ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.51 ระหว่างวันผันผวน ก่อนกลับมาแข็งค่าสวนทางภูมิภาครับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน

[Thetaiso]

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.51 ระหว่างวันผันผวน ก่อนกลับมาแข็งค่าสวนทางภูมิภาครับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน
 
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.51 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.66 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวสวนทางกับภูมิภาค เนื่องจากมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามา ระหว่างวันเงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 33.45 - 33.70 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทผันผวนมาก แกว่งตัวในกรอบกว้าง ช่วงเช้าอ่อนค่าตามภูมิภาค แต่กลับมาแข็งค่าเร็วมากในช่วงบ่าย คาดว่าจะมี Flow ไหลเข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.40 - 33.65 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้อง ติดตาม ได้แก่ แนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และสถานการณ์การสู้ รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.73 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.94 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0997 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,677.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 81,863.19 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,713.71 ล้านบาท (SET+MAI)
วิจัยกรุงศรี ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงเหลือ 2.8% จากเดิมคาด 3.7% โดยปรับลดมูลค่า
การส่งออก (รูปดอลลาร์) ขยายตัวอยู่ที่ 2.6% จากเดิมคาดโต 5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเร่งขึ้น โดยทั้งปีคาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.8%
อาจบั่นทอนกำลังซื้อ และทำให้การบริโภคของผู้มีรายได้ในแต่ละกลุ่มฟื้นตัวได้แตกต่างกัน โดยหากสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน มี
การสู้รบยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาส 2/65 ทำให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้น โดยมีการห้ามนำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่พลังงาน
จากรัสเซียไปจนถึงกลางปีหน้า กระทบการผลิตและการค้าของโลกลดลง ซึ่งจะเชื่อมโยงมาสู่การส่งออก การผลิต และภาคท่องเที่ยวของ
ไทย
เอสแอนด์พี โกล. เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย ลงสู่
ระดับ BBB จากระดับ BBB+ พร้อมกับปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารกรุงไทย และธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ลงสู่ระดับ BBB-
จากระดับ BBB
รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ยังแข็ง
แกร่งเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนสูงในอนาคต แม้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
ของธนาคารพาณิชย์ไทย 4 แห่ง และคงความน่าเชื่อถือไว้ 2 แห่ง ด้วยมีมุมมองว่าหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกฎเกณฑ์ของทาง
การ เอื้อให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของไทยทำได้มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้มีลูกหนี้ภายใต้มาตรการช่วยเหลือจำนวนมาก
ที่ประชุมครม. ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะ
เริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค.65 อย่างน้อย 10 มาตรการในการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพจากปัญหาราคาพลังงานให้กับ
ประชาชน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) คาดว่า ราคาทองคำในปีนี้มีโอกาส
ปรับขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยมองแนวต้านถัดไปที่ 2,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ส่วนแนวรับที่ 1,800 เหรียญ
สหรัฐ/ออนซ์ หากยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าวถือว่าภาพยังดูดี
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ทั้งจากราคาทองในตลาดปรับสูงขึ้น และเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก แตะ 32,000 บาท/บาททองคำแล้ว โดยหากราคาทองคำตลาดโลกขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเดิม 2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ จะทำให้ราคาทอง ในประเทศสูงขึ้นไปถึง 34,000 บาท/บาททองคำ (ประเมินจากค่าเงินบาทที่ 33.40 บาท/เหรียญสหรัฐ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ประเทศในเอเชียอาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อกระจายไปทั่วโลก หากราคาผู้
บริโภคปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาพลังงาน ซึ่งจะทำให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นและฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ รุกคืบสู่ตลาดตราสารอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยล่าสุด
โกลด์แมน แซคส์ ได้กลายเป็นธนาคารรายใหญ่แห่งแรกของสหรัฐที่ทำการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีนอกตลาด (Over-The-Counter
หรือ OTC)
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.
และเดือนมิ.ย. หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงิน

เฟ้อ