• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#2941
ข้าวดีปลอดสารแท้ 100%ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ ข้าวอินทรีย์กรมการข้าวส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวมะลินิลออแกนิคคือ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




ข้าวหอมมะลิorganicข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวอินทรีย์หอมมะลิแดง เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ข้าวหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์อินทรีย์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิก7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 
 
#2942


Messenger จาก Facebook ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความตื่นเต้นแลสนุกสนานให้กับผู้คน ขณะที่เชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์ม

Messenger สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า ชุมชนบนโลกอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่การแชทแบบเรียลไทม์เกิดขึ้น และ Messenger ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมากมายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ สำหรับการพูดคุยผ่านวีดิโอ และวิธีการอื่นๆ ในการเชื่อมต่อผู้คนขณะที่อยู่ห่างไกลกัน

รายงานด้านการตลาดประจำปี 2564 โดย SimpleTexting ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคกล่าวว่าการเช็ค ส่ง และตอบกลับข้อความ เป็นกิจกรรมที่พวกเขาทำมากที่สุดในแต่ละวันบนสมาร์ทโฟน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ (early adopter) ที่เปิดรับเทคโนโลยีการส่งข้อความด้วยเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ที่ใช้งานฟีเจอร์การส่งข้อความเสียงมากที่สุด เช่นเดียวกับประเทศกัมพูชา บราซิล เม็กซิโก และสหรัฐ



Messenger ยังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและชุมชนในประเทศไทย โดย 92% ของผู้บริโภคชาวไทยได้ติดต่อธุรกิจท้องถิ่นผ่านแอrพลิเคชั่นส่งข้อความ และ 4 ใน 5 กล่าวว่าการสนทนาผ่านการแชทช่วยให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โซลูชั่นตัวช่วยโฆษณาของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ Click-to-Messenger ads ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตผ่านการค้นหากลุ่มเป้าหมาย (leads) เพื่อเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ในที่สุด 

Messenger ฉลองก้าวสำคัญในวันนี้ ด้วยการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในอนาคต ตามพันธกิจในการช่วยเชื่อมต่อผู้คนให้ใกล้ชิดกับคนที่มีความหมายสำหรับพวกเขาผ่านฟีเจอร์ต่างๆ 

แนวทางการดำเนินงานในครั้งนี้รวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคต ด้วยการพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้ทั้งครีเอเตอร์และธุรกิจได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ และลูกค้า รวมถึงสานต่อความมุ่งมั่นด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย พร้อมฉลองและขอบคุณผู้คนที่ให้ความไว้วางใจใช้งาน

เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Messenger ได้เปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ อย่างเป็นทางการสำหรับทุกคนที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น ได้แก่

ชุดสติ๊กเกอร์ "ยอดนิยม" ("Greatest Hits" Sticker Pack) ชุดสติ๊กเกอร์ที่ถูกคัดเลือกจากสติ๊กเกอร์ยอดนิยมตลอดกาลของ Messenger
การแชร์ข้อมูลการติดต่อ (Contact Sharing) ผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพื่อนของเพื่อนให้กันได้แล้วอย่างไร้รอยต่อผ่าน Messenger
เอฟเฟกต์ AR สำหรับวันเกิด (Birthday AR Effects) เอฟเฟกต์ AR ใหม่ล่าสุดสำหรับวันเกิดและการเฉลิมฉลอง
พื้นหลังแบบ 360 องศาสำหรับวันเกิด (Birthday 360 Background) พื้นหลังแบบ 360 องศารูปแบบใหม่เพื่อฉลองวันเกิด
ธีมแชทวันเกิด (Birthday Chat Theme) ฉลองวันเกิดของคุณและของเพื่อนด้วยธีมแชทใหม่
ซาวด์โมจิวันเกิด (Birthday Soundmoji) มีการเพิ่มซาวด์โมจิหรืออิโมจิมีเสียงในธีมวันเกิดในคอลเลคชัน (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์คำ (Word Effects) ความสามารถในการตั้งค่าอิโมจิสำหรับคำและวลีที่ต้องการ โดยเมื่อคำหรือวลีนั้นถูกส่งในแชทก็จะมีอิโมจิโปรยลงมาบนหน้าจอ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์ข้อความ (Message Effects) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตกแต่งข้อความด้วยเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ เช่น พลุกระดาษหรือกล่องของขวัญผูกโบว์ เป็นต้น (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เกมส์โพลล์ (Poll Games) ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างโพลล์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกม "เป็นไปได้มากที่สุดที่จะ" (most likely to) ได้ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
การจ่ายเงินเป็นของขวัญวันเกิด (Birthday Gift Payments) ผู้ใช้สามารถส่งเงินเป็นของขวัญเพื่อฉลองวันเกิดผ่าน Facebook Pay บน Messenger ได้แล้ว (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
#2943


นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE  ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ450 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 3/64 มีโครงการที่คาดว่าจะส่งมอบงานและสามารถรับรู้รายได้จำนวน 20-30 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท อีกทั้งมีงานอยู่ระหว่างยื่นประมูล 10 งาน อาทิ One Bangkok มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท โดยบริษัทมีโอกาสรับงานในสัดส่วน 50% หรือมูลค่า 100 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานบริษัทมุ่งเน้นรักษายอดขายจากลูกค้ารายสำคัญด้วยการจัดการโครงสร้างราคาให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อีกทั้งมองหาโอกาสการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งการออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิงครบวงจร และกลุ่มสินค้าเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) รวมถึงจัดทีมงานเพื่อดูแลหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข และ กฟผ.

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มสินค้าใหม่ ทำให้บริษัทมีสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการและเป็นทางเลือกของลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมปรับปรุงระบบบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดระบบและอุปกรณ์ดับเพลิงอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ภาพรวมภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการประมูลโครงการใหม่ของภาคเอกชนชะลอออกไป อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ลดลงส่งผลต่ออุตสาหกรรมการโรงแรม การท่องเที่ยว และสายการบิน รวมถึงความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาทที่อ่อนตัว
#2944


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ติดตามความก้าวหน้าการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ว่า โครงสร้างสถาบันวิจัยฯ ระบบรางจะมี 7 ศูนย์ความเป็นเลิศ และ 1 สำนักงาน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟความเร็วสูง (Excellent Center of High Speed Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟความเร็วสูง

2. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟขนส่งสินค้า (Excellent Center of Freight Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟขนส่งสินค้า

3. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าในเมือง (Excellent Center of Metro Rail Tech) 
ทำหน้าที่เกี่ยวกับวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟฟ้าในเมือง

4. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแบตเตอรี่สำหรับรถไฟ (Excellent Center of Battery Power Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบพลังงานอนาคตสำหรับรถไฟ เช่น Battery รถไฟ EV เป็นต้น

5. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระบบรางและการออกแบบสำหรับผู้โดยสาร (Excellent Center of Innovation Rail Tech) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต เช่น MAGLEV TOD เป็นต้น

6. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากรระบบราง (Excellent Center of Training Center) ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเทคโนโลยีระบบราง เช่น รถไฟความเร็วสูง ความรู้ทางด้านรถไฟ เป็นต้น

7. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านข้อมูลระบบราง (Excellent Center of Rail Data Center) ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลระบบรางทั้งระบบ เช่น งานวิจัยด้านระบบราง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบราง องค์ความรู้ด้านระบบราง นอกจากนี้ จะทำวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบราง ระบบอาณัตสัญญาณ 5G และความปลอดภัยทางดิจิทัล

และสำนักบริหารงานทั่วไป ทำหน้าที่ในการบริหารงานทั่วไป ทางด้านการเงิน/การบัญชี บุคลากร สถานที่ รวมถึงการจดทะเบียนสิทธิบัตรการวิจัย

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้สั่งการเพิ่มเติม 3 ประเด็น คือ 1. ให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับสถาบันวิจัยฯ สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา โดยให้จัดทำกรอบความร่วมมือ (MOU) กับแต่ละสถานศึกษาในเรื่องการวิจัยและบุคลากร 2. จัดทำ MOU กับต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยฯ และบุคลากร รวมถึงการจัดทำแผนกลยุทธ์ (Roadmap) การประสานความร่วมมือให้ชัดเจน 3. ให้ กรมรางหารือกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบราง (Operator) เกี่ยวกับชิ้นส่วนระบบรางที่ต้องการใช้ในการซ่อมบำรุง เพื่อเป็นข้อมูลให้สถาบันวิจัยฯ วางแผนการวิจัยและผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

สำหรับสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง พัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง

โดยมีเป้าหมายเร่งด่วน คือ การวิจัยชิ้นส่วนในระบบรางเพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ (Local Content) ได้ตามนโยบาย Thai First รวมทั้งการวิจัยเพื่อสร้างรถไฟ EV มาใช้ในประเทศไทย พร้อมกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

ตามที่ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 138 ตอนที่ 46 ก เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ได้มีประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2564 และต่อมากระทรวงคมนาคมได้มีคำสั่ง ที่ 110/2564 สั่ง ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ในวาระเริ่มแรก ตามมาตรา 45 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับทราบกรอบระยะเวลาการดำเนินการของคณะกรรมการสถาบันวิจัยฯ ซึ่งจะดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ แต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคมขึ้นเป็นผู้อำนวยการในระยะเริ่มแรก การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันวิจัยฯ และการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันวิจัยฯ โดยคณะกรรมการสถาบันวิจัยฯ ดังกล่าว ต้องดำเนินการในการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับจากพระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้

กรมรางอยู่ระหว่างการดำเนินการ เรื่อง บุคลากรที่จะมาช่วยดำเนินงานวิจัยในสถาบันวิจัยฯ โดยได้บูรณาการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่มีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง และพิจารณาการนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้มีการทำกรอบบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อมาช่วยตั้งต้นสถาบันวิจัยฯ ในระยะแรก

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของ รมว.คมนาคม กระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการพิจารณากำหนดในสัญญาที่จะลงนามใหม่หรือพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดในสัญญาที่ได้ลงนามแล้ว โดยให้สถาบันวิจัยฯ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบรางจากเอกชนคู่สัญญา 
และให้ครอบคลุมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของสถาบันวิจัยฯ ด้วย
#2945


สถานการณ์โควิด-19 ยังคงอยู่กับประเทศไทยอีกยาวนาน การดูแลผู้ป่วยเพื่อไม่ให้กลุ่มสีเขียว กลายเป็นสีเหลืองและแดงคือการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทว่าในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยมีจำนวนมาก โรงพยาบาลในการรองรับการรักษารวมถึงบุคลากรทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องมีการสร้างโรงพยาบาลสนามกระจายไปยังสถานที่ต่างๆให้มากที่สุดเพื่อให้ได้รับการรักษาและพบแพทย์แบบทางไกลผ่านการสื่อสารด้วยระบบสื่อสารที่ทันสมัย

ดังนั้นนอกจากเรื่องเตียง ยารักษาโรค และอาหารในการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแล้วสิ่งสำคัญคือการติดต่อสื่อสารกับแพทย์ผ่านระบบโทรคมนาคม การดูแลผู้ป่วยเรื่องความปลอดภัย ผ่านกล้อง CCTV รวมถึงฟรีไวไฟสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม ล้วนต้องได้รับการสนับสนุนและดูแลจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมซึ่งบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็มีโอกาสทำหน้าที่ให้สมกับการเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติจริงๆ ด้วยการสนับสนุนระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้โรงพยาบาลสนามสามารถให้บริการประชาชน ผู้ป่วยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

***อาสานำศักยภาพระบบสื่อสารหนุนรพ.สนาม

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ระบุว่าในสถานการณ์เช่นนี้ NTต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยสรรพกำลังด้านบริการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีอยู่ โดยได้ดำเนินการสนับสนุนติดตั้งระบบ Internet Wi-Fi โทรศัพท์ IP Phone รวมถึงกล้องวงจรปิด (CCTV)ให้บริการแก่เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ใช้ในการติดต่อสื่อสารพร้อมอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้แก่โรงพยาบาลสนามทุกแห่งที่แจ้งความประสงค์เข้ามาที่ NTซึ่งปัจจุบัน NT ได้ดำเนินการติดตั้งให้บริการระบบสื่อสารให้แก่โรงพยาบาลสนามแล้วในหลายจังหวัดตามที่มีการขอรับการสนับสนุน



เริ่มจากการสนับสนุนระบบสื่อสารภายในโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ7รอบพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2554 จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสามารถรองรับได้ 280 เตียง แบ่งเป็นผู้ชาย 140 เตียงและผู้หญิง 140 เตียง ด้วยการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1000/500 Mbps จำนวน 2 วงจรและโทรศัพท์ IP Phone จำนวน 24 เลขหมาย

รวมถึงพื้นที่ในบริเวณปตอ.1 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน แจ้งวัฒนะ จำนวน 300 เตียง ซึ่งพบว่าสัญญาณโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่มีปัญหาในพื้นที่บางจุดซึ่งสัญญาณจะดรอป ลง ดังนั้นจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อขยายสัญญาณและ อุปกรณ์ Fixed Wireless Broadband ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตั้งง่ายทุกที่ไม่ต้องเดินสายที่ผ่านมาแม้ดำเนินการไปบ้างแล้วแต่จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์รองรับความต้องการใช้งานที่มากขึ้น



ปัจจุบัน NT ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนามไปแล้วกว่า 100 แห่งทุกภาคของประเทศไทยในหลายจังหวัด อาทิจ.นครสวรรค์, จ.ฉะเชิงเทรา,จ.ขอนแก่น,จ.ประจวบคีรีขันธ์,จ.สงขลา,จ.เพชรบูรณ์ และ จ.สุรินทร์ เป็นต้น ซึ่งนอกจากอินเทอร์เน็ตแล้ว NT ยังมีการเพิ่มระบบ CCTV ติดตามอาการผู้ป่วย รวมถึงการส่งมอบอุปกรณ์ my 3G Router สำหรับติดตั้งประจำรถพระราชทานให้แก่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่และส่งมอบอุปกรณ์ my 3G Router ให้แก่ รพ.ลำปาง,รพ.ลำพูน,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกนอกจากนี้ NT ยังเข้าไปสนับสนุนระบบโทรคมนาคมพร้อมคอมพิวเตอร์ จำนวน 400 เครื่อง พรินเตอร์จำนวน 50 เครื่องที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ ด้วย

***รุกช่วยเหลือรพ.สนามในกทม.

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้ NT ต้องรีบสนับสนุนระบบโทรคมนาคมกับโรงพยาบาลสนามอย่างเร่งด่วนโดยล่าสุดได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมชั่วคราวครอบคลุมพื้นที่ศูนย์พักคอยในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวนกว่า 10 แห่งโดยเริ่มจากศูนย์พักคอยสถานีกลางบางซื่อ ด้วยการสร้างโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมชั่วคราวเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตรพร้อมติดตั้ง FTTx (ระบบเคเบิลใยแก้ว) จำนวน 7 วงจร AP (access point) 5 ตัวแบ่งเป็นในห้องวอร์รูม 1 วงจร สำหรับใช้เชื่อมกล้อง cctv 1 วงจร และบริเวณโรงนอนจำนวน 5 วงจรเพื่อให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 ได้ใช้ในการปฏิบัติงานและรักษาตัวได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดย





ทั้งหมดนี้หวังผลให้ระบบทั้งหมดสามารถสนับสนุนภารกิจหลักของศูนย์ในการเป็นจุดรองรับผู้ป่วยติดเชื้อให้มาพักรักษาตัวแยกออกมาจากบ้าน ระหว่างรอส่งต่อรักษาในโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย CCTV Dome จำนวน 32 ตัว CCTV Bullet จำนวน 8 ตัว NVR 16 Ch (Network video recorder) จำนวน 2 ตัว NVR 8 Ch จำนวน 1 ตัว HDD (Hard Disk Drive) 4 TB จำนวน 5 ตัว Switch 16 Port จำนวน 3 ตัว ทีวี 43 นิ้ว จำนวน 3 ตัว Intercom Master จำนวน 1 ตัว และ Intercom Sub จำนวน 5 ตัวเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ ดำเนินการได้อย่างสะดวก รวดเร็วและสามารถรองรับผู้ป่วยจำนวน 400 เตียงได้อย่างเต็มศักยภาพ

ส่วนศูนย์พักคอยที่เหลืออีกจำนวน 10 แห่งประกอบด้วยศูนย์กีฬารามอินทรา เขตบางเขน,ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์เขตจตุจักร, ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร,ศูนย์เยาวชน เขตดอนเมือง,ศูนย์พักคอยวัดมัชฌินติการาม เขตบางซื่อ,ศูนย์พักคอยส่งเสริมและสนับสนุน เขตลาดพร้าว1,ศูนย์พักคอยวัดราษฎร์นิยมธรรม เขตสายไหม,ศูนย์พักคอยส่งเสริมและสนับสนุน เขตลาดพร้าว2,ศูนย์พักคอยอาคารคลังสินค้าบริษัท อาร์ บี เอส โลจิสติกส์ จำกัด และศูนย์พักคอยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เขตหลักสี่

นอกจากนี้ NT ยังได้รับมอบหมายจาก ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอสให้ NT ประสานกับกรมการแพทย์เพื่อปรับปรุงระบบโทรสายด่วน 1668,1646 และเพิ่มคู่สายให้สามารถรองรับปริมาณการโทรจำนวนมากได้

ศักยภาพของ NT ในการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมแห่งชาติหลังจากการควบรวมทีโอทีและกสท โทรคมนาคมเป็นองค์กรเดียวกันแล้วทำให้เห็นได้ชัดว่าทรัพยากรที่ NT มีอยู่นั้นสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ในเชิงธุรกิจที่ต้องหารายได้เท่านั้นแต่ในมุมของการช่วยเหลือสังคม NT ก็ทำงานได้เต็มศักยภาพเพื่อลดช่องว่างทางสังคมให้ทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
#2946
ถือเป็นคำถามที่หลายๆ คนข้องใจ...ว่าแท้จริงแล้วการใช้ "โทนเนอร์" นั้นสำคัญไฉนและจำเป็นต้องใช้ทุกครั้งหลังทำความสะอาดผิวหน้าเลยหรือ? 





สำหรับคำตอบนั้น เราลองยกให้ Calendula Herbal Extract Toner Alcohol Free จาก Kiehl's เป็นผู้เฉลยไขคำตอบให้กันจะดีกว่า ว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยอดขายอันดับหนึ่งที่ครองใจผู้ใช้ทั่วโลกขวดนี้มีดีต่อผิวอย่างไรบ้าง 

โทนเนอร์ Kiehl's ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างลึกล้ำหลังการล้างหน้า 
แม้ว่าคุณจะล้างหน้าอยู่แล้วเป็นประจำทุกวัน ทว่าก็ไม่อาจทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำและโฟมล้างหน้าสามารถชะล้างสิ่กสกปรกตกค้างจากใบหน้าออกไปได้อย่างหมดจดแล้วเพียงพอ เพราะหากได้ลองสังเกตดู แม้ว่าจะได้ล้างหน้าสะอาดแล้วเพียงใด เมื่อเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อีกครั้ง ก็มักมีคราบดำ คราบสกปรกหลุดออกมาให้เห็นเพิ่มเติมอยู่ดี 

โทนเนอร์จากดอกคาเลนดูล่าช่วยเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าและขจัดสิ่งสกปรกตกค้างหลังการล้างหน้าได้อย่างลึกล้ำ สามารถใช้ได้ทั้งในช่วงเช้า หรือก่อนแต่งหน้า และก่อนเข้านอน

ปรับสมดุลและปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง 
ด้วยนวัตกรรมและส่วนผสมสูตรพิเศษจากสมุนไพรนานาพันธุ์ ทั้งกลีบดอกคาเลนดูล่า ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระพร้อมคุณสมบัติปลอบประโลมให้ความสบายต่อผิว และสมุนไพรจากต้นคอมเฟรย์และรากของต้นโกโบ Calendula Toner จึงโด่งดังเรื่องการใช้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอพร้อมเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โทนเนอร์ขวดนี้สามารถช่วยปลอบประโลมผิว ลดความระคายเคือง และบรรเทาปัญหาผิวแห้งหยาบกร้านให้กลับมาชุ่มชื้นดูแข็งแรง

ดูแลผิวอย่างอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว 
แม้จะมีประสิทธิภาพทรงพลังในการใช้ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างลึกล้ำหมดจด คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่า Kiehl's Toner นั้นอ่อนโยนและปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผิวสำหรับผู้แพ้ง่าย เพราะ Kiehl's เลือกใช้เฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติที่ผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ไม่มีส่วนผสมจากแอลกอฮอล์ จึงอ่อนโยนและดีต่อผู้ใช้ที่มีผิวบอบบาง อีกทั้งยังเหมาะกับทุก ๆ สภาพผิวโดยเฉพาะผู้มีผิวผสม ผิวมัน ไปจนถึงผู้ที่มีปัญหาสิว หรือ ผิวระคายเคืองง่าย

ใช้เป็นประจำเพื่อผิวเรียบเนียนสัมผัสได้ 
ไม่เพียงแต่จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าดูแข็งแรงขึ้นกว่าเคย แต่เมื่อได้ใช้ Kiehl's Calendula  Toner เป็นประจำเพื่อการทำความสะอาดและฟื้นฟูผิวหน้า คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงผิวที่กระจ่างใส ดูมีออร่า มีความเรียบเนียนและแลดูเปล่งปลั่งมากยิ่งกว่าเดิม

Toner จากดอกคาเลนดูล่าขวดนี้มาในขวดใสสไตล์มินิมอล และยังมีกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ จากสมุนไพร ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายในทุก ๆ ครั้งที่เปิดใช้งาน
 
#2947


ฝากไว้ให้คิด และติดตามกัน  สำหรับ ลวง ฆ่า ล่า รัก  ที่จะเสนอเป็นตอนแรก  พุธที่ 25 สิงหาคมนี้  ผลงานคุณภาพ โดยผู้จัด น้ำฝน กุลณัฐ  ปรียาวัฒน์  นำแสดงโดย พิ้งกี้ สาวิกา , อาร์ต พศุตม์ , คารีสา , ณัฐ ศักดาทร ร่วมด้วยนักแสดงมืออาชีพอีกมากมาย ซึ่งฉากเปิดตัวยิ่งใหญ่  เปิดปมเรื่องราวต่าง ๆ   เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมอย่างไม่คาดคิดกับ พิ้งกี้ สาวิกา (เพียงจันทร์)  ภรรยาสาวของ อาร์ต พศุตม์ (แทนพล) เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำทีมโดย คารีสา (ทะเล) และ ณัฐ ศักดาทร (สิบทิศ)  รวมถึง  ดาว พิมพ์ทอง (จิตใส) นักข่าวสาว   จึงเข้ามาทำข่าวในที่เกิดเหตุ    คดีนี้ตำรวจจึงต้องตามสืบหาฆาตกร รวมถึงผู้คนที่รายล้อมพิ้งกี้ ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยกันทั้งหมด  รวมถึงตัว อาร์ต พศุตม์ด้วย เพราะก่อนหน้าที่พิ้งกี้จะถูกฆาตกรรม สองผัวเมียก็มีปากเสียง  ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด

เรียกว่าเป็นฉากเปิดตัวอันชวนลุ้นระทึกของ พิ้งกี้ สาวิกา ที่จะต้องถูกคนร้ายฆาตกรรม   โดยเจ้าตัวนั้น ก็ตั้งอกตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างดี เพราะการถ่ายทำ เป็นเหตุการณ์ในตอนกลางคืน กว่าจะถ่ายทำกันเสร็จสิ้น ก็กินเวลาหลายชั่วโมง แต่เจ้าตัวก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีปริปากบ่นเลยสักคำ และใครจะเป็นฆาตกร   ต้องจับตาดูกันให้ดี ซึ่งเหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องกันไป ถึงการถ่ายทำในช่วงเช้า ซึ่งจะมี คารีสา ,ณัฐ ,  รวมทั้ง ดาว พิมพ์ทองมาเข้าฉากด้วยกัน  งานนี้ยิ่งใหญ่จัดเต็ม เพราะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายฝ่ายมาเข้าฉาก   นอกจากคารีสา กับณัฐ  จะสวมบทบาทของตำรวจได้อย่างสมจริง   พูดบทได้อย่างแคล่วคล่อง ว่องไว   ด้านดาว พิมพ์ทอง ก็ไม่ยอมน้อยหน้า  งานนี้สวมบทบาทเป็นนักข่าวสาว สายอาชญากรรมได้อย่างสมจริงกันสุด ๆ ไปเลย  เรียกว่าเป็นการรวมตัวของนักแสดงมากฝีมือ    ติดตามชม พร้อมร่วมลุ้นไปด้วยกัน ว่าตำรวจ จะตามล่า หาฆาตกรได้หรือไม่

ออกอากาศ วันพุธที่ 25 สิงหาคม เวลา 21.30 น. ทางพีพีทีวี ช่อง 36
#2948


แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวานนี้ (23 ส.ค.) เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/2564 รอบที่ 1 มาตรการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 และมาตรการที่คู่ขนานเพื่อช่วยเหลือชาวนากรอบวงเงินรวมกว่า 1.52 แสนล้านบาท

โดยวงเงินที่จะมีการใช้ในปี 2564 ที่มีการอนุมัติในหลักการประกอบไปด้วย 1.โครงการประกันรายได้ชาวนาจำนวน 4.69 ล้านครัวเรือน วงเงิน 89,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้วงเงินเพียง 50,642 ล้านบาท 2.โครงการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการข้าว โดยจ่ายให้กับครัวเรือนชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จำกัดไม่เกิน 20ไร่ต่อครัวเรือนหรือไม่เกิน 20,000 บาท วงเงินรวม 54,972.72 ล้านบาท 

3.มาตรการคู่ขนาน โดยมีเป้าหมายชะลอการขายข้าว 10.5 ล้านตัน เป็นวงเงินที่ีรัฐบาลต้องจ่ายขาด 7,765.98 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1)สินเชื่อชะลอการเก็บเกี่ยวข้าวฯวงเงิน 20,410.9 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่รัฐบาลต้องจ่ายขาด 5,853.48 ล้านบาท 2)สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณที่รัฐบาลจ่ายขาด 562.5 ล้านบาท 3)การชดเชยดอกเบี้ย วงเงิน 540 ล้านบาท 4)การส่งเสริมและผลักดันการส่งออก วงเงิน 810 ล้านบาท 

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ในฐานะเลขานุการของ  นบข.ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าราคาข้าวในปีการผลิต 2564 /2565 มีแนวโน้มที่จะลดลงจากผลกระทบจากภัยแล้ง ประกอบกับการส่งออกข้าวชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงส่งผลให้ภาระงบประมาณเพิ่มขึ้นมากจากส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมาย และราคาตลาดปัจจุบันทำให้วงเงินที่ใช้ในการประกันราคาปีนี้ค่อนข้างสูง โดยก่อนมีการประชุมได้มีการมอบหมายให้กรมการค้าภายในประสานกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการใช้วงเงินดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 รวมทั้งได้มีการทำหนังสือไปยังกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 11 ส.ค.และขอให้กระทรวงการคลังตอบกลับมาภายในวันที่ 18 ส.ค.อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังยังไม่ได้ตอบกลับหนังสือนี้กลับมาแต่อย่างไร 

นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ในฐานะกรรมการ นบข. เปิดเผยว่า เป็นการประกันรายได้ให้กับชาวนาที่ปลูกข้าว 5 ชนิดในราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40ไร่ ยกเว้นข้าวเจ้าไม่เกิน 50 ไร่ โดยมีราคาประกันรายได้และการชดเชยคือ


1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันรายได้ 15,000 บาท/ตัน จำนวนครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันรายได้ 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

3.ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน

4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันรายได้ไม่เกิน 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนไม่เกิน 25 ตัน

และ 5.ข้าวเปลือกเหนียวราคาประกันรายได้ไม่เกิน 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

 


นอกจากนั้นที่ประชุม นบข.เห็นชอบค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 รวมวงเงิน 54,972.72 ล้านบาท โดยวิธีการดำเนินการให้เกษตรกรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 ส่งให้ ธ.ก.ส.เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ส่วนมาตรการคู่ขนานต่างๆที่ประชุม นบข.ได้มีการเห็นชอบโดยรัฐบาลจะมีวงเงินจ่ายขาดในส่วนของมาตรการคู่ขนานอีกประมาณ 7,000 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม นบข.เห็นชอบในหลักการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 และมาตรการคู่ขนานโดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือแนวทางการจัดสรรงบประมาณพร้อมจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อนำเสนอครม. พิจารณาต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อประชาชนเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกร จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเกษตรกรและประชาชนให้ดีที่สุด โดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

"นายกรัฐมนตรียังแสดงความห่วงใยต่อปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย เช่น การแข่งขันกับต่างประเทศที่มีราคาข้าวถูกกว่าของไทย การขาดแคลนตู้สินค้า ค่าระวางเรือที่สูง โรงสีขาดสภาพคล่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้น แม้ผู้ส่งออกจะได้รับผลดีในเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าถึง8% จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก รวมถึงการบริหารจัดการตู้สินค้าสำหรับข้าวให้เพียงพอ นายกรัฐมนตรียังเสนอแนะแนวทางช่วยเหลือชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ทำนาได้ปีละครั้ง โดยให้หันมาปลูกพืชอื่นควบคู่การปลูกข้าวให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และปริมาณน้ำ เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนสามารถมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้นในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวแทนการเข้ามาหางานทำในเมืองด้วย"

ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจรในระยะที่ 2 (ปี 2565 – 2568) โดยกระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. ร่วมเป็นหน่วยงานร่วมดำเนินการ และให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์และการตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP

รวมทั้งเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ จัดสรรโควตา10% ของโควตาการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 1,700 ตันต่อปี สำหรับจัดสรรให้เฉพาะผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ให้กับกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร ที่ดำเนินโครงการ

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่จะได้รับคาดว่าคือ เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตข้าวคุณภาพที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 30,000 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 350 ล้านบาท (ข้าว GAP เพิ่มขึ้นตันละ 500 บาท ข้าวอินทรีย์เพิ่มขึ้นตันละ 2,000 บาท) รวมถึงขยายพื้นที่การผลิตข้าวคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์และข้าว GAP อย่างน้อย 700,000 ไร่ นอกจากนี้ เกษตรกรและผู้บริโภคยังมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรและสารตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
#2949

กรุงเทพมหานคร จัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดตั้งให้ครอบคลุมทั้ง 50 เขต แล้ว 65 แห่ง และจะทยอยเปิดอีก 5 แห่ง ให้ครบ 70 แห่ง

เพจเฟซบุ๊ค ผู้ว่าฯ อัศวิน โดย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมุลว่าการจะหยุดหรือลดการแพร่ระบาดได้นั้น ต้องแยกผู้ป่วยให้ออกจากครอบครัวหรือชุมชน ผู้ป่วยติดเชื้อหลายคนใน กทม. ไม่สามารถแยกกักรักษาตัวที่บ้านได้ จำเป็นต้องมีศูนย์พักคอยรองรับ

ตอนนี้ มีเตียงรองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 8,804 เตียง ซึ่งเมื่อรวมกับศูนย์พักคอยที่กำลังจะเปิดอีก 5 แห่ง จะมีเตียงเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็น 9,684 เตียง ในจำนวนนี้ได้ปรับศูนย์พักคอย 7 แห่งให้เป็นกึ่งโรงพยาบาลสนาม (CI Plus) รองรับผู้ป่วยเหลืองได้ 1,240 ราย

ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิดอาการสีเขียวและสีเหลืองเข้ามาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยแล้วทั้งสิ้น 15,498 ราย โดยส่งต่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล และมีผู้ป่วยหายกลับบ้านแล้วรวมทั้งสิ้น 12,384 ราย ซึ่งยังมีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ 3,586 ราย

"ศูนย์พักคอย ยังสามารถเปิดรับผู้ป่วยได้อีก 5,218 เตียง ซึ่งเพียงพอต่อการแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนและครอบครัว ไม่ให้แพร่ระบาดไปยังผู้อื่น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ลดลงโดยเร็วที่สุด และได้ขยายศักยภาพระบบการรักษา ทำให้ผู้ป่วยโควิดเข้าสู่ระบบการรักษาให้เร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยครับ"

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการพักรักษาที่ศูนย์พักคอยสามารถโทรติดต่อได้ที่ สายด่วนโควิดเขต ทั้ง 50 เขต ลิ้งค์ตามนี้ http://www.prbangkok.com/th/hotnews/view/MDY1cDBzNnM0NHIyb3Ezc3E2NnEyNDk0cDRyOTQzcjQ1MzI2Mg
#2950
แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์



ต่างหูแฮนเมดราคาย่อมเยาว์แซนดีสุจิตรา  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์  แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

ต่างหูแฮนเมดราคาย่อมเยาว์  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra

 
#2951


นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คลังสินค้า ภายใต้การดำเนินงานของฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยบริษัท SGS (Thailand) เป็นผู้ทำการตรวจสอบและรับรองให้เป็นคลังสินค้าที่สามารถดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าประเภทที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้าปรับอากาศขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตปลอดอากร หรือ Customs Free Zone ที่มีความสะดวกในการส่งต่อผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งจะช่วยปกป้องสินค้าดังกล่าวไม่ให้สัมผัสกับสภาวะอุณหภูมิสูงในระหว่างการขนส่ง รวมทั้งมีการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ดีและถูกสุขลักษณะ

นอกจากนี้ บุคลากรของฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ยังมีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการขนส่งและดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าประเภทที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์เป็นอย่างดี และผ่านการอบรมมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) เช่นเดียวกัน

อนึ่ง การได้รับการรับรองมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) นี้นับเป็นการประกันคุณภาพการให้บริการคลังสินค้าของการบินไทย ว่าสามารถตอบสนองความต้องการขนส่งสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#2952


รายงานข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ระบุ บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ที่ 3.90 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) เท่ากับ 32.5 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสย้อนหลังของบริษัทฯ (ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564)

ทั้งนี้จะเสนอขายหุ้นจำนวน 320 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของบริษัทหลักทรัยพ์ที่จัดจำหน่ายหุ้น จำนวน 240 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้มีอุปการคุณ จำนวนไม่เกิน 48 ล้าน หุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวน32 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 25-27 ส.ค2564

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 1,248 ล้านบาท จะนำไปขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย การเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก กำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์ คาดใช้เงิน 110 ล้านบาท ภายในปี 2564

ใช้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 39.8 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 450 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566 และใช้พัฒนาโครงการ และหรือเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด รวมถึงลงทุนในกิจการด้านงานวิศวกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งในไทยและต่างประเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ภายในปี2564-2566


รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และเงินกู้ยืมกรรมการ 330 ล้านบาทภายในปี 2564 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท 125 ล้านบาท ภายในปี2564-2565

'เงินเยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คด่วน www.sso.go.th โอนวันนี้รับ 5,000 บาท
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังทรงตัว! ติดเชื้อเพิ่ม 17,165 ราย พบเสียชีวิต 226 ราย ไม่รวม ATK อีก 314 ราย
'โผทหาร' ระเบิดเวลากองทัพ  วัฏจักร "พรรคพวก-ผลประโยชน์"
สำหรับเป้าหมายในปี 2564 - 2566 กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ทั้งประเทศไทยและประเทศที่กำลังเติบโตด้านอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น เน้นลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับงานด้านวิศวกรรม Valued EPC แบบครบวงจร ในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ชีวมวล ขยะ และก๊าซชีวภาพ รวมถึงพลังงานสะอาด ได้แก่ แสงอาทิตย์ พลังงานลม และก๊าชธรรมชาติ เป็นต้น
#2953


ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ประเมินผลกระทบของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้ประชากรราว 80 ล้านคนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเอเชียเข้าสู่ "ความยากจนขั้นรุนแรง" (extreme poverty) และอาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายขจัดปัญหาความยากจนและความหิวโหยระดับโลกภายในปี 2030

แบบจำลองของ ADB ระบุว่า อัตราความยากจนขั้นรุนแรงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเอเชีย ซึ่งหมายถึงสัดส่วนประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน จะลดลงเหลือเพียง 2.6% ในปี 2020 จากระดับ 5.2% ในปี 2017 หากไม่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ทว่า วิกฤตสาธารณสุขที่เกิดขึ้นทำให้อัตราความยากจนขั้นรุนแรงพุ่งสูงกว่าที่ประเมินไว้ราว 2%

รายงานของ ADB ย้ำว่า ตัวเลขอาจจะสูงยิ่งกว่านี้ หากพิจารณาถึงความไม่เท่าเทียมในด้านต่างๆ เช่น สุขภาวะ การศึกษา และการหยุดชะงักของงาน (work disruptions) ที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากโควิด-19 ทำให้การเคลื่อนย้ายของประชากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หยุดชะงัก

"ผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคมจากมาตรการควบคุมโรคยังคงปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ประชากรจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง และสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรของความยากจน" ADB ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงมะนิลา ระบุ

ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา 46 ชาติ และประเทศพัฒนาแล้ว 3 ชาติในเอเชียแปซิฟิกที่เป็นสมาชิกของ ADB มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการจ้างงานที่ลดลงส่งผลให้ชั่วโมงการทำงานในภูมิภาคนี้ลดลงประมาณ 8% ซึ่งส่งผลกระทบมากเป็นพิเศษต่อครัวเรือนที่มีฐานะยากจน และแรงงานนอกระบบ (informal sector)

ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ยังเพิ่มความท้าทายให้ภูมิภาคนี้ในการที่จะบรรลุซึ่งเป้าหมายด้านการพัฒนาที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้กำหนดไว้เมื่อปี 2015

รัฐสมาชิกยูเอ็นได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainable development goals : SDGs) 17 ประการ ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่ท้าทายตั้งแต่การขจัดปัญหาความยากจน เรื่อยไปจนถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ รวมถึงขยายโอกาสทางการศึกษาและบริการด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มภายในปี 2030

"เอเชียและแปซิฟิกมีระดับความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ ทว่า สถานการณ์โควิด-19 เผยให้เห็นรอยแยกทางเศรษฐกิจที่อาจจะบั่นทอนการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมของภูมิภาคนี้" ยาสุยุกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB ระบุในถ้อยแถลง

ที่มา : รอยเตอร์
#2954


กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ ครอปไลฟ์ เอเชีย จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทางการเกษตร (UAV) และ การประมวลผลภาพ (Image processing)" เพื่อสร้างความเข้าใจในกฎระเบียบของเทคโนโลยี UAV ทางการเกษตรในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและปลอดภัยในระดับสากล สามารถนำทักษะมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรอัจฉริยะ เสริมอาชีพ สร้างความปลอดภัย พร้อมก้าวสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะ โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานในระดับเอเชีย มากกว่า 1,200 คน ประกอบด้วย นักวิจัยภาครัฐ/เอกชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ Start up ด้านการเกษตร นิสิต/นักศึกษา



นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เปิดเผยว่า จากแนวทางนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการนำนวัตกรรม/เทคโนโลยีในภาคเกษตรกรรมของประเทศและของโลก มาถ่ายทอดให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการผลิตและการต่อยอดงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร จึงได้ร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย และ ครอปไลฟ์ เอเชีย จัดการฝึกอบรมหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทางการเกษตร (UAV) และ การประมวลผลภาพ (Image processing)" ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในกฎระเบียบของเทคโนโลยี UAV ทางการเกษตรในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและปลอดภัยในระดับสากล โดยหลักสูตรการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่

- การศึกษาข้อบังคับและกฎหมายของการใช้โดรน ผู้ใช้โดรนจะได้ทราบขั้นตอนและวิธีการขึ้นทะเบียนโดรนเกษตร การขออนุญาตใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานไร้คนขับ และพ.ร.บ.วัตถุอันตรายทางการเกษตร
- การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Image Processing กับงานด้านอารักขาพืช เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชด้วยการใช้โดรนทางการเกษตร กรณีการศึกษาการเข้าทำลายของไรแดงแอฟริกันในทุเรียน ที่ถูกยกเป็นกรณีศึกษาให้ผู้เข้าอบรม
- การใช้งานและการประยุกต์ใช้ UAV ทางการเกษตร โดยการวางกฎระเบียบการใช้ โดรนด้านการเกษตร แลกเปลี่ยนมุมมองภาคอุตสาหกรรมต่อการพัฒนาโดรน และการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยจากประสบการณ์จริง
- การศึกษาเทคนิคการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยโดรนการเกษตร เพื่อเป็นอาวุธลับให้เกษตรกรและผู้ใช้โดรน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย



อากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV เข้ามามีบทบาททางการเกษตรในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่เกษตรกร หรือนักวิจัย ใช้ในกระบวนการการผลิตและวิจัย เพื่อรองรับการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย ในยุคที่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเข้ามาสร้างตลาดและมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตรพยายามขับเคลื่อนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาภาคการเกษตร อาทิการใช้เซนเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น กล้อง RGB กล้อง MULTISPECTRAL เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพแวดล้อม ตรวจวัดดิน/น้ำ พร้อมทั้งปรับรูปแบบของการบันทึกและการจัดเก็บข้อมูล ให้อยู่ในรูปแบบของ Digital Data บน Platform เดียวกัน เพื่อการเชื่อมโยงงานด้านการเกษตรเข้ากับงานด้านไอที และเครื่องจักรกลการเกษตร นำไปสู่การประมวลผลและสั่งการการทำงานของอุปกรณ์/เครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งการอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Transformation จากภาคการเกษตร สำหรับการเตรียมความพร้อมของนักวิจัย เกษตรกร ผู้ประกอบการ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก นายศรุต กล่าวสรุป



ด้าน นาย เจอริโก เบอนาบี แกสกอน นายกสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่ทำกินของคนในประเทศ และเป็นหัวใจหรือหลอดเลือดของเกษตรกร จากอดีตจนถึงปัจจุบันเกษตรกรมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากมาย มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เป็นตัวช่วยให้การทำงานรวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่ง จวบจนปัจจุบัน "โดรน" หรือ อากาศยานไร้คนขับ เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมเกษตร มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสมกับโลกการผลิตให้เป็นจริงในระดับประเทศ ในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดรนกลายเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถนำประโยชน์มาสู่เกษตรกรอย่างมากมาย เช่น การประหยัดแรงงาน ลดการสัมผัสของผู้ปฏิบัติงาน ลดต้นทุนของเกษตรกร มีความคุ้มทุน คล่องตัว รวดเร็ว ประหยัดเวลา รวมทั้งมีความแม่นยำและลดความสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพ สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ใช้โดรนอีกด้วย และในอนาคต "โดรน" อาจเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญของเกษตรกรไทย ที่ทำให้ทุกคนให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้งานได้อย่างมีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน



ทั้งนี้ เป้าหมายในการฝึกอบรมดังกล่าว คือ ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบและการขึ้นทะเบียน ความปลอดภัย ตลอดจนการนำเทคโนโลยี และภาควิชาการของโดรนทางการเกษตรไปใช้ในทุกแง่มุม จำเป็นต้องเกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ครอปไลฟ์ เอเชีย กำลังผนึกกำลังกับรัฐบาลทั่วเอเชีย ในการเพิ่มความรู้และความเข้าใจในเทคโนโลยีทางการเกษตร ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นในการสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีโดรนให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เกษตรกร รวมทั้งนักศึกษาหรือผู้ว่างงานได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเสริมสร้างอาชีพ เกิดรายได้ พร้อมก้าวเข้าสู่การเป็น "เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture)" อย่างมีประสิทธิภาพได้ในวงกว้าง นาย เจอริโก กล่าวทิ้งท้าย



สำหรับผู้สนใจหลักสูตร "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนทางการเกษตร (UAV)" รวมถึงการขอข้อมูลเกี่ยวกับโดรนทางการเกษตรในงานด้านอารักขาพืช สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานวิจัยการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 02-579-4115, 02-579-1061 ต่อ 162 หรือ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://web.facebook.com/PATRS.DOA/ และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/taitacroplifethailand
#2955


ความเคลื่อนไหวการแขังขันฟุต. เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่จะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 โดยมี 11 ชาติเข้าร่วม ประกอบไปด้วย ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, สิงคโปร์, กัมพูชา, สปป.ลาว, บรูไน และ ติมอร์ เลสเต

ล่าสุด "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่ามีความประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาของแฟน.กลับคืนมาอย่างแท้จริง "ที่ผ่านมาได้รับทราบว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพซูซูกิ คัพ ในปลายปีนี้ เรื่องนี้แป้งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยอย่างแรกคือถ้าเราได้เป็นเจ้าภาพเราไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องมีการกักตัว ส่งผลดีโดยตรงต่อสโมสรในไทยลีกที่นักเตะตัวหลักไม่ต้องพักนานจบจากทีมชาติสามารถกลับเข้าสโมสรได้ทันที"

"แฟน.ชาวไทย และคนไทยทุกคนต้องการเห็นแชมป์ฟุต.รายการนี้มากที่สุด และเราเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด ดังนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่นคือต้องการกลับไปคว้าแชมป์ให้ได้ นอกจากนี้หากถึงช่วงปลายปีสถานการ์โควิด-19 ในประเทศเราเบาบางลง เราอยากเห็นแฟน.เข้าชมเกมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง"

"อยากวอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการนำฟุต.รายการนี้มาจัดที่ไทยให้ได้ เพราะตอนนี้เราได้ทราบข่าวมาว่าทางกัมพูชาเตรียมพร้อมอย่างมากที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเช่นกัน หากเราต้องออกไปเล่นนอกประเทศคงไม่ใช่เรื่องดีในหลายมุม ดังนั้นเราต้องการเป็นเจ้าภาพฟุต.ซูซูกิ คัพ ในครั้งนี้"
#2956
สำหรับ โถ สุขภัณฑ์ นั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกต่อคุณภาพชีวิตในด้านสุขนามัยของเรา โดยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรคำนึงถึงคุณภาพ ความคงทน ความน่าเชื่อถือและความเหมาะสมสำหรับการใช้งาน เพราะ โถส้วมเป็นสิ่งที่เราจะต้องใช้กันไปอย่างยาวนาน ยิ่งเมื่อมีการติดตั้งไว้ในห้องน้ำของแล้วก็เป็นการยากที่จะรื้อถอนอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานจึงจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

วิธีการเลือกใช้โถ สุขภัณฑ์ ให้มีความเหมาะสมและคุ้มค่าต่อการใช้งานในระยะยาวมีดังต่อไปนี้

1. ขนาดและรูปทรง

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคือเรื่องของขนาดของผลิตภัณฑ์ โดยต้องวัดจากขนาดพื้นที่ห้องน้ำของเราจริงๆ เพื่อให้สามารถตั้งวางและมีพื้นที่พอเหมาะสำหรับการใช้งานในส่วนอื่นๆบริเวณภายในห้องน้ำของเรา นอกจากนี้ยังต้องเลือกรูปทรงที่เหมาะสมต่อการใช้งานทั้งตัวเราเองและครอบครัวอีกด้วย เช่น หากมีผู้สูงวัยในบ้านก็ควรเลือกแบบตั้งพื้น เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่าย

2. วัสดุและยี่ห้อ

เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นมีหลายเกรด ซึ่งมีคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป วิธีการเลือกที่ง่ายที่สุดคือให้ดูจากยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือเป็นหลัก เพราะคุณสามารถหาข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงได้โดยง่าย ยิ่งเป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นไปได้มากว่ามีคุณภาพที่ดี เมื่อได้ยี่ห้อที่โดนใจแล้วก็คำนึงในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการผิตในลำดับต่อไปเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

3. ราคาและงบประมาณ

ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจทำการซื้อผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง ท่านควรตั้งงบประมาณที่ต้องการใช้จ่ายเอาไว้ก่อนทำการเลือกซื้อ เพื่อสามารถควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่ายของเราได้อย่างไม่บานปลาย สำหรับราคาของผลิตภัณฑ์นั้นมีหลากหลายตามเกรดวัสดุและยี่ห้อผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึงควรเลือกให้คุ้มค่าสมราคากับที่เราตั้งงบประมาณใช้จ่ายไว้มากที่สุด

เรียกได้ว่าการเลือกโถ สุขภัณฑ์ เพื่อใช้งานในระยะยาวสำหรับบ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัยของคุณนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากคุณจะต้องใช้งานไปในระยะยาวแล้วนั้น ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณอีกด้วย ควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพดีในราคาคุ้มค่ารวมถึงต้องคำนึงถึงขนาดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเลือกซื้อให้พอดีกับพื้นห้องน้ำและสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกชักโครกที่ดีและมีคุณภาพยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรักให้ดีขึ้นอีกด้วย
#2957


ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันจันทร์(23ส.ค.) หลังจากขยับลงมา 7 วันติดเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 จากแรงช้อนชื้อและดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยหลังนี้ทองคำดีดตัว ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จากข่าวคราวแง่บวกที่ช่วยปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและแรงช้อนซื้อของนักลงทุน ฟื้นตัวจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งดิ่งลงหนักเกือบ 9% ถือเป็นสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน และเป็นการปรับลด 2 ใน 3 สัปดาห์หลังสุด ในขณะที่สัญญาเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียตในวันศุกร์(20ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยดันให้ราคาทองคำในวันจันทร์(23ส.ค.) ฟื้นตัวแรงเช่นกัน ขยับเหนือ 1,800 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 22.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,806.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกแข็งแกร่งในวันจันทร์(23ส.ค.) ได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์และความเคลื่อนไหวอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนจับตาไปที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 215.63 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,335.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.86 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,479.53 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 227.99 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,942.65 จุด

วอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากยอดขายบ้านที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายของสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

นักลงทุนจับตาไปที่คำแถลงในวันศุกร์(27ส.ค.) ของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งคาดหมายว่าเขาจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

(ที่มา:มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี)
#2958


ล่าสุดคือ "แอร์เอเชีย ดิจิทัล" หน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลของกลุ่มแอร์เอเชีย เปิดตัวบริการใหม่ "แอร์เอเชียฟู้ด" (airasia food) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564 เพื่อยกระดับ "แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ" (airasia super app) โดดเด่นเรื่องสินค้าท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจองเที่ยวบินและโรงแรมที่พัก พุ่งเป้าสู่จุดหมายสำคัญ นั่นคือการเป็นซูเปอร์แอพชั้นนั้นของภูมิภาคอาเซียน!

หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 เจ้าพ่อสายการบินโลว์คอสต์แห่งอาเซียน "โทนี่ เฟอร์นันเดส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ "โกเจ็ก" (Gojek) ส่วนที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท (50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ขณะที่โกเจ็ก สตาร์ทอัพสัญชาติอินโดนีเซียผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมัลติเซอร์วิสรายใหญ่ชั้นนำของอาเซียน จะเข้าถือหุ้นบางส่วนในแอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ ซึ่งมีมูลค่าประเมินทางตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) และทำให้โกเจ็กสามารถเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะในตลาดเวียดนามและสิงคโปร์

วรุฒ วุฒิพงศาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ กล่าวว่า ด้วยการผนึกความรู้ที่ได้จากความสำเร็จของซูเปอร์แอพในมาเลเซียและสิงคโปร์ ความเชี่ยวชาญของทีมเทเลพอร์ต ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของกลุ่มแอร์เอเชีย ความแข็งแกร่งของทีมแอร์เอเชียในเรื่องของธุรกิจท่องเที่ยว และความเข้าใจในตลาดของทีมงานโกเจ็ก ประเทศไทย จึงเชื่อว่า "แอร์เอเชียฟู้ด" จะสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าที่สุดและกลายเป็นทางเลือกที่ผู้คนในกรุงเทพฯนิยมใช้อย่างแน่นอน

โดยบริการ airasia food เปิดตัวพร้อมแคมเปญฟรี 30,000 มื้อตลอดระยะเวลา 30 วัน และส่วนลดอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าในกรุงเทพฯ 4 พื้นที่ ได้แก่ ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว และห้วยขวาง

จากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการอีก 4 เขตเร็วๆ นี้ ได้แก่ พญาไท ราชเทวี ปทุมวัน และวัฒนา โดยในแอพพลิเคชันมีร้านค้ามากมายหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่แบรนด์ดังอย่างแมคโดนัลด์ แฟลช คอฟฟี่ หรือคาเฟ่ อเมซอน ไปจนถึงร้านค้าเอสเอ็มอี และเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น. ถึง 19.00 น. ของทุกวัน พร้อมตั้งเป้าขยายสู่พื้นที่อื่นๆ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ตในอนาคตอันใกล้

"และสำหรับร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ในการเปิดตัวเราขอมอบค่าคอมมิชชั่นเพียง 5% ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนร้านค้าในขณะนี้" วรุฒกล่าว



ฟาก "โรบินฮู้ด" (Robinhood) ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทลูกของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หลังจากรุกทำตลาด "ฟู้ดดิลิเวอรี่" ด้วยการชูจุดขายค่าจีพี (GP: Gross Profit) หรือค่าบริการระบบที่ร้านอาหารจ่ายให้กับแพลตฟอร์มที่ 0% จนสามารถสร้างฐานลูกค้ามากกว่า 2 ล้านรายในปัจจุบัน ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 4 จังหวัด มีร้านอาหารเข้าร่วมมากกว่า 1.3 แสนราย ไรเดอร์ 2.6 หมื่นคน

ล่าสุดขอกระโดดร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดบริษัทตัวแทนขายท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ "Online Travel Agents" (OTA) ด้วยการนำคอนเซ็ปต์เดียวกับการบุกตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ ชูจุดขาย "Zero GP OTA" เก็บค่าคอมมิชชั่น 0% จากผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยว เพื่อหนุนโรบินฮู้ดสู่หมุดหมายการเป็นซูเปอร์แอพ!

สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า โรบินฮู้ดเตรียมเปิดตัวบริการ "โรบินฮู้ด ทราเวล" อย่างเป็นทางการในต้นปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคนไทยน่าจะออกท่องเที่ยวภายในประเทศได้อีกครั้ง โดยออกแบบบริการให้ครอบคลุมความต้องการสินค้าท่องเที่ยวตลอดเส้นทางการเดินทางของลูกค้า ทั้งที่พักโรงแรม เที่ยวบิน ทัวร์และกิจกรรม รวมถึงบริการรถเช่า

"ธุรกิจ OTA หลายๆ รายของต่างประเทศจะแข่งกันที่ราคา และมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากผู้ประกอบการประมาณ 30-35% เพื่อทำกำไร แต่โรบินฮู้ดเก็บค่าคอมมิชชั่นที่ 0% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถออกโปรโมชั่น ขายแพ็คเกจแบบมัดรวม (Bundle Packages) ในการดึงดูดลูกค้าได้ เช่น แพ็คเกจห้องพักแถมสปา แพ็คเกจห้องพักแถมอาหารมื้อค่ำ และอื่นๆ"

พงศ์ศักดิ์ ตฤณธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ โรบินฮู้ด กล่าวเสริมว่า และในเมื่อไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นและค่า Visibility Booster ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มอัตราการปรากฏของสินค้าท่องเที่ยวบนหน้าแพลตฟอร์ม ทางโรบินฮู้ดเลือกใช้วิธีเรียงการนำเสนอผู้ประกอบการกลุ่มที่เป็น "Preferred Partners" ซึ่งมีการนำเสนอดีลพิเศษ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น ให้วอยเชอร์ส่วนลดสำหรับใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และของแถมต่างๆ จัดเป็นแพ็คเกจให้แก่ลูกค้า ให้ปรากฏอยู่ในหน้าแรกๆ ของแพลตฟอร์ม

"ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมบางแห่งมีข้อตกลงกับ OTA รายอื่นว่าไม่สามารถขายในราคาต่ำกว่านี้ได้ ถ้าเช่นนั้น...โรบินฮู้ดบอกไม่เป็นไร ผู้ประกอบการสามารถเสนอขายในราคาเท่ากับ OTA รายอื่นได้ แต่ขอมีสิทธิประโยชน์เพิ่มแต่แก่ลูกค้าแทน โดยโรบินฮู้ดทราเวลเตรียมให้บริการอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พ.ย.นี้ และให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วประเทศในไตรมาส 1 ปี 2565"
#2959


อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ยอดนักขับลูกครึ่งไทย-บริติช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังควบรถแข่งคู่ใจ เฟอร์รารี่ 488 GT3 เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่หนึ่ง ในศึก "ดีทีเอ็ม 2021" สนามที่ 4 เรซที่ 2 ที่นูร์เบิร์กริง ประเทศเยอรมนี

โดยศึกรถยนต์ชิงแชมป์ประเทศเยอรมนี รายการ "Deutsche Tourenwagen Masters" สนามที่ 4 เรซที่ 2 ที่สนามนูร์เบิร์กริง ประเทศเยอรมนี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.64 ที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ควบรถคู่ใจ เฟอร์รารี่ 488 GT3 หมายเลข 23 ภายใต้สังกัดทีม อัลฟาทาวรี เอเอฟ คอร์ส ลงชิงชัย

ปรากฎว่า อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่งโพลเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ขึ้นนำใน 8 รอบแรก ก่อนที่จะมีอุบัติเหตุจนเซฟตีคาร์ต้องออกมาทำงาน และรีสตาร์ทกันใหม่ในรอบที่ 17 อัลบอน หล่นลงไปอันดับ 9 แต่ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายในรอบที่ 25 นักขับจากไทยก็กลับมาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง

สุดท้ายจบการแข่งขัน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ สังกัดทีมอัลฟาทาวรี เอเอฟ คอร์ส เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คว้าชัยเป็นครั้งแรกในศึกดีทีเอ็ม เอาชนะ ดาเนียล จุนคาเดลล่า จากประเทศสเปน สังกัดทีมเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ทีม กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ไป 4.634 วินาที และอันดับ 3 ตกเป็นของ มาร์โก วิตต์มันน์ จากเยอรมนี สังกัดทีมวอล์คเคนเฮิร์สต์ มอเตอร์สปอร์ต ที่ตามหลังมา 7.994 วินาที
#2960


    คู่รักบางคู่โชคดีมีลูกง่ายโดยไม่ต้องพยายามมากนัก  แต่มีอีกหลายคู่ที่พยายามกันแล้ว ใช้เวลานานก็ไม่สำเร็จ ไม่ตั้งครรภ์สักที ปัญหามีลูกยากแท้จริงแล้วอธิบายง่าย ๆ ว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ การใช้ชีวิตประจำวันและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นสาเหตุสำคัญทำให้มีลูกยาก ความเครียดนั้นเกิดจาก ภารกิจที่ยุ่งวุ่นวายในแต่ละวัน ใจผูกติดอยู่กับงาน ส่งผลต่อฮอร์โมน และ การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้โอกาสตั้งครรภ์น้อยลงไปด้วย

     แต่ถ้ามาที่คลินิก Genesis Fertility Center (GFC) ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ทุกอย่างจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปที่จะเติมคำว่า ครอบครัว ให้เต็มด้วยคำว่าแก้วตาดวงใจ ลูกน้อย ที่เป็นโซ่คล้องใจสำคัญสำหรับพ่อแม่ทุกคู่ ที่ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอลูกน้อยมานานจนเกือบท้อแต่อย่าหมดหวัง เพราะ "คุณหมอเอ็ม ชมพูนุช จันทรกระวี" (หมอเอ็ม) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้มีบุตรยาก พร้อมให้ทำปรึกษาและทำให้หลายครอบครัวต่างก็ประสบความสำเร็จได้ลูกอย่างที่หวังมาหลายครอบครัวแล้วนั้น

    งานนี้เลยต้องขอส่องโปรโฟล์ของ คุณหมอเอ็ม ชมพูนุช จันทรกระวี ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆบ้านมีลูกสมดั่งที่ใจหวัง ก็ต้องบอกเลยว่าโปรไฟล์ คุณหมอเอ็ม เพอร์เฟคมาก เพราะได้เรียนจบ แพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถมยังชอบกีฬาที่หลากหลาย อาทิ ต่อยมวย โยคะ แล้ว

    คุณหมอเอ็ม ยังได้เผยอีกว่าที่เลือกมาทำด้านนี้ก็เพราะ ความรู้ของด้านนี้สนุก และมีอัพเดตไม่สิ้นสุด มีวิทยาการใหม่ๆที่สามารถนำมาใช้รักษาคนไข้ นอกจากนั้นมันเหมือนเป็นความท้าทายเล็กๆ ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนไข้ตั้งครรภ์ได้และคลอดน้อง มีน้องที่สมบูรณ์ แข็งแรง ความสำเร็จประมาณ 70% ค่ะ ทุกเคสก็มีความยากมาก ยากน้อยต่างกันไป (ถ้าเคสง่ายก็มักจะท้องได้เองไม่ได้มาเจอหมอค่ะ) เคสที่ยาก เช่น เคสที่รักษาจากที่อื่น เก็บไข่มา 3 รอบ โดยน้ำเชื้อที่ใช้มาจากการทำ TESE (ตัดชิ้นเนื้อบางส่วนจากอัณฑะ เพื่อหาอสุจิมาใช้ในการปฏิสนธิ) ได้ตัวอ่อน ตรวจโครโมโซมทุกครั้ง ใส่ตัวอ่อนไป 2 รอบ ยังไม่ตั้งครรภ์ เปลี่ยนมารักษาที่ GFC ก็เริ่มกระตุ้นไข่ใหม่และทำ TESE ตัวอ่อนที่ได้เราเลี้ยงในตู้เลี้ยง EEVA เพื่อเพิ่มคุณภาพตัวอ่อน หลังตรวจโครโมโซมผ่าน เตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกค่อนข้างยาก เพราะเยื่อบุบางมาก ใช้ยาเยอะมาก แต่พอได้ใส่ตัวอ่อนรอบแรกติดค่ะ เคสนี้ลุ้นมาก ซึ่งในทุกขั้นตอนการดูแลให้คำปรึกษาและรักษาตั้งแต่ต้นจนจบ ระหว่างทางเราจะมีคุณพยาบาลที่ช่วยให้คำแนะนำทั้งการฉีดยา การดูแลตัวเองตั้งแต่ก่อนท้องจนตั้งครรภ์เราก็ดูแลกันไปตลอด ที่ขาดไม่ได้คือทีมนักวิทยาศาสตร์เลี้ยงตัวอ่อนที่ช่วยดูแลเด็กน้อยให้แข็งแรงก่อนที่จะส่งไปอยู่กับคุณแม่ ทุกฝ่ายดูแลจากใจจริงๆค่ะ จนวันนี้ก็ยังดีใจไม่หายที่ช่วยให้หลายๆครอบครัวได้มีคุณลูกตัวน้อยสมหวังอย่างที่ตั้งใจ หากคุณประสบปัญหากับภาวะมีบุตรยากมาหาเราที่ GFC นะคะ เราพร้อมสร้างฝันให้เป็นจริงได้ สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-108-6413-14 หรือ 0974845335 หรือ ทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/GFC.Bangkok และ Line OA : @gfcclinic "