากส่งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และบริษัทฯ ทำการตีกลับคืนผู้ส่ง ทางบริษัทฯ จะคืนเงินค่าขนส่ง 100%

2) ค่าชดเชยรวมทั้งหมดตามข้างต้น หากเกินกว่า 500 บาท จะทำการชดเชยในรูปแบบของเงินสดผ่านแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส โดยสามารถทำการถอนเงินสดจากแอพไปยังธนาคารใดก็ได้ หากน้อยกว่า 500 บาทจะชดเชยในรูปแบบของคูปอง 20 บาท ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ดำเนินการส่งคูปองให้ สำหรับคูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสของท่านก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 1 สิงหาคม 2564

3) คูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ที่ใช้ในการจัดส่งพัสดุ (ท่านสามารถใช้บัญชีลูกค้าทั่วไปหรือบัญชีลูกค้าธุรกิจในการเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส และตรวจสอบที่แอพพลิเคชั่น แฟลช-โปรไฟล์) หากบัญชีผู้ใช้เป็นของแพลตฟอร์มจะดำเนินการโอนเข้าเบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่งที่ผูกไว้กับบัญชีผู้ใช้ของแฟลช เอ็กซ์เพรส (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ผู้ส่งเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสเพื่อตรวจสอบ)

4) ผู้รับปลายทางที่พัสดุได้รับผลกระทบข้างต้น จะได้รับคูปองมูลค่า 10 บาท จำนวน 5 ใบ ต่อจำนวนพัสดุที่ได้รับผลกระทบ 1 ชิ้น ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือน (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับพัสดุเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส เพื่อตรวจสอบ)

5) ตั้งแต่ที่บริษัทฯได้มีการออกประกาศ เราได้ดำเนินการเคลมสินค้าเสียหายอย่างเร็วที่สุด สำหรับพัสดุที่เสียหายหรือสูญหายทั้งหมดที่ยังไม่ได้ดำเนินการในช่วงเวลาประกาศที่ผ่านมา บริษัทฯจะดำเนินการทั้งหมดในวันที่ 30 และ 31 กรกฎาคม 2564 โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯจะทำการแจ้งเตือนให้มีการเคลมพัสดุ (ท่านสามารถยื่นเคลมได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส)

6) การใช้งานคูปองทั้งหมดไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดของจำนวนพัสดุขั้นต่ำและมูลค่าขนส่งขั้นต่ำ เมื่อมีการส่งพัสดุจะถูกใช้เป็นส่วนลดโดยอัตโนมัติ โดย 1 พัสดุต่อ 1 คูปองส่วนลด ระยะการใช้งานภายใน 6 เดือน
หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1436 และทาง FaceBook Fanpage: Flash Express และดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.flashexpress.co.th และแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส
#6398



จากการเปิดจุดฉีดวัคซีนให้กับคนพิการกว่า 5,000 คน ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ระหว่างเวลา 08.00 – 16.00 น. โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)พบว่า ต่างได้รับความชื่นชมจากคนพิการ ผู้สูงอายุ และญาติที่ไปรับวัคซีน ในการบริหารจัดการที่เป็นระบบ รวดเร็ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มาคอยอำนวยความสะดวกที่มีความสุภาพ

ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจคนพิการที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันนี้ โดยนางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดี พก. ได้นำเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มาอำนวยความสะดวก เพื่อให้คนพิการที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้รับความดูแลอย่างทั่วถึง

การให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดสรรโควตาวัคซีนโควิด-19 ให้ กรม พก. กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่จิตอาสาในการให้บริการแก่คนพิการด้วย
 
#6399



Webometrics จัดอันดับ เป็นที่ 1 ในกลุ่มมทร.ทั้ง 9 แห่ง อันดับ 25 ประเทศ และอันดับ 2,990 โลก

รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) เปิดเผยว่า มทร.อีสาน เป็นมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เน้นผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพเพื่อเข้าไปตอบโจทย์การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสโลกที่เปลี่ยนไป มทร.อีสาน ได้รับนโยบายจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภา มทร.อีสาน ให้มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศในด้านการพัฒนาเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งจากการขับเคลื่อนอย่างเต็มกำลังในการเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลที่สอดรับกับการพัฒนาประเทศนั้น ส่งผลให้ มทร.อีสาน คว้าแชมป์มหาวิทยาลัยคุณภาพจากการจัดอันดับของ Webometrics Ranking of World Universities ซึ่งจัดทำโดย Cybermetrics Lab หรือ Internet Lab ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยของสภาวิจัยแห่งชาติ ประเทศสเปน มีการประกาศผลการจัดอันดับเว็บไซต์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.webometrics.info โดยได้จัดอันดับเว็บไซต์เพื่อวัดผลงานทางวิชาการที่มีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตนอกเหนือจากผลงานที่มีการตีพิมพ์ลงในวารสารหรืออื่น ๆ วัดความสามารถในการเป็น "มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ (E-university)" ซึ่งมีมหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้าร่วมการจัดอับดับทั้งสิ้น 11,987 แห่ง



สำหรับการจัดอันดับของ Webometrics Ranking of World Universities มีการประกาศผลการจัดอันดับเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ในเดือน มกราคม และเดือน กรกฎาคม ซึ่งจากการประกาศผลรอบล่าสุด มทร.อีสาน สามารถครองแชมป์มหาวิทยาลัยคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องถึง 3 สมัย ในการเป็นอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ทั้ง 9 แห่ง โดยผลการจัดอันดับ เดือนกรกฎาคม 2564 มทร.อีสาน ได้รับการจัดอันดับที่ 25 ของประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 2,990 ของโลก ซึ่งในรอบที่ผ่านมาเดือน มกราคม 2564 อยู่อันดับที่ 25 ของประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 3,179 ของโลก และเดือน กรกฎาคม 2563 อยู่อันดับที่ 25 ของประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 2,939 ของโลก



นอกจากนี้ หากเทียบผลการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ในครั้งนี้ พบว่า มทร.อีสาน อยู่อันดับที่ 25 ของประเทศ มทร.ธัญบุรี อันดับที่ 35 ของประเทศ มทร.พระนคร อันดับที่ 42 ของประเทศ มทร.ล้านนา อันดับที่ 46 ของประเทศ มทร.รัตนโกสินทร์ อันดับที่ 47 ของประเทศ มทร.ศรีวิชัย อันดับที่ 49 ของประเทศ มทร.ตะวันออก อันดับที่ 50 ของประเทศ มทร.กรุงเทพ อันดับที่ 54 ของประเทศ และ มทร.สุวรรณภูมิ อันดับที่ 59 ของประเทศ ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่า มทร.อีสาน แม้ว่าจะอยู่ในอันดับที่ 25 ของประเทศติดต่อกัน 3 ครั้ง แต่ในครั้งล่าสุดนี้ มทร.อีสาน ได้ก้าวกระโดดในการพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาในการผลิตผลงานวิจัย ผลงานบริการวิชาการ รวมถึงข่าวสารให้มีการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชนในโลกออนไลน์เยอะมากขึ้น ซึ่งทำให้ มทร.อีสาน มีผลการจัดอันดับที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง และเรายังคงมุ่งหน้าพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง



อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่มหาวิทยาลัยคุณภาพเชิงวิชาการอันดับ 1 ของประเทศในปัจจุบันนี้ เป็นผลพวงจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ขอขอบคุณสภามหาวิทยาลัย สภาคณาจารย์ ผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาทุกคน ที่ร่วมกันผลักดันยุทธศาสตร์สำคัญของมหาวิทยาลัยทั้งด้านของวิทยาศาสตร์สุขภาพ ด้านเกษตรอินทรีย์ การวิจัยกัญชาเพื่อการแพทย์ การขับเคลื่อนโครงข่ายระบบรางและอากาศยานของประเทศ และการพัฒนาบัณฑิตให้เป็นบัณฑิตนักปฏิบัติที่มีพลังขับเคลื่อนสังคมดิจิทัลนั้น ผมเชื่อมั่นว่า มทร.อีสาน มีศักยภาพและความพร้อมเป็นแกนหลักของประเทศในการพัฒนาสังคม ชุมชน และประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ รศ.ดร.โฆษิต กล่าวทิ้งท้าย
#6402



"กรุงเทพธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "ชาติชาย พยุหนาวีชัย" อดีตขุนพลมือดีที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเงินนานกว่า 30 ปี และผู้บริหารของธนาคารหลายแห่ง ที่เข้ามาเป็นกำลังหลักเดินหน้าภารกิจก้าวข้ามสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญจากนี้ ในฐานะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท ร่วมสานกลยุทธ์ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ภายใต้แนวคิด "ORIGIN NEXT LEVEL" ที่จะมีการขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกด้วยทำเลใหม่ แบรนด์ใหม่ กลุ่มธุรกิจใหม่ ความร่วมมือใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ และ สร้างสรรค์ฟังก์ชั่นใหม่ และบริการใหม่ ในบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

ชาติชาย เล่าย้อนการมาร่วมทัพ "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ครั้งนี้ ได้รับการชักชวนจากผู้บริหารออริจิ้นมาระยะหนึ่งแล้ว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมทัพด้วย คือเรื่อง "ความหลงใหล"(Passion)การทำงานที่ตรงกัน และบิ๊กชาเลนจ์ในการสร้างอีโคซิสเท็มของออริจิ้น เพื่อ "ต่อยอด" ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ อย่างครบวงจร ถือเป็นความท้าทายใหม่ในการนำประสบการณ์จากภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐมาใช้ในการทำงานร่วมกับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

"ไม่ใช่" เพียงแค่ด้านการเงินเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงทั้งด้านการตลาด และด้านภาพลักษณ์องค์กร ในการก้าวสู่ เน็กซ์ เลเวลในด้านต่างๆ ตามที่ประกาศแผนไว้เมื่อช่วงต้นปี อาทิ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ที่เขามีความคุ้นเคยอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้ามาช่วยปรับองค์กรในภาพรวมเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ชาติชาย กล่าวย้ำว่า กลยุทธ์สำคัญที่จะนำพา "ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" ให้ก้าวไปตามแผน "ออริจิ้น เน็กซ์ เลเวล" ได้นั้น เกิดจาก 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก การคิดแบบ "เน็กซ์ นอร์มอล" ให้โตไปแบบ เน็กซ์ เลเวล โดยนำแนวคิดในการปรับตัวรับมือวิกฤติโควิดในช่วงท้ายของการทำงานที่ธนาคารออมสินก่อนเกษียณ มาใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน ขีดความสามารถในการทำงานของทีมงานใหม่เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้า

"เราเห็นเลยว่าความยืดหยุ่นเป็นเรื่องสำคัญ และทีมงานจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง เน็กซ์ เลเวลในทุกมิติ เพราะถ้าไม่เข้าใจ ก็จะปรับตัวไม่ทัน และก้าวไปไม่ทันโลก"

ส่วนที่สอง "ซินเนอร์จี้" ธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดี (Sunrise Industry)ทั้งแนวกว้างและแนวลึก โดยในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะมีบ้านจัดสรร มีคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์

สเต็ปต่อไปคือการก้าวไปสู่เซ็กเตอร์อุตสาหกรรมใหม่เพื่อขยายแลนด์สเคปธุรกิจของออริจิ้นให้กว้างขึ้นในอนาคต!!

จากเมื่อต้นปี ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้ประกาศทิศทาง เน็กซ์ เลเวล ใน 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจเวลเนส และธุรกิจโลจิสติกส์ ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคต และที่เติบโตรวดเร็วในยุคเน็กซ์ นอร์มอล ล่าสุดขยายไปสู่ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจความงาม ข้อดีของการซินเนอร์จี้ระหว่างเซ็กเตอร์ระหว่างอุตสาหกรรมจะทำให้องค์กรแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากธุรกิจที่หลากหลาย

สำหรับ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ซึ่งเผชิญวิกฤติโควิด-19 มาตลอดช่วงเกือบ 2 ปีนี้ มีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ออริจิ้น มีการปรับตัวตลอดเวลา ซึ่งองค์กรค่อนข้างมีพื้นฐานชุดความคิดที่ยืดหยุ่น (Flexible Mindset) พร้อมรับการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การทำ Property Live ขายคอนโดแบรนด์ ดิ ออริจิ้น ผ่าน Live สดบนเฟซบุ๊ก จนกวาดยอดขายกว่า 200 ล้านบาท

"พื้นฐาน ออริจิ้น เป็นองค์กรที่ไม่มีกำแพง ไม่มีเพดาน คนในองค์กรพร้อมจะคิดสิ่งใหม่ๆ ไปทั้งแนวกว้าง แนวสูง แนวลึก กันอยู่เสมอ 2 กลยุทธ์ที่ผมบอกไปข้างต้น จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญที่ทำให้ออริจิ้นก้าวไปแบบ เน็กซ์ เลเวล ได้ทั้งองคาพยพ"

จากประสบการณ์ของ "ชาติชาย" ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยใช้เวลา2-3ปีในการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย หากองค์กรไหนมีการปรับตัวดีจะมีอัตราการเติบโตเหนือกว่าอุตสาหกรรม และคู่แข่ง อย่าง ออริจิ้น ในภาวะแบบนี้ยังขายได้จากการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเสริม เช่น กลุ่มนักศึกษา คนชอบเลี้ยงสัตว์ กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงการขยายช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ที่ผ่าน มียอดโอนจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ กว่า 600 ล้านบาท!!

ปัจจุบัน ออริจิ้น พยายามนำ "บิ๊กดาต้า" ของลูกค้าที่มีอยู่กว่าแสนรายนำมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้ทุกช่วงชีวิตทั้งไลฟ์สเตต(เมนต์) และไลฟสไตล์ ตั้งแต่เริ่มทำงาน เข้าสู่ช่วงวัยกลางคนและสูงวัย รวมทั้งการลงทุนร่วมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ เข้ามาเสริมให้ออริจิ้นแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงเรื่องของ "ดิจิทัลแอสเสท" เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ซึ่งแต้มต่อที่สำคัญที่จะทำให้ ออริจิ้นจะสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้า 360 องศา เพื่อวิเคราะห์โอกาสการขายที่เป็นไปได้กับลูกค้าแต่ละราย เพื่อการขายเพิ่ม ขายซ้ำ และสุดท้ายลูกค้าก็มีความสุข พึงพอใจในบริการของบริษัทและกลายเป็นลูกค้าชั่วชีวิต

พร้อมกับการทะยานขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาฯ ได้ในหลากหลายมิติทั้งจากนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ช่องทางขายสื่อสารผ่านทางออนไลน์ การร่วมมือพาร์ทเนอร์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในอนาคต "ชาติชาย" เชื่อว่า เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝัน หลังจากที่ออริจิ้นสามารถผลักดันยอดขายเติบโตจนมียอดขายปีละเกือบ 30,000 ล้านบาทและมีแบ็คล็อก (Backlog)ถึง 40,000 ล้านบาททำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
#6404
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 716