• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - kaidee20

#2941


LINE MAN ประกาศมาตรการดูแลเพิ่มเติมแก่ไรเดอร์ทั่วประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มอบความคุ้มครองชดเชยรายได้รายวัน และค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 หรือภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีน เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

LINE MAN ต้องการสร้างความอุ่นใจให้แก่ไรเดอร์ ด้วยการมอบประกันโควิด-19 ที่ชดเชยรายได้รายวันอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด 25,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลในภาวะโคม่าจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด 500,000 บาท และภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับไรเดอร์ทั่วประเทศที่ลงทะเบียนและเข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่กำหนด* โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจะเริ่มคุ้มครองตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564

นอกจากนี้ LINE MAN ได้จับมือร่วมกับ Shell GO+ มอบประกันโควิด-19 แก่ไรเดอร์เพิ่มอีกช่องทาง ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีนไปจนถึงอาการโคม่าด้วยเช่นเดียวกัน โดยเริ่มคุ้มครองระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงตุลาคม 2564



นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า ไรเดอร์ถือเป็นฮีโร่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คนทั่วไปในการขนส่งอาหารหรือสิ่งของต่างๆ ในช่วงล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น การดูแลเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยของไรเดอร์จึงเป็นเรื่องที่ LINE MAN ให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ไรเดอร์ของเรา โดย LINE MAN พร้อมเดินหน้าออกมาตรการดูแลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการมอบประกันโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การมอบเงินเยียวยาให้แก่ไรเดอร์ที่ต้องกักตัว หรือติดเชื้อโควิดสูงสุดครั้งละ 9,000 บาท รวมถึงมีการแจกหน้ากากอนามัยให้ไรเดอร์ทั่วประเทศมากถึง 1 ล้านชิ้น เพื่อให้ไรเดอร์ของเราสามารถให้บริการอย่างดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้

ทั้งนี้ เงื่อนไขของประกันโควิด-19 เป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด และไรเดอร์ที่จะได้รับประกันโควิด-19 จะต้องลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม 2564 โดยขับ 15 วันทำงานขึ้นไป รวมไม่ต่ำกว่า 30 เที่ยวในเดือนกรกฎาคม 64 หรือตามเงื่อนไขในเดือนต่อๆ ไป ซึ่งจะประกาศผ่านช่องทางแอปฯ LINE MAN Rider
#2942


"สิงห์บลูส์" เชลซี นำ 2 ประตูแต่ไม่ชนะ โดน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไล่ตีเจ๊า 2-2 ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ลงสนามเกมอุ่นเครื่องในลอนดอนดาร์บีแมตช์ พบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โดยเกมนี้มีแฟน.เข้ามาเชียร์เกือบเต็มความจุของสนาม

โธมัส ทูเคิล จัดทัพชุดผสมระหว่างตัวจริงและตัวสำรองของทีม นำทัพโดย ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเยค, มาร์กอส อลอนโซ่, เอ็นโกโล ก็องเต้, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย

ขณะที่ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต เฮดโค้ชชาวโปรตุกีสของทีม "ไก่เดือยทอง" จัดทัพชุดผสมลงเล่นเช่นกัน นำโดย ซอน เฮือง-มิน, ลูคัส มูร่า, สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เดเล่ อัลลี, โอลิเวอร์ สคิปป์

ปรากฎว่าเกมนี้ เปิดเกมบุกแลกกันอย่างสนุก เชลซี ได้ประตูออกนำไปก่อน 2-0 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูของ ฮาคิม ซิเยค ในนาทีที่ 16 และ 49 โดย "สิงห์บลูส์" มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายตำแหน่งในครึ่งหลัง

แต่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำ 2 ประตูรวด ไล่ตีเสมอ 2-2 จากการยิงของ ลูคัส มูร่า น.56 และสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น น.70

หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-2
#2943


ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(เอดีบี) ,บริษัทการเงินชั้นนำของโลกอย่างพรูเดนเชียล, ซิติ,เอชเอสบีซี และแบล็กร็อค เรียล แอสเสตต์ ร่างแผนการต่างๆเพื่อปิดโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินในหลายประเทศของเอเชียเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ขณะที่หลายประเทศในอาเซียนที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลขณะนี้ก็เริ่มใช้น้ำมันน้อยลงและหันมาใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น

เว็บไซต์อัลจาซีราห์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงใน 5 คนที่รู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ดี ระบุว่า บริษัทการเงินชั้นนำของโลกวางแผนการต่างๆเพื่อเร่งกระบวนการปิดโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากถ่านหินทั่วภูมิภาคเอเชียเพื่อลดแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ใหญ่ที่สุด

แผนการของกลุ่มบริษัทให้บริการทางการเงินที่ได้รับการสนับสนุนและขับเคลื่อนโดยเอดีบี เสนอรูปแบบการทำงานที่มีศักยภาพและการหารือแต่เนิ่นๆกับรัฐบาลของทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนธนาคารของประเทศต่างๆที่ต่างก็ให้การสนับสนุนแผนการนี้ กลุ่มฯมีแผนที่จะสร้างหุ้นส่วนที่เป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อซื้อโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าใช้พลังงานจากฟอสซิลภายใน15ปี ซึ่งเร็วกว่าอายุขัยโดยเฉลี่ยของโรงงานเหล่านี้ ทำให้พนักงานมีเวลาที่จะเกษียณหรือหางานใหม่ทำและเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆปรับเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และตั้งเป้าที่จะมีโมเดลที่พร้อมสำหรับการประชุมสภาพอากาศ COP 26 ที่จัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ประเทศสก็อตแลนด์ในเดือนพ.ย.นี้

"ภาคเอกชนมีแนวคิดที่ดีเยี่ยมหลายแนวคิดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนและเราจะทำหน้าที่ประสานงานเพื่ออุดช่องว่างระหว่างภาคเอกชนและตัวแทนของภาครัฐ"อาห์เหม็ด เอ็ม ซาอิด รองประธานเอดีบี กล่าว

ข้อริเริ่มในเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่บรรดาธนาคารเพื่อการพัฒนาแลพธนาคารพาณิชย์กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากบรรดาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้ถอนตัวจากการสนับสนุนทางการเงินแก่บรรดาโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานรูปแบบเก่าเพื่อให้การผลักดันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ดำเนินไปตามเป้าที่หลายประเทศวางไว้


ซาอิด กล่าวด้วยว่า การซื้อโรงไฟฟ้าแห่งแรกภายใต้โครงการนี้น่าจะเริ่มได้เร็วที่สุดปีหน้่า โดยโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากฟอสซิลมีสัดส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณหนึ่งในห้าของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งโลก ถือเป็นตัวการสร้างมลภาวะรายใหญ่สุด

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ)คาดการณ์ว่า ความต้องการถ่านหินทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 4.5% ในปี 2564 โดยภูมิภาคเอเชียมีสัดส่วนการใช้พลังงานชนิดนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 80%

ขณะที่คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ไอพีซีซี)เรียกร้องให้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินลดการใช้ถ่านหินลงจาก 38% เหลือ 9%ของการผลิตพลังงานทั่วโลก ภายในปี 2573 และเหลือ 0.6% ภายในปี 2593

ด้านชาติสมาชิกอาเซียนที่พึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล เริ่มลดการใช้น้ำมัน พลังงานจากถ่านหิน หรือแหล่งพลังงานที่สร้างมลภาวะแก่บรรยากาศ ด้วยความหวังว่าจะช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและเพื่อผลักดันให้ประเทศมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในปริมาณน้อยที่สุด โดยรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าของรัฐบาลอินโดนีเซีย ให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้พลังงานจากถ่านหินภายใน 40ปี

ปรูซาฮาน ลิสตริก เนการา ของอินโดนีเซีย ให้สัญญาว่าจะเลิกสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้ที่ใช้ถ่านหินเพิ่มและมีแผนที่จะเปลี่ยนโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ในช่วงปี 2568 และ2603 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างมากเนื่องจากเชื้อเพลิงจากฟอสซิลยังคงมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคนี้ในยุคที่ทุกครัวเรือและทุกภาคอุตสาหกรรมต่างก็ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น

กระทรวงพลังงานและทรัพยากรเหมืองของอินโดนีเซีย ระบุว่า ประเทศผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินในสัดส่วนสูงถึง 48% เพราะฉะนั้น อุตสาหกรรมถ่านหินยังคงเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย และถ่านหินอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้อินโดนีเซียไม่สามารถให้คำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ให้เป็นศูนย์เปอร์เซนต์ได้เหมือนประเทศอื่นๆ

สำหรับในประเทศไทย รัฐบาลตั้งเป้าว่าภายในปี 2573 จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ของปริมาณการผลิตรถยนต์ 2.5 ล้านคัน และปี 2583 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะมากกว่ารถยนต์แบบเดิม เช่นเดียวกับสถานีบริการน้ำมันจะหันไปสู่ธุรกิจให้บริการแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแทน

ขณะที่ค่ายรถยนต์ทุกแห่งต่างหันเข้าสู่สนามการผลิตใหม่กันถ้วนหน้า เห็นได้จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) โดยค่ายรถยนต์ทั้ง นิสสัน โตโยต้า มาสด้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ ออดี้ เอ็มจี เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ที่เห็นแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ชนิดนี้

ส่วนในเวียดนาม กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังพิจารณาให้แรงจูงใจด้านภาษีสำหรับผู้ต้องการซื้อรถไฟฟ้า และกลุ่มบริษัทชั้นนำของเวียดนามอย่าง วินกรุ๊ป กำลังเดินสายการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคัน พร้อมทั้งวางแผนจำหน่ายในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้

ขณะที่การสนับสนุนจากนานาชาติก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านนี้ดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนมิ.ย. ญี่ปุ่นจัดสรรเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่อาเซียนเพื่อเป็นทุนใช้ในโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์
#2944


เว็บไซต์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานวานนี้ (4 ส.ค.) เงินบาทพลิกผันจากแข็งค่าสุดสกุลหนึ่งในเอเชียก่อนโควิดระบาด กลายเป็นสกุลหนึ่งที่อ่อนค่ามากที่สุดในปีนี้ เมื่อวิกฤติโควิดเล่นงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญมากของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า ตั้งแต่สิ้นปี 2563 เงินบาทอ่อนค่าลงกว่า 9% แย่สุดสกุลหนึ่งของโลกพอๆ กับลีราตุรกีและซอลของเปรู การสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว และโควิด-19 ระลอกใหม่บั่นทอนความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้คนที่เคยรุกซื้อเงินบาทต้องรอไปก่อน

นายมาร์ค เบเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนจากอาร์เบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสต์เมนต์ กล่าวว่า เงินบาทได้รับผลกระทบอย่างมากจากการพังทลายของบริการข้ามประเทศโดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวที่ร่วงลงเหลือศูนย์โดยพื้นฐาน ดุลการชำระเงินติดลบ

นายคุน โก๊ะ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชีย ธนาคารเอเอ็นแซดกล่าวว่า เมื่อปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 40 ล้านคน การท่องเที่ยวเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศสำคัญทำให้ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาก นักลงทุนต่างชาติเองก็สนใจเงินบาทแต่เมื่อโควิดระบาดสถานการณ์พลิกผันรุนแรง ในรอบ 12 เดือนนับถึงสิ้นเดือน มิ.ย.ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 2.2 พันล้านดอลลาร์ จากที่เคยเกินดุลถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์

"หนึ่งในปัจจัยหลักขับเคลื่อนให้เงินบาทแข็งค่ามากเมื่อก่อนโควิดระบาดคือการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมหาศาล หลักๆ มาจากการท่องเที่ยว ตอนนี้ไม่มีแล้ว หายไปหมดและจะไม่กลับมาอีกนานเลย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" นักวิเคราะห์รายนี้กล่าว
ส่วนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ไฟแนนเชียลไทมส์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยกว่าที่คาด จนหลายคนสงสัยว่าคำประกาศเปิดประเทศในเดือน ต.ค.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะทำได้จริงหรือไม่

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า เดิมเคยคาดกันว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นภายในสิ้นปีนี้ แต่ขณะนี้ค่อนข้างชัดแล้วว่าไม่ใช่

"เราไม่เชื่อว่าจะเปิดการท่องเที่ยวได้มากกว่านี้จนกว่าครึ่งหลังของปีหน้า"
#2945


กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมิตี้ จำกัด เปิดมุมมองว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นเสมือนตัวเร่งให้หลายองค์กรมองหาการสร้างชุมชนดิจิทัลและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น อมิตี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรวมฟีเจอร์โซเชียลเข้าไปในแอพฯ และเว็บไซต์ขององค์กรได้โดยการเขียนโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด ทำให้ลูกค้าและผู้ใช้งานรายเดือนสามารถส่งข้อความและมีปฏิสัมพันธ์ผ่านหลายพันล้านข้อความในแต่ละเดือนได้โดยง่าย

"ในปีแรกของการระบาดของโควิด-19 อมิตี้เห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า จากองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการรวมฟีเจอร์โซเชียลต่าง ๆ เช่น ฟีด โปรไฟล์ กลุ่ม แชท และวิดีโอสตรีม เข้าไปในแอพฯและเว็บไซต์ขององค์กร เพื่อดึงดูดลูกค้า ผู้ใช้ และพนักงาน ซึ่งอมิตี้สามารถพลิกกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วยบริการที่ครอบคลุม ทั้งในด้านฟีเจอร์โซเชียล การมีส่วนร่วมของพนักงาน และแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้งานผ่านช่องทางที่หลากหลายได้อย่างชาญฉลาด"

ตั้งเป้าเบอร์ 1 ระดับโลก

ในปี 2563 อมิตี้ได้เข้าซื้อกิจการของ ConvoLab ซึ่งเป็นบริษัทแชทของไทย และย้ายบริการทั้งหมดไปยังคลาวด์ชั้นนำของโลกเพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมและปรับขนาดแพลตฟอร์มโซเชียลใหม่อย่างรวดเร็ว ให้มีความโดดเด่นในด้านบริการ ได้แก่ คอนเทนเนอร์ ฐานข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิ่ง โดยเสนอประสบการณ์การใช้โซเชียลและสร้างชุมชนดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ 

นอกจากนี้ยังใช้สถาปัตยกรรมแบบ Serverless ช่วยให้บริษัทสามารถปรับขยายตามจำนวนลูกค้าได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลอัตโนมัติรองรับลูกค้าในกรณีที่มีการปล่อยแคมเปญบนโซเชียลมีเดียหรือทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย นอกจากนั้นการใช้ Amazon Personalize ซึ่งเป็นบริการแมชชีนเลิร์นนิ่ง ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างประสบการณ์ผู้ใช้แบบเฉพาะเจาะจงสำหรับบุคคลแบบเรียลไทม์จำนวนมากที่มีความแม่นยำสูงได้รวดเร็วขึ้น

ในด้านขององค์กร อมิตี้ให้ความสำคัญในเรื่องของนวัตกรรมและการเติบโตระดับโลกได้เร็ว เนื่องจากอมิตี้เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แห่งเดียวในประเทศและอาเซียน ที่โปรดักท์กำลังเติบโตในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้านซอฟต์แวร์ใน 3 ตลาด ได้แก่ จีน ยุโรป สหรัฐ รวมทั้งมีลูกค้าทั้งองค์กรระดับเอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่หลายร้อยแห่ง และบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชียอย่างจีน ยุโรปและอเมริกาเหนือ


สร้างทีมงานระดับนานาชาติ

ส่วนมุมมององค์กรธุรกิจเทคโนโลยีในอาเซียนและไทย กรวัฒน์ มองว่า ยังมีขนาดเล็กทิ้งช่วงห่างยุโรป อเมริกาและจีน พอสมควร ทั้งในแง่ของการใช้จ่ายและขนาด ซึ่งยังไม่มีผู้เล่นรายใดที่พัฒนา B2B SaaS ที่ก้าวสู่ระดับยูนิคอร์น หรือบริษัทที่สำเร็จ ซึ่งอมิตี้เน้นการเป็นบริษัทระดับโลกตั้งแต่แรก โดยบริษัทมีพนักงานมากกว่า 30 ชาติ และมีสำนักงานในไมอามี่ ลอนดอน มิลาน และไทย ซึ่งในไทยมีพนักงานมากกว่า 20-25 ชาติ โดยจุดสำคัญคือพยายามสร้างทีมระดับนานาชาติที่มีความแข็งแกร่ง

"ทั้งนี้การสร้าง B2B SaaS ต่างจากการสร้างธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่ง B2B SaaS เป็น ธุรกิจที่ยั่งยืน เพราะเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรสูงมาก หากดูมูลค่าตลาดของบริษัทที่ทำคลาวด์ เทคโนโลยี จะเห็นได้ว่าบริษัท B2B SaaS ทำกำไร และมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก แต่ธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคยังยากที่จะเห็นกำไร และสร้างให้เสถียรทำให้การเติบโตในต่างประเทศค่อนข้างยาก"

ส่วนคำแนะนำสำหรับตลาด B2B SaaS หากสตาร์ทอัพรายอื่นต้องการจะเข้าสู่ตลาดนี้ กรวัฒน์ กล่าวว่า B2B SaaS เป็นเนเจอร์ที่ค่อนข้างต่าง หากชนะในไทยได้ ก็ชนะตลาดยุโรป อเมริกา จีน ได้เช่นกัน แต่อย่างแรกคือ ต้องหาโฟกัส ตลาดที่เฉพาะเจาะจง ที่คนอื่นอาจจะยังไม่ได้ทำได้ดีมาก จากนั้นพยายามพัฒนาให้ตอบโจทย์ภูมิภาคและระดับโลก

อย่างไรก็ตามความได้เปรียบของลูกค้าไทยและอาเซียน คือมีการใช้สมาร์ทโฟนค่อนข้างเร็ว ทำให้เห็นว่าในอนาคตคนจะต้องการซอฟต์แวร์มากขึ้น อีกทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย ภาษี ทำให้ไทยมีความก้าวหน้ากว่าในอเมริกา ยุโรป จึงค่อนข้างง่ายที่จะเซ็ตอัพ 

ขณะเดียวกันภาพรวมการแข่งขัน กรวัฒน์ เผยว่า ยังไม่มีคู่แข่งที่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นโซเชียลองค์กร บริการหรือฟีเจอร์สำเร็จรูป คู่แข่งส่วนใหญ่ตั้งเป้าไปที่บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีตลอดจนผู้บริหารด้านเทคนิค เป็นการซื้อโมดูลแชทและ plug-in เข้าไป ฉะนั้น จึงต้องพยายามเติบโตให้เร็ว เพราะอีกไม่นานจะมีคู่แข่งมากขึ้น และอีกหนึ่งจุดประสงค์ที่ทำให้อมิตี้แข่งในต่างประเทศได้ ต้องบอกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีบริษัทที่ทำ IaaS ทั้งตลาดอาเซียน เอเชีย

เน้นเทคโนโลยีสร้างจุดแข็ง

ส่วนจุดแข็งของอมิตี้คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยปีที่ผ่านมางบการวิจัยและพัฒนาของบริษัทประมาณ 7-8 ล้านดอลลาร์และใช้วิศวกรประมาณ 60-70 คน แน่นอนว่าเมื่อพัฒนาเทคโนโลยีมาตลาด 8-9 ปี งบการวิจัยและพัฒนาทั้งสิ้นประมาณ 20 ล้านดอลลาร์

เนื่องจากอมิตี้ต้องพัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยีให้กับลูกค้าวิศวกร ดังนั้น คุณภาพโปรดักท์ ความสามารถของกระบวนการ ระบบปฏิบัติการจะต้องดี ซึ่งต้องทำงานร่วมกับ AgriTech ของ AWS เพื่อดีไซน์ ทั้งลงทุนเพื่อที่จะทำสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์รองรับปริมาณการใช้งานจำนวนมาก ทุกเดือนอมิตี้ให้บริการ 3 พันล้านข้อความ นี่คืออุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดที่สูง

ทั้งนี้ เป้าหมายและทิศทางอมิตี้หลังจากนี้ จะมุ่งให้เกิดการเติบโตที่สุด และยึดหมวดหมู่ และ IaaS จึงต้องพยายามก้าวสู่ผู้นำในตลาดโลก โดยทุ่มทางการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักนำเสนอชุดผลิตภัณฑ์พร้อมฟีเจอร์สำเร็จรูป คาดว่า 3-4 ปี อมิตี้จะเป็นบริษัทที่ทำซอฟต์แวร์ใหญ่ระดับสากลได้
#2946
บริษัท ออสซี่ออยล์ ในวันที่ 30/07/2564 เวลา 13.00 น.เข้าร่วมสัมมนาในระบบ zoom ในโครงการ ธุรกิจพลังงานอาชีพเสริมช่วงโควิท คลิ๊ก https://zoom.us/j/98003572433 
#2947
โทร. 092.545.7896 คุณ วราธ์
081.655.0565 คุณ ผึ้ง

ขาย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บางบัวทอง นนทบุรี ใกล้ เซ็นทรัล เวสต์เกต


พื้นที่บ้าน 67.1ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 168 ตารางเมตร

บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  3ห้องนอน  2ห้องน้ำ 1 ห้องครัว

ที่ตั้งบ้านเลขที 99/36 หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี    

ไม่มี แอร์  จอดรถได้= 1คัน

สถานที่ใกล้เคียง 
ห้างสรรพสินค้าเซ้นทรัล สาขาเวสต์เกต , ไทยวัสดุ ,โลตัส, ดูโฮมบางบัวทอง,เซเว่นอีเลฟเว่น
ร้านสะดวกซื้อ, ร้านเสริมสวย,ตลาดสมบัติบุรี ,ร้านอาหารอิตาลี,ร้านอาหารเครื่องดื่ม Safe Zone bar 
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล,  โรงเรียน ดรุณวิทย์ศึกษา , โรงเรียนประสานสามัคคีวิทยา
โรงเรียนสหศึกษาบางบัวทอง,โรงเรียนบำรุงวิทย์ศึกษา ,สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ ,สถานีรถไฟใต้ดินตลาดบางใหญ่
สถานีรถไฟใต้ดินสามแยกบางใหญ่,สถานีรถไฟใต้ดินบางพลู

ราคาบ้าน  ราคา 5,500,000 บ. 
โทร. 0925457896 คุณ วราธ์
0816550565 คุณ ผึ้ง

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=54&t=7832211




























#2948


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาแนวโน้มตลาดของสินค้าต่าง ๆ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำมาแจ้งทิศทางและช่วยแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้มีการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการทำตลาด โดยได้ทำการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งพบว่าแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียน (Circular Fashion) กำลังเป็นที่นิยมที่นำมาใช้ในการวางแผนและออกแบบการผลิตเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ การผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุที่ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเพิ่มระยะเวลาใช้งานเสื้อผ้า รวมทั้งการนำเสื้อผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ เกิดการหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างสูงสุด

ทั้งนี้ นอกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะการที่ร้านค้าต้องปิดตัวลง ผู้คนต้องทำงานที่บ้าน และลดการใช้ชีวิตทางสังคม ทำให้ยอดการจำหน่ายเสื้อผ้าลดลง ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2563 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง และอุตสาหกรรมแฟชั่นถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 51% จะลดการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้ารองเท้าลงและมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากขึ้น และต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีผลการสำรวจว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial คือผู้ที่อายุระหว่าง 24-37 ปี  และ Gen Z คือ ผู้ที่อายุระหว่าง 13-23 ปี  ใส่ใจเป็นพิเศษต่อสินค้ารักษ์โลก และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอุตสาหกรรมที่มีต่อสิงแวดล้อม รวมทั้งมีความตระหนักถึงการลดการใช้พลาสติกและคาดหวังให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สนับสนุนแนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เห็นว่าแฟชั่นหมุนเวียน เป็นแนวคิดที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบันไปพร้อม ๆ กับช่วยลดขยะและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากในวงการแฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจบ้างแล้ว เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง รวมไปถึงการผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ก็ควรที่จะศึกษาและวางแผนการทำตลาดภายใต้แนวคิดนี้เพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม สนค.เห็นว่า ในส่วนของผู้บริโภค หากตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจทำได้โดยเลือกสินค้าที่มีคุณภาพหรือเลือกใช้เสื้อผ้าจากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนทิ้งเสื้อผ้า พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าเพื่อใช้งานให้นานขึ้น บริจาคเสื้อผ้า และแยกขยะเสื้อผ้า สิ่งทอ เมื่อต้องการทิ้ง เพราะเสื้อผ้าสิ่งทอเหล่านี้ สามารถนำไปรีไซเคิลให้กลายเป็นเสื้อผ้าใหม่หรือสินค้าประเภทอื่นได้

ปัจจุบันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมตามการเติบโตของธุรกิจแฟชั่น โดยเฉพาะกระแส Fast Fashion ซึ่งเป็นเทรนด์เสื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าออกมาให้ทันความต้องการ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัยและซื้อบ่อยขึ้น อาจกลับทำให้สินค้าคุณภาพด้อยลง ใช้งานได้ไม่นาน และใช้ซ้ำได้น้อยครั้ง เสื้อผ้าปริมาณมหาศาลจึงต้องกลายเป็นขยะในที่สุด โดยแต่ละปีจะพบว่ามีเสื้อผ้าและสิ่งทอกว่า 85% ถูกทิ้ง และมีเพียง 15%  ที่ได้รับการรีไซเคิลหรือนำไปบริจาค
#2949


วันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงนามประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 39) เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ตามประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค. 2564 โดยมีคำสั่งปิดสถานที่ในกรุงเทพฯ และให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่  32) ลงวันที่14 มิถุนายน 2564 (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน2564 (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และ(ฉบับที่ 38) ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2564

ทั้งนี้ สำหรับประกาศ กทม.ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ได้กำหนดสถานที่ที่เปิดได้ตามความจำเป็น ดังนี้

1.โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านขายยาและเวชภัณฑ์

2.ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม

3.ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์

4.โรงงาน ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง

5.ร้านค้าทั่วไป ร้านจำหน่ายสินค้าเน็ดเตล็ดอันจำเป็น

6.สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส

7.ตลาดนัด (เฉพาะส่วนที่จำหน่ายอาหารและวัตถุดิบเพื่อการบริโภค)

8.สถานรับเลี้ยงเด็ก (เฉพาะในโรงพยาบาลและที่รับตัวไว้พักค้างคืน)

9.สถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืน)

10.ธุรกิจประกันภัย หน่วยบริการงานช่วยเหลือกู้ภัย

11.ศูนย์บริการหรือร้านซ่อมแซมยานพาหนะ ร้านแบตเตอรี่

12.หน่วยบริการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงระบบสารารณูปโภค ระบบระบายน้ำ

13.ระบบท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ผู้จัดเก็บและกำจัดขยะบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online)

ขณะเดียวกันในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 39) ล่าสุดนั้น มีคำสั่งให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 นาฬิกา โดยให้ดำเนินการ ได้เฉพาะการจำหน่ายในรูปแบบการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านการบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) เท่านั้น

รวมถึงให้พื้นที่หรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร สถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับแรงงาน งานก่อสร้าง และการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งได้เคยมีประกาศหรือคำสั่งให้ปิดสถานที่หรือหยุดการดำเนินการ ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 หรือเคยได้รับการผ่อนคลายแบบมีเงื่อนไข ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 แต่ต่อมาสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ตามมาตรฐานทางสาธารณสุข หรือได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้สถานที่มีสภาวะที่ถูกสุขลักษณะแล้ว เปิดหรือดำเนินการได้ภายใต้หลักเกณฑ์ มาตรการ และแนวทางกำกับติดตามประเมินผลที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนด 

สำหรับสถานที่กิจการที่ถูกปิดทั้งหมด 33 กิจการ มีดังนี้

1.สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะ คล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

2.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด

3.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบ กิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร

4.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่

5.สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

6.สนามมวย โรงเรียนสอนมวย

7.สนามม้า

8.สนามแข่งขันทุกประเภท

9.โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด

10.สถานที่เล่นโบว์ลิ่งหรือตู้เกม

11.ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต

12.โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร

13.สถานที่แสดงมหรสพ หรือสถานที่ที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ

14.สวนน้ำ สวนสนุก

15.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก

16.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์

17.สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบลดหรือการเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

18.สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส

19.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)

20.สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ

21.สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงสถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน

22.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่องพระบูชา

23.สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก สถานเสริมความงาม คลินิกเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นคลินิกเวชกรรม) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เช่น กิจการสปานวดเพื่อสุขภาพ นวดฝ่าเท้า

24.สนามกีฬาทุกประเภทในร่ม เช่น สนามแบดมินต้น สนามฟุตซอลสนามบาสเก็ต. สนามวอลเลย์.กลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุต. สนามเทนนิส

25.สวนสารารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ

26.ลานกีฬา

27.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ

28.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์

29.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชนห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ

30.พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันแหล่งประวัติศาสตร์ หรือ โบราณสถาน

31.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน

32.ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผมร้านทำเล็บ หรือร้านสัก

33.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะหรือกิจการอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
#2950


นักแสดงรุ่นใหญ่ กระดุม ธนายง ที่วันนี้จะมาเปิดใจชีวิตในวงการบันเทิงที่ยาวนานกว่า 40 ปี เคยไม่มีงาน ไม่มีเงิน ตกอับจนตัดสินใจถ่ายนู้ด แถมยังเป็นเจ้าชู้ตัวพ่อ สมัยก่อนเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยมาก พร้อมเปิดเส้นทางความรักคบแฟนสาว 10 ปี ไม่คิดแต่งงาน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow 

เข้าวงการมากี่ปีแล้ว?

ข่าวแนะนำ
ผมเข้ามาตั้งแต่ปี 87-88 ประมาณนั้นครับ 36-37 ปีได้ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจะเข้าวงการ เมื่อก่อนจะมีร้านขายเสื้อผ้า โดมอนแมน เขารับสมัครประกวดหนุ่มโดมอนแมน เราก็ไปเดินเที่ยวกับพี่สาว

เขาบอกว่าประกวดไหม เราบอกไม่เอา ไม่ชอบ เขาก็คะยั้นคะยอ จนเราแบบก็ลองดู พอประกวดมันก็เข้ารอบไปเรื่อยๆ จนเราติด 1 ใน 5 ก็ไม่ได้คิดว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง รุ่นนั้นจะมีเป็นมอริส เค เขาได้ที่ 2 ผมได้ที่ 4

พอได้ที่ 4 แล้วยังไงต่อ?

ก็มีงานถ่ายแบบ เดินแฟชั่นโชว์ ช่วงนั่นจะบูมมาก จะเดินตามเชียงใหม่ แล้วเดินตามดิสโก้ เทค ในผับอะไรอย่างนี้

ตอนนั้นดังมากขนาดมีเกย์มาขอเลี้ยงดู?

เกย์ในยุคนั้นมันจะต่างกับยุคนี้ ยุคนั้นคือดูไม่ออกว่าเป็นเกย์นะ จะนิ่ง ไม่มีอาการ ไม่มีทรง รูปร่างก็ไม่ใหญ่เหมือนสมัยนี้ สมัยนี้ถ้าเป็นเกย์คือเราดูออก

แล้วเขามาติดต่อยังไง?

เมื่อก่อนตอนไปเดินแฟชั่นโชว์ต่างจังหวัด มันก็มีทางเดินระหว่างแต่งตัวเสร็จขึ้นเวที ระหว่างทางเดินกลับถ้าเป็นชุดกางเกงว่ายน้ำโดนล้วงแน่นอน

เขายื่นข้อเสนอเท่าไหร่?

คือมีคนมาทาบทามบอกว่ามีคนอยากจะดูแล สนใจไหม เรียกมาได้นะว่าจะเอายังไง ผมบอกไม่ครับ มันไม่ใช่ทางผม เรามารู้จัก มากินข้าวกันดีกว่า

แล้วจากนายแบบพี่มาเล่นละครได้ยังไง?

พอประกวดเสร็จ ก็มีถ่ายแบบลงหนังสือนู่นนี่นั่น แล้วพอดีช่วงนั้นช่อง 3 เขาหานักแสดง นายประชาเขาก็เรียกเราไปเซ็นสัญญา

ก็ตกลงเซ็นสัญญาช่อง 3 ก็ได้เล่นละครเรื่องแรกเลย พอเซ็นสัญญาเสร็จ เดินออกมาเจอพี่จิ๋ม มยุรฉัตร เขาบอกมาเล่นละครอาเลย

เล่นละครหลายเรื่องไหมกว่าจะได้เป็นพระเอก?

ผมเล่นละครช่อง 3 จนหมดสัญญา จากช่อง 3 ด้วยความที่เราเกเรก็ออกจากช่องไปอยู่กันตนาพักหนึ่ง เสร็จแล้วก็ออกด้วยความเกเรตามประสาเด็กวัยรุ่น

จนไปทำงานที่มีเดีย เป็นนักข่าวภาคสนาม โทรศัพท์เข้าช่องคลื่นวิทยุ สัมภาษณ์คนทำงานกลางคืน มีอยู่วันหนึ่งก่อนที่จะมาเป็นพระเอกก็ไปหาอาปื๊ด คุณกิตติ อัครเศรณี สมัยนั้นเป็นอัครมีเดีย

เราก็ไปธุระ เสร็จปุ๊บก็ไปเจออาปื๊ดนั่งอยู่ ผมก็ไปสวัสดี เขาก็มองแล้วถามว่า มึงอยากเล่นละครไหม เราก็งง แต่ตอบไปว่า อยากครับอา มึงเป็นพระเอกเลย

เขาบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้มึงเตรียมตัวให้พร้อม มึงไปฟิตตัวเก็บตัวเลยนะ พออีกวันเราก็ไปฟิต ไปซ้อมดาบ ไปเล่นยิม ต่างๆ ที่เขาพาไป ตอนนั้นเล่นเรื่องขุนศึก คู่ ตุ๊ก วิมลเรขา ฉายช่อง 9

บอกว่าตัวเองไม่เหมาะกับบทพระเอก เพราะอะไร?

เพราะว่าเป็นพระเอกอยู่เรื่องเดียว หลังๆ มางานมันหาย สงสัยจะไม่สมพงศ์ ก็เลยมานั่งคิดว่าพระเอกมันคงไม่เหมาะ ก็เลยพยายามหาตัวเอง เปลี่ยนตัวเองว่าคงจะไม่ได้พระเอกแล้ว


ก็เลยทำให้ผันตัวมาเป็นผู้ร้าย?

ใช่ครับ

เป็นผู้ร้ายจนโกอินเตอร์?

ใช่

ผู้กำกับญี่ปุ่นมาเห็น ติดต่อให้ไปเล่น?

ใช่ครับ แต่ที่ผู้กำกับญี่ปุ่นเห็นเนี่ย เขาไม่ได้เห็นจากงานละคร อาจจะเป็นเพราะดวงที่เราอาจจะได้เล่นก็ได้ พอดีทีมงานหนังของญี่ปุ่นมาถ่ายเมืองไทย แล้วเขาเอาทีมไทยผสมกับญี่ปุ่น

แล้วพอดีคนที่เขาแคสต์นักแสดงก็รู้จัก ก็ติดต่อว่าอยากเล่นไหม เราก็ไป ก็ได้เล่นเรื่อง Children of the Dark

รายได้ดีไหม?

ตอนญี่ปุ่นไม่ดีครับ มันได้แค่หลักหมื่น มันได้เป็นคิว แต่มาดีตรงที่ไปเกาหลี

แล้วมาเล่นหนังที่เกาหลีได้ยังไง?

มันก็เป็นดวงอีก พอเล่นหนังญี่ปุ่นเสร็จแล้ว พอดีทางเกาหลีเขาจะเตรียมงานหนังเรื่อง The Man from Nowhere ซึ่งความโชคดีของเราก็คือ ระหว่างที่เขาหาตัวนักแสดง ผู้กำกับเขาเห็นเราในหนัง

เขาก็แคปรูปเราไว้บนบอร์ด เขาเลยติดต่อมาที่บริษัทเอเจนซี่เมืองไทย หาตัวนักแสดงมาแคสต์ เพื่อหาคนนี้ เสร็จแล้วหาไม่ได้ จนวันสุดท้ายเพื่อนผมเคยทำงานอยู่กันตนา เขาไปธุระที่นี่

เขาก็เลยถามว่าคุณรู้จักผู้ชายคนนี้ไหม เพื่อนผมก็มองรูป นี่มันกระดุมหนิ เขาก็โทรหาผม ให้ไปแคสต์ ผมก็ได้ เขาบอก 2 วันไปเกาหลีเลย ผมก็ถามรายละเอียด

เขาบอกอยากให้ไปดูตัว เราก็ถามใครออกค่าตั๋วเครื่องบิน แล้วค่าใช้จ่าย ผมก็เลยบอกว่าขอเงินก่อน 200,000 บาทแล้วก็ตั๋วเครื่องบิน แล้วที่อยู่ เขาบอกโอเคได้ ผมก็เลยซื้อตั๋วไปเลยคนเดียว

ได้ค่าตัวเท่าไหร่?

ก็ได้ประมาณ 2 ล้านกว่า เราอยู่เกาหลีจริงๆ ซ้อมคิวบู๊ประมาณ 6-7 เดือน ไป-กลับ เกือบ 2 ปี อยู่นานสุดประมาณ 15 วัน

ฟังดูก็ดี แต่ทำไมทีมงานบอกพี่อยากกลับบ้านมากเลย?

ตอนไปอยู่ที่นู่น ตอนฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้เขาเนี่ยไม่เหมือนบ้านเรา พอไปเปลี่ยนลักษณะการต่อสู้ มันเหมือนกับเปลี่ยนตัวเรา แล้วเราต้องพยายามทำให้ได้เหมือนกับที่เขาอยากได้ แล้วมันกดดันมาก

ทุกอย่างจะฟิกซ์หมดเรื่องเวลาการซ้อม 9 โมงเช้ามารับที่โรงแรม อาหารเช้าคือกาแฟกับแซนวิช บ่ายโมงพักเที่ยง อาหารบริเวณยิม จนถึงประมาณ 2 ทุ่มซ้อมเสร็จกลับโรงแรม แวะกินข้าวข้างทาง ชีวิตอยู่แบบนี้ประมาณ 6 เดือน

สุดท้ายหนังออกมาฟีดแบคดีมาก?

ดีมาก

จนคิดไปอยู่เกาหลี?

ใช่ คิดเลย แต่เอาจริงๆ มันไม่ง่ายอย่างที่เราคิด มันหลายๆ อย่าง เพราะเราเป็นคนไทยด้วย แล้วเราไม่ได้มีพาวเวอร์ที่ไปแล้วมันต้อง success เช็กจากทุกๆ คนแล้วมันไม่ง่าย เราก็เลยถอย

เรื่องภาษาล่ะ?

เป็นภาษาอังกฤษที่สื่อสารกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีล่ามเป็นนักเรียนเกาหลีที่เรียนเมืองไทย

ความเจ้าชู้ของพี่สมัยก่อนต้องไม่ธรรมดา?

มันก็มีบ้าง แต่ความเจ้าชู้ของผมมันจะมีหลายเลเวล คือเลเวลแรกๆ ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ อันนั้นคือซัดแหลก กินมูมมาม เลเวลต่อไปเริ่มมีโฟกัสว่าอย่างนี้ไม่เอา เขี่ยออกไม่กิน

จริงหรือเปล่าสมัยก่อนพี่เปลี่ยนผู้หญิงทุกคืน?

คือถ้าออกเที่ยวต้องล็อกคอจบ ผมจะเป็นคนชัดเจนมาก ถ้าผมไปเที่ยวกับเพื่อน 3-4 คน ตัวเองจะไว้ทีหลัง ให้เพื่อนก่อน ล็อกคอมาปุ๊บถามมากับใคร มากับแฟนหรือเปล่า ถ้ามากับแฟนไม่เป็นไร

เคยไหมล็อกแล้วโดนตบกลับ?

มีครับ


คบคนเยอะแบบนี้มันต้องมีรถไฟชนกัน?

มีครับ แต่ผมโชคดีเวลาชนแล้วผมไม่เคลียร์เอง ผมเดินหนี ผมไม่อยู่ ไม่อยากรับรู้

เห็นว่าเคยทำผู้หญิงท้องด้วย?

มันเป็นอะไรที่มีคนบอกผ่านมาว่าผู้หญิงที่เราไปมีอะไรด้วยเขาท้อง เราก็แบบ..ไม่มั้ง เราก็ป้องกันอย่างดีนะ เราก็เลยไปตามหาผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีอะไร แค่เป็นเขาเล่ามา บอกมาเฉยๆ

อันนี้จริงไหม ทีมงานบอกว่าไม่คบคนในวงการเลย?

จริงๆ ผมเคยแต่งงานกับคนในวงการ แล้วผมก็เลิก มันก็เลยเหมือนมีปม เราก็เลยไม่อยากยุ่ง ซึ่งคนที่ผมเคยแต่งงานด้วยเป็นนักแสดง แต่ไม่เอ่ยชื่อเขาดีกว่า

จริงไหม หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็หมดไปกับนารีและสุรา?

ใช่ครับ ช่วงแรกๆ มันไม่คิดอะไร คิดว่ามีเงินก็เที่ยว กินเหล้า เช้ามาทำงานก็มีเงิน แล้วก็เหมือนเดิม ชีวิตวนอยู่อย่างนี้

กี่ปี?

ตั้งแต่ 18 จนถึงประมาณ 30 กว่า

คืนนึงที่จ่ายทั้งเหล้า ผู้หญิง สูงสุดเท่าไหร่?

ก็หลายหมื่น

ถ้าย้อนเวลาได้?

ก็คงไม่ทำ มันไม่มีประโยชน์ เก็บเงินดีกว่า แต่ว่ามันก็พูดยาก เงินยุคนั้นกับยุคนี้มันก็ต่างกัน ถามว่าตอนนู้นรายได้ดีไหม ดีระดับนึง

แต่มีอยู่พักหนึ่งที่เราไม่เห็นหน้าบนจอทีวีเลย เกิดอะไรขึ้น?

ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน อยู่ๆ ก็ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีอะไร มันก็เคว้ง

เราไม่อยากทำหรือมันไม่มีงานติดต่อเข้ามา?

มันมีแต่มันน้อย จากเมื่อก่อนปีนึงหลายๆ เรื่อง เหลือปีละเรื่อง

เห็นว่าปีนึงเคยถ่าย 10 เรื่อง?

ใช่ครับ เคยได้ปีนึงประมาณ 10 กว่าเรื่อง

ตอนนั้นคิดจะกลับเข้าวงการอีกก็เลยคิดจะถ่ายนู้ด?

ใช่ เพราะมันมีอยู่ช่วงนึง นักแสดงผู้ชายมาถ่ายนู้ดเยอะมาก เราก็เลยคิดว่าจะเอาดีไหม ก็ไปคุยกับช่างภาพกับเจ้าของหนังสือ คุยกันว่าอย่างนี้ดีไหม พยายามฟิตหุ่นละนะ แต่สุดท้ายพอถึงวันถ่ายจริงๆ มันไม่กล้า

ตอนนั้นอายุเท่าไหร่?

ประมาณ 30 ตอนนั้นที่เราวางไว้ไม่ได้เป็นนู้ดจ๋า เรามองเป็นอาร์ตสวยๆ แค่นั้นเองที่เราอยากจะทำ

แล้วอะไรทำให้เปลี่ยนใจ?

ใจเรามันคิดเยอะนะว่าภาพมันจะติดแบบนี้ไปตลอดชีวิตนะ เราก็เลยไม่เอาดีกว่า ก็เลยถอย

แล้วพี่กลับมาในวงการได้ยังไง?

เหมือนกับดวงมั้งครับ ก็เริ่มมีงานกลับมาอีก


ตัดสินใจถูกไหมที่ไม่ได้ถ่าย?

ถามว่าใจก็อยาก แต่ ณ เวลานี้คิดว่าทำถูกแล้ว

จากวิกฤติที่มันเกิดขึ้น ได้รับบทเรียนอะไรบ้าง?

เยอะมากครับ ก็หลังจากที่เกิดวิกฤติต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตก็เหมือนเป็นครู เป็นบทเรียนสอนเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้เวลาทำอะไร เราต้องคิดเยอะเลยว่าทำไปแล้ว ข้อดียังไง ข้อเสียยังไง ตอนนี้คิดเยอะมาก จะทำอะไรต้องมองไปข้างหน้า เราจะมองอยู่กับที่ไม่ได้แล้ว

สาวคนนี้คบมา 10 กว่าปีแล้ว?

10 กว่าปีแล้วครับ เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน เที่ยวอยู่ในกลุ่มด้วยกันนี่แหละ จริงๆ รู้จักกันก่อน 10 กว่าปีด้วยนะระหว่างที่เป็นเพื่อนกัน

แสดงว่าเขารู้จักเวอร์ชันพี่เมื่อก่อนด้วย?

ชัดเจนมาก

แล้วทำไมเขาถึงตัดสินใจเป็นแฟน?

น่าจะเป็นช่วงที่ต่างคนต่างไม่มีใคร พออายุมันเริ่มเยอะ เราก็คุยกัน มองกันแล้วก็เออคุยกันว่าเป็นแฟนกัน

จากเพื่อนมันเริ่มเปลี่ยนความรู้สึกตอนไหน?

จริงๆ มันก็มีการมองกันอยู่แล้ว

ใครขอใครเป็นแฟน?

ผมครับ

แล้วทำไมถึงหยุดเจ้าชู้เพราะคนนี้?

อาจจะถึงจุดที่เราอิ่มตัว เราไปเที่ยวแบบสุดแล้ว ความที่เราพีค ความระยองของเรามันสุดแล้ว เราก็คิดว่ามันก็น่าจะหยุดได้แล้ว พอหลังๆ ไปเที่ยว เราไม่ได้สนุกแบบเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนเราทำอะไร เราทิ้งตัว ให้ทำอะไรทำหมด แต่เดี๋ยวนี้พอถึงจุดด้วยอายุ

รู้สึกว่าพอมาคบกับคุณนกอยากอยู่กับเขามากกว่าอยากไปเที่ยว?

ก็ส่วนหนึ่งแรกๆ คือเรารู้จักกันมานาน พอเป็นแฟนก็อยู่ด้วยกันมานานจนมันกลายเป็นเพื่อน ทีนี่คำว่าเพื่อน คำว่าแฟนมันต่างกัน พออยู่แบบเพื่อนเขาไม่ได้สติ๊กกับเราเยอะ แต่ต้องไม่เลยเส้นว่าคุณได้ประมาณไหน

เห็นว่าไม่คิดจะแต่งงาน?

ไม่แต่งครับ เพราะเคยแต่งไปแล้ว แล้วเราไม่ประสบความสำเร็จกับตรงนั้นเราก็เลยคิดว่าการแต่งงานไม่จำเป็น นี่คือความคิดของผมนะ

ไม่เคยพูดถึงเรื่องความรักที่ไหนเลย?

ใช่ครับ ผมว่าความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่เราอยู่กับเขา ว่าเราดีกับเขาไหม รักเขาไหม เขารักเราไหม คือผมเป็นคนไม่แสดงออกเรื่องความรัก เหมือนกับผมเป็นคนแข็งกระด้าง

แฟนน่ารักยังไง?

เขาเป็นผู้ใหญ่ คือเขาไม่ต้องมาว่า คุณต้อง ก. ข. คือชีวิตคุณเขารู้สันดานอยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง

แล้วเขาโอเคไหมที่จะไม่แต่งงาน?

โอเคครับ


อยากมีลูกกันไหม?

เมื่อก่อนคิดอยากมี แต่พอเลยเลข 5 ไม่อยากมีแล้วครับ

เคยมีเรื่องให้เขาต้องหึงหวงไหม?

มีครับ ช่วงแรกๆ ก็อาจจะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามา มันเป็นเรื่องปกติอยู่ แล้วเขาก็พูดไม่เยอะแค่มอง เราก็โอเคเข้าใจได้

แต่ไม่เคยเปิดตัวนะ?

ไม่เคยเปิดตัวเลย

เขาจะน้อยใจไหม?

ไม่มีเลย

อยากจะบอกอะไรแฟนคุณ?
อยากจะบอกว่าที่อยู่ด้วยกันมาเนี่ย เขาก็ควรจะรู้ว่าผมเป็นคนไม่พูด แต่ถามว่ารักไหม รัก ถามว่าห่วงไหม ห่วงแต่ว่าไม่พูด.
#2951


เอสเอพี (SAP) ประกาศให้บริการลูกค้าในประเทศไทยด้วย SAP Concur เวอร์ชันภาษาไทย สามารถตั้งค่าเป็นภาษาไทยได้แบบอัตโนมัติ รับกับช่องทางติดต่อขอรับบริการจากพาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยได้สะดวกและรวดเร็ว

Fok Wai Leng กรรมการผู้จัดการ SAP Concur ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ประเทศไทยนับเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว โดยในปีที่ผ่านมา หลายบริษัทจำนวนมากได้ปรับกลยุทธ์ด้านธุรกิจให้เป็นระบบดิจิทัล เพื่อรองรับการทำงานของพนักงานในทุกๆ ที่

"ธุรกิจในไทยได้เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง จากการให้พนักงานสามารถทำงานได้จากหลายสถานที่แบบผสมผสาน หลายบริษัทได้ยกเลิกการทำเบิกจ่ายและใบแจ้งหนี้แบบแมนนวล เพื่อเข้าสู่ระบบออนไลน์ เรามีความภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่โซลูชัน SAP Concur และระบบพาร์ตเนอร์ ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น"



สำหรับ SAP Concur เวอร์ชันภาษาไทย ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเป็นภาษาไทยได้แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มของผู้ใช้งาน (UI : User Interface) ส่วนการเบิกจ่าย (Concur Expense) ใบแจ้งหนี้ (Concur Invoice) การเปิดคำร้อง (Concur Request) และการเดินทาง (Concur Travel) ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าในประเทศไทย

รายงานระบุว่า บริษัทเอบีม คอนซัลติ้ง (ABeam Consulting) บริษัทดีลอยต์ (Deloitte) และบริษัทไอเอสเอส คอนซัลติ้ง (ISS Consulting) ได้เข้าร่วม SAP Concur Partner Program เพื่อให้บริการติดตั้งระบบแก่ลูกค้าในประเทศไทยโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การบริการโซลูชันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้เป็นระบบดิจิทัลชั้นนำระดับโลกในด้านการจัดการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และใบเสร็จเบิกจ่ายแบบครบวงจร

SAP Concur เป็นซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับองค์กร จากผลสำรวจล่าสุด Finance in the New World of Work จัดทำโดย SAP Concur พบว่าร้อยละ 40 ของผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการ ผู้บริหารและนักธุรกิจไทย (PMEBs : professionals, managers, executives and businessmen) จำเป็นต้องเคลมค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการกรอกแบบฟอร์ม หรือการแนบใบเสร็จต่างๆ ทำให้รบกวนเวลาการทำงานอย่างมาก โดยผลสำรวจพบว่าร้อยละ 36 ต้องการให้ขั้นตอนการเบิกจ่ายเป็นแบบอัตโนมัติ



นอกจากนี้ จากการให้บริการลูกค้ามากกว่า 700 องค์กรทั่วเอเชีย อเมริกา และยุโรป บริษัทเอบีม คอนซัลติ้ง ได้ทำงานร่วมกับลูกค้าในการตรวจสอบและช่วยแก้ไขปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัล พร้อมทั้งให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานของแต่ละภาคอุตสาหกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี

ตัวอย่างผู้ใช้ SAP Concur คือ บริษัท ดีลอยต์ ประเทศไทย บริษัทวิจัยการเงิน เทคโนโลยี ภาษี และบุคลากร ที่สามารถสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานของลูกค้า ให้ความช่วยเหลือลูกค้าในทุกๆ ด้านด้วยโซลูชัน SAP Concur ตั้งแต่การวางแผนธุรกิจ การติดตั้ง ตลอดจนให้การอบรม บริหารและจัดการแบบบูรณาการ เพื่อให้เข้ากับระบบของลูกค้า รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านภาษี นอกจากนี้ บริษัทดีลอยต์ ประเทศไทย ยังให้การบริการโซลูชัน SAP Concur เวอร์ชันภาษาไทย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยอีกด้วย

ยังมีบริษัท ไอเอสเอส คอนซัลติ้ง เป็นพาร์ตเนอร์ของSAP ระดับแพลทินัม และเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ให้บริการลูกค้าในทุกๆขนาดของธุรกิจใน​ยุคดิจิทัล เช่น การให้คำปรึกษาการเปลี่ยนแปลงไอที ซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมถึงการจัดการแอปพลิเคชันและให้บริการคลาวด์ เป็นต้น
#2952
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2953


วันนี้ยังคงเกาะติดกระแสความสนใจของประชาชน กรณีการแจกเงินเยียวยา แรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th 

เช็คอัพเดทล่าสุด มีการสอบถามกันมากว่า ผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 (ม.33) , มาตรา 39 (ม.39) และมาตรา 40 (ม.40) จะได้รับ "เงินเยียวยาโควิด" เมื่อไหร่ ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านออนไลน์ คลิก 

คำตอบจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ ดังนี้


จ่ายเงินเยียวยา มาตรา 33 

วันที่ 4 - 6 สิงหาคมนี้ จะดำเนินการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ให้กับลูกจ้าง มาตรา 33 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม 10 จังหวัดแรก ใน 9 กิจการ สำหรับลูกจ้าง มาตรา 33 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มอีก 3 จังหวัดที่ประกาศเพิ่มเติม จะดำเนินการโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ต่อไป 

ก่อนหน้านี้ รมว.แรงงาน เปิดเผยให้กลุ่มผู้ประกันตน ม.40 ว่า จะเริ่มต้นจาก สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประชุมร่วมกับคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ กับกระทรวงการคลัง จากนั้นจะมีการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. ในวันอังคารที่ 10 ส.ค. 64 เมื่อผ่านการอนุมัติจากที่ประชุม ครม. ก็จะทำเรื่องส่งกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และโอนมาให้กระทรวงแรงงาน ก่อนจะทำการจ่ายเงินผ่าน "พร้อมเพย์" ที่ผูกกับบัตรประชาชน คาดว่าจะจ่ายได้ประมาณวันที่ 20 ส.ค. เป็นต้นไป

และล่าสุดได้รับคำตอบจาก "สำนักงานประกันสังคม" ว่า ตามประกาศล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. 64


ทั้งนี้ ผู้ประกันตนทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33, มาตรา 39 หรือ มาตรา 40 ต่างก็สามารถ ตรวจสอบสถานะ การเป็นผู้ประกันตนด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านระบบ อีเซอร์วิส ของประกันสังคม ผ่านเว็บไซต์ของประกันสังคม  คลิกที่นี่

หากมีข้อสงสัยสอบถามสายด่วนประกันสังคม 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ คุณสมบัติของ "แรงงานอิสระ" หรือผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" ที่จะสมัครประกันสังคม มาตรา 40 ได้มีดังนี้ 

- มีสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
- แรงงานอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- ไม่เป็นลูกจ้างในบริษัท ห้างร้าน โรงงาน (ม.33)
- ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ  (ม.39)
- ไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- ผู้ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยขึ้นต้นด้วยเลข 0,6,7 (ยกเว้นขึ้นต้นด้วย000)
- ผู้พิการที่รับรู้สิทธิก็สมัครได้

โดยผู้ประกันตน สามารถเลือกจ่ายเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ ที่แตกต่างกัน ดังนี้ 

ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต
ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ
ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร
ทั้งนี้ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก และเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงได้สั่งการให้ลดการจ่ายเงินสมทบ จากเดิมการจ่ายเงินสมทบ สำหรับ ประกันสังคมมาตรา 40 มีด้วยกัน 3 ทางเลือก คือ  70 บาท, 100 บาท และ 300 บาท แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด ได้มีการปรับลดอัตราเงินสมทบ 40% เป็นเวลา 6 เดือน (1 ส.ค.64 - 31 ม.ค.65) เหลือเป็นเงินที่ต้องจ่ายสมทบ คือ 42 บาท, 60 บาท และ 180 บาท ตามลำดับ 

 สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แนะนำการผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา สำหรับผู้ประกันตนและนายจ้างบุคคลธรรมดา ใช้พร้อมเพย์บัตรประชาชนได้ทุกธนาคาร


ที่มา - สำนักงานประกันสังคม 
#2954


สุโขทัย - ใครไปเห็นเป็นต้องทึ่ง..ครูเกษียณ สะสมสารพัดพันธุ์ไม้ผล-ไม้ประดับด่างมา 40 ปี ปลูกไว้เต็มบ้าน ทั้งกล้วย ส้ม ละมุด ฝรั่งด่างทั้งใบและผล มะนาว พริกขี้หนูด่าง ฯลฯ ยันวัชพืชใบด่าง

ขณะที่ "ไม้ด่าง" กำลังอย่ในกระแส-เป็นที่นิยมของผู้คน บางรายมีการซื้อขายกันในราคาสูงถึงหลักแสน-หลักล้าน ล่าสุดครูเกษียณอายุราชการ ได้สะสมพันธุ์ต้นไม้ด่างมานานร่วม 40 ปี มีการเพาะปลูกขยายพันธุ์เก็บไว้สารพัด ทั้งไม้ผล ไม้ประดับ รวมทั้งพืชผักสวนครัว แม้กระทั่งต้นหญ้า และวัชพืชใบด่าง ซึ่งหาชมได้ยาก ก็ยังมีให้เห็นเป็นบุญตาของคนที่ชื่นชอบ

นายจักรกฤษณ์ ทัพบำรุง อายุ 62 ปี อดีตอาจารย์สอนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย อาศัยอยู่ที่บ้านหมู่ 7 ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวชื่นชอบไม้ด่างอยู่แล้ว จึงหาซื้อมาเพาะขยายพันธุ์ สะสมเรื่อยมาตลอด 40 ปี มีทั้งที่กำลังเป็นที่นิยม ราคาหลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน

เช่น กล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโด (อายุ 3 เดือน ต้นละ 50,000 บาท) , กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 (ต้นละ 350,000 บาท) , กล้วยด่างฟลอริด้า (ต้นละ 85,000 บาท) , กล้วยตานีด่าง (อายุ 3 เดือน ต้นละ 7,000 บาท) , บอนกระดาษด่าง (ต้นละ 10,000-20,000 บาท) , บอนกระดาษดำด่าง (ต้นละ 50,000 บาท) , มอนสเตอร่า อัลโบ้ ฮอลแลนด์ (ต้นละ 12,000 บาท) , ฟิโลเดนดรอน หรือก้ามกุ้งด่าง (ต้นละ 15,000 บาท)

นอกจากนี้ ยังมีต้นจั๋งญี่ปุ่นด่าง ต้นกันเกราด่าง ต้นกลายด่าง ต้นละมุดใบด่างเงิน-ด่างทอง ต้นฝรั่งด่างทั้งใบและผล ต้นมะนาวด่าง ต้นส้มเช้งด่างทั้งใบและผล แล้วก็ใบบัวด่าง ต้นพริกขี้หนูด่าง ต้นต้อยติ่งด่าง หญ้ามาเลเซียด่าง และอีกสารพัดไม้ด่าง แถมมีวัชพืชใบด่างที่กลายพันธุ์เองตามธรรมชาติด้วย

นายจักรกฤษณ์ บอกว่า สำหรับกล้วยด่างราคาแพงที่ปลูกไว้ ไม่ได้มีไว้ขาย แต่จะขยายพันธุ์ไว้แลกเปลี่ยนกัน เพื่อการศึกษาเรียนรู้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ แบ่งปันกันแบบคนโบราณ เป็นความสุขของคนที่ชอบเลี้ยงต้นไม้แปลกหายาก สามารถโทรสอบถาม คุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ที่เบอร์ 081-9072247

https:// m.mgronline.com/local/detail/9640000075336
#2955


เจอตอเข้าให้แล้ว "ไวท์" และครอบครัว แถลงข่าวทั้งน้ำตา สุดแค้นใจโดนคู่กรณีลูกชายข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ อย่ามาอ้างว่าป่วยจิต

เป็นเรื่องเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงวัยรุ่น "ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" ออกมาโพสต์เดือด กรณีที่พ่อและแม่ของเจ้าตัวถูกคู่กรณีขับรถปาดหน้า และลงจากรถมาทำร้ายร่างกายกลางถนน โดยคุณพ่อโดนของแข็งตีที่หัว ส่วนคุณแม่ถูกตบหน้าจนหูอื้อ พร้อมกับโยนกระเป๋าของแม่ทิ้ง และโยนกุญแจรถทิ้ง ซึ่งหลังจากก่อเหตุคู่กรณีได้ขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ทั้งยังออกมาโพสต์ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ผิด ท้าให้ไปคุยกันที่ศาล พร้อมกับส่งข้อความไปข่มขู่หนุ่มไวท์ ด่าเป็นดาราอย่าโง่

ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค. 64) หนุ่มไวท์ และคุณพ่อสุระศักดิ์ พุ่มโพธิงาม, คุณแม่นฤมล อริยานุวัฒน์ พร้อมทนายความส่วนตัว "นายไพศาล เรืองฤทธิ์" และ "ทนายพิพัฒน์ รำจวน" ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน สุดงงโดนคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกข้าราชการระดับสูง แต่ขอสู้ตายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ไวท์ พ่อและแม่ ถึงกับร้องไห้ออกมา

พ่อ : "ผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาครับ ตอนผมออกมาจากปั๊มน้ำมันก็เห็นรถเขาออกมา แต่ตอนออกมาเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอออกมาตรงถนนเขาก็ขับมาจี้ตูดรถผม ผมก็ขับหนีเขา ตอนที่อยู่ในอุโมงค์เขาขับจี้รถท้ายผมแบบติดเลย จนภรรยาบอกว่าพอได้แล้วเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ก็ปล่อยให้เขาไป เขาก็ขับตบมาหารถผมเพื่อให้ผมชน ผมก็เลยเบรก"

"พอผมเบรก เขาก็ขับออกไปอีกรอบแล้วไปดักหน้ารถผม แล้วขับตบเข้ามาหารถผมอีกแล้วเบรกเพื่อให้ผมชน พอผมขับรถชนเขา ผมก็ลดกระจกเพื่อจะถามเขา แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาเลย เขาก็ต่อยผม แล้วตรงขมับซ้ายของผมก็เหมือนโดนอะไรแข็งๆ แล้วผมก็ต่อยเขา จนเขาเลือดไหล"

"พอเห็นเขาเลือดไหลผมก็เลยถอยออกมา แล้วก็มีคนมาห้าม ผมก็เลยบอกว่าพอแล้วน้อง น้องเลือดไหลแล้ว ผมไม่ทำน้องแล้ว เขาก็เอะอะโวยวาย เอาเท้าถีบรถผม กระทืบ แล้วก็เอากระเป๋าของภรรยาผมเขวี้ยงทิ้ง แล้วปิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาผม ตอนที่เขาต่อยหน้าผม ผมก็แค้นนะ แต่อย่าไปทำเขา (เสียงสั่น จนไวท์ลูกชายต้องยื่นมือมาจับขาพ่อเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ไวท์และแม่ก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน) ผมก็กลัวไวท์เสียชื่อเสียงด้วย ผมก็เลยหยุดเพราะผมก็ไม่อยากทำเขาอีกแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำผมทำไม ผมไม่ได้ปาดหน้าเขา ไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย เขามาทำแบบนี้กับผมทำไม ผมอยากถามเขาว่า มาทำผมทำไม ผมไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกับเขาเลย ไม่ได้อะไรกับเขาสักอย่างเลยครับ พอเขาตบหน้าผมเขาก็ขับรถออกไป แล้วก็ถอยหลังมาชนรถผมอย่างแรง จนรถเลื่อนไปชนลูกน้องผมจนบริเวณเอวช้ำ แล้วเขาก็หนีเลย ผมก็เลยไปแจ้งความครับ"

"ตอนเขาลงมาจากรถ เขาไม่พูดอะไรเลย เขาต่อยอย่างเดียวเลย เหมือนเขาเป็นคนบ้า ตาเขา... แฟนเขายังบอกช่วยหนูด้วยๆ แฟนเขายังร้องไห้วิ่งหนีไปท้ายรถกระบะที่เห็นในคลิปเลยครับ พอจบแฟนเขาถึงวิ่งกลับมาพอเขาขึ้นรถไป"

พอไปแจ้งความตำรวจว่าไงบ้าง?
พ่อ : "เขาไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ทะเบียนรถเขาเพราะตกใจเลยจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าเจอเขาที่ปั๊มน้ำมันก็เลยขับรถกลับไปที่ปั๊ม เพื่อขอดูคลิปที่ปั๊มก็เลยรู้ทะเบียนรถเขา ตอนที่อยู่ที่ปั๊มผมก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ"

แม่ : "เหตุการณ์ตอนนั้นเขาขับรถมาเบรกเพื่อให้สามีชนรถเขา พอเขาชนเสร็จก็เหมือนที่สามีเล่าเลยค่ะ พอชนเสร็จเขาก็ลงมาจากรถ แล้วสามีก็ลดกระจกรถลง แล้วสามีก็ลงไปจากรถ แต่เรายังอยู่ในรถกับลูกน้อง พอลูกน้องบอกสามีเราโดนต่อย เราก็เลยลงไปจากรถเพื่อไปห้าม ก็บอกให้สามีออกมาเพราะเขาไม่ได้ใส่แมสก์ แล้วเราก็กลัวด้วย เราก็ต้องป้องกันตัวเอง เราก็ดันสามีออกมา คือขวางเลย"

"ก็ถามเขาวว่าพี่ไปทำอะไรให้น้องเหรอ ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้กับพี่ ถ้าเกิดแฟนพี่ทำอะไรไปพี่ขอโทษ แต่เขาไม่ฟังเราเลย เหมือนเขาทำสามีเราไม่ได้ เขาก็ไปคว้าเอากระเป๋าเราที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง พอโยนทิ้งเขาก็มาตบเราเลย เราพยายามบอกว่าพอได้แล้ว เราไม่อยากจะมีเรื่องแล้ว อยู่ดีๆ มาตบเรา ก็งงมากค่ะ ตบแรงจนเราหูอื้อเลยค่ะ อารมณ์เขารุนแรงมาก ตอนนั้นไม่มีการปะทะคารมอะไรกันเลยค่ะ"

พ่อ : "ไม่มีเลยครับ ผมยังงงเลยว่าไปทำอะไรเขา ถ้าผมไปทะเลาะกับเขา ผมยังจะเป็นคนผิด แล้วผมก็ไม่ได้ไปปาดหน้ารถเขา เพราะรถเขาอยู่หลังรถผม เขาขับมาจี้ท้ายรถผมจนเกิดเรื่องครับ ไม่มีชนวนเหตุอะไรเลย ฝากผ่านสื่อด้วยนะครับว่าผมไปทำอะไรให้เขา แล้วเขามาตบหน้าเมียผมทำไม (ร้องไห้) ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายคุณออกมาพูด"

พอได้ทราบเรื่องไวท์รู้สึกยังไง?
ไวท์ : "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ แต่ที่ผมเสียใจมากก็คือคู่กรณีตบแม่ผมครับ แล้วผมเพิ่งทราบครับว่าคู่กรณีคนนี้ได้เอาค้อนตีหัวพ่อผมครับ (ร้องไห้) ผมรู้สึกว่ามันไม่สมควรครับ และผมได้ทราบมาว่า คู่กรณีของพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมครับ ผมกลัวว่าถ้าวันนั้นพ่อและแม่ของผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือผม ผมไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงเพราะผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุตรงนั้น"

"ผมรู้สึกเสียใจมากที่คู่กรณีคนนั้นทำแบบนี้กับครอบครัวผมครับ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผมด้วยครับ (เห็นไวท์บอกว่าขอให้ใครที่มีหลักฐานในวันนั้นส่งมาให้ด้วย?) ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองอยากที่จะโพสต์สิ่งที่พ่อและแม่ผมได้เจอเรื่องราวนั้นมาเพื่อออกสื่อ ในการที่ใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นช่วยส่งคลิปหรือส่งหลักฐานสำคัญมาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไปเพราะว่าผมเสียใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครอบครัวผมครับ"

คู่กรณีอ้างว่า รู้จักไวท์ด้วย
ไวท์ : "พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่รู้ครับ และผมก็ไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยครับ แล้วเขามาพูดว่าเขารู้จักเพื่อนผม อันนี้ผมรู้สึกว่า... คือเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับครอบครัวใครก็ได้แบบนี้ครับ"

มีคนส่งหลักฐานมาให้บ้างรึยัง?
พ่อ : "มีคนส่งมาให้แล้วครับ แต่เราขอปิดไว้ก่อนครับ"

พอไวท์เห็นภาพหลักฐานที่คนส่งมาให้ ไวท์รู้สึกยังไงบ้าง?
ไวท์ : "ผมเข้าใจครับว่า คุณพ่อผมและคู่กรณีคนนี้เขาอาจจะรู้สึกว่าบนท้องถนน อาจจะผิดทั้งคู่ในการที่ขับรถประมาทในระดับนึง แต่อย่างที่คุณพ่อผมบอกว่าไม่ได้ไปหาเรื่องเขา แล้วในเหตุการณ์ที่คุณแม่ผมโดนตบ คุณแม่ผมแค่จะเข้าไปห้ามเขา แต่ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายคู่กรณี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่ผมจะต้องโดนตบครับ แล้วเขายังมาทำลายข้าวของในรถ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า และกุญแจรถด้วยครับ"

คู่กรณีไปคอมเมนต์ด้วยว่าเรื่องจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันหนังคนละม้วน เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ด้านทนายยอมรับว่ารู้สึกกังวลเพราะพ่อของคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม
ทนายไพศาล : "เบื้องต้นทางทีมทนายเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ผมทราบจากข่าวว่าคู่กรณีเคยมีข่าวเรื่องการทำร้ายพนักงานร้านโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และทราบมาว่าเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทีมทนายเราก็มีความกังวลในเรื่องของการทำคดี เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน"

"แต่ยังไงก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์บนท้องถนนครับ เพราะว่าพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ยำเกรงกฏหมายเลย มีการจงใจขับรถหวาดเสียว ปาดหน้า แล้วถอยหลังมาให้ชน ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดเราจะไปพิสูจน์กันในศาล (หลักฐานที่เรามีเรามั่นใจมั้ยว่าจะชนะคดี?) ก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินครับ ต้องอธิบายแบบนี้ว่า จากที่ทราบในข่าวทางคู่กรณีมีการกระทำผิดหลายครั้งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะมั่นใจ แต่ในทางเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และเราเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเขาจะต้องได้รับการลงโทษ อันนี้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลตามพยานหลักฐาน ทางผู้เสียหายยืนยันแล้วว่าดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน"

"เบื้องต้นเราได้ข้อมูลมาว่ามีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายด้วย ซึ่งสามารถเล็งเห็นได้ว่าเขาประสงค์ให้มีการบาดเจ็บสาหัส หรือประสบถึงชีวิต ซึ่งในข้อกว่าหาตรงนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนครับ แต่ข้อกล่าวหาหลักๆ เลยคือทำร้ายร่างกายคุณแม่ และการขับรถประมาทหวาดเสียว"

ข้อกล่าวหาทั้งหมดโทษหนักแค่ไหน?
ทนายไพศาล : "ข้อกล่าวหาที่คุณทนายแจ้งไปนั้นยังเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่หนัก แต่ข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่มีการใช้ค้อนในการตีไปที่อวัยวะสำคัญ มันเป็นข้อหาหนักแต่ขอยังไม่บอก เดี๋ยวขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งพฤติการณ์พฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมือง คือไม่สำนึก แล้วทราบจากข่าวคู่กรณีเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของคดีว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมไหม"

คู่กรณีอ้างป่วย
"แล้วที่ผมทราบจากข่าวเขาอ้างตนว่าป่วย แต่ในตอนที่เกิดเหตุมีสติพูดรู้เรื่องหมดนะ ฉะนั้นมันอ้างไม่ได้ มันฟังงไม่ขึ้นนะครับ หลังเสร็จรูปคดีทางนี้จะแถลงข่าวอีกครั้งครับ แต่คดีนี้มีโทษหนักแน่นอน เพราะอาวุธที่ใช้ตีไปที่อวัยวะสำคัญด้วย ประสงค์ต่อผลเลยนะครับ อาจจะถึงชีวิตเลย แล้วทราบจากข่าวว่าเขาเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว และมีการยอมรับผิดแล้ว และมีการให้ข่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังทำอีกนะครับ พฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกไม่ยำเกรงกฎหมาย แล้วยังเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงด้วย เดี๋ยวต้องพิสูจน์กันในศาลครับ"

"ก็ต้องฝากสื่อให้ช่วยติดตามครับ ผมขอยกตัวอย่างไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้ามีบุคคลยกตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนรวย แล้วจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ผมถามกลับนักข่าวว่ามันทำได้หรือไม่ มันถูกต้องไหม สังคมจะอยู่ยังไง ความสงบเรียบร้อยในสังคมจะเกิดยังไง"

"อีกประเด็นนึง ถ้ามีการกล่าวอ้างว่าป่วย มีบัตรจิตเวช มีการได้รับการรักษา แล้วปล่อยปละให้ออกมาทำแบบนี้ในสังคม ไปทำคนอื่น แล้วเราจะอยู่กันยังไงครับ คนป่วยต้องได้รับการรักษานะครับ ต้องมีผู้ดูแลนะครับ ผมสมมตินะครับว่าถ้าเขาไปโดนคนอื่นทำร้ายจนถึงตาย โดนกระทืบตายข้างถนน แล้วผู้ดูแลเขาจะไม่เสียใจเหรอครับ ฉะนั้น ผมอยากให้ดูแลพาไปรักษาครับ แต่อันนี้มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นในส่วนของรูปคดี เพราะการกระทำมีสติ พูดรู้เรื่องทุกอย่างนะครับ"

หลังจากที่ไวท์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คู่กรณีก็ไดเรกแมสเสจมาหา
ไวท์ : "หลังจากที่ข่าวลงไป เขาได้ส่งไดเรกแมสเสจมาหาผม และได้เข้ามาโพสต์ไอจีผมต่างๆ นานา ผมก็กลัวครับ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูงก็ยิ่งกลัวครับ เขาก็ส่งข้อความมาว่า เป็นดาราอย่าโง่ มึงคิดว่าพ่อแม่มึงถูกมากใช่ไหม ไปคุยกันในชั้นศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ เขาก็ขู่ในทำนองนั้นครับ (ไวท์รู้สึกว่าข้อความที่เขาส่งมาส่วนตัวเป็นการข่มขู่เรา?) ใช่ครับ"

ทนายไพศาล : "ทางครอบครัวกลัวมากนะ เขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูง หนึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม สองกลัวรูปคดีไม่เป็นข้อเท็จจริง วันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จทางทีมทนายจะพาผู้เสียหายไปให้การเพิ่มเติมที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุครับ อยากให้สื่อมวลชนสร้างบรรทัดฐานให้สังคมครับ ยอมรับว่าทางทีมทนายก็กังวล มันอาจจะมีผล แต่เหนืออื่นใดคือข้อเท็จจริงครับ ความจริงก็คือความจริงครับ อยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยจับตาดูคดีนี้ว่าจะจบยังไง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว"

ไม่ขอไกล่เกลี่ย เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ่อ : "ไม่ครับ ผมจะทำให้เขารู้ว่าอย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะผมเห็นเขาทำกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้ว ผมอยากจะฝากบอกเขาว่าออกมาพูดความจริง แล้วคุณทำผมเพื่ออะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรคุณเลย ผมอยากจะถามเขาว่าคุณมาทำผมทำไม แค่นี้เองครับ (ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?) ครับ"

ไวท์ : "เขาทะเลาะกับพ่อผม ผมเข้าใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือเขาตบแม่ผม ผมเสียใจมากและผมจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดครับ (อยากบอกอะไรเขา?) อย่างที่คุณบอกกับพี่นักข่าวเมื่อวานว่า ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้คือพ่อแม่ของผมแล้วคุณจะไม่ทำ มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น คุณก็ไม่สมควรทำครับ"
 
#2956


ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังร่วงลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันสถานการณ์โควิด -19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตขยับขึ้นสูง การฉีดวัคซีนยังล่าช้า การบังคับใช้มาตราการเข้มข้นยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้หุ้นหลายกลุ่มทรุดหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่หลายตัวทำราคา NEW LOW ในรอบปี 64 และอีกหลายตัวทำราคาลงมาใกล้เคียงกับ NEW LOW ในปี 63 อีกด้วย

1.PTT (บมจ.ปตท.) มาร์เกตแคป 992,564 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 34.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 45.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 44.50 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 23.20 บาท แล้วไปปิดที่ 28.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 47.75 บาท ก่อนปิดที่ 46.75 บาท (8 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 34.75 บาท เหลืออัพไซด์ 41.73% จากราคาเป้าหมาย 49.25 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลา โดย 5 วัน -3.47%, 20 วัน -11.46%, 60 วัน -13.12%, 120 วัน -7.95%, และ YTD -18.24%

2.OR (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก) มาร์เกตแคป 333,000ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 27.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้ เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 36.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 34.00 บาทในวันที่ 15 ก.พ.64

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 27.75 บาท เหลืออัพไซด์ 3.42% จากราคาเป้าหมาย 28.70 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -2.63%, 20 วัน -9.02%, 60 วัน -9.02% ส่วนถ้าเทียบจากราคา IPO ที่ 18.00 บาท ล่าสุด 27.75 บาท บวก 9.75 บาท หรือ +54.17%

3.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 89,761 ล้านบาท ล่าสุด (30 ก.ค. 64) ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 44.00 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 66.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 64.25 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 25.25 บาท แล้วไปปิดที่ 27.50 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 73.50 บาท ก่อนปิดที่ 70.00 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 44.00 บาท เหลืออัพไซด์ 44.32% จากราคาเป้าหมาย 63.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -6.88%, 20 วัน -19.27%, 60 วัน -25.74%,120 วัน -19.27%, YTD -15.38%

4.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 102,972 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 39.00 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 39.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 56.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 55.25 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 27.25 บาท แล้วไปปิดที่ 36.25 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 69.25 บาท ก่อนปิดที่ 65.00 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 39.50 บาท เหลืออัพไซด์ 35.44% จากราคาเป้าหมาย 53.50 บาท อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -4.24%, 20 วัน -5.95%, 60 วัน -7.60%, 120 วัน -22.55%, YTD -18.56%

5.RATCH (บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) มาร์เกตแคป 61,625 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.25บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 42.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 57.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 54.00 บาทในวันที่ 6 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 39.50 บาท แล้วไปปิดที่ 50.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 76.50 บาท ก่อนปิดที่ 74.50 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 42.50 บาท เหลืออัพไซด์ 11.50% จากราคาเป้าหมาย 54.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน 20 วัน -7.10%, 60 วัน -15.84%, 120 วัน -14.14%, YTD -19.81%

6.PTG (บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี) มาร์เกตแคป 26,219 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 15.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 15.70 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 21.90 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 20.80 บาทในวันที่ 9 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 8.95 บาท แล้วไปปิดที่ 9.10 บาท 26 มี.ค.63 ส่วนสูงสุดทำได้ 19.30 บาท ก่อนปิดที่ 18.40 บาท (22 ก.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 15.70 บาท เหลืออัพไซด์ 46.50% จากราคาเป้าหมาย 23.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -5.42%, 20 วัน -15.14%, 60 วัน -21.89%, 120 วัน -8.72%,YTD -1.26%

7.ESSO (บมจ.เอสโซ่) มาร์เกตแคป 25,264 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 7.20 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆปิดที่ 7.30 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 9.40 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 9.05 บาทในวันที่ 16 ก.พ.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 3.14 บาท แล้วไปปิดที่ 3.36 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 9.70 บาท ก่อนปิดที่ 8.90 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 7.30 บาท เหลืออัพไซด์ 7.12% จากราคาเป้าหมาย 7.82 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -1.35%, 20 วัน -11.52%, 60 วัน -14.62%, 120 วัน -12.57%, YTD -1.35%

8.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 90,025 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 171.00 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุด 168.50 บาท (24 พ.ค.) ส่วนสูงสุดปีนี้คือ 213.00 บาท (6 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 161.00 บาท แล้วไปปิดที่ 210.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 350.00 บาท ก่อนปิดที่ 342.00 บาท (15 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 171.00 บาท เหลืออัพไซด์ 78.07% จากราคาเป้าหมาย 304.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน +0.59%, 20 วัน -2.29%, 60 วัน -3.12%, 120 วัน -4.20%, YTD -11.17%

9.TTW (บมจ.ทีทีดับบลิว) มาร์เกตแคป 46,284 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 11.60 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุดระหว่างวัน 11.40 บาท แล้วไปปิดที่11.50 บาท (6 พ.ค.64) และเคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 12.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 12.30 บาท (11 ม.ค.64) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 11.00 บาท แล้วไปปิดที่ 11.30 บาท (17 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 14.70 บาท ก่อนปิดที่ 14.30 บาท (19 ก.พ.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 11.60 บาท เหลืออัพไซด์ 20.69% จากราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.85%, 20 วัน -0.85%, 60 วัน 0.00%, 120 วัน -4.92%, YTD -6.45%

10.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 393,060 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 33.50 บาท ซึ่งราคาตำสุดของปีนี้ 31.00 บาท (19 เม.ย.) ห่างจากต่ำสุด 2.50 บาท ก็จะเป็น NEW LOW ในรอบปี 64 ส่วนปีนี้เคยทำราคาสูงสุด 38.00 บาท (8 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 22.35 บาท แล้วไปปิดที่ 26.79 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 41.03 บาท ก่อนปิดที่ 38.81 บาท (21 พ.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 33.50 บาท เหลืออัพไซด์ 26.33% จากราคาเป้าหมาย 42.32 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.74%, 20 วัน -2.19%, 60 วัน -2.90%, 120 วัน 0.00%, YTD -2.19%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีสตอรี่และเป็นที่นิยมของนักลงทุนกันมาก แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 รอบนี้ จึงถูกถูกกดดันหนัก จึงน่าจับตาว่า จะลงไปถึงจุดต่ำสุดเท่าไร และเมื่อไรกัน?

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075283
#2957


เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ (วันที่ 29 ก.ค.) ของทุกปี จะมีการพิจารณามอบรางวัลเพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย สำหรับปีนี้ ผลงานเพลงของค่าย "รถไฟดนตรี" ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงเพื่อชีวิตชาย ได้แก่ ศิลปิน รอน อรัณย์ จากเพลง "รักคนอื่นไม่ได้เลย"

ทั้งนี้ รอนได้กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า "รู้สึกภูมิใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ครับ รางวัลเพชรในเพลงเป็นรางวัลที่มาจากการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง สวยงาม เรามาร่วมกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องกัน รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ ผมขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรม ขอบคุณคณะกรรมการผู้เกี่ยวข้อง ขอบคุณรถไฟดนตรีที่ให้โอกาสสร้างงาน และมอบโอกาสให้ผมได้เป็นผู้ถ่ายทอดเพลง "รักคนอื่นไม่ได้เลย" จนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ครับ" ติดตามอัปเดตข่าวสาร-เพลงใหม่ ศิลปินรถไฟดนตรีได้ทางยูทูบ : MUSIC TRAIN OFFICIAL เฟซบุ๊ก : รถไฟดนตรี ค่ายเพลง แฟนเพจ : รถไฟดนตรี.
#2958



ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ว่า หากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นตามระดับข้างต้น จำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันผลสะสมทั่วโลกจะพุ่งสูงเกิน 200 ล้านราย

"นับตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดอาจทะลุ 200 ล้านรายภายใน 2 สัปดาห์ และนั่นก็อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง" ดร.ทีโดรส กล่าว

การติดเชื้อโควิดโดยเฉลี่ยใน 5 จากทั้งหมด 6 ภูมิภาคเพิ่มขึ้น 80% หรือเกือบ 2 เท่าในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในแอฟริกา ก็เพิ่มขึ้นในระดับเดียวกันนี้ด้วย

ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนมากเป็นผลจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่าย และถูกตรวจพบว่าแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในประเทศต่างๆ อย่างน้อย 132 แห่งแล้ว


ดร.ทีโดรส กล่าวอีกว่า เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 เปลี่ยนแปลงตัวเองเรื่อยมานับตั้งแต่มีรายงานครั้งแรก และยังคงเปลี่ยนแปลงต่อไป 

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ปัจจุบันมีการกำหนดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล จำนวน 4 สายพันธุ์ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นตราบเท่าที่เชื้อไวรัสยังคงแพร่กระจาย นอกจากนี้ การติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการรวมกลุ่มทางสังคมและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับการบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุข และสังคม

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952163
#2959


"พี่เช Teen Club" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 7 สาววงไอดอลกรุ๊ป "PSYCHE" (ไซคี) ที่เพิ่งปล่อยเพลงซิงเกิ้ลแรก "CUPID" ออกมากระชากใจเหล่าแฟนคลับด้วยเสียงหวาน ๆ ปนเท่ ในสไตล์เพลงป๊อปฟังง่าย

ทั้ง 7 สาว "ถุงแป้ง-บีม-เฟิร์น-มายด์-จีจี้-เมี่ยวหลิง-สมายด์" เล่าให้ฟังว่า เพลง CUPID พูดถึงการแอบรักที่ไม่ยอมบอกเขาสักที ได้แต่หนีไปหาหมอดู แถมในเพลงยังชี้เป้าจุดขอพรความรักทั้งไทยและเทศ สำหรับคนโสดที่อยากหาคู่ หรือคนที่อยากสมหวังในความรัก ห้ามพลาดเพลงนี้โดยเด็ดขาด

ไปฟังสาว ๆ พูดถึงเพลง CUPID กันเลย

ถุงแป้ง


"สวัสดีค่ะ ถุงแป้งนะคะ ก่อนอื่นก็ฝากไปฟังเพลง CUPID กันเยอะ ๆ เลยย ถ้าชอบก็บอกต่อกันด้วยนะงับ หนูตั้งใจมาก ๆ ถึงจะมีอุปสรรคไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีเลย หนูได้ถ่าย vlog บรรยากาศวันอัดเพลงไว้ด้วย ถ้าทำเสร็จแล้วมาดูกันนะคะว่าจะสนุกกันขนาดไหนนน สุดท้ายนี้ฝากเพลง Cupid เดบิวต์ซิงเกิ้ลของพวกเราไว้ในใจทุกคนด้วยนะคะ มันดีมากจริง ๆ นะ55555 ในอนาคตก็จะมีผลงานใหม่ ๆ เพลงใหม่ ๆ ให้ติดตามเรื่อย ๆ แน่นอน ทุกคนจะไม่ผิดหวังงงง (สามารถฟังได้ในสตรีมด้วยน้า)"

บีม


"สวัสดีค่ะ บีมจากวงไซคีค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่านี่เป็นเพลงแรกในชีวิตบีมเลยค่ะ รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ๆ หลังจากที่ได้ฟัง Backing Track และอ่านเนื้อเพลงครั้งแรกต้องร้อง...ว้าวว!! ออกมาเลย คือเพลงน่ารักมากก ๆ บีมชอบความหมายของเพลงมากค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ทุกคนต้องประสบกับปัญหานี้เลย อยากรู้ใช่ไหมคะว่ายังไง? ต้องไปฟังกันแล้วค่ะ! เพลงชื่อว่า Cupid เป็น Debut Single ของพวกเราเย้!  ที่ขาดไม่ได้เลย ต้องขอบคุณพี่ Sound engineer พี่ ๆ ทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดเพลงนี้ออกมาให้ทุกคนได้ฟังกัน และพี่ ๆ น้อง ๆ ในวงทุกคนเลยนะคะ พวกเราพยายามกันเต็มที่มาก ๆ หวังว่าทุกคนจะชอบและ support พวกเราไปนาน ๆ เลยนะคะ"

เฟิร์น


"จริง ๆ แล้ว เฟิร์นรู้สึกว่าตัวเองร้องเพลงไม่เก่งเอามาก ๆ พอเป็นเพลงแรกเลยรู้สึกกดดันแบบสุด ๆ เลยค่ะ เพราะอยากจะให้มันออกมาดีที่สุดสมกับที่รอคอยกันมา บรรยากาศในห้องอัดตอนแรกเลยค่อนข้างใหม่ ตื่นเต้น และกดดันตัวเองนิดนึง แต่ว่าทั้งพี่ sound engineer ทั้งเพื่อน ๆ ในวงช่วยกัน Ice breaking เลยผ่อนคลายลงไปมาก ๆ แล้วก็สนุกมาก ๆ เลย ฝาก 1st Debut Single ของไซคีด้วยนะคะ ตั้งใจมาก ๆๆ ตั้งใจกว่านี้ไม่ได้แล้ว 5555 ฟังเพลงให้ enjoy นะคะ เพลงสนุกสนานและสดใสมาก ๆ หวังว่าจะได้ขึ้นสเตจพร้อมกับเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ทุกคนรอคอยค่ะ ระหว่างนี้ก็ปั่นวิววนไปปป ฟังบ่อย ๆ จนร้องท่อนแร็พได้เลยนะ หนูตั้งใจแร็พสุด ๆ"

มายด์


"สวัสดีค่ะ มายด์ นะคะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนเพลงของพวกเรา Psyche นะคะ พวกเราก็เป็นวงไอดอลน้องใหม่เล็ก ๆ ที่อยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ อย่างเต็มที่ และสร้างผลงานให้กับทุกคน เพลงนี้ก็เป็นเพลงเดบิวต์แรกของพวกเรา เป็นครั้งแรกของมายด์ที่ได้เข้าห้องอัดด้วยค่ะ และเป็นคนแรกที่ได้อัดด้วย ตื่นเต้นมากก ใจนี่ดังตุ๊บ ๆ แต่ก็ผ่านไปได้ เพราะพี่ ๆ ให้กำลังใจกัน รวมถึงพี่ ๆ ที่ studio ด้วยค่ะ และผลงานก็ออกมาเป็นที่พอใจ ปลื้มปริ่มมาก ๆ เลยค่ะ ขอขอบคุณทุก ๆ คนอีกครั้งนะคะ รวมถึงแฟนคลับที่ติดตามเรามาตั้งแต่แรก ถ้าพวกเราไม่มีแฟนคลับและทุกคน เพลงนี้ก็คงไม่สามารถออกมาให้ทุกคนได้ฟังแบบนี้ สุดท้ายนี้ ขอฝากเพลง Cupid ของพวกเรา Psyche นะคะ มาเสี่ยงดวงกันเถอะ!"

จีจี้


"สวัสดีค่าา จี้จากวงไซคี นะคะ ตอนนี้พวกเราไซคี ก็เพิ่งปล่อย Debut Single-Cupid ออกมานะคะ! เพลงนี้ถือเป็นครั้งแรกของจี้เลยที่ได้เข้าห้องอัดค่ะ ซึ่งวันที่เข้าไปห้องอัดเพลง สำหรับจี้นะ บอกเลยว่า ทั้งสนุก ตื่นเต้น และกดดันมาก ๆๆๆๆๆๆ
หนูต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ในวง พี่โปรดิวเซอร์ และพี่ ๆ Sound Engineer ทุกคนที่คอยช่วย คอยผลักดัน คอยสนับสนุน และให้กำลังใจทุก ๆ อย่าง ทำให้เราอัดเพลงนี้ออกมากันได้สมบูรณ์แบบที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี และแฮปปี้มาก ๆ ค่ะ ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ติดตามจี้ และ พวกเราไซคีนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามเพลง Cupid-Debut Single ของพวกเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบ และร้องเพลงของเราได้แบบขึ้นใจในเร็ววันนี้ค่าาา"

เมี่ยวหลิง


"สวัสดีค่า เมี่ยวหลิงนะคะ เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับเพลงเดบิวต์ของพวกเรา หลิงต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยนะคะ ที่คอยสนับสนุน เป็นกำลังใจให้พวกเรามาตลอดจนถึงวันนี้ ผลงานเพลงแรกนี้ พวกเรา Psyche ตั้งใจแล้วก็พยายามทำกันมาก ๆ เลยค่ะ เป็นเพลงน่ารัก ๆ แนวสดใส ฟังแล้วใจฟูยิ่งกว่าก้อนเมฆ น่าจะถูกใจคนที่กำลังมีความรักแน่เลย หวังว่าจะได้เจอทุกคน แล้วก็ได้ขึ้น Stage Performance เร็ว ๆ นี้หลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้นนะคะ สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ยังไม่ได้ฟังเพลง Cupid นะคะ สามารถเข้าไปฟังได้ใน youtube, Apple music, Spotify, Joox, Deezer เลยค่า แล้วก็ฝากติดตามวงไอดอลน้องใหม่ Psyche ของเรากันด้วยนะคะ เดี๋ยวจะมีผลงานใหม่ ๆ ออกมาให้ฟังกันอีกแน่นอนค่า"

สมายด์


"สวัสดีค่ะ สมายด์ไซคีค่ะ เจ้าเด็กน้อยเองงับ ก่อนอื่นเลย ปกติแล้วสมายด์เองเข้าห้องอัดเพลงบ่อยอยู่แล้วค่ะ แต่พอมาเป็นเพลงนี้ต้องร้องกับพี่ ๆ แล้วก็เป็นเพลงเดบิวต์ อยากจะบอกว่าตอนแรกเนี่ยกดดันตัวเองมากค่ะ เพราะเราเป็นคนรู้สึกว่าเนื้อเสียงเราแตกต่างจากพี่ ๆ มาก กลัวจะออกมาไม่ดี แต่พอไปถึงห้องอัด มีกำลังใจมากขึ้น พี่ ๆ คอยให้กำลังใจ และก็มีความสุขกับการอัดเพลงมาก ๆ ค่ะ ก็ต้องขอบคุณพี่ทุกคนเลย ทั้งพี่ Producer พี่ ๆ Sound engineer และพี่ ๆ ในวง PSYCHE ที่น่ารักทุกคนเลยนะค้าบ และก็ขอบคุณแฟนคลับหลาย ๆ คนที่ค่อยซัพพอร์ตด้วยนะค้าบ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ฟัง ต้องไปฟังแล้วนะ เพลง CUPID ของพวกเรา PSYCHE ด้วยนะค้าบ ก็อยากจะให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ มาฟังกันเยอะ ๆ ฝากติดตามพวกเราด้วยนะค้าบบบ"

ไปฟังเพลง CUPID กันเลย...


ไปทำความรู้จักสาว ๆ PSYCHE กันให้มากขึ้น
 Thoongpaeng Psyche (ถุงแป้ง)
สีประจำตัว : สีเหลือง
เกิดวันที่ 30.12
IG : @Thoongpaeng.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/Thoongpaeng.psycheofficial/

 Beam Psyche (บีม)
สีประจำตัว : สีส้ม
เกิดวันที่ 10.10
IG : @Beam.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/Beampsycheofficial-107217418100686/

 Phern Psyche (เฟิร์น)
สีประจำตัว : สีชมพู
เกิดวันที่ 22.12
IG : @Phern.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/Phernpsycheofficial-105148988283015/

 Mind Psyche (มายด์)
สีประจำตัว : สีฟ้า
เกิดวันที่ 21.10
IG : @Mind.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/Mindpsycheofficial-100602602078490

 Jiejyy Psyche (จีจี้)
สีประจำตัว : สีน้ำตาล
เกิดวันที่ 03.09
IG : @Jiejyy.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/jiejyy.psycheofficial

 Miaolhing Psyche (เมี่ยวหลิง)
สีประจำตัว : สีดำ
เกิดวันที่ 11.07
IG : @Miaolhing.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/ml.psycheofficial

 Smile Psyche (สมายด์)
สีประจำตัว : สีแดง
เกิดวันที่ 21.12
IG : @Smile.PsycheOfficial
FB Page : https:// www.facebook.com/Smilepsycheofficial-102138322070977
 
#2960



ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้ บรรยากาศลงทุน 'ตลาดหุ้น-ทองคำ' ที่นิยามสัปดาห์หน้า 'หุ้นร่วง & ทองคำพุ่ง' หลังปัจจัยโควิด-19 กลับมากดดันอีกครั้ง บ่งชี้ผ่านตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นทั้งในและตปท.
๐ บรรยากาศลงทุนใน 'ตลาดหุ้นไทย' รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ้นไทยถูก 'กดดัน' จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลักหมื่นรายต่อวันต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ 1,530 จุด ! โดยเคลื่อนไหวมาปิดตลาด (30 ก.ค.) ดัชนี SET Index ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,521.92 จุด ปรับลง15.85 จุด หรือคิดเป็น 1.03% มูลค่าซื้อขายรวมทิ้งสิ้น 87,717.66 ล้านบาท

๐ ดังนั้น ในรอบสัปดาห์หน้า (วันที่ 2-6 ส.ค.) ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหว 'ผันผวน' ต่อเนื่อง แต่ที่ต้องลุ้นและติดตามใกล้ชิดท่าทีรัฐบาลจะมีมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมหรือไม่ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดยังแนวโน้มสูงขึ้น เรียกว่าปัจจัยดังกล่าวกำลังส่งผลกดดันตัวเลข 'จีดีพี' ปีนี้ และกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสปรับตัว 'ลดลง' ทำให้เม็ดเงินต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลออกต่อเนื่อง...

๐ ฟากสินทรัพย์เสี่ยต่ำอย่าง 'ทองคำ' มีทิศทางกลับสดใส 'กูรู' ประเมินหลังปัจจัยบวกหนุนเพียบทั้งธนาคารกลาง (เฟด) ไม่รีบไม่ร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย- จีดีพีสหรัฐฯ แย่กว่าคาดการณ์-สกุลเงินดอลล์อ่อนค่า-โควิด-19 กลับมาระบาดหนักในสหรัฐฯ และทั่วโลกอีกครั้ง ด้าน YLG ลุ้นหากราคาผ่าน 1,833 ดอลลาร์ได้จะทะยานสู่ 1,872 ดอลลาร์ แนะหาจังหวะเก็บแถวแนวรับ 1,815-1,830 เหรียญ ส่วนทองคำในไทยมีลุ้นเห็น 29,150 บาท !!

 
๐ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทในเครือ ปตท. รายล่าสุด บมจ. ไทยออยล์ หรือ TOP ประกาศปิดดีลซื้อกิจการระดับ 'หมื่นล้าน' การเข้าซื้อหุ้น 15.38% ใน 'PT. Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP)' ธุรกิจปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียและอาเซียน ด้วยวงเงินลงทุน 39,116 ล้านบาท โดยมีแผนระดมเงินลงทุนทั้งจากการขายหุ้น GPSC กู้เงินจาก PTT และมีแผนเพิ่มทุน ส่งผลให้ราคาหุ้น TOP เมื่อวันศุกร์ร่วงแรง 8.51% หลังนักลงทุนกังวลแผนเพิ่มทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมเงินซื้อหุ้น

๐ เป็นช่วงกอบโกยจริงๆ ของ บมจ. เอ็กโซติค ฟู้ด หรือ XO ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรส น้ำจิ้ม รวมทั้ง เครื่องแกง เครื่องประกอบอาหารไทย 'จิตติพร จันทรัช' นายใหญ่ XO แย้มสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 2 ปี 64 ผลงานผ่านฉลุยจากการขยายตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีออเดอร์ในมือที่รอส่งมอบราว 450 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถส่งออกได้ตามแผน สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี 

๐ 'นายใหญ่XO' บอกว่า แม้ระหว่างทางประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่ปัจจุบันบริษัทได้ตู้ครบถ้วนและส่งออกได้ตามแผนแล้ว สนับสนุนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานจะสามารถทำ All Time High ตามเป้าหมายได้อีกครั้ง !! ทั้งนี้ จากทิศทางครึ่งปีแรกอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็มีโอกาสเสนอที่ประชุมบอร์ดพิจารณาการจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราที่สูงต่อเนื่อง

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952057