• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - dsmol19

#6828


ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) คงต้องยอมรับอุตสาหกรรมที่กำลังได้ประโยชน์คือ 'อุตสาหกรรมบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ' บ่งชี้ผ่านแนวโน้มปริมาณหนี้เสีย (NPL) ปัจจุบันอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) สถาบันการเงิน และ ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non Bank) จะนำหนี้ด้อยคุณภาพออกมาประมูลขายจำนวนมาก และเกินกว่า 'กำลังซื้อ' ของผู้ซื้อรายใหญ่ 3 อันดับแรกรวมกัน สอดคล้องทิศทางปริมาณหนี้เสียในตลาดอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง 2 ปี (2564-2565)

'สุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT หนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่เมืองไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ' ว่า คาดการณ์แนวโน้มในช่วง 2 ปี (2564-2565) 'อุปทาน' (Supply) หนี้ด้อยคุณภาพจะถูกนำออกมาขายจำนวนมาก จากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าไม่มีความสามารถผ่อนชำระคืนหนี้ได้ โดยคาดจะเห็นตัวเลข NPL ระดับสูงในปีหน้า หากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง และไม่มีการช่วยเหลือต่อ

ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงเตรียมความพร้อมรองรับ 'โอกาสโต' ในแง่ของสรรพกำลังด้าน 'เงินทุน' ด้วยช่องทางการเพิ่มทุน ออกหุ้นกู้ รวมทั้งพ่วงออกวอร์แรนต์ JMT-W3 แจกผู้ถือหุ้นอีก 100 ล้านหน่วย เพื่อรองรับธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่มีโอกาสสร้างการเติบโตมหาศาลในปีนี้และปีหน้าเพื่อรอวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2565 เป็นต้นไป หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย

สอดรับแผน 'การลงทุน' ปี 2564 ใน 'ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ' ที่ตั้งเป้าวงเงินซื้อหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 6,000-10,000 ล้านบาท ถือเป็นเงินลงทุนที่ทำ 'สถิติสูงสุด' (All Time High) ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทซื้อหนี้ไปแล้ว 1,833 ล้านบาท ล่าสุดพอร์ตบริหารหนี้คงค้างรวม 213,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 207,051 ล้านบาท แต่หากย้อนดู เดิมบริษัทเคยตั้งวงเงินการซื้อหนี้ระดับ 1,000 ล้านบาท ก่อนขยับมา 3,500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ก็ถือว่าสูงสุดที่เคยทำได้ แต่ปีนี้ตั้งวงเงินไว้สูงกว่าเดิมมาก

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการลงทุนถือว่าจังหวะนี้บริษัทมีศักยภาพซื้อหนี้ก้อนใหญ่มาบริหารได้ เนื่องจากกระแสเงินสดในมือระดับ 'พันล้านบาท' ดังนั้น นโยบายบริษัทจึงต้องการขยายพอร์ตการลงทุนบริหารหนี้ควบคู่กัน คือ 'พอร์ตหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน' และ 'พอร์ตหนี้มีหลักประกัน' ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หนี้ไม่มีหลักประกัน 90% และ หนี้มีหลักประกัน 10% โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทขยายพอร์ตซื้อหนี้มีหลักประกันไม่ได้มาก เนื่องจากความพร้อมด้านเงินทุนมีจำกัด ทว่าปัจจุบันขีดความสามารถด้านเงินทุนพร้อมที่ขยายลงทุนไปทั้งสองส่วน

สะท้อนผ่านการเข้าลงทุนใน 'ธุรกิจใหม่' (New Business) อย่าง 'ธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์' ปัจจุบันอยู่ระหว่างการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดกระบวนการซื้อขายแล้วเสร็จไตรมาส 3 ปี2564 โดยบริษัทดังกล่าวมีผลการดำเนินงานเป็นกำไร แต่ไม่มาก ซึ่งทำธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์ได้ทั้ง ธุรกิจ , เครื่องจักร , โรงงาน , อาคารต่างๆ เป็นต้น 

เขา บอกต่อว่า สำหรับเป้าหมายลงทุนในธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์ ส่วนหนึ่งบริษัทต้องการให้เข้ามาเป็น 'อีโคซิสเต็ม' (EcoSystem) ของบริษัทเพื่อเข้ามาเชื่อมโยงสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ เกิดเป็นธุรกิจที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพอร์ตหนี้ที่มีหลักประกันที่ต้องพึ่งพาในส่วนของการประเมินราคาสินทรัพย์ โดยที่ผ่านมาบริษัทใช้บริการบริษัทประเมินราคาสินทรัพย์มาประเมินให้อาจจะเกิดความล่าช้าในบางครั้ง 

ดังนั้น เมื่อบริษัทมีธุรกิจประเมินราคาสินทรัพย์เป็นของตัวเองแล้ว ธุรกิจดังกล่าวก็จะเข้ามาส่งเสริมให้การทำงานมีความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อหนี้ที่มีหลักประกันมากยิ่งขึ้น และในอนาคตพอร์ตหนี้ที่มีหลักประกันก็ขยายตัวได้เร็วขึ้นอีก

'ที่ผ่านมาเรามีความสนใจซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันนานแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่สามารถทำได้มากเนื่องจากเงินทุนไม่พร้อม เพราะพอร์ตหนี้มีหลักประกันต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงมาก แต่ตอนนี้เรามองว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่บริษัทจะสามารถขยายพอร์ตลงทุนควบคู่กันไปได้แล้ว'  

ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,206.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,047.04 ล้านบาท โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถาบันการเงินและนอนแบงก์จะมีการขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาก้อนใหญ่ในไตรมาส 4 ปี 2564 และปลายปีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของภาครัฐสิ้นสุด เชื่อว่าปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพจะออกมาในตลาดปริมาณที่มากโดยเฉพาะในปีหน้า ซึ่งตามปกติปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ที่ออกสู่ตลาดจะมีมากกว่างบประมาณลงทุนของบริษัทอยู่แล้ว 

'ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทกำลังเร่งรัดตัดมูลค่าเงินลงทุนในกองหนี้ทั้งหมด (Fully Amortized) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ประกอบกับสถาบันการเงินต่างๆ มักจะเร่งปล่อยหนี้เสียออกมาประมูลในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจำนวนมาก'

ขณะที่ 'ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้' ปีนี้แนวโน้มทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงสถาบันการเงินมีการพักหนี้ รวมทั้งสถาบันการเงินมีการเรียกคืนหนี้ด้อยคุณภาพระยะสั้นเพื่อนำไปปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าอีกด้วย โดย ณ ปลายปี 2563 บริษัทมีมูลหนี้ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามจากผู้ว่าจ้างจำนวน 32,682 ล้านบาท โดยผู้ว่าจ้างหลักๆ เป็นสถาบันการเงินและบริษัทเช่าซื้อ 

'ธุรกิจประกันภัย-นายหน้าประกันภัย' คาดว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานน่าจะมีกำไร หลังบริษัทมีการปรับพอร์ตลงทุนใหม่ ทำให้ปีก่อนผลดำเนินงานขาดทุนลดลง โดยแผนธุรกิจในการรับประกันภัยมุ่งเน้นไปที่การทำ InsurTech ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับการทำประกันภัยของบริษัท ซึ่งโครงสร้างรายได้ปี 2563 จะมาจากการรับประกันภัยกลุ่มรถยนต์ 64% และประกันภัยที่ไม่ใช่กลุ่มรถยนต์ 36% จากเบี้ยรับประกันภัยจำนวน 349 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงมุ่งที่จะขยายงานไปในส่วนที่มีศักยภาพ และมุ่งที่จะนำเอาแบบประกันภัยเข้ามาใช้ในการดำเนิน Synergy ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม    

ท้ายสุด 'สุทธิรักษ์' ทิ้งท้ายไว้ว่า ปีนี้สตอรี่การเติบโตของ JMT จะมาจากปริมาณ NPL ที่สถาบันการเงินและนอนแบงก์นำออกมาประมูลค่อนข้างสูงกว่าปกติ แม้ที่ผ่านมาจะมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐแต่ก็ยังมีหนี้ด้อยคุณภาพออกมาเรื่อยๆ แต่มองว่าปริมาณมูลหนี้ก้อนใหญ่และมากสุดอาจจะยังได้รับการช่วยเหลืออยู่ในปัจจุบัน
#6832
ขายถูกมากที่ดินกระนวน ขอนแก่น ที่ดินสวยขายถูก ไร่ละ 100,000฿ ถูกกว่าทั่วไปมาก

ขายถูกมากที่ดินกระนวนขอนแก่น ขายที่ดินขอนแก่นราคาถูกมาก  ที่ดินสวยขายถูก ไร่ละ 100,000฿ ถูกกว่าทั่วไปมาก ถูกกล่าใกล้เคียงมาก ใกล้ถนน เส้น กระนวน-ยางตลาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
ขายถูกมากที่ดินกระนวนขอนแก่น ที่ดินสวยขายถูก ไร่ละ 100,000฿ ขายถูกมากที่ดินกระนวน ขายที่ดินอำเภอกระนวน 6ไร่ 3งาน 38ตารางวา เหมาะทำสวนหรือการเกษตรโคกหนองนา เป็นที่ราบสูงจะตักหน้าดินขายก็ได้ พิกัด ใกล้ถนน เส้น กระนวน-ยางตลาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น


สถานที่ใกล้เคียง
โรงเรียน,โรงไฟฟ้า,โรงพยาบาล,ที่ว่าการ,สถานีตำรวจ,บิ๊กซี,โลตัส,รีสอรท์,ตลาดสด,ธนาคาร,วัด,ไปรษณีย์ เดินทางเพียง 10นาที

ขายถูก ขายด่วน เหตุผลที่ขาย เพราะทำธุระกิจอยู่ กทม. ไม่มีเวลาไปดูแล

สนใจติดต่อ 080-5769657 เจ้าของที่ขายเอง

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://tdin.online/ขายถูกมากที่ดินกระนวน/



คำค้น
ขายถูกมากที่ดินกระนวน-ขอนแก่น, ที่ดินสวยขายถูกอำเภอกระนวน,
ขายที่ดินกระนวนไร่ละ 100,000 , ขายที่ดินกระนวนถูกกว่าทั่วไปมาก, ขายที่ดินกระนวนถูกกว่าใกล้เคียง
#6834


เมื่อเวลา 16.58 น.วันที่ 16 กรกฎาคม น.ส.วิไล ประดับศรี อายุ 56 ปี เลขที่ 103/3 หมู่ 4 บ้านบันไดม้า ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าพบ พ.ต.ต.ชำนาญ ก่อเกิด สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมถือสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 556725 งวดที่ 28 ชุดที่ 03 และ 04 วันที่ 16 กรกฎาคม จำนวน 2 ใบ ตรงกับรางวัลที่ 1 ในงวดนี้ หลังลงประจำวันเสร็จแล้ว ข้าราชการตำรวจใน สภ.ต่างร่วมแสดงความยินดี รวมทั้ง ร.ต.อ.(หญิง)ศศินันท์ แสงทอง รอง สว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวนสาวสวยเหมือนดาราภาพยนตร์ ร่วมถ่ายรูปด้วย

น.ส.วิไล ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 12 ล้านบาท กล่าวว่า ตัวเองมีอาชีพรับจ้าง เป็นคนงานก่อสร้างทั่วไป ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ส่วนสามี เป็นช่างก่อสร้าง ได้ค่าแรงงานวันละ 450 บาท ทุกงวดจะจองซื้อเลขรถ จยย.หมายเลข 725 จากคนขายประจำ งวดนี้ก็เช่นเดียวกัน คนขายประจำได้เอาสลากกินแบ่งมาขายให้เมื่อวานนี้ ซื้อทั้งหมด 6 ใบ รวมทั้งหมายเลข 556725 จำนวน 2 ใบ เลข 725

ก่อนหน้านี้ ก็เคยถูกรางวัลที่ 5 หลายปีก่อนได้เงินมา 4-5 หมื่นบาท และถูกเลขท้าย 2 ตัวมาหลายงวด โชคดีงวดนี้ถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินมาก็จะเอามาสร้างบ้านหลังใหม่ แบ่งให้ลูก พร้อมฝากธนาคารเก็บไว้ โชคดีที่เราไม่มีหนี้สิน เราประหยัด ทำงานทุกวันได้มาก็กินอยู่แบบประหยัด เก็บหอมรอมริบ แต่ก็ยังคงเป็นคนงานแบกปูน ผสมปูน ทำงานก่อสร้างต่อไป.

สาวชีวิตพลิก กลับบ้านมาขายก๋วยเตี๋ยวที่ยโสธร ก่อนถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน


เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 16 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้าน น.ส.พิกุล (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี  แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ในพื้นที่บ้านหนองก้าว หมู่ 4 ต.หนองหมี อ.กุดชุม จ.ยโสธร หลังจากทราบว่าถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 ก.ค.64  หมายเลข 556725 จำนวน 2 ใบ เตรียมรับเงินจำนวน 12 ล้านบาท และกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่  โดยบรรยากาศที่บ้าน มีบรรดาญาติรวมทั้งเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว พากันร่วมแสดงความยินดีด้วยอย่างต่อเนื่อง

น.ส.พิกุล เล่าว่า ตนเพิ่งกลับมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสถานกาณ์โควิด-19 ระบาด จึงนำลูกกลับมาอยู่ที่จังหวัดยโสธร โดยปกติตนเป็นคนชอบเสี่ยงโชคกับลอตเตอรี่มาก กระทั่งก่อนวันหวยออกได้มีแม่ค้าได้มาเดินเร่ขายให้ โดยตนได้ซื้อไว้ทั้งหมด 8 ใบ และยังไม่ได้จ่ายเงินจำนวน 800 บาท เพราะหลังหวยออกคนขายจะมาเก็บเงินทีหลัง

โดยตนไม่ได้ฝันถึงอะไรเลย แต่ด้วยความชอบเลข 25 และ 27 จึงได้เก็บเอาไว้ และมีแต่ก่อนวันหวยออก ตนฝันว่าญาติพี่น้องชวนกินแต่ข้าว 2-3 วันติดต่อกัน กระทั่งวันนี้ที่หวยออก ยังไม่รู้ตัวเลยว่าถูกรางวัล จนนึกได้ว่ายังไม่ตรวจลอตเตอรี่ที่ที่ซื้อไว้ จึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบมาตรวจ จนทราบว่าตนเองถูกรางวัลที่หนึ่ง ด้วยความตกใจจึงได้ร้องตะโกนลั่นบ้าน

หลังจากนี้ตนจะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สิน พร้อมทั้งปลูกบ้านและเก็บเป็นทุนการศึกษาให้ลูก และเบื้องต้นต้นได้นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วที่ สภ.กุดชุม จังหวัดยโสธร
#6835
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#6839


การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 เป็นปฎิกิริยาเร่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในหลายมิติ รวมทั้งด้านการอยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญด้านสุขอนามัย และนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์ความสะดวกและวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) มากขึ้น โดย "ลุมพินี วิสดอม" บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือบริษัท แอล.พี. เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า "บ้านอัจริยะ"หรือSmart Residence ขยายตัวสูงมากกว่า 40% ต่อปีทีเดียว

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือบริษัท แอล.พี. เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยยุคหลังโควิด มีการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของประชาชนภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งกลายเป็นวิถีชีวิตในปัจจุบัน (Now Normal)

การวิจัยของทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ "ลุมพินี วิสดอม" พบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอยและวัสดุ (Function & Material) สุขอนามัย (Health) เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย (Smart Living Technology) โดยนำนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยโดยใช้เทคโนโลยี Internet of Thinks (IoTs) และอุปกรณ์อัจฉริยะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญทำให้การอยู่อาศัยสะดวก ปลอดภัย มากขึ้น

"พฤติกรรมผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทั่วโลกให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยเข้ามาใช้ในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยในรูปแบบของบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Residence มากขึ้น รวมทั้งผู้ซื้อในไทย เริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้การอยู่อาศัย สะดวก สบาย ปลอดภัย"

โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด การใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากบ้านเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อนและทำกิจกรรมส่วนตัว ปัจจุบันบ้านเป็นทั้งที่ทำงานและสถานที่พักผ่อนไปพร้อมกัน เมื่อผู้คนต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) มากขึ้น ทำให้การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยต้องมีพื้นที่ที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้แบบ "Multifunctional Space"

ยกตัวอย่าง การแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านด้วยผนังทึบอาจต้องปรับเป็นผนังที่เปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายในที่อยู่อาศัย ทำให้ดูโปร่ง มีการไหลเวียนอากาศที่ดี เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม เช่น พื้นที่ครัวโดยเฉพาะครัวไทย ต้องใช้วัสดุที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ระบายอากาศได้ดี หรือพื้นที่อ่านหนังสือ-พื้นที่นั่งเล่นที่ต้องการปริมาณแสงธรรมชาติมากกว่าห้องนอน

จากการประเมินของ IDC สถาบันวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐ ระบุว่า จำนวนอุปกรณ์ "Smart Residence" ของโลก เติบโตเฉลี่ย 31% ต่อปี จาก 644 ล้านเครื่อง ในปี 2561 เป็น 1,300ล้าน เครื่องในปี 2565 หรือเพิ่มมากกว่า "เท่าตัว" ภายใน 3 ปี ขณะที่ A.T. Kearney ระบุว่า มูลค่าตลาด Smart Residence ทั่วโลก อยู่ที่ 2.63 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 8.4 ล้านล้านบาทในปี 2568 ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับ 2 หมวดหลัก คือ อุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย

ด้าน "เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ตนิว เอร่า บิซิเนส มีเดีย" ศึกษาการเติบโตของตลาด Smart Residence ในประเทศไทย พบว่า โปรดักท์ "Smart Home" ในไทยปี 2559 มีมูลค่า 645 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2563 มีมูลค่า 2,500 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี! แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ Smart Residence เพื่อการดูแลผู้สูงอายุ เติบโตสูงสุด 60% และ Smart Home เพื่อการรักษาความปลอดภัยเติบโตอันดับ 2 อยู่ที่ 45% ต่อปี

ประพันธ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ยังมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ดังนั้นนวัตกรรมด้านสุขอนามัย เช่น ระบบช่วยลดไวรัสและแบคทีเรียภายในอากาศ นวัตกรรมด้านวัสดุ เช่น สีทาบ้าน Low VOCs รวมถึงพื้นที่สีเขียวภายในบ้านถูกนำมาใช้มากขึ้น พร้อม เทคโนโลยี "Home Automation" เชื่อมต่อเข้ากับระบบสั่งการต่างๆ ทั้งทางเสียง หรือแอพพลิเคชั่น เพื่อควบคุมการทำงานของระบบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เปิด-ปิดไฟ โทรทัศน์ เครื่องเสียง ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์สั่งการด้วยเสียง นวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาความร้อนภายในที่อยู่อาศัย เช่น ระบบ Fresh Air Intake การนำระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด ระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น เมื่อเกิดเหตุก็จะส่งสัญญาณเตือนมาที่โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน

"Smart Residence" กำลังถูกพัฒนาไปพร้อมๆ กับการพัฒนาเทคโนโลยี 5G และมีความเสถียรของระดับราคาที่จับต้องได้ (Affordable Price) มากขึ้น ตอบรับผู้บริโภคยุค Smart Life