• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#6946



สถานการณ์การที่พื้นที่ กทม.และปริมณฑล เต็มไปด้วย ผู้ป่วยโควิด 19 ทั้งกลุ่มสีเขียว และกลุ่มผู้ป่วยอาการหนัก สีเหลือง และสีแดง 'อาสาสมัคร' ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ช่วยทีมแพทย์ ลงพื้นที่ทำงานเชิงรุก ทั้งในการตรวจคัดกรองโควิด 19 เพื่อค้นหาแยก ผู้ป่วยโควิด 19 ลดการแพร่ระบาดในชุมชน รวมถึงเป็นผู้ดูแลในส่วนของ Home Isolation และCommunity Isolation ด้วย

นิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (AIDS Access) และกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทีมอาสาสมัครที่ได้ทำงานร่วมกับชุมชนแออัดในกทม.เรื่องรัฐสวัสดิการ บำนาญแห่งชาติ รวมถึงเรื่องที่อยู่อาศัย ที่ดินร่วมกับพี่น้องชุมชนแออัด มาตลอด เล่าว่า เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 กลุ่ม อาสาสมัคร ได้มีการปรับมาทำหน้าที่ช่วยเหลือให้ความรู้ และร่วมแก้ปัญหาให้พี่น้องในชุมชนแออัดที่ติดเชื้อโควิด 19 รวมถึงป้องกับการแพร่ระบาดในชุมชน


โดยเมื่อพบผู้ป่วยติดเชื้อจะติดต่อไปยังหน่วยงานของรัฐ รพ.ต่างๆ เพื่อรับผู้ป่วยโควิด เข้าดูแล รักษาที่รพ. ทีมอาสาสมัครได้มีการอบรมแกนนำในชุมชน เพื่อให้คนเหล่านี้มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยโควิด 19

คาดการณ์ว่าหากมีการติดเชื้อในชุมชนมาก อาจจะไม่มีรพ.ให้เข้า จึงได้ร่วมกันตั้งศูนย์พักคอยในชุมชนเพื่อให้ผู้ป่วยโควิด 19 ได้รับการดูแลระหว่างรอเตียงจากรพ. ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นการดูแลให้ข้าวให้น้ำ หรือให้ ยาฟ้าทะลายโจร ภายใน 1-2 วัน แล้วเข้ารับการรักษาในรพ. แต่ขณะนี้เตียงไม่มี ทุกคนก็มาแออัดอยู่ในศูนย์พักคอย หรือบางคนก็ดูแลตัวเองที่บ้าน ทำให้ชุมชนมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

นิมิตร์ กล่าวต่อว่า จาก ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว กลายเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดง และเสียชีวิต เพราะไม่ได้รับการรักษา นอนรอเตียงอยู่ที่บ้าน เพราะการให้ผู้ป่วยโควิด 19 ทุกคนเข้าไปนอนในรพ.ทั้งหมด พอมีผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดง กลุ่มอาการหนักก็ไม่มีเตียงทำให้ประชาชน


ตอนนี้เตียงในรพ.ต่างๆ เต็มไปหมด ช่วงเดือนเมษายนมีการหารือ เรื่อง Home Isolation ว่าให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ได้รับการกักตัวรักษาที่บ้าน หรือ Community Isolation แยกกักตัวรักษาในชุมชน

แนะ 'ตรวจโควิด 19' ทุกชุมชนแออัดทุกที่ในกทม.
"ตอนนี้สถานการณ์สุกงอม ไม่มีเตียง ประกาศสาธารณสุขเริ่มออกมาตรการให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวกักตัวรักษาที่บ้าน หรือที่ชุมชน หลายคนกังวลไม่อยากกักตัวรักษาที่บ้าน ไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร ยิ่งมีคนรอบตัวติดมากขึ้น พวกเขาก็ยิ่งเครียด การดูแลรักษาก็ไม่ทั่วถึง อาการก็แย่ลง ถ้ารักษาทันก็หาย รักษาไม่ทันก็เสียชีวิต" นิมิตร์ กล่าว

ขณะนี้ได้เปิดรับอาสาสมัครรับลงทะเบียน ณ จุดตรวจโควิดบริการเชิงรุก จำนวน 300 คน โดยจะมีการอบรมอาสาสมัครมาร่วมทำงานวันที่ 2 ส.ค.นี้ ขอเพียงมีโน้ตบุ๊คและพร้อมทำงานต่อเนื่อง 7 วัน ระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค.นี้ ณ จุดลงทะเบียน การตรวจเชิงรุกจะกระจาย ไปทั้ง 69 เขตในกทมและปริมณฑล ซึ่งจะมีจุดตรวจอย่างน้อย 50 จุดต่อวัน แต่ละจุดต้องการอาสาสมัครช่วยงานลงทะเบียน 6 คน รวมแล้วต้องการอาสาสมัครช่วยการลงทะเบียน 300 คน


เพื่อเร่งค้นหาเพื่อช่วยผู้ติดเชื้อโควิดที่รู้ผลในวันที่ตรวจ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้รับบริการที่เหมาะสมตาม โดยผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการเข้าสู่ระบบ Home Isolation(HI) ในศูนย์สาธารณสุขหรือคลินิกอบอุ่น ส่วนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว มีอาการสัมพันธ์กับโควิดและกลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง จะได้รับยา และ อยู่ในระบบ HI กับคลินิกพริบตา IHRI ซึ่งต้องมีระบบการลงทะเบียนและระข้อมูลที่ดี

นายนิมิตร์ กล่าวต่อไปว่าอยากให้รัฐบาล สธ. กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจโควิด 19 ทุกชุมชนแออัด ทุกที่ในกทม.ให้ได้มากที่สุด และเมื่อตรวจแล้ว ควรมีการให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับผู้ป่วย และต้องหาสถานที่ดูแลรักษาซึ่งทีมอาสาสมัครพร้อมช่วยเหลือ เตรียมชุมชน เตรียมพื้นที่ให้ และถ้าผลติดเชื้อ ก็พร้อมจะช่วยดูแลต่อหากผู้ป่วยเข้ามาตรการต่างๆ



จัดลำดับความสำคัญเร่ง 'ตรวจเชิงรุก' 1 ล้านคน
ตอนนี้ประชาชนที่ป่วยโควิด 19 ต้องรู้ว่าเมื่อตัวเองติดเชื้อต้องทำอย่างไรต่อไป และต้องมีการผลักดันให้คลินิกเป็นตัวจ่าย ยาต้านไวรัสให้แก่คนในชุมชนทันที เพื่อให้พวกเขาไม่มีอาการรุนแรงมากขึ้น ถ้ามัวแต่รอคัดแยกกลุ่ม ไม่ให้ยา แถมคัดแยกแล้วก็ไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยก็มีแต่คนติด ไม่มีคนหาย

"รัฐบาล สธ.และกทม. ควรจัดลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะกทม.ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นเมืองใหญ่ แต่คนทำงานที่มีประสิทธิภาพจริงๆ มีน้อย คนทำงานระดับล่างทำงานจริง เข้าใจปัญหาแต่ไม่กล้าตัดสินใจ ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงออกนโยบายแต่ยากในทางปฎิบัติจริง การบริหารจัดการกทม.ถือว่าด้อยประสิทธิภาพ กทม.ต้องเร่งตรวจเชิงรุก ลงมาร่วมมือกับภาคประชาชน สาธารณสุขในพื้นที่และแพทย์ชนบท ต้องทำงานตรวจเชิงรุกให้ได้ 1 ล้านคน และสั่งการให้ทุกจุดของสาธารณสุขเป็นจุดตรวจโควิด " นิมิตร์ กล่าว


รัฐต้องสื่อสาร ไทยจะไปทิศทางไหน 
ขณะที่ ระบบสาธารณสุข ต้องสร้างภาพใหม่ว่าเป็นโรคติดต่อที่ทุกคนสามารถป้องกันได้หากทุกคนปฎิบัติตัว สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เพราะในความเป็นจริง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในประเทศเป็นกลุ่มสีเขียว ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อ 80% รักษาได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาในรพ.และหากตอนนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อที่มีแนวโน้มจะเสียชีวิตเป็นกลุ่มใด ต้องเร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน และจ่ายยาให้ครบทุกคน

อยากให้นำเสนอคนที่รักษาตัวเองแล้วหายมีจำนวนเท่าไหร่ และควรให้คนเหล่านี้มาเป็นอาสาสมัคร เป็นกระบอกเสียง ไม่สร้างความตื่นตระหนกจนแย่ไปหมด ทุกคนดิ้นรนหาเตียง รัฐไทยต้องการผู้นำในการสื่อสาร ต้องบอกกับคนในประเทศว่าสถานการณ์เป็นแบบไหน จะเดินไปทิศทางใด ไม่ใช่แก้สถานการณ์ตามปัญหาที่เกิดไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีการล็อกดาวน์ ตรวจเชิงรุก เร่งฉีดวัคซีน แต่กลายเป็นทุกอย่างทำให้คนแออัดมากขึ้น


"ในเมื่อพึ่งพาภาครัฐได้เพียงส่วนน้อย ประชาชนต้องเริ่มด้วยตัวเอง ต้องไม่ตื่นตระหนก ควรมีสติ ถ้าติดเชื้ออาการไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องร้องหาเตียง ดูแลตัวเองที่บ้าน และคนที่หายดีแล้ว ต้องลุกขึ้นมาพูด ช่วยบอกชุมชน ช่วยเป็นอาสาสมัคร มาทำงาน ต้องสร้างเครือข่ายอดีตผู้ติดเชื้อโควิด ส่วนบุคลากรทางการแพทย์เข้าใจว่าเหนื่อยล้า แต่ในภาวะวิกฤตนี้เป็นความท้าทายของบุคลากรทางการแพทย์ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร และ หน่วยงานของรัฐต้องยืดหยุ่น ลดความเป็นระบบราชการ ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจเอาผู้ป่วยเป็นที่ตั้ง" นิมิตร์ กล่าวทิ้งท้าย
#6947



ธปท.ขยายเวลางานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้"เช่าซื้อรถยนต์"ถึง 31 ส.ค. 64  เพื่อช่วยประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะที่มีความยากลำบากในการชำระหนี้ช่วงที่โควิดระบาดหนัก แจงตั้งแต่1มิ.ย.มีประชาชนร่วมลงทะเบียน24,199 คัน

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ขยายเวลาจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะที่มีความยากลำบากในการชำระหนี้ช่วงที่โควิด 19 ยังระบาดอย่างรุนแรง

ตามที่ ธปท. ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ให้บริการ 12 แห่ง ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนให้ความสนใจและทยอยลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องรวมจำนวน 24,199 คัน ซึ่งผลการไกล่เกลี่ยสามารถที่ช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไขได้ประมาณร้อยละ 75

นางธัญญนิตย์ เปิดเผยว่า กำหนดเดิมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์จะหมดวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ยังมีความรุนแรงประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถออกมาทำงานได้ตามปกติ ธปท. จึงตัดสินใจต่ออายุงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออกไปอีก 1 เดือนเพื่อรองรับประชาชนที่อาจจะต้องการความช่วยเหลือ 

ธปท. ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ สมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการภายในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ โดยงานมหกรรมครั้งนี้รองรับหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

(1) กลุ่มที่ยังผ่อนชำระปกติแต่เริ่มมีปัญหาการผ่อนชำระในช่วงนี้ ท่านสามารถขอลดจำนวนค่างวดที่ต้องจ่าย หรือ ขอพักชำระหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้จะคำนวณจากฐานของค่างวดในช่วงที่พักชำระหนี้ตามแนวทางของ สคบ. ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มมีไม่มาก

(2) กลุ่มที่รถถูกยึดไปไม่นาน รถยังไม่ถูกขายทอดตลาด และเป็นรถที่ใช้ประกอบอาชีพ รวมทั้งกรณีที่ได้จ่ายค่างวดไปมากระดับหนึ่ง ท่านสามารถที่จะขอไกล่เกลี่ยที่จะรับรถคืน โดยแนวการไกล่เกลี่ยส่วนนี้คือผู้ให้เช่าซื้อจะยอมให้รับรถที่ยึดมากลับไป โดยจะให้ผ่อนชำระหนี้ต่อจากที่หยุดไป และจะคิดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มจากค่างวดที่ค้างชำระเท่านั้น ซึ่งจะจ่ายไม่มาก

(3) กลุ่มที่รถถูกขายทอดตลาดไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับจำนวนหนี้เช่าซื้อส่วนขาดที่เจ้าหนี้เรียกร้องให้ชำระเพิ่มเติม ก็สามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมครั้งนี้เจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ โดยยอดหนี้ที่ต้องชำระหนี้เพิ่มจะคำนวณด้วยวิธีที่เป็นธรรม และสามารถผ่อนชำระหนี้ส่วนนี้ได้นาน 3 ปีโดยไม่มีดอกเบี้ย


สคบ. สำนักงานศาลยุติธรรม และ ธปท. ได้จัดทำ application สำหรับผู้ที่มีปัญหาติ่งหนี้ ที่จะสามารถเข้าไปเช็คเบื้องต้นได้ง่ายๆ ว่ามีภาระหนี้เหลือสักเท่าไหร่ ซึ่งสามารถเข้าเช็คได้ที่เว็บไซต์ของ สคบ. (www.ocpb.go.th/debt/) เราเชื่อว่าความโปร่งใสที่มีมากขึ้นจะทำให้เจ้าหนี้และลูกหนี้สามารถหาข้อยุติได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ได้รับประโยชน์ทั้งลูกหนี้และผู้ให้บริการเช่าซื้อ

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. หรือที่ https://www.1213.or.th/App/DMed/V1 และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการลงทะเบียนออนไลน์ ท่านสามารถโทรสอบถามได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หรือ นอกเวลาทำการ ท่านสามารถส่งอีเมลมาที่ Debtfair@bot.or.th พร้อมแจ้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของท่านไว้ เจ้าหน้าที่ของ ธปท. จะติดต่อท่านกลับในลำดับต่อไป

สุดท้ายนี้ ธปท. ขอย้ำว่า แม้ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของผู้ให้เช่าซื้อทั้ง 12 แห่งที่ร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ แต่ได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด 19 ท่านสามารถยื่นขอความช่วยเหลือผ่านช่องทาง "ทางด่วนแก้หนี้" ของ ธปท. ที่ https://www.1213.or.th/App/DebtCase  ธปท. จะเป็นคนกลางในการส่งคำขอไกล่เกลี่ยหนี้ของท่านไปที่เจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952133
#6948
ชื่อดีเสริมมงคล เกื้อหนุนให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองดังใจหวัง

รับวิเคราะห์ชื่อให้ฟรี !!!!

รับตั้งชื่อ ตั้งชื่อเด็ก เปลี่ยนชื่อ หาชื่อมงคล
ใช้ทั้ง 3 ศาสตร์ คือตามหลักทักษา เลขศาสตร์ อายตนะ

ตามความเชื่อแบบไทย "ชื่อ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะไม่เพียงจะเป็นคำที่ใช้แทนตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้คุณให้โทษแก่เราอีกด้วย ดังนั้นการ "ตั้งชื่อ" ให้แก่เด็กหรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อให้ตัวท่านเอง ต้องทำตามตำราจึงจะเป็นมงคล

การตั้งชื่อมงคลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามเงื่อนไขของทุกศาสตร์ทุกตำรา เพื่อจะได้ชื่อดี ๆ สักชื่อนึงไม่ง่ายเลย ต้องมีการวิเคราะห์ชื่อแยกแยะอักขระ คำนวณวิเคราะห์ร้อยชื่อพันชื่อหากโชคดีอาจได้มาสักชื่อนึงก็เป็นได้ ได้ชื่อแล้วจะต้องดูผลคำทำนายรวมกับนามสกุลอีก ใช้แต่ละศาสตร์กลั่นกรองชื่อ แต่ละชื่อใช้เวลาในการคำนวณพอสมควร

ค่าครูในการตั้งชื่อ 299 บาท (จากปกติ 599 บาท) ท่านจะได้รับ

รับชื่อมงคล 2-3 ชื่อ มีคำอ่านและคำแปลของชื่อ
วิเคราะห์ชื่อใหม่ให้ทั้ง 3 ศาสตร์ ไม่ว่าหลักทักษา หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ
ชื่อที่ได้รับจะผ่านการทำพิธีเสริมดวง เสริมมงคลให้ด้วย
ฤกษ์ในการเปลี่ยนชื่อ
พิธีกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชื่อใหม่ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม วิเคราะห์ชื่อฟรี ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/3
  
#6949



หลังจากปล่อยเพลงสายดาร์กล่าสุดอย่าง "NDA" ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในที่สุดอัลบั้มที่ผู้คนทั่วโลกรอคอยอย่าง "Happier Than Ever" ก็ได้ถูกปล่อยออกมา โดย "Billie Eilish" ยังอัดคลิปส่งมาเชิญชวนแฟนเพลงชาวไทยร่วมฟังอัลบั้มใหม่พร้อมกันในวันนี้ ที่มีทั้งหมด 16 เพลง

ซึ่งอัลบั้มนี้ "Billie Eilish" ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินที่เธอชื่นชอบตั้งแต่สมัยเด็กอย่าง Julie London, Frank Sinatra และ Peggy Lee ซึ่งเธอได้ผสมผสานระหว่างดนตรีคลาสสิกเก่า ๆ เข้ากับซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เรียกได้ว่า "Happier Than Ever" เป็นอีก 1 อัลบั้มที่ "Billie Eilish" และ "Finneas" พี่ชายสุดที่รักของเธอได้โชว์ศักยภาพในการนำแรงบันดาลใจมาทวิซให้ออกมาโมเดิร์น และมีความออริจินัลในแบบฉบับของตัวเธอเอง และนี่คืออีกครั้งที่ทั้ง 2 ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นกันว่าพวกเขามาเพื่อเปลี่ยนวิถีวงการเพลงป็อปแล้วจริง ๆ



สำหรับ "Billie Eilish" ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ของ Pitchfork ถึงอัลบั้มนี้ว่า "สิ่งสำคัญที่ฉันหวังคือให้คนได้ยินเพลงของฉันแล้วพูดว่า โอ้ ฉันรู้สึกอย่างนั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันรู้สึกแบบนั้น แต่นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริง ๆ และฉันหวังให้ว่าเพลงของฉันอาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้มีความสุขมากขึ้นได้" รับรองได้ว่าแฟนคลับของสาว "Billie Eilish" ไม่ผิดหวังกับผลงานระดับมาสเตอร์พีชชิ้นนี้อย่างแน่นอน


นอกจาก "Billie Eilish" จะปล่อยอัลบั้มเต็มให้ทุกคนได้ฟังกันวันนี้แล้ว เธอจะปล่อย MV เพลง "Happier Than Ever" ออกมาเร็วๆ นี้ สามารถติดตามชมได้ที่ Billie Eilish YouTube: https:// www.youtube.com/c/BillieEilish/featured
#6950



นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังคงเดินต่อ โดยจังหวัดภูเก็ตได้วิเคราะห์สถานการณ์เป็นรายวัน ล่าสุดได้ออกประกาศยกระดับการควบคุมมา 3 ฉบับ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคให้อยู่ พร้อมกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย โดยจะใช้มาตรการทางสาธารณสุขนำหน้าเพื่อ ควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อให้อยู่ในกรอบที่กำหนด

"ภาพที่เราอยากเห็นตอนนี้คือ เราสามารถควบคุมโรคได้ ไปพร้อมฟื้นฟูกับเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ต้องตอบคำถามว่าคนภูเก็ตได้อะไร ประเทศไทยส่วนรวมได้อะไร ซึ่งสิ่งที่เราไม่อยากเห็นกันตั้งแต่ตอนแรกและคิดกันมาตลอด คือ เราเปิดแล้วเราไม่ต้องการปิดเหมือนบางแห่ง จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการขึ้นมาเป็นลำดับว่าสถานการณ์ตอนนี้จะต้องทำอะไรเพิ่มขึ้น อาจจะลดกิจกรรม อาจจะลดความเข้มก็ต้องทำ เพราะตอนนี้ต้องการเซฟภูเก็ต แซฟแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย"

ทั้งนี้จากการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 12,599 คน มีผู้ติดเชื้อ 30 ราย ถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก และเป็นการติดเชื้อที่ติดมาก่อนถึง ซึ่งภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละ 200-300 คน เช่นเดียวกับสายการบินเพิ่มมากขึ้น และยอดจองห้องพักในช่วง 3 เดือนนี้มีเกือบ 3 แสนคืน ถือว่ากำลังเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนทิศทางต่อไปน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

ส่วนสถานการณ์โควิดตั้งแต่เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ขึ้นมา สัปดาห์แรกมีผู้ติดเชื้อ 25 ราย แยกเป็น ภายใน 16 ราย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 ราย และต่างจังหวัด 8 ราย สัปดาห์ที่ 2 พบติดเชื้อ 48 ราย สัปดาห์ที่ 3 พบติดเชื้อ 69 ราย และสัปดาห์ที่ 4 พบติดเชื้อ 185 ราย ซึ่งสัปดาห์สุดท้ายที่พบมากขึ้น คือมาจากการติดเชื้อภายใน 148 ราย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 6 ราย และต่างจังหวัด 19 ราย และรับคนกลับบ้านอีก 11 ราย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของจังหวัดสามารถดูแลได้ โดยล่าลุดการเตรียมพร้อมเรื่องเตียงมีทั้งหมด 694 เตียง ใช้ไปแล้ว 249 เตียง คิดเป็นอัตราการครองเตียง 36%

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามข้อกำหนดของการพิจารณายกระดับการควบคุมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมีเกณฑ์กำหนดไว้ คือ ระยะแรก ถ้าพบตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ จะต้องยกเลิกกิจกรรม งดการรวมกลุ่ม ระยะต่อไป หากพบว่ามีลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล การครองเตียงมากกว่า 80% จะยกระดับมาตรการต่อไป
#6951
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#6952


รวมแอปคุยกับหมอ สะดวก รวดเร็ว ปรึกษาแพทย์ได้ง่าย ผ่านแอปปรึกษาหมอออนไลน์ ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่ต้องการออกจากบ้าน แอปไหนน่าสนใจ ไปดูกัน

วิธีเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วโลก แต่เมื่อประชาชนส่วนหนึ่งมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยโรคอื่นที่อาจไม่ใช่โควิดก็กังวลใจ ไม่สะดวกออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนสูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นการหาหมอออนไลน์ หรือการใช้แอปคุยกับคุณหมอออนไลน์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับช่วงเวลานี้

หาหมอออนไลน์ที่ไหนได้บ้าง
แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ
แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ
แอปปรึกษาหมอและเว็บไซต์หาหมอออนไลน์ เริ่มใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีทั้งแอปคุยกับหมอ ปรึกษาหมอผ่านช่องทางฟรี และเสียค่าบริการเอง เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยที่ต้องการเข้าถึงแพทย์โดยไม่ต้องเดินทาง รูปแบบของการหาหมอออนไลน์ มีดังนี้

แอปพลิเคชัน เก็บข้อมูลผู้ป่วย ก่อนพบแพทย์
เว็บไซต์ จองเวลาพบแพทย์ และเปิดกล้องพูดคุยกับแพทย์
ไลน์ ใช้ฟีเจอร์ VDO พูดคุยกับแพทย์
ผู้ป่วยที่ใช้แอปพลิเคชันหาหมอออนไลน์ยินดีที่จะเสียค่าบริการและเสียค่ายาจากแอป หรือเว็บที่เชื่อถือได้มากกว่าฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานฟรี เพราะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า แต่หากต้องการชำระค่ายาที่ถูกลงก็มีบางแอป หรือเว็บที่ให้บริการผู้ป่วยตามสิทธิเบิกประกันต่างๆ โดยผู้ให้บริการมีทั้งรูปแบบเอกชนและโรงพยาบาล ดังนี้

1. ALive Powered by AIA

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ ALive Powered by AIA
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA
ค่าใช้จ่าย : ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ฟรี 1 ครั้ง หลัง 15 นาทีแรก 500 บาท

แอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA แอปคุยกับหมอและปรึกษาหมอออนไลน์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการขอคำปรึกษาจากแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย การตั้งครรภ์ การดูแลเด็กแรกเกิด ไปจนถึงสุขภาพทั่วไปของทุกคนในครอบครัว

โดยสามารถใช้บริการแอปคุยกับหมอ หรือปรึกษาหมอออนไลน์ได้แบบง่ายๆ เพียงลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัวภายในแอป เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะมีพยาบาลติดต่อกลับมา เพื่อนัดวันและเวลา หลังจากนั้นก็สามารถพูดคุยกับแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวชได้เลยทันที! ผ่าน VDO Call ฟรี 1 ครั้ง สำหรับการใช้งานครั้งแรก

นอกจากแอป ALive Powered by AIA จะเป็นแอปคุยกับหมอที่สามารถปรึกษาได้ทั้งเรื่องสุขภาพของคนในครอบครัวและโรคทั่วไปแล้ว ภายในแอปยังมี Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจให้คุณพ่อคุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์หรือกำลังมีลูกน้อย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การณ์อื่นๆ ภายในแอปได้อีกด้วย บอกเลยว่าเป็นแอปคุยกับหมอที่ จบ ครบ ในที่เดียว

ไม่เพียงเท่านี้ ทางแอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA ยังมีสิทธิพิเศษที่คอยมอบให้กับผู้ใช้งานอยู่เรื่อยๆ อีกด้วยนะ ที่เคยแจกมาก็มีทั้ง Shopee voucher และแผนประกันคุ้มครองการเสียชีวิตกรณีเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี เมื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนเริ่มต้นใช้งาน

*เงื่อนไขในการรับสิทธิพิเศษหรือรับบริการเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

ดาวน์โหลดแอป ALive Powered by AIA ได้ที่ >> App store & Google play store

2. ศิริราชคอนเน็กต์ (Siriraj Connect)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ ศิริราชคอนเน็กต์ Siriraj Connect
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Siriraj Connect, LINE
ค่าใช้จ่าย : เบิกสิทธิ 30 บาท, ประกันสังคม, เบิกตรงได้

ผู้ป่วยต้องดาวน์โหลดแอปคุยกับหมอ Siriraj Connect แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะโทรมานัดวันและเวลาพูดคุยกับแพทย์ผ่าน VDO Call

บริการพบแพทย์จากศิริราช จะต้องนัดหมายก่อน และใช้วิธีพูดคุยผ่าน VDO ในแอปไลน์ได้ จึงสะดวกต่อผู้ใช้งานทุกท่านที่มีแอปไลน์ นอกจากนี้ยังใช้สิทธิ 30 บาท, ประกันสังคม, เบิกจ่ายตรงกับหน่วยงานหรือบริษัทต่างๆ โดยส่งเอกสารรับรองสิทธิผ่าน Siriraj Connect เมื่อทางทีมงานศิริราชอนุมัติการส่งเอกสารรับรองสิทธิ หลังจากตรวจสอบสถานะสิทธิแล้วก็เข้าสู่กระบวนการรักษา ขั้นตอนสุดท้ายต้องชำระค่ายาภายใน 15.00 น. ของวันที่ตรวจ แล้วจะได้รับยาทางไปรษณีย์

3. สมิติเวช เวอร์ชัวล์ ฮอสพิทอล (Samitivej Virtual Hospital)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ สมิติเวช เวอร์ชัวล์ ฮอสพิทอล Samitivej Virtual Hospital
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Samitivej Plus, LINE @samitivejchinatown
ค่าใช้จ่าย : 15 นาที 500 บาท

ช่องทางหาหมอออนไลน์ หรือแอปคุยกับหมอจากสมิติเวช เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกๆ และไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา เมื่อรู้สึกเจ็บป่วยต้องการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยสามารถติดต่อกับแพทย์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Samitivej Plus ผ่านไลน์และเว็บไซต์ของสมิติเวช แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนปรึกษาแพทย์ 15 นาที 500 บาท แต่เข้าร่วมสิทธิเบิกประกันกับบริษัทประกันภัยบางแห่ง นอกจากนี้หากผู้ป่วยต้องติดตามอาการ และต้องรับบริการอื่นๆ อาทิ เจาะเลือด และจัดส่งยาที่ต้องรักษาอุณหภูมิ ทางสมิติเวชก็มีทีมบริการที่ไปให้บริการถึงบ้าน โดยให้บริการเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ต้องรอติดตามต่อไป

4. รักษา (Raksa)

แอปคุยกับหมอปรึกษาหมอ รักษา Raksa
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Raksa, เว็บไซต์ www.doctorraksa.com
ค่าใช้จ่าย : 15 นาที 200 บาท

แอปคุยกับหมอรักษา (Raksa) ให้บริการเหมือนแอปหาหมอออนไลน์สมิติเวชตรงที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง แต่ระบุหมอจากโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่งไม่ได้ ใช้วิธีการเลือกตามรายชื่อแพทย์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ และจัดยาโดยเภสัชกรที่เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์เช่นกัน เป็นแอปปรึกษาหมอที่เหมาะสำหรับปรึกษาโรค และอาการเจ็บป่วยทั่วไปที่ไม่ฉุกเฉิน หรือให้แพทย์ช่วยประเมินอาการเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป พื้นที่กรุงเทพมหานครรับยาได้ 1 ชั่วโมง ต่างจังหวัดจัดส่งทางไปรษณีย์รอรับยาได้ 1-2 วัน

5. ใกล้มือหมอ

แอปคุยกับหมอ ใกล้มือหมอ
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน "ใกล้มือหมอ"
ค่าใช้จ่าย : ฟรี

แอปพลิเคชันใกล้มือหมอ หรือแอปคุยกับหมอ เป็นช่องทางหาหมอออนไลน์ฟรี ที่ประเมินอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยได้แม่นยำถึง 70-80% โดยเป็นแอปคุยกับหมอที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีคำถามเกี่ยวกับอาการง่ายๆ ของตัวเอง เพื่อช่วยประเมินอาการก่อนเลือกตัดสินใจรักษาต่อไปได้ พร้อมวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น เหมือนมีหมอมาคอยซักอาการ และให้ความรู้ของโรคเพื่อให้คุณดูแลสุขภาพตัวเองได้ แต่หากพบว่าเป็นอาการที่มีความเสี่ยงก็จะมีรายชื่อของสถานพยาบาลใกล้เคียงให้คุณติดต่อเพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

6. ดอกเตอร์มี (DoctorME)

แอปคุยกับหมอ DoctorMe
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน DoctorME
ค่าใช้จ่าย : ฟรี

แอปพลิเคชันดอกเตอร์มี (DoctorME) เป็นแอปดูแลตัวเองที่พัฒนามายาวนานที่สุด เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 และพัฒนามาหลายเวอร์ชัน โดยเป็นการออกแบบร่วมกันระหว่าง สสส., มูลนิธิหมอชาวบ้าน, สถาบัน ChangeFushion และบริษัทโอเพ่นดรีม เพื่อให้ผู้ป่วยใช้งานบน Smart Phone และแท็บเล็ตได้เบื้องต้น โดยให้ความรู้เกี่ยวกับโรค อาการเจ็บป่วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการดูแลตัวเองด้วยการใช้ยาต่างๆ ได้ที่บ้าน แม้ว่าจะมีวิธีการเช็กอาการได้เบื้องต้น แต่ยังไม่สามารถนัดพูดคุยกับแพทย์ได้โดยตรง แอปนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโรคภัยใกล้ตัว ควรโหลดติดเครื่องไว้

โดยรวมแล้วแอปคุยกับหมอ หรือเว็บไซต์ให้บริการหาหมอออนไลน์ ช่วยให้ผู้ป่วยอุ่นใจมากขึ้น และได้รับคำตอบที่ตรงกับโรคที่แท้จริง มากกว่าการสอบถามจากผู้ที่ไม่ได้มีความรู้โดยตรง หรืออ่านข้อมูลโรคจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงมีข้อปฏิบัติที่ถูกต้องแนะนำให้ผู้ป่วยได้ดูแลตัวเองให้ถูกจุด ในยุคนี้การใช้บริการผ่านแอปปรึกษาหมอจึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ที่อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตัวจริง

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2010997
#6953



ว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรใกล้บ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันดี มีสรรพคุณมากมาย ถูกนำใช้ในการทำยารักษาโรคต่างๆ ทำให้ได้รับการขนานนามว่า "สมุนไพรมหัศจรรย์" อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงาม เรียกได้ว่าเป็นคุณค่าจากธรรมชาติแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี


ว่านหางจระเข้ ทำอะไรได้บ้าง? คนส่วนใหญ่มักใช้ว่านหางจระเข้รักษาแผลถูกน้ำร้อนลวก เนื่องจากในพืชชนิดนี้มีสารโพลียูโรไนด์ และโพลีแซคคาไรด์ ที่ช่วยทำให้แผลหายไวขึ้น ซึ่งสรรพคุณของว่านหางจระเข้ยังสามารถใช้รักษาโรคต่างๆ และฤทธิ์เย็นจากเนื้อวุ้นยังช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังได้อีกด้วย สำหรับสรรพคุณอื่นๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน มีดังนี้

1. วุ้นของว่านหางจระเข้สามารถใช้สมานแผล และห้ามเลือดได้ ทำให้แผลหายไว

2. ใช้รักษาอาการติดเชื้อ อักเสบ และกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ให้เติบโต

3. ใช้รักษาแผลที่เกิดจากความร้อน เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และการฉายรังสี 


4. ใช้แก้พิษแมงกะพรุน ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากพิษ

5. มีสรรพคุณทางยาในการช่วยประสานกระดูก และช่วยบำรุงข้อกระดูก

6. นำมาปอกเปลือก ล้างเมือกออก ต้มน้ำใช้เป็นยาระบาย ยาแก้ไอ และยาแก้เจ็บคอ

7. นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สำหรับควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวาน

8. เนื้อว่านหางจระเข้บรรเทาอาการปวดฟันได้ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เหน็บตามซอกฟัน 

9. รักษาอาการผิวไหม้แสบร้อนจากแสงแดด และใช้ทารักษาฝ้าบนใบหน้าได้ด้วย

10. ตัดเนื้อวุ้นเป็นแท่งเล็กๆ นำไปแช่เย็น แล้วเหน็บทวารหนัก ช่วยรักษาริดสีดวงทวารได้


ว่านหางจระเข้ ทาหน้า
หากใครมีปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าแห้ง หรือหน้ามัน ให้นำวุ้นว่านหางจระเข้ไปล้างให้สะอาด หลังจากนั้นนำมาทาใบหน้าก่อนนอน นวดเบาๆ ทำเป็นประจำสัก 1 เดือน ผิวหน้าจะนุ่มชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน

ว่านหางจระเข้ รักษาสิว
นำวุ้นว่านหางจระเข้มาล้างให้สะอาด และนำไปปั่นจนละเอียดก็จะได้สมุนไพรมาสก์หน้าจากธรรมชาติ ทาบางๆ ทั่วใบหน้า ส่วนใครที่เป็นสิว ให้ใช้วุ้นว่านหางจระเข้แต้มหัวสิวก่อนนอน เพื่อลดอาการอักเสบ

ว่านหางจระเข้ หมักผม
ปัญหาผมแห้งสามารถแก้ได้ ด้วยการหมักผมที่มีส่วนผสมจากว่านหางจระเข้ ให้นำวุ้นไปล้างให้สะอาด และปั่นกับน้ำเปล่า ในอัตรา 1:1 หลังจากนั้นนำไปกรอง เพื่อนำน้ำที่ได้ไปหมักโคนผมประมาณ 15 นาที นวดเบาๆ ทั่วศีรษะ แล้วล้างออกให้สะอาด


หากใครไม่สะดวกที่จะหาว่านหางจระเข้มาใช้บำรุงผิว หรือเส้นผม ปัจจุบันนี้มีการผลิต "เจลว่านหางจระเข้" ที่หาซื้อง่าย ใช้สะดวก ซึ่งสามารถนำมาใช้ทดแทนได้เช่นกัน 

ที่มา : โรงพยาบาลรามาธิบดี
#6954



แค่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ก็น่ากลัวแล้ว แต่ล่าสุดมีข่าวการติดเชื้อไข้หูดับจนเสียชีวิตยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าหวาดวิตกเพิ่มขึ้นไปอีก

โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีชื่อว่า สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis.) โดยส่วนใหญ่สาเหตุหลักเกิดจากหมู แต่ความจริงแล้วโรคนี้จะเกิดการติดเชื้อที่ เยื่อหุ้มสมอง กระแสโลหิต ทำให้เกิดอาการความดันตกจนถึงขั้นเกิดอาการช็อกได้ หรือมีข้ออักเสบ ลิ้นหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ ติดเชื้อในช่องท้อง

สาเหตุ แหล่งที่มาของโรค การติดต่อ การแพร่ระบาด ความรุนแรงของโรค
สาเหตุหลักของการติดเชื้อ คือการสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ที่อยู่ในหมู เพราะฉะนั้น อาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับหมู อาจเกิดความเสี่ยงค่อนข้างสูง เช่น พ่อค้าขายหมู โรงงานแล่เนื้อหมู หรืออีกกลุ่มที่พบบ่อยคือ กลุ่มกินหมูดิบ ไม่ได้ผ่านปรุงสุกให้ดี และกลุ่มสัตวแพทย์ที่ดูแลหมู เพราะเชื้อแบคทีเรียตัวนี้จะอยู่ในระบบทางเดินหายใจของหมู (ทอนซิล) ระบบทางเดินอาหาร (ลำไส้)


สาเหตุหลักของการติดเชื้อในหมูคือ การเลี้ยงฟาร์มปศุสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐานในเรื่องสุขอนามัย หรือ ความสะอาด คอกหมูสกปรกไม่ได้มาตรฐาน อับชื้น ทำความสะอาดไม่ดี อาจทำให้เชื้อแบคทีเรีย สเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ก่อโรคในหมู แต่มีพบรายงานการติดเชื้อในสัตว์ประเภทอื่นอยู่บ้าง เช่น ม้า แมว สุนัข หมูป่า

ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคนี้เกิดจากการสัมผัสเนื้อหมูที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) ผู้สัมผัสไม่มีการสวมถุงมือ และมีแผลที่นิ้ว จะทำให้เกิดการติดต่อได้ง่ายขึ้น หรือในบางรายมีการสูดดมกลิ่นเข้าไป อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ ถ้าเป็นการรับประทานก็จะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ทางเยื่อบุในช่องปาก ในลำไส้ โดยเชื้อจะวิ่งเข้าสู่กระแสโลหิต ไปยังสมอง อาจอันตรายถึงชีวิตได้


ความรุนแรงของโรคจะมีหลายระดับ แต่ที่อันตรายที่สุด คือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสโลหิต ความดันตก ติดเชื้อที่ผิวหนังอักเสบรุนแรงมีเลือดออกที่ผิวหนัง ลิ้นหัวใจ ปอดอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบอาการเหล่านี้รุนแรงต้องรีบได้รับการรักษา หรือในคนที่เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจเกิดสภาพหูดับได้หลังจากการรักษา หรือถ้าเซลล์สมองส่วนไหนโดนทำลายก็อาจส่งผลต่ออวัยวะนั้นๆ เช่น เสียการทรงตัว วิงเวียนศีรษะ

อาการหลังได้รับเชื้อ ต้องมีการสอบถามประวัติว่ามีการสัมผัสหมูหรือไม่ หรือกินเลือดหมู เนื้อหมูดิบ อาการคือ ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน มีแนวโน้มติดเชื้อ

วิธีรับประทานอาหารป้องกันโรคไข้หูดับ

กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หมูที่นำประกอบอาหารต้องผ่านอุณหภูมิความร้อน อย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส ในการประกอบอาหารต้องมั่นใจว่าสุก ไม่มีเลือดที่ชิ้นเนื้อ แปลว่ายังมีเชื้อโรคอยู่ ประกอบอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ห้ามทานดิบเด็ดขาด ระหว่างการประกอบอาหารควรสวมถุงมือ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุมีดบาดมืออาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปสู่กระแสเลือดได้ รวมถึงอุปกรณ์ที่ มีด เขียงหั่นหมู ต้องมีการทำความสะอาดทุกครั้ง

การรับประทานอาหาร หากเป็นอาหารประเภทปิ้งย่าง ควรมีการแยกตะเกียบ คือ ตะเกียบสำหรับใช้กับเนื้อดิบ และตะเกียบสำหรับใช้กับเนื้อที่สุกแล้ว


การเลือกซื้อเนื้อหมูมาประกอบอาหาร อาจจะแยกยากโดยการใช้ตาเปล่า แต่ดูความสดของหมู หากมีกลิ่น หรือสีที่ดูมีแนวโน้มใกล้จะเสีย ไม่ควรซื้อ แต่ถ้าเกิดไม่มั่นใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำมาประกอบอาหารต้องสุกเสมอ

บทความโดย : นพ.วิชิต ประสานไทย อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพญาไท 1
#6955
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#6956



ถึงเวลาวงร็อกหัวมัน POTATO ปั๊บ, โอม, หั่ง, กานต์ และ อั้ม ลุกขึ้นมาปลุกอะดรีนาลินด้วยซิงเกิลที่ 3 "อีกไม่ช้า (SOON)" หนึ่งในเพลงจากอัลบั้มชุดที่ 8 "Friends" ที่ชักชวนเพื่อนร่วมวงการดนตรีอย่าง Slot Machine มาทำเพลงร่วมกันเป็นครั้งแรก

โดย ปั๊บ เล่าว่า "อีกไม่ช้า (SOON)" เป็นมุมมองที่เล่าถึงเรื่องของพระอาทิตย์-พระจันทร์ ที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็มีช่วงเวลาที่ทั้งสองได้พบกัน (ช่วงโพล้เพล้) ผีตากผ้าอ้อม โดยมีเรื่องของแสงที่เชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เปรียบเสมือนคนที่ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็จะมีเวลาที่เราได้มาพบปะกับผู้อื่นแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ข่าวแนะนำ

ซึ่งการที่เราได้พบกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดีก็เป็นสิ่งที่น่าจดจำทั้งสิ้น ถ้าโลกนี้ยังหมุนอยู่เรายังจะได้พบกันเพื่อบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทำเพลงกับพี่ๆ Slot Machine เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ทำงานด้วยกันไม่มีรูปแบบและขอบเขตทั้งเนื้อร้อง-ทำนอง ภาษาที่เล่าในเพลงของเราจะมีภาษาเพลงที่ต่างกันทั้งของโปเตโต้และ. แมชชีน แต่สื่อสารเป็นสิ่งเดียวกันรวมถึงภาคดนตรี


ที่สำคัญเพลง "อีกไม่ช้า" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า SOON ซึ่งมาจาก Sun + Moon ขอขอบคุณ พี่ปู๋-ปิยวัฒน์ สำหรับเนื้อเพลงนี้ ส่วนมิวสิกวิดีโอเราใช้คำว่า Official Visualiser ร่วมงานกับ พี่ต้น-เรืองฤทธิ์ แห่ง DuckUnit เป็นผลงานสุดจินตนาการ"


ด้าน "เฟิด Slot Machine" บอกว่า "รู้สึกตื่นเต้น แล้วก็ดีใจ ทั้งในฐานะศิลปินที่เจอกันบ่อยมากๆและในฐานะแฟนเพลงที่โตมากับทุกยุคของโปเตโต้ เป็นการร่วมงานกันที่อบอุ่นเป็นกันเอง ฝากแฟนๆของพวกเรา หยินและหยาง เอ๊ย! โปเตโต้และ. แมชชีน กับเพลงอีกไม่ช้า ไว้เป็นอีก 1 พลังใจดีๆจากพวกเรา ชม Official Visualiser ได้แล้ววันนี้!
#6958



บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกาศเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เพิ่มความถี่ทำความสะอาดเชิงรุกทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะดีพคลีนนิ่ง หลังปิดทำการทุกวันทุกสาขา เข้มพนักงานทุกคนยกการ์ดสูง จัดทีมรักษาระยะห่างเตือนลูกค้าตลอดเวลา ย้ำสินค้ามีเพียงพอความต้องการ พร้อมทำหน้าที่ต่อสู้วิกฤตเคียงข้างคนไทย

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม็คโครได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าประชาชนในการเป็นสถานที่จับจ่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้งอาหารสด และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ในทุกสาขาทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น แม็คโครประกาศเจตนารมณ์ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุด เคร่งครัดรัดกุมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการทำความสะอาดเชิงลึก (Deep Cleaning) หลังปิดทำการทุกวัน เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสเสี่ยง แจกถุงมือลดการสัมผัสโดยตรง จัดทีมรักษาระยะห่างคอยเตือนลูกค้าตลอดเวลาที่ใช้บริการ พร้อมทำหน้าที่จัดหาสินค้าจำเป็นให้มีเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้

"เพื่อเพิ่มความมั่นใจในเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ให้กับลูกค้าและพนักงานทุกคน แม็คโครได้วางมาตรการเข้มข้นมากกว่าเดิม ไม่เพียงทำความสะอาดในแบบปกติ แต่ยังจัดทีมเฉพาะกิจทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเชิงลึกหลังปิดทำการในทุกสาขา โดยยึดแนวทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเคร่งครัดกับการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการภายในสาขา เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่แม็คโครเราได้เพิ่มเติมและดำเนินการมาโดยตลอดก็คือ จัดตั้งทีมรักษาระยะห่าง (social distancing scouts) คอยประกาศย้ำเตือนลูกค้าให้รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ตลอดเวลาที่อยู่ภายในสาขาโดยเฉพาะจุดที่มีความแออัด รวมถึงมีมาตรการแจกถุงมือให้ลูกค้าทุกคน และรณรงค์ใช้ cashless payment เพื่อลดการสัมผัสให้มากที่สุด"
"แม็คโคร ขอยืนยันว่า จะทำหน้าที่สำคัญในการเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน โดยการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้มีเพียงพอกับควางต้องการ ซึ่งเราทำงานร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เคียงข้างคนไทยไปด้วยกัน" นางศิริพร กล่าว
#6959
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#6960
ชื่อดีเสริมมงคล เกื้อหนุนให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองดังใจหวัง

รับวิเคราะห์ชื่อให้ฟรี !!!!

รับตั้งชื่อ ตั้งชื่อเด็ก เปลี่ยนชื่อ หาชื่อมงคล
ใช้ทั้ง 3 ศาสตร์ คือตามหลักทักษา เลขศาสตร์ อายตนะ

ตามความเชื่อแบบไทย "ชื่อ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะไม่เพียงจะเป็นคำที่ใช้แทนตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้คุณให้โทษแก่เราอีกด้วย ดังนั้นการ "ตั้งชื่อ" ให้แก่เด็กหรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อให้ตัวท่านเอง ต้องทำตามตำราจึงจะเป็นมงคล

การตั้งชื่อมงคลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามเงื่อนไขของทุกศาสตร์ทุกตำรา เพื่อจะได้ชื่อดี ๆ สักชื่อนึงไม่ง่ายเลย ต้องมีการวิเคราะห์ชื่อแยกแยะอักขระ คำนวณวิเคราะห์ร้อยชื่อพันชื่อหากโชคดีอาจได้มาสักชื่อนึงก็เป็นได้ ได้ชื่อแล้วจะต้องดูผลคำทำนายรวมกับนามสกุลอีก ใช้แต่ละศาสตร์กลั่นกรองชื่อ แต่ละชื่อใช้เวลาในการคำนวณพอสมควร

ค่าครูในการตั้งชื่อ 299 บาท (จากปกติ 599 บาท) ท่านจะได้รับ

รับชื่อมงคล 2-3 ชื่อ มีคำอ่านและคำแปลของชื่อ
วิเคราะห์ชื่อใหม่ให้ทั้ง 3 ศาสตร์ ไม่ว่าหลักทักษา หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ
ชื่อที่ได้รับจะผ่านการทำพิธีเสริมดวง เสริมมงคลให้ด้วย
ฤกษ์ในการเปลี่ยนชื่อ
พิธีกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชื่อใหม่ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม วิเคราะห์ชื่อฟรี ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/3