• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#2881


รถเช่าหาดใหญ่ บริการรับ-ส่ง สนามบินฟรี รถเช่าขับเอง พร้อมคนขับ 

ไม่ใช้บัตรเครดิต ราคาเริ่มต้น 800 บาท  โทร. 081-849-1625 Line ID : ohm_carrent

รถเช่าหาดใหญ่ ซันไชน์ คาร์เร้นท์ เปิดให้บริการรถเช่า หาดใหญ่ สงขลา 

โดยมีรุ่นรถให้บริการหลายรุ่น เช่น All New Camry 2018 , Honda Accord

Camry Hybird 2013 , Fortuner TRD  , Fortuner  , Altis 2015

Vios 2014-2018 , Yaris Ativ 2017-2018 , Yaris 5 ประตู 2014 

พร้อมบริการ และเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า ทางบริษัท รับ-ส่ง รถฟรีที่สนามบิน นึกถึง รถเช่าหาดใหญ่ 

รถเช่าหาดใหญ่ราคาถูก รถเช่าหาดใหญ่พร้อมคนขับ ให้ทางบริษัท หาดใหญ่ ซันไชน์ คาร์เร้นท์ 

ได้เป็นส่วนหนึ่งของท่านเมื่อมาท่องเที่ยว หรือทำงาน มีทั้งเช่าแบบรายวัน รายเดือน รายปี หรือตามตกลงกับทางลูกค้า
 
Tags :: รถเช่าหาดใหญ่,เช่ารถหาดใหญ่,รถเช่าสนามบินหาดใหญ่
 
#2882
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#2883


เพื่อให้คลังเวชภัณฑ์ทำงานอัตโนมัติ, สร้างระบบเก็บ-รับ-ส่ง-ประมวล-แสดงผลข้อมูลการเข้า-ออก และตำแหน่งปัจจุบันของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างละเอียด เรียลไทม์ ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนและจัดเตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอต่อการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ผศ.กานดา บุญโสธรสถิตย์ หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มจธ. และหัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะฯ กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะชุด PPE, หน้ากาก N95 และเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่มีกว่า 130 ชนิด (SKU) ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ หรือ ขาดสต๊อก มาจากปัญหาข้อมูลเวชภัณฑ์ในระบบไม่อัปเดต เพราะต้องใช้แรงงานคนในการติดตามการใช้งานและนับสต็อก ก่อนการคีย์ข้อมูลเข้าระบบจำนวนมาก ใช้เวลานาน

และไม่สามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา ข้อมูลปริมาณการใช้งานและจำนวนคงเหลือที่มีอยู่ในระบบจึงไม่สะท้อนความจริง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถจัดสรรจำนวนเวชภัณฑ์ให้โรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม รวมถึงประชาชนที่ต้องการบริจาคเวชภัณฑ์เพื่อช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็ไม่สามารถบริจาคได้ตามความขาดแคลนที่แท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของโครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ ที่เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

"เรานำนวัตกรรมโลจิสติกส์มาพัฒนาคลังเวชภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น โดยอัปเกรดอุปกรณ์ในคลัง เช่น รถเข็น, ตะกร้า, กล่องรักษา-ควบคุมอุณหภูมิ, ชั้นวางของ, ตู้แช่เย็น ด้วยกลุ่มเทคโนโลยี IoT ได้แก่ เทคโนโลยี RFID ที่ติดตั้งแท็กบนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลเวชภัณฑ์ได้อัตโนมัติ เช่น ประเภทของเวชภัณฑ์ หมายเลขล็อตหรือแบ็ทช์, สถานที่ผลิต, วันผลิต, วันหมดอายุ, ตำแหน่งการวางและหยิบเวชภัณฑ์ในคลัง เป็นต้น ทดแทนการใช้คนจดบันทึกและคีย์ข้อมูลเข้าระบบ โดยโรงพยาบาลสามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) สำหรับการจัดการเวชภัณฑ์คงคลัง ด้วย Economic Order Quantity (EOQ) เพื่อมาคำนวณว่า ควรสั่งเวชภัณฑ์แต่ละประเภทปริมาณเท่าใด และเมื่อไหร่ ทั้งนี้ ข้อมูลเวชภัณฑ์จะอัปเดตทันทีเมื่อมีการนำเวชภัณฑ์เข้าและออกจากคลัง ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถเช็คข้อมูลสต๊อกได้ถูกต้อง ตรงกัน และสั่งเวชภัณฑ์ได้ทันเวลา"


โดย ทีมวิจัยฯ เลือกใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน แก้ปัญหาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำลังเผชิญ ด้วยงบประมาณที่สมเหตุสมผล เช่น การบันทึกปริมาณการใช้เวชภัณฑ์ สามารถเลือกใช้การติดตั้งตราชั่ง หรือ โหลดเซลล์ บนอุปกรณ์ ร่วมกับแท็ก RFID บนชั้นวางสำหรับเวชภัณฑ์ราคาสูงและ/หรือมีขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพง ส่วนเวชภัณฑ์อื่นๆ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ด ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

 ด้าน รศ.นพ. พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลังเวชภัณฑ์ใหญ่ กับคลังย่อยของวอร์ดต่างๆในโรงพยาบาลยังไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้การตรวจสอบปริมาณที่แท้จริงของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดที่มีและใช้อยู่เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 เวชภัณฑ์อย่างชุด PPE, หน้ากาก N95 เป็นเวชภัณฑ์ป้องกันที่จำเป็นและขาดไม่ได้ การพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ จะเข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการเวชภัณฑ์ทั้งระบบดีขึ้น ทำให้รับรู้ปริมาณของที่มีถูกต้อง และช่วงเวลาที่ควรสั่งซื้อ จนถึงความเหมาะสมในการนำเวชภัณฑ์แต่ละชนิดไปใช้ ซึ่งหากระบบนี้สำเร็จจะช่วยป้องกันปัญหาเวชภัณฑ์ขาดแคลนได้ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย และการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
"นอกจากประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของโรงพยาบาล คลังอัจฉริยะยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาล ช่วยลดภาระงานของบุคลากรในงานด้านข้อมูล หมดปัญหาเวชภัณฑ์หมดอายุ เพราะมีการบันทึกวันเข้าและวันออกจากคลังแบบเรียลไทม์ ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงสู่ระบบโลจิสติกส์ เพราะภายในโรงพยาบาลจะมีคลังย่อยต่างๆ แต่การบริหารจัดการแบบภาครัฐ จะให้ความสำคัญกับคลังใหญ่เป็นหลัก มีการเช็คข้อมูลสต๊อก ของเข้าและออกในคลังใหญ่ แต่ยังไม่มีระบบจัดการข้อมูลในคลังย่อย หากเป็นไปได้ก็อยากเห็นทุกโรงพยาบาลในประเทศไทยมีระบบคลังอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลไปถึงคลังย่อยแบบครบวงจร สามารถดูภาพรวมของที่มีอยู่ในโรงพยาบาลได้ทั้งหมด จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจน" รศ.นพ. พฤหัส กล่าวเพิ่มเติม 

โครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และบริษัททำน้อยได้มากจำกัด ผู้ให้บริการด้านระบบการจัดการคลังสินค้า และผู้ให้คำปรึกษาด้านลีน ที่มาร่วมกันพัฒนาคลังเวชภัณฑ์เพื่อรองรับการทำงานของโรงพยาบาลต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงหาทุนสนับสนุนวิจัย เมื่อได้รับทุนแล้วก็พร้อมลงมือพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะได้ทันที
#2884


ท่ามกลางวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 หลายธุรกิจต้องปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานสาธารณสุขและการแพทย์ถือเป็นหัวใจหลักในการต่อสู้กับภัยพิบัติระดับโลกครั้งนี้ สำหรับ "วอชเทค" หนึ่งในผู้ให้บริการโรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาล ONE WAY FLOW ได้ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยมีการใช้ระบบแรงดันอากาศเป็นลบ (Negative Pressure) ในโซนซักผ้าแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19

นายวันชัย วงศ์แสงอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีซัลท์ พลัส จำกัด เจ้าของแบรนด์ "วอชเทค (ประเทศไทย) โรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาล" กล่าวถึงความสำคัญของโรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาลว่า "สถานการณ์ในตอนนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ดังนั้น หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลคือ ความสะอาดของผ้าที่ใช้ในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันชีวิตหมอ พยาบาลและผู้ป่วยทุกชีวิตในโรงพยาบาล เนื่องจากการใช้งานผ้าในโรงพยาบาลเป็นการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ และมีการสัมผัสใกล้ชิดกับทั้งผู้ป่วย หมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เกือบทุกส่วน ดังนั้น ผ้าทุกชิ้นต้องผ่านการซักแบบปลอดเชื้อให้ได้มาตรฐาน



"ผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเราไม่มีวันรู้ว่า จะมีผ้าผืนไหนติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่ตั้งใจเข้าสู่โรงซักเมื่อไหร่ จึงจำเป็นต้องมีระบบจัดการผ้าติดเชื้อที่เข้มงวด ดังนั้น ภารกิจหลักของวอชเทค โรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาลคือ การช่วยสนับสนุนด้านความสะอาดของผ้าทุกชิ้น ทุกประเภท ตั้งแต่ผ้าผ่าตัด เสื้อผู้ป่วย ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปูเตียง รวมถึงชุดที่แพทย์พยาบาลใส่ในระหว่างการดูแลรักษาผู้ป่วย เพื่อให้โรงพยาบาลไม่ต้องกังวลกับการซักผ้า และสามารถทุ่มเทไปกับการดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น" นายวันชัย กล่าว

"เพราะประเทศไทยยังไม่มีโรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มธุรกิจในปี 2560 ด้วยเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 4 ไร่ เราจึงออกแบบโรงซักผ้าปลอดเชื้อของเราให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SARS , MERS และ Ebola เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม"

"เราลงทุนกับระบบเครื่องจักรและกระบวนการทำงานแบบ ONE WAY FLOW โดยใช้ระบบแรงดันอากาศเป็นลบ (Negative Pressure) ในโซนซักผ้าเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย สอดคล้องกับมาตรฐานของ Healthcare Accreditation (HA) และ Joint Commission International (JCI) เราจึงเป็นโรงซักผ้าปลอดเชื้อสำหรับโรงพยาบาลโดยเฉพาะแห่งแรกที่ได้ใช้ระบบการควบคุมคุณภาพอากาศภายในโรงงานด้วยการสร้างแรงดันอากาศ ระบบปรับอากาศ ตามมาตรฐานของ The Healthcare Laundry Accreditation Council (HLAC)"

"เรายังเป็นเจ้าของ "อนุสิทธิบัตร โรงงานทำความสะอาดผ้าแบบแยกห้อง" ด้วยการกั้นพื้นที่โซนซักผ้า (Dirty Zone) และโซนรีดผ้า (Clean Zone) ออกจากกัน ทำให้อากาศทั้ง 2 โซนไม่ปะปนกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการดักจับฝุ่นผ้าด้วยระบบน้ำ และการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก ตามมาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมาตรฐานสูงสุดในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ของไทย"นายวันชัย กล่าวย้ำ



ทั้งนี้ ที่ผ่านมา "วอชเทค" ให้บริการซักผ้าปลอดเชื้อให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี 1 โรงพยาบาลธนบุรี 2 โรงพยาบาลเมดพาร์ค โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น โดยในปี2562 มีรายได้ 52 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้ 64 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 25% ในปีที่ผ่านมา และเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น ความต้องการบริการซักผ้าปลอดเชื้อจึงมีความสำคัญและได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าในปี 2565 จะขยายบริการไปในภูมิภาคต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของโรงพยาบาลในท้องถิ่น
#2885


โยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส เปิดรังไล่ถล่ม เวกัลตะ เซนได ขาดลอย 5-0 ในศึกฟุต.เจลีก 2021 โดย "โก๋อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายชาวไทยได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วงท้าย

การแข่งขันฟุต.เจลีกฤดูกาล 2021 นัดที่ 25 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา โยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส เปิดสนามนิปปาซึ มิตซูซ่าว่า สเตเดียม รับการมาเยือนของ เวกัลตะ เซนได

เกมนี้ โยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส ได้ประตูจาก เลโอ เซียร่า กองหน้าวชาวบราซิเลียนซัดแฮตทริคได้ในนาทีที่ 25, 62, 70 และ มาร์กอส จูเนียร์ ในนาทีที่ 67 ก่อนที่ช่วงเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้ายจาก จุน อามาโนะ โดย ธีราทร บุญมาทัน ลงสนามในนาทีที่ 78

ทำให้จบเกม โยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส เก็บเพิ่ม 3 แต้ม รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงหลังลงเตะ 25 นัด มี 59 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง คาวาซากิ ฟรอนเตเล่ 3 แต้ม
#2886


ฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ​​ตามที่ รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ระลอกใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่ซื้อเที่ยวโดยสารแล้วไม่ได้ใช้เดินทางทำให้เที่ยวโดยสารหมดอายุนั้น

​การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้โดยสาร จึงได้ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ที่มีเที่ยวโดยสาร(Trip Pass) ที่หมดอายุสามารถเปลี่ยนเที่ยวโดยสารที่หมดอายุเป็นคูปองเดินทางตามจำนวนเที่ยวโดยสารคงเหลือ จากเดิมผู้โดยสารที่มีเที่ยวโดยสารในบัตร MRT และ MRT Plus ประเภท 30 วัน ที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 และเที่ยวโดยสารประเภท 60 วัน ที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 30 มิถุนายน 2564 ขยายเวลาเป็น ผู้โดยสารที่มีเที่ยวโดยสารในบัตร MRT และ MRT Plus ประเภท 30 วัน ที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 31 สิงหาคม 2564 และเที่ยวโดยสารประเภท 60 วัน ที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 30 กันยายน 2564

ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับเป็นคูปองเดินทางตามจำนวนเที่ยวโดยสารที่คงเหลือ โดยนำบัตรโดยสารไปติดต่อขอรับคูปองตามประเภทของเที่ยวโดยสารที่หมดอายุ ได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงทุกสถานี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งคูปองการเดินทางดังกล่าวจะมีอายุการใช้งาน 60 วัน นับจากวันที่ได้รับคูปอง และไม่สามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน หรือคืนได้ทุกกรณี โดยมีเงื่อนไขการใช้เดินทางเป็นไปตามที่ รฟม. และ BEM กำหนด




​​ อย่างไรก็ดี รฟม. และ BEM จะยังคงดำเนินมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ในระบบรถไฟฟ้า MRT อย่างเข้มงวด และ พร้อมสนับสนุนมาตรการของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน และขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ด้วยดีเสมอมา ตลอดจนขอให้ประชาชนทุกท่านมีความเข้มแข้ง ยืนหยัด และปลอดภัยสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว เราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างดูแลผู้โดยสารและขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0 2624 5200 เฟซบุ๊ก: MRT Bangkok Metro ทวิตเตอร์: MRT Bangkok Metro อินสตาแกรม: mrt_bangkok หรือ โมบายแอปพลิเคชัน: Bangkok MRT และติดตามข้อมูลข่าวสาร รฟม. เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044
#2887


นายนพพล โพธิ์ขี ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ ผู้บริหารโครงการยานยนต์ไฟฟ้า บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาการให้บริการช่วยเหลือ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่เป็นผู้ให้บริการทางยกระดับดอนเมือง ซึ่งเป็นทางหลวงสัมปทาน ที่ต้องคอยช่วยเหลือและให้บริการผู้ใช้ทางยกระดับมามากกว่า 30 ปี มีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 แสนคันเป็นประจำทุกวัน โดยมีรถยนต์มาใช้บริการทางยกระดับหลายลักษณะ อาทิ รถยนต์ส่วนบุคคล รถบัสโดยสารสาธารณะ รถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เป็นต้น

ดังนั้นหน่วยงานปฏิบัติการที่ให้บริการใกล้ชิดกับผู้ใช้ทางตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของรถยนต์จากการใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต


ตามนโยบายการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ เรามีนโยบาย 5 พ. ซึ่ง พ.ที่สำคัญนั้นก็มี พ. พัฒนาคน และ พ. พัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองการให้บริการผู้ใช้ทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีมีความเปลี่ยนแปลง คนก็จะต้องมีการพัฒนาไปด้วย ซึ่งการเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง

บริษัทพบว่ามีรายงานการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มาใช้บริการทางยกระดับดอนเมืองโทล์ลเวย์ และมีเหตุการณ์รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขัดข้องบนทางยกระดับของเรา ทำให้บริษัทฯ เริ่มวางแผนการให้บริการแก้ไขปัญหากับยานยนต์เหล่านั้นอย่างทันท่วงที เช่น แบตเตอรี่หมด เราจะช่วยเหลือผู้ใช้ทางอย่างไร การเคลื่อนย้ายยานพาหนะ ก็มีความแตกต่างกับรถยนต์สันดาปทั่วไป เนื่องจากตำแหน่งจัดวางเครื่องยนต์ก็แตกต่างกัน การตรวจสอบสภาพก่อนการช่วยเหลือ รวมถึงการให้บริการชาร์จไฟฟ้า รถแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกัน

ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง ศึกษาและวางแผนเพื่อรองรับ โดยภาครัฐเองมีนโยบายสนับสนุนและกระตุ้นการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม หรือแม้แต่สถานีให้บริการน้ำมันก็มีสถานีชาร์จไฟฟ้า ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ก็เป็นที่แน่นอนว่า บนทางด่วนนั้นจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งในปี 2562 ที่ผ่านมา

บริษัทฯ ก็ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยการมอบรางวัลสำหรับผู้ใช้ทางที่โชคดีในโครงการ Tollway Lucky Way "ใบเสร็จให้โชค" รางวัลที่ 1 เป็นการมอบรถยนต์ไฟฟ้า (รถยนต์ EV) ซึ่งก็เป็นการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย" 

 นายนพพล กล่าวว่า  ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษาเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ได้ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการออกไอเดียสำหรับการพัฒนาการทำงานของตนเอง ผ่านโครงการ "พนักงานนักพัฒนา" ภายใต้โครงการ "I Love DMT" ที่ให้พนักงานเสนอโครงการพัฒนางานที่เกิดจากการปฏิบัติงานของตนเองซึ่งเรื่องการให้บริการช่วยเหลือรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ประสบการณ์การทำงานจริง ควบคู่กับการศึกษาดูงานและเรียนรู้จากบริษัทฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า นำมาผนวกเข้ากับประสบการณ์การทำงาน มาออกแบบโครงการ

จากผลการนำเสนอผลงานของพนักงาน ก็ได้ คู่มือการช่วยเหลือยานยนต์ไฟฟ้า การตรวจสภาพ การเคลื่อนย้ายยานยนต์ไฟฟ้า และอีกส่วนหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันให้บริการแก่รถยนต์ไฟฟ้า นั่นก็คือ การหาอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบเคลื่อนที่ (Mobile Charging)

สำหรับชาร์จไฟฟ้าชั่วคราวแบบ Quick Charge และการเคลื่อนย้ายรถยนต์ไฟฟ้าไปยังสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่ให้บริการโดยพันธมิตร อีกทั้งการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าของบริษัท สำหรับช่วยเหลือยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป และองค์ความรู้เหล่านี้บริษัทฯ ก็จะใช้ในการวางแผนปฏิบัติการ และพัฒนาการให้บริการให้ดีขึ้นไป อีกทั้งสามารถต่อยอดไปเป็นผู้ให้บริการสำหรับทางด่วนสายอื่นๆ ในอนาคตที่ต้อง ดำเนินการในลักษณะนี้ต่อไปอย่างแน่นอน 
#2888


วิกฤตการระบาดของโควิด-19 กระทบวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ผู้ประกอบการรายใหญ่ กลาง เล็ก ต้องตัดสินใจปิดกิจการ ลูกจ้างตกงาน คนทำมาค้าขายหาเช้ากินค่ำ ถูกกระทบด้านรายได้อย่างหนัก พื้นที่ท่องเที่ยวเงียบเหงา จากที่เคยมีรายได้จากนักท่องเที่ยว

ที่ ชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง ชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง ทำสวนและบางครัวเรือน มีรายได้จากการให้เช่าที่พัก เพราะที่นี่ เป็นจุดต่อเรือเฟอรี่เพื่อข้ามไปเกาะช้าง ชาวบ้านที่นี่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน แต่ด้วยความเข้มแข็งของชุมชน รวมตัวกันจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำให้มีอาชีพและรายได้เสริมรองรับ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้พอสมควร



ล่าสุด ชุมชนฯรวมตัวจัดตั้ง "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง" เดินหน้าแก้ปัญหาคุณภาพของน้ำดื่ม จนสามารถผลิตน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อบริโภคและจำหน่าย ด้วยความเข้มแข็งของชุมชน ประกอบกับได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐซ่อมแซมและปรับปรุงอุปกรณ์การผลิตน้ำดื่ม ยังได้รับองค์ความรู้การบริหารจัดการและคำแนะนำที่ได้จากภาคเอกชน คือ โรงเพาะฟักลูกกุ้งภาคตะวันออก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ชุดปฏิบัติงาน รางลำเลียงถังน้ำ รวมถึงการตรวจคุณภาพทางเคมีและจุลินทรีย์เบื้องต้น รวมทั้งโครงการประชารัฐช่วยด้านการขยายโครงสร้างฯ สาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้คำแนะนำขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐานคุณภาพจากอย. (ได้รับการรับรองมาตรฐานน้ำดื่ม อย.23-2 -01262-6-0001)



นางสาวรวงทอง วรฉัตร หรือต้อม ชาวบ้านในชุมชน ซึ่งมีอาชีพให้เช่าบ้านพักนักท่องเที่ยว และเป็นหนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง เล่าว่า เมื่อปี 2551 ชุมชนฯ เคยรวมตัวกันเพื่อผลิตน้ำดื่มบริโภคและจำหน่าย แต่ตอนนั้นติดปัญหาตะกอนในน้ำ น้ำกร่อย ทำให้ไม่มีตลาดรองรับ จึงล้มเลิกโครงการไป จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มกองทุนหมู่บ้านธรรมชาติล่างได้จัดประชุมกับสมาชิกและคณะกรรมการฯ โดยเชิญซีพีเอฟเข้าร่วม เพื่อชี้เเจงการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง โดยมีเป้าหมายผลิตน้ำดื่มที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เราอยากทำโครงการผลิตน้ำดื่มให้สำเร็จ มองว่าเป็นการช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชน สำคัญกว่านั้น ชาวบ้านอีกหลายร้อยครัวเรือน ได้บริโภคน้ำดื่มสะอาดและได้มาตรฐาน



"ขอขอบคุณซีพีเอฟ ที่เข้ามาสนับสนุน ให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงผลิตน้ำดื่ม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขนส่ง อุปกรณ์ความปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ที่ทำให้สามารถผลิตน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน" รวงทอง กล่าว



ปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนบ้านธรรมชาติล่างมีสมาชิก 98 ราย ปี 2563 ชุมชนมีปริมาณขายน้ำดื่ม 2,100 ถังต่อเดือน (ขนาด 18.9 ลิตร) รายได้รวม 268,000 บาทต่อปี โดยรายได้จากการจำหน่ายน้ำดื่ม 10 % นำเข้ากองทุนของชุมชน และในปี 2564 (ม.ค. - มิ.ย.) มีปริมาณยอดขายน้ำดื่มเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ถังต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 110 % มีรายได้สะสมแล้ว 154,700 บาท โดยมีโรงเพาะฟักลูกกุ้งภาคตะวันออกของซีพีเอฟ ที่เป็นลูกค้าประจำออเดอร์น้ำดื่มชุมชนเดือนละ 1,000-1,500 ถัง ที่เหลือเป็นออเดอร์จากชาวบ้าน ที่สามารถซื้อน้ำได้ในราคาถังละ 12 บาท ส่วนผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อยในชุมชนสามารถซื้อน้ำดื่มได้ในราคาถังละ 10 บาท



"ตั้ว"หรือนายพงศ์พัทธ์ เสริฐศรี อายุ 18 ปี กำลังศึกษาชั้น ม.6 โรงเรียนแหลมงอบวิทยา จ.ตราด เป็นอีกคนหนึ่งที่มารับจ้างขนน้ำดื่มส่งให้ชาวบ้านในชุมชนทุกวันอาทิตย์ เล่าว่า วันจันทร์-ศุกร์ต้องไปเรียน จึงมารับจ้างขนน้ำได้แค่วันอาทิตย์วันเดียว มีหน้าที่ล้างถังและช่วยยกน้ำส่งในบ้าน เคยขนน้้ำส่งตามบ้านได้สูงสุด 300 ถัง/วัน รายได้เฉลี่ย 300-400 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ที่ต้องให้เงินตนไปโรงเรียนทุกวัน แต่แม่ก็จะบอกให้ตนเก็บเงินที่ได้จากการรับจ้างขนน้ำดื่มสำหรับเป็นเงินออม ตอนนี้ทำงานมาได้ 2-3 ปีแล้ว ภูมิใจที่แม้ยังเรียนอยู่ก็สามารถหารายได้ได้เอง ขอบคุณซีพีเอฟที่สนับสนุนคนในชุมชนให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้จากอาชีพที่ชุมชนเราทำเอง ไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน ชาวบ้านก็ได้บริโภคน้ำดื่มสะอาด ราคาถูก ดีต่อสุขภาพ



ตั้ว บอกด้วยว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณออเดอร์ที่ชาวบ้านสั่งน้ำดื่ม แต่การขนส่งน้ำต้องมีการระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ทั้งใส่หน้ากากอนามัย สวมถุงมือ พกแอลกอฮอล์ติดรถไว้ตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเองและลูกค้าที่สั่งน้ำดื่ม



นางอุทิศ พวงนาค อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างกรีดยาง กล่าวว่า ตนและพี่เขยมีอาชีพหลักคือรับจ้าง และมีอาชีพที่เป็นรายได้เสริมจากโครงการผลิตน้ำดื่มของชุมชน ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้านได้พอสมควร โดยในแต่ละสัปดาห์ทุกวันอังคารและวันศุกร์จะไปส่งน้ำให้โรงเพาะฟักลูกกุ้งของซีพีเอฟ และวันอาทิตย์เป็นวันที่ออกส่งน้ำให้ชาวบ้าน แต่ละครั้งที่ออกไปส่งน้้ำจะช่วยกันประมาณ 4 คน ตั้งแต่ยกถัง ล้างถัง นำถังใส่เครื่องปั่นเพื่อทำความสะอาดด้านใน กรอกน้ำ ยกถังที่กรอกน้ำแล้วขึ้นรถ จนถึงขนถังน้ำลงจากรถเพื่อส่งตามบ้าน ขอบคุณซีพีเอฟที่เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมผลิตน้ำดื่มของชุมชน ช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพและมีรายได้เสริม



"โครงการน้ำดื่มชุมชน" ยังเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลระดับ Gold Pitch จากการจัดประกวดรางวัลสามประโยชน์สู่ความยั่งยืน (CPF CSR Awards 2021) ในรอบ CSR Pitching Contest 2021 ที่ซีพีเอฟสนับสนุนให้พนักงานคิดสร้างสรรค์โครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม ตามกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืนขององค์กร คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกและผู้บริหารของซีพีเอฟ ร่วมพิจารณาคัดเลือกให้ "โครงการน้ำดื่มชุมชน" ได้รับรางวัลดังกล่าว เป็นโครงการที่ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง



กลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำดื่มบ้านธรรมชาติล่าง วางแผนต่อยอดโครงการผลิตน้้ำดื่ม ด้วยการพัฒนาแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ เป็นน้ำดื่มบรรจุขวด สร้างโอกาสในการขยายช่องทางขายใหม่ อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร มินิมาร์ท โรงแรมและรีสอร์ท รวมไปถึงการขยายช่องทางการขายผ่านออนไลน์ เป็นโมเดลสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
#2889
Zoom Meeting กลายเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญสำหรับการจัดกิจกรรมออนไลน์ผ่าน Video Conferencing หรือ Virtual Event & Webinar ในบัดนี้ โดยมีการชี้นำเครื่องมือต่างๆที่อยู่ใน Zoom app มาช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบในการให้บริการ เป็นอีกหนึ่ง Solution ที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ Zoom กับทางเราที่ Zoom Thailand | 1-TO-ALL ขณะนี้มีลูกค้าเข้ามาซักถามและขอคำปรึกษาในการใช้ Zoom เพื่อจัดสัมมนาออนไลน์และงานกิจกรรมต่างๆ ผ่าน App ดังกล่าว ช่วงโควิดมีการจัดงาน จัดเวิร์คช็อปเกิดขึ้นมากมาย จริงๆก่อนหน้านี้ก็มีอยู่แล้วครับ ที่เราอาจเคยเห็นผ่านๆตามาบ้าง แต่ผมกำลังพูดถึง รูปแบบการจัดงานที่ไม่เคยจัดในรูปแบบออนไลน์มาก่อน แล้วย้ายแพลตฟอร์มมาจัดทางออนไลน์และเสียงตอบรับค่อนข้างดี อันนี้น่าสนใจครับ ล่าสุดผมได้คุยกับ Vin Buddy นักถ่ายภาพมืออาชีพที่กำลังจะมีเวิร์คช็อปครั้งแรกผ่าน Zoom แค่เข้าประชุมและวางคอนเซ็ปต์กันก็ว้าวแล้วครับ กลางๆเดือนนี้ รอติดตามอัพเดตกันครับ ผมจะถือมาเล่าหลังจบ workshop

ติดตามอัพเดตข่าวสารจากพวกเรา Zoom ThailandTag : แหล่งที่มา | Zoom webinar | Zoom download | Zoom cloud meeting






 
#2890


กลุ่มสื่อจีน รายงาน (18 ส.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ของจีนประกาศเตือนแอปพลิเคชัน 43 รายการ หลังพบมีการถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้อย่างผิดกฎหมาย

รายงานระบุว่า รายการดังกล่าวรวมถึงแอปฯ "WeChat" ของ Tencent Holdings Ltd "e-reading" ของ Alibaba Group Holding Ltd และแอปฯ อื่นที่บริหารโดย "Trip.com" ยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยว และ "iQiyi" แอปฯ วิดีโอดัง

กระทรวงอุตสาหกรรมฯ ระบุในแถลงการณ์ออนไลน์ว่า แอปฯ ดังกล่าวเปิดเผยรายชื่อผู้ติดต่อและข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้อย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการแสดงหน้าต่างโฆษณา (pop-up windows) รบกวนผู้ใช้

กระทรวงอุตสาหกรรมฯ แจ้งเตือนให้บริษัทดังกล่าวดำเนินการแก้ไขการให้บริการให้สอดคล้องกับกฎหมายภายในวันที่ 25 ส.ค. 64 มิฉะนั้น ทางการจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ด้าน Alibaba, iQiyi, Trip.com และ Tencent ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อประกาศดังกล่าว

ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจีน บนพื้นฐานของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
URL
 13
 
#2891


caverta ราคา ถูก ของแท้ ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที คาเวอร์ต้า อาหารเสริมผู้ชาย แข็งตัวต่อเนื่อง ต่อรอบได้หลายรอบ ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

caverta ราคา
1 แผง 4 เม็ด

ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

1 แผง ราคา 200 บาท / แผงละ 200 บาท

3 แผง ราคา 450 บาท / แผงละ 150 บาท

5 แผง ราคา 700 บาท / แผงละ 140 บาท

7 แผง ราคา 910 บาท / แผงละ 130 บาท

9 แผง ราคา 1,080 บาท / แผงละ 120 บาท

25 แผง ราคา 2,500 บาท / แผงละ 100 บาท

50 แผง ราคา 4,500 บาท / แผงละ 90 บาท

100 แผง ราคา 8,000 บาท / แผงละ 80 บาท

วิธีรับประทาน
ทาน 1 เม็ด ขณะท้องว่าง ดีที่สุด.
ยาจะออกฤทธิ์ ประมาณ 12 ชม
ดื่มน้ำตามเยอะๆเป็นน้ำอุ่นจะดี ยาออกฤทธิ์ไว.
ใน 1 วัน ห้ามทานยาเกิน 1 เม็ด (เพราะเป็นปริมาณยาที่ร่างกายสามารถขจัดได้เอง โดยไม่สะสมในร่างกาย).
ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์ประสิทธิภาพของยาจะลดลง

caverta ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

คำเตือนยา คาเวอร์ต้า
ห้ามใช้ยากับเด็ก สตรีที่ให้นมบูตร
ห้ามใช้ยาปลุกเซ็กส์กับบุคคลที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคความดัน และมีโรคประจำตัวอื่นๆ
ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็ก และไม่มีข้อบ่งใช้ในเพศหญิง

วิธีสั่งซื้อสินค้า คาเวอร์ต้า
1. ทัก ไลน์ หรือ ข้อความ แจ้งแอดมิน เลือกของที่ท่านอยากได้ บอกจำนวนสินค้า
2. รอรับสินค้า 1-2 วันทำการ ท่านสามารถรับสินค้าก่อน แล้วจ่ายเงินกับพนักงานขนส่งที่หน้าบ้านได้เลยครับ

Tags :: caverta ราคา,คาเวอร์ต้า ราคา,caverta เก็บเงินปลายทาง
#2892


ในยุคที่ผู้คนใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันจนคล้ายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศก็เป็นไปได้ยาก บางรายอาจไม่ทราบวิธีการเข้าถึงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน การมีข้อมูลที่มากกว่าจะช่วยให้เราสามารถวางแผน ตัดสินใจ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DITP Overseas เป็นบริการของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พร้อมจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ โดยรวบรวมข้อมูลความรู้ด้านการค้า และเทรนด์สินค้าใหม่ๆ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 32 แห่ง ใน 6 ภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรป และCIS ภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลาง

โดยข้อมูลของ DITP Overseas เหล่านี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ ย่อย และนำเสนอให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเอกสารข้อมูล ภาพ เสียง และโมชั่นกราฟฟิก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมของแต่ละตลาดสินค้าที่สนใจ สร้างโอกาสและต่อยอด เพื่อประโยชน์ด้านการค้าของตนเองต่อไป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กำลังพัฒนาคู่มือการค้าของทั้ง 27 ประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจตลาดใน 6 ภูมิภาคนี้ ช่องทางในการค้นหาข้อมูลการค้าได้สะดวก โดยสามารถกรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก และรับข่าวสารกิจกรรมด้านการค้าและรับสิทธิในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้าจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 32 แห่งได้ง่ายๆ ในรูปแบบกิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญตลาดการค้าในแต่ละประเทศ หรือกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์

โดยระบบการจัดเก็บรายชื่อดังกล่าว ยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และสามารถนำเสนอข้อมูลต่อไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศที่สนใจได้โดยตรงอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลสำคัญด้านการค้าเหล่านี้ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์มได้ทาง

FB: DitpOverseas https:// www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube: DITP Overseas
Website: https:// ditp-overseas.com/
#2893


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้รับรายงานการได้มา หุ้นของ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG โดย นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564

จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 2.2821% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 6.1024% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาของกลุ่มคิดเป็น 2.2821% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาของกลุ่มคิดเป็น 6.1024% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ


ทั้งนี้ เป็นการทำธุรกรรมผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก่อนจะยื่นแบบรายงานต่อ ก.ล.ต.วันที่ 17 ส.ค. โดยจำนวนหุ้นที่ได้มาอยู่ที่ 65,400,000 หุ้น คิดเป็น 2.2821% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ย 9.95 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 650.73 ล้านบาท

ภายหลังการได้มาจะส่งผลให้ นายชูชาติ ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ของ XPG จากข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 ก.ค.2564 รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ได้แก่

1. บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 403,379,000 หุ้น หรือ 14.08%

2. นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา 363,041,000 หุ้น หรือ 12.67%

3. ELEVATED RETURNS LLC 346,000,000 หุ้น หรือ 12.07%

4. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 268,918,000 หุ้น หรือ 9.38%

5. UBS AG SINGAPORE BRANCH 83,425,856 หุ้น หรือ 2.91%
#2894


"ก.ล.ต."ส่งหนังสือ กำชับ"บอร์ด"บจ.ใช้ความระมัดระวังรอบคอบพิจารณา"ออก-เสนอขายวอร์แรนท์"  พร้อมเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน พบปีนี้บจ.แห่ออกเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากทั้งปีก่อน "ไทยพาณิชย์"ชี้เป็นประโยชน์กับนักลงทุน เพื่อรู้ถึงความเสี่ยง

"หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ"ได้รวบรวมข้อมูล บจ.ที่มีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนท์)ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตั้งแต่ปีต้นปีถึง18 ส.ค.2564 ที่มีการขึ้นเครื่องหมาย(XRและXW)แล้วจำนวน 47 บริษัท เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากทั้งปี2563 ที่ได้มีการออกแรนท์  27 บริษัท

       สำหรับบริษัทที่เพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิจากการออกวอร์แรนท์มากสุด 5 อันดับแรกปีนี้ คือ 1. บมจ. สกาย ทาวเวอร์ (STOWER) เดิมชื่อ บมจ. เอื้อวิทยา (UWC)  จำนวน 13,162.52 ล้านหุ้น 2.บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS )มูลค่า 4,608.85 ล้านหุ้น 3.บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป(BROOK)จำนวน 3,413.94 ล้านหุ้น 4. บมจ.บ้านปู (BANPU) จำนวน 3,383.05 ล้านบาท 5.บมจ.ณุศาศิริ(NUSA )จำนวน 1,910.27 ล้านหุ้น


             นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ทุกแห่ง เรื่องการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนท์)ที่จะซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เนื่องจากที่ผ่านมาบจ.หลายแห่งได้ออกและเสนอขายวอร์แรนท์ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการระดมทุนและรองรับแผนการใช้ในอนาคต 

  รวมถึงเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน โดยบางกรณีเป็นการเสนอขายวอร์แรนท์ควบคู่กับการออกหลักทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อกระตุ้นหรือเพิ่มความน่าสนใจในการจองซื้อหลักทรัพย์ของผู้ถือหุ้นเดิมหรือกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่หรือเป็นการเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของบริษัทโดยรวมนั้น จากการออกและเสนอขาย warrant อาจส่งผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้นบริษัทจดทะเบียน(dilution effect) 


       ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงควรใช้ความระมัดระวังรอบคอบ (fiduciary duty)ในการพิจารณาออกและเสนอขายวอร์แรนท์ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของวอร์แรนท์ และเงื่อนไขการใช้สิทธิให้ชัดเจน เช่น ราคาเสนอขาย อายุและจำนวนวอร์แรนท์ ที่เสนอขาย ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ เหตุและเงื่อนไขการปรับสิทธิที่เป็นธรรม โดยเฉพาะข้อมูลผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น (price dilution) ส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (control dilution) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามบจ.ควรจะต้องระบุวัตถุประสงค์และแผนการใช้เงินในอนาคตให้ชัดเจนและสอดคล้องกับอายุวอร์แรนท์และช่วงเวลาการใช้สิทธิซื้อหุ้น รวมทั้งมูลค่าของวอร์แรนท์ (ส่วนต่างระหว่างราคาตลาดของหุ้นสามัญและราคาใช้สิทธิแปลงสภาพต่อหุ้น) เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุนด้วย นอกจากนี้การออกและเสนอขายวอร์แรนท์ จะต้องเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

      นางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานก.ล.ต.กล่าวว่า  การออกหนังสือเวียนดังกล่าว เพื่อต้องการให้บจ.ใช้ความระมัดระวังการออกและเสนอขายวอร์แรนท์ และเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน ถึงวัตถุประสงค์ความต้องการใช้เงินและแผนการใช้เงินที่ชัดเจน ราคาเสนอขาย dilutionหากมีการออก มูลค่าวอร์แรนท์ที่แท้จริงมีมูลค่าเท่าไร เพื่อให้นักลงทุนทราบข้อมูล เพื่อใช้พิจารณาการลงทุน

 "การออกเสนอขายวอร์แรนท์นั้นเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระดมทุนของบจ.แค่อยากให้บจ.ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาออก การเปิดเผยข้อมูล เงื่อนไขต่างๆ ผลกระทบราคาหุ้นถ้าออกมาแล้ว แผนการใช้เงินเมื่อไหร่ สอดคล้องอายุกับการออกวอร์แรนท์ฯลฯให้นักลงทุนทราบอย่างชัดเจน ซึ่งอยากให้บจ.เปิดเผยข้อมูลให้ครบตามที่ก.ล.ต.แจ้งในหนังสือเวียน"


นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัทไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT กล่าวว่า กรณีที่ ก.ล.ต. ส่งหนังสือเวียนถึงบจ. เนื่องจากปีนี้อาจจะเป็นปีที่บจ.มีการเพิ่มทุนออกวอร์แรนท์กันจำนวนมาก  ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางของบจ.ในการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ

    สำหรับประเด็นดังกล่าวบริษัทไม่มีความกังวล เนื่องจากบริษัทมีการจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) มาให้คำปรึกษาดำเนินการในเรื่องการออกวอร์แรนท์อย่างชัดเจน รวมทั้ง FA จะเป็นคนคอยประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกรณีที่หากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีข้อสงสัยในประเด็นใดๆ FA จะเป็นคนชี้แจ้งข้อสงสัยดังกล่าวทั้งหมด

ส่วนประเด็นผลกระทบต่อราคาdilution effect นั้น ความเห็นส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งราคาหุ้นจะปรับตัวลง ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่อัตราการใช้สิทธิ  ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องชี้แจ้งแผนการใช้เงินระดมทุนดังกล่าวให้ละเอียด และนักลงทุนจะเป็นผู้พิจารณาในการลงทุนเอง ซึ่งในส่วนของบริษัทก็มีแผนการใช้เงินระดมทุนครั้งนี้ชัดเจนจึงไม่กังวลในประเด็นดังกล่าว

 อย่างไรก็ตามวานนี้หุ้นของบริษัทก็มีการขึ้นเครื่องหมาย  XW ซึ่งราคาหุ้นก็ปรับตัวลงมาถือว่าเป็นเรื่องปกติ

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการที่ก.ล.ต.ส่งหนังสือเวียนเรื่องการออกและเสนอขายวอร์แรนท์นั้น มองว่าเป็นผลดีแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยเฉพาะนักลงทุนสายเก็งกำไร เพื่อแจ้งนักลงทุนให้ทราบถึงความเสี่ยงผลกระทบต่อราคาหุ้น (Dilution Effect)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิม​เอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า    คาดว่าประกาศของ ก.ล.ต.จะไม่ส่งผลต่อการออกวอร์แรนท์ในระยะถัดไป เนื่องจากบจ.มีการแจ้งรายละเอียด Dilution Effect ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นการแจ้งผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับกำไรต่อหุ้น (EPS) 

ขณะที่ผลกระทบต่อราคาบนกระดานมองว่าเป็นไปได้ยากที่จะประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน เนื่องจากไม่สามารถคาดการณ์ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทในวันสุดท้ายก่อนที่วอร์แรนท์จะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้

อย่างไรก็ดี ในกรณีปกติการออกวอร์แรนท์จะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น 3 ช็อตด้วยกัน ได้แก่ ช็อตแรก วันที่ประกาศข่าว หากบริษัทแจกวอร์แรนท์อย่างเดียว โดยไม่เพิ่มทุนเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไปพร้อมกัน ราคาหุ้นจะปรับขึ้นตอบรับในเชิงลบไม่มาก อย่างกรณีของ บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT)แต่หากออกวอร์แรนท์พร้อมกับเพิ่มทุนเสนอขายหุ้นสามัญด้วย อย่างกรณีของ BANPU ราคาหุ้นจะปรับลงตอบรับเชิงลบมากกว่า  ส่วนช็อตสอง วันที่ขึ้นเครื่องหมาย XR หรือเครื่องหมาย XW ซึ่งจะกดดันราคาหุ้นทั้ง 2 กรณี

ขณะที่ช็อตสุดท้ายวันที่ลูกหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งปกตินักลงทุนมักซื้อไล่ราคาหุ้นบริษัทแม่ซึ่งเป็นหุ้นอ้างอิง เพื่อให้ราคาวอร์แรนท์สามารถซื้อขายในระดับที่สูง ส่งผลให้ภายหลังเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นราคาหุ้นแม่จึงปรับลดลง
#2895


ค่าย Intel เปิดชื่อแบรนด์ใหม่ ARC ลงตลาดชิปกราฟิกแบบจริงจัง เจาะกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปทั้งคอเกมและนักสร้างคอนเทนท์

ทางค่ายระบุว่าแบรนด์ใหม่นี้จะครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ ยืนยันจะทำต่อเนื่องระยะยาวหลายเจเนอเรชัน อิงจากสถาปัตยกรรม Xe HPG ของพวกเขาเอง สามารถประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพและปรับขึ้นลงได้หลายระดับ

ในหนังตัวอย่าง พวกเขาได้โชว์ภาพเกมจริงที่ใช้ชิปต้นแบบก่อนเข้ากระบวนการผลิต มีลูกเล่นกราฟิกสมัยใหม่อย่างแสงเงา Ray Tracing และการใช้ AI ช่วยปรับปรุงภาพ อีกทั้งยังรองรับ DirectX 12 Ultimate เต็มรูปแบบ

สินค้ารุ่นแรกจะใช้ชื่อรหัสว่า Alchemist เป็นชิปแบบ SoC รวมศูนย์ทีเดียวจบสำหรับโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เตรียมเผยรายละเอียดเพิ่มเติมอีกทีภายในปีนี้ มีกำหนดวางจำหน่ายจริงไตรมาสแรกปี 2022 ผ่านทางพาร์ตเนอร์ทั่วโลก

สำหรับผลิตภัณฑ์ในอนาคตก็มีการเผยชื่อรหัสมาว่า Battlemage, Celestial และ Druid ทั้งหมดจะรวมอยู่ในแบรนด์ ARC เช่นกัน
#2896


ทำเอา "ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ" ทนายสาวสายลุยประจำตัว "แมท ภีรนีย์ คงไทย" ถึงกับออกโรงปกป้องนางเอกสาวด้วยตัวเอง จากข่าวล่าสุดที่มีภาพ แมท ร่วมโต๊ะทางข้าวกับครอบครัว "สงกรานต์ เตชะณรงค์" ที่มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์นางเอกสาวไว้ในเพจนึงว่า..."ผู้หญิงดีๆ และเพรียบพร้อม คงไม่เหมาะกับผู้ชายแบบนี้ คงเหมาะสมกันดีกับผู้หญิงแบบนี้"

ทนายนิด้า ก็ได้สวนกลับคอมเมนต์ดังกล่าวทันทีว่า "เวลาโดนฟ้องอย่าร้องนะจ๊ะ" ชาวเน็ตท่านอื่นเข้ามาคอมเมนต์อีกว่า "อย่าเมนต์ว่าเขานะคะ เขาฟ้องนะ" และทนายนิด้า ก็เข้ามาตอบกลับคอมเมนต์อีกว่า "ว่าใครก็ไม่ควรทั้งนั้น เราเองก็ไม่ชอบ ถูกมั้ย"

จากนั้น ทนายนิด้า ก็ได้แคปคอมเมนต์ทั้งหมดไว้แล้วเอานำมาโพสต์ประกอบข้อความเตือนสติชาวเน็ตว่า...

"เนี่ยที่มาของคำว่า #อบอุ่นในโลกออนไลน์แต่เดียวดายอยู่หน้าบัลลังก์ #ท็อปคอมเมนต์ในโลกโซเชียลแต่โดดเดี่ยวตอนจ่ายตังค์

แล้วภาพมันก็จะวนลูปเดิมๆ ไปยืนร้องไห้ที่หน้าศาลบ้าง กราบบ้าง แล้วก็อ้างบ้าบ้าง ไม่รู้กฎหมายบ้าง ทำไมป้าอ่านแต่ข่าวดารา ป้าไม่หาความรู้ใส่ตัวบ้าง ต่อให้ผิดกฎหมายหรือไม่ผิด

แต่คุณป้าเป็นห่านอะไรหรือเปล่าคะ จิตใจมันอยากแต่จะไปพูดให้คนอื่นเขาต้องรู้สึกไม่ดี เหงา ขาดความอบอุ่นก็ลองโทรหากรมสุขภาพจิตนะป้านะ #องครักษ์พิทักษ์แมท #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย"

และ ทนายนิด้า ยังแจงต่ออีกว่า...

"ผู้หญิงดีๆ และเพียบพร้อมไม่เหมาะกับผู้ชายแบบนี้ คำว่า คงเหมาะกับผู้หญิงแบบนี้ อ่านแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าไม่ดีและไม่เพียบพร้อม เพราะถ้าดีและเพียบพร้อมจะไม่เหมาะตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว

ทีนี้หน้าที่ของโจทก์คือพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเสียหายอย่างไร หมิ่นมั้ย ละเมิดมั้ย ค่าเสียหายต้องได้มั้ย ได้เท่าไหร่

หน้าที่ของจำเลยคือถ้าต่อสู้ก็พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าไม่ได้พูดถึงโจทก์ , ข้อความไม่ได้แปลอย่างที่โจทก์แปล, ถึงแปลอย่างโจทก์แปลแต่โจทก์ไม่เสียหาย

ประมาณนี้ค่ะ"
#2897


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า  จากการที่ ศบค.ขยายล็อกดาวน์อีก 14 วัน ไปจนถึง 31 ส.ค. 2564 ก็ถือว่าเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เพราะเหตุผลที่ต้องมีการขยายเวลาล็อคดาวน์เพิ่มเติมอาจมาจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อ และ ผู้เสียชีวิต ที่ไม่ได้ลดลง อย่างที่หลายฝ่ายอยากให้เกิดขึ้น แต่กลับมีตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในบางช่วงด้วยซ้ำซึ่งการขยายการล็อคดาวน์ เพิ่มเป็น 14 วัน หอการค้าไทย มองว่าคงมีความจำเป็น แต่สิ่งที่อยากสะท้อนให้ภาครัฐมองในมุมของเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนควบคู่กันไปด้วย โดยขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเสริมมาเยียวยาให้รวดเร็ว เพราะเท่าที่ผ่านมาถึงแม้ว่าหลายส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ในการล็อคดาวน์ของรัฐบาล แต่ทุกคนก็ปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศออกมาอยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าไม่เฉพาะผู้ประกอบการที่บอบช้ำจากการหยุดกิจการชั่วคราว แต่ยังกระทบถึงคนใน supply chain ในธุรกิจนั้น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าประชาชนทั่วไปก็ต่างรับผลกระทบทั้งสิ้น
                 

หอการค้าเห็นด้วยที่จะต้องควบคุมการแพร่ระบาดในลดลงกว่านี้ให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้รัฐบาลอาจจะต้องพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือมาเสริมทันทีด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชดเชยกลุ่มต่าง ๆ ให้ครอบคลุม  รวมถึงอาจจะต้องพิจารณาผ่อนปรนให้สำหรับบางกิจการเพื่อให้สามารถเปิดธุรกิจได้อีกครั้ง โดยรัฐบาลต้องมีเกณฑ์หรือตัวชี้วัดเพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับกิจการที่จะเปิด ซึ่งขอย้ำว่าการควบคุมการระบาดต้องควบคู่กับการเดินหน้าประคองเศรษฐกิจไปด้วย
             

"ภาคเอกชนมองว่าการล็อคดาวน์อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด หากไม่มีการเร่งตรวจเชิงรุกด้วย ATK และต้องเร่งบริหารจัดการให้มีราคาที่ถูกลงกว่าที่เป็นอยู่ ให้ประชาชนหาซื้อง่ายก็จะยิ่งเพิ่มความถี่ในการตรวจและทั่วถึงมากขึ้น ทำให้การแยกผู้ป่วยออกมารักษาด้วยมาตรการ Isolation ในระดับต่าง ๆ ตามความรุนแรงของอาการได้อย่างรวดเร็ว และรัฐต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อทำให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนให้ได้มากที่สุด"

ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องพิจารณาผ่อนคลายกฎระเบียบบางประการที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการควบคุมการแพร่ระบาด เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัคซีน ยาและเวชภัณฑ์ ลดขั้นตอนและระยะเวลาการพิจารณาต่าง ๆ ให้สั้นลง เพราะสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เป็นสถานการณ์ปกติทั่วไป หากยังคงใช้กฎเกณฑ์เดิมจะทำให้การควบคุมการระบาดยิ่งล่าช้าออกไป และในทางกลับกันตัวเลขอาจจะยังคงสูงขึ้นพร้อมๆ กับเศรษฐกิจที่จะทรุดลงอย่างรวดเร็ว หากผู้ประกอบการหยุดหรือปิดตัวลงก็จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน


นายสนั่น กล่าวว่า ในระหว่างนี้ รัฐบาลก็ต้องเตรียมแผนที่จะฟื้นฟูและเปิดประเทศ หากสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เพราะหอการค้าเชื่อว่า หลังจากนี้หลายธุรกิจจะประสบปัญหาด้านการเงิน และมีบางธุรกิจที่ต้องปิดกิจการอย่างถาวร โดยประเด็นนี้ก็จะต้องจัดเตรียมแนวทางช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กิจการที่ยังอยู่กลับมาแข่งขันได้ ในขณะที่แผนเปิดประเทศจะต้องจัดเตรียมให้รอบด้านเพราะจำเป็นที่จะต้องเปิดประเทศควบคู่กับการอยู่ร่วมกับโควิด - 19 ไปอีกระยะหนึ่ง จะรอเปิดประเทศภายหลังโรคระบาดหมดไปคงเป็นไปไม่ได้
             

ส่วนโมเดลภูเก็ต Sand Box ที่ได้ดำเนินการมาถือเป็นการทดสอบความพร้อมด้านต่าง ๆและรัฐต้องเร่งปรับปรุงในส่วนที่เห็นว่าเป็นปัญหา ซึ่งวันนี้ภาคเอกชนเห็นด้วยกับมติของศบค.ที่เห็นชอบแนวทางการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ต (PhuketSandbox) เดินทางเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น เริ่มจาก สุราษฎรธานี (เกาะสมุย เกาะพะงันเกาะเต่า) กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล) และ พังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่) ภายใต้มาตรการ 7+7 คือ หลัง 7 วันแรกตรวจไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางไปยังอีก 3จังหวัดดังกล่าวเพื่อพักอยู่อีก 7 วัน ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.64 หากประสบความสำเร็จก็ควรจะพิจารณาขยายโมเดลไปยังจังหวัดท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่น ๆ ก็จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติในขนาดเดียวกันเศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้


นายสนั่น กล่าวว่า  สำำหรับการผ่อนคลายที่ให้สถาบันการเงินเปิดในห้างได้ ก็จะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากการที่ปิดได้ส่วนหนึ่ง ส่วนธุรกิจที่เหลือก็คงต้องรอการพิจารณาผ่อนคลายต่อไป เพราะตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง และกังวลว่าจะเป็นเหตุให้ผู้คนออกเดินทาง เชื่อว่าทางรัฐบาลและทางสาธารณสุขเป็นกังวลในส่วนนี้ แต่ทาง หอการค้าไทย ก็ยังหวังว่า เราต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้แต่ละธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการควบคู่กับการระบาดไปให้ได้

ส่วนมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมกรณีทำ company isolation ตรวจ ATK ก่อนคลายล๊อคดาว์นนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี รวมถึงที่จะมีระบบจัดทำ thai covid pass นั้น ก็ตรงกับข้อเสนอที่หอการค้าเสนอ ให้มี superapp เพื่ออำนวยความสะดวกและเปิดดำเนินการกิจการได้ สิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้ คือ การหา ATK ที่มีคุณภาพให้ประชาชน และสถานประกอบการให้เข้าถึงง่าย ในราคาที่เหมาะสม รวมถึง ควรมีมาตรการลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ให้กิจการที่มีสนับสนุนการป้องกันตัวเอง ช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐ ตรงนี้จะสามารถให้ร่วมมือกัน ได้มากขึ้นอีกส่วนหนึ่ง จำนวนตัวเลข 50 คนและ 100 คน ที่กำหนดนั่นอยากจะให้พิจารณาตามลักษณะของแต่ละธุรกิจ ว่ามีความเสี่ยงที่ต่างกันด้วย เพื่อให้มาตรการที่ออกมาสามารถปฏิบัติได้จริง
#2898


นายกฤษณ มรกต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นนี้ จึงจัดทำแคมเปญของไหว้สารทจีน โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้อีกระลอก เพราะการไหว้สารทจีนเป็นอีกเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ด้วยการยกทัพสินค้ามงคลชั้นดีที่ใช้ในการไหว้มาอย่างหลากหลาย โดยไฮไลต์ชุดของไหว้ในปีนี้ ได้แก่ "เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ" โฉมใหม่! มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เกี๊ยวกุ้งแพกสุดคุ้มและเกี๊ยวกุ้งดิบ อร่อยเต็มคำทำจากกุ้งทั้งตัว วางจำหน่ายที่แม็คโครเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี "ไก่นางพญา" ไก่ต้มทั้งตัว เนื้อนุ่ม เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน "เป็ดนางฟ้า" เป็ดพะโล้และเป็ดย่าง เสริมอำนาจและวาสนา มีเงินทองเหลือเก็บ "ขาหมูจักรพรรดิ" ขาหมูและคากิเนื้อแน่น ถึงรสเครื่องพะโล้พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด เสริมความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขาหมูเยอรมัน หมูดำซีพี-คุโรบูตะ เสริมความมั่นคง เงินทอง และสินค้าไหว้มงคลอื่นๆ อีกมากมาย ตามความเชื่อที่ว่าไหว้ของดีชีวิตเป็นมงคล

"สถานการณ์โควิด-19 และการล็อกดาวน์อีกหลายพื้นที่ในขณะนี้อาจกระทบต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ดังนั้น สินค้าที่สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ในราคาเหมาะสมและถูกต้องตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดต่อกันมายาวนานเป็นสิ่งสำคัญ ซีพีเอฟจึงผลิตและพัฒนาสินค้าแช่แข็งในแพกที่บรรจุอย่างดี ปิดสนิท สะอาด ง่ายต่อการซื้อหาไว้ล่วงหน้า สามารถแช่แข็งไว้ได้โดยที่ยังคงคุณภาพที่ดี คงคุณค่าทางโภชนาการ และยังเตรียมสะดวกด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถต้มในน้ำเดือดได้ (Boiled-in Bag) ทำให้ง่ายต่อการปรุงและเตรียมของไหว้ ลดภาระและความยุ่งยากให้แก่ผู้บริโภค โดยเพิ่มทางเลือกด้วยการเปิดจองและจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และครบครัน" นายกฤษณกล่าว

สำหรับโปรโมชันพิเศษที่ห้างแม็คโคร เพียงซื้อชุดไหว้ครบ 999 บาท รับฟรี! กระเป๋าเก็บความเย็น มูลค่า 399 บาท หากซื้อครบ 1,500 บาท รับอั่งเปาส่วนลด 80 บาท และโปรโมชัน ซื้อหมูกรอบชาชู พิเศษจากราคา 259 บาท ลดเหลือ 249 บาท เมื่อซื้อ 1 แพก แถมกระเป๋าคล้องแขน 1 ใบ มูลค่า 129 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 21 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าของแถมจะหมด เฉพาะสาขาที่ร่วมกิจกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดในช่องทางออนไลน์ ซื้อของไหว้ครบ 990 บาท รับส่วนลดทันที 80 บาท ติดตามได้ที่ Makro Click : https:// www.makroclick.com/th/campaign/cpf

นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อได้ที่ CP FreshMart โลตัส ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชันพิเศษรับสารทจีนนี้เท่านั้น
#2899
ใครที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด ตกงาน ปิดกิจการ รายได้ลดลง หนี้สินท่วมตัว เงินไม่พอใช้

อยากมาศึกษาออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร กลัวเจ๊ง คอร์สนี้มีคำตอบ

ออนไลน์ ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ "ทางรอด"

คอร์สออนไลน์  6 วัน 6 วิชา        
- 6 เสาหลักสร้างเพจปัง       
- ยิงแอด facebook ให้ได้ผล        
- แต่งภาพสวยง่าย ๆ จากมือถือ         
- การตลาดบน Tik Tok ให้มีคนติดตามหลักแสน       
- เปิดร้านบนไอจี Instragram
- เคล็ดลับแม่ค้าออนไลน์ร้อยล้าน

สอนแบบจับมือทำ ตั้งแต่พื้นฐาน จนเป็นมืออาชีพ
สอนจากประสบการณ์จริง โดยอาจารย์ที่มีรายได้กว่า 100 ล้านบนโลกออนไลน์
สอนสด ผ่านแอปซูม เรียนได้จากที่บ้าน

เวลาเรียน 19.00 - 22.30

ปรกติคอร์สนี้ราคา 9,800.-
พิเศษ !!!  เฉพาะช่วงโควิด ปรับโปรช่วยชาติ เหลือเพียง 98 บาท!!!
ย้ำ !!! รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ท่าน ที่จัดสรรเวลาได้ !!!

คลิ๊กดูรายละเอียดคอร์ส
https://drive.google.com/file/d/1fZIP-BhrqgnSHAb-4HZezzgtKL9qKHFR/view?usp=drivesdk

สนใจ สามารถแอดไลน์สอบถามที่ @049dhubr หรือลิงค์ไลน์
https://lin.ee/4zIaPti

หรือโทร 098-378-1371, 098-378-1373

***เรียนไม่คุ้ม คืนเงินทันที ***
#2900


วันนี้ (16 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานแถลงข่าว "จุดยืนลดภาระทางการศึกษา" ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านระบบ VDO Conference ณ ห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานด้านการศึกษา เข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ห้องโถงอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ให้สาธารณชนได้รับทราบทั่วประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้เรียนในทุกระดับชั้น ให้ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมถ้วนหน้า โดยคำนึงถึงการลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ปกครองนักเรียน รวมถึงครูที่เป็นด่านหน้าในการจัดการศึกษาให้แก่นักเรียน จึงได้ออกมาตรการลดภาระทางการศึกษา เพื่อเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ทั่วประเทศ รวม 3 มาตรการ ได้แก่

มาตรการที่ 1 การจ่ายเงิน "เยียวยานักเรียน" ทุกคนทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท โดยผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวน ต่อนักเรียน 1 คน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ. ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษานอกสังกัด ศธ. อาทิ โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนทุกสังกัดที่เปิดสอนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-ม.6 และอาชีวศึกษา ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 22,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับภายในวันที่ 31 สิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนนี้

มาตรการที่ 2 อินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับการเรียน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการสนับสนุนอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สำหรับการเรียนออนไลน์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษา สังกัด สพฐ. รวมถึงนักเรียนนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา และสังกัด กศน. ที่มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จำนวน 3.6 ล้านคน รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ในช่วงระหว่างวันที่ 15 สิงหาคมถึง 15 ตุลาคม 2564 (2 เดือน) โดยสนับสนุนใน 2 รูปแบบ คือ แบบที่ 1 ช่วย Top-up แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือให้เบอร์ที่นักเรียนใช้เรียนออนไลน์ ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อการเรียนการสอนได้แบบไม่จำกัด อาทิ Microsoft Teams, Google Meet, ZOOM, Cisco Meeting, WebEx และ Line Chat พร้อมอินเทอร์เน็ตอีก 2GB สำหรับการใช้งานอื่น ๆ และแบบที่ 2 ช่วยจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยหักจากบิลค่าบริการ เดือนละ 79 บาท (ยังไม่รวม VAT) เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกรับสิทธิได้อย่างใดอย่างหนึ่ง และรับได้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ

มาตรการที่ 3 การลดภาระงานครูและนักเรียน โดยให้ครูลดการรายงานและโครงการต่าง ๆ ให้คงไว้เฉพาะที่จำเป็น ส่วนนอกเหนือจากนี้ให้ชะลอไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น รวมถึงลดการประเมินต่าง ๆ ทั้งที่เป็นงานของหน่วยงานภายในและภายนอก ให้เหลือ 3 โครงการ หรือ 1% จากเดิมที่มี 72 โครงการ หรือ 32% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอนของครูให้มากขึ้น ขณะที่การลดภาระนักเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ต้องเรียนอย่างเต็มที่ ให้ครูและผู้ปกครองร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ โดยให้การบ้านเท่าที่จำเป็น เน้นหลักฐานการเรียนรู้มากกว่าการสอบ เช่น ภาระงาน การบ้าน พฤติกรรมของนักเรียน เป็นต้น รวมถึงการนับเวลาเรียนรูปแบบใหม่ ที่จะนับเวลาเมื่อนักเรียนเกิดการเรียนรู้ เช่น การเรียนออนไลน์ การทำการบ้าน หรือการออกกำลัง ซึ่งการนับเมื่อเกิดการเรียนรู้จะช่วยลดความตึงเครียด ให้ครูและนักเรียนได้จัดการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ต้องเรียนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการลดกิจกรรมทางสังคม กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงักไป ทำให้เกิดรูปแบบการดำรงชีวิตวิถีใหม่ที่เรียกว่า New Normal ที่เชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งรวมถึงกิจกรรมด้านการศึกษาเช่นกัน ปัจจุบันนั้นการศึกษาในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นการเรียนการสอนทางไกล ให้นักเรียนเรียนที่บ้าน ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้ปกครองมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาและไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สำหรับโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษา ทั้งมาตรการทางการเงิน อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน และอินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับการศึกษา ทั้งนี้ ก็เพื่อจะลดผลกระทบต่อการศึกษาของเยาวชนให้ได้มากที่สุด เพื่อจะให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้รับการศึกษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ผู้เรียนจะต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ โดยรัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมกับทั้งได้มีการปรับรูปแบบการเรียนรู้ ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแต่เฉพาะเรื่องของความรู้ แต่ต้องสามารถจะนำองค์ความรู้ต่าง ๆ เหล่านั้นไปประยุกต์กับการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพให้ได้ในภายภาคหน้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพัฒนารูปแบบการศึกษาให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ ผ่านการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน ให้นักเรียนได้รับอุปกรณ์การศึกษา ระบบอินเทอร์เน็ตที่จำเป็นต่อการศึกษาที่บ้าน เพื่อให้เด็กไทยได้รับการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ได้รับความรู้อย่างครบถ้วน และมีศักยภาพสูง สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมทั้งให้มีการปลูกฝังวินัย จริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ประวัติศาสตร์ และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อจะเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ใช้โอกาสนี้ในการทำให้ครู เด็ก ผู้ปกครอง ได้มีโอกาสเรียนรู้ไปด้วยกัน สนับสนุนซึ่งกันและกันในลักษณะ Active Learning โดยขอให้มีการสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นให้เด็กสนใจ เอาใจใส่ในการเรียน ถึงแม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม ซึ่งผู้ปกครองหลายท่านก็มีภาระ หลายท่านก็อาจจะดูแลได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเด็ก อยู่ที่ครู อยู่ที่วิธีการสอน จะทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลครูให้มีการเตรียมความพร้อมรับการศึกษาในรูปแบบใหม่ต่อไปในอนาคต ที่นับวันจะมีการเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นในโลกยุคหลังสถานการณ์โควิดยุติลงแล้ว ที่เรียกว่า New Normal โดยขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้นำแนวทางที่นายกฯ เคยมอบนโยบายไปแล้วหลายครั้งนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ พร้อมกับให้มีการประเมินผลทั้งครูและเด็ก ให้มีการเปลี่ยนแปลง ปรับรูปแบบ ปรับหลักสูตร เอกสารตำราต่าง ๆ ให้มีความทันสมัยและสามารถที่จะสร้างแรงกระตุ้นให้เด็กรู้สึกว่าการศึกษานี้ศึกษาไปเพื่ออะไร เพื่อให้มีงานทำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของครูให้คนอื่นยอมรับ และที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อเรียนทางวิชาการแล้วต้องเรียนรู้ในการปฏิบัติไปด้วยพร้อม ๆ กัน มิฉะนั้นก็ไม่รู้คุณค่าว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร

นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณและชื่นชมทุกคนที่มีส่วนร่วมในการผลักดันพัฒนารูปแบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูง สอดคล้องกับการดำเนินวิถีชีวิตใหม่ในสถานการณ์โควิด-19 ในเวลานี้ และช่วยกันสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือลดภาระทางการศึกษาแก่ผู้ปกครอง นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อจะอำนวยและขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแม้ในสถานการณ์วิกฤต ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคต จึงต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่บัดนี้ ต้องเตรียมให้เด็กมีความพร้อม ให้เป็นเด็กที่เข้มแข็ง เป็นคนดีในสังคม มีจิตสาธารณะ เผื่อแผ่ แบ่งปัน เคารพในสถาบันหลักของชาติ โดยสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างเยาวชน คนรุ่นใหม่ของเราให้มีอนาคต แล้วประเทศชาติก็จะมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้ทุกคนปลอดภัย สำเร็จในการทำงาน มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง และอวยพรให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ บรรลุผลตามเจตจำนงที่วางไว้ทุกประการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเด็ก เยาวชนของไทย และผู้ปกครองที่วาดหวังว่าลูกหลานจะเจริญเติบโตได้ในอนาคต มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นจะต้องร่วมมือไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้ทุกคนได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ให้รุ่งเรืองต่อไป