• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#2901


นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.2564 นี้เป็นต้นไป ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย จากปัจจุบันวงเงินคุ้มครองเงินฝากอยู่ที่ 5 ล้านบาทจนถึงวันที่ 10 ส.ค.

ทั้งนี้ วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาท มีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 82.07 ล้านราย คิดเป็น 98.03% ของผู้ฝากทั้งระบบ ซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

สำหรับข้อมูลเงินฝาก ณ วันที่ 31 พ.ค.2564 ผู้ฝากในระบบสถาบันการเงินภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันมีจำนวนทั้งหมด 83.72 ล้านราย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปีก่อน พบว่าจำนวนผู้ฝากเพิ่มขึ้น 1,337,334 ราย หรือเพิ่มขึ้น 1.62% โดยจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผู้ฝากรายย่อยซึ่งมีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดเป็น 97% ของจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้น และเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 15.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 347,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.33% จากสิ้นปีก่อน

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ฝากเงินเป็นสกุลเงินบาทกับสถาบันการเงินของไทยภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 12 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 35 แห่ง

ซึ่งจะคุ้มครองทันทีในลักษณะ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน โดยคุ้มครองบัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ 5.ใบรับฝากเงิน โดยบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ www.dpa.or.th, ศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร 1158 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจสถาบันคุ้มครองเงินฝาก DPA
#2902


เราเชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ ต้องเติบโตมาพร้อมๆ กับ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล อย่างแน่นอน ซึ่งในวันวานเมื่อครั้งที่เขายังจับไมค์ร้องเพลงกับพี่ชาย กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล เป็นคู่หูดูโอ้สองพี่น้องที่โด่งดังมากในยุคหนึ่ง ที่มีแฟนคลับติดตามอย่างมากมาย 

ข่าวแนะนำ
วันเวลาผ่านไป ทั้งกอล์ฟและไมค์ต่างก็แยกย้ายไปทำตามความฝันของตัวเอง และ ไมค์ พิรัชต์ น้องชายก็เลือกเส้นทางการเป็นนักแสดง ซึ่งไมค์ได้เป็นพระเอกละครที่ไทยอยู่หลายเรื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ไม่น้อย 

แต่สุดท้าย ไมค์เลือกที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ หรือที่ใครหลายๆ คนเรียกว่าการโกอินเตอร์นั่นเอง แต่การที่ไมค์ตัดสินใจในครั้งนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้โลกกว้าง มีความตั้งใจและมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในวันนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ ไมค์ พิรัชต์ จากเด็กวัยรุ่นกับทรงผมที่ฮิตสุดในตอนเป็นกอล์ฟ-ไมค์ สู่การเป็นวัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว 

กอล์ฟ-ไมค์ นักร้องวัยรุ่นสุดโด่งดัง
หลายๆ คนโตมาพร้อมๆ กับ 2 หนุ่ม กอล์ฟ-ไมค์ เราเลยถามตรงๆ ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงของไมค์นั้นทำมาประมาณกี่ปีแล้ว และเป็นยังไงบ้าง งานนี้เจ้าตัวตอบเราว่า 

"เรียกว่าโตมากับวงการบันเทิงได้เลยครับ ผมเริ่มเข้ามาทำงานเกี่ยวข้องวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 11 ปี จนถึงตอนนี้ก็ 20 ปีแล้วครับ

ทำมาจนวันนี้เหมือนเป็นงานเดียวที่ผมทำจนชำนาญ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว และผมก็รักและยังอยากเรียนรู้แล้วก็เติบโตไปกับมัน

ถ้าเราทำงานที่เรารัก เราจะรู้สึกสนุกกับมัน รู้สึกอยากตื่นมาทำงาน มันเป็นความรู้สึกที่ดีสำหรับการทำงาน แต่ก็ยอมรับว่ายังมีพัฒนาตัวเองอีกเยอะที่ผมยังทำได้ไม่ดีพอ และยังต้องฝึกฝนมันต่อไป"


จากนั้น เราให้หนุ่มไมค์ช่วยเล่าสมัยตอนที่เป็นนักร้องดังกับพี่ชาย กอล์ฟ พิชญะ ว่าตอนที่เป็น กอล์ฟ-ไมค์ ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง งานนี้ไมค์เล่าอดีตในวันวานด้วยรอยยิ้มให้เราฟังว่า 

"ย้อนกลับไปคิดก็ตลกดีครับ ตอนนั้นยังเด็กๆ กันทั้งคู่ แล้วก็เข้าวงการมาด้วยกันตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกวันหลังเลิกเรียนก็ตรงไปเข้าห้องซ้อมเลย ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ เหมือนเรามีภารกิจที่ต้องทำ

ก็กดดันบ้าง แต่รวมๆ ก็คือสนุกนะครับ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ผมมีความสุขที่ได้ร้องเพลงและได้เจอกับแฟนๆ ทุกคน แล้วผมก็ติดการทำงานมาตั้งแต่เด็กโดยไม่รู้ตัว (ยิ้ม)"

สมัยเป็น กอล์ฟ-ไมค์ พี่กับน้องชอบทะเลาะกันเรื่องอะไร แล้วใครง้อใคร มีวิธีการง้ออย่างไร ก่อนหน้านี้กอล์ฟแอบเล่า ไมค์ติดเกม เลยชอบโดนกอล์ฟดุอยู่บ่อยๆ เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทำเอาหนุ่มไมค์หัวเราะ และเล่าให้ฟังว่า

"ก็ประมาณนั้นครับ (หัวเราะ) ด้วยความที่เราเป็นน้อง ก็จะโดนดุบ้าง ทะเลาะกันเรื่องเล่นเกมจริง เพราะเมื่อก่อนผมเป็นโรคเก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่ยอมออกจากบ้านด้วย

แล้ววันนั้นผมเล่นเกมอยู่ ไม่ยอมซ้อม แล้วพอพี่ดุเราก็ต่อต้านนิดหน่อย แต่ว่าพอทำงานไปเรื่อยๆ จนปรับตัวได้ เราก็เข้าใจว่าเราต้องมีความรับผิดชอบ"

จากนั้นเราถาม ไมค์ พิรัชต์ ต่อว่า แล้วเพราะอะไรไมค์จึงเบนสายตัวเองจากนักร้องมาเป็นนักแสดง เพราะเอาจริงๆ ถึงจะเป็นงานในวงการบันเทิงเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เหมือนกันแต่อย่างใด 

"ผมรักงานทั้งสองอย่างครับ การที่ผมได้ทดลองงานแสดงก็ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก จนวันนี้งานวงการไม่ว่าจะเป็นร้องหรือแสดง กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว"


ทุกวันเหมือนการสอบเอ็นทรานซ์
อย่างที่เราทราบกันว่า ไมค์ พิรัชต์ เลือกที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในประเทศจีนเป็นอย่างมาก แต่หลายๆ คนคงอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วการทำงานที่ต่างประเทศนั้นมันยากง่ายแค่ไหน ซึ่งหนุ่มไมค์ก็เล่าประสบการณ์ของตัวเองในการทำงานที่ต่างประเทศให้เราฟังว่า 

"ยากมากครับ ยากทุกด้านเลย ทั้งดินฟ้าอากาศ อาหาร วัฒนธรรม ภาษา ทุกอย่างมีความต่างหมดครับ แต่ทุกอย่างมันมีเสน่ห์และสวยงามมากในตัวของมันเอง

เราแค่ต้องรู้ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ด้วยการเปิดใจ ยกตัวอย่างเช่นภาษาก่อนละกันนะครับ ละครหรือผลงานต่างๆ ของผมที่เกิดขึ้นที่จีน ผมตั้งธงให้ตัวเองเอาไว้ว่าผมจะใช้ภาษาจีนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้เป็นการตอบแทน

ผมมองว่ามันเป็นการให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติผู้ว่าจ้าง และที่สำคัญให้เกียรติแฟนๆ ที่ติดตามผลงานและสนับสนุนผม ดังนั้นเมื่อผมเลือกแบบนี้ แน่นอนว่าความยากต้องเกิดขึ้น

ทุกวันของผมเหมือนการสอบเอ็นทรานซ์ เพราะผมต้องท่องบทของตัวเองเป็นภาษาจีนทุกวัน ทั้งวัน และที่จีนการถ่ายละครเรื่องหนึ่งก็เหมือนการเข้าแคมป์ เข้าไป 100-120 วัน ถ่ายรวดเดียวจบ ต่างจากการถ่ายที่ไทยอย่างสิ้นเชิงครับ

แต่ผมรู้สึกว่ามันดีนะครับ ทำให้ในแต่ปีสามารถบริหารเวลาได้มากขึ้น ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้วครับ วันนี้ผมก็ชินไปแล้ว ส่วนตัวผมชอบมากการที่ตื่นมาทำงานทุกๆ วัน รู้สึกแต่ละวันมัน productive มากๆ

ถัดมาน่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เช่น อากาศ ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ผมชอบมาก คือส่วนตัวผมชอบฤดูหนาวอยู่แล้วครับ

เรื่องอาหาร ผมเป็นคนเปิดกว้างมากเรื่องอาหาร อาหารโปรดที่สุดในชีวิตผมก็ไปค้นพบที่จีนเหมือนกัน แฟนคลับผมรู้เลยว่าไมค์ชอบกิน สุกี้หมาล่า ลิ้นเป็ด สุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องความโดดเดี่ยวมั้งครับ จนวันนี้ก็คือผมชินสุดๆ แล้วครับ (ยิ้ม)"


ฝันไกลไปให้ถึงฮอลลีวูด
จากนั้น เราถาม ไมค์ พิรัชต์ ต่อว่า นอกจากการไปทำงานที่ประเทศจีนแล้ว ไมค์ยังมีเป้าหมายในชีวิตที่ตั้งเอาไว้อีกหรือไม่ งานนี้เราได้รับคำตอบจากปากของหนุ่มไมค์ว่า 

"เป้าหมายสำหรับตัวเอง คือเป็นคนที่ดีขึ้นครับ คนที่เวลาผมมองย้อนกลับมาที่ตัวเองแล้วยังรู้สึกภูมิใจในตัวเองได้ แล้วก็ทำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจตั้งเป้าไว้ให้ได้มากเท่าที่จะทำได้

เป้าหมายในเรื่องของหน้าที่การงาน ผมอยากลองทำเบื้องหลังครับ อยากเอาประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาทั้งชีวิต ปรับเป็นชิ้นงานของตัวเอง เขียนบท กำกับ หรือโปรดิวซ์

เริ่มต้นอาจจะทำร่วมไปก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ครับ ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีไหมแต่จะไม่หยุดพัฒนาครับ เพราะนี่เป็นเป้าหมายใหม่ของผมไปแล้ว เป็นความฝันที่ตั้งใจพอๆ กับความฝันที่จะไปทำงานฮอลลีวูดเลยครับ ผมตั้งใจไว้แล้ว และหวังว่าจะพาตัวเองไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ครับ"


การทิ้งความฝันก็เหมือนทอดทิ้งตัวเอง
จากนั้น ไมค์ พิรัชต์ ได้เล่าเรื่องราวที่เพิ่งจะค้นหาคำตอบให้กับตัวเองได้เมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับแรงผลักดันที่ทำให้เขาเดินมาได้ไกลจนถึงวันนี้ว่า 

"ผมเจอคำตอบที่แท้จริงเมื่อไม่นานมานี้เลยครับ ผมตอบจากใจได้เลยว่า แรงผลักดันที่ดีที่สุดของผมก็คือ อุปสรรคและเป้าหมายครับ

เพราะผมอาจจะเป็นคนที่มีเป้าหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอเป้าหมายนี้เราเดินไปแตะถึงแล้ว ผมก็จะตั้งเป้าหมายใหม่ที่ยากกว่าเดิม และก็วนอยู่แบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ

แต่กว่าจะเดินไปแตะแต่ละเป้าหมายที่ตั้งไว้ แน่นอนว่าระหว่างทางมันมีแต่อุปสรรค เพราะอะไรที่เราอยากได้ มันไม่เคยมาหาเราเองง่ายๆ อยู่แล้ว

ยิ่งต้องการมาก ยิ่งยากมาก ยิ่งต้องเดินไปชนอุปสรรคมากขึ้นไปตามลำดับของมัน แต่ทุกความต้องการมันมีต้นทุนของมันที่เราต้องยอมรับให้ได้นะ

ที่ผมตอบได้ชัดเจน ผมสารภาพเลยว่า เพราะผมเคยทอดทิ้งความฝัน ทอดทิ้งเป้าหมาย ทอดทิ้งตัวเองไปช่วงหนึ่ง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนเราคงต้องมีบ้างที่มีช่วงที่ดิ่งมากๆ


เอาตรงๆ ผมคิดเลยว่า ผมในตอนนั้นมันว่างเปล่า ไม่มีความสุข ไม่มีอะไรอีกเลย และมันเป็นพิษกับชีวิต แล้วก็ดึงพลังงานชีวิตไปมากจนน่าใจหาย

และมันคงทุกข์มากจนเราพยายามหาทางออก หาคำตอบให้ตัวเอง ว่าทำยังไงถึงจะเอาตัวเองออกจากความรู้สึกลบๆ แบบนี้

ผมก็รู้เลยในทันทีว่า ชีวิตผมที่ผ่านมามีความหมายได้ เพราะผมมีเป้าหมาย มีแพชชั่น สิ่งนี้แหละที่คอยต่อลมหายใจผมเลย

ดังนั้นเวลาที่ผมดาวน์ หรืออะไรก็ตาม ผมเตือนใจตัวเองเสมอเลยว่า ผมต้องไม่ลืมเป้าหมาย ต้องไม่ทิ้งแพชชั่น ไม่งั้นก็เหมือนทอดทิ้งตัวเอง"

แม้การจะทำตามความฝันของตัวเอง แต่มันก็ต้องมีวันที่เหนื่อยล้า และว้าเหว่ไม่น้อย ในวันที่ท้อแท้ ไมค์ เอากำลังใจจากไหนมาเติมให้กับตัวเอง ซึ่งไมค์ตอบคำถามนี้ด้วยรอยยิ้มว่า

"ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ผ่านได้ด้วยตัวเองบางเรื่อง ผ่านได้ด้วยกำลังใจจากคนอื่นๆ ในบางครั้ง ผ่านได้ด้วยการซัพพอร์ตจากทั้งครอบครัว คนรอบข้าง แฟนคลับในหลายๆ หน

ผมว่าในความโชคร้ายก็แฝงไปด้วยความโชคดี เป็นเรื่องจริงนะครับ สำคัญตรงที่ว่าผ่านเหตุการณ์ที่ท้อแท้นี้ไปแล้ว เราได้เรียนรู้อะไรจากมัน มันเป็นบทเรียนที่เราจะไม่ไปทำซ้ำได้ยังไง แล้วทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้มากน้อยแค่ไหน

เพราะแค่เราผ่านมันมา แต่ไม่ยอมเรียนรู้ เรื่องราวนั้นๆ จะกลับมาทำให้เราท้อแท้อยู่เรื่อยๆ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วกำลังท้อแท้อยู่ในตอนนี้

ผมอยากให้ลุกขึ้นสู้ ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน เรื่องนี้ก็ต้องผ่านไปอยู่ ต้องให้เวลากับเวลาด้วยครับ"


ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
จากนี้นั้นเราถาม ไมค์ พิรัชต์ ตรงๆ ว่า ถ้ามองย้อนไปจากจุดเริ่มต้น คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ไหม วันที่ประสบความสำเร็จในการแสดง และได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ระดับฮอลลีวูด ซึ่งไมค์ตอบคำถามนี้ของเราว่า 

"เอาความคิดวันนี้เลยนะครับ ผมยังคงเชื่อว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่แค่นั้นไม่พอ ต้องไม่หยุดเรียนรู้ และไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วอยู่เสมอ

สุดท้ายก็คือ ต้องไม่ท้อก่อนไปถึงเป้าหมายด้วยครับ ก็คือห้ามยอมแพ้กลางทาง ถ้าเราเริ่มอะไรแล้วก็ควรสานต่อให้จบ (ยิ้ม)"

ไมค์ พิรัชต์ อยากทำหุ่นยนต์ 
ในวันนี้ดูเหมือนชีวิตของผู้ชายคนนี้ ไมค์ พิรัชต์ จะดูประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานไม่น้อย ทำตามความฝันของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีอะไรที่อยากทำอีกบ้างหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวบอกกับเราว่า 

"อีกเยอะมากเหลือเกินครับ อย่างที่ผมบอกไว้ ผมหยุดเป้าหมายในชีวิตไม่ได้ เพราะมันคือแรงผลักดันของชีวิตผม และผมรักตัวเองที่ทำงานที่สร้างรอยยิ้มให้คนอื่นผ่านผลงานของผม

ผมยังอยากพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น ทั้งสำหรับตัวเองและสำหรับคนที่ผมรักและคนที่รักผมด้วย ผมอยากใช้ความตั้งใจและความพยายามของผมให้มากกว่านี้

ยิ่งผมในตอนนี้ ผมอยากทำผลงานละครทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ผมอยากทำหุ่นยนต์ ผมชอบงานอินทีเรียดีไซน์ ผมจะหยุดตัวเองไว้แค่ที่วันนี้ไม่ได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ชีวิตนี้ผมต้องทำให้บรรลุไปให้ได้อีกเยอะเลยครับ"


กำลังใจของ ไมค์ พิรัชต์
คำถามสุดท้ายก่อนจากกัน ถ้าไมค์อยากจะพูดอะไรถึงแฟนคลับของตัวเองที่คอยติดตาม ซัพพอร์ตให้ตลอดเวลา ซึ่ง ไมค์ พิรัชต์ ก็ได้พรั่งพรูความรู้สึกในใจที่มีต่อแฟนๆ ทุกคนของเขาว่า 

"ผมรู้สึกขอบคุณเสมอ เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายให้โดยไม่ได้หวังผลอะไรตอบแทน ผมทำงานในวงการนี้มา 20 ปี บางคนอยู่กับผม ซัพพอร์ตผม เรียกว่าเติบโตมาพร้อมกับผมยังได้เลย ทั้งที่ไทยและที่จีน

อยู่ตั้งแต่ผมยังเรียนรู้ถูกผิด อยู่เคียงข้างวันที่ผมผิดพลาด วันที่ล้ม แล้วก็ยังยืนหยัดอยู่กับผมในทุกช่วงเวลา และยังอยู่จนวันนี้ที่ผมผ่านประสบการณ์ทั้งดีและร้ายมาก็ยังอยู่ซัพพอร์ตกัน บางคนรักเราเหมือนพี่เหมือนน้องไปแล้วก็มี

ตอนผมไปทำงานที่จีน ผมทำงานไม่ได้สนใจตัวเองเท่าไร ก็มีแฟนคลับที่จีนที่ให้กำลังใจให้ผมไม่รู้สึกแปลกแยก สนับสนุนงานผมที่จีนด้วย พวกเขามีพื้นที่ในใจผมเสมอ ผมขอบคุณเสมอ

ขอโทษที่ผมเคยดีไม่พอ และพวกเขาคือส่วนหนึ่งที่ผมตั้งใจจะเป็นคนที่ดีขึ้น ขอบคุณทุกคน ทีละคนไม่ทั่วถึง ผมหวังว่าผมในวันนี้จะไม่เป็นผมที่ทำให้พวกเขาเสียเวลา หรือผิดหวัง อย่างที่ผมเคยพูดไว้

อนาคตผมคงต้องผิดพลาดอีกไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อขอบคุณทุกคน และเพื่อตัวเองด้วยครับ".

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun
#2903


วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบพระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อยและเจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร หลังทราบข่าวว่าทางวัดได้ทำน้ำกระชายขาวแจกชาวบ้านฟรี โดยมีส่วนผสมของกระชายขาว น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว และมีชาวบ้านที่เป็นโควิด-19 รับประทานน้ำกระชายขาวของทางวัดทำให้ค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นไม่ต้องไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ปัจจุบันไม่ต้องไปหาหมอแล้ว พระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย กล่าวว่า การทำน้ำกระชายของทางวัดเริ่มตั้งแต่มีการระบาด covid ครั้งที่ 2 ได้รับสูตรการทำน้ำกระชาย ซึ่งเป็นสูตรของศาสตร์ชาวบ้าน และมีคุณประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับเชื้อที่จะได้ป้องกันได้เร็วขึ้น ถ้าเรามัวแต่รอมันอาจจะสายเกินไปที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย และต่อลมหายใจเขาได้ ทางวัดจึงได้คิดสูตรนี้ขึ้นมา 

ส่วนผสมก็จะมีกระชายขาว น้ำมะนาว และน้ำผึ้ง 3 อย่างนี้เอามาผสมกัน โดยวิธีทำจะเริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบคือกระชายซึ่งเรามีอยู่ในครัวเรือนอยู่แล้วนำมาปั่นให้เป็นน้ำ เอาน้ำมะนาวใส่ผสมลงไปกะพอประมาณให้เรารับประทานได้ไม่ให้เฝื่อนเพราะกระชายมีรสเผ็ด โดยมหาวิทยาลัยมหิดลได้วิจัยออกมาแล้วว่ากระชายขาวมี 2 ชนิดที่ยับยั้งไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายได้ โดยวิจัยในหลอดทดลอง มีผลดีมาก เราจึงนำกระชายขาวชนิดนี้มาทำน้ำปั่นกระชายในครั้งนี้ ส่วนมะนาวมีความเป็นด่าง และมีวิตามินซีเยอะ ซึ่งน้ำที่เป็นด่างจะสามารถไปฆ่าเชื้อโรคได้ ยิ่งเป็นเชื้อ covid จะเป็นส่วนผสมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนน้ำผึ้ง ปัจจุบันมีขายตามท้องตลาด นำมาเป็นส่วนผสมได้ ในพุทธประวัติพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้เป็นยาชนิดหนึ่งมีคุณสมบัติดีมาก จึงนำทั้ง 3 อย่างมาผสมกัน เมื่อผสมแล้วจะแต่งรสให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น น้ำผึ้งมีความหวาน ส่วนน้ำมะนาวมีความเปรี้ยว ส่วนกระชายจะมีรสเฝื่อน เมื่อนำทั้ง 3 อย่างมารวมกันจะมีความกลมกล่อมมากขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ติดเชื้อ covid สามารถช่วยชีวิตคนได้ เป็นศาสตร์ของชาวบ้านซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณเราจึงเอาตรงนี้มาใช้ ถ้าเรามัวรอโรงพยาบาลอาจจะสายเกินไป ถ้าเราช่วยได้จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระของหมอและพยาบาล เราควรจะช่วยกัน เพราะว่าสังคมเราต้องอยู่ด้วยความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะได้ผ่านวิกฤตตรงนี้ไปได้       

ส่วนปริมาณในการผลิตวันหนึ่งจะทำได้ประมาณ 350 ขวด ซึ่งเมื่อวานได้ใช้กระชายขาวทำไปประมาณ 30 กิโลกรัม น้ำผึ้ง 2 ขวด น้ำมะนาว 2 ขวด ซึ่งอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เตรียมไว้ในตู้เย็น วันนี้จะนำไปแจกผู้ป่วยตามบ้านให้ได้รับประทานฟรี ทางวัดจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจกให้ญาติที่ยังไม่ได้ป่วยโควิด-19 ให้ผู้ป่วยไปรับประทานเพื่อจะลดเชื้อได้ทันท่วงที ไม่ต้องเสียตังค์ ทางวัดพร้อมที่จะแจกให้ญาติโยมทุกคน ซึ่งทางวัดจะใช้วิกฤตตรงนี้เป็นโอกาสที่จะตอบแทนญาติโยมที่เคยช่วยเหลือวัด ถ้าแช่เย็นจะเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าไม่แช่เย็นอาจจะอยู่ได้ไม่นานเนื่องจากทางวัดไม่ได้ใส่สารเจือปน ซึ่งก่อนหน้านี้มีแม่ครัวที่วัดซึ่งลูกสาวติดโควิด-19 ลูกอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ทางแม่ครัวได้นำเครื่องวัดออกซิเจนกับน้ำกระชายของทางวัดไปให้ลูกดื่มเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น วันแรกที่แม่ครัววัดค่าออกซิเจนอยู่ที่ 95 หลังจากดื่มน้ำกระชายปั่นไปแล้วค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นจาก 95 เป็น 99 ภายในไม่กี่วันหลังจากดื่มน้ำกระชาย ปัจจุบันไม่ต้องหาหมอแล้ว อยู่ที่บ้านเนื่องจากดื่มน้ำกระชายขาวของทางวัด ซึ่งน้ำสูตรนี้มีคุณประโยชน์มากอยากให้ลองดื่มดู 
   
นางสุดใจ พานทอง 51 ปี แม่ครัวที่วัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร อายุ 30 ปี กล่าวว่า ลูกสาวติดโควิดมาจากน้องชายแฟนเขาไปอยู่ รพ.สนามได้ 2 วันหมอก็โทร.มาบอกว่าเขาติดเชื้อ แล้วได้น้ำกระชายของหลวงพ่อไปดื่ม 2 โหล ได้ถังออกซิเจน ที่วัดไข้ ที่วัดปลายนิ้ว วันแรกที่วัดค่าออกซิเจนได้ 95 ตอนนั้นยังไม่ได้ดื่มน้ำกระชาย พอดื่มไปได้สัก 2 วันค่าออกซิเจนก็ขึ้นมาเป็น 96, 97, 98 ไม่มีไข้ ดื่มมาตลอดจนวันนี้หมดเชื้อพอดี เป็นตั้งแต่วันที่ 21 ผ่านไป 3 วัน ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็ส่งยาฆ่าเชื้อมาให้ ก็ยังดื่มน้ำกระชายอยู่ ถ้าไม่ได้น้ำกระชายจากหลวงพ่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะลูกสาวเป็นหอบด้วย มั่นใจว่าเป็นเพราะน้ำกระชาย เพราะไม่ได้กินอะไร ค่าออกซิเจนก็ดีขึ้นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล หมอที่อนามัยก็ว่าดี ตอนแรกนึกว่าต้องไปโรงพยาบาลแล้ว เห็นมีคนทยอยมาขอรับน้ำกระชายขาวจากทางวัดทุกวัน

น.ส.จุฑามาส ผลสะอาด อายุ 37 ปี เจ้าของร้านกาแฟ กล่าวว่า ญาติ 5 คนแรกเป็นโควิด-19 และไม่ได้ดื่มน้ำกระชาย ไปพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วัดหลวงพ่อเปิ่น อีก 5 คนหลังที่กักตัวอยู่ที่บ้าน ตนได้นำน้ำกระชายจากหลวงพ่อที่วัดอ่วมอ่องที่แจกให้ประชาชนฟรีให้เขาดื่มแล้วไปตรวจ หมอตรวจ Swab ให้ครั้งแรกตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตนรู้สึกดีใจมาก ต้องขอบคุณที่หลวงพ่อเมตตาต่อประชาชนในย่านนี้ วันนี้ตนมากับแม่มาเอาน้ำกระชาย 10 ขวดไปดื่มเองและแจกจ่ายญาติพี่น้อง

https:// m.mgronline.com/onlinesection/detail/9640000075737
#2904



สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มปราบแชมป์ยูธโอลิมปิกจากสหราชอาณาจักร ก่อนการันตีมีเหรียญทองแดงคล้องคอเรียบร้อยในศึกโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เมื่อันที่ 3 สิงหาคม 2564

ศึกมวยสากลสมัครเล่น โตเกียว 2020 ที่สนามเรียวโกคุ โกกุกิกัง ประเทศญี่ปุ่น รุ่นน้ำหนัก 60 กก.หญิง สุดาพร สีสอนดี ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ของทัพกำปั้นไทย เดินขึ้นสังเวียนรอบ 8 คนสุดท้าย เพื่อลุ้นชิงเหรียญรางวัล

ไฟต์สำคัญนี้ สุดาพร เผชิญหน้า แคโรไลน์ ดูบัวส์ เจ้าของแชมป์ ยูธ โอลิมปิก จากสหราชอาณาจักร ยกแรก ต่างฝ่ายต่างระแวดระวัง แต่ สุดาพร ก็หาจังหวะส่งหมัดเข้าเป้าเก็บคะแนนได้ดี จนชนะไปก่อนยกแรก 3-2 เสียง

ยกสอง ดูบัวส์ แก้เกมหาจังหวะสวนหมัดใส่นักชกไทยได้ดีจนกรรมการให้นักชกจากจีบีชนะยกนี้ 3-2 เสียง สุดท้ายยกตัดสิน ดูบัวส์ เดินลุยเหวี่ยงหมัดเพื่อตัดสินแต่ "เจ้าแต้ว" รอหาจังหวะแล้วสวนหมัดใส่แบบเยือกเย็น สุดท้ายกรรมการตัดสินให้นักชกไทย ชนะ 3-2 เสียง

ผลงานไฟต์นี้ทำให้ สุดาพร เข้าไปเจอกับ เคลลี แฮร์ริงตัน จากไอร์แลนด์ และแน่นอนที่สุดคือมีเหรียญทองแดง การันตีไว้ให้อุ่นใจเป็นที่เรียบร้อย
#2905


โรงพยาบาลบุษราคัม Big Cleaning ทำความสะอาดจุดแรกรับผู้ป่วย พร้อมปรับระบบจัดทางด่วนสำหรับกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง พิการ ให้เข้ารับการประเมินก่อน และจัดโซนผู้ป่วยเพื่อง่ายต่อการดูแล

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลบุษราคัม ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ให้การดูแลผู้ป่วยแล้วจำนวน 13,275 ราย โดยในเช้าวันนี้ได้จัด Big cleaning ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในบริเวณจุดแรกรับผู้ป่วย ทั้ง 2 จุด พร้อมปรับระบบประเมินผู้ป่วยแรกรับ โดยเพิ่มทางด่วน Fast Track สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เป็นต้น ให้ได้รับการประเมินอาการก่อน และจัดโซนผู้ป่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เนื่องจากระยะหลังพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเปราะบางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำเก้าอี้รถเข็นเข้าไปยังหอผู้ป่วยจำนวน 231 ตัว และเก้าอี้นั่งสำหรับขับถ่ายข้างเตียงผู้ป่วย จำนวน 62 ตัว เก้าอี้อาบน้ำ จำนวน 5 ตัว เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วย และกำลังจัดหาเตียงลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มเติม ต้องขอขอบคุณทหารจิตอาสาที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการเข้าไปอำนวยความสะดวกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเปลี่ยนเตียงที่ชำรุด รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการเป็นจิตอาสา วัดความดันโลหิต วัดค่าออกซิเจนในเลือด ประสานงานเจ้าหน้าที่กับผู้ป่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลบุษราคัมวันนี้ มีผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 3,233 ราย เป็นกลุ่มสีเหลืองอ่อน 2,771 ราย สีเหลือง 287 ราย สีแดง 175 ราย โดยมีมาตรฐานการรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ที่รักษาหายแล้วครบ 7 - 10 วัน สามารถให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อได้เพื่อที่จะมีเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
#2906



สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันเสาร์ (31 ก.ค.) ว่า ทางการญี่ปุ่น เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 4,058 ราย ทะลุเกิน 4,000 รายเป็นครั้งแรก โดยยอดผู้ติดเชื้อดังกล่าว ตรวจพบหนึ่งวัน หลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศขยายภาวะฉุกเฉินกรุงโตเกียว ออกไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่งครบคลุม 3 จังหวัดใกล้กับกรุงโตเกียว และจังหวัดทางตะวันตกของโอซากา

ขณะที่ มาเลเซีย รายงานในวันเสาร์ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 17,786 ราย โดยเป็นการติดเชื้อหลากหลายสายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์

ท่ามกลางผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น มีประชาชนมากกว่า 100 คนรวมตัวกันในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ แสดงความไม่พอใจรัฐบาลมาเลเซียจัดการกับโรคระบาดใหญ่ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ยุติหน้าที่ผู้นำประเทศ

ส่วนประเทศไทย รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 18,912 ราย ส่งผลให้จำนวนสะสมของประเทศอยู่ที่ 597,287 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่ม 178 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4,857 ราย โดยทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์


นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตามีสัดส่วนมากกว่า 60% ของกรณีตัวอย่างในประเทศ และ 80% ของกรณีตัวอย่างในกรุงเทพฯ 

"สายพันธุ์เดลตาไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต มากกว่าโควิด-19 สายพันธุ์อื่นๆ แต่สายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า" นายแพทย์ศุภกิจ ระบุ

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน กำลังรับมือกับสายพันธุ์เดลตาในเมืองหนานจิง สืบเนื่องจากพนักงานทำความสะอาดของสนามบินเมืองนี้ ติดเชื้อโควิดที่มีต้นตอจากเที่ยวบินของรัสเซีย โดยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิดในเมืองหนานจิงเพิ่มขึ้น 55 ราย

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในวันศุกร์ (30 ก.ค.) ว่า ยอดติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 80% ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก จากในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ 

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/952160
#2907



นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานการเตรียมส่งออกข้าวไทยจำนวน 44,000 ตัน ไปยังอิรักเป็นครั้งแรก ในรอบ 7 ปี เรียกคืนความเชื่อมั่นข้าวไทยในตลาดอิรัก โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันภาคเอกชน และผู้ส่งออกไทย เปิดตลาดข้าวไทยในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมจาก 3 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดพรีเมียม ตลาดทั่วไป และตลาดเฉพาะ ซึ่งการส่งออกข้าวไปอิรักครั้งนี้ ยังจะส่งผลดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกด้วย

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้าวขาว 100% ของไทยจำนวน 44,000 ตัน ซึ่งจะส่งออกไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นข้าวไทยล็อตแรกที่ถูกส่งออกไปยังตลาดอิรักในรอบ 7 ปี หลังจากที่อิรักได้ระงับการนำเข้าข้าวจากไทย ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ผู้ส่งออกไทยจะสามารถส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักได้ต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยทำการตลาดสินค้าเกษตรไทยในประเทศเอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประชาสัมพันธ์ข้าวและสินค้าเกษตรไทย เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก ทดแทนความต้องการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952147
#2908



เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส 3 บิ๊กสโมสรยุโรปยืนยันจะเดินหน้าจัดแข่งขันศึกฟุต.ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไปหลังศาลแห่งกรุงมาดริดระบุว่าไม่มีความผิด

สำหรับฟุต.ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ถูกก่อตั้งโดย 12 ทีมชั้นนำของยุโรปที่ต้องการให้มีลีกฟุต.ใหม่เกิดขึ้น ทว่ากลับถูกกระแสต่อต้านอย่างหนัก ส่งผลให้ 9 จาก 12 ทีมประกอบด้วย เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, แอตเลติโก มาดริด, อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถอนตัวออกไป

การถอนตัวที่เกิดขึ้นส่งผลให้โปรเจกต์นี้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเหลือเพียง 3 ทีมคือ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส นอกจากนั้นสหพันธ์ฟุต.ยุโรป (ยูฟ่า) ยังส่อลงโทษสถานหนักกับทั้ง 3 สโมสรดังกล่าว

ถึงกระนั้นทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ไม่ยอมแพ้ และได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลในกรุงมาดริดเพื่อให้ปกป้องพวกเขาจากการลงโทษของ ยูฟ่า เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรม

กระทั่งล่าสุด ศาลแห่งกรุงมาดริด ประกาศผลการตัดสินออกมาแล้วว่า ยูฟ่าไม่สามารถลงโทษทั้ง 3 สโมสรจากเรื่องดังกล่าวได้ และต้องยกเลิกบทลงโทษทั้งหมดที่ออกมา

หลังจากนั้น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ได้แถลงการณ์ร่วมกันโดยยืนยันว่าจะดำเนินแผนงานของฟุต.ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไป "เรามีความยินดีที่ก้าวไปข้างหน้า เราจะไม่อยู่ภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องของ ยูฟ่า อีกต่อไป"
#2909
รับสมัครงานขายของออนไลน์..ฟรี!! ไม่มีค่าสมัคร..

ขายของออนไลน์  อาชีพเสริม  รายได้เสริม

ใช้เพียงมือถือ ก็ทำงานได้ จากทุกที่  ทุกเวลา

รับสมัครงานขายของออนไลน์(Online)...ฟรี!!ไม่มีค่าสมัคร..
คุณกำลังหา.."อาชีพเสริม รายได้พิเศษ  รายได้เสริม".. อยู่หรือ...

สมัคร :: https://forms.gle/Q2dDb74pW54aFmmD6

LINE ID :: savedee15


Tags :: ขายของออนไลน์,อาชีพเสริม,รายได้เสริม






#2910



นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และวิทยากรในการสัมมนาออนไลน์

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมเป็นวิทยกรในการสัมมนาออนไลน์ "Low carbon for sustainable development" ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจกับองค์กรภาคเอกชนให้มีความตระหนักรู้เรื่องการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมเป็นวิทยกรในการสัมมนาออนไลน์ "Low carbon for sustainable development" ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจกับองค์กรภาคเอกชนให้มีความตระหนักรู้เรื่องการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบรรยายเกี่ยวกับ ความสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจกกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในการลดก๊าซเรือนกระจก แนวทางการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินงานด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร 

โดยมี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก คุณร่มฉัตร ทรงศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สำนักเลขานุการบริษัท บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และคุณอรทิพย์ อ้อทอง Sustainable Development Manager บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยองค์กรภาคเอกชน และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เข้าร่วมผ่านแอพลิเคชั่น Microsoft team
#2911



โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค วิตกจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนฯ และโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก

ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา

ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด
URL
 34
 
#2912



กรุงเทพฯ, 29 กรกฎาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย ภายใต้การนำของ นายกฤษณ์ จันทโนทก ซีอีโอคนไทยคนแรก เปิด 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในฐานะบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศ ที่อยู่เคียงข้างคนไทยในทุกช่วงชีวิตมายาวนานกว่า 83 ปี พร้อมปักธงสร้างความเป็นหนึ่งในทุกด้าน ผ่านนวัตกรรมสินค้าและการบริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเจนเนอเรชั่น พร้อมช่วยเติมเต็มทุกความต้องการด้านการประกันชีวิต สุขภาพ และการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อหนุนความมั่นคงและมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้แก่คนไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ ตามคำมั่นสัญญา "Healthier, Longer, .ter Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น"

5 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นหนึ่ง

ต่อจากนี้ไป การขับเคลื่อนเอไอเอ ประเทศไทย จะดำเนินภายใต้ 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่ความเป็นหนึ่งในทุกมิติ

เอไอเอ เป็นหนึ่ง บุคลากรทุกฝ่ายในองค์กรต้องทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดของลูกค้าด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด
เอไอเอ ยืนหนึ่ง นอกเหนือจากการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศ เอไอเอ ต้องยืนหนึ่งในใจลูกค้า และในทุกมาตรวัด ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด ขนาดธุรกิจ ดัชนีความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า รวมไปถึงสินค้าและบริการที่ดีที่สุดในตลาด
เอไอเอ ที่หนึ่ง เป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการบริการ
เอไอเอ เป็นบริษัทเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ในการดูแล และมอบความคุ้มครองให้แก่คนไทยมายาวนานกว่า 83 ปี และเป็นบริษัทประกันชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เอไอเอยังคงมุ่งมั่นและไม่หยุดที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วทุกภูมิภาค ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ​ เอไอเอ ต้องเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ด้วยการเปลี่ยนบริบทจากการเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม หรือ Payor เป็น Partner ที่คอยอยู่เคียงข้างในทุก ๆ วัน เพื่อสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น



นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "แม้เราจะเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทยมายาวนาน แต่เราจะไม่หยุดความสำเร็จไว้เพียงตรงนี้ เพราะต่อจากนี้ไปเอไอเอ ประเทศไทย ต้องเป็นหนึ่ง ยืนหนึ่ง และที่หนึ่งในทุกด้าน โดยการเป็นที่หนึ่งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อองค์กรและพนักงานของเราเท่านั้น แต่รวมไปถึงการทำให้ลูกค้าของเอไอเอกว่า 5.2 ล้านราย ตลอดจนคนในสังคมได้รับประโยชน์สูงสุด จากหลากหลายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบความคุ้มครองและการวางแผนทางการเงินในระยะยาวที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตลอดจนตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น อันถือเป็นพันธกิจสำคัญที่เรายึดถือ โดยมีเอไอเอเป็นพาร์ทเนอร์อยู่เคียงข้างดังเช่นตลอดระยะเวลา 83 ปีที่ผ่านมา"

ที่หนึ่งแห่งความมุ่งมั่น ยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่คนไทย ด้วย 3 นวัตกรรมใหม่
จากความท้าทายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่มีความรุนแรงและต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลากหลายมิติ ด้วยความตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว เอไอเอ ประเทศไทย จึงมุ่งมั่นนำนวัตกรรมมาใช้ขับเคลื่อนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการ ครอบคลุมวิถีชีวิตของคนทุกกลุ่มในยุค New Normal ควบคู่ไปกับสนับสนุนให้คนไทยได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในการเข้าถึงบริการ พร้อมลดความเสี่ยงจากการเดินทาง การพบเจอกันของทั้งฝั่งตัวแทนและลูกค้า ผ่าน 3 นวัตกรรมดิจิทัลใหม่ ได้แก่

ALive Powered by AIA แอปผู้ช่วยส่วนตัว ดูแลครบ เรื่องครอบครัว เปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ทุกครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่กำลังวางแผนมีบุตร กำลังตั้งครรภ์ รวมถึงพ่อแม่มือใหม่ที่อาจขาดประสบการณ์ดูแลเจ้าตัวเล็ก ด้วย 5 ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพตามช่วงวัยที่แตกต่างกันของคนในครอบครัวอย่าง การปรึกษาแพทย์และพยาบาลออนไลน์ แชทกลุ่ม กิจกรรมไลฟ์ บทความและวิดีโอ และ ระบบบันทึกความทรงจำ พร้อมความร่วมมือระหว่างพันธมิตรชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพครอบครัว ทั้งโรงพยาบาลสมิติเวช กูรูชื่อดัง และ theAsianparent เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตลอดการใช้งาน

AIA iSign การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย โดยการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ในกระบวนการสมัครทำประกันภัยแบบไม่ต้องพบหน้าจบครบในกระบวนการเดียวและมีความปลอดภัยสูง ให้ผู้สมัครทำประกันชีวิตลงนามแบบ Remote Signature (การลงรายมือชื่อจากระยะไกล) ในใบสมัคร ตลอดจนเอกสารประกอบทั้งหมด โดยมีตัวแทนเป็นผู้เสนอขายประกันแบบ Digital Face to Face ภายในระบบ iPoS+ ครอบคลุมการทำประกันทุกประเภท ซึ่งถือเป็นบริการตามแนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) ตามประกาศ คปภ. พ.ศ. 2564

AIA iService โฉมใหม่ แอปพลิเคชันรวมทุกเรื่องเกี่ยวกับกรมธรรม์ไว้ครบในที่เดียว ตั้งแต่บริการยืนยันตอบรับข้อมูลกรมธรรม์ฉบับใหม่ (Freelook) การชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต ตรวจสอบสถานะสินไหม และบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ รวมถึงการทำรายการสับเปลี่ยนกองทุนที่ลงทุนได้สำหรับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ยูนิต ลิงค์ นอกจากนี้ ยังปรับโฉมเมนู "สิทธิพิเศษ" เมนูที่รวบรวมเอกสิทธิ์และสิทธิพิเศษจากพันธมิตรไว้มากมายสำหรับลูกค้าเอไอเอ และสมาชิกเอไอเอ เพรสทีจ คลับ พร้อมให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการได้สะดวกครบรอบด้าน ง่าย จบ ครบในแอปเดียว ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล และสอดรับกับการใช้ชีวิตในวิถีปกติใหม่ หรือ New Normal

"สุดท้ายนี้ผมมั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งทั้ง 5 ข้อ ประกอบกับนวัตกรรมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เอไอเอในฐานะบริษัทเพื่อคนไทย ให้สามารถเติบโตและอยู่เคียงข้างคนไทยเพื่อเอาชนะทุกอุปสรรคร่วมกันได้อย่างยั่งยืน" นายกฤษณ์ กล่าวเสริม

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีบริษัทมีแผนงานรองรับบริการด้านงานเคลมสำหรับรูปแบบการรักษาใหม่ Home Isolationกรณีคนไข้ที่เป็นลูกค้าป่วยโควิดอย่างไร นายกฤษณ์​ กล่าวตอบว่า เอไอเอ ดำเนินงานตามกฎระเบียบและมาตรฐานของ คปภ. ดังนั้น ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเอไอเอ เป็นโรคจากการติดเชื้อโควิด 19 และแพทย์ระบุให้รักษาตัวในรูปแบบ Home Isolation หรือการแยกกักตัวที่บ้าน ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยผลประโยชน์ความคุ้มครองยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขตามกรมธรรม์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพของเอไอเอ ที่มีความคุ้มครองในส่วนของรักษาพยาบาลในกรณีเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) จะได้รับความคุ้มครองผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล ค่าแพทย์ และค่ายา (ตามที่แพทย์สั่ง) โดยรายละเอียดเงื่อนไข ทางเอไอเอ จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง เมื่อสรุปกับทาง คปภ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อข้อถามที่ว่า ประเมินตัวเลขภาพรวมในการจ่ายสินไหมโควิดที่จะกระทบภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทยไว้อย่างไร มากน้อยขนาดไหนในแง่เอไอเอประมาณการไว้อย่างไร นายกฤษณ์​ ตอบว่า​ เอไอเอ เราไม่สามารถประเมินตัวเลขการจ่ายสินไหมจากโควิด 19 ได้ คงต้องรอตัวเลขจากทางสมาคมประกันชีวิตและสมาคมประกันวินาศภัย ที่จะออกมารายงาน และสำหรับเอไอเอ เราไม่มีประกันที่คุ้มครองโควิด 19 โดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพของเราทุกแผน ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงโรคโควิด 19 อยู่แล้วตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งจากรายงานล่าสุด เอไอเอ ประเทศไทย ได้ทำการจ่ายผลประโยชน์ในกรณีเสียชีวิตแล้วมากกว่า 100 ราย และการจ่ายเคลมค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงการเจ็บป่วยจากโรคโควิด 19 ไปแล้วมากกว่า 7,000 ราย
#2913



อุรกวัยจะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้น ให้แก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนทีมีประสิทธิภาพน้อยกว่าของซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว ราว 2 สัปดาห์หลังจากประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตา

90 วันหลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ประชาชนในอุรุกวัยสามารถเข้าฉีดวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ จากการเปิดเผของกราเซียลา เปเรซ หัวหน้าฝ่ายภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ประชาชนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านทานตัวกลายพันธุ์ต่างๆของโควิด-19 ในนั้นรวมถึงเดลตา และโครงการดังกล่าวในเดือนสิงหาคม

"การฉีดวัคซีนจะไม่ใช่การบังคับ" เธอบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอนเตวิเดโอ และบอกว่าอุกรุกวัยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์มากพอสำหรับฉีดแก่ประชาชนเกือบ 1.5 ล้านคนที่เข้าเกณฑ์ฉีดเข็มกระตุ้น

อุรุกวัยกลายเป็นชาติล่าสุดในหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงสาธารณรัฐโดมินิกัน ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีแผนฉีดวัคซีน mRNA ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนฉีดวัคซีนสัญชาติจีน ด้วยความหวังว่ามันจะมอบประสิทธิภาพการป้องกันที่ดีขึ้นต่อตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

ทั้งนี้ อุรุกวัย ซึ่งมีประชากรราว 3.5 ล้านคน ฉีดวัคซีนประชาชนไปแล้วมากกว่า 61% โดยใช้วัคซีนของทั้งซิโนแวค ไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตามวัคซีนซิโนแวค คิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของประชาชนมากกว่า 5.9 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนแล้วในอุรุกวัย

(ที่มา:บลูมเบิร์ก) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000074435
#2914



กลายเป็นดราม่าร้อนเลยทีเดียว เมื่อนักแสดงตลกหนุ่ม นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพข้อความลงในไอจีส่วนตัวว่า "คำว่าแก่ก็ควรแก่อย่างมีคุณค่า ไม่ใช่แก่แบบกะโหลกกะลา อย่าทำตัว แก่เกินแกง" ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ต และมีหลายคนโยงไปถึง เทพ โพธิ์งาม ซึ่งมีข่าวเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยบอกว่าเด็กรุ่นใหม่เอาแต่ด่า พร้อมทั้งชูนายกฯ และระบบไทยดีที่สุด

ล่าสุด นุ้ย เชิญยิ้ม โพสต์ภาพตัวเองและเขียนข้อความว่า "ผมอยู่วงการตลกมา 30 ปี ไม่เคยล่วงเกินหรือปีนเกลียวผู้ใหญ่ หรือแม้แต่นักแสดงตลกที่เด็กกว่าผม ผมก็ให้ความเคารพทุกคน ผมแค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว กับการบริหารงานของผู้ใหญ่ ถ้าหากไปกระทบจิตใจใครผมก็ขออภัยด้วยครับ

ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ถ้าทำดีแล้วเราก็พร้อมชื่นชม แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันยังขาดตกบกพร่องเราควรมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น อย่าตีกรอบว่าการวิจารณ์อีกฝ่ายหมายถึงเราเลือกอีกฝ่าย หลายๆ ท่านที่ออกมาพูดเพราะอยากเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ที่วิกฤติแบบนี้ อย่าตัดสินเองว่าใครอยู่ฝั่งไหน.. ด้วยความเคารพครับ"


นอกจากนี้ นุ้ย เชิญยิ้ม ยังโพสต์คลิปให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ลงไอจี โดยยืนยันว่าไม่ได้โพสต์ถึงป๋าเทพแน่นอน ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก.
#2915



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประเมินตำแหน่ง และ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้ครูต้องปรับรูปแบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น ก.ค.ศ. ได้ปรับหลักเกณฑ์การประเมิน และทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยืดหยุ่นหลักเกณฑ์การประเมินต่างๆ โดยครูที่เป็นจิตอาสาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สามารถนำมาใช้เป็นผลงานในการประเมินได้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษายืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนการประเมินผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ใช้การประเมินในแนวทางเดียวกัน

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้จัดประชุมคณะทำงานดำเนินการนำร่องการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะ ผ่านระบบออนไลน์ มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ห่วงใยเรื่องการเรียนการสอน และจากการรับฟังปัญหาของครูในพื้นที่ อยากให้มีงบประมาณเข้ามาช่วยเด็กในการเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบปัญหา คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเร็วๆ นี้ ทั้งการปรับ และยืดหยุ่นระเบียบการใช้เงินอุดหนุนรายหัว การนับเวลาเรียน การประเมินผลการจัดการเรียน การบริหาร จัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง

"ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.เอง พยายามปรับระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด และเป็นไปตามนโยบาย โดยการประเมินต่างๆ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือเป็นการปลดล็อก ไม่ให้กระทบภาพรวมการจัดการเรียนการสอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูฯ จำนวน 1,933 ราย ยื่นทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกรณีนี้ยืดเยื้อ และมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2561 และ ก.ค.ศ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้พิจารณาแล้ว และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ครบทุกคน เนื่องจาก อ.ก.ค.ศ.ไม่สามารถจัดประชุมได้ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ดังนั้น การทำงานจึงอาจต้องล่าช้าออกไป แต่ ก.ค.ศ.จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียสิทธิจากกรณีดังกล่าว ได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินเพื่อขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และได้รับแจ้งผลการประเมินปี 2561 ขณะนั้นผู้ที่ยื่นขอทบทวน 16 ราย ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2561
#2916
ซิกส์ทีม (SIXTEEM) คือแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องสำอางบำรุงผิว ที่มีแนวคิดแรกเริ่มจากการนำข้าวไทยมาเป็นวัตถุดิบส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ โดยคุณพัทธนันท์ เศรษฐภูวนันท์ ผู้จัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ โดยมีแรงผลักดันจากปัญหาเศรษฐกิจ ณ เวลานั้นคือเกษตรกรกับการจำนำข้าว ทำให้มีแนวคิดเพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรรวมทั้งเพิ่มราคาให้ข้าวไทย ทางซิกส์ทีมก็เลยนำปัญหานี้ไปต่อยอดค้นคว้าหาข้อมูลข้าวสายพันธ์ต่างๆที่สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในสินค้า จนพบว่าข้าวสีนิลไทยหรือข้าวหอมนิล ที่มีคุณประโยชน์ มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การบำรุงผิวพรรณ โดยซิกส์ทีมเริ่มออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกในปี พ.ศ. 2559 เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายจากสารสกัดข้าวสีนิล ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้อย่างดีเยี่ยม





 ซิกส์ทีมยังคงสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์การบำรุงผิวเรื่อยมาจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2560 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ ก็ได้รับรางวัล Chiang Mai TOP TEN AWARDS 2017 จากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็ยังถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในสินค้าของดีจังหวัดเชียงใหม่ ถัดมาก็ได้รับรางวัล SMEs START UP AWARDS 2017-2018 จาก สสว. ถึงสองปีซ้อน แล้วก็ล่าสุดได้รับรางวัล SME Provincial Champions 2020 กิจการต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่ รางวัลต่างๆและเสียงตอบรับจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ทำให้ซิกส์ทีมมั่นใจมากขึ้นว่าสามารถส่งเสริมให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงในระดับประเทศได้ ซิกส์ทีมก็เลยเริ่มนำสินค้าที่มีออกวางขายไปต่างประเทศ โดยได้รับการผลักดันและส่งเสริมจากภาครัฐได้ออกบูธสินค้าในประเทศจีน และก็สปป.ลาว ต่อเนื่องเรื่อยมา





 ในปี พุทธศักราช 2562 ซิกส์ทีม ได้ผลักดันข้าวไทยสู่งานนวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งคิดค้นรวมทั้งพัฒนาร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนโดย สวทช. โดยข้าวที่ซิกส์ทีมนำมาร่วมศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้คือ "ข้าวก่ำดอยสะเก็ด" เป็นพญาแห่งข้าวทั้งหลาย สายพันธุ์ดั้งเดิมของชาวล้านนา รวมทั้งยังเป็นข้าวGI ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี 6 สรรพคุณ ต่อต้านความชรา จากงานศึกษาเรียนรู้ข้าวครั้งนี้ ส่งผลให้ซิกส์ทีม คิดค้นและต่อยอดจนกระทั่งเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากข้าวไทย ปัจจุบันนี้ซิกส์ทีมยังคงมุ่งมั่นพัฒนา โดยเป็นแบรนด์แรกๆที่ได้นำข้าวสีนิลไทยมาสกัดจนเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพสูงสุด โดยนอกเหนือจากการที่จะต้องการส่งเสริมชาวนาไทยแล้ว ซิกส์ทีมยังตั้งใจสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ข้าวไทยสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่ให้สูญหาย และร่วมผลักดันให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป



 
 
#2917



นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หรือ  KKP แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 ในงานแถลงข่าวรูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมว่า ภาพรวมธุรกิจของทั้งกลุ่มธุรกิจฯ เติบโตได้ดี ทั้งในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจตลาดทุน มีกำไรสุทธิ 2,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปี 2563 ในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ สินเชื่อขยายตัวขึ้นร้อยละ 6.6 จากเมื่อสิ้นปี 2563 โดยเฉพาะในกลุ่มของสินเชื่อที่มีหลักประกัน (collateralized) เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อย หรือสินเชื่อสำหรับบรรษัทกลุ่มที่มีเครดิตดี นับเป็นผลสำเร็จจากกลยุทธ์การเติบโตอย่างระมัดระวัง ซึ่งช่วยรักษาผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกัน ในส่วนของธุรกิจตลาดทุน มีผลประกอบการที่ดีในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ซึ่งยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งและได้รับผลดีจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจจัดการกองทุน ที่มีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำหรือการจัดการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 และร้อยละ 12 ตามลำดับ ธุรกิจวาณิชธนกิจ ที่มีรายได้จากค่าธรรมเนียมของการดำเนินการธุรกรรมขนาดใหญ่ในครึ่งปีแรกเสร็จสิ้น และธุรกิจการลงทุนโดยตรงที่มีรายได้เบ็ดเสร็จกว่า 1,103 ล้านบาท

 "ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรโดยรวมมีความแข็งแรงจากแหล่งที่มารายได้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะธุรกิจตลาดทุนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากเท่าภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นมาตรการเชิงป้องกันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดซึ่งยังมีความไม่แน่นอนและอาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในอนาคต ธนาคารจึงยังคงตั้งสำรองอยู่ในระดับที่สูง โดยสำหรับไตรมาส 2/2564 เป็นจำนวน 1,378 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการพิจารณาตั้งสำรองพิเศษ (Management Overlay) รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในระยะที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่าส่งผลกระทบไม่สม่ำเสมอกันสำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม กลุ่มธุรกิจฯ จึงยังตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อรวมแบบระมัดระวัง ในกลุ่มที่มีศักยภาพที่ร้อยละ 8-12 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสินเชื่อกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ อีกทั้งยังเตรียมพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่"

ด้านนายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (Mr.Philip Chen Chong Tan, President, Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited) ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ว่า "ในสถานการณ์โควิด-19 การรักษาการเติบโตในสินเชื่อกลุ่มที่มีคุณภาพและมีความสามารถที่จะชำระหนี้จะช่วยรักษาอัตราผลตอบแทนของพอร์ตสินเชื่อรวมให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้น กลยุทธ์ด้านสินเชื่อของธนาคารคือการเติบโตแบบระมัดระวังในกลุ่มที่มีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังสำหรับผลขาดทุนด้านเครดิต และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น สิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างมาก ก็คือการให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ไม่ว่าสินเชื่อรายย่อย หรือสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะภายใต้สมมติฐานว่าสถานการณ์อาจดำเนินติดต่อไปเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ ธนาคารได้ใช้ข้อมูลการชำระหนี้ของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาออกแบบมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยปัจจุบัน ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในทุกประเภทสินเชื่อคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของสินเชื่อทั้งหมดของธนาคาร"

นายปรีชา เตชรุ่งชัยกุล ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (Mr. Preecha Techarungchaikul, Head of Finance and Budgeting, Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited) ให้รายละเอียดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 ว่า "กลุ่มธุรกิจฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 จากครึ่งปีแรก 2563 โดยเป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน จำนวน 936 ล้านบาท ในส่วนของ ปริมาณการตั้งสำรองสำหรับปี 2564 มีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 160.1 นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิรวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 7,624 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 3,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จากครึ่งปีแรก 2563 และธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio)คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ร้อยละ 17.89 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1จะเท่ากับร้อยละ 13.51"
#2918



"แทมมี่ ดักเวิร์ธ" ส.ว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทย เผย สหรัฐอเมริกาวางแผนส่งวัคซีนโควิด-19 ช่วยไทย เพิ่มเป็น 2.5 ล้านโดส โดยล็อตแรก 1.54 ล้านโดส จะส่งถึงประเทศไทยวันศุกร์นี้

เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ นักการเมืองหญิงอเมริกันเชื้อสายไทย จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทย

ดักเวิร์ธ กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture" จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวข้อ "โอกาสใหม่สำหรับสหรัฐฯ-ไทย ในฐานะพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก" เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 ว่า แผนดังกล่าวเป็นตามคำมั่นของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยจะได้รับทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส

ดักเวิร์ธ ระบุอีกว่า สหรัฐฯได้ส่งวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ไปยังประเทศไทยแล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวมีกำหนดจัดส่งถึงกรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้ (30 ก.ค.) หลังจากล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งเดือน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. วุฒิสมาชิกแทมมี่เคยประกาศแสดงความยินดีเรื่องสหรัฐฯ มอบวัคซีนให้แก่ไทย โดยดักเวิร์ธ ระบุในแถลงการณ์เมื่อครั้งนั้น ว่า ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุด ให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย
#2919



นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้จัดทำข้อเสนอในการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนของประเทศไทยเพื่อใช้เป็นแรงจูงใจที่สำคัญในการชักจูงให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งดึงดูดให้คนที่มีความสามารถสูงเข้ามาทำงานและใช้ชีวิตในประเทศไทยซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมและฟื้นฟูประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง

โดยในส่วนนี้ต้อมีการปรับปรุงกฎหมายหลายส่วนโดยเฉพาะเกกณฑ์การซื้อที่อยู่อาศัยและวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาว ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ได้เสนอผ่านคณะกรรมการฯไปยังนายกรัฐมนตรีว่าให้มีการปรับปรุงในส่วนของข้อกำหนดเดิมที่ให้ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยซึ่งต้อการจะซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในประเทศสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยได้ จากเดิมกำหนดว่าจะต้องใช้แหล่งเงินจากภายนอกประเทศเข้ามาซื้อ ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาทำงานและอาศัยในไทยในระยะยาวมากขึ้น 

และช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับภาคอสัหาริมทรัพย์ในปัจจุบันซึ่งในสต็อกของคอนโดเหลืออยู่จำนวนมาก ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการหารือกับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกรมที่ดินแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คอนโดฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งในส่วนนี้จะปลดล็อกเฉพาะคอนโคฯก่อนไม่เกี่ยวกับการซื้อบ้านซึ่งในส่วนนั้นมีประเด็นของกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้ 

"นักธุรกิจ และชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทยจำนวนหนึ่ง ต้องการที่จะซื้อคอนโดมิเนียมที่มีราคาแพงมากเป็นพรีเมี่ยมแต่กฎหมายกำหนดว่าไม่ให้คนกลุ่มนี้กู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศมาซื้อคอนโดฯ หากสามารถปลดล็อกในส่วนนี้ได้ก็จะช่วยให้สามารถระบายสต็อกคอนโดที่มีอยู่จำนวนมากได้ส่วนหนึ่ง"

สำหรับการต่ออายุคอนโดมิเนียมประเภทการซื้อที่ให้สิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดหรือ "ลีสโฮลด์" (Leasehold) คณะกรรมการฯก็ได้เสนอให้ขยายสิทธิ์จากเดิม 30 ปี เป็น 50 ปีเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและการขยายระยะเวลาเช่ากรรมสิทธิ์ให้ยาวขึ้นก็จูงใจให้มีการทำธุรกรรมในรูปแบบนี้มากขึ้น

สำหรับการแก้ไขเรื่องการให้วีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการมาอาศัยระยะยาวในประเทศไทย (long stay Visa) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกษียณอายุหรือเป็นกลุ่มที่มีอายุมากไม่ได้ทำงานแล้วเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยแบบระยะยาว ได้เสนอให้มีการพิจารณาปรับปรุงจากการให้วีซ่าในระยะเวลา 1 ปีต่อครั้ง เป็น 5 ปีต่อครั้งซึ่งจะจูงใจกลุ่มผู้สูงอายุในกลุ่มประเทศแสกนดิเนีวยร์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลียให้มาอยู่ในประเทศไทยได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อกลุ่มนี้มาอยู่ในระยะยาว 5 ปีก็จะคิดเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งกฎเกณฑ์เรื่องการกู้เงินเพื่อซื้อคอนโดในประเทศไทยได้ก็จะเอื้อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

นายกอบศักดิ์กล่าวต่อว่าในส่วนของการผลักดันเรื่องการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน และการตัดลดกฎหมายที่ไม่จำเป็น (regulatory guillotine) ได้ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งจากการศึกษาพบว่าข้อกฎหมายที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ทันสมัยหรือเข้ากับสถานการณ์ซึ่งพบว่ามีอยู่ประมาณ 1,000 กระบวนงานข้อกฎหมาย คำสั่ง หรือกฎกระทรวงต่างๆ ที่เป็นปัญหา

ซึ่งได้ส่งแบบสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆที่เป็นเจ้าของกฎหมายแล้วซึ่งมีการสอบถามว่าจะปรับเปลี่ยน แก้ไขได้อย่างไรซึ่งมีการตอบกลับมาแล้ว 50% 30% มีความเห็นด้วยว่าจะต้องแก้ไขปัญหาและจำนวนไม่น้อยขั้นตอนจำนวนมากสามารถแก้ไขได้ที่หน่วยงานราชการนั้นเองให้มีความรวดเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น เหมือนกับการทำ 5 ส. ส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต้องแก้กฎหมายก็จะมีการเสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตามในส่วนที่สามารถแก้ไขได้จากการปรับลด แก้ไขกระบวนงานซึ่งลดลงได้ 20 - 30% จะได้เกือบ 200 - 300 ข้อ ซึ่งหากคิดเป็นการลดต้นทุนของประชาชนและภาคธุรกิจลงได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยในการปรับลดกฎหมายและตัดลดกฎหมายที่ไม่จำเป็นหรือแนวทาง "5 ส.กฎหมาย" ในส่วนของราชการ ได้วางแนวทางในการพิจารณาของหน่วยงานราชการไว้ 3 ข้อได้แก่

1.เป็นระเบียบ ข้อกำหนดที่ไม่มีกฎหมายรองรับ

2.เป็นกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ

และ 3.เป็นกฎหมายไม่เหมาะสมกับยุคสมัย 

"หลายประเทศในอาเซียนกำลังให้ความสำคัญและจริงจังกับการปฎิรูปและสะสางกฎหมายที่ไม่มีความจำเป็น เป็นภาระให้ประชาชน ภาคธุรกิจ หรือเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย เนื่องจากทุกประเทศรับทราบข้อมูลที่ตรงกันว่าการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายจะมีผลต่อการดึงดูดการลงทุน และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและมีผลต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการดำเนินธุรกิจ (Ease of doing business) ซึ่งหากประเทศไทยไม่ดำเนินการในเรื่องนี้ก็จะเสียเปรียบและตกขบวนการพัฒนาและการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"นายกอบศักดิ์กล่าว 
#2920
ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ทีดินบนเนินเขา ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน  พื้นที่ 10ไร่ 1 งาน 35 ตารางวา พัฒนาแล้ว เหมาะมากสำหรับทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
ขายถูกที่ดินแม่จันสวยมาก เชียงราย ทีดินสวยมากบนเนินเขา เนื้อที่ 10ไร่ 1 งาน 35 ตารางวา ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน พัฒนาแล้ว ปรับแต่ง ภูมิทัศน์ จัดมุมต่างอย่างสวยงาน เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน เชียงราย เหมาะทำรีสอร์ท ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน
เชียงราย ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน ใกล้แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดเชียราย
เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เห็นวิวธรรมชาติ อากาศดีมาก เป็นส่วนตัว ใกล้ ตัวเมือง,แหล่งท่องเที่ยว,
-โรงพยาบาล เดินทาง 10 นาที 8 กม.
-โลตัส เดินทาง 10 นาที 8 กม.
-เซเว่น เดินทาง 5 นาที 4 กม.
-ตลาด เดินทาง 5 นาที 4 กม.
-ห้าแยกพ่อขุน เดินทาง 40 นาที 35 กม.
-ม.แม่ฟ้าหลวง เดินทาง 25 นาที 20 กม.
-ไร่ชาฉุยฟง เดินทาง 25 นาที 18.5 กม.
-พระตำหนักดอยตุง เดินทาง 30 นาที 29 กม.
ทีดินเหมาะสร้างบ้านแม่จัน หรือ เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ทำแหล่งท่องเที่ยว จุดกางเต้นท์ รีสอร์ท ร้านอาหาร ได้
ขายที่ดินอำเภอแม่จันเหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ปล.ที่ดินพัฒนาแล้ว ระบบน้ำไฟ พร้อม และ ได้ทำการจัดวางมุมต่างๆให้ดูสวยงาม พื้นที่ดินได้รับการดูแลอยู่เสมอ รอคุณมาเป็นเจ้าของ


ราคา ยกแปลง 13 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
090-1419966, 081-1122440


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://tdin.online/ขายที่ดินสวยและถูกแม่จ/

คำค้น
ขายที่ดินสวยและถูกแม่จันเหมาะทำรีสอร์ท, ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน-เชียงราย, ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน,  ขายที่ดินเหมาะทำโฮมสเตย์แม่จัน-เชียงราย, ทีดินเหมาะสร้างบ้านแม่จัน