• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2861


ผลการศึกษาที่ชื่อ Mega Sales & Holiday 2021 จาก Facebook IQ เผยให้เห็นถึง 4 เทรนด์สำคัญสำหรับการชอปปิงช่วงปลายปีนี้ในประเทศไทยประกอบด้วย

1. เหล่านักช้อปให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวก่อนช้อปในเทศกาล Mega Sales Day เป็นอย่างมาก เหล่านักช้อปจะเตรียมตัวสำหรับ Mega Sales Day ล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ 

โดย 75% ของนักนักช้อปชาวไทยบอกว่าพวกเขาจะวางแผนสิ่งที่ต้องการจะซื้อล่วงหน้า โดยเดือนธันวาคมจัดเป็นช่วงเดือนที่นักช้อปมีการวางแผนมากที่สุด สะท้อนให้เห็นจากร้อยละ 54 ของนักช้อปชาวไทยบอกว่ามีการวางแผนช่วงนี้

นอกจากนี้ Mega Sales Day ยังเป็นช่วงที่การค้นหาสินค้านอกเหนือจากหมวดที่ได้รับความนิยมอย่าง เสื้อผ้า แฟชั่น และอาหาร เกิดขึ้นมาก โดยล 76% ของนักช้อปชาวไทยกล่าวว่าในช่วง Mega Sales Day พวกเขาซื้อสินค้าในหลากหลายหมวดหมู่มากกว่าช่วงปกติ และ 93% กล่าวว่าพวกเขาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่เคยซื้อมาก่อน 

แบรนด์ที่ถูกค้นพบในช่วงของ Mega Sales Day นี้มีแนวโน้มที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่มีความรักในแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย 75% ของนักช้อปในประเทศไทยที่ซื้อของในช่วง Mega Sales Day นั้นมีแนวโน้มที่จะใช้และซื้อสินค้าที่พวกเขาค้นพบในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง มากกว่าที่จะกลับไปใช้แบรนด์เดิมๆ

2. แบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์การชอปปิงแบบไร้รอยต่อได้ จะมีความได้เปรียบ นักช้อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าเมื่อพวกเขามีความมั่นใจในคุณภาพ และรู้ว่ามีช่องทางติดต่อกับร้านค้า 

โดยจะชอบมากหากสินค้าได้รับการรีวิว (92%) มีรูปภาพคุณภาพสูงหรือวีดิโอที่มีคุณภาพสูง (88%) และความง่ายในการติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ (91%) ที่น่าสนใจกลุ่ม Gen X นั้น คาดหวังที่จะได้รับความสะดวกที่มากขึ้นไปอีก โดยพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สามารถติดต่อผ่านการส่งข้อความได้มากกว่า

3. การค้าขายข้ามพรมแดนจะเข้ามาชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อการเดินทางข้ามประเทศยังถูกจำกัดด้วยโรคระบาด เหล่านักช้อปในช่วง Mega Sales Day จึงหันมาซื้อของข้ามพรมแดนมากขึ้น เพราะว่าตอบโจทย์ในเรื่องความแปลกใหม่ และมีคุณค่าในตัวของมันเอง 

การที่พวกเขาสามารถค้นพบและเข้าถึงแบรนด์จากอีกมุมโลกได้ ทำให้การซื้อสินค้าข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยมีนักช้อปช่วง Mega Sales Day กว่า 55% ทำการซื้อสินค้าจากต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงวันหยุด โดยยอดขายนั้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Millennials และเสื้อผ้าเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดสำหรับหมวดสินค้าต่างประเทศ

4. นักช้อปให้ความสำคัญกับความจริงใจของแบรนด์ ความเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อในช่วง Mega Sales Day โดยลูกค้าต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อและปลอดภัย 

โดย 88% ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์และสินค้า ขณะที่  81% บอกว่าพวกเขาเชื่อเนื้อหาที่มีคนจริงๆ อยู่ในนั้น ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงนักช้อปและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ด้วยการร่วมมือกับเหล่าครีเอเตอร์ เพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแบบที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในช่วง Mega Sales Day

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า ก้าวเข้ามาสู่ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว และผู้คนจำนวนมากก็ยังคงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นตัวเลือกหลักในการชอปปิง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่แบรนด์ต่างๆ ควรประเมินว่าจะสร้าง engagement หรือปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักช้อปอย่างไร 

โดยเฉพาะในเรื่องของการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าและมีความสามารถในการตอบโจทย์ตรงความต้องการเฉพาะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในรูปแบบที่ดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมที่ดีกับตัวแบรนด์ด้วย เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่กำลังจะมาถึงในช่วงเทศกาลนี้
#2862


หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง ถือเป็นสัญญาณบวกว่าช่วงพีคได้ผ่านพ้นไปแล้ว

โดยในเฟสแรกนี้ยังให้คงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดตามเดิม และเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านในช่วง 21.00-04.00 น. ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น

สำหรับการผ่อนคลายเริ่มตั้งแต่ร้านอาหาร โดยร้านอาหารที่ไม่ติดแอร์ อยู่นอกอาคาร อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 75% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ส่วนร้านอาหารที่เป็นห้องแอร์นั่งได้ 50% และยังคงให้งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน และเปิดให้บริการได้ถึง 20.00 น. แต่มีเงื่อนไขที่คุมเข้มขึ้น เพราะกำนหนดให้ผู้ใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ผ่านการตรวจ ATK ไม่เกิน 7 วัน

นอกจากนี้ ไฟเขียวให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดเฉพาะนวดเท้า รวมทั้ง สนามกีฬากลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ และสวนสาธารณะ เปิดให้บริการไม่เกิน 20.00 น.

ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้กลับมาเปิดบริการได้ทุกแผนกถึง 20.00 น. แต่บางกิจกรรมยังมีการกำหนดเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการ ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ที่อยู่ในห้าง ให้บริการเฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงามเปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น

แต่สถาบันกวดวิชา โรงหนัง สวนสนุก สวนน้ำ สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุมห้องจัดเลี้ยงในห้างและศูนย์การค้าต่างๆ ยังไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดบริการในรอบนี้

การผ่อนคลายล็อกดาวน์ของศบค. น่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังรอบนี้มีการใช้ยาแรงคุมเข้มล็อกดาวน์กิจกรรมกิจการต่างๆ มานานกว่า 1 เดือน

อย่างศูนยการค้าที่ก่อนหน้านี้ให้เปิดเฉพาะโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ตามด้วยธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วนร้านอาหารยังห้ามนั่งทานในร้านต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น แต่หลังวันที่ 1 ก.ย. นี้ เมื่อคลายล็อกแล้ว ร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้นั่งทานได้ น่าจะทำให้บรรยากาศในห้างเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ประชาชนสามารถออกมาชอปปิง เดินเล่น ซื้อของได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด การ์ดห้ามตก ขณะที่ภาครัฐออกข้อบังคับที่คุมเข้มขึ้น ทั้งตัวสถานที่ ผู้ให้บริการ รวมทั้งลูกค้าที่จะเข้าไปใช้บริการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรอบใหม่ขึ้น

สำรวจดูหุ้นศูนย์การค้าของไทยดูจะตอบรับข่าวดี "เปิดห้าง" ราคาหุ้นบวกสดใสหลังมีมติออกมา อย่างบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เจ้าของเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส ปิด 13.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.72% หวังว่าจุดต่ำสุดของธุรกิจได้ผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของ "เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์" ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของบริษัท เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นกว่าที่ธุรกิจจะกลับมาคัมแบ็คอย่างเต็มรูปแบบคงต้องรอการเปิดประเทศ

ส่วนบริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ปิด 3.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 6.21% บวกรับข่าวดีเช่นกัน หลังที่ผ่านมาได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 จนผลประกอบการปี 2563 พลิกขาดทุน 249.70 ล้านบาท ปีนี้ยังสาหัสครึ่งปีแรกขาดทุนไปแล้ว 271.49 ล้านบาท หลังต้องปิดศูนย์การค้าขวัญใจขาช้อปทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ย่านประตูน้ำ

ด้านบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ดูจะเป็นหุ้นตัวเดียวในกลุ่มที่ราคาพุ่งติดจรวดสวนทางเพื่อนๆ ในกลุ่ม ล่าสุดปิดที่ 11.80 บาท ถามว่าไม่ได้รับกระทบจากโควิดเหรอ? คงไม่ใช่

แต่ที่พุ่งติดจรวดขึ้นมาทำนิวไฮแบบนี้ เพราะมีสตอรี่เฉพาะตัว หลังกลุ่มบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR และผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัดสินใจขายหุ้น 52.15% ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะบุ๊คเป็นกำไรเข้ามา โดยกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จวันนี้ (30 ส.ค.)

ส่วน CPN ในฐานะกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย ราคาปรับตัวลงเล็กๆ ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.47% ส่วนหนึ่งนักลงทุนอาจมองว่ายังมีภาระรายจ่ายพิเศษจากดีลซื้อกิจการอยู่ แต่ถ้ามองในพื้นฐานธุรกิจ กูรูหลายๆ สำนักมองไปในทิศทางเดียวกันว่าจุดต่ำสุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว ครึ่งปีหลังจะเริ่มสดใสขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดที่ค่อยๆ คลี่คลาย
#2863


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นการเร่งพัฒนายกระดับเอสเอ็มอีไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างขีดความสามารถทางทำธุรกิจในระดับสากลมาก ซึ่งกลุ่มเอสเอ็มอีนับเป็นฐานเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของประเทศที่ทาง สสว. ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้จัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์เอสเอ็มอีประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 

โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการรวมกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่ม ดิจิทัล คอนเทนท์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยฝีมือและผลงานคุณภาพระดับสากลของผู้ประกอบการไทยกลุ่มดิจิทัล คอนเทนท์ทำให้สามารถสร้างเม็ดเงินในอุตสาหกรรมฯ ได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท

อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจและคาดการณ์ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลกับสถาบันไอเอ็มซีมีการคาดการณ์ว่าในปี 2565 มูลค่าอุตสาหกรรม อยู่ที่ 45,094 ล้านบาทและเติบโต 15% ซึ่งมีการเติบโตทั้งในส่วนแอนิเมชั่น เกมและคาแรคเตอร์


"การพัฒนาดิจิทัล คอนเทนท์ คลัสเตอร์และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เข้มแข็ง มุ่งให้เกิดการขยายสัดส่วนมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมของเอสเอ็มอีต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ดังนั้นการสร้างกลุ่มหรือคลัสเตอร์ทำให้เกิดความเข้มแข็งและอยู่รอดได้"

สำหรับการจัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ดังกล่าว  ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์เอสเอ็มอีปี 2564 ถือเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ในการสร้างความร่วมมือของหน่วยงานรัฐสองหน่วยงาน ระหว่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับ มหาวิทยาลัยศิลปากร รวมถึงการไปร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก

อาทิ สมาคมดิจิทัลคอนเทนท์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) รวมทั้งพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้นำผลงานของผู้ประกอบการในเครือข่ายดิจิทัลคอนเทนต์ไปต่อยอด ทั้งด้านการผลิต และการจัดจำหน่ายอี-คอมเมิร์ซ 

โดยในการพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีและคลัสเตอร์ดิจิทัล คอนเทนท์ให้มีความเข้มแข็งจะต้องอาศัยการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานภาคีต่างๆ หลายหน่วยงาน

ที่ผ่านมากิจกรรมนี้ได้สนับสนุนให้ประกอบการในคลัสเตอร์ดิจิทัล คอนเทนท์ ได้มีเวทีและโอกาสในการนำเสนอผลงานต่อนักลงทุน สื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการในคลัสเตอร์อื่น รวมทั้งกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสามารถกระตุ้นและต่อยอดให้เกิดมูลค่าในอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
#2864


เดินสายทำการกุศลต่อเนื่องสำหรับ "กายศิวกร เลิศชูโชติ" นักแสดงสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี ที่ร่วมส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ล่าสุดจัดฉลองวันเกิดร่วมกับแฟนคลับ ด้วยการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อเป็นกำลังใจสู้ภัยโควิด-19 ต่อไป

โดยการจัดงานวันเกิดครั้งนี้ "กาย" ศิวกร ได้จัดงานด้วยการไล์ฟสด ให้บรรดาแฟนคลับได้ร่วมฉลองอวยพรวันเกิด หลังจากที่มีการรณรงค์ให้อยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม อีกทั้งยังได้มีการร่วมทำบุญบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อสิ่งของต่างๆ ให้กับบุคลากรด่านหน้า  

โดยหนุ่ม "กาย" ศิวกร ยังได้จัดทำเครื่องดนตรีเบสเอง  เพื่อการประมูลหาเงินทำบุญในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากการจัดงานได้รวบรวมเงินทำบุญและการประมูลได้จำนวน  59,999 บาท โดยหนุ่มกาย ได้ร่วมมอบให้กับ ศูนย์ข้าวเพื่อหมอ Food for Fighters ณ สมาคมทำโปรเจคนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเหมารถเข็น 3 คัน ร่วมแจกข้าวกล่อง 200 กล่อง แกง 200 ถุง และน้ำสมุนไพร จำนวน 200 ขวด แจกตามจุดต่าง ๆ อาทิ ศูนย์พักคอยวัดปทุมคงคา, ชุมชนคนไร้ญาติหัวลำโพง อีกด้วย

นอกจากนี้บรรดาแฟนคลับยังได้จัดฉลองวันเกิดให้กับหนุ่มกาย ศิวกร ด้วยการทำโปรเจคต์รถตุ๊กๆ โปรเจคต์หน้าลิฟท์ และ ขึ้น LED ที่บริเวณ ลอบบี้ หน้า GMM TV อีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่าหนุ่มกายได้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ กันไปเลยทีเดียว
#2865


วันนี้ (29 ส.ค.) เพจ 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' โพสต์ภาพวัคซีนซิโนฟาร์ม ที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 2 ล้านโดส โดยทาง โรงพยาบาลได้ระบุข้อความว่า

'29 สิงหาคม 2564 : วัคซีนซิโนฟาร์มล็อตที่ 7 จำนวน 2 ล้านโดส เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้ว รวมจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ 20 มิ.ย. - 29 ส.ค. 2564 เป็นจำนวน 9 ล้านโดส'

โดย วัคซีนซิโนฟาร์ม ของ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เตรียมไว้สำหรับฉีดให้กับประชาชนบุคคลธรรมดา ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดลงทะเบียนขอรับการจัดสรรวัคซีนหลัก สำหรับบุคคลธรรมดา ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาก่อน ลงทะเบียนขอรับวัคซีนโควิด-19 หลัก (AstraZeneca หรือ Sinovac) ณ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ CAT Convention Hall ถนนแจ้งวัฒนะ

เปิดลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับวัคซีนหลัก โดยยังไม่กำหนดวันนัดหมายรับวัคซีนจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 9.00 น. ผ่านทางเว็บไซต์ https://vaccinecovid19.cra.ac.th/ ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับ SMS ตามลำดับ ID เพื่อแจ้งให้ท่านเข้ามาดำเนินการเลือกวัน-เวลาเข้ารับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

เงื่อนไขการเข้ารับวัคซีนหลักกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอสงวนสิทธิสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลที่สามารถเดินทางมารับวัคซีน ณ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ CAT Convention Hall ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เท่านั้น เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์สำหรับผู้ที่สามารถเข้ารับวัคซีนได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด

ผู้ลงทะเบียนต้องระบุเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขที่หนังสือเดินทาง หรือเลขที่บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไม่มีนโยบายให้ฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ผู้ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนหลักกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่สามารถเลือกชนิดของวัคซีนได้ โดยให้บริการตามโควต้าวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรมาจากกระทรวงสาธารณสุข
#2866


วันที่ 28 สิงหาคม 2454 สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี แถลงข่าวเปิดตัวสโมสรสู้ศึก ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22 ในรูปแบบออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'the future always together' รากฐานสำคัญของฟุต.ในอนาคต คือระบบเยาวชนที่ดี โดยมี พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร ประธานสโมสรฯ และ มร.ไบรอัน แอล มาร์คาร์ ประธานสโมสรร่วม เป็นประธานในงานแถลงข่าว

นอกจากนี้ยังมีขุนพลนักเตะร่วมเปิดตัวคับคั่ง อาทิ 'ลีซอ' ธีรเทพ วิโนทัย และ ไอแซค ฮอนนี่ สองกัปตันทีมประจำฤดูกาลนี้ รวมทั้ง วันชัย จารุนงคราญ, ประสิทธิ์ ผดุงโชค, กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก, เอวานโดร เปาลิสต้า, เดนีย์ เดอแบร์เลย์, เอกชัย สำเร และ ชุมพล บัวงาม

ไฮไลท์ของงานคือการเผยโฉมชุดแข่งขัน โดยชุดเหย้า ยังคงเป็นสีแดง สีประจำสโมสร ใส่ลายรากไม้ลงบนพื้นเสื้อ เพื่อแสดงถึงเป้าหมายในการพัฒนาระบบเยาวชน ในการวางรากฐานสำคัญเพื่อสร้างเพชรเม็ดใหม่ขึ้นมาประดับวงการฟุต.ไทย

ชุดเยือน สีขาว ลวดลายผ้าขาวม้า เป็นโครงการร่วมมือกับ นักศึกษาสาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยการเผยแพร่และผลักดันผ้าขาวม้าไทย

นอกจากนี้ยังเปิดตัวชุดเยือนชุดที่ 3 สีเหลือง, ชุดผู้รักษาประตู ทั้ง 2 สี และชุดลำลอง 3 สี

โดย 'บิ๊กแมน' ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม โปลิศ เทโร เอฟซี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดการแถลงข่าว ในครั้งนี้ว่า 'ปีนี้สโมสรโปลิศ เทโรฯ จะเน้นการสร้างเยาวชนเป็นหลัก เราได้เซ็นสัญญากับสโมสรอะคาเดมี่ และนักเตะเยาวชนเข้าร่วมทีมมากมาย เพื่อต้องการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับวงการฟุต.ไทย'

ขญะที่ 'โค้ชอ้น' รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือคนเก่งของทีม ได้เผยถึงเป้าหมายขอบทีมในฤดูกาลนี้ว่า 'ปีนี้เท่าที่ได้คุยกับผู้ใหญ่ก็ตั้งเป้าไว้ว่าอยากจบครึ่งบนของตาราง แต่ส่วนตัวก็มั่นใจในศักยภาพทีมว่าจะสามารถจบท็อป 6 ของฤดูกาลได้ ก็ฝากให้แฟนฟุต.โปลิศ เทโรฯ ติดตามให้กำลังใจนักเตะกันได้ ทั้งผ่านหน้าจอทีวี และที่สนามเมื่อวันที่เข้าชมเกมได้'

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดแรก โปลิศ เทโร เอฟซี จะบุกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ที่สนามช้าง อารีน่า ในวันที่ 5 กันยายน 2564 เวลา 19:00 น.
#2867


วันนี้ (27 สิงหาคม 2564)​ซิกน่าประกันภัย ผู้นำทางด้านประกันสุขภาพระดับโลก เดินหน้ามอบความห่วงใย นำนวัตกรรมทางดิจิทัลเข้ามาปรับใช้เพื่อสร้างศูนย์รวมข้อมูลอันเป็นประโยชน์ให้แก่คนไทย เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Cigna Covid Self-Service Center บนแพลตฟอร์ม Line Official Account @CignaThailand ให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ และรายงานอัพเดตประจำวันเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างง่ายดาย ภายใต้แพลตฟอร์มเดียว เพียงคลิกที่ https://bit.ly/CignaLine



จากสถิติการใช้งานแพลตฟอร์มการสื่อสารในประเทศไทยพบว่า แพลตฟอร์มหลักในการสื่อสารที่มี Active User หรือการใช้งานมากที่สุด ได้แก่ แพลตฟอร์ม LINE ซึ่งซิกน่าเองเล็งเห็นถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ซิกน่าจึงได้พัฒนาระบบ LINE Messaging API ในการส่งข้อความอัตโนมัติ (Chatbot) และระบบเฟรมเวิร์กบนหน้า Line Official Account ของ @CignaThailand เพื่อใช้เป็นช่องทางในการตอบคำถามและให้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ อาทิ กรมควบคุมโรค, สปสช. หรือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลอัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน, ศูนย์ช่วยเหลือผู้ป่วย, หรือข้อมูลแนวทางการปฏิบัติ และช่องทางการติดต่อเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ที่คนไทยควรรู้ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้ จะช่วยให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ โดยไม่ต้องหาข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข่าวอีกต่อไป



นายธีรวุฒิ สุธนะเสรีพร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซิกน่ามีการเดินหน้าใช้กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรผ่านระบบ Cigna Health Ecosystem มาโดยตลอด ซึ่งเราตั้งเป้าหมายในการดูแลลูกค้าตั้งแต่การจัดการทางด้านสุขภาพแบบเชิงรุก เพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด จนถึงขั้นตอนแห่งการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยฟีเจอร์ใหม่ของซิกน่าในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของเรา ในการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อส่งมอบความห่วงใยให้แก่ลูกค้าผ่านการนำเสนอข้อมูลอันเป็นประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ผมอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นลูกค้าของเราเท่านั้น แต่ทุกคนสามารถแอดไลน์ @CignaThailand เพื่อรับข้อมูลและข่าวสารอันเป็นประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างมั่นใจ"
#2868


เจมี วาร์ดี กับ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน สองตัวบุกของ เลสเตอร์ ซิตี จับมือกันยิงคนละตุงก่อนช่วยพา 'สุนัขจิ้งจอก' เฉือนหืด นอริช ซิตี 2-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
นอริช ซิตี 1-2 เลสเตอร์ ซิตี

คู่ถัดมาที่ คาร์โรว โรด นอริช ซิตี รองบ๊วยไม่มีแต้ม เจอ เลสเตอร์ ซิตี อันดับ 12 มี 3 แต้ม เกมนี้ 'นกขมิ้น' วางตัว ตีมู ปุกกี กับ ท็อดด์ แคนท์เวล ลงยิง ส่วน 'จิ้งจอก' วางคู่หน้าเป็น เจมส์ แมดดิสัน กับ เจมี วาร์ดี

เริ่มเกม 7 นาที เลสเตอร์ ขึ้นนำก่อนเลย ริคาร์โด เปเรย์ร่า แย่ง.หลุดมาทางซ้ายแล้วตบให้ เจมี วาร์ดี แปตุงตาข่าย 1-0 ขณะที่ นาที 16 นอริช ตอบโต้ แม็กซ์ อารอน จ่ายยัดมา เคนนี แม็คลีน ตั้งป้อมยิงแต่ตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล

นอริช หาทางเจาะ นาที 26 มิโลต์ ราชิซ่า เก็บ.หน้าประตูแล้วพลิกหาช่องยิงแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ล้มตัวเซฟทัน ทว่า นาที 42 นอริช ได้จุดโทษหลัง มิโลต์ ราชิซ่า โดน คาลาร์ โซยุนชู สไลด์กลิ้งลงไปแล้ว ตีมู ปุกกี ยิงไม่พลาดและจบครึ่งแรกที่ 1-1

ครึ่งหลัง นาที 55 นอริช คึกจะเอาลูกสอง แม็กซ์ อารอนส์ เปิดมาให้ ตีมู ปุกกี โหม่งแต่.เบาเกินเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิล ด้านของ เลสเตอร์ เอาบ้าง ยูริ ตีเลอมองส์ เก็บ.แถวสองแล้วตั้งป้อมซัดไกลแต่ข้ามคาน

กระทั่ง นาที 76 เลสเตอร์ เฮลั่น เจมี วาร์ดี จ่ายตัดเข้าขวาให้ มาร์ค อัลไบรธ์ตัน วิ่งมาซัดพุ่งเข้าเสาไกล 2-1 ด้าน นอริช เฮเก้อ นาที 80 เคนนี แม็คลีน พุ่งมาโหม่ง.จากเตะมุมเข้าไปแล้ว แต่ถูกเป่ายกเลิกเพราะ ท็อดด์ แคนท์เวล์ ไปยืนบังหน้า แคสเปอร์ ชไมเคิล เป็นเจตนาบดบังวิสัยทัศน์คู่แข่ง และเวลาที่หลือก็ยิงไม่ได้แล้ว จบเกม เลสเตอร์ ชนะเป็นเกมที่ 2 ของซีซั่น ส่วน นอริช แพ้ 3 นัดรวด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช ซิตี - ทิม ครูล, เบน กิบสัน, แกรนท์ ฮันลีย์, แบรนดอน วิลเลียมส์, แม็กซ์ อารอนส์, บิลลี กิลมัวร์, เคนนี แม็คลีน, ปิแอร์ ลีส์-เมลู, มิโลต์ ราชิซ่า, ท็อดด์ แคนท์เวล, ตีมู ปุกกี
เลสเตอร์ ซิตี - แคสเปอร์ ชไมเคิล, คาลาร์ โซยุนชู, ดาเนียล อามาร์ตี, ลุค โธมัส, ริคาร์โด เปเรย์ร่า, เจมส์ แมดดิสัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี, ยูริ ตีเลอมองส์, ฮาร์วีย์ บาร์นส, มาร์ค อัลไบรธ์ตัน, เจมี วาร์ดี
#2869


วันนี้ (27 ส.ค.) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การจัดซื้อ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และโรงพยาบาลราชวิถี องค์การฯ ไม่ได้เป็นผู้ปรับลดข้อกำหนด หรือ Spec แต่อย่างใด ในการจัดซื้อใช้ข้อกำหนดที่ สปสช.เป็นผู้กำหนดมาตั้งแต่แรก ว่ามีความต้องการชุดตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Covid-19 Antigen test Self -Test kits) หรือ Home use ไม่ใช่ Professional Use อีกทั้ง สปสช. ส่งข้อกำหนดล่าสุดในการจัดซื้อ โดยต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพียงอย่างเดียว ไม่ได้กำหนดว่าต้องผ่านมาตรฐาน WHO แต่อย่างใด

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการนั้น เมื่อวานนี้ (วันที่ 26 สิงหาคม 2564) คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษของ สปสช. ได้เห็นชอบราคาชุดตรวจ ATK ที่องค์การฯ เสนอ พร้อมได้ให้โรงพยาบาลราชวิถีดำเนินการจัดซื้อจากองค์การฯ ต่อไป ซึ่งในวันนี้ (วันที่ 27 สิงหาคม 2564) องค์การฯ กับบริษัทได้เข้าร่วมหารือถึงแนวทางการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมแผนการส่งมอบ การตรวจสอบคุณภาพ ATK และเตรียมการลงนามในสัญญา ซึ่งกำหนดการลงนามในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 นี้

ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการตรวจสอบและติดตามคุณภาพสินค้าที่ส่งมอบนั้น องค์การฯ มีนโยบายคุณภาพชัดเจนที่จะไม่ยอมให้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพไปสร้างผลกระทบต่อผู้บริโภค สำหรับ ATK นี้ องค์การฯ มีกระบวนการตรวจสอบและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจรับก่อนส่งให้หน่วยบริการ จนถึงตรวจติดตามเฝ้าระวังคุณภาพของ ATK ภายหลังการส่งมอบด้วย

"เหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของชุดตรวจ ATK แก่สังคม ในมุมมองต่าง ๆ ทั้งเรื่องของมาตรฐานคุณภาพ วิธีการใช้งาน ตลอดจนราคาของ ATK และที่สำคัญคือมีการแข่งขันในการเสนอราคา ทำให้ราคาของ ATK ในประเทศที่ยังสูงอยู่มากนั้น มีทิศทางที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงการตรวจด้วย ATK ได้มากขึ้น ค้นหาผู้ติดเชื้อในวงกว้าง เข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น รวมถึงหากมีการใช้กันอย่างแพร่หลายจากการที่หาซื้อได้ง่าย จะทำให้เกิดความมั่นใจและสามารถผ่อนคลายมาตรการได้รวดเร็วขึ้น" ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมกล่าว

นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหารรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) จำกัด และกรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด ตัวแทนจำหน่ายชุดตรวจ ATK ของบริษัท ออสท์แลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงชุดตรวจ ATK แบบ สวอปจมูกมาจำหน่ายในราคาที่ถูกลง โดยชุดตรวจจากบริษัท Lepu นี้เป็นที่นิยมใช้เป็นตัวหลักในประเทศเยอรมัน ออสเตรีย และอีกหลาย ๆ ประเทศในยุโรป เมื่อบริษัท ออสท์แลนด์ฯ ได้รับการอนุมัติจาก อย. จึงสนใจและเป็นฝ่ายเข้าไปติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย สำหรับกระจายให้กับหน่วยงานภาครัฐและกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มงานราชการ ซึ่ง ATK จะเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมทำให้ประเทศไทยกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น และในภาคเศรษฐกิจได้เดินหน้าต่อ
#2870
รู้หรือไม่ว่า รถพยาบาล นอกจากจะเป็นรถยนต์รับส่งผู้เจ็บป่วยกรณีฉุกเฉินเพื่อให้คนเจ็บไปถึงมือหมอโดยด่วนที่สุด ตามที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยแล้วก็รู้จักบริการนี้กันมากที่สุดแล้ว ยังมีบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ให้เดินทางไปเจอหมอตามโรงพยาบาลต่างๆหรือจะโยกย้ายผู้ป่วยเพื่อไปทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมต่างๆกับครอบครัว ยกตัวอย่างเช่น ร่วมงานบุญ งานบวช งานสมรส รถพยาบาลเอกชนก็สามารถให้บริการได้ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายด้านการเดินทางให้กับทั้งตัวคนไข้ติดเตียงแล้วก็เครือญาติของผู้เจ็บป่วยเหล่านั้น แล้วก็นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆนอกเหนือจากการรับส่งคนป่วย ที่รถพยาบาลพร้อมให้บริการอีกมากมาย





ทั้งหมดที่กล่าวไปสามารถเรียกใช้บริการจาก รถพยาบาลเอกชน TG 2 Ambulance Service ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเรียกใช้งานได้จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งการย้ายที่ผู้ป่วยฉุกเฉิน คนไข้ตรวจตามหมอนัดหมาย รถรับส่งผู้ป่วยกลับบ้านพัก ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด คนไข้ย้ายโรงพยาบาล ส่งรักษาต่อตามสิทธิ์ รวมทั้งผู้เจ็บป่วยไปทำธุรกรรมต่างๆอาทิ ไปธนาคาร ติดต่องานราชการ รวมทั้งไปร่วมงานบุญต่างๆ โดยทีมพยาบาลของ TG 2 Ambulance Service นั้นสามารถเชื่อถือแล้วก็ไว้ใจได้ เพราะพร้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเวชกิจฉุกเฉิน มีความเชี่ยวชาญสำหรับเพื่อการดูแลคนไข้ และเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ในด้านการทำงาน รวมถึงมีความพร้อมในเรื่องของออกซิเจน ชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์ยกเคลื่อนย้ายผู้เจ็บป่วยที่ทันสมัย นอกจากเครื่องมือจะทันสมัยแล้ว รถพยาบาลก็ทันสมัยด้วยเหมือนกัน รถทุกคันของ TG 2 Ambulance Service มีการปรับระบบช่วงล่างของตัวรถเพื่อลดการกระทบ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เจ็บป่วยที่เข้ารับบริการจะถูกโยกย้ายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ญาติพี่น้องคนรอบข้างต้องเป็นกังวลแน่นอน





ทาง TG 2 Ambulance Service ยังมีบริการรถพยาบาลอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ บริการรถพยาบาล สแตนบาย บริการภาคสนามเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยทีมงานรถพยาบาลครบทีม พร้อมพยาบาลวิชาชีพ และก็เจ้าหน้าที่ผ่านการฝึกอบรมเวชกิจฉุกเฉิน ที่มากประสบการณ์ในการทำงานด้านสแตนบาย ถ้าเกิดจะจัดงานอีเวนท์ หรืองานที่รวมผู้คนไว้เป็นจำนวนมาก ก็จะต้องมีทีมดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญคอยประกบดูแลเฝ้าระวังเพื่อให้แน่ใจว่า ถ้าเกิดผู้มาร่วมงานบาดเจ็บหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ก็ยังมีทีมที่รอดูแลให้ปลอดภัย ดังสำนวนภาษิตที่ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ ตัวอย่างงานที่เคยให้บริการรถพยาบาลแสตนบายมีหลากหลาย อาทิเช่น งานแข่งกีฬาต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานวิ่งมาราธอน แข่ง. เทนนิส ยิงปืน, งานอีเวนท์ อาทิเช่น งานการแสดงดนตรี งานจัดเพื่อแสดงสินค้า งานเลี้ยง ประชุมสัมมนา งานลอยกระทง งานประจำปีใหม่ งานสงกรานต์, งานทัวร์ ให้ติดตามคณะทัวร์ ดูแลระหว่างที่ทำกิจกรรมในกรุ๊ปทัวร์, และก็ยังให้เช่ารถพยาบาล สำหรับซ้อมแผนหนีไฟ เช่าไปถ่ายละคร โฆษณา ภาพยนตร์ และก็สื่อบันเทิงอื่นๆ รวมถึงเช่าเพื่อไปประจำโรงงานหรือสถานประกอบการต่างๆก็ได้ หากคนใดที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่สนใจหรือมีคนรอบตัวกำลังอยากได้รับบริการรถพยาบาลเอกชนทั้งการรับส่งผู้ป่วยแล้วก็การแสตนบายภาคสนาม สามารถติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์: 083-816-8889, 092-269-3360 หรือทางไลน์ผ่าน ID: ambulancetg2 ได้เลย

#2871
ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69  เนื้อที่ 27 ตรว. ราคา 4.9 ล้านบาท กู้ได้เต็ม ตามเครดิต ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69,

ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69  ขายบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69,  ขายบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20   ลาดพร้าว69 เลียบทางด่วนรามอินทรา อาจณรงค์ เนื้อที่ 27 ตรว. ขายถูกกว่าใกล้เคียงเพียง 4.9 ล้านบาท กู้ได้เต็ม ตามเครดิต
ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69  ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69 กู้ได้สูง ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69เลียบทางด่วนรามอินทรา  ขายบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4.9 ล้านบาท พื้นที่ 27 ตรว. 4นอน 2น้ำ ขายบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20  ลาดพร้าว 69 แอร์ 4  ตกแต่งใหม่ทั้งหลัง Renovate ใหม่

Sell Detached House 3 FL 4.9 MB 27 Sqwa 4Bed 2 Toliet Ladprow 69 Nakniwat 20 Air 4
ขายบ้านดี่ยวลาดพร้าว เลียบด่วนรามอินทรา

ขายบ้านสวย น่าอยู่ สภาพดี
เข้าออกได้หลายทาง หาของกินง่าย
เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก นัดดูบ้านได้เลย
ขายถูกมากเพียง 4.9 ล้านบาท
ขายราคาคุ้มมาก ต่อรองได้

ตกแต่งใหม่ทั้งหลัง
-แอร์ 4 เครื่อง
-ห้องโถงกว้าง เล่นระดับ มีส่วนห้องนั่งเล่น
-ห้องครัวใหญ่ ห้องน้ำสวยพร้อมอ่างอาบน้ำ
-ระเบียงกว้าง ที่จอดรถ 2 คัน สำหรับอยู่อาศัย หรือ
-จดเป็นบริษัท
-เข้าซอยไม่ลึก

ทำเลที่ตั้ง บ้านเดี่ยวแขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69

สนใจ บ้านดี่ยวลาดพร้าว69 สอบถามได้
ขายถูกกู้ได้สูง เพียง 4.9 ล้านบาท
**ราคานี้รวมภาษี,ค่าธรรมเนียมการโอนแล้ว **

ติดต่อชื่อ ศุภแมน จิรธนาโสภณ โทร.096-7915589


รายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://postasungha.com/?p=4074


คำค้น
ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69, ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69, ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69กู้ได้เต็ม,
ขายถูกบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20,   ขายบ้านเดี่ย ลาดพร้าว69เลียบทางด่วนรามอินทรา,ขายถูกกว่าใกล้เคียงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69
#2872


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน เดินหน้าช่วย เกษตรกรไทย ลดผลกระทบจากวิกฤต การแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้โครงการเกษตรกรแฮปปี้ ด้วยการรับขนส่งผลไม้ผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย ในอัตราค่าบริการพิเศษ และเปิดพื้นที่ขายผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าขนส่งและเพิ่มช่องทางการขายให้เกษตรกร

โดยสามารถจำหน่ายได้ทั้งช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงให้สิทธิ์เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่มีการ แพร่ระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ในการช่วยบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรไทยด้วยการลกต้นทุนค่าขนส่งให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการระบายผลผลิตให้ทันตามฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง


โดยได้จัดตั้งโครงการ เกษตรกรแฮปปี้ เปิดช่องทางให้เกษตรกรสามารถนำผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ มังคุด ลำไย และ เงาะโรงเรียน มาจำหน่ายผ่าน เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ ในราคาพิเศษ รวมถึงลดค่าบริการส่งด่วนทั่วไทย (EMS) สูงถึง 20% ในช่วงเทศกาลผลไม้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และปรับอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 3 กิโลกรัมแรก เพียง 50 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 20 กิโลกรัม เพื่อช่วยเกษตรกรและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง

นายดนันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้เดินหน้าโครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ซึ่งในช่วงฤดูกาลจำหน่ายลำไยที่กำลังจะมาถึงนี้ ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการรับฝากผลไม้ผ่านการหุ้มห่อและใส่บรรจุภัณฑ์ได้ตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้ทั้งแบบกล่องและตะกร้าตามที่ไปรษณีย์ไทยวางจำหน่าย และจัดส่งได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศจนถึงสิ้นปี 2564


ในการก้าวสู่ปีที่ 19 ขององค์กร ไปรษณีย์ไทยยังคงยึดมั่นและเป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรไทยได้ฝ่าวิกฤต COVID-19 อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งจะเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐและเอกชนในการเข้าถึงความช่วยเหลือในทุกภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะภาคสังคมและสาธารณสุข อย่างเช่น โครงการ "ส่งความห่วยใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ที่ช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพื่อส่งพลังความห่วงใยและเคียงข้างคนไทยให้ผ่านสถานการณ์วิกฤต COVID-19 นี้ ไปด้วยกัน นายดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
#2873


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มบีทีเอส และกลุ่มเจมาร์ท วันนี้ (27 ส.ค.) บวกขึ้นเกือบยกแผง ภายหลังบริษัทในเครือบีทีเอส ได้แก่ บมจ.วีจีไอ (VGI) และ บมจ.ยู ซิตี้ (U) ประกาศเข้าลงทุนใน บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และบริษัทในเครือ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท


โดยพบว่าราคากลุ่มบีทีเอส ได้แก่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บวก 0.54% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 9.30 บาทต่อหุ้น ส่วนบริษัทลูก VGI บวก 0.80% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น และ U บวก 4.72% หรือ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 1.11 บาทต่อหุ้น

ส่วนกลุ่มเจมาร์ท ได้แก่ JMART บวก 4.29% หรือ 1.50 บาท มาอยู่ที่ 36.50 บาทต่อหุ้น บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) บวก 1.18% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 43.00 บาทต่อหุ้น และ SINGER ลบ 1.24% หรือ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 39.75 บาทต่อหุ้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนของกลุ่มบีทีเอสในกลุ่มเจมาร์ท มองเป็นปัจจัยบวกต่อทั้ง 2 บริษัท โดยเฉพาะ VGI กับ JMART ที่คาดว่าจะเห็นการผนึกกำลังร่วมมือกัน (Synergy) อีกมาก โดยคาดว่า JMART จะได้ประโยชน์จากธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านการใช้สื่อร่วมกันกับ VGI

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ส่วน VGI ที่ก่อนหน้านี้ประกาศลงทุนใน บริษัท แฟนส์ลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (Fanslink) ผู้นำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แก็ดเจ็ต) ของจีน คาดว่าจะได้ประโยชน์จากร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือและสินค้าที่เกี่ยวข้องของ JMART ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งปัจจุบัน VGI มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ (D/E) ที่ 0.1-0.2 เท่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจากทั้ง 2 กลุ่ม เลือก VGI และ JMT เป็นหุ้นเด่น โดย VGI ราคาเหมาะสม 6.50 บาทต่อหุ้น แต่มีโอกาสปรับเพิ่มราคาเหมาะสมจากการเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ท

ส่วน JMT ราคาเหมาะสม 51.00 บาทต่อหุ้น ได้ปัจจัยหนุนการเพิ่มทุนของบริษัทที่ราคาไม่แตกต่างจากราคากระดานมาก โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน 70% ไปซื้อหนี้เสียมาบริหาร รองรับการเติบโตในอนาคต และอีก 30% จะนำไปใช้คืนหนี้ อีกทั้งบริษัทมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มทุนอีกด้วย


นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า VGI และ U เข้าถือหุ้นใน JMART และ SINGER ทางกลุ่มบีทีเอสเข้าลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทผ่านทางดีลสำคัญ 3 ดีล ได้แก่ 1. VGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 15% มูลค่า 6,257 ล้านบาท 2. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART 9.9% มูลค่า 4,171 ล้านบาท และ 3. U เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน SINGER 24.9% มูลค่า 7,155 ล้านบาท ประเมิน Synergy ที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเพิ่มทุนแบบวงจำกัด (PP) ของ JMART และ SINGER ที่ 30.337 และ 36.3005 บาท ต่ำกว่าราคาปิดในกระดานที่ 13% และ 9% ตามลำดับ อาจกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้นบ้าง สำหรับเงินทุนเราคาดส่วนใหญ่จะใช้การกู้ยืม เนื่องจาก VGI และ U มีหนี้สินต่อทุนต่ำที่เพียง 0.23 และ 0.49 เท่า ขณะที่มีส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 15,904 และ 39,302 ล้านบาท
#2874


สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และลาซาด้า เปิดตัวความร่วมมือส่งเสริมแบรนด์และสินค้าอิตาลีบนห้างสรรพสินค้าออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย ผ่านการลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อเปิดตัวพาวิลเลียนอิตาลีในชื่อ "Authentic Italy" แคมเปญดิจิทัลส่งเสริมสินค้า "Made In Italy" ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพชั้นเยี่ยม ความร่วมมือนี้มุ่งหวังให้นักช้อปออนไลน์สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศอิตาลีแท้ๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว พร้อมยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดพรีเมี่ยมกับสินค้านานาชนิดจากประเทศอิตาลี เตรียมพบกับแคมเปญ Authentic Italy ได้ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 สิงหาคมนี้ บนแพลตฟอร์มลาซาด้าเท่านั้น

ฯพณฯ ลอเรนโซ กาลันตี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า "สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปยังต่างประเทศ ทำให้คนไทยที่ชื่นชอบแบรนด์อิตาลีไม่สามารถเดินทางไปช้อปปิ้งที่อิตาลีได้เหมือนเคย แต่ "Authentic Italy" พาวิลเลียนอิตาลีเสมือนจริงแห่งใหม่บน LazMall จะทำให้นักช้อปไทยสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าอิตาลีเสมือนอยู่อิตาลีจริงๆ เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบอาหารอิตาลี และชอบการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอิตาลีแท้ๆ จากที่บ้าน เราจึงมีความยินดีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์อิตาลีชั้นดีให้ลูกค้าชาวไทยอันเป็นที่รักของเราได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เรายังมุ่งหวังที่จะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อิตาลีและขยายฐานลูกค้าใหม่ทั่วประเทศบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับพรีเมียมอีกด้วย ความร่วมมือกับลาซาด้าในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือระยะยาวตลอดทั้งปี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสินค้าอิตาลี ยิ่งไปกว่านี้ทุกสิ้นเดือน เราจะมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าของเราเช่นกัน"

นายจูเซปเป ลามัคเคีย ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ข้อตกลงร่วมกันระหว่างสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนและลาซาด้า ประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินงานของเรา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้และเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ Made in Italy ของแท้ที่พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย จากความมุ่งหวังดังกล่าว เราจึงส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจให้ใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีความล้ำสมัยผ่านการสร้างช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบพาวิลเลียนอิตาลีบน LazMall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแบรนด์ชั้นนำบนลาซาด้าเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "Authentic Italy" บนพาวิลเลียนอิตาลีออนไลน์จะทำให้นักช้อปไทยสามารถเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพของอิตาลี นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะได้ค้นพบและเลือกซื้อสินค้าอิตาลีที่หลากหลาย ตั้งแต่สินค้าประเภทอาหาร ไปจนถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายเพียงแค่ช้อปออนไลน์บน LazMall"

นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า "สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทยรุนแรงกว่าที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน รวมทั้งร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต้องจำกัดการให้บริการเพื่อควบคุมอัตราการระบาดของโรค ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ถือเป็นหน้าที่ของลาซาด้าในการเป็นแรงใจเคียงข้างชาวไทย ด้วยการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบนแพลตฟอร์มให้กับนักช้อปไทย

"เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายแรกที่ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนในการเปิดตัวโครงการ 'Authentic Italy' โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์อิตาลีเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในขณะเดียวกันลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมจากประเทศอิตาลีได้ด้วยตนเองจากที่บ้าน และก้าวข้ามความท้าทายจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงข้อจำกัดในการเดินทางที่เผชิญตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่านประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มของเรา"

แคมเปญ "Authentic Italy" บน LazMall พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดพรีเมียมครอบคลุมสินค้าจากอิตาลีทุกความต้องการ ตั้งแต่วัตถุดิบปรุงอาหาร แฟชั่น และความงาม จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษเอาใจนักช้อปตลอดปี การันตีสินค้าแท้ทุกชิ้น พร้อมส่งฟรีทั่วไทยถึงมือคุณ เลือกซื้อสินค้าง่ายๆ โดยพิมพ์คำว่า "Authentic Italy" ในแถบค้นหา (Search) บนแอปพลิเคชันลาซาด้า
URL
 1
 
#2875


นางสมฤดี  ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานมติอนุมัติให้บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จํากัด ("Banpu NEXT") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ BPP  ถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากันคือร้อยละ 50 เข้าลงทุนในบริษัท บียอนด์ กรีน จํากัด ("BYG") คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ มีมูลค่ารวม 300 ล้านบาท

โดยบริษัท บียอนด์ กรีน จํากัด เป็นผู้แทน จําหน่าย Club Car (รถไฟฟ้าอเนกประสงค์) อย่างเป็นทางการ ซึ่งให้บริการทั้งการขาย เช่า สัมปทานรถไฟฟ้า ในประเทศไทย ลาว และ กัมพูชา ที่สามารถปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายธุรกิจ นอกเหนือไปจาก สนามกอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมรีสอร์ท โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยการลงทุนดังกล่าวคาด ว่าจะดําเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2564

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท บียอนด์ กรีน จํากัด คือ นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ และครอบครัว ซึ่งนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ เป็นประธานกรรมการของบริษัทฯ ดังนั้นการเข้าลงทุนใน BYG จึงเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน

การลงทุนในครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ตามกลยุทธ์ "Greener & Smarter" ของกลุ่ม บ้านปูในการขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าหรือ E-mobility ให้มีความหลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในตลาดที่ มีศักยภาพในการเติบโต ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟื องสําคัญในการเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจซึ่งกันและกัน ผ่าน ความร่วมมือในด้านต่างๆ ในอนาคต ทั้งการวิจัยและพัฒนา (R&D) ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สามารถพัฒนา สินค้าและบริการ

 รวมถึงการสร้าง platform ในการให้บริการเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย รองรับเทรนด์การใช้ พลังงานสะอาดแห่งอนาคต สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการผลักดันการดําเนินธุรกิจให้เติบโตอย่าง ยั่งยืน
#2876


เป็นอีกหนึ่งนักร้องที่มากความสามารถ สำหรับ "เบิ้ล ปทุมราช" เพราะถึงแม้ วิกฤติโควิด-19 จะทำงานในสายอาชีพนักร้องต้องหยุดชะงักลง แต่หนุ่มเบิ้ลโชคดี กลับมีโอกาส ทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น ทั้งงานละคร กระสือลำซิ่ง ทางช่อง 8 งานพิธีกร และคอมเมนเตเตอร์ ซึ่งเป็นงานที่หนุ่มเบิ้ลบอกว่าไม่ถนัด แต่กระแสตอบรับดีจากแฟน ๆ ไม่แพ้งานนักร้องเลยก็ว่าได้ พร้อมตอบประเด็นดราม่าร้อนฉ่า หลังจากโพสต์ภาพคู่รถป้ายแดง เลยโดนชาวเน็ตแซะว่า รวยแต่ไม่เห็นบริจาคสิ่งของ พร้อมอัพเดทสถานะหัวใจกับน้อง "แครี่ แคโรไลน์" แบบหมดเปลือก ว่าช่วงนี้ยังหวานกันเหมือนเดิมหรือเปล่า มีบทสัมภาษณ์จากหนุ่มคนนี้ มาให้อ่านกัน

มีคนมาแซะเราหลังจากที่เราโพสต์รูปคู่รถป้ายแดง?

จริงๆแล้วมีเยอะนะครับ ส่วนใหญ่คนที่ไปคอนเมนต์ว่า ทำไมคุณรวย คุณมีชื่อเสียง คุณถึงไม่บริจาคของ ผมว่าจริง ๆ แล้ว กลุ่มคนพวกนี้เราต้องดูที่มาที่ไปของเขาด้วย บางคนเขาอาจจะสร้างเฟสบุ๊คเป็นอวตาร เพื่อมาปั่นให้เรารู้สึกว่าอยากโมโหกับเขา แต่บางคนเขาก็อาจจะไม่รู้ว่าเราทำหรือไม่ทำ เพราะฉะนั้นเบิ้ลเชื่อว่า การที่เราทำหรือไม่ทำ เรารู้ตัวเรา เราไม่จำเป็นที่จะไปบอกเขาหรือไปคาดหวังอะไรในตัวผู้อื่น เราทำด้วยตัวของเราเองดีกว่า

สถานการณ์โควิด 19 ตอนนี้ เรื่องของงานเป็นอย่างไรบ้าง ?

ถ้าเป็นเรื่องของคอนเสิร์ต หรือว่าการเล่นดนตรีกลางแจ้ง คอนเสิร์ตในผับหรือว่างานต่างจังหวัดต่างๆ ต้องบอกว่ามีผลกระทบมากครับ เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันไปแสดงไม่ได้ ทีมงานนักดนตรี ทีมงานแดนซ์เซอร์ต่างๆก็จะต้องพัก เหมือนผมก็ต้องพักด้วย

แต่งานในวงการบันเทิงกลับเห็นเบิ้ลมากขึ้น?

ใช้ครับ ถ้าพูดถึงเรื่องงานบันเทิง งานพรีเซนเตอร์ งานซิทคอมละคร งานรายการทีวี คอมเมนเตเตอร์ ก็ถือว่ายังมีเยอะครับ ในปีนี้เป็นปีที่มีโควิด แต่งานบันเทิงมีเยอะกว่าตอนที่ยังไม่มีโควิดเข้ามา เพียงแต่เป็นงานที่เราไม่ได้ถนัด ถ้าเป็นสมัยก่อน คนจะเรียกเบิ้ลว่าเป็นนักร้องในวงการใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้เราทำงานจนเรากลายเป็นคนในวงการบันเทิง มันก็เลยทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่างมากขึ้น แล้วคนเขาก็ชอบ อย่างตอนที่ช่วงโควิด 19 ยังไม่หนักขนาดนี้ ผมก็ได้ไปเล่นละครของพี่เชียร์ เรื่องกระสือลำซิ่งทางช่อง 8 กับพี่เค้าด้วย ซึ่งผมกับพี่เชียร์ก็สนิทกันอยู่แล้ว แต่พอเราไปเล่นจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่ายากเหมือนกันแอบเกร็งมาก ๆ ก็ต้องรอติดตามได้รับชมเร็ว ๆ นี้แน่นอน ก็เรียกว่าโอกาสหลากหลายขึ้น และเป็นความสามารถที่ถึงแม้ไม่ถนัด แต่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราก็สามารถทำได้ ก็เลยได้มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว ช่วยเหลือนักดนตรี ทีมงาน รวมไปถึงได้ช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดที่ลำบากกว่าเรา

เรื่องความรัก เป็นอย่างไรบ้าง ?

แฮปปี้ครับ น้องเขาอยู่ที่นู่นเขาก็สบายดี ยังคุยกันทุกวันครับ แล้วมีโอกาสก็ได้เจอกันที่เมืองไทย แต่ว่า กว่าจะได้เจอก็กักตัว 14 วัน เขาก็มาอยู่ประมาณเดือน สองเดือน เขาก็กลับ แล้วก็ไปกักตัวต่อ

มีแพลนกะแต่งงานเลยมั้ย ?

"แพลนแต่งงาน ยังไม่คิดหรอกครับ เลี้ยงดูตัวเองยังไม่รอดเลย(หัวเราะ) จริงๆการที่จะมีแพลนแต่งงานมันต้องมองถึงอนาคต ทั้งลูก หรืออะไรต่างๆ ทั้งบ้าน ที่อยู่อาศัย การงาน ซึ่งตอนนี้มันยังไม่ลงตัวขนาดนั้น เรายังสนุกกับวงการบันเทิง ยังสนุกกับการทำงาน น้องเขาก็ยังสนุกกับการค้นคว้าชีวิต แล้วก็เป็นคนชอบผจญภัยคล้ายๆกัน ก็เลยคิดว่าถ้าเราแต่งงาน หรือว่าวางแผนอนาคตไว มันอาจจะทำให้เราร่นเวลาความสุขที่จะได้ผจญภัยลงมา ก็เลยยังอยากทำตัวเป็นเด็กก่อนครับ เพราะว่าเราเพิ่ง 25 เองครับ น้องเขาเพิ่ง 21 ครับ"

ฝากความเป็นห่วงถึงทุกคน

"ก็ขอเป็นกำลังใจนะครับ ให้พี่น้องที่ประสบภัยของโควิด 19 ผมเชื่อว่า ณ ตอนนี้ ให้ได้ดีที่สุดคือกำลังใจ ส่วนคนที่มีมากกว่า มีโอกาสหาเงิน มีช่องทางในการกักตุนสิ่งของ หรือการบริจาคต่างๆ ก็อยากให้ช่วยๆกัน อย่างผมเองก็ มีโอกาสทำหลายพื้นที่นะครับ อาจจะมีโพสต์ภาพบ้าง ไม่โพสต์บ้าง บางทีเราทำแต่ไม่กล้าที่จะโพสต์ ผมไม่อยากให้คนมองว่า เราเอาความลำบากเป็นบันไดแห่งการสร้างคอนเทนต์ประมาณนี้ครับ มันอยู่ที่จิตใจของเรา ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำภาพที่ดีแล้วช่วยเหลือประชาชน ผมว่าทำไปเถอะครับ มันไม่มีใครว่าเราได้ ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ"
#2877


"เฟ็ดเฟ่ บอยแบนด์ FEDFE" กลุ่มยูทูปเบอร์ชื่อดังขวัญใจวัยรุ่น ประกาศอำลา ยุบวงอย่างเป็นทางการ ขอบคุณแฟน ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 9 ปี 9 เดือน ถึงเวลาแยกย้ายไปตามเส้นทางของแต่ละคน

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เฟซบุ๊ก "เฟ็ดเฟ่ บอยแบนด์ FEDFE" ซึ่งเป็นกลุ่มยูทูปเบอร์ชื่อดังขวัญใจวัยรุ่น ได้ออกประกาศอำลา ยุบวงอย่างเป็นทางการ ขอบคุณแฟน ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 9 ปี 9 เดือน โดยเขียนข้อความร่ำลาระบุว่า "ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง พวกเราเฟ็ดเฟ่บอยเเบนด์ "ขอประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ" หลังจากนี้จะไม่มีบอยเเบนด์คณะนี้อีกเเล้ว กราบขอบพระคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่อยู่ร่วมกันมาตลอดระยะเวลา 9 ปี 9 เดือน หวังว่าเราจะอยู่ในความทรงจำของทุกท่านว่าในช่วงหนึ่งของชีวิต พวกคุณเคยหัวเราะเพราะพวกเรา

สุดท้ายนี้ เราได้ร่วมทำของที่ระลึกงานศพของเฟ็ดเฟ่ครั้งนี้ โดย TRULY เป็นของ 9 ชิ้น ให้ท่านได้เลือกจดจำเเละพาเราไปอยู่ร่วมกันทุกท่าน จะเปิดจองในวันที่ 9 เดือน 9 เป็นของต่างหน้าพวกเราเเละทุนต่อยอดที่ไปเริ่มชีวิตใหม่ในทางของเเต่ละคนบนโลกความจริง ถือเป็นการสนับสนุนครั้งสุดท้ายจากทุกคน

สุดท้ายนี้ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา รักทุกคนครับ ตลอดมาเเละตลอดไป

เฟ็ดเฟ่บอยเเบนด์ ชาตะ 2012 มรณะ 2021"

สำหรับ เฟ็ดเฟ่ บอยแบนด์ (FEDFE) มีสมาชิก 9 คน ประกอบด้วย ต้าด็อกเรด, ยัตห่า, เฮียฮ้อ, โมเมนตั้ม, เบียร์สด, จเด็ด, เจมส์500, กอฟฟู และ ต้อมชิลล์ ด้านแฟนคลับคอมเมนต์ขอบคุณที่มาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นานกว่า 9 ปี
#2878


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับงบการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) โดยกำหนดให้ไม่ต้องผ่านการรับรองโดยที่ประชุมใหญ่สมาชิก เพื่อลดภาระ ต้นทุน และขั้นตอนการดำเนินการของบริษัทจัดการลงทุนและคณะกรรมการกองทุน โดยที่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังคงมีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เพียงพอ

ก.ล.ต. ได้หารือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเกณฑ์ข้างต้นช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเห็นว่า การจัดทำงบการเงินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่กำหนดให้บริษัทจัดการลงทุนต้องจัดทำ พร้อมรายงานการสอบบัญชีต่อที่ประชุมใหญ่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อรับรองงบการเงิน และนำส่งสำเนางบการเงินและรายงานการสอบบัญชีดังกล่าวต่อ ก.ล.ต. ภายในเวลาที่กำหนด ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันภายใต้พัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีความรุดหน้า ทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านช่องทางใหม่ ๆ ได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้นโดยไม่ต้องพึงพาช่องทางการจัดประชุมใหญ่สมาชิก

โดยคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้ ก.ล.ต. ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อยกเลิกข้อกำหนดที่ให้งบการเงินต้องผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อไป

ทั้งนี้ งบการเงินดังกล่าวยังคงต้องผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชี โดยให้บริษัทจัดการลงทุนต้องจัดทำงบการเงินของกองทุน และเผยแพร่พร้อมรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีให้แก่สมาชิกรับทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เป็นต้น หรือช่องทางอื่นใดที่สมาชิกสามารถเข้าดูข้อมูลได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งนำส่งสำเนางบการเงินและรายงานการสอบบัญชีดังกล่าวให้สำนักงานภายใน 3 เดือนนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีประจำปีของกองทุน จากเดิมที่กำหนดภายใน 5 เดือน

นอกจากนี้ เพื่อให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีช่องทางในการรับฟังรายงานสรุปผลการดำเนินงาน รวมทั้งมุมมองต่อภาวะตลาด เศรษฐกิจ และการลงทุนจากบริษัทจัดการ ก.ล.ต. จึงเสนอให้บริษัทจัดการจัดลงทุนต้องจัดให้มีการรายงานดังกล่าวอย่างน้อยทุก ๆ รอบเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคม โดยให้ดำเนินการภายใน 2 เดือน นับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาดังกล่าวด้วย โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป
#2879


นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุนบลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการที่หุ้นจีนที่เผชิญแรงกดดันจากการจัดระเบียบและนโยบายการควบคุมของภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่อง "ความไม่เท่าเทียม" และ "การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" ทำให้คนในประเทศไม่มีความสุข ในช่วงต้นของการเปลี่ยนแผนเศรษฐกิจ ทางการจีนมักจะใช้นโยบายหลากหลายรูปแบบควบคู่กันไปในการบริหารจัดการ ในแผนเศรษฐกิจ 5 ปีล่าสุด เน้นที่ "การหมุนเวียนภายในประเทศ" (dual circulation) กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะถูกกดดันต่อเนื่องคือ เทคโนโลยีขนาดใหญ่ และกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงอุตสาหกรรม

นอกจากนั้น ธุรกิจที่คาดว่าจะถูกควบคุมมากขึ้นคือ อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา และการรักษาพยาบาล ที่ถูกเรียกว่าเป็น "สามภูเขา" ของคนจีน คาดว่าจะมีการควบคุมต่อเนื่องทั้งในแง่ของการตั้งกฎเกณฑ์เพื่อลดการเก่งกำไร ลดต้นทุนการศึกษาของคนในประเทศ ไปจนถึงการควบคุมราคายา และเร่งให้เอกชนเพิ่มคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุข

มุมมองเชิงกลยุทธ์ แนะนำ Underweight จีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ในระยะสั้น แม้เราจะเดาได้ว่าทางการจีนมีความต้องการกำหนดภาพรวมเศรษฐกิจไปในรูปแบบไหน แต่ไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ด้านเศรษฐกิจคาดว่าจะไม่สามารถฟื้นตัวแรงได้ในระยะสั้น เนื่องจากนโยบายการควบคุมสถานการณ์การระบาดโควิดส่วนใหญ่เน้นหนักไปทางการล็อกดาวน์เพื่อลดการระบาด แตกต่างจากฝั่งตะวันตกที่เน้นการฉีดและพัฒนาวัคซีน และด้านมูลค่า แม้จะมีการปรับฐานลงมาแล้ว แต่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีก็ยังถือว่าไม่ได้ถูกจนน่าสนใจ

สำหรับนักลงทุนที่ยังสนใจลงทุนในจีน แนะนำการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นขนาดเล็ก หรือหุ้นที่มีส่วนแบ่งตลาดไม่สูง นอกธุรกิจ เทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา และการรักษาสุขภาพ โดยเปรียบเทียบกับช่วงการที่ทางการจีนใช้นโยบายควบคุมเศรษฐกิจอย่างเข้มงวดในช่วงปี 2015 และช่วงสงครามการค้าในปี 2018 มองว่าภาครัฐและเอกชนจะใช้เวลาราวกันอย่างน้อยสามไตรมาสในการปรับตัวเข้ากับกฏเกณฑ์ใหม่
#2880


องค์กรด้านสาธารณสุขทั่วโลกต่างเป็นด่านหน้าที่กำลังต่อสู้กับโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามาช่วยจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ในฐานะด่านหน้าทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก พวกเขามุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขมีความยืดหยุ่น และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในระดับองค์กรรูปแบบใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น

การประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนในอนาคต องค์กรด้านสาธารณสุขในประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง "พร้อมสำหรับอนาคต" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความยืดหยุ่นที่สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่จากทุกที่ โดยการวางรากฐานระบบดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้องค์กรด้านสาธารณสุขของไทยสามารถใช้นวัตกรรมใหม่ๆ, สร้างความยืดหยุ่น และมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลที่จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้รับบริการ

นี่คือภาพรวมกลยุทธ์เชิงลึก 8 ประเด็น ที่แสดงให้เห็นว่า การระบาดของไวรัสครั้งนี้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคสาธารณสุขของประเทศไทยได้อย่างไร

กลยุทธ์เชิงลึก #1: โควิด-19 ได้ทำลายอุปสรรคที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

โควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเร่งการพัฒนาแผนงานทางเทคโนโลยีรองรับอนาคต จากการศึกษาของ Digital Frontiers 3.0 จาก VMware พบว่าผู้บริโภคชาวไทยไว้วางใจในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (70%), 5G (81%) และระบบการจดจำใบหน้า (74%)[1]

องค์กรไอทีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุข ตระหนักถึงข้อดีของรากฐานทางดิจิทัลที่แข็งแรงที่สามารถสนับสนุนการทำงานบน คลาวด์, แอปพลิเคชัน และอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แน่ใจว่าจะมีความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและมีความหยืดหยุ่น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้านเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ เป็นหัวใจสำคัญในการช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนล้นโรงพยาบาลให้มีสุขภาพดีและปลอดภัย

กลยุทธ์เชิงลึก #2: การบริโภคและความต้องการของผู้ป่วยเป็นสิ่งสร้างความแตกต่างทางธุรกิจรูปแบบใหม่

จากการสำรวจล่าสุดของ Forrester ในกลุ่ม CIOs และ SVPs ทางด้านสาธารณสุขทั่วโลก พบว่า องค์กรทางด้านสาธารสุขมากกว่าครึ่งหนึ่ง (51%) เพิ่มการลงทุนเกี่ยวกับความต้องการของผู้ป่วย โดย 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากการศึกษาของ VMware's Digital Frontiers 3.0 กล่าวว่า พวกเขาจะเปลี่ยนไปใช้บริการในสถานบริการใหม่ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากัน หากการจัดการทางด้านดิจิทัลของสถานบริการที่ใช้บริการอยู่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ดังนั้นองค์กรทางด้านสาธารณสุขในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้งาน เช่น ระบบแอปพลิเคชันที่ทันสมัย รวมถึงระบบคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและนำเสนอแนวทางการบริการดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ให้แก่ผู้ป่วย

กลยุทธ์เชิงลึก #3: การให้บริการดิจิทัลรูปแบบใหม่สร้างความเสี่ยงทางไซเบอร์มากยิ่งขึ้น

บริการใหม่ ๆ ผ่านระบบดิจิทัลกำลังเพิ่มความเสี่ยงทางไซเบอร์ จากการสำรวจของ VMware's Digital Frontiers 3.0 พบว่า ผู้บริโภคชาวไทย 45% ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของการบริการผ่านดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดังนั้นองค์กรทางด้านสาธารณสุขจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า องค์กรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งแบบ zero-trust, มีนโยบายและการควบคุมสิทธิ์อย่างน้อยต้องครอบคลุมทั้ง on-premises, บนคลาวด์ ไปจนถึงอุปกรณ์ปลายทาง

กลยุทธ์เชิงลึก #4: Telehealth และความสามารถในการกระจายการทำงาน เปลี่ยนจาก "สิ่งที่ควรมี"กลายเป็น"สิ่งที่ต้องมี"

ด้วยความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่นๆ งานทางด้านสาธารณสุขเป็นสิ่งที่ต้องลงมือปฎิบัติ ในสภาพแวดล้อมของการทำงานแบบกระจายตัว รวมถึงเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ใช้ในการทำงานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น Digital workspace ที่รวมการจัดการอุปกรณ์ และการระบุตัวตน กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลผู้ป่วย รวมถึงแนวทางในการบริการ telehealth, และเป็นเจ้าภาพให้กับพนักงานผู้ต้องปฏิบัติหน้าที่ในรูปแบบใหม่ ซึ่งไอทีสามารถช่วยให้ผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถดูแลผู้ป่วย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบเรียลไทม์และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเลือกใช้งานตามแพลตฟอร์มที่ต้องการได้



กลยุทธ์เชิงลึก #5: การลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการปฏิรูปกำลังเพิ่มมากขึ้น – โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจด้านสาธารณสุขมีมากกว่าอุตสาหกรรมประเภทอื่น

จากการศึกษาของ VMware-MIT Executive Study พบว่า ผู้ให้ดูแลทางด้านสุขภาพที่ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมด (98%) กล่าวว่าพวกเขาหวังว่าจะสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ ด้วยการลงทุนในการปรับปรุงเทคโนโลยีที่มีให้สามารถรองรับการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ในขณะที่ผู้บริหารองค์กรทางด้านสาธารณสุขและคณะกรรมการบริษัทตระหนักถึงคุณค่าในการลงทุนทางด้านไอทีสำหรับการสาธารณสุข ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ให้การดูแล, และประสบการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ในองค์กร โดยธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จะได้รับประโยชน์จากการวางแผนเชิงรุกและการเปิดรับเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในองค์กร อันจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ จากนวัตกรรมดิจิทัลอีกด้วย

กลยุทธ์เชิงลึก #6: เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (HIT) ที่ยืดหยุ่น คือ กุญแจสู่ความสำเร็จทางดิจิทัล – การทำงานแบบอัตโนมัติและมัลติ-คลาวด์ คือ อนาคต

เมื่อมีคำถามเกี่ยวกับความยืดหยุ่น มากกว่าครึ่ง (58%) ขององค์กรทางด้านสาธารณสุขที่ตอบการสำรวจจากแบบสำรวจเดียวกันของ VMware-MIT กล่าวว่าประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ

โครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีของงานสาธารณสุขแบบอัตโนมัติรวมถึงรูปแบบของการดำเนินงาน ถูกยกให้เป็นความคิดริเริ่มอันดับต้นๆ เนื่องจากองค์กรทางด้านสาธารณสุขมองหาช่องทางการป้องกันสุขภาพ และเพื่อความปลอดภัยของผู้ให้บริการดูแลผู้ป่วย โดยการส่งเสริมการให้มีการบริการดูแลสุขภาพทางไกล รวมถึงสนับสนุนการทำงานแบบที่พนักงานไม่จำเป็นต้องสัมผัสผู้ป่วยผ่านการทำงานแบบ work-from-home

กลยุทธ์เชิงลึก #7: การเติบโตของคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น – การประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสมดุลทางสาธารณสุข

ไม่มีข้อกังขาในคุณประโยชน์ในการใช้งานคลาวด์อีกต่อไป เพียงประยุกต์ใช้ unified digital foundation จะช่วยให้องค์กรทางด้านสาธารณสุขสามารถลดความซับซ้อนในการปรับใช้ระบบคลาวด์โดยขยายไปสู่มัลติ-คลาวด์ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องปรับทักษะ, ปรับโครงสร้างแอปพลิเคชัน หรือปรับแต่งเครื่องมือใหม่ สิ่งเหล่านี้ช่วยปรับปรุงการมีส่วนร่วมของผู้ป่วย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ดูแลและเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม การรักษาธรรมาภิบาลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบยังคงเป็นความท้าทายอันดับต้น ๆ ในการปฏิบัติงาน

กลยุทธ์เชิงลึก #8: การฟื้นตัวจากวิกฤติ เทียบไม่ได้กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่องค์กรทางด้านสาธารณสุขระบุว่าพวกเขามีแผนสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจก่อนเกิดการระบาดใหญ่ ผู้บริหารในกลุ่มสาธารณสุข 3 ใน 10 คนที่ร่วมทำแบบสำรวจของ VMware-MIT รู้สึกว่าแผนของพวกเขามีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อต้องพยายามรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องมีความพร้อมรับต่ออนาคตเพื่อบูรณาการความต่อเนื่องทางธุรกิจ พร้อมด้วยแผนการฟื้นฟูองค์กรจากวิกฤติเข้าไว้ในการดำเนินงานทั้งหมด เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และปรับให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงใหม่ และเร่งสร้างนวัตกรรม

วิกฤตการณ์ COVID-19 เป็นบททดสอบล่าสุด – ที่รุนแรงที่สุด – เป็นการทดสอบความสามารถขององค์กรด้านสาธารณสุขในการตอบสนองและการประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่เลวร้าย พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของระบบสาธารณสุข รวมถึงการใช้งานสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม การให้อำนาจแก่ผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแล การมีแนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ครอบคลุม เมื่อมองไปในอนาคต, สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพัฒนาให้ระบบสาธารณสุขก้าวไปสู่โลกแห่งดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น