• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#2941
หัวขับวาล์ว Sirca ทุกรุ่นปกติจะเป็นแบบ double acting actuator หรือทำงานด้วย ไป/กลับ ด้วยลม หากเราต้องการใช้งานแบบ single acting actuator พวกเราสามารถใส่สปริงเข้าไปที่หัวขับได้เลยครับผม โดยสปริงจะเป็นแท่งเล็กๆต่อ 1 ข้างจะสามารถใส่สปริงได้ 1-6 ชิ้นแล้วแต่รุ่น

หัวขับsirca เป็นหัวขับลมคุณภาพสูงจากประเทศ อิตาลี หัวขับลมยี่ห้อ เซอร์ก้า เป็นที่นิยมมากในประเทศไทย body aluminium anodize สีทองสวยงาม ในรูปจะประกอบกับ limit switch box valve position indicator 2SPDT เป็นแบบ dry contact 2 ชุดครับนำสัญญาณไปต่อใช้งานได้เลยครับผม





หัวขับลม sirca นี้มี 2 รุ่น คือ รุ่น AP และ รุ่น APM

AP series ที่มีการปรับเพียงครั้งเดียว อนุญาตให้ปรับจังหวะของลูกสูบในตำแหน่งเปิดได้ 90° ± 3° เท่านั้น

ส่วน APM series ที่มีการปรับสองครั้งช่วยให้ปรับจังหวะของลูกสูบในการปิดแล้วก็เปิดได้ ± 5°

การออกแบบชั้นวางลูกสูบคู่แล้วก็ปีกนกสำหรับโครงสร้างที่กะทัดรัด ลูกสูบติดตั้งแบบสมมาตร ออกแบบให้กะทัดรัดชิ้นเดียวที่มีตัวกล้องรวมทั้งฝาปิดเหมือนกันสำหรับรุ่น Double Acting และ Spring Return

ตัวอลูมิเนียมอัดขึ้นรูป มีให้เลือกปกป้องการกัดกร่อนสองแบบ ได้แก่ ชุบทองหรือชุบแข็ง ตัวเครื่องทั้งหมดถูกกลึงด้วยเครื่องจักรที่ควบคุมด้วย CNC เพื่อให้ได้คุณภาพรวมทั้งความแม่นยำสูงสุด

ฝาด้านหลังแล้วก็ลูกสูบทำมาจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ฝาท้ายถูกลงสี

ปีกนกทำจากโลหะผสมเหล็กชุบนิกเกิล ระบบป้องกันการระเบิดจะป้องกันไม่ให้ก้านหลุดออกจากตัวหัวขับลม

องค์ประกอบที่เคลื่อนที่ทั้งหมดมีวงแหวนหรือตลับลูกปืนกันการเสียดสีพิเศษ

สปริงทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยระบบห่อหุ้มเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างขั้นตอนการถอดประกอบของหัวขับลม

ตัวยึดสแตนเลสข้างในรวมทั้งข้างนอกเพื่อความทนทานต่อการกัดกร่อนในระยะยาว





สอดคล้องกับข้อกำหนดทางเทคนิค:
ISO 5211, DIN3337 รวมทั้ง VDI / VDE 3845 NAMUR
สำหรับความสามารถในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์แล้วก็การติดตั้งโซลินอยด์วาล์ว ลิมิตสวิตช์ และก็อุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ง่าย
ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร โรงงานเคมี โรงงานฟอกย้อม โรงงานพลาสติก โรงงานน้ำดื่ม น้ำผลไม้ โรงงานยาง อยู่ในส่วนของการเปิดปิดวาล์วน้ำในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเป็นระบบออโต้ ลดแรงงานคนได้

หัวขับลม sirca มีประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย มีชิ้นส่วนอะไหล่ให้เปลี่ยนอยู่หลายส่วนดังเช่น โอริงสำหรับหัวขับลม ฝาหัวท้ายสำหรับหัวขับลม สปริงสำหรับหัวขับลม และ rack and pinion

สามารถนำมาประกอบ.วาล์วได้อีกหลายรุ่น ยกตัวอย่างเช่น .วาล์ว2ทาง .วาล์ว 3ทาง .วาล์วหน้าแปลน รวมทั้ง.วาล์วยูพีวีซี ยิ่งกว่านั้นยังสามารถประกอบกับวาล์วปีกผีเสื้อ (บัตเตอร์ฟลายวาล์ว butterfly valve) ทั้งแบบ wafer type รวมทั้ง rug type แล้วก็แบบ flange type.



 
 
#2942


ปฏิเสธไม่ได้ว่าความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญของ "ร้านค้าออนไลน์" พ่อค้าแม่ค้าในแวดวงออนไลน์จึงต้องศึกษาหาข้อมูลทั้งในแง่กลยุทธ์การขาย การบริการ ช่องทางการขาย วิธีโปรโมทร้าน รวมถึงวิธีส่งเสริมความน่าเชื่อถือทางด้านกฎหมายด้วย ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องรู้คือ "จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์"

ทำไม? ต้อง "จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์"
มีข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น ก็เพื่อให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ จากการมีสถานะตัวตนทางกฎหมาย และเพื่อเป็นประโยชน์ในการทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่างๆ อีกทั้งยังจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอาศัยอำนาจตามกฎหมายทะเบียนพาณิชย์ กำหนดให้ผู้ขายสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต ทั้งเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์หรือ Social Media ต้องจดทะเบียนพาณิชย์การประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการแสดงตนอย่างเปิดเผยต่อทางราชการ


ประโยชน์ของการ "จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์"
นอกจากการจดทะเบียนฯ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ ต่ออาชีพ "ขายออนไลน์" ด้วย  ได้แก่

1. หลังจดทะเบียนฯ เจ้าของธุรกิจจะมีสิทธิ์ในการเข้ารับการอบรม ตามหลักสูตรที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด ถือเป็นโอกาสในการพัฒนาความรู้ด้านธุรกิจ การบริหารร้านค้า เรียนรู้เทคนิคการตลาดแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

2. ช่วยสร้างเครดิตให้กับ "ร้านค้าออนไลน์" ในสายตาของสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อเงินกู้ ยื่นขอกู้เงินทุนหมุนเวียน หรือแม้แต่การขอสินเชื่อเรื่องอื่นๆ ก็สามารถใช้ทะเบียนร้านค้าพาณิชย์เป็นหลักฐานประกอบการยื่นเอกสารทางการเงินได้เช่นกัน

3. ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐเก็บข้อมูลสถิติร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น รัฐจะได้สามารถดำเนินการตามนโยบายทางเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน, การช่วยเหลือผู้ประกอบการ, การสนับสนุนธุรกิจออนไลน์, การลงทุนต่างประเทศ ฯลฯ


หากไม่ "จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" มีสิทธิ์ถูกปรับ
ผู้ค้าออนไลน์ทุกคนจะต้องรู้จัก "ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2553 มาตรา 5" ซึ่งบังคับให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจ ดังต่อไปนี้ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่ กิจการที่มีการซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

หรือการบริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือบริษัทมหาชนจำกัดทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร)

ดังนั้น การขายสินค้าออนไลน์ จึงนับเป็นพาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับดังกล่าว


อีกทั้ง ผู้ค้าออนไลน์ต้องรู้จัก "พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499" เอาไว้ด้วย เนื่องจากเป็นกฎหมายที่กำหนดบทลงโทษไว้ในมาตรา 19 ที่ระบุว่า

หาก "ร้านค้าออนไลน์" ไม่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ หรือแสดงรายการเท็จ หรือไม่มาให้นายทะเบียนพาณิชย์สอบสวน ไม่ยอมให้ถ้อยคำ หรือไม่ยอมให้ทะเบียนพาณิชย์หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบนั้น จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และให้ปรับอีกวันละ 100 บาท จนกว่าจะจดทะเบียนแล้วเสร็จ

ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์?
1. ผู้ขายสินค้า/บริการ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และ Social Media

2. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP)

3. ผู้ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (WebHosting)

4. ผู้ให้บริการเป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้า/บริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต (E-Marketplace) เช่น Lazada Shopee ฯลฯ

โดยต้องขอจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มค้าขาย ผู้ค้าต้องทำเว็บไซต์ที่จะใช้ขายสินค้าให้เรียบร้อย เช่น ลงรูปสินค้า คำบรรยาย ราคา วิธีชำระเงิน และวิธีจัดส่งให้ครบถ้วน

ขั้นตอนการยื่นจดทะเบียนฯ และเช็กจุดให้บริการ
ผู้ขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์ สามารถเดินทางไปจดทะเบียนพาณิชย์ ณ สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามที่ตั้งของสถานประกอบการหรือตามที่อยู่ของผู้ขาย โดยเอกสารที่จำเป็น ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง สำเนาบัตรประชาชน รูปหน้าแรกของเว็บไซต์ (Print เป็นเอกสารเตรียมไปด้วย)

ส่วนขั้นตอนการยื่นจดทะเบียน และเอกสารสำคัญที่ใช้จดทะเบียนพาณิชย์เล็กทรอนิกส์  มีดังนี้

1. แสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมแจ้งว่ามาจดทะเบียนฯ

2. ขอเอกสารแบบคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)

3. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์(เอกสารแนบแบบ ทพ.) กรอก 1 ใบต่อ 1 เว็บไซต์

4. เตรียมเอกสารที่ Print หน้าแรกของเว็บไซต์

5. วาดแผนที่ตั้งการประกอบพาณิชยกิจ

6. หนังสือรับรองการจดทะเบียนของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท (กรณีจดในนามนิติบุคคล)

7. กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาจดแทน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

วิธีขอเครื่องหมาย "DBD REGISTERED" รับรองธุรกิจออนไลน์
เมื่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ผ่านขั้นตอนการยื่นจดทะเบียนฯ เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็สามารถขอใช้เครื่องหมายรับรองผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่าเครื่องหมาย "DBD Registered" ได้เลย โดยเครื่องหมายนี้มีประโยชน์คือ ใช้แสดงความมีตัวตนในการประกอบธุรกิจ e-Commerce โดยแสดงไว้บนหน้าเว็บไซต์ร้านค้าของคุณ และสามารถคลิกตรวจสอบข้อมูลความมีตัวตนมายัง www.trustmarkthai.com ได้


สำหรับช่องทางในการยื่นขออนุญาตใช้เครื่องหมาย "DBD Registered" สามารถแจ้งขอใช้เครื่องหมายฯ ได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0-2547-5960 หรือ เว็บไซต์ www.trustmarkthai.com หรือ ส่งเอกสารมาที่ e-Mail : e-commerce@dbd.go.th หรือ โทรสาร 0-2547-5973

NOTE : เครื่องหมายรับรองผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะมีอายุการใช้งานเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กรมอนุมัติให้มีกำหนดใช้

-------------------------

ที่มา : 

POST family

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
#2943
ทำไม  ข้าวกล้องออแกนิค   (SURIN Organic Rice)  ถึงดีกว่าข้าวทั่วๆไปที่ใช้สารเคมีอย่างไร ? ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ หรือ ข้าวออร์แกนิค (Organic Rice)  คือ ขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์ทีได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบการจัดการด้านการเกษตรแบบองค์รวมที่เกื้อหนุนต่อระบบนิเวศน์ วงจรชีวภาพ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในนา ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ ไม่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากการสังเคราะห์  สารเคที สารพิษ ยาฆ่าหญ้า ว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตของปลูกข้าวออแกนิค สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว ตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ และไม่ใช้พืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ที่ได้มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม หรือพันธุวิศวกรรม  เราเน้นปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการปลูกพืชหมุนเวียน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นาหรือจากแหล่งอื่น ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวโดยวิธีผสมผสานที่ไม่ใช้สารเคมี การเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่เหมาะสมมีความต้านทานโดยธรรมชาติ รักษาสมดุลของศัตรูธรรมชาติ การจัดการพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการของต้นข้าว เพื่อทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี มีความสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ การจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้เหมาะสมต่อการระบาดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว เป็นต้น มีการจัดการกับผลผลิตและผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาสภาพการเป็นเกษตรอินทรีย์ และคุณภาพที่สำคัญในทุกขั้นตอนการผลิตและการแปรรูปข้าวออแกนิคสำหรับทารก

 
ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องออร์แกนิคส่งทั่วไทย
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook : https://www.facebook.com/Hor.Product
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ  ข้าวกล้องอินทรีย์ส่งทั่วไทย
1.  ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก
2. ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
3. ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ขายข้าวสารหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคคือ
6.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลินิล
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค #ข้าวออแกนิก  #ข้าวอินทรีย์ #ข้าวสุขภาพ
#2944


"สสจ.นครสวรรค์" แจงปมป้าย"อนุทิน"มอบไฟเซอร์" ยืนยันไม่เคยใช้งาน สั่งเก็บก่อนรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ขอความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย อย่ามองเป็นการเมือง ถามเจตนาคนนำภาพไปแชร์ต้องการอะไรทั้งที่รู้แก่ใจ
ภายหลังมีภาพสาธารณสุข จ.นครสวรรค์ เตรียมต้อนรับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อมอบวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์

 

ล่าสุด นายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวกรณีมีภาพข่าวเรื่อง "ป้ายมอบวัคซีนไฟเซอร์" บนเวทีขณะนายอนุทิน มาตรวจเยี่ยมแผนการควบคุมโรคระบาด และให้กำลังใจคนทำงานเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของการเข้าใจที่คาดเคลื่อนของผู้ร่วมงาน และนำภาพที่ไม่เป้นความจริงทั้งหมดไปเผยแพร่ จนกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นและเป็นการเมืองเกินไป เนื่องจากป้ายดังกล่าวไม่ได้ใช้งานบนเวทีเลย

"เห็นว่าหากนำป้ายดังกล่าวมาติดบนเวที จะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง จึงสั่งเก็บป้ายก่อนที่รัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นชั่วโมง และก็เป็นเรื่องจริงๆซึ่งหมายความว่าตนที่อยู่ในงาน นำภาพป้ายออกไปเผยแพร่ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าป้ายไม่ได้ใช้ ซึ่งไม่ทราบว่าเจตนาเพื่ออะไร บุคลากรสาธารณะสุขไม่ใช่นักการเมือง แต่ถูกดึงเข้าไปยุ่งกับการเมืองด้วย"

นายแพทย์อดิสรณ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยตำหนิเจ้าหน้าที่ซึ่งทำป้ายดังกล่าวมาหวังให้กำลังใจ และสร้างสีสันบนเวทเข้าใจเจตนาดีว่าต้องการให้กำลังใจ รัฐมนตรีฯและรองนายกฯ เพราะคิดว่าคนระดับรองนายกฯเดินทางมาเยี่ยมเยือน ก็น่าจะให้กำลังใจกันแต่เมื่อทีมงานเห็นป้ายบนเวทีข้อความดังกล่าว

 

"เกรงว่าจะเป็นประเด็นการเมืองจึงสั่งปลดป้ายทันที ก่อนที่รัฐมนตรีจะเดินทางมานานนับชั่วโมงและไม่เคยใช้ป้ายนั้นอีกเลย ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีฯ คือท่านไม่ทราบเรื่องอะไรเลย ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกัน บุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่นักการเมือง เราไม่ยุ่งกับการเมืองแต่อย่างใด"

ขณะนี้บุคคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดนครสวรรค์มีขวัญกำลังใจดี ไม่เสียกำลังใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะว่าแพทย์ พยาบาล จะเสียกำลังใจไม่ได้ เนื่องจากคนไข้เข้ามารักษากันวันละ200-300 คน ทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ขอสังคมอย่ามองเป็นเรื่องการเมืองจนเกินพอดี

 

"ยืนยันไม่เคยใช้งาน สั่งเก็บก่อนรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ขอความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย อย่ามองเป็นการเมืองเกินไป ถามเจตนาคนนำภาพไปแชร์ต้องการอะไรทั้งที่รู้แก่ใจ"
#2945


การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ติดลบต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง โดยจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 ติดลบถึง 12.2% ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่ดีขึ้นเกือบอยู่ในระดับปกติ แต่การระบาดระลอกที่ 2 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ต่อด้วยการระบาดระลอกที่ 3 นับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีความรุนแรงมากขึ้นจนการระบาดระลอกนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึงวันที่ 8 ส.ค.2564 มีจำนวนถึง 727,642 คน

สถานการณ์ที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องทำให้รัฐบาลประกาศขยายพื้นที่กึ่งล็อกดาวน์จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด พร้อมกับการเตรียมงบประมาณสำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่มีโอกาสถดถอย และทำให้บางองค์กรเริ่มปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 เป็นติดลบแล้ว นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยสูงมาก ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมือให้ได้

หากดูประสิทธิภาพการบริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤติของรัฐบาลอาจทำให้มีความเชื่อมั่นลดลงต่อการรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งที่ผ่านมามีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะความผิดพลาดในการจัดหาวัคซีนที่หลายประเทศวางแผนอย่างเข้มข้นในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ที่จะจัดหาวัคซีนมาให้เพียงพอ ในขณะที่ประเทศไทยจัดหาวัคซีนได้ล่าช้าและปฏิเสธการพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของหลายฝ่ายที่เสนอแนวทางการเร่งนำเข้าวัคซีน

ประเทศไทยในขณะนี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนทั้งงบประมาณดำเนินการทำให้ต้องกู้เงินมาบริหารภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งขาดแคลนวัคซีนและอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ โดยถ้ามองย้อนไปปลายปี 2563 คงไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญประการหนึ่งในการบริหารบนสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ สมมติฐานในกรณีเลวร้ายที่สุดอย่าเพิ่งรีบตัดออกไป เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอหากสถานการณ์ยังไม่จบ

ลำพังการนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติการระบาดระลอกใหม่นี้ดูเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญสำหรับรัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อมาเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูงแล้วรัฐบาลจะนำพาประเทศให้พ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาการจัดหาวัคซีนที่เป็นเงื่อนไขสำคัญของการควบคุมการระบาดยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เมื่อใด รัฐบาลควรตระหนักถึงโอกาสที่ได้รับจากประชาชนแล้วใช้โอกาสที่ได้รับเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติให้ดีกว่านี้
#2946


วันนี้ (7ส.ค.64) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อโซเชียลว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น


กระทรวงแรงงาน ขอชี้แจงว่า จากการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ครอบคลุม 9 ประเภทกิจการ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่จะได้รับเงินเยียวยาเป็นเวลา 1 เดือน จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น ในเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการสมัครมาตรา 40 มีทั้งหมด 3 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ

ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท ต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี

ทางเลือกที่ 3 ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จ ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) หรือสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม

Lazada แจกฟรีคูปองส่วนลด* คลิกเลย!!!

ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคม ยังลดเงินสมทบได้ลดเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือนตั้งวันที่ 1 ส.ค. 64 -31 ม.ค. 2565 ให้แก่ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 เดิมจ่าย 70 บาท เหลือ 42 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 เดิมจ่าย 100 บาท เหลือ 60 บาทต่อเดือน และทางเลือกที่ 3 เดิมจ่าย 300 บาท เหลือ 180 บาท

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวยืนยันว่า การสมัครมาตรา 40 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ แต่อย่างใด และสิทธิที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ส่วนสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 แต่ละทางเลือกขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ผู้ประกันตนสมัคร

การสมัครมาตรา 40 เพื่อให้ได้มีหลักประกันทางสังคมจากรัฐบาล แรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคม จึงเร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อมีเงินออมในระยะยาว สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและอุดหนุนเยียวยาจากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐได้ในอนาคต

สำนักงานประกันสังคม ประกาศแจ้ง "แรงงานอิสระ" ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด สมัคร มาตรา 40 แล้ว ชำระเงินงวดแรกไม่ทันในเดือน ก.ค.64 ให้รีบจ่ายภายในวันที่ 10 ส.ค. นี้ เพื่อรับสถานะความเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิเยียวยา 5,000 บาท

ที่มา สำนักงานประกันสังคม และ กระทรวงแรงงาน
#2947


คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำโดย ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ได้ถอดบทเรียนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของหลายประเทศ ที่มีการทำงานที่น่าสนใจในการจัดหาวัคซีน ประกอบไปด้วยประเทศในอาเซียน 4 ประเทศ บราซิล และ อิสราเอล


ประสบการณ์ต่างประเทศในการจัดหาวัคซีน

สิงคโปร์ ถือว่าเป็นประเทศที่สามารถจัดหาวัคซีนได้รวดเร็วมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย โดยเป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดหาวัคซีนเชิงรุกอย่างแท้จริง โดยเริ่มจัดหาวัคซีนตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2563 ผ่านความร่วมมือของ "TxVax Panel" จัดตั้งโดย Economic Development Board (คล้ายสภาพัฒน์ฯ) นำโดยภาคเอกชน นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ศึกษาและคัดเลือกวัคซีนที่น่าสนใจ ก่อนจะส่งต่อให้ Planning Committee ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานและราชการที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ลงความเห็นว่าควรสั่งซื้อวัคซีนชนิดใด ถือเป็นการทำงานแบบ two-track (ในขณะที่ไทยทำแบบ one-track) 

สิงคโปร์ตัดสินใจลงนามสั่งซื้อวัคซีนเร็วมากคือสั่งซื้อ Moderna เดือนมิถุนายน 2563 Pfizer และ Sinovac ในเดือนสิงหาคม 2563 แต่ที่สำคัญคือ สิงคโปร์ไม่มีข้อจำกัดจากกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้สามารถสั่งจองวัคซีนที่อาจยังไม่ประสบความสำเร็จ และแม้จะยังไม่ได้รับการรับรองจาก Health Science Authority (คล้าย อย. ของไทย) เป็นการทำสัญญาสั่งจองวัคซีนล่วงหน้าไว้เป็นหลักประกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิงคโปร์จะได้รับวัคซีนในปริมาณที่มากและรวดเร็ว


อินโดนีเซีย มีการใช้การทูตช่วยเจรจาในระดับสูง มีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของคณะเจรจาจัดหาวัคซีน และใช้ประโยชน์ทาง Geopolitics โดยได้รับการบริจาคช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และยังได้เป็น Hub สำหรับผลิต Sinovac ในภูมิภาค

มาเลเซีย ผู้รับผิดชอบจัดหาวัคซีนคือ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นการแบ่งงานออกจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังเชื่อมโยงกันทำให้มีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น รัฐมนตรีคนนี้มีศักยภาพ เห็นได้จาก 

- สามารถจัดประชุมเพื่อจัดหาวัคซีนร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตั้งแต่ เดือนเมษายน 2563 ก่อนจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีน (JKJAV) อย่างเป็นทางการ 


- การสั่งวัคซีนได้รวดเร็ว เมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น โดยสั่งวัคซีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 และ 

- สื่อสารกับประชาชนตลอดเวลา เช่น ชี้แจงว่าทำไมมาเลเซียถึงฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน (สิงคโปร์ หรือ อินโดนีเซีย) หรือ แถลงแผนการกระจายวัคซีนที่ชัดเจน

ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีบริบทใกล้เคียงกับไทย ในเชิงที่ว่าเคยติดข้อจำกัดจากกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อจองวัคซีนได้ ยกเว้นว่าประธานาธิบดีให้ความเห็นชอบ และ "ปลดล็อค" ข้อจำกัดได้ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งช้ากว่าไทยเสียอีก แต่ฟิลิปปินส์สามารถจัดหาวัคซีนได้มากกว่าไทยพอสมควร

โดยปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้ฟิลิปปินส์จัดหาวัคซีนได้มาก คือ การที่เอกชนและรัฐบาลท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดหาวัคซีนอย่างมากและเริ่มมีบทบาทเร็ว เช่น การซื้อวัคซีน AstraZeneca ในเดือนพฤศจิกายน 2563 จำนวน 2.6 ล้านโดส นั้นเป็นการจัดซื้อของบริษัทเอกชนทั้งหมด เพื่อนำมาฉีดให้พนักงานและครอบครัว รวมถึงการซื้อวัคซีน AstraZeneca ในเดือนมกราคม2564 อีกกว่า 14 ล้านโดสที่เกิดจากเอกชนร่วมลงเงินกับรัฐบาลท้องถิ่น

อิสราเอล เป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับวัคซีน ปัจจัยหนึ่งมาจากการที่กระทรวงการคลัง ร่วมกับผู้นำทางการเมืองของอิสราเอลได้สงวนเงินจำนวนหนึ่งไว้เพื่อจัดหาวัคซีนโดยเฉพาะ อิสราเอลจึงพร้อมที่จะซื้อวัคซีน Pfizer ในราคาต่อโดสที่สูงกว่าสหภาพยุโรปเกือบเท่าตัว (23 ยูโร เทียบกับ 12 ยูโร)

นอกจากนี้ บริษัทยาต้องการที่จะใช้อิสราเอลเป็นพื้นที่วิจัยและประเทศแบบอย่าง เนื่องจากระบบสาธารณสุขและระบบข้อมูลมีความพร้อม โดยข้อมูลทางการแพทย์ที่อิสราเอลเก็บและส่งให้กับบริษัท Pfizer ประกอบด้วย จำนวนการติดเชื้อและการฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงที่พบในผู้ที่ฉีดวัคซีน ประสิทธิภาพของวัคซีน ระยะเวลาพัฒนาภูมิคุ้มกัน ตลอดจนข้อมูลประชากรของผู้ป่วย เช่น อายุและเพศ เป็นต้น บริษัท Pfizer สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการตั้งกลยุทธ์การขาย และการวิจัยพัฒนาวัคซีน การเตรียมการล่วงหน้าและความพร้อมของระบบสาธารณสุขและระบบข้อมูลของอิสราเอลเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อิสราเอลสามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว

บราซิล  ใช้หน่วยงานรัฐและสาธารณสุขที่กระจายกันเจรจาจัดซื้อวัคซีนกับผู้ผลิตโดยตรง ประกอบกับมีแผนงานและข้อกฎหมายที่สามารถรองรับมาตรการฉีดวัคซีนอยู่ก่อนแล้ว ทำให้บราซิลมีการเจรจาการจัดซื้อวัคซีนได้หลากหลายเจ้าและมีการจัดการวัคซีนที่ค่อนข้างรวดเร็ว เห็นได้จากการในช่วงแรกของการระบาดบราซิลมีการสั่งซื้อวัคซีนและร่วมมือผลิตวัคซีนภายในประเทศกับ Sinovac และ AstraZeneca ทำให้สามารถฉีดวัคซีนในเข็มแรกได้ครอบคลุมประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ บราซิลก็ปรับเปลี่ยนแผนการจัดซื้อวัคซีนค่อนข้างรวดเร็ว โดยเพิ่มความหลากหลายของวัคซีน 


 


จากข้อสรุปการจัดหาวัคซีนของประเทศต่างๆที่หยิบยกมาจะพบว่าทุกประเทศ (ยกเว้นอิสราเอล) ได้รับวัคซีนมากกว่า 2 ชนิดก่อนไทย และทุกประเทศ (ยกเว้นอิสราเอลและสิงคโปร์) ได้รับวัคซีนผ่านช่องทางCOVAX และเริ่มได้รับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ขณะที่ไทยเพิ่งจะมีวัคซีน 3 ชนิดในเดือน มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา

หลายประเทศในอาเซียนได้รับวัคซีนบางชนิดที่คนไทยหลายคนเรียกร้อง (วัคซีนไฟเซอร์และโมเดิร์นนา) เร็วกว่าหรือในปริมาณมากกว่าประเทศไทย ในขณะที่ในประเทศไทยมีการอธิบายมาตลอดว่าที่หาวัคซีนดังกล่าวไม่ได้เพราะปริมาณการผลิตของบริษัทมีจำกัด ถูกประเทศร่ำรวยซื้อไปจนหมดแล้ว ไม่เหลือให้ประเทศอื่นเท่าไร ทำให้ไทยไม่ได้สั่งซื้อวัคซีนกลุ่มนี้ในตอนแรกในขณะที่หลายประเทศสั่งก่อนหน้า แต่ในระยะหลังที่ประเทศที่มีรายได้ใกล้เคียงไทยเริ่มได้รับวัคซีนกลุ่มนี้ด้วยก็น่าจะแสดงถึงจุดอ่อนในกระบวนการจัดหาวัคซีนของไทย

"ในความเป็นจริงก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะการจัดหาวัคซีนน่าจะมี 'เทคนิค' และ 'ลูกเล่น' มากกว่าเพียงการติดต่อและถามตรงๆ กับผู้แทนบริษัทวัคซีนว่า 'คุณมีวัคซีนพอให้เราจองไหม' และเมื่อเขาบอกว่าไม่มีทางเราก็ยอมแพ้และเลิกติดต่อ ในขณะที่หากเป็นนักธุรกิจที่ต้องการซื้อสินค้าที่เขาคิดว่าจำเป็นมากก็มักจะสรรหาช่องทางต่างๆ หรือใช้เทคนิคการเจรจาที่หลากหลายเพื่อให้ได้มา นอกจากนี้กรณีวัคซีนยังเกี่ยวข้องกับการเมืองระดับประเทศและระดับโลกด้วย เราก็ควรรู้จักใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อให้ได้วัคซีนมามากขึ้นผ่านช่องทางการทูตเช่นกัน"

ข้อสังเกตสำคัญบางประการในการจัดหาวัคซีน 

1.ทีมจัดหาวัคซีนในเกือบทุกประเทศมีองค์ประกอบมากกว่าบุคลากรด้านการแพทย์ละสาธารณสุข หลายประเทศมีกระทรวงต่างประเทศ (กรณีประเทศไทย กระทรวงต่างประเทศเริ่มเข้ามาช่วยจัดหาวัคซีนอย่างไม่เป็นทางการในระยะหลังเท่านั้น ยังถือเป็น 'งานฝาก') สิงคโปร์มีหน่วยงานวางแผนด้านเศรษฐกิจ (คล้ายสภาพัฒน์ฯ ของเรา) มีส่วนร่วมซึ่งน่าจะทำให้มีมุมมองด้านเศรษฐกิจมากขึ้น บางประเทศให้รัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ มีเพียงประเทศอิสราเอลที่การจัดหาเป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่เนื่องจากทีมแพทย์อิสราเอลมีประสบการณ์บริหารในสถานการณ์วิกฤติบ่อยครั้งน่าจะทำให้ประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้านมากกว่า ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีอิสราเอลมีบทบาทสูงในการเจรจากับบริษัทไฟเซอร์จนทำให้อิสราเอลเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้วัคซีนจากไฟเซอร์ในจำนวนมากและน่าจะเร็วที่สุดในโลก 

2.เกือบทุกประเทศเปิดช่องทางการจัดหาวัคซีนที่มากกว่าทีมจัดหาหลัก ไม่ว่าจะเป็นให้รัฐบาลท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และที่สำคัญคือ ภาคเอกชนมีบทบาทโดยตรงในการนำเข้าวัคซีนได้ แต่มักไม่ใช่วัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดหา หรือถ้าจัดหามาได้ก็ต้องกระจายวัคซีนตามลำดับความสำคัญที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งตรงกับข้อเสนอแนะ TDRI ที่กล่าวถึงก่อนหน้า

3.การมีโรงงานผลิตหรือบรรจุวัคซีนได้ในประเทศมีส่วนช่วยในการได้มาซึ่งวัคซีน แต่คาดว่าไม่ได้มีผลมากนัก ตัวอย่างเช่น อิสราเอลซึ่งไม่มีโรงงานในประเทศเลยแต่สามารถจัดการวัคซีนได้เร็วที่สุด การเจรจาและหาช่องทางที่หลากหลายในการได้มาซี่งวัคซีนน่าจะสำคัญกว่า

4.มีบางประเทศติดขัดปัญหาข้อกฎหมายในการจองหรือจัดหาวัคซีน แต่ส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาได้ในเวลาใกล้เคียงกับประเทศไทย (ฟิลิปปินส์แก้ปัญหาได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563 หนึ่งเดือนหลังประเทศไทย) เร็วกว่า (อินโดนีเซียออกคำสั่งประธานาธิบดีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563) หรือช้ากว่า (บราซิลที่ต้องรอถึงมีนาคม 2564 จึงแก้ปัญหากฎหมายประมูลสินค้าได้) อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มีการสั่งซื้อวัคซีนอย่างกระฉับกระเฉงเร็วกว่าไทยหลังจากแก้ปัญหาเชิงกฎหมายดังกล่าวแล้ว

ข้อเสนอแนะสำหรับประเทศไทย

ประเทศไทยควรใช้บทเรียนจากประสบการณ์ต่างประเทศที่กล่าวถึงข้างต้นในการปรับกระบวนทัพการจัดหาวัคซีน ดังนี้

1.'สร้าง'ทีมจัดหาวัคซีนใหม่ที่มีความหลากหลายมากกว่าปัจจุบันที่เป็นเพียงแพทย์เท่านั้น โดยควรมีทั้งกระทรวงต่างประเทศ ทูต บุคคลากรสาธารณสุข โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่นกระทรวงต่างประเทศสามารถมีส่วนร่วมเต็มตัวไม่ใช่ทำหน้าที่แบบ 'งานฝาก' เหมือนทุกวันนี้

2.หรือ'เสริม' ทีมจัดหาวัคซีนปัจจุบัน (ระบบ two-tracks แบบสิงคโปร์) ให้มีความหลากหลายมากขึ้นดังกล่าวข้างต้น

3.ทีมจัดหาวัคซีนต้องมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ไม่ติดระบบราชการมากเกินไป

4.การซื้อวัคซีนไม่จำเป็นต้องซื้อจากบริษัทเสมอไป แต่อาจขอซื้อจากประเทศที่จองไปแล้วแต่เหลือใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะจองมากเกินแต่ประชาชนเขาไม่อยากฉีดยี่ห้อที่จอง

5.นอกจากการหาซื้อวัคซีนที่ผลิตสำเร็จแล้ว ยังควรทำการจองวัคซีนที่ใกล้ประสบความสำเร็จแต่ยังไม่ผ่านการรับรอง โดยต้องสื่อสารกับประชาชนให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจสูญเงินจองถ้าวัคซีนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ วิธีนี้จะทำให้คิวจองของเราไม่ยาวเกินไป

6.อาจทำการ'แลกเปลี่ยน' วัคซีนที่บางประเทศเหลือฉีดโดยขอยืมมาก่อนแล้วอาจซื้อคืนให้ทีหลัง (โดยใช้โควตาการซื้อที่เรามีอยู่แต่ได้มาช้า) 

และ 7.ใช้กลวิธีทางการทูตทุกลักษณะและในเชิงรุก ในการขอซื้อหรือขอรับบริจาคจากมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทย
#2948


นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในภาวะวิกฤตโควิด-19 ว่า  ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิดมาโดยตลอดรวมทั้งพาณิชย์จังหวัดก็เป็นกลไกสำคัญที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบในแต่ละพื้นที่

ส่วนปัญหาโรงงานที่กำลังประสบปัญหาว่าจะต้องถูกปิดโรงงานหลังจากพบว่ามีแรงงานติดโควิดนั้นว่า ต้องขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดว่า ขอให้รับฟังความเห็นของภาคเอกชนด้วยในกรณีที่โรงงานประสบปัญหาเรื่องโควิดหากจำเป็นต้องปิดโรงงาน ก็ขอให้ปิดเฉพาะในส่วนที่มีปัญหา ไม่ต้องการให้มีการปิดทั้งโรง เพราะจะกระทบต่อการผลิต ทั้งปริมาณสินค้าในประเทศและการส่งออก


นอกจากนี้กรณีโรงงานที่ปิดทั้งโรงไปแล้ว หากมีหน่วยการผลิตไหนแก้ปัญหาจบแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อนุญาตให้เปิดได้เป็นส่วนๆ ไป ไม่จำเป็นต้องรอให้แก้ปัญหาจบทั้งโรงงาน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สินค้าในประเทศขาดแคลนและไม่ให้การส่งออกติดขัด รวมทั้งขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกกรณีการขนส่งสินค้าข้ามจังหวัด เพราะก็เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งอีกเรื่องหนึ่งสำหรับการที่จะต้องมีสินค้าให้บริการกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

 ด้านนายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้จัดจำหน่าย ทั้งห้างและร้านสะดวกซื้อสถานการณ์จากผู้ผลิตทุกรายยืนยันว่ากำลังการผลิตเพียงพอต่อการความต้องการในประเทศ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาแรงงาน แต่ก็เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน

 "ห้างต่างๆที่เป็นจุดจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค กรมการค้าภายในได้กำชับขอความร่วมมือให้ปรับปรุงระบบโลจิสติกส์เพื่อรองรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยต้องเติมสินค้าเข้าตลอดเวลาเพราะฉะนั้นในบางช่วงเวลาอาจมีความตื่นตระหนกจากผู้บริโภคบ้าง ที่จะระดมกันไปซื้อเป็นบางช่วงเวลา  แต่ก็ไม่ขาดแคลน ร้านสะดวกซื้อก็เป็นจุดหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำชับว่าให้เติมสินค้าไม่ให้ขาด ขอยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอ ไม่มีปัญหาแน่นอน"
#2949


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ส.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,064.25 จุด เพิ่มขึ้น 271.58 จุด หรือ +0.78% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,429.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือ +0.60% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,895.12 จุด เพิ่มขึ้น 114.58 จุด หรือ +0.78%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน แม้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 469.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด หรือ +0.37%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,781.19 จุด เพิ่มขึ้น 34.96 จุด หรือ +0.52% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,744.67 จุด เพิ่มขึ้น 52.54 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1.20% ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,808.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 16.9 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 25.292 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 15.6 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 1,005.7 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,655.10 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และเปิดเผยแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 92.2534 เมื่อคืนนี้

เงินปอนด์แข็งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3932 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3887 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1835 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1838 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7404 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7382 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.75 เยน จากระดับ 109.46 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9061 ฟรังก์ จากระดับ 0.9063 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2494 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2551 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,064.25 จุด เพิ่มขึ้น 271.58 จุด, +0.78%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,429.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด, +0.60%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,895.12 จุด เพิ่มขึ้น 114.58 จุด, +0.78%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด, -0.048%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,781.19 จุด เพิ่มขึ้น 34.96 จุด, +0.52%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,744.67 จุด เพิ่มขึ้น 52.54 จุด, +0.33%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 54,492.84 จุด เพิ่มขึ้น 123.07 จุด, +0.23%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,205.42 จุด เพิ่มขึ้น 46.38 จุด, +0.75%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,495.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด, +0.30%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,547.27 จุด ลดลง 37.94 จุด, -0.58%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,175.10 จุด ลดลง 7.80 จุด, -0.25%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,204.69 จุด ลดลง 221.86 จุด, -0.84%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,466.55 จุด ลดลง 10.67 จุด, -0.31%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,603.12 จุด ลดลง 20.77 จุด, -0.12%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,276.13 จุด ลดลง 4.25 จุด, -0.13%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,728.12 จุด เพิ่มขึ้น 144.04 จุด, +0.52%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,511.10 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด, +0.11%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,779.60 จุด เพิ่มขึ้น 0.90 จุด, +0.01%
#2950


ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการ "Survival Audition" ที่มีกติกาและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเด็กสาวที่ฝันอยากเป็นไอดอลมาร่วมรายการแบบเฉพาะตัว โดยให้สิทธิ์ขาดในกรรมการคนเดียวชี้ชะตาเด็กสาวผู้มีฝันว่าใครจะรอดหรือร่วง! ทำให้วันอาทิตย์ที่ผ่านมารายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD ถูกจับตามองเรื่องการเกณฑ์ในการคัดเลือกของกรรมการที่มาร่วมรายการในแต่ละครั้ง

รูปแบบของ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" เน้นเฟ้นหาเด็กสาวธรรมดาที่มีออร่า ไม่จำเป็นต้องร้องเก่ง เต้นดี แต่ต้องมีเสน่ห์บางอย่างประกายออกมาในระหว่างที่พวกเธอวาดลีลาบนเวที โดยทางรายการจะคัดสมาชิกชั่วคราว 7 คน และให้ผู้ท้าชิงเลือกเอาว่าต้องการจะแข่งขันกับสมาชิกชั่วคราวคนไหน เมื่อโชว์ของทั้ง 2 คนจบลง ทางรายการจะประกาศหมายเลขที่กำหนดเอาไว้ว่าสัปดาห์นี้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลขไหนเป็นผู้ตัดสิน เช่น ทางรายการกำหนดให้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลข 3 เป็นผู้ตัดสินว่าจะให้ สมาชิกชั่วคราว หรือ ผู้ท้าชิง จะได้ไปต่อในรายการ ถ้าสัปดาห์นั้นผู้ท้าชิงสามารถชนะใจกรรมการได้ สมาชิกชั่วคราวคนนั้น ๆ ก็ต้องออกจากรายการไป แต่ถ้ากรรมการคนนั้น ๆ เทใจให้สมาชิกชั่วคราวมากกว่า ผู้ท้าชิงก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป ด้วยกติกาที่ยกสิทธิ์ขาดในการตัดสินให้กับกรรมการเพียงคนเดียว

เรียกว่าคนที่จะได้ไปต่อในรายการนี้ "เก่งอย่างเดียวไม่พอ ดวงต้องรุ่ง" ด้วย ขณะเดียวกันก็ยังสร้างภาระอันหนักอึ้งให้กับกรรมการมาแล้วหลายต่อหลายคน เช่น สัปดาห์ที่นางเอกสาวมากฝีมือ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ มาเป็นกรรกมการ เจ้าตัวถึงขั้นปาดน้ำตามาแล้ว หลังเธอแจ็กพ็อตต้องทำหน้าที่กรรมการติดต่อกัน 2 ครั้งรวด ดังนั้นไปฟังความรู้สึกของกรรมการหลาย ๆ คนที่เคยผ่านช่วงเวลาอันสุดโหดกันดีกว่าว่าพวกเขามีเกณฑ์ในการเป็นกรรมการให้กับ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" นั้น

เริ่มที่ หนึ่ง ETC กล่าวว่า "การเป็นกรรมการรายการนี้ก็ไม่ได้สนุกนะ เครียด กดดัน แต่ก็อยากมาอีก เพราะในความเครียดความกดดันมันมีเสน่ห์บางอย่างของรายการที่รู้สึกว่าไม่เหมือนการประกวดที่ไหน ทำให้เราได้เห็นคนหลาย ๆ แบบและได้ลองวิเคราะห์คนที่แตกต่างกันไป ในช่วงเวลาที่น้อง ๆ ร้องเพลงให้เราฟัง พยายามรับสารที่เขาต้องการส่งมาถึงเราให้มากที่สุด เพราะเราต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน เพราะว่าบางคนอาจร้องเพี้ยนทั้งเพลง แต่ทัศนคติดี คาริสม่าได้ คุณสมบัติของไอดอลที่จะมัดใจผมได้ ต้องมีความเป็นธรรมชาติ มีพลังงานบวกในตัว คนเหล่านี้เวลาเจอสถานการณ์ที่บีบคั้นจะทำให้เรารู้เลยว่าเขามีทัศนคติที่ดีอย่างไรในสถานการณ์ที่กดดัน รายการนี้ ไม่ได้มองหาคนที่เก่งที่สุดอยู่แล้ว แต่เรามองหาคนที่พร้อมจะพัฒนาต่อครับ"

ฟาก แทน ลิปตา เผยว่า "สำหรับมองว่าคนที่จะเป็นไอดอลได้ ผมมองหาสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า "X Factor" เป็นปัจจัยที่บางครั้งเราไม่สามารถหาคำจำกัดความได้ มันคือประกายหรือเสน่ห์ในตัวน้อง ๆ รายการนี้ไม่ใช่รายการประกวดการเต้นหรือร้องเพลง ที่เราจะมาจับผิดเสียงร้องน้องว่าเพี้ยนตรงไหนไหม แต่มันมากกว่าการร้องเพลงดีหรือเต้นเก่ง มันคือการทำให้คนอื่นรักเรา เรามอบความสุขให้เขามากแค่ไหน สำหรับผมชอบคนที่ทัศนคติดี ซึ่งผมมักจะเห็นในไอดอลที่เก่ง ๆ ได้รับความนิยมสูง ๆ ครับ กับหน้าที่กรรมการในรายการนี้ ผมต้องพยายามมีสติกับตัวเอง ระมัดระวังคำพูด ต้องใช้ประสบการณ์และ feeling เพื่อมาดูว่าใครควรจะได้ไปต่อ รายการนี้โหดมาก ถ้าสติไม่อยู่กับตัวมันมีโอกาสที่จะเป็นประเด็นดราม่าได้ครับ"


ด้าน หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ กล่าวว่า "ก่อนมาอัดรายการคิดว่าน่าจะเป็นรายการไอดอลน่ารักสนุกสนาน ไม่คิดว่าทุกอย่างจะเข้มข้น ดุเดือดแบบนี้ รายการนี้ไม่ใช่ว่าคุณร้องเก่งเต้นเก่งแล้วคุณจะได้ตำแหน่งนั้น แต่มันคืออะไรบางอย่างที่เรารู้สึกแล้วมันมากระแทกใจเรา จริง ๆ หนูนาก็เคยผ่านการเป็นกรรมการต่าง ๆ มาบ้าง แต่รายการนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา ยากและกดดันมาก ด้วยความที่ทั้งหมดมันคือความใฝ่ฝันของพวกเขา น้อง ๆ อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่เราต้องเป็นคนที่ตัดสินชี้ชะตาของเขา ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมด เราไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือทำผิด แต่เราคือคนที่ต้องทำตรงนั้น เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบของเราตรงนี้มันหนักมากค่ะ"

ต่อกันที่ ณัฐ วง "เคลียร์" เผยว่า "จริง ๆ ตอนแรกก็ลังเล แต่ก็อยากลองมาสัมผัสอีกโลกหนึ่งที่ใกล้ตัวแต่เรายังไม่เคยได้ก้าวเข้าไป เกณฑ์การตัดสินจะเป็นเรื่องคาริสม่ามากกว่าการร้องและเต้นดี ผมเน้นไปตรงที่ใครที่ให้ความสุขเราได้มากกว่าเวลาที่เขาอยู่บนเวที บางคนร้องเพี้ยนแต่ทำไมน้องคนนั้นทำให้เราขนลุกได้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจริง ๆ มันต้องมาสัมผัสเอง ผมขอเรียกว่า "เสน่ห์" แล้วกัน ถามว่าผมใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสิน มันไม่มีมาตรฐานอะไรทั้งสิ้น มันมีรายละเอียดหลาย layer มากในการที่จะเลือกตัดสิน อย่างผมเองก็แทงสวนกับกรรมการหลายคนไป 2-3 รอบเหมือนกัน แต่พอเรามาคุยกันเราก็จะรู้ว่ากรรมการแต่ละคนอาจมองคนละมุมกัน มีความชอบต่างกัน บางทีก็มีเรื่องดวงมาประกอบด้วย แต่สำหรับผมนอกจากจะมองหาน้อง ๆ ที่มอบความสุขให้ผู้ฟังได้แล้ว ผมยังมองหาความเป็นนักสู้ในตัวของพวกเขาครับ"



ฟาก โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม กล่าวว่า "รายการนี้เขาเน้นดูที่คาริสม่ากับคาแร็คเตอร์ว่าเขาชัดเจนมากแค่ไหนค่ะ สำหรับโบคิดว่าคนที่จะมาเป็นไอดอลต้องมีเซอร์วิสมายด์ ที่จะเติมตัวเองเต็มและมอบให้กับคนอื่น นอกจากนี้ต้องมีความเป็นนักสู้ มันมาด้วยการฟาดฟันกัน ไม่ว่าจะออกมาหน้าจอหรือหลังจอมันมีกระบวนการที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถามว่าการเป็นกรรมการในรายการนี้เป็นยังไงบ้าง คือน้ำตาจะไหล กดดันมาก มันคือความฝันของเขา เหมือนเราไปทำลายความฝันของเขา โบเชื่อว่ามันยังไม่เป็นการเดบิวต์ เราให้โอกาสอีกคนด้วย เราพยายามทำเพื่อให้ ลาสต์ ไอดอล ดีขึ้นจริง ๆ ภาพรวมของวงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสมบัติที่โบมองหาในตัวน้อง ๆ คือ ทัศนคติที่ดี ความมีเสน่ห์มีออร่า อย่างโบเป็นคนร้องเพลงเพี้ยน ไม่ได้เต้นเก่ง โบรู้ว่าเรื่องพวกนี้ฝึกกันได้ค่ะ"


ปิดท้ายกันที่ มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ เผยว่า "มดไม่เคยเป็นกรรมการตัดสินใด ๆ มาก่อน แต่พอเป็น "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" มดเชื่อว่าเราสามารถเอาประสบการณ์ในการเป็นนักร้องของเรามาใช้ได้ เรารู้ว่าการที่จะแสดงให้คนรู้สึกสนุกไปกับเรา ต้องทำยังไง รายการนี้เป็นกลุ่มเด็กไอดอล มดรู้สึกว่าคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพื่อให้คนรู้สึกว่าฉันชอบคนนี้เพราะคาแร็คเตอร์แบบนี้ มันจะยิ่งดึงคนได้มากกว่าเดิม แต่ด้วยกติกาการตัดสินของรายการนี้ไม่เหมือนรายการอื่น ๆ มดว่าอยู่ที่ดวงด้วย เพราะกรรมการไม่ได้ประชุมเพื่อหามติส่วนข้างมากเป็นหลัก รายการนี้เขาให้กรรมการคน ๆ เดียวตัดสิน แล้วตัวกรรมการก็ยังต้องจับลูก.นำโชคเลย รายการนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ มดว่าการจะเป็นไอดอลได้ นอกจากบุคลิกภาพจะต้องดี มีเสน่ห์ ก็มีเรื่องดวงด้วย มันเหมือนจังหวะชีวิตของคนว่าเขาจะได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ไหมค่ะ"

ติดตามชม "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.30-13.30 น. ทางช่อง 7 HD
#2951
 


Kato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ PremiereKato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Premiere

หลักสูตร สอนเฟสบุ๊ค ตัวต่อตัว/กลุ่ม [พื้นฐาน-ขั้นสูง] [10.00-16.00น.] ไม่เป็นไม่กลับ
- สอนพื้นฐานของเฟสบุ๊ค และการตั้งค่าต่างๆที่ควรรู้ ก่อนทำธุรกิจ
- สอนสร้างเพจเฟสบุ๊คยังไงให้น่าโดนใจกลุ่มเป้าหมาย
- สอนเช็คข้อความและรูปภาพใน Facebook ลดปัญหาการทำงานที่เสียเวลา
- รู้ทันกับกฎระเบียบต่างๆในการสร้างโฆษณาเฟสบุ๊ค 
-  วิธีการนำเพื่อนหรือ พนักงานเข้ามาช่วยบริหารในเพจเฟสบุ๊ค ลดความเสี่ยงจากการโดยยึดเพจ
- สอนการสร้างบัญชีธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้บัญชีส่วนตัวในการยิง เลี่ยงการถูกปิดบัญชี
- สอนวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายด้วยสถิติ [ผู้สอนจบโทด้านงานวิจัยสถิติโฆษณาโดยตรง]
 - สอนดูคู่แข่งเพื่อมาวิเคราะห์ และพัฒนาสินค้าของตัวเองอย่างมืออาชีพ
- สอนสร้างกลุ่มเป่าหมาย แบบตีวง ล้อมคอก เพื่อเผด็จศึก
- สอนสร้างกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ
- สอนการยิงแอดเฟสบุ๊คแบบ การมีส่วนร่วม, การเพิ่มยอดไลค์, วีดีโอและข้อความ เชิงลึกแบบเป็นระบบ วิเคราะห์เห็นภาพ
- สอนยิงแอดแบบไม่ให้คู่แข่งดึงข้อมูลของเราได้
- สอนการสร้างกลุ่มเป้าหมาย การตั้งค่ายิงแอดบน Instagram
- A/B Testing (การทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพการเข้าถึงของโฆษณา)
- สอนสร้าง Lookalike Audience เพื่อหาลูกค้าที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน เชิงสถิติ
- การวางแผน สร้างระบบข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot) ในกล่องข้อความเฟสบุ๊ค
- วิธีใช้ เครื่องมือสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot)เพื่อปิดการขาย
- วิธีการตั้งค่าการชำระเงิน /การออกใบเสร็จรับเงิน จากเฟสบุ๊ค
- สอนให้วิเคราะห์เพจของผู้เรียนแบบมืออาชีพ แบบยั่งยืนไม่โดนหลอก
- Workshop เพื่อศึกษาสินค้าหรือ วิเคราะห์สินค้าว่ามีส่วนไหนที่ควรพัฒนา

หมายเหตุ :การสอนอาจจะเลยเวลาที่กำหนด เพื่อประโยชน์ของผู้ลงเรียน

Facebook :https://www.facebook.com/katostock
- สอนตัวต่อตัว / กลุ่ม / ออนไลน์
- หลังจบ สามารถโทรปรึกษาได้ตลอด
ประวัติผู้สอน
ตรี-ออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
โท-จิตวิทยาการสื่อสาร & โฆษณา
ประสบการณ์ด้านการตลาด-โฆษณา-ผลิต 20 ปี
ผลงานผู้สอนคลิก : https://katoacademy.com/profile_kato

วัตถุประสงค์ของผู้สอนในการเปิดสอน ?
1. ต้องการผลัดดันผู้ที่เรียน หรือผู้ประกอบการ นำเครื่องมือต่างๆมา สร้างผลงานใหม่ๆ หรือสินค้าใหม่ๆ
2. เพื่อต้องการให้ผู้เรียนในแต่ละคอส ได้คิดนอกกรอบ มากกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโปรแกรมที่สอน
3. เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาองค์กร ด้วยระบบความคิดที่เป็นกระบวนการ

#สอนเฟสบุ๊ค #สอนเฟสบุ๊คตัวต่อตัว #สอนการตลาดออนไลน์ #สอนถ่ายรูป #สอนโฟโต้ช๊อป


 

 

 
 
#2952


นางสาวสุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) มีหนังสือลงวันที่ 4 ส.ค.2564 โดยใช้อำนาจมาตรา 58 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ให้ผู้บริหารบริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ในหนังสือ

บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจาก สำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว โดยจะดำเนินการชี้แจงโดยละเอียดตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยขอให้ข้อมูลเบื้องดันได้ดังนี้

1. บริษัทฯ "ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญาหรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม" ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐเพื่อร่วมกันนำเข้าวัคชีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

2. บริษัทฯ ไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน

3. วัคชีนจำนวน 20 ล้านโดสที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทฯ ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคชีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อนึ่ง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า "แม้บริษัทฯ ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการสั่งซื้อวัดซีนโควิด 19 ตามกำหนดของรัฐ" แต่เป็นการ ทำหน้าที่ในฐานะเอกชนและพลเมือง ที่ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว
#2953


นับเป็นอีกหนึ่งข่าวอื้อฉาวสนั่นวงการ ไม่ต่างจากคราวของ 'เจิ้งส่วง' เลยทีเดียว สำหรับกรณีของ 'คริส วู' (Kris Wu) หรือ 'อู๋อี้ฟ่าน' (吴亦凡) ที่เมื่อช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้กลายเป็นประเด็นร้อนเกี่ยวกับคดีล่อลวง-ล่วงละเมิดทางเพศ โดยล่าสุดหลังจากที่ดาราหนุ่มถูกตำรวจควบคุมตัวเพื่อนำไปสอบสวนเพิ่มเติมและเริ่มมีหลาย ๆ แพล์ตฟอร์มของจีนได้ทยอยออกมาลบข้อมูลทั้งหมดของ 'คริส วู' ออกจากระบบ ก็ทำให้ชาวเน็ตจีนจำนวนมากเกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตของซีรีส์ "บันทึกปิ่น" ที่นำแสดงโดย 'คริส วู' และ 'หยางจื่อ' ว่าจะเป็นอย่างไรกันต่อไป...

เรียกได้ว่านับวันข่าวคราวเรื่องคดีความของ 'คริส วู' ก็ยิ่งมีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ 'คริส วู' ถูกตำรวจจากสถานีเฉาหยางในกรุงปักกิ่งควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมในวันที่ 31 ก.ค. วันถัดมาทางแพล์ตฟอร์ตสื่อมีเดียต่าง ๆ อาทิเช่น QQ Music, NetEase Music, KuGou Music, iQIYI ฯลฯ ได้ทยอยออกมาทำการลบข้อมูลเพลงและนักร้องของ 'คริส วู' ออกจากระบบทั้งหมด นอกจากนั้นช่องทางบนโลกโซเชียลของ 'คริส วู' ทั้งแอคเคาน์เว่ยป๋อ (Weibo) ของเจ้าตัวและสตูดิโอ รวมถึง Douyin (Tiktok ของฝั่งจีน) ต่างถูกระบบระงับการใช้งานไปแล้วทั้งสิ้น

ไม่เพียงแค่นั้นห้อง Super Topic บนเว่ยป๋อในชื่อของ 'อู๋อี้ฝาน' ซึ่งเหล่าแฟนคลับเคยใช้เป็นพื้นที่พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ 'คริส วู' ก็ได้ถูกลบออกจากระบบ อีกทั้งซ้ำร้ายยังมีการทยอยปิดกลุ่มแฟนคลับ 'คริส วู' รวมถึงแอคเคาน์ที่เกี่ยวข้องไปแล้วเกือบหนึ่งพันบัญชีอีกด้วย


หลังจากข่าวอื้อฉาวต่าง ๆ นานาของ 'คริส วู' ได้ถูกเผยแพร่ออกมา สถานการณ์ของพีเรียดจีน "บันทึกปิ่น" หรือ "The Gloden Hairpin" (青簪行) ซึ่งเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกในชีวิตของ 'คริส วู' ที่ได้มาประกบคู่กับ 'หยางจื่อ' (杨紫) และกำลังรอออกอากาศฉายอยู่นั้น ก็ไม่วายได้รับความสนใจและถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องจากบรรดาคอซีรีส์และแฟน ๆ ที่กำลังรอติดตาม โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา (หลังจากมีการคุมตัว 'คริส วู') ทางแอคเคาน์หลักของซีรีส์ก็ได้ทำการลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ 'คริส วู' ออกจากหน้าเว่ยป๋อด้วยเช่นกัน จากจุดนี้เองอาจเป็นลางบอกเหตุกลาย ๆ ว่ายังไงแล้วการจะได้เห็นซีรีส์เรื่องนี้ในเวอร์ชั่นที่ยังมีหน้าของดาราหนุ่มนำแสดงอยู่ด้วยนั้นคงจะเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน

แอคเคาน์หลักของซีรีส์ บันทึกปิ่น ได้ออกมาลบโพสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ คริส วู จนเหลือแต่รูปเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น 
แอคเคาน์หลักของซีรีส์ บันทึกปิ่น ได้ออกมาลบโพสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ คริส วู จนเหลือแต่รูปเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น

แน่นอนว่าเมื่อซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่ได้ถ่ายทำไปแล้ว หากแต่ถ้าไม่สามารถออกอากาศหรือเข้าฉายได้ ทางทีมงานย่อมต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ โดยในกรณีนี้ของซีรีส์ "บันทึกปิ่น" มีสื่อจีนหลายฝ่ายต่างออกมานำเสนอข้อมูลที่ว่า เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่นักแสดงถูกแบนเช่นนี้ ทางทีมผู้จัดของซีรีส์อาจมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้สองวิธี อย่างแรกคือเปลี่ยนนักแสดง ให้นักแสดงคนใหม่ถ่ายทำฉากของ 'คริส วู' ซ้ำแล้วตัดต่อลงในซีรีส์เรื่องนี้ใหม่ อย่างที่สองคือนำเทคโนโลยี AI Face-changing เข้ามาใช้ในการเปลี่ยนหน้านักแสดงแทน


ซึ่งการแก้ไขปัญหาในกรณีที่นักแสดงถูกแบนทั้งแบบการถ่ายซ้ำโดยเปลี่ยนคนแสดงหรือการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนหน้านั้นล้วนแต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น โดยกรณีของการถ่ายซ้ำโดยเปลี่ยนคนแสดงเคยเกิดขึ้นกับซีรีส์เรื่อง "จักรวรรดิฉิน พลิกแผ่นดินมังกร ภาค 3" (The Qin Empire III: 大秦帝国之崛起) ที่ 'หวังเสวี๋ยปิง' (王学兵) เจ้าของเดิมของบท "ขุนพลไป๋ฉี่" ได้ถูกแบนจากกรณีข่าวลือที่ว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ตอนหลังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง) ทางทีมงานได้เชิญ 'สิงเจียต้ง' (邢佳栋) ให้มาถ่ายซ้ำตามฉากที่ 'หวังเสวี๋ยปิง' เคยแสดงและทำการตัดต่อฝังลงไปใหม่ โดยจากการแก้ไขปัญหาเช่นนี้แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะมีโอกาสที่ได้ออกอากาศตามกำหนดการปกติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้ทุนสร้างอีกจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ช่วงหลังซีรีส์เรื่องนี้ประสบกับการมีทุนสร้างไม่เพียงพอ ฉากสงครามที่ควรจะเป็นไฮไลท์ของเรื่องกลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ตอนหลังกระแสของซีรีส์จึงค่อนข้างตกลงไปมาก
#2954


ครั้นยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก "หมื่นราย" นโยบายล็อกดาวน์ถูกใช้ในพื้นที่สีแดงเข้ม ปลายเดือนกรกฎาคมร้านอาหารในห้างเจอมาตรการห้ามซื้อกลับบ้าน และเดลิเวอรี่ เป็นครั้งแรกที่หน้าร้านถูก "ปิดประตู" ค้าขายแบบ 100% ทว่า ล่าสุด ร้านอาหารในห้างกลับมาให้บริการได้ แต่มีเงื่อนไขให้ "เดลิเวอรี่" เท่านั้น กลายเป็น "ตัวแปร" ต่อการ "ปรับตัว" และการดำเนินธุริจร้านอาหารอย่างมาก

ค่าย "สิงห์" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดทัพลุยธุรกิจอาหาร มี "ฟู้ด แฟคเตอร์" เป็นหัวหอก หนึ่งในแบรนด์ของเครือที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดคือ "ซานตาเฟ่ สเต๊ก" เพราะร้านเกือบทั้งหมดมีสาขาอยู่ในห้างค้าปลีก

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) ฉายภาพว่า ธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างได้รับผลกระทบสูงจากการ "ล็อกดาวน์" นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปลายไตรมาส 1 ของปี 2563 ขณะที่ปัจจุบันการระบาดไวรัสเข้าสู่ระลอก 4 ประเทศไทยเผชิญสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาครัฐต้องยกระดับการควบคุมโรคระบาดด้วยการล็อกดาวน์อีกครั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ "ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบริษัทมีร้านทั้งสิ้น 125 สาขา และให้บริการในห้างค้าปลีก 124 สาขา มีร้านอยู่นอกห้างเพียง 1 สาขาเท่านั้น ทำให้ด้านสถานการณ์ยอดขายของร้านจึงหดตัวลง

ขณะที่การปรับตัวในการทำธุรกิจอาหาร บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การปรับวิธีการทำงาน นำแนวคิด "Agile" มาปรับใช้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น อย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ผกผันตลอดเวลา

"ทุกวันนี้สถานการณ์ต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟู้ด แฟคเตอร์ ในฐานะผู้ประกอบต้องปรับวิธีการทำงานให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่นมากขึ้น การปรับกลยุทธ์ต่างๆต้องมีความมรวดเร็ว อย่างช่วงล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก ได้พลิกกระบวนท่าทันทีเพื่อมุ่งบริการเดลิเวอรี่ เสิร์ฟอาหารตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และจัดเมนู ทำโปรโมชั่นเฉพาะกิจให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก้ตาม ความท้าทายของบริษัทฯในเวลานี้คือการประเมิณยอดขายเพื่อบริหารจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ เพราะของสดมีอายุข้างสั้น"

อย่างไรก็ตาม หากคลายล็อกดาวน์ ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ ธุรกิจอาหารมีการฟื้นตัวกลับมาเร็ว เช่นเดียวกับร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก เนื่องจากมีฐานลูกค้าค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมการฟื้นตัวจะไม่เหมือนเดิม 100% เพราะมีหลายปัจจัยส่งผลต่อธุรกิจ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคหายไปค่อนข้างมาก


นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนของการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์การสิ้นสุดได้ของโรคระบาดได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไม่กล้าใช้จ่าย รวมถึงมาตรฐานการคลายล็อกดาวน์ยังไม่ชัดเจน เพราะยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้การใช้มาตรการคุมโรคระบาดเข้มงวดและอาจจะไม่สามารถกลับมาคลายล็อกได้ง่ายเหมือนที่เคยเป็นมา

นบเกล้า ตระกูลปาน กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่นยโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับบริการ "ซื้อกลับบ้าน"หรือ Takeaway และ "เดลิเวอรี่" เสิร์ฟอาหารอร่อยถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังปรับกลยุทธ์การขยายสาขาโดยโฟกัส "ทำเลใหม่" นอกห้างงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นย่านชุมชน สถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจรวมถึงการบริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเน้นโมเดล "ร้านซานตาเฟ่ อีซี่"(Santa Fe Easy)เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัส อีกทั้งยังตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่จากนี้ไปหรือ Next Normal

"การปรับตัวลุยบริการซานตาเฟ่ เดลิเวอรี่ ส่งผลให้มีการเติบโตสูงมาก แต่แนวโน้มจากนี้ไปเดลิเวอรี่อาจไม่หวือหวา เพราะการอยู่บ้าน ผู้บริโภคมีเวลามากขึ้น และปรับพฤติกรรมเริ่มทำอาหารทานเอง ที่สำคัญการตระหนักเรื่องความปลอดภัยของอาหาร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การแข่งขันเดลิเวอรี่รุนแรง แบรนด์ต่างๆงัดกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า"

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารระยะยาวหลังโควิดคลี่คลาย คาดการณ์จะใช้เวลา 2 ปี จึงจะฟื้นตัว เนื่องากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นั่งทานในร้าน(Dine in)เปลี่ยนไป และอาจต้องใช้เวลา 1 ปี พฤติกรรมดังกล่าวจะกลับมาใกล้เคียงปกติ

"พฤติกรรมผู้บริโภคบางส่วนยังคุ้นชินกับความปลอดภัย และคุ้นเคยกับการรักษาระยะห่าง มีความกังวลกับการไปในแหล่งชุมชน รวมถึงการรับประทานอาหารในร้าน"
#2955


ท่อเอสซีจี ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ "ท่อพีวีซี เอสซีจี รุ่น Green Premium" ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ใหม่ เป็นรายแรกในประเทศไทย ยืนยันส่งมอบความสะอาด ปลอดภัย มั่นใจอย่างสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค ด้วยท่อไร้สารตะกั่ว (LEAD FREE) ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตจากเทคโนโลยีสะอาด ปราศจากสารปนเปื้อนตกค้าง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานที่หลากหลาย

มาพร้อมสัญลักษณ์ No.1 LEAD FREE และการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) 17-2561 รายแรกในประเทศไทย นับว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ท่อให้ดียิ่งขึ้น โดย มอก.ใหม่นี้ครอบคลุมในเรื่องของกระบวนการผลิตและเนื้อท่อที่จะต้องมีความปลอดภัย ปราศจากโลหะหนักปนเปื้อน อาทิเช่น สารตะกั่ว และแคดเมียม เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยยิ่งขึ้น ครอบคลุมครบทุกความต้องการ ทั้งภายในบ้าน อาคาร และสถานที่ที่ใส่ใจความอนามัยอย่างสูงสุด

ท่อพีวีซี เอสซีจี รุ่น Green Premium ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการันตีคุณภาพ ทั้งจาก NSF International ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อพีวีซี รองรับการออกแบบอาคาร Green Building ตาม WELL Building Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่คำนึงถึงสุขภาวะหรือคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ ฉลากเขียว (Green Label) ผลิตภัณฑ์ผลิตจากวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และ SCG Green Choice
โดยอ้างอิงมาตรฐาน ISO14021 ในด้านกลุ่มส่งเสริมสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี (Well-being) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างสูงสุด

นอกจากนี้ ท่อพีวีซี เอสซีจี รุ่น Green Premium มีท่อให้เลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย จึงพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกบ้าน (End-user) ช่าง ผู้รับเหมา สถาปนิก หรือเจ้าของโครงการต่างๆ ยกระดับคุณภาพสินค้าอย่างมีมาตรฐาน ควบคู่การยกระดับคุณภาพชีวิต ให้ทุกการใช้งานสะอาด ปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
#2956
มีดโกนหนวด lพร้อมส่งl ที่โกนหนวด พร้อม 36 ชุดใบเปลี่ยน
ระบบใบมีดหัวปรับหมุนได้ ด้วยระบบใบมีดหัวปรับหมุนได้ ทำให้ปลอดภัยในการโกน
โกนเรียบด้วยใบมีดแฝด ด้วยระบบใบมีดแฝด ทำให้ใบมีดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อการโกนที่แนบสนิทและลดการผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ใบมีดที่สองช่วยทำให้โกนได้แนบสนิทยิ่งขึ้นหลังจากใบมีดแรก
โกนสบายด้วยแถบสารหล่อลื่น สารหล่อลื่นพร้อมด้วยสารอโลเวรา ช่วยให้โกนได้สบายกว่า ช่วยลดแรงเสียดทานและการระคายเคืองของผิว ทำให้โกนได้นุ่ม
ราคา 199
จัดส่งฟรี
สั่งซื้อ https://razor69.lnwshop.com
https://www.facebook.com/manspray69
=AZWJeo91HR0XFpVyAMjHeVHHSVlO8KZ-IrpwakULhJj7Fzodi_wzfTRS1s732L4U1e9fKv0nzac85hSaSvkMgnGnPOTZhLwPfB4_kakG8DyjWNXJBfxigoy6-F4Be8wJQcG7oMdoWQaAjT6NfveoAoZBODWvdomFp3OI9U1N_6xFrA&__tn__=*NK-R]

#มีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด gillette
#มีดโกนหนวดไฟฟ้า
#มีดโกนหนวด 7-11
#มีดโกนหนวด pantip
#มีดโกนหนวด ภาษาอังกฤษ
#มีดโกนหนวด gillette mach3
#มีดโกนหนวด ขึ้นเครื่อง
#มีดโกนหนวดแบบพับ
#มีดโกนหนวด gillette mach3 turbo
#มีดโกนหนวด bic
#มีดโกนหนวด เซเว่น
#มีดโกนหนวด 7-11 ราคา
#มีดโกนหนวด ยี่ห้อไหนดี
#มีดโกนหนวด กิฟฟารีน
#มีดโกนหนวด กลิตเตอร์
#มีดโกนหนวดพระ
#มีดโกนหนวดโบราณ
#มีดโกนหนวด โบราณ
#มีดโกนหนวด คลาสสิค
#มีดโกนหนวด ขนนก
#มีดโกนหนวด ขึ้นเครื่อง airasia
#มีดโกนหนวด ขายส่ง
#มีดโกนหนวด ขาย
#ขายมีดโกนหนวด
#รีวิวมีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด big
#มีดโกนหนวดดีๆ
#มีดโกนหนวดใบเดียว
#มีดโกนหนวด watson
#มีดโกนหนวด schick
#มีดโกนหนวด 2 คม
#มีดโกนหนวด บาด
#มีดโกนหนวดบาด
#มีดโกนอย่างดี
#มีดโกนหนวด จีน
#มีดโกนหนวด ช่างตัดผม
#มีดโกนหนวด 2 ชั้น
#มีดโกนหนวดพับ
#มีดโกนหนวด ดีๆ
#มีดโกนหนวด watson ดีไหม
#มีดโกนหนวด ตราตา
#มีดโกนหนวด ตุ๊กตา
#มีดโกนหนวด ถือขึ้นเครื่อง
#มีดโกนหนวด ถวายพระ
#มีดโกนหนวด ถูก
#มีดโกนหนวด ธรรมดา
#มีดโกนหนวดผู้ชาย
#ยี่ห้อมีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด บิ๊กซี
#มีดโกนหนวด bic บริษัท
#บริษัท มีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด ปรับระดับ
#ประโยชน์ มีดโกนหนวด
#รูปมีดโกนหนวด
#รูปมีดโกน
#มีดโกนหนวด ผู้หญิง
#มีดโกนหนวด ผู้ชาย
#ผลิต มีดโกนหนวด
#ฝัน มีดโกนหนวด
#ฝันว่า มีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด พันทิป
#มีดโกนหนวด พลาสติก
#มีดโกนหนวด ภาษาจีน
#มีดโกนหนวด ภาษาเกาหลี
#มีดโกนหนวด ภาษา
#มีดโกนหนวด ภาษาไทย
#มีดโกนหนวด ยิลเลตต์
#มีดโกนหนวด ยี่ห้อไหนดี pantip
#มีดโกนหนวด ราคา
#มีดโกนหนวด รีวิว
#มีดโกนหนวด ราคาถูก
#มีดโกนหนวด ราคาถูกสุด
#มีดโกนหนวด gillette รุ่นไหนดี
#มีดโกนหนวด gillette ราคา
#มีดโกนหนวด เซเว่น ราคา
#รีวิว มีดโกนหนวด pantip
#มีดโกนหนวด แพ็ค ราคา
#ราคามีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด วัตสัน
#มีดโกนหนวด แปล ว่า
#มีดโกนหนวด สะบัดหนัง
#มีดโกนหนวด สีขาว
#มีดโกนหนวด gillette สีเหลือง
#มีดโกนหนวด lazada
#มีดโกนหนวด อันไหนดี
#มีดโกนหนวด อังกฤษ
#มีดโกนหัว
#รีวิว มีดโกนหนวด
#มีดโกนหนวด 7-11 pantip
#มีดโกนหนวด gillette 29บาท
#มีดโกนหนวด 3 ใบมีด
#มีดโกนหนวด 5 ใบมีด
#มีดโกนหนวด 6 ใบมีด
#มีดโกนหนวด gillette 7-11
โกนหนวด
#2957


ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ผนึกกำลัง "ร้านอาหาร" เปิดบริการอาหารและเครื่องดื่มผ่านบริการขนส่งอาหาร หรือ Food Delivery Service ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด โหมโปรโมททุกช่องทางหวังเพิ่มรายได้พยุงธุรกิจ

ปลดล็อก!  "ร้านอาหาร" ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า  และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยผ่อนปรนให้เปิดบริการอาหารและเครื่องดื่มผ่านบริการขนส่งอาหาร หรือ "ฟู้ด เดลิเวอรี่"  Food Delivery Service ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด  มีผลตั้งแต่วันนี้ (3 ส.ค.) ภายใต้มาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุด!!  ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการพร้อมยกระดับมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุดตามแนวทางของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.อย่างเคร่งครัด 

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเดอะมอลล์ พร้อมเปิดให้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่าน Food Delivery Service เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือร้านค้าผ่านการทำการตลาด โปรโมชั่น โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าช่วยเหลือร้านอาหารพันธมิตร ภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา ด้วยการรวบรวมบริการ Food Delivery ของทุกร้าน พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ และประชาสัมพันธ์ไปในทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลฟ์ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้สั่งอาหารแบบ Delivery ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย 

โดยมีร้านอาหารในศูนย์การค้า และร้านอาหารในฟู้ดคอร์ท ทุกสาขา รวมประมาณ 450 ร้าน หรือประมาณการร้านจะกลับมาเปิดให้บริการได้ถึง 60%


พร้อมกันนี้ ได้เตรียมมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ประกอบการ ตั้งแต่ การสอบถามประวัติพนักงาน ต้องผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 ก่อนเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ ตรวจคัดกรองอุณหภูมิก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกวัน และทุกครั้งที่เข้าออกพื้นที่ปฏิบัติงาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังสัมผัสสินค้า เข้มงวดในการจัดเก็บอาหาร และอุปกรณ์ทำอาหารให้ถูกสุขอนามัย

ส่วนพนักงาน Delivery จัดให้มีระบบคัดกรอง และลงทะเบียนผู้ขนส่งอาหารก่อนเข้าภายในอาคารหรือพื้นที่ ถอดถุงมือ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้า รอรับสินค้าในจุดที่กำหนด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรถจักรยานยนต์ Delivery ทุกคัน ก่อนบริการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย 

นอกจากบริการสั่งอาหารผ่านช่องทาง Delivery แล้ว ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านช่องทาง MONLINE.COM และ GOURMETMARKETTHAILAND.COM, แชทผ่าน M CHAT & SHOP, โทรสั่งผ่าน CALL TO ORDER และช้อปสบายผ่าน LIVE PERSONAL SHOPPER อีกด้วย


ทางด้าน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระบุว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารภายในศูนย์การค้า 21 แห่ง ตอบรับพร้อมให้บริการแบบดีลิเวอรี่แล้วกว่า 700 ร้านค้า 

"เราเตรียมแผนโปรโมทเพื่อช่วยเหลือร้านค้าอย่างเต็มที่ ผ่านบริการ Central Connect ช้อป แชท สั่งสะดวก ได้ทุกที่ ทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านหลากหลายช่องทาง กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล และบริการดีลิเวอรี่จากไรเดอร์ (Riders) ย้ำการเป็น Food Destination ของเซ็นทรัล" 
#2958


นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "ในนาม ไทยยูเนี่ยน ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อช่วยสนับสนุนมาตรการของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดหาสินค้าที่จำเป็น มีคุณค่าทางโภชนาการ มีคุณภาพ และที่สำคัญเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เพราะเราจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ซึ่งโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเหลือสังคม เพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมทั้งร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

"ทางไทยยูเนี่ยน ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีเล็ค โดยนำร่องด้วยปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ที่ทั้งอร่อย เพราะคัดสรรปลาแมคเคอเรล อุดมด้วยคุณประโยชน์ทั้งโอเมก้า 3, EPA, DHA รวมถึงวิตามินซีและดี มาจำหน่ายในราคา ถูก ทำให้ประชาชนทั่วไปได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพในราคาประหยัด และ ดี เพราะการันตีคุณภาพจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)"


ซึ่งเป็นโรงงานมาตรฐานผลิตแบบสากล สินค้าสามารถจัดเก็บไว้บริโภคได้นานถึง 3 ปี โดยไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือสารกันบูด โดยผลิตภัณฑ์ซีเล็ค จากไทยยูเนี่ยน ยังถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์แรกที่ได้รับอนุมัติตราสัญลักษณ์ธงฟ้าจากกรมการค้าภายในบนบรรจุภัณฑ์ สำหรับวางจำหน่ายพิเศษ เฉพาะที่ร้านธงฟ้าเท่านั้น ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยน ที่มุ่งมั่นในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านอาหาร ให้แก่อนาคตของคนรุ่นต่อๆไป

สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่นำมาเข้าร่วมโครงการมี 2 รายการ คือ ซีเล็ค ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ขนาด 155 กรัม ใน ราคาปลีกแนะนำเพียง 14 บาท (จากราคาปกติ 16 บาท) และซีเล็คน้ำพริกผัดทูน่า x ธงฟ้า ขนาด 90 กรัม ในราคาปลีกแนะนำเพียง 20 บาท (จากราคาปกติ 27 บาท) มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นมากกว่า 25,000 ร้าน ทั่วประเทศ
#2959


GTH "Golden triangle health" ผนึก NRF และ ม.ขอนแก่น เซ็น MOU นำเมล็ดกัญชงลงแปลงปลูกที่แรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาการปลูกและการสกัดกัญชง สถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ ด้าน "จุลภาส เครือโสภณ" นำร่องพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ

นายจุลภาส (ทอม) เครือโสภณ ผู้ก่อตั้งบริษัท (Founder) บริษัท GTH "Golden triangle health" จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ที่ให้บริษัทย่อย บริษัท ซูเปอร์ แพลนส์ จำกัด เข้าถือหุ้น GTH ในสัดส่วน 49% และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีปลูกกัญชงและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการว พัฒนาการปลูกและสกัดกัญชงสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1.พัฒนาและวิจัยการปลูก การสกัดสารสำคัญจากพืชกัญชงรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ

2.เพื่อร่วมมือในการทดลอง วิจัย ปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชกัญชงสายพันธุ์คุณภาพที่บริษัทฯ นำเข้าเมล็ดพันธุ์ โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น จะส่งเสริมการปลูกพืชกัญชงในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เบื้องต้น 400 ไร่ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผลผลิตทั้งหมดที่ได้จากมหาวิทยาลัย 3.เพื่อร่วมมือในการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ได้มาซึ่งกัญชงสายพันธุ์ไทยที่มีค่าสาร CBD สูงและค่าสาร THC ต่ำตามที่กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนด โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผลผลิตจากสายพันธุ์กัญชงไทยที่มีการพัฒนาคุณภาพ

4.เพื่อร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การนำผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีส่วนผสมของกัญชงหรือสารสกัดกัญชงที่มาจากการพัฒน่ร่วมกันให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ 5.เพื่อร่วมมือในการ พัฒนาและสกัดโปรตีนจากพืชกัญชงรวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้โปรตีนสูงจากโปรตีนของพืชกัญชง และ6.เพื่อร่วมมือในการพัฒนาและจัดตั้งหลักสูตรการศึกษาในเรื่องโปรตีนจากพืชสนับสนุนและจัดสรรบุคลากรที่เป็นประโยชน์ต่อหลักสูตรดังกล่าว

ด้านนางสาวณัฏฐิฏา ภูมิภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท GTH "Golden triangle health" จำกัด เปิดเผยว่าการปลูกและสกัดสารจากผลผลิตพืชกัญชงในส่วนของเมล็ดพันธุ์ที่บริษัทฯ นำเข้ามา เช่น เทอร์พีน (Terpene) น้ำมันในพืชกัญชงและสารสกัด CBD เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายไปพัฒนาและผสมในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตคิดค้นและวิจัย พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนี้ยังสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายตามความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ตลอดจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคต่อไปภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย

"ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจกัญชงในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยคาดว่าหลังจากเริ่มปลูกและสามารถเก็บเกี่ยว เพื่อนำมาสกัดสารสำคัญต่างๆจะทำให้ตลาดสามารถขยายไปได้มากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนผู้ที่สนใจเกี่ยวกับธุรกิจกัญชงหรือสารสกัดจากกัญชง สามารถสอบถามได้ที่ บริษัท GTH ผ่านทางไลน์ @hemp_house" นางสาวณัฏฐิฏา กล่าว

อนึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่ศึกษาค้นคว้างานวิจัยทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีทั้งงานวิจัยพื้นฐาน งานวิจัยประยุกต์ มีนักวิจัยและเครื่องมือการวิจัยที่มีศักยภาพที่จะดำเนินการวิจัยต่างๆ ทุกด้านและทุกสาขาวิชา ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยแคนนาบิสครบศาสตร์ ดำเนินการวิจัยและพัฒนา เกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชา เพื่อปลูกประเมินลักษณะประจำพันธุ์และปริมาณสารสำคัญในกัญชง THC และ CBD ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตลอดจนพัฒนาระบบการผลิตกัญชงให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสาน นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ยังทำหน้าที่ส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชง เป็นศูนย์กลางข้อมูล เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสารให้กับวิสาหกิจชุมชน ชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐบาล เอกชน ให้เกิดการต่อยอดสู่การอุตสาหกรรม
#2960


แอนน์–มารี (Anne–Marie) ศิลปินสาวเสียงดีจากเกาะอังกฤษ แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีอัลบั้มใหม่ให้ได้ฟัง แต่ก็ปล่อยซิงเกิลมาเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นงานของเธอเอง และการไปร่วมงานกับศิลปินอื่น จนมาปีนี้ แอนน์-มารี ไม่ได้มีแค่เพลงใหม่ให้ได้ฟังหายคิดถึง แต่ยังมาเป็นอัลบั้ม กับ "Therapy" งานชุดที่สองที่มีศิลปินมากมายมาร่วมแจม ไม่ว่าจะเป็น เคเอสไอ, ดิจิทัล ฟาร์ม แอนิมัลส์, ไนออลล์ ฮอแรน จากวัน ไดเร็กชัน และสามสาวลิตเติลมิกซ์ ซึ่งหลายๆเพลงจาก "Therapy" ถูกตัดเป็นซิงเกิลฮิตติดลมไปแล้วก่อนหน้า

คราวนี้ก็เป็นเวลาของ "Kiss My (Uh Oh)" ที่แอนน์-มารี ทำงานร่วมกับลิตเติล มิกซ์ ซึ่งจะผสมผสานสไตล์เฉพาะตัวของทั้งสองศิลปิน แล้วก็แซมพลิงเพลง "Never Leave You (Uh Oh)" งานอาร์แอนด์บีคลาสสิกจากต้นยุค 00's มาทำให้มีลูกเล่นชวนฟังมากยิ่งขึ้น ส่วนเนื้อหาก็ว่าด้วยการเดินไปจากความสัมพันธ์ที่ทำให้ชีวิตและจิตใจย่ำแย่ น่าจะเป็นเพลงฮิตอีกเพลงของศิลปินทั้งสองราย---สามารถชมมิวสิกวิดีโอและคลิปต่างๆของศิลปินสาวรายนี้ได้ที่ YouTube Channel : Anne-Marie โดย วอร์นเนอร์ มิวสิค.