• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#2961



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#2962



ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง 2021 พร้อมเผยถึงความก้าวล้ำของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ชี้ให้เห็นชัดว่ารูปแบบใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

งาน Samsung Galaxy Unpacked เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา ดร. ทีเอ็ม โรห์ ได้นำเสนอกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมาร์ทโฟนอันทรงประสิทธิภาพแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องการเทคโนโลยีที่ดีเพื่อการดำเนินชีวิตที่สะดวกและง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมองหาอิสรภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอันแข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เคย และเชื่อว่าการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) จะเป็นทางเดียวที่จะเร่งกระบวนการการสร้างนวัตกรรม ให้ผู้คนมีอิสระในการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด


ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิม โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง


"ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกท่านจะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง" ดร.ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

เปิดประตูสู่โลกใหม่ด้วยซัมซุง กาแลคซี่

เขา บอกว่า โลกในปัจจุบันต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายและง่ายดายยิ่งขึ้น "ผู้คน" คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ เรารับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าดีไวซ์รุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมที่มีความหมาย และเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น กล้องระดับมืออาชีพ หน้าจอที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้กระทั่งระบบการรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นได้ว่า ซัมซุงมุ่งเน้นที่จะมอบสิ่งที่ผู้คนต้องการอย่างแท้จริง

ระหว่างทางของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ค้นพบมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ อย่าง Samsung Galaxy Fold โดยหลังจากการส่งรุ่นแรกสู่ตลาด เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ทุกคนคงได้เห็นใน Galaxy Z Fold2 และ Galaxy Z Flip ที่มาพร้อมจำนวนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงฟีเจอร์อันหลากหลายที่ผู้ใช้รักและชื่นชอบ โดยทางซัมซุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุงในเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง (Multitasking) ที่มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

ดินหน้าขยายพันธมิตรเพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์

การร่วมมือกับพันธมิตร คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในโลกแห่งการเชื่อมต่อที่หลายคนมองหาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย สำหรับซัมซุงแล้ว นโยบาย "การเปิดกว้าง" และ "ความปลอดภัย" เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ

การจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google และ Microsoft ช่วยให้สามารถส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้งานในโลกที่เชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงยังคงเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัย เพื่อทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์และข้อมูลของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการแอปพลิเคชัน ข้อมูล และความเป็นส่วนตัว เพื่อออกแบบประสบการณ์ในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

การได้ร่วมงานกับพันธมิตร ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลทฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งนอกจากแอปพลิเคชันที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Samsung Health และ SmartThings แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายบน Google Play Store อีกทั้งอินเทอร์เฟซบนหน้าปัดของ One UI Watch ใหม่นี้ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างกาแลคซี่วอทช์และสมาร์ทโฟนซัมซุง

ที่สำคัญ เรายังร่วมงานกับ Google เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ด้วยแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยม ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Z เจเนอเรชันที่ 3 เราได้รวบรวมแอพพลิเคชันมากมายจากเหล่าพันธมิตรที่จะช่วยดึงประสิทธิภาพอันรอบด้านของรูปทรงสมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Duo การดูวิดีโอด้วย Flex Mode บน YouTube หรือการมัลติทาส์กกิ้งใน Microsoft Teams เพื่อผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่เหนือชั้นและราบรื่นกว่าที่เคย

ยุคใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold ที่กำลังจะเผยโฉมในครั้งนี้ ได้ผสานสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง พลิกโฉมรูปแบบการทำงาน การเชื่อมต่อสื่อสาร และการสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมดีไซน์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันและทนทาน ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เราเชื่อว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยียุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟน

เราได้สร้างมาตรฐานใหม่และบุกเบิกโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z และแชร์โมเมนต์ที่น่าทึ่งร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของปากกา S Pen ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการนำฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Galaxy Note มาสู่อุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ของซัมซุง แทนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note รุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้
#2963



เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสมาพันธ์นิสิตนักศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย (International Federation of Medical Students' Associations : IFMSA) จัดงานประกาศผลการตัดสินการประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ภายใต้โครงการ Thailand Youth Policy Initiative (TYPI) เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนและวัยทำงาน อายุ 16-30 ปี เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 120 คน ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดรวม 30 ผลงาน สำหรับประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาและตัดสินอย่างรอบคอบ โดยผู้ได้รับรางวัล Best Innovation ได้แก่ ทีม People Matter (PM 4.0 ) ชื่อผลงานแพลตฟอร์มดิจิทัลสาธารณะ เพื่อการจัดการมาตรการ PM2.5 แบบชี้เป้า และรางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่ 1.ทีมDustsappear 2. ทีมAirtopia และ3.ทีมทางของฝุ่น


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เนื่องจากมีการก่อสร้างพัฒนาเมืองตลอดเวลา รวมถึงการเผาไหม้ของรถบนท้องถนน จากข้อมูลการประมาณการณ์ความเสียหายจากฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปี 2563 พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องฟอกอากาศ ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว และค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจ การประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งนี้ ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดทุกคน ถือเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับโอกาสต่อยอดผลงานถูกนำไปใช้งานได้จริง และขยายผลต่อไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้นเหตุ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนได้ในระยะยาว


ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษา30ทีมที่เข้าร่วม และนำเสนอนวัตกรรมวันนี้ เชื่อว่าเราจะได้นโยบายสาธารณะที่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ได้จากการช่วยกันคิดนวัตกรรมของคนหลายวัย หลายสาขาจะเป็นประโยชน์กับประเทศ รวมถึงขอให้มีการศึกษาวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากคือการนำโนยายสาธารณะที่เป็นสากลของประเทศตะวันตกมาใช้นั้นต้องเรียนว่าใช้ได้เพียงเล็กน้อย เพราะบริบทของประเทศไทยกับตะวันตกมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการทำนโยบายสาธารณะจะต้องมีการศึกษาบริบท วัฒนธรรมของประเทศเราเองด้วย เช่น นโยบายสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวกับ PM 2.5 ต้องทราบว่าส่วนหนึ่งมาจากการเผาไหม้ทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท รวมถึงเกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ที่เราต้องเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้ประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้


ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของช่วงวัย (Generation) ซึ่งตนยินดีต้อนรับคนรุ่นใหม่เสมอ ดังนั้น การที่เราได้ตระหนักว่าเราอยู่ในวัยไหนแล้วรู้ว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร แล้วนำมาปรับเข้าหากันเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยก็พัฒนาขึ้นมากจากเมื่อก่อน มีเป้าหมายต่อจากนี้ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับบน ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นอีกไม่นานประเทศไทยก็จะผลิตวัคซีนป้องกันโควิดได้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่ได้แตกต่างกับที่ต่างประเทศทำอยู่


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดค่ามาตรฐานของฝุ่น PM2.5 ที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในประเทศไทยกลับพบฝุ่น PM2.5 ที่ 50-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามากกว่ามาตรฐานเกือบ 2 เท่าตัว กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศต้นเหตุสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินทางใจ สสส. ตระหนักถึงผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ต้องเร่งแก้ไขแบบองค์รวม ทั้งการปลูกจิตสำนึกส่วนบุคคล การสร้างความสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมของคนในสังคม เพื่อร่วมแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการออกกฎ ระเบียบบังคับใช้เท่านั้น


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการสร้างเมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพจากพลังคนรุ่นใหม่ที่สำคัญของประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้เป็นรูปธรรม และขยายผลไปสู่การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ผ่านมา สสส. แก้ปัญหาฝุ่นควันภายใต้แนวคิด 3 ข.คือ 1.เขย่า คิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมธงสุขภาพ สีฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง ใช้คู่กับเครื่องวัดค่าฝุ่น แจ้งเตือนให้คนในพื้นที่รู้ระดับคุณภาพอากาศ ดำเนินการใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งลดเสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ขยับ นำสิ่งใหม่ที่คิดไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละพื้นที่และ 3.เขยื้อน ขยายผลจากระดับปัจเจกหรือระดับพื้นที่ นำไปสู่การผลักดันนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วน โดย สสส. ร่วมกับสภาลมหายใจ 8 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทำงานอย่างทุ่มเท สามารถแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดความร่วมมือและเปลี่ยนแปลงค่านิยมในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่นำแนวคิด 3 ข. ไปปฏิบัติได้สำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในพื้นที่ได้.
 
#2964



อัพเดทข่าว "เยียวยาประกันสังคม" ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท

โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กรอบวงเงิน 15,027.686 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท

และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้


ผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากโควิด จะได้เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง
แจ้งข้อมูลสำหรับผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากสถานการณ์โรคโควิด–19 ขณะนี้สามารถขอรับสิทธิว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยฯ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติต่อ พ.ศ. 2563 ได้ โดยจะได้รับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุด 90 วัน ซี่งผู้ประกันตนจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ใน 15 เดือนย้อนหลังก่อนวันที่ว่างงาน
2.ไม่ได้ทำงานเนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างนั้น
โดยนายจ้างจะต้องแจ้งขอรับสิทธิให้แก่ผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service และส่งเอกสาร สปส.2-01/7 พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ไปที่ สนง.ประกันสังคมในพื้นที่ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-service โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่ สนง.ประกันสังคม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
#2965



นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ว่า​ จะมีการออกรางวัลตามปกติ ภายใต้มาตรการของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และคำสั่งของจังหวัดนนทบุรีอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การจำกัดจำนวนผู้ปฏิบัติงานในห้องออกรางวัล การจัดสถานที่นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร การจัดให้มีแผงกั้นระหว่างบุคคล จุดคัดกรองอุณหภูมิผู้ร่วมออกรางวัลทุกคน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ กำหนดให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาในห้องออกรางวัล ตลอดจนให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ออกรางวัล รวมถึงจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ทุก 30 นาที ส่วนในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ยังคงจำหน่ายปกติ​ แต่หากในอนาคตรัฐบาลมีมาตรการที่เปลี่ยนแปลง คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลจะประชุมอีกครั้ง เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับงวดวันที่ 1 กันยายน 2564 สำนักงานสลากฯ จะให้ตัวแทนจำหน่ายทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และนิติบุคคล แจ้งความประสงค์จะขอรับสลากไปจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2564 และเมื่อแจ้งความประสงค์แล้ว ตัวแทนจำหน่ายจะต้องชำระเงินค่าสลาก ภายในวันที่ 11- 18 สิงหาคม 2564 หากแจ้งความประสงค์แล้ว ไม่ชำระเงินค่าสลากภายในระยะเวลาดังกล่าว จะถูกบอกเลิกสัญญาและตัดสิทธิการเป็นตัวแทนจำหน่าย หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center สำนักการตลาดและจัดจำหน่าย 0 2528 9555 หรือ 0 2528 9503 – 7, 0 2528 9511 – 23, 0 2528 9533 – 7, 0 2528 9543 – 5, 0 2528 9547, และ 0 2528 9333


นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังได้ขอให้ตัวแทนจำหน่ายสลากทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประเมินสถานการณ์และความสามารถในการจำหน่ายก่อนตัดสินใจแจ้งความประสงค์ขอรับสลากไปจำหน่าย เนื่องจากในแต่ละพื้นที่มีข้อจำกัดในการจำหน่ายแตกต่างกัน อาจทำให้การจำหน่ายไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และในขณะจำหน่ายสลากให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)อย่างเคร่งครัด เช่น การใส่ Face Shield สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ สวมถุงมือขณะจำหน่ายสลาก และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร เป็นต้น โดยการปฏิบัติดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ซื้อ ผู้ขาย และสังคมส่วนรวม เพื่อควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และทำให้การจำหน่ายสลากดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติ
#2966



ขณะที่การระบาดส่อเค้าลากยาว แถมยังยากที่จะควบคุม จนต้องยกระดับมาตรการที่คุมเข้มขึ้น ด้วยการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล หลายกิจการต้องปิดชั่วคราว มีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 21.00-04.00 น.

ถือเป็นยาแรงชุดใหญ่ที่หวังจะช่วยยับยั้งโรคระบาด แต่ในทางกลับกันหากยังไม่ได้ผล ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลดลงอย่างที่หวัง คงได้เห็นมาตรการที่คุมเข้มมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมาตรการเข้มเท่าไหร่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะยิ่งมากขึ้นไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

จะเห็นว่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทบหยุดชะงักลงทันที ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ มีเพียงแค่ "การส่งออก" เท่านั้นที่โตสวนวิกฤต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. ยังคงร้อนแรง ขยายตัว 43.82% สูงสุดในรอบ 11 ปี คิดเป็นมูลค่ารวม 23,699.43 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 6 เดือนแรก ปี 2564 การส่งออกไทยขยายตัว 15.53% คิดเป็นมูลค่า 132,334.65 ล้านดอลลาร์

"รถยนต์" เป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่เติบโตร้อนแรง โดยยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 83,022 คัน เพิ่มขึ้น 65.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าหลายประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย และในทวีปยุโรป


ขณะที่ครึ่งปีแรกไทยส่งออกรถยนต์ไปแล้วทั้งหมด 473,489 คัน เพิ่มขึ้น 35.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ในประเทศยังขยายตัวแกร่งเช่นกัน โดยมียอดการผลิตรวม 844,601 คัน เพิ่มขึ้น 39.34% และยอดขายรวม 373,193 คัน เพิ่มขึ้น 13.57%

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดการผลิตในเดือนมิ.ย. จะชะลอตัวลงเล็กน้อย 4% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 134,245 คัน จากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ และปัญหาขาดแคลนชิพ จนหลายค่ายต้องปรับลดกำลังการผลิตลง แต่ในภาพรวมถือว่าผลกระทบยังจำกัด โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ปีนี้เป็น 1.55-1.6 ล้านคัน จากเดิมที่ 1.5 ล้านคัน

การฟื้นตัวของตลาดรถยนต์กลายเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนที่จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย สอดรับกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้องแรง อย่างบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ราคาหุ้นปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากราคาปิดปีก่อนที่ 16.40 บาท

ส่วนบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ขึ้นมาราวๆ 40% ขณะที่บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY ที่ทำหลอดไฟรถยนต์ อาจจะสวนทางเพื่อนๆ เพราะราคาหุ้นยังไม่ค่อยขยับ

อีกหนึ่งบริษัทที่มองข้ามไม่ได้ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยานยนต์โดยตรง แต่ก็ขายชิ้นส่วนให้ลูกค้าในกลุ่มนี้เยอะโดยเฉพาะในยุโรป แถมยังได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนต่าหนุนอีกแรง จนดันราคาหุ้นพุ่งทำออลไทม์ไฮ พุ่งขึ้นเกือบ 100%

โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงน้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" โดยมองว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ในปี 2564-2565 จะฟื้นตัวโดดเด่นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และตลาดส่งออกที่ฟื้นตัว สวนกระแสการแพร่ระบาดของโควิด-19

เลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มเนื่องจากคาดกำไรจะฟื้นตัวโดดเด่นสุดในปี 2564 ขณะที่ Valuation ถูกสุดในกลุ่ม โดยซื้อขายที่ PER เพียง 7.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 10 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัทที่ 10.7 เท่า

ส่วนบล.เมบ์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 ของกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์จะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและผลกระทบจากการขาดแคลนชิพชิพ แต่จะโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประสบปัญหาขาดทุน แต่แนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อช่วงราคาอ่อนตัว
#2967



สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดหลักสูตรใหม่เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ด้วยการยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี สู่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วยฐานคิดนวัตกรรม ภายใต้แนวความคิด " The Transformation" ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะทำให้องค์กรเกิดการ "เปลี่ยนแปลง" ครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นตั้งแต่การสร้าง การพัฒนา และการใช้นวัตกรรม เพื่อตอบสนองทิศทางธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นด้วยการเป็นองค์กรนวัตกรรม ทั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทภาคเอกชนในหลากหลายธุรกิจเข้าร่วมการอบรมกว่า 80 ราย ระหว่างเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2564

ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า "NIA เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาเอสเอ็มไทยให้ก้าวสู่การเป็น "Innovation Based Enterprise; IBE" ซึ่งหมายถึงการเป็นองค์กรธุรกิจที่เป็นองค์กรนวัตกรรม และสามารถสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กร รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำ/แบรนด์/องค์กร ที่สามารถให้บุคคลภายนอกรับรู้และยอมรับการเป็นองค์กรนวัตกรรมของเอสเอ็มอีไทยที่มิใช่แค่การเป็นองค์กรที่ขายสินค้านวัตกรรมเพียงด้านเดียว ซึ่งจะทำให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดนวัตกรรม เพราะฉะนั้น หลักสูตรนี้จะเน้นไปในเรื่องของการใช้เครื่องมือการเรียนรู้ในหลากหลายวิชาที่สามารถสร้างกระบวนการให้เกิดวัฒนธรรมนวัตกรรมองค์กรของผู้อบรมในที่สุด "



ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA เปิดเผยว่า "หลักสูตร SMEs to IBE เป็นหลักสูตรใหม่ของสถาบันวิทยาการนวัตกรรม หรือ NIA Academy ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในระบบธุรกิจของประเทศ โดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว แต่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเองด้วยวิธีคิดแบบการเป็นองค์กรนวัตกรรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกท่ามกลางกระแสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดย NIA ได้คัดเลือกบริษัทที่จะเข้าร่วมในหลักสูตรนี้ทั้งสิ้น 42 บริษัท จำนวน 83 ราย จากกว่า 10 แขนงธุรกิจ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจระบบขนส่ง ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขาย และธุรกิจดิจิทัล เป็นต้น และคาดหวังว่า กระบวนการเรียนรู้ที่ได้เตรียมและจัดเป็นหลักสูตรในครั้งนี้ จะสามารถสร้างองค์กรธุรกิจที่มีแนวคิดนวัตกรรมและนำองค์ความรู้และเครือข่ายที่ได้กลับไปประยุกต์ต่อยอดการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและวัดผลได้"


 
หลักสูตร SMEs to IBE เป็นหลักสูตรการเรียนรู้ที่เปิดรับสมัครเอสเอ็มอีไทยที่สนใจเข้าอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจของตนเอง โดยต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกจากคณะกรรมการหลักสูตรและมีระยะเวลาการเข้าอบรม 10 สัปดาห์ ตลอดหลักสูตรมีวิทยากรที่มีประสบการณ์ชั้นแนวหน้ากว่า 20 คน รวมถึงกระบวนการเรียนรู้เครื่องมือที่จำเป็นต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรนวัตกรรมที่แตกต่างจากหลักสูตรอื่นอย่างชัดเจน
#2968
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค  ควบคุมน้ำหนัก กล่องละ 590 บาท เท่านั้น ของแท้ 100 %


การรับประทานอาหาร ในปริมาณที่มากเกินไปมักไม่ได้เกิดจากความหิว แต่เกิดจาก..."ความอยากอาหาร และการติดในรสชาติ"ส่งผลให้เกิดการรับประทานแบบไม่เลือกทั้งอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่ปัญหา "น้ำหนักเกิน"  ไปจนกระทั่งการเป็น "โรคอ้วน"ด้วยความเข้าใจในสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านี้จึงเป็นที่มาของงานวิจัยทางคลินิคที่ได้ค้นพบสารสกัดเอกสิทธิ์ นวัตกรรมนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้" Yeast Extract Hydrolysate "ช่วย รูดซิป..ล็อคความอยากอาหาร ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับประทานพร้อมด้วยสารสกัดที่เป็นสูตรเฉพาะ 15 ชนิดซึ่งทำหน้าที่ "บล็อก" การดูดซึมของแป้งและไขมันเข้าสู่ร่างกาย พร้อมส่งเสริมการเผาผลาญและสลายไขมันส่วนเกินรูปร่างดีได้...โดยไม่ต้องอดปิดซิปความอยากอาหารเปิดซิปกระตุ้นการเผาผลาญเต็มรูปแบบ" Zip you fat...Zip you body "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zipผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยาขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0083 สารสกัดจากส้มแดง 100 มกสารสกัดจากส้มซิตรัส ออรานเทียม 100 มกสารสกัดจากยีสต์ 80 มกแอล-ฟีนิลอะลามีน 50 มกผงน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 30 มกแอล-คาร์นิทีน 50 มกสารสกัดจากเจียวกู้หลาน 30 มกสารสกัดจากส้มแขก 30 มกL l-tyrosine 20 มกสารสกัดจากพริก 20 มกสารสกัดจากถั่วขาว 20 มกสารสกัดจากชาเขียว 20 มกสารสกัดจากพริกไทยดำ 12 มกสารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว 7 มกโครเมียม พิโคลิเนต 1 มก

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อ
 ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

website  คลิก  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค


     ***รับสมัครตัวแทนจำหน่าย***#รับตัวแทนไม่ต้องสต็อกสินค้า#สินค้าขายดี #zipyourfatzipyourbody #ziplock #zipwheyplus #zipwheyplus #zipwhey #theicongroup #ลดน้ำหนักแบบปลอดภัย #ลดไขมัน
#2969

 
ที่สนาม ซัปโปโร โดม ประเทศญี่ปุ่น ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ประเภทฟุต.ชาย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กลุ่ม C วันที่ 25 ก.ค.64 ระหว่างทีมชาติ "ออสเตรเลีย" พบกับทีชาติ "สเปน" เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก ในนาทีที่ 7 สเปนได้โอกาสลุ้นทักทายก่อนจากฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เป็นโซเลร์ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาแต่.พุ่งชนกำแพง นาทีที่ 21 สเปนน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่ปูอาโด้แทง.ให้โอยาร์ซาบัล สปีดหลุดไปทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะซัดตามน้ำ แต่.พุ่งไปชนคานออกไป

เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 69 สเปน ยังพยายามบุกอย่างต่อเนื่อง คราวนี้น่าได้จากจังหวะที่โอยาร์ซาบัลยก.มาที่ริมกรอบเขตโทษ แล้วเป็นโอลโม่ได้เหลี่ยมซัดด้วยขวาทะลุบล็อคติดเซฟโกลเวอร์ กระทั่งนาทีที่ 80 สเปน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่โอลโม่กระชากขึ้นมาแล้วไหลให้อเซนซิโอ้ทางริมกรอบฝั่งขวา เขาโยกเข้าซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางให้โอยาร์ซาบัลเบียดขึ้นโหม่งเสียบเสาสองเข้าประตูไป จบเกม สเปน เอาชนะไป ออสเตรเลีย 1-0 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 4 คะแนนจาก 2 นัด นำจ่าฝูงกลุ่ม C
#2970


บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ส่ง บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ลุยธุรกิจ ขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางของ Bitcoin Mining Farm ที่ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia ภายในปี 2567
 
ปัจจุบันทาง JTS ได้เริ่มมีการติดตั้งและเดินเครื่องขุด Bitcoin แล้ว รวมถึงได้มีการลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องขุดเพิ่มอีกจำนวน 500 เครื่อง โดยจะเริ่มจัดส่งและทยอยติดตั้งภายในไตรมาส 3/2564 ที่ Jastel Data Center  พร้อมขยายเฟสที่สอง เสริมกำลังการขุดอีก 5,000 เครื่องในต้นปี 2565 เล็งใช้พื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรม ด้วยความพร้อมของสถานที่ โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า และ Broadband Connection ที่ทางบริษัทจัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด ได้เป็นพันธมิตรและคู่ค้ากับทางนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มาอย่างยาวนาน ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งและการเริ่มดำเนินการในเฟสนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
 
นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ JTS ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "ที่ผ่านมา JTS ได้ควบรวม บริษัทจัสเทลฯ เป็นที่เรียบร้อย และพร้อมต่อยอดธุรกิจ จากประสบการณ์การให้บริการด้าน Data Center ที่ได้มาตรฐาน ความเป็นมืออาชีพของบุคคลากร รวมถึงพันธมิตรต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งทางบริษัทได้ศึกษาเรื่อง Bitcoin มาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้มองเป็นจังหวะและโอกาสที่ดี จากการยอมรับ Bitcoin ในวงกว้าง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนทำให้ Hashrate ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน"
 
ด้าน นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ยังกล่าวย้ำถึงความสำเร็จของ 3BB ที่เป็น One of the World Fastest Broadband Provider ที่ให้บริการ Broadband Internet ความเร็วขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1Gbps ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ 3.5 ล้านราย และครั้งนี้ก็เป็นอีกก้าวที่สำคัญของ JAS ในการบุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ท้าทาย โดยมองว่าธุรกิจเกี่ยวกับ Crypto Currency  นั้นเป็น  Mega Trend ของโลก การประมวลผลต่างๆ จะเป็นแบบไร้ศูนย์กลาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ JAS ในการต่อยอดธุรกิจอื่นๆอีกมากในอนาคต  โดยรวมมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในส่วนของ Bitcoin Mining จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
 
สำหรับแผนการทำธุรกิจและการลงทุน JTS ตั้งเป้าขยายกำลังการขุดเป็น 50,000 เครื่อง ก่อน Bitcoin Next Halving ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2567 ด้วยกำลังการขุดนี้จะทำให้ JTS สามารถขุด Bitcoin ได้ไม่น้อยกว่า 16,000 BTC ต่อปี โดยคำนวนที่ค่า Difficulty Level ในปัจจุบัน  (ราคาปัจจุบัน 1 BTC =  1,056,205 บาท) ทำให้บริษัทมีกำลังการขุดรวมมากกว่า 5 Exahash/s หรือคิดเป็นประมาณ 5% ของกำลังการขุดรวมทั่วโลก และเป็นศูนย์กลางของ Bitcoin Mining Farm ที่ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia
#2971
ยุคออนไลน์สื่อสิ่งพิมพ์จำเป็นหรือไม่https://www.chatstickmarket.com/single-post/intheonlineera-isprintmedianecessary

#2972


"อีอีซี"เปิดเวทีเสวนาระดมความคิดจากกูรูด้านเศรษฐกิจระดับตำนานชั้นแนวหน้าไทย และบิ๊กเอกชน ร่วมถอดแนวคิด "อีสเทิร์นซีบอร์ด"ต่อยอดสู่ความสำเร็จ "อีอีซี"กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก หวังดันการลงทุนปีละ 6 แสนล้านบาท หนุนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2572

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงำนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "จาก ESB สู่ EEC กับ การเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ระดับโลก" ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธามูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาคเอกชน นักธุรกิจชั้นนำใน เมืองไทย เช่น นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธาน คณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการเสวนามากกว่า 70 คน

การจัดเสวนา ฯ ครั้งนี้ ฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) ซึ่งเป็นช่วงการพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทย โดยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในสมัยนั้น และได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีความต่อเนื่องมายังแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%

ซึ่งแนวคิดจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบสำคัญเพื่อเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งพบผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใกล้เคียงกับในอดีต

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่
มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ อีอีซีจะปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปจากโควิด ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนอีกปีละ 6 แสนล้านบาท เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4.5 – 5% ให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572

สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้การสรุปข้อมูล และการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. จะได้นำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ ต่อไป
#2973

  

นับถอยหลังกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 "โตเกียวเกมส์2020" กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากโดนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เล่นงาน ทั่วโลก จนต้องเลื่อนทำการแข่งขันมากว่า 1 ปี

ทั้งนี้จะมีการเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งเป็นพิธีเปิดการแข่งขันและจะไปสิ้นสุดการแข่งขันในพิธีปิดในวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 17 วัน มีการชิงชัยกันทั้งหมด 33 กีฬา โดยมี 5 ชนิดกีฬาใหม่ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้ามาสเก็ตบอร์ด,ปีนหน้าผา,เบส.&ซอฟท์.,คาราเต้และกระดานโต้คลื่น

สำหรับนักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือก และได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย 37 โควตา รวมจำนวน42 คนจาก 14 ชนิดกีฬา ยิงปืน&ยิงเป้าบิน , ขี่ม้า, เทควันโด, จักรยาน, เรือใบ&วินด์เซิร์ฟ , มวยสากล , กรีฑา , เทเบิลเทนนิส , เรือแคนู , เรือกรรเชียง , กอล์ฟ , ยูโด , ว่ายน้ำและแบดมินตัน

โปรแกรม"นักกีฬาไทย" ในโอลิมปิก2020 วันเสาร์ 24 ก.ค. 2564
แบดมินตัน รอบแบ่งกลุ่มเริ่มเวลา 07.00 น.
หญิงเดี่ยว:บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์พบ ดาเนียล่า มาเซียส (เปรู) ลงแข่งขันเวลา 07.40 น. โดยประมาณ
หญิงคู่:จงกลพรรณ กิติธรากุล และ รวินดา ประจงใจพบ เฉิน ชิงเฉิน และ เจีย ยี่ฟาน (จีน) ลงแข่งขันเวลา 09.40 น. โดยประมาณ
คู่ผสม:เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัยพบ โจชัว ฮัลเบิร์ต-ยู และ โจเซฟิน หวู (แคนาดา) ลงแข่งขันเวลา 16.40 น. โดยประมาณ

เทควันโดชิง 2 เหรียญทองเริ่มเวลา 09.00 น.
รุ่น 49 กก. หญิง (พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ)
รุ่น 58 กก. ชาย (รามณรงค์ เสวกวิหารี)


มวยสากลสมัครเล่น รอบแรกเริ่มเวลา 09.00 น.
เฟเธอร์เวต 57 กก. ชาย/หญิง (ฉัตรชัยเดชา บุตรดี)
เวลเตอร์เวต /หญิง (ใบสน มณีก้อน)


เทเบิลเทนนิสเริ่มเวลา 07.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว/หญิงเดี่ยว (สุธาสินี เสวตรบุตร,อรวรรณ พาระนัง)
#2974


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) วานนี้ (22 ก.ค.) เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และพิจารณาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศบศ.เปิดเผยว่า ศบศ.ได้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าไทยตามข้อเสนอทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศที่มี ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมาย โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ทีมปฏิบัติการเชิงรุกการลงทุนเสนอดึงกลุ่มแรงงานศักยภาพสูงและกลุ่มคนต่างชาติที่มีรายได้สูงมาพำนักไทย 1 ล้านคน ในปีนี้ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศจากคนกลุ่มนี้ 1 ล้านล้านบาท และเกิดการลงทุนในประเทศ 8 แสนล้านบาท ภาครัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้น 2.5 แสนล้านบาท โดยมีข้อเสนอ คือ รัฐบาลไทยให้วีซ่าคนกลุ่มนี้ 10 ปี ได้รับอนุญาตทำงานโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้จากต่างประเทศ คิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ในไทยในอัตราคงที่ 17% (จากเดิมเสียภาษีอัตราก้าวหน้าสูงสุด 35%) ได้เจ้าของหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว รวมที่ดินได้

ทั้งนี้ ศบศ.ยังไม่เห็นชอบและให้ทุกฝ่ายหารืออีกครั้งก่อนเสนอ ศบศ.ครั้งต่อไป

"กระทรวงการคลัง และทีม ม.ล.ชโยทิต คุยกันนอกรอบแล้วก่อนเสนอ ศบศ.แต่สื่อสารผิดพลาดในการประชุมครั้งนี้ ทำให้ยังไม่ได้รับพิจารณา และกลับไปหารือกันอีก รวมทั้งแพคเกจการลงทุนที่เป็นมาตรการภาษีในส่วนอื่นด้วยก่อนเสนอ ศบศ.อีกครั้ง"แหล่งข่าว ระบุ 

รายงานข่าวระบุว่า การประชุม ศบศ.เดือน มิ.ย.2564 มีข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ได้แก่ 

1.ประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง ต้องลงทุนขั้นต่ำ 500,000 ดอลลาร์ ในพันธบัตรรัฐบาลไทย ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ ในอสังหาริมทรัพย์ และมีรายได้ขั้นต่ำปีละ 80,000 ดอลลาร์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีทรัพย์สินขั้นต่ำ 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 30 ล้านบาท มีประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษา 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป

2.ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ อายุ 50 ปีขึ้นไป มีรายได้จากการเกษียณอายุในต่างประเทศ ลงทุนขั้นต่ำในไทย 250,000 ดอลลาร์ มีรายได้ขั้นต่ำปีละ 40,000-80,000 ดอลลาร์ มีประกันสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษา 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป
#2975


เมื่อเร็ว ๆ นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับมอบยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 2,000 ขวด เพื่อใช้กับผู้ป่วย COVID-19 ที่ไม่สามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ได้ โดยเฉพาะผู้ตั้งครรภ์ที่มีภาวะปอดอักเสบ จากคณะผู้บริหารกลุ่ม ปตท. นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ    ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. ที่ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด เร่งหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในวิกฤต COVID-19 อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในจุดที่เป็นความจำเป็นสูงสุดในช่วงนี้ ซึ่ง กลุ่ม ปตท. อยู่ระหว่างเร่งจัดตั้งหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) นำร่องเป็นต้นแบบของภาคธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ร่วมช่วยเหลือสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในปัจจุบัน ที่ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐ หลังจากที่สนับสนุนการนำเข้ายาเรมเดซิเวียร์เพื่อเพิ่มสำรองคงคลังภายในประเทศ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความตั้งใจที่จะร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤต COVID-19 ของประเทศมาอย่างต่อเนื่องภายใต้ 'โครงการลมหายใจเดียวกัน' ซึ่งยาเรมเดซิเวียร์ดังกล่าว ปตท. ได้มอบให้ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด จัดหาและนำเข้าเพื่อสนับสนุนภาครัฐ รวมทั้งเตรียมการจัดหาอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติม เพราะประเทศยังมีความจำเป็นต้องใช้มากยิ่งขึ้น

"กลุ่ม ปตท. ขอเป็นกำลังใจและเคียงข้างสังคมไทย เพื่อให้คนไทยและประเทศ ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็วที่สุด"


สำหรับการให้ความช่วยเหลือในขั้นถัดไป กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมการเพิ่มกำลังการดูแลผู้ป่วยโควิดครบวงจร (End-to-End) เพื่อเป็นอีกแรงสนับสนุนแก้ปัญหาวิกฤตเร่งด่วนของประเทศในขณะนี้ มุ่งเน้นการตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว โดยจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและพันธมิตรทางการแพทย์ ในการเพิ่มการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อ การดูแลผู้ติดเชื้อที่ดูแลตนเองเบื้องต้นที่บ้าน หรือ ในชุมชน (Home or Community Isolation) กลุ่ม ปตท. จะมอบ 'กล่องพลังใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน' ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ ยา และ ของใช้ที่จำเป็น พร้อมระบบติดตามอาการทางไกล ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสนามเขียวและเหลืองตามระดับความรุนแรงของอาการ โดยร่วมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในระดับสีเขียวประมาณ 1,000 เตียง ระดับสีเหลือง 350 เตียง

รวมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามไอซียู รองรับผู้ป่วยขั้นวิกฤต ระดับสีแดง จำนวน 120 เตียง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดูแลทั้งระบบโดยบุคลากรทางการแพทย์ของพันธมิตรกลุ่ม ปตท. ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้
#2976


หลังรัฐบาล มีมติร่วมกับธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงโควิด-19 ครั้งล่าสุดคือมาตรการ "พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย" กลุ่มสถาบันการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินก็ได้ออกมาขานรับนโยบายและทยอยให้ "ลูกหนี้" ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการล็อกดาวน์ สามารถเข้าร่วมมาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระรายจ่ายในช่วงนี้ และไม่ต้องกังวลเรื่องเสียเครดิตทางการเงิน

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมข้อมูลจากผู้ให้บริการ "บัตรเครดิต" ต่างๆ ที่มีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งในพื้นที่ควบคุมพิเศษ และลูกหนี้ทั่วไป พร้อมช่องทางการติดต่อ ดังนี้

1.  KTC 

พักชำระหนี้ 2 เดือน
สมาชิก KTC ทุกผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงซึ่งอาศัย หรือทำงาน ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือนอกเขตพื้นที่ควบคุมที่ต้องปิดกิจการตามประกาศ หรือคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค)
พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยฯ เป็นเวลา 2 รอบบัญชีหรืองวด


ลดการจ่ายขั้นต่ำ
- อัตราผ่อนชําระขั้นต่ำ 5% มีผลกับบัญชีบัตรเครดิตที่มีการสรุปรอบบัญชีตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564

- อัตราผ่อนชําระขั้นต่ำ 8% มีผลกับบัญชีบัตรเครดิตที่มีการสรุปรอบบัญชี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565

- อัตราผ่อนชําระขั้นต่ำ 10% มีผลกับบัญชีบัตรเครดิตที่มีการสรุปรอบบัญชี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การลดอัตราผ่อนชําระขั้นต่ำของบัตรเครดิต KTC ให้กับสมาชิกบัตรฯ อัตโนมัติ (ไม่ต้องแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลแต่อย่างใด)

ปรับโครงสร้างหนี้
- เปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ยฯ 12% ต่อปี นาน 48 เดือน

- ผ่อนผันการชำระหนี้บัตรกดเงินสด เป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคลระยะยาว ดอกเบี้ยฯ 22% ต่อปี นาน 48 เดือน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 02 123 5000

ที่มา: ktc

 2. บัตรเครดิตกรุงศรีฯ 

พักชำระหนี้ 2 เดือน
สำหรับสมาชิกที่มีบัญชีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งมีสถานะบัญชีปกติ และเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามประกาศของภาครัฐ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด 10 จังหวัด โดยดอกเบี้ยยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก 

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เพื่อรับพิจารณาความช่วยเหลือดังกล่าวผ่านทางศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชัน UChoose ตั้งแต่ 19 ก.ค. ถึง 18 ส.ค.64 โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี

ลดยอดชำระขั้นต่ำต่อเดือน (สำหรับลูกค้าทุกราย และไม่ต้องแจ้งความจำนง)
- ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชี ถึง 31 ธ.ค. 64 

- ผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลจากเดิม 5% เหลือ 3% ตามรอบบัญชี ถึง 31 ธ.ค. 64 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ศูนย์บริการสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา 02-646-3555

ที่มา: krungsri consumer
#2977
ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป อาคารP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก แนะนำสำหรับนักลงทุน ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป
ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 ห้องสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ ตึกP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก ทำเลดดีมาก สะดวกสบาย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena), หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียม เมืองทองธานีอาคารP2 ชั้น 3 ใกล้ลิฟท์ วิวด้านนอกขนาด 28.4 ตรม.


ห้องเปล่าแต่สวย ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 แต่ด้วยจุดที่ตั้ง ทัศนียภาพ ความสะดวก รับรองคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เหมาะกับซื้ออยู่เอง หรือ จะซื้อไว้ลงทุนทำเป็นห้องพักให้เช่าแบบรายเดือนหรือรายวัน ก็คุ้มค่า เมื่อประเมินแล้วจาก
ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน คอนโดโครงการเมืองทองธานี ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2  ภายในประกอบด้วย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena),
หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ
-มีบริการรถสองแถว, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, วินรถตู้, รถโดยสารประจำทาง
-ใกล้ตลาดสด ศูนย์อาหาร Outlet
-โรงเรียนนานาชาติเซ็นฟรังค์
-โรงแรม Ibis Bangkok Impact
-มีทางเข้า-ออกได้หลายทาง, ใกล้ทางด่วน
-ใกล้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ใกล้ Beehive
-วัดผาสุกมณีจักร
-สนามฟุต.เมืองทอง, ใกล้ตลาดมะลิ
*ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
*เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
*ศูนย์ราชการ
*จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ, World Medical Hospital

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 สนใจสอบถามติดต่อเจ้าของห้องโดยตรง

ราคา 600,000 บาท โอนคนละครึ่ง
คุณแก้ว 092 296 5964 LINE ID : korranan.k , FB : Korranan Komkai , Email : Korranan.k@hotmail.com


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://ipostcondo.com/?p=1497
คำค้น
ขายด่วนคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดโครงการเมืองทองธานี, กู้ได้เต็มตามเครดิตคอนโดโครงการเมืองทองธานี, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายคอนโดเมืองทองทำเป็นห้องพักให้เช่า, คอนโดเมืองทองธานีอาคารP2ขายถูกกว่าทั่วไป, ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน
 
#2978


หลายคนคงเห็นตรงกันว่าปัจจุบันคนไทยเล่น "หวย" กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลอตเตอรี่หรือ "สลากกินแบ่งรัฐบาล" ทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน รวมไปถึงการเล่นหวยใต้ดิน ซึ่งบรรดาคนชอบเสี่ยงโชคทั้งหลายก็พยายามตามหา "เลขเด็ด" ด้วยหวังว่าจะถูกหวยและรวยทางลัดง่ายขึ้น 

แต่รู้หรือไม่? การได้เลขเด็ดหรือเลขที่ชอบมาซื้อ "หวย" อาจไม่ได้มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างที่คุณคิด เพราะมีผลสำรวจออกมาแล้วว่า ส่วนใหญ่การซื้อหวยแล้วถูกรางวัล มาจากโชคและความบังเอิญของแต่ละคนมากกว่า

นอกจากจะเป็นเรื่องโชคส่วนบุคคลแล้ว การที่ใครสักคนจะมีโอกาส "ถูกหวย" มันมีเรื่องของ "ทฤษฎีความน่าจะเป็น" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

"ถูกหวย" มีความเป็นไปได้น้อยกว่า "เสียหวย"
มีข้อมูลจาก ผศ.อำนาจ วังจีน นักวิชาการด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ สำนักวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เคยให้ข้อมูลในบทความวิชาการไว้ว่า คนไทยที่ชอบเสี่ยงโชคด้วยการซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล มักซื้อโดยไม่มีหลักวิชาการเรื่อง "ทฤษฎีความน่าจะเป็น" ทำให้เสียเงินมากกว่าถูกรางวัล

การตัดสินใจซื้อ "หวย" แต่ละครั้ง นักเสี่ยงดวงมักจะมองที่ผลตอบแทนมากกว่าโอกาสที่เสียเงิน เช่น บางคนชอบเสียเงินซื้อเลขท้าย 3 ตัว บ่อยๆ ด้วยมองว่าได้ผลตอบแทนสูงกว่าซื้อเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความเสี่ยงของการซื้อเลขท้าย 3 ตัว มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ถูกรางวัล (เล่นหวย 2 ตัว ความเสี่ยงน้อยกว่า 3 ตัวมาก)

นักคณิตศาสตร์อธิบายอีกว่า หลักทฤษฎีความน่าจะเป็น คือ โอกาสเกิดขึ้นของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง มีค่าอยู่ระหว่าง 0-1 หากใกล้ 0 หมายถึงโอกาสเกิดน้อย แต่ถ้าค่าใกล้ 1 หมายถึงมีโอกาสเกิดสูง การเล่นหวยแต่ละครั้งผลออกมาแค่ "ถูก" กับ "ผิด" เมื่อคิดตามหลักทฤษฎีความน่าจะเป็น คือ 

ผลตอบแทนคาดหวัง = ผลรวมของ (จำนวนเงินที่จะได้รับ x โอกาสถูก) - (จำนวนเงินที่จะเสีย x โอกาสผิด)

อยาก "ถูกหวย" รางวัลที่ 1 มีโอกาสเท่าไหร่?
ผศ.อำนาจ วังจีน ระบุอีกว่า หากนำหลักการของทฤษีความน่าจะเป็น มาคำนวณทำให้ทราบผลว่าโอกาสที่ใครสักคนจะถูกหวยรางวัลที่ 1 จากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น มีโอกาสน้อยมาก คิดเป็น 1 ในล้าน!

อีกทั้งมีผลการวิเคราะห์พบว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลมีค่าคาดหวังต่อการเล่นต่ำมาก ทุกครั้งที่ซื้อสลากฯ มีโอกาสถูกรางวัลทุกประเภทรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่ 1, 2, 3 หรือเลขท้าย 2-3 ตัวแค่ 0.014 หรือร้อยละ 1.4 เท่านั้น นอกจากนี้หากเปรียบเทียบจาก "ผลตอบแทนความคาดหวัง" หมายถึงถ้าเล่นหวยไปเรื่อยๆ จะเสียเงินสะสมมากขึ้นๆ เช่นกัน 

คนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อผิดๆ ว่า ซื้อเลขเด็ดตัวไหน ถ้าไม่ถูกก็ให้ตามตัวนั้นประจำ แล้วจะมีโอกาสถูกมากกว่าเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะเหมือนการหยิบลูกปิงปองแบบสุ่มแล้วใส่คืนลงไปในกล่อง เมื่อหยิบใหม่ โอกาสได้ลูกเดิมจึงไม่ต่างจากลูกอื่นๆ ไม่ว่าจะหยิบกี่ครั้งก็ตาม

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า หวย ทุกประเภทจะมีค่าเป็น "ลบ" หมายความว่า เจ้ามือหวยหรือกองสลากฯ จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสมอ 


คนซื้อ "หวย" มีโอกาส "รวย" แค่ไหน?
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก ศูนย์ศึกษาปัญหาการ. ที่อธิบายไปในทิศทางเดียวกันว่าการซื้อ "หวย" มักจะทำให้ผู้ซื้อเสียเงินมากกว่าถูกรางวัล โดยระบุว่า หวยรัฐบาลมีเลข 6 หลัก ทุกๆ ชุดจะมีตัวเลขไม่ซ้ำกัน 1,000,000 ตัวเลข จำนวนรางวัลที่มีโอกาสถูกรวมทั้งหมดมี 14,168 รางวัล แปลว่าการซื้อหวยแต่ละครั้งมีโอกาสถูกรางวัลแค่ 1.4168 % เท่านั้น  แต่มีโอกาสเสียเงินสูงถึง 98.5832%

ค่าความคาดหวังที่จะ "รวย" มีวิธีคำนวณดังนี้ ยกตัวอย่างเช่น เลขท้ายสองตัว 00 - 99 = 100 ตัวเลข

โอกาสถูก (เลขเดียว) = 1 ใน 100 หรือ 0.01 

โอกาสไม่ถูกรางวัล = 99 ใน 100 หรือ 0.99

ค่าความคาดหวัง = โอกาสที่จะถูกหรือไม่ถูก X ผลลัพธ์สุดท้าย คือได้เงินหรือเสียเงินเท่าไหร่

ค่าความคาดหวังกรณีถูกรางวัล คือได้เงิน 1,000 บาท = 0.01 x 1,000 

ค่าความคาดหวังกรณีไม่ถูกรางวัล (คำนวณตามราคาหน้าสลาก) คือเสียเงิน 40 บาท = 0.99 x -40 (ตัวเลขนี้สมมติว่าคุณซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาคู่ละ 80 บาท ตามราคาสลากที่แท้จริง) 

ผลรวมของความคาดหวังที่จะถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวคือ (0.01 x 1,000) + (0.99 x -40) = -29.6 บาท แปลว่าค่าเฉลี่ยในการที่คุณจะเสียเงินเสมอจากการซื้อหวยคือ -29.60 หรือพูดง่ายๆ ว่าโดยเฉลี่ยทุกครั้งที่คุณซื้อหวยคุณจะเสียเงินแน่ๆ 29.60 บาท (เป็นค่าเฉลี่ยจากการซื้อหวยหลายๆ ครั้ง)

คนไทยติดหวย ซื้อสลากกินแบ่งฯ มากขึ้นจริงหรือ?
เห็นวิธีการคำนวณข้างต้นแล้ว คงจะเห็นแล้วการซื้อหวยนั้นมีโอกาสเสียเงินมากกว่าได้เงินจริงๆ แต่ก็ยังไม่วายมีคนไทยอีกมากที่ยังคงนิยมซื้อหวยทุกงวด และมีคนเล่นหวยมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ยืนยันได้จาก ผลสำรวจ "สถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการ.ในประเทศไทย ประจำปี 2560" ของ ศูนย์ศึกษาปัญหาการ. ที่เผยแพร่ในปี 2561 ที่ระบุว่า

ประชากรไทยจำนวน 66 ล้านคน อายุ 15 ปีขึ้นไป มี 52 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่ามีคนไทยเล่นการ. 28.93 ล้านคน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2558 ประมาณ 1.54 ล้านคน กระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสาน พบว่าเล่นการ.มากที่สุด 10.51 ล้านคน รองลงมาเป็นภาคกลาง 5.34 ล้านคน, ภาคเหนือ 4.99 ล้านคน, กรุงเทพฯ และปริมณฑล 4.20 ล้านคน และภาคใต้ 3.89 ล้านคน

อีกทั้งพบว่า นัก.จำนวน 28.93 ล้านคนนั้น หากจำแนกตามเพศ แบ่งเป็นนัก.หญิง 14.61 ล้านคน เปรียบเทียบกับผลการสำรวจปี 2558 เพิ่มขึ้น 1.31 ล้านคน (9.8%) ส่วนนัก.ชายมี 14.32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.29 แสนคน (1.6%) สรุปในปี 2560


นัก.เพศหญิงมีอัตราการเพิ่มสูงกว่านัก.เพศชายเกือบ 6 เท่า แบ่งเป็นนัก.หน้าเก่าที่เคยเล่นการ.มาก่อน มีจำนวน 28.30 ล้านคน และเป็นนัก.หน้าใหม่ที่ไม่เคยเล่นการ.มาก่อน แต่เพิ่งมาเริ่มเล่นการ.ในปี 60 มี 6.28 แสนคน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นนัก.หญิง 3.74 แสนคน นัก.ชาย 2.54 แสนคน

ท้ายที่สุด ไม่ว่าคุณเลือกที่จะเล่นหวยหรือไม่เล่น ก็เป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล เอาเป็นว่าข้อมูลนี้น่าจะช่วยให้คนที่อยากเริ่มเล่นหวยได้หยุดคิดไตร่ตรองสักนิด ก่อนจะกระโดดลงสนามแห่งการเสี่ยงโชค ว่ามันคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่
#2979
!!!ท่ออ่อนสแตนเลส+++  ทำท่ออ่อนสแตนเลส โทร.  080-9006306
Line ID : 0809006306



 
#2980


"ประกันสังคม" เข้มมาตรการรัฐ ขอประชาชนงดเดินทางติดต่อตรง ต้องติดต่อรับสิทธิประกันสังคมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขสำคัญอะไรที่ต้องทำความเข้าใจ เช็ค!

ภายหลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ศบค. ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ ให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มเติมคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวเคยถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 

ทั้งนี้คำประกาศศบค. เมื่อ 9 กรกฎาคม ได้ประกาศจังหวัดเขตสีแดงเข้ม แค่ 10 จังหวัด เท่านั้น ได้แก่  จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสงขลา ทำให้พื้นที่สีแดงเข้ม มียอดรวมจังหวัดทั้งสิ้น 13 จังหวัด และจำกัดการเดินทาง
ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน งดการมาติดต่องานหรือทำธุรกรรม ณ สำนักงานประกันสังคมในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th แทนนั้น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมช่องทางการติดต่อ "ประกันสังคม" และดูขั้นตอนการกรอกข้อมูล และข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้


ติดต่อ "ประกันสังคม" ผ่านระบบ "SSO e-Service" หรือออนไลน์ www.sso.go.th 

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน

  • กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ
  •  
  • สามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th
  •  
  • ส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line)
  •  
  • รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th
  •  
  • มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคมสามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
  •  
  • ผ่านช่องทาง E-mail : info@sso1506.com
  •  
  • Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat
  •  
  • Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า - ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน

พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้ประกันตน"

สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนส่งเงินสมทบยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทุกกรณี

สามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่

  • ช่องทางระบบสมาชิกผู้ประกันตนในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
  •  
  • สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect
  •  
  • สอบถามผ่าน facebook Messenger ของ สำนักงานประกันสังคม
  •  
  • โทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส) แท้จริงแล้วเว็บไซต์ไม่ได้ล่ม เพียงแต่สำนักงานประกันสังคมได้ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค.ที่จากเดิมกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 6 จังหวัดและเพิ่มเติมเป็น 10 จังหวัด

รวมทั้งขยายประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือจากเดิม 4 เป็น 9 ประเภทกิจการ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับข้อมูล ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ที่มีรายชื่อทั้งหมดอยู่ในระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"อาชีพอิสระ" สมัครได้หลายช่องทาง

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและต้องการรับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท ได้สมัครมาตรา 40 นั้น ในเรื่องการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ

  • ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมให้ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยการออมในระยะยาวเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิต