• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2841


"วรวัฒน์ นาคแนวดี" หรือ "Acme Traderist" กล่าวว่า จากกระแสของ "Decentralized Huay Finance" (DeFi) ซึ่งเป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง กำลังเป็นสิ่งที่เข้ามาปฏิวัติ (Disrupt) วงการธนาคารและการเงินโลก ตนจึงได้ใช้ประสบการณ์ในการลงทุนบนตลาดโลกมาพัฒนาและสร้างเหรียญ ACT (Acet) ขึ้น โดยเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่รวมองค์ประกอบของ "Fans Token" และ "Decentralized Finance" เข้าด้วยกันจนเกิดเป็น "DeFansFi Token" เพื่อเปิดให้ "Fanstrade" และ "ผู้คนทั่วไป" รวมถึง "ภาคธุรกิจ" ต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ ผ่านสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า ACT (Acet) ร่วมกันได้ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในการทำงาน

"ผมให้นิยามของเหรียญ ACT (Acet) ว่าเป็น "DeFansFi" (Decentralized Fans Financial) ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีรูปแบบใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา Over Supply ที่เกิดจากความไม่สมดุลกันระหว่าง อุปสงค์ (Demand) และ อุปทาน (Supply) ของเหรียญ ภายใต้แนวคิด "Zero Initial Supply" ที่เชื่อว่าจำนวนในการเริ่มต้นของเหรียญที่จะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในด้าน Supply ควรเริ่มต้นจาก "0" และจำนวนเหรียญจะเกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ถือครอง (Holder) เท่านั้น"

วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายของการสร้างเหรียญนี้ ผมตั้งใจที่อยากจะให้เหรียญ ACT (Acet) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถนําไปใช้ได้ทั่วโลก โดยผู้ถือครอง (Holder) และภาคธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้งาน
ซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือทำธุรกรรมใด ๆ ด้วยเหรียญ ACT (Acet) ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการอย่างเป็นวงกว้าง ซึ่งผู้ถือครองเหรียญ ACT (Acet) กลุ่มแรกส่วนใหญ่จะเป็นเทรดเดอร์และนักลงทุนในตลาดการเงินโลก ทำให้เหรียญ ACT (Acet) มีโอกาสเกิดกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนได้สูงอย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าให้ภายในสิ้นปี 2022 เหรียญ ACT (Acet) จะอยู่ในอันดับ 1,500 แรกของการจัดลำดับสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีจากทั่วโลก

นอกจากนี้ Acme Traderist ยังได้จัดกิจกรรม แจกคนละ 77.77 ACT ฟรี! เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงระบบการเงินยุคใหม่ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และสร้างความพร้อมเพื่อปรับตัวเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามกิจกรรมได้ที่ https://acmetraderist.com/act และ Line OA @acmetraderist.
#2842


นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)  จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลกระทบโรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการส่งพัสดุทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยเฉพาะด้านสุขอนามัยของพนักงานและลูกค้า บริษัทจึงต้องเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งศูนย์กลางคลังสินค้าหรือฮับดีซี จุดรับส่งพัสดุต่างๆ หน้าร้านต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริการ รวมถึงการป้องกันไม่นำเชื้อไวรัสไปสู่ลูกค้า 

นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาชอปปิงออนไลน์ อีคอมเมิร์ซมากขึ้น บริษัทจึงต้องขยายธุรกิจให้ทันความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ด้วยการเพิ่มสปีดในการขยายฮับการส่งพัสดุให้เกิดภายใน 1 เดือน จากปกติใช้เวลา 3 เดือนจึงจะแล้วสร็จ โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มชอปปิงอีคอมเมิร์ซจะบูมต่อเนื่อง เพราะเป็นไฮซีซั่นที่มาร์เก็ตเพลสยักษ์ใหญ่จะจัดมหกรรมลดราคา เช่น 9 เดือน 9, 10 เดือน 10 และ 11 เดือน 11 เป็นต้น 

"เทศกาล 9.9 หรือ 10.10 ทำให้ผู้บริโภคชอปปองอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เราต้องเร่งขยายกำลังการรับส่งพัสดุให้ทันความต้องการ"  

นอกจากนี้ กลยุทธ์การขยายธุรกิจช่วง 4 เดือนสุดท้าย จะเห็นบริการใหม่ๆตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เช่น เคอรี่ คูล การขนส่งสินค้าบริการแบบควบคุณอุณหภูมิ จะเปิดตัวไตรมาส 4 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจับมือพันธมิตรพัฒนาธุรกิจ และเคอรี่ แอลทีแอล(LTL) การส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่(เบาท์) เกิน 30 กิโลกรัม(กก.)ขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆมากขึ้น  

ด้านนายอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)  จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทยังย้ำกลยุทธ์เดิม EXPRESS ในการขยายธุรกิจผลักดันการเติบโต ได้แก่ E: Express มุ่งรักษาการเป็นผู้นำในธุรกิจหลักคือการส่งพัสดุให้แข็งแกร่ง รับตลาดอีคอมเมิร์ซ ชอปปิงออนไลน์ โซเชียลคอมเมิร์ซโตแรง P:Partnership ผนึกพันธมิตรสร้างโมเดลธุรกิจให้เกิดการ win-win ทุกฝ่าย R:Retail ยึดลูกค้ารายย่อยเป็นศูนย์กลางหรือ 2C ทั้งธุรกิจร้านค้าไปสู่ลูกค้า(B2C) และการส่งพัสดุจากบุคคลถึงบุคคล(C2C) ถือเป็นสัดส่วนลูกค้าใหญ่รวม 98% ขณะที่ลูกค้าภาคองค์ธุรกิจ(B2B)มีเพียง 2% เท่านั้น 


E:Expansion ขยายขอบเขตธุรกิจทั้งแนวราบและดิ่ง หาสิ่งที่ซีนเนอร์ยีธุรกิจหลัก ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจใหม่ ซื้อกิจการ เพิ่มมูลค่าธุรกิจ S:System นำเทคโนโลยีพัฒนาบริการตอบสนองลูกค้า และ S:Sustainability ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนรอบด้าน  

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าสร้างความหลากหลายให้ธุรกิจหรือไดเวอร์ซิไฟ เพื่อกระจายความเสี่ยง ที่ผ่านมามีการเปิดตัวเคอรี่มีเดีย ใช้พื้นที่รถ หน้าร้าน คลังสินค้า เพื่อสื่อสารการตลาด โปรโมทสินค้าให้พันธมิตร มีเคอรี่ แคนเซลล์(Kerry Can-sell) เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า ช่วยสร้างรายได้ให้บริษัท 

ล่าสุด จะเปิดตัวเคอรี่ คูล ในไตรมาส 4 รองรับการส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เจาะตลาดสินค้าเกษตร เครื่องดื่ม อาหาร และผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรู ซึ่งลูกค้ามีความต้องการสูง ทำให้แนวโน้มการเติบโตมีมาก รวมถึงการเปิดตัวเคอรี่ แอลทีแอล บริการสินค้าที่มีน้ำหนักมากเกิน 30 กก.ขึ้นไป ต้องการพื้นที่มากในการขนส่งสินค้า เช่น เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ 

"ทั้ง 2 บริการ ตลาดมีความต้องการสูงมาก แต่ผู้เล่นยังกระจัดกระจาย ไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดอย่างชัดเจน ไม่มีบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่วนด้านบริการที่มียังไม่ตอบโจทย์ หรือแก้ Pain point ให้กับลูกค้าได้ เราจึงนำประสบการณ์ด้านเอ็กซ์เพรสหรือส่งพัสดุกว่า 15 ปี มาต่อยอดตลาด เพราะมองว่ามีศักยภาพมหาศาล"   

นอกจากนี้ จะเปิดตัวเคอรี่ วอลเล็ท เพื่อเชื่อมต่อระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั้ง ระบบคิวอาร์โค้ด บัตรแรบบิท บัตรเดบิต เครดิตการ์ด ฯ ตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคและปูทางสู่สังคมไร้เงินสด(Cashless)เต็มขั้น ซึ่งบริการดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทในแง่การสร้างความจงรักภักดี สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการจัดลอยัลตี้โปรแกรมให้ฐานลูกค้ามีกว่า 10 ล้านราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่แอ๊คทีฟ รวมถึงข่วยต่อยอดการชำระค่าบริการของเคอรี่ทั้งการจัดเก็บเงินปลายทาง(COD) เชื่อมอีโคซิสเทมของบริษัทให้แกร่งขึ้น

ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรกบริษัทส่งพัสกุกว่า 166 ล้านชิ้น เติบโต 10.8% ส่วนรายได้รวมกว่า 8,800 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 638 ล้านบาท
#2843


ศ.นพ.ยง ชี้ สายพันธุ์ไวรัส Delta ทำประสิทธิภาพวัคซีนทั่วโลกลดลง แต่ยังสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ เผย ทีมยังเร่งวิจัยจะให้ เข็มที่ 3 อย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ทรัพยากรที่น้อยที่สุด วัคซีนเข็มที่ 3 ต้องใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน

วันนี้(3ก.ย.) นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุว่า จากการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

ประเทศที่ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก 80 เปอร์เซ็นต์ในผู้ใหญ่แล้วเช่น อิสราเอลซึ่งมีประชากรเพียง 9 ล้านคน ก็มีผู้ป่วยต่อวันเป็นพันและเข้าสู่หลักหมื่นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบต่อประชากรแล้ว มากกว่าประเทศไทยเสียอีก

ในอเมริกาเอง ก็มากกว่าแสนต่อวันแล้ว อัตราการเสียชีวิตลดลง ก็ยังวันละ ประมาณ 1,000 จากข้อมูล CDC's COVID Data Tracker วันที่ 2 กันยายน มีผู้ป่วยใหม่ 153,728 คน เสียชีวิต 1209 ราย

ประเทศไทยเองก็เป็นสายพันธุ์ไวรัส Delta เกือบทั้งหมด มาเป็นเดือนแล้ว วัคซีนที่ใช้อยู่ในโลกนี้ จะลดประสิทธิภาพในการป้องกันลง แต่ยังสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ และลดอัตราการเสียชีวิต

ขณะนี้ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เราจึงต้องรีบให้วัคซีนในกลุ่มเสี่ยง และสตรีตั้งครรภ์

เรายังมีความหวังว่า ถ้าอัตราการให้วัคซีนเป็นอย่างขณะนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เราก็สามารถที่จะลดอัตราการเสียชีวิตลงได้

ทีมของเรายังมุ่งมั่นในการทำการศึกษาวิจัย การใช้วัคซีนตามทรัพยากรที่เรามีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การศึกษาวิจัยขณะนี้ กำลังศึกษาว่าจะให้ เข็มที่ 3 อย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้ทรัพยากรที่น้อยที่สุด ที่จะป้องกันสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป

เพื่อเตรียมรองรับการให้วัคซีนเข็มที่ 3 ที่จะต้องใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน

ขอโทษด้วยที่หายไปนาน เพราะไปมัวเก็บขยะอยู่
#2844


หลังปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อวันพุธที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกประกาศทันที ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U รวมหุ้นบุริมสิทธิหรือ U-P และใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญหรือ U-W4 เนื่องจากราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมาก

ราคาหุ้น U พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในวันพุธ โดยมีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่เปิดตลาด ผลักดันให้ราคาพุ่งขึ้นชนเพดานสูงสุดตั้งแต่การซื้อขายภาคบ่าย จนกระทั่งปิดการซื้อขายที่ราคา 1.43 บาท เพิ่มขึ้น 33 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% มูลค่าการซื้อขาย 2,915.54 ล้านบาท

U เพิ่งประกาศขยายการลงทุนครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเข้าถือหุ้นใน บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในสัดส่วน 9.90% ของทุนจดทะเบียน ถือหุ้นในบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ในสัดส่วน 24.90% ของทุนจดทะเบียน

และซื้อหุ้นในบริษัท แอดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ A LIFE ในสัดส่วน 75% ของทุนจดทะเบียน

แม้การประกาศเป็นพันธมิตรธุรกิจกับกลุ่ม JMART จะเป็นปัจจัยในเชิงบวกและกระตุ้นให้หุ้นในกลุ่ม JMART และกลุ่ม BTS หรือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ U พุ่งทะยานขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากหุ้นทั้ง 2 กลุ่มเงียบเหงาซบเซามาพักใหญ่

แต่หุ้น U กลับไม่คึกคักรับข่าวมากนักในช่วงแรก โดยเมื่อวันจันทร์ หลังแจ้งข่าวการร่วมทุนกลุ่ม JMART ราคาหุ้นปิดที่ 1.02 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขายเพียง 182.06 ล้านบาท วันอังคารปิดที่ 1.10 บาท เพิ่มขึ้น 8 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 682.94 ล้านบาท

จนวันพุธจึงมีการลาก U จนพุ่งชนเพดานสูงสุด 30% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่พองโต จนตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศมาตรการดับร้อน กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด มีผลตั้งแต่วันที่ 2-22 กันยายนนี้

การจับมือร่วมกันเป็นพันธมิตรเพื่อรุกธุรกิจ ระหว่างกลุ่ม BTS กับ JMART มีการแถลงข่าวใหญ่ ผู้บริหารแต่ละกลุ่มออกมาประกาศแนวโน้มการเติบโตที่สดใส กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้นทั้ง 2 กลุ่ม

ผู้บริหาร BTS และ JMART ย่อมมีความเชื่อว่า จะส่งผลดีต่อธุรกิจทั้ง 2 กลุ่ม ผลประกอบการจะต้องเติบโตเพิ่มขึ้น เพียงแต่ขณะนี้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ และความคาดหมายเท่านั้น ซึ่งจะต้องรอดูผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต

ราคาหุ้นกลุ่ม BTS และ JMART ที่ขยับขึ้นมา จึงเป็นการซื้ออนาคต และไม่สามารถคำนวณได้แน่ชัดว่า ราคาระดับใดจึงเหมาะสม โดยเฉพาะ U ซึ่งลากกันจนชนซิลลิ่ง

การประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น U เป็นการส่งสัญญาณจากตลาดหลักทรัพย์ เตือนให้นักลงทุนระวังการซื้อขายหุ้นตัวนี้ เพราะราคาร้อนแรงเกินเหตุ และแม้จะมีจินตนาการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันคือ

ผลประกอบการบริษัทยังย่ำแย่ ปี 2563 ขาดทุน 6,610.75 ล้านบาท 6 เดือนแรกปีนี้ยังขาดทุน 448.73 ล้านบาท และเป็นเหตุผลทำให้ราคาหุ้นทรงๆ ทรุดๆ แถว 1 บาทมาตั้งแต่ต้นปี

นอกจากนี้ U ยังมีประวัติเป็นหุ้นร้อน ในยุคที่ใช้ชื่อ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด หรือ N-PARK สร้างความเสียหายให้นักลงทุนถึงขั้นหมดตัวมาแล้วถึง 2 รอบ

และเป็นความเสียหายเพราะผู้บริหารสร้างจินตนาการทางธุรกิจ วาดฝันถึงแนวโน้มผลประกอบการ กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้น

แม้ผู้ถือหุ้นใหญ่ U จะเปลี่ยนมือมาอยู่ในอาณาจักร BTS ของนายคีรี กาญจนพาสน์ แต่ไม่มีใครอยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในหุ้นตัวนี้

เมื่อราคาหุ้นร้อนผิดปกติ ตลาดหลักทรัพย์สมควรแล้วที่ต้องรีบดับร้อน เพื่อเตือนสตินักลงทุนที่กำลังแห่เข้าไปลุยหุ้น U
#2845


ทีมงานนักเตะของโปรตุเกส ปล่อยตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากแคมป์เรียบร้อยเพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการคืนสนามให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดแรกในวันที่ 11 กันยายนนี้

โรนัลโด้ เพิ่งยิง 111 ประตู สูงสุดตลอดกาลในทีมชาติ หลังพา "ฝอยทอง" ชนะ ไอร์แลนด์ 2-1 เมื่อคืนวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ทว่าก็โดนใบเหลืองจากผู้ตัดสินข้อหาถอดเสื้อฉลองประตู

ใบเหลืองนี้ทำให้แข้งวัย 36 ปี ติดโทษแบนห้ามลงเตะกับ อาเซอร์ไบจาน วันที่ 7 กันยายนนี้ แต่กลับเป็นผลดีสำหรับเจ้าตัวที่จะได้ออกจากแคมป์ก่อนกำหนด และทีมงานก็ไฟเขียวให้กลับได้แล้ว

หมายความว่า CR7 จะได้กลับไปรายงานตัวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ้านเก่าที่คุ้นเคยก่อนกำหนด ซึ่งนั่นทำให้มีเวลาเตรียมตัวหลายวันก่อนคัมแบ็กในสีเสื้อ "ผีแดง" เจอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

หาก โรนัลโด้ ได้ลงสนามเจอ "สาลิกาดง" จะทำให้เจ้าตัวได้กลับมารับใช้ต้นสังกัดที่แจ้งเกิดให้เป็นสตาร์ระดับโลกอีกครั้ง หลังออกจากทีมไปเมื่อปี 2009 เพื่อไปอยู่กับ รีล มาดริด ที่สเปน
#2846


ฟอร์ติการ์ดแล็บส์ (FortiGuard Labs) รายงานภัยคุกคามครึ่งแรกของปี 2021 พบแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้น 10 เท่า ชี้การผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนส่งให้สามารถหยุดยั้งภัยคุกคามที่ห่วงโซ่อุปทานของอาชญากรรมไซเบอร์ได้

เดอริค มันคี ประธานสมาคม Security Insights & Global Threat Alliances กล่าวถึงรายงานภูมิทัศน์ด้านภัยคุกคามประจำช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 ว่าได้เห็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพและทำลายล้างเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรหลายพันแห่งในครั้งเดียว นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสงครามกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ทุกฝ่ายมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ในกระบวนการคุกคามทำลายล้างที่เรียกว่า Killing chain แข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นมา ดังนั้น องค์กรจำเป็นต้องทำงานร่วมกันและต้องจัดลำดับความสำคัญเพื่อขัดขวาง Killing chain ของอาชญากรไซเบอร์ และรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและการทำงานกับพันธมิตรจะช่วยให้การตอบสนองภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถคาดการณ์เทคนิคที่ผู้ประสงค์ร้ายจะใช้ในอนาคตได้ดีขึ้น

"นอกจากนี้ การจัดโปรแกรมฝึกอบรมให้ตระหนักถึงความปลอดภัยไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนใช้เทคโนโลยีการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองที่ใช้เอไอขับเคลื่อน ซึ่งทำงานผสานรวมสามารถปกป้องได้ถึงอุปกรณ์ปลายทาง เครือข่าย และระบบคลาวด์มีความสำคัญต่อการตอบโต้ภัยไซเบอร์เป็นอย่างมาก"

รายงานชี้ว่า ได้พบปริมาณและความซับซ้อนของการโจมตีที่กำหนดเป้าหมายไปยังบุคคล องค์กร และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน พบการโจมตีไปที่ผู้ปฏิบัติงานแบบไฮบริดและกลุ่มนักศึกษานักเรียนที่เรียนที่บ้านมากขึ้น พบภัยเกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายแบบดั้งเดิม จึงควรทำงานร่วมกับพันธมิตรและร่วมมือเร่งการบังคับใช้กฎหมายในภาครัฐและเอกชนโต้ตอบระบบนิเวศของอาชญากรไซเบอร์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้



หนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจจากรายงานคือ ภัย Ransomware ที่หวังผลมากกว่าเงิน โดยข้อมูลจากฟอร์ติการ์ดแล็บส์แสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของกิจกรรมภัยแรนซัมแวร์ประจำสัปดาห์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสูงกว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาถึง 10 เท่า แสดงให้เห็นถึงแรนซัมแวร์ยังคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยรวมในช่วง 1 ปี

ทั้งนี้ แรนซัมแวร์ส่งผลกระทบที่ห่วงโซ่อุปทานของหลายองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญอย่างยิ่ง และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ผลผลิตและการค้ามากกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งนี้ องค์กรในภาคโทรคมนาคมตกเป็นเป้าหมายสูงสุด รองลงมาคือ ภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยที่มีการจัดการ (Managed security service provider) ยานยนต์ และภาคการผลิต

นอกจากนี้ ผู้ขายบริการแรนซัมแวร์บางรายเปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้อีเมลเป็นเพย์โหลดจุดปล่อยโค้ดที่ทำให้เกิดอันตราย (Email-initiated payloads) ไปเป็นการมุ่งเน้นที่การได้เข้าถึงและขายช่องทางการเข้าถึง (Gaining and selling initial access) ในขั้นต้นเข้าไปในเครือข่ายองค์กร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่ก่อให้เกิดอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต

ประเด็นสำคัญคือแรนซัมแวร์ยังคงเป็นภัยอันตรายที่เห็นชัดเจนและเกิดในปัจจุบัน มุ่งคุกคามทุกองค์กรโดยไม่คำนึงถึงอุตสาหกรรมหรือขนาด องค์กรจึงจำเป็นต้องใช้แนวทางเชิงรุก อันหมายถึงโซลูชันการป้องกันปลายทางแบบเรียลไทม์ การตรวจจับ และการตอบสนองอัตโนมัติเพื่อรักษาความปลอดภัยสภาพแวดล้อมควบคู่ไปกับแนวทางการเข้าถึงที่มีความไว้วางใจเป็นศูนย์ (Zero-trust access) การแบ่งส่วนเครือข่าย (Network segmentation) และการเข้ารหัส (Encryption)
#2847


แบงก์ไต้หวัน CTBC ซื้อหุ้นจากรายใหญ่ใน LHGF อีก 10 % มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท หลังแบงก์ชาติอนุมัติเข้าซื้อ ดันการถือหุ้นเพิ่มเป็น 45.62 %

นายวิเชียร อมรพูนชัย  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เซียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG รายงานความคืบหน้าทางการไต้หวันและธนาคารแห่งประเทศไทย อนุญาตให้  CTBC Bank Ruay Company  Limited ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุุ้น คือ  นางสาวเพียงใจ หาญพาณิชย์   และนายไพโรจน์    ไพศาลศรีสมสุข    รวมร้อยละ 10.99  ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงและจา หน่ายได้แล้วท้ั้งหมดเป็นเงินประมาณ 4.2 พันล้านบาท

การซื้อหุ้นดังกล่าวจะดำเนินการเมื่่อได้รับอนุญาตจากทางการไต้หวันและธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น  บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและทางการไต้หวันได้อนุญาตการซื้อหุ้น ดังกล่าวแล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไปจะเป็นการซื้อขายหุ้นและชำระราคา


ปัจจุบัน CTBC Bank Company  Limited  เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 35.62 % 
#2848


นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจ  บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับการพัฒนาและขยายกิจการในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง  ซึ่ง โรงงานสงขลาแคนนิ่ง เดิมหรือ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับส่วนของสายการผลิตอาหารอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอาหารสัตว์เลี้ยง จะย้ายการผลิตไปยังโรงงานอื่นๆ ของไทยยูเนี่ยน

โดยการดำเนินธุรกิจภายใต้ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของไทยยูเนี่ยน โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ไทยยูเนี่ยนได้มีการปรับแผนงานใหม่ที่นำนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ของเรา โดย Global PetCare Ruay Innovation (GPCI) และ Global Innovation Center (GIC) หรือศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน จะมีภารกิจสำคัญคือพัฒนานวัตกรรมและตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา  โดยมีเป้าหมายในการสร้างสุขภาพที่ดีและอายุขัยที่ยืนยาวให้กับสัตว์เลี้ยง
#2849


เอลซัลวาดอร์ประกาศตั้งกองทุน Bitcoin Trust มูลค่า 150 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,800 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวก เสริมสภาพคล่องในการแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ

จากการเปิดเผยของ coindesk ระบุถึงรายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น El Diario de Hoy ในแถลงการของนายิบ บูเคเล่ ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งได้ตกลงที่จะประกาศจัดตั้งกองทุน Bitcoin Trust มูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่าง Bitcoin (BTC, 0.88%) และดอลลาร์สหรัฐในประเทศ

ขณะที่ María Luisa Hayém Brevé รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์ กล่าวว่าการจัดสรรขั้นต้นจะใช้เงินประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเงินของสภานิติบัญญัติเมื่อวันจันทร์

ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน เอลซัลวาดอร์ผ่านร่างกฎหมายที่ถือว่า bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมายควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐ ร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 กันยายน และกำหนดให้ธุรกิจต้องยอมรับการชำระเงินเป็น bitcoin แม้ว่าประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศจะกล่าวว่าธุรกิจที่ไม่ได้รับการลงโทษ

นอกจากนี้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอลซัลวาดอร์ ยังได้อนุญาตให้ผู้ค้าแปลง Bitcoin เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ทันที เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของพวกเขาอีกด้วย
#2850


เรียว มัตสึมูระ สวมบทซูเปอร์ซับ ลงมายิงประตูชัยช่วยให้ 'เดอะ แรบบิท' บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เฉือนชนะ 'กว่างโซ้งมหาภัย' สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 เถลิงแชมป์ 'ไดกิน แชมเปียนส์ คัพ 2021' ได้สำเร็จ

การแข่งขันฟุต.ไดกิน แชมเปียนส์ คัพ 2021 ศึกแชมป์ชนแชมป์ เป็นการเจอกันระหว่างแชมป์ลีกไทย ซีซั่นก่อน อย่าง 'เดอะ แรบบิท' บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับแชมป์เอฟเอ คัพ อย่าง 'กว่างโซ้งมหาภัย' สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ฟาดแข้งกันที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

เกมนี้ ออเรลิโอ วิดมาร์ กุนซือใหญ่บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่สามารถใช้งาน อันเดรส ตูเญซ ที่บาดเจ็บ โดยแนวรับมี วิคเตอร์ การ์โดโซ, อิรฟาน ฟานดี เป็นแกนหลัก ขณะที่คู่หน้าใช้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต กับ ธีรศิลป์ แดงดา

ขณะที่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ของกุนซือ เอเมอร์สัน เปเรยร่า เกมนี้นี้ใช้ บิลล์ โรซิมาร์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี เอกนิษฐ์ ปัญญา และศิวกรณ์ เตียตระกูล 2 แข้งทีมชาติไทย ทำเกมอยู่ด้านหลัง

เกมผ่านไปเพียงแค่ 18 นาที สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่บรินเนอร์ เอ็นริเก ไปตัดฟาวล์ใส่ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ที่กำลังจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าให้ใบแดง โดยตรงไล่ออกจากสนาม และยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีตัวผู้เล่นเหนือกว่า โหมบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ และความพยายามก็มาประความสำเร็จในช่วงท้ายเกม นาทีที่ 87 จากจังหวะที่ เชาว์วัฒน์ วีรชาติ จ่ายให้ เรียว มัตสึมูระ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ยิงด้วยซ้ายหนีมือนายทวารคู่แข่งเข้าไป ให้ทีมขึ้นนำ 1-0

ช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พยายามจะทำเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่จากการที่ผู้เล่นเหลือน้อยกว่า ทำให้ทุกอย่างดูยากไปหมด

จบการแข่งขัน 90 นาที บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เฉือนชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ไดกิน แชมเปียนส์ คัพ 2021 ไปครองได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK), สันติภาพ จันทร์หง่อม, อิรฟาน ฟานดี, วิคเตอร์ การ์โดโซ, ยอดรัก นาเมืองรักษ์, เอร์เนสโต ภูมิภา, เควิน อินเกรโซ, สารัช อยู่เย็น, สุมัญญา ปุริสาย, ธีรศิลป์ แดงดา, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : อภิรักษ์ วรวงษ์ (GK), วสันต์ ฮมแสน, ศราวุธ อินแป้น, บรินเนอร์ เอ็นริเก, ธนะศักดิ์ ศรีใส, สุริยา สิงห์มุ้ย, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, โช จี-ฮุน, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, เอกนิษฐ์ ปัญญา, บิลล์ โรซิมาร์
#2851


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ตั้งแต่ 1 กันยายน นี้ ศบค. ปรับมาตรการร้านอาหารเปิดให้บริการนั่งกินในร้านได้ ภายใต้ข้อกำหนด "ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม" ออกความในมาตรการ 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 32 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ปฏิบัติเข้มตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (1 ก.ย.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการปรับมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกข้อกำหนด "ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม" ออกความในมาตรการ 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 32 นั้น ขอให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่เปิดบริการยึดปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยยังต้องคุมเข้มเปิดบริการได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน และจำกัดจำนวนผู้นั่งกินในร้าน หากร้านอาหารเป็นห้องปรับอากาศสามารถนั่งได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติ ส่วนร้านอาหารที่เปิดในพื้นที่ที่มีอากาศระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผลลอย รถเข็น สามารถนั่งได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติ นอกจากนี้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ยึดตามข้อกำหนดเช่นเดียวกัน

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ร้านอาหารทุกร้านที่เปิดให้บริการต้องเฝ้าระวังเรื่องความเสี่ยงพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ดังนี้ 1) ทำความสะอาดโต๊ะทันทีหลังใช้บริการ 2) ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม และห้องน้ำ ทุก 1-2 ชั่วโมง 3) จัดอุปกรณ์กินอาหารเฉพาะบุคคล กรณีที่ต้องรับประทานหม้อ/ภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกัน และต้องไม่ใช้ช้อนกลางร่วมกัน 4) งดจัดบริการอาหารรูปแบบผู้บริโภคบริการตนเอง ในร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์/สลัดบาร์/หมูกระทะ เพราะจะทำให้คนไปรวมกันหนาแน่น เสี่ยงแพร่เชื้อ 5) จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำทุกโต๊ะ 6) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและโต๊ะรับประทานอาหาร 1-2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดมีระยะไม่ถึง 1 เมตร ให้ทำฉากกั้น กรณีพื้นที่มีเครื่องปรับอากาศ เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ 2 เมตร และไม่นั่งตรงข้ามกัน พื้นที่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่เปิด นั่งได้ 75 เปอร์เซ็นต์ เและจำกัดระยะเวลากินอาหารไม่เกิน 1 ชั่วโมง และ 7) เปิดประตู หน้าต่าง อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิดและปิดระบบปรับอากาศ มีการระบายอากาศที่เหมาะสมต่อจำนวนคน สำหรับพื้นที่ปรับอากาศให้เปิดระบายอากาศในพื้นที่กินอาหารทุก 1 ชั่วโมง ส่วนห้องน้ำควรมีระบบระบายอากาศที่ดี

"ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2564 นี้ ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านตามปกติ ไม่ต้องตรวจ ATK เป็นประจำ ให้ยึดมาตรการ DMHTT อย่างเข้มข้น ส่วนพนักงานไม่ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่ให้เตรียมการและเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ภายในเดือนกันยายนนี้ สำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคตตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัตตามมาตรการด้านผู้ให้บริการ โดยให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดสหรือมีประวัติการติดเชื้อมาก่อนไม่เกิน 3 เดือน คัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยเว็บไซต์ "ไทยเซฟไทย" หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด พร้อมจัดหา ATK ให้พนักงาน และตรวจ ATK ทุก 7 วัน มีผู้รับผิดชอบกำกับติดตามพนักงานทุกคน และงดการรวมกลุ่มหรือกินอาหารร่วมกัน ส่วนมาตรการด้านผู้รับบริการนั้น ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยเว็บไซต์ "ไทยเซฟไทย" หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด ต้องมี COVID free pass ก่อนเข้าบริการ เฉพาะร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ และสำหรับร้านอาหารแต่ละจังหวัดต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือข้อกำหนดของจังหวัดด้วย" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
#2852



ผู้เชี่ยวชาญเตือนการเริ่มปลดล็อกมาตรการเข้มงวด อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของไทยและอินโดนีเซียดีดกลับ เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนยังต่ำ ซ้ำเจอตัวกลายพันธุ์ที่ระบาดรวดเร็วอย่าง "เดลตา" ด้านอิสราเอลเดินหน้านโยบาย "อยู่กับโควิด" ด้วยการเปิดโรงเรียนวันแรกเมื่อวันพุธ (1 ก.ย.) ภายใต้ข้อกำหนดใหมให้นักเรียนต้องสวมหน้ากากป้องกัน และแสดงหลักฐานยืนยันผลตรวจเป็นลบ กรณีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

หลังจากควบคุมการระบาดได้ดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของโลกเมื่อปีที่แล้ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ จากการมาเยือนของตัวกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา

กระนั้น แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ ทว่า อินโดนีเซียและไทยกลับเริ่มผ่อนคลายคำสั่งห้ามรับประทานอาหารในร้านและยอมให้เปิดห้างสรรพสินค้าเพื่อผ่อนคลายผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์

ในวันอังคาร (31 ส.ค.) อินโดนีเซียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 10,534 คน ลดลงจากสถิติสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 5 เท่า ขณะที่ไทยรายงานตัวเลขอยู่ที่ 14,802 คนในวันพุธ (1) ลดลง 37% จากช่วงที่โควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุดกลางเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า การผ่อนคลายมาตรการจำกัดเข้มงวด ทำให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากระดับการฉีดวัคซีนของทั้งสองประเทศยังต่ำ และขาดแคลนชุดทดสอบ รวมทั้งผลการตรวจที่เป็นบวกยังสูงกว่า 5% ตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ

อบิเชริก ริมาล ผู้ประสานงานด้านสุขภาพฉุกเฉินประจำเอเชีย-แปซิฟิกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ แสดงความกังวลกับการผ่อนคลายมาตรการจำกัด ทั้งที่ 2 ประเทศยังมีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ WHO เสนอ และสำทับว่า จากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาขณะนี้ ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน

ทั้งนี้สัดส่วนผู้ป่วยที่ให้ผลทดสอบเป็นบวกของอินโดนีเซียล่าสุดอยู่ที่ 12% ส่วนไทย 34%

อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 4 ล้านคน และเสียชีวิตรวมกว่า 133,000 คนนับจากโควิดเริ่มระบาด สำหรับไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 11,841 คน

ทั้งสองประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มแรกอยู่ที่ราว 30% ของจำนวนประชากร โดยอินโดนีเซียมีผู้ได้รับวัคซีนครบโดส 17% และ 11% สำหรับไทย

เดล ฟิชเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านโรคติดเชื้อของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ กล่าวว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ทว่า ประเทศที่ต้องการคลายล็อกต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน

ในอีกด้านหนึ่ง อิสราเอลอนุญาตให้นักเรียนกลับไปเรียนตามปกติเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ โดยบังคับให้สวมหน้ากากป้องกันและมีผลตรวจโควิด-19 ยืนยัน ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ที่กำลังบ่อนทำลายแผนเปิดประเทศของอิสราเอลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่โครงการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จมากที่สุด

ทว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกังวลว่า การเริ่มภาคเรียนใหม่โดยที่นักเรียนส่วนใหญ่กลับเข้าห้องเรียนตามปกติจะทำให้การระบาดยิ่งรุนแรงก่อนเทศกาลวันหยุดของชาวยิวในเดือนนี้ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกรอบ

จำนวนผู้ติดเชื้อในอิสราเอลกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากสายพันธุ์เดลตา และทำสถิติสูงสุดในวันอังคารที่ 10,947 คน จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคน

การเปิดโรงเรียนภายใต้นโยบาย "อยู่ร่วมกับโควิด" ของนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยการเร่งฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนนั้น กำหนดให้นักเรียนและครูที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องตรวจโควิด

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลประกาศมาตรการใหม่ก่อนเปิดเทอมเพียงไม่กี่วัน ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่พอใจเนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก

ภายใต้มาตรการใหม่ นักเรียนอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์อายุต่ำสุดในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ต้องแสดงบันทึกของผู้ปกครองเพื่อยืนยันว่า ได้ตรวจโควิดเองที่บ้านและมีผลเป็นลบ อย่างไรก็ดี ทางการยกเว้นการตรวจในวันเปิดเทอมวันแรก แต่จะต้องตรวจก่อนและหลังเทศกาลวันหยุดซึ่งครอบครัวขนาดใหญ่มักใช้เวลาอยู่ร่วมกัน โดยเทศกาลวันหยุดวันแรกคือวันที่ 6 และวันสุดท้ายคือวันที่ 30 เดือนนี้

สำหรับในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง โรงเรียนที่มีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนไม่ถึง 70% ต้องเรียนออนไลน์แทน ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าววายเน็ตรายงานว่า ในวันพุธมีนักเรียนอิสราเอลเพียง 10% ที่เรียนออนไลน์

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)
#2853


ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพุธ(1ก.ย.) หลังโอเปกและพันธมิตรเห็นพ้องคงนโยบายปัจจุบันสำหรับเพิ่มกำลังผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบ ท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงาน เช่นเดียวกับราคาทองคำ นักลงทุนรอตัวเลขภาคแรงงานอันสำคัญที่จะเปิดเผยช่วงปลายสัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 71.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โอเปกและพันธมิตรในวันพุธ(1ก.ย.) หรือที่เรียกว่าโอเปกพลัส เห็นพ้องคงนโยบายปัจจุบันสำหรับเพิ่มกำลังผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานปี 2022 และกำลังเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เพิ่มกำลังผลิตเร็วขึ้น

ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสเห็นพ้องกันในเดือนกรกฏาคมว่าจะลดระดับมาตรการลดกำลังผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันเป็นเวลา 1 เดือน แต่จากการตัดสินใจล่าสุด นั่นหมายว่าความโอเปกพลัสจะปล่อยน้ำมันสู่ตลาดเพิ่ม 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ขยายกรอบเวลาเพิ่มเติมจากเดือนกันยายน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(1ก.ย.) ปิดผสมผสานในกรอบแคบๆ จับตาข้อมูลการจ้างงานอเมริกา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงบั่นทอนการฟื้นตัว

ดาวโจนส์ ลดลง 48.20 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,312.53 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.41 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,524.09 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 50.15 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,309.38 จุด

วอลล์สตรีทพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆนี้ นักลงทุนเมินความเสี่ยงจากเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และมีความหวัง หลังจากเฟดส่งสัญญาณยังคงใช้แนวทางอะลุ้มอล่วยในนโยบายทางการเงิน

อย่างไรก็ตามข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่เผยแพร่ในวันพุธ(1ก.ย.) พบว่านายจ้างเอกชนมีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ในเดือนสิงหาคม ก่อความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานที่ครอบคลุมกว่านี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์(3ก.ย.)

ด้านราคาทองคำในวันพุธ(1ก.พ.) ปิดลบเล้กน้อย นักลงทุนรอข้อมูลภาคแรงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงทิศทางแนวโน้มของเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,816.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)
#2854
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2855


ฮ่องกงปฏิเสธไม่ล้มเลิกยุทธศาสตร์ "ซีโร่-โควิด" ตามกระแสเรียกร้องของประคมธุรกิจ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของคู่แข่งสำคัญอย่างสิงคโปร์ ที่หันมา "อยู่กับโควิด" โดยผู้บริหารสูงสุดของเกาะเน้นย้ำเป้าหมายสำคัญอันดับแรกในการเปิดประตูคือการฟื้นการเดินทางติดต่อกับจีน ส่วนทางญี่ปุ่นเผยมีแนวโน้มสูงที่ปัญหาวัคซีนโมเดอร์นาปนเปื้อนที่โอกินาวา จากการแทงเข็มฉีดยาลงในขวดผิดวิธี ด้าน WHO เตือนปลายปีนี้ยุโรปอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 230,000 คน

ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หอการค้ายุโรปในฮ่องกงส่งจดหมายเปิดผนึกถึงแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เตือนว่า ชื่อเสียงการเป็นฮับธุรกิจของฮ่องกงกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และประชาชนกำลัง "ติดอยู่ในกับดักไม่รู้จบ"

แต่ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (31 ส.ค.) ลัมยังคงยืนยันว่า ไม่มีแผนยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางจากต่างแดน โดยระบุว่า การปกป้องที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันการนำเข้าผู้ติดเชื้อโควิด ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผู้นำฮ่องกงสำทับว่า การฟื้นการเดินทางติดต่ออย่างเป็นปกติกับจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเป้าหมายที่มีลำดับความสำคัญมากกว่าการเดินทางติดต่อกับทั่วโลก ถึงแม้คู่แข่งสำคัญในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ เตรียมปรับยุทธศาสตร์การต่อสู้กับโควิดมาเป็นการยอมรับที่จะต้องอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสโคโรนานี้ และดำเนินการเปิดประเทศต่อโลก ก็ตามที

ลัมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยิ่งผ่อนคลายกฎเปิดรับชาวต่างชาติมากเท่าไร ฮ่องกงยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่จะฟื้นการเดินทางติดต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่ และเธอยังเชื่อว่า ธุรกิจระหว่างประเทศส่วนใหญ่ต้องการเปิดการเดินทางกับจีนเป็นอันดับแรก ซึ่งฮ่องกงถือว่า มีข้อได้เปรียบเนื่องจากเป็นเกตเวย์สู่แดนมังกรที่เป็นตลาดขนาดใหญ่มหึมา

คำแถลงของลัมถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่มีธุรกิจในจีน แต่ไม่ค่อยดีนักสำหรับบริษัทระหว่างประเทศที่เลือกฮ่องกงเป็นฐานเพื่อการเข้าถึงภูมิภาคนี้

จีนนั้นไม่กระตือรือร้นผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทาง ซึ่งรวมถึงการเดินทางติดต่อกับฮ่องกงด้วย โดยสื่อฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนจะคงมาตรการจำกัดต่อไปอย่างน้อยจนถึงภายหลังกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่ปักกิ่ง

เท่าที่ผ่านมา ฮ่องกงสามารถสยบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ค่อนข้างอยู่หมัด ซึ่งต้องขอบคุณมาตรการอย่างเรื่องการสวมหน้ากากป้องกัน, การรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด, รวมทั้งการใช้มาตรการกักกันโรคซึ่งบางอย่างจัดว่าเข้มงวดที่สุดในโลก ทว่าอัตราการฉีดวัคซีนของดินแดนบริหารพิเศษของจีนแห่งนี้กลับยังคงล้าหลังสิงคโปร์มาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ขาดแคลนวัคซีนแต่อย่างใด

เวลานี้สิงคโปร์อยู่ในฐานะเป็นหนึ่งในประเทศและดินแดนซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกในการรณรงค์ให้ผู้คนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยมีประชากรมากกว่า 80% แล้วที่ได้รับวัคซีนครบโดส แถมในหมู่ผู้สูงวัยอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราส่วนผู้ฉีดครบอยู่ที่ 84% ทีเดียว

ตรงกันข้าม มีชาวฮ่องกงที่อยู่ในเกณฑ์เข้าฉีดวัคซีนได้เพียงแค่ 46% เท่านั้นซึ่งได้วัคซีนครบโดสแล้ว โดยผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนครบแล้วเพียงแค่ 25%

สันนิษฐานสาเหตุวัคซีนโมเดอร์นาจำนวนมากปนเปื้อนในญี่ปุ่น

ทางด้านญี่ปุ่น โนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงเมื่อวันอังคารว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การปนเปื้อนในวัคซีนโมเดอร์นาที่พบที่โอกินาวะเมื่อวันอาทิตย์ (29 ส.ค.) อาจมีสาเหตุจากการแทงเข็มฉีดยาลงในขวดผิดวิธี ทำให้ชิ้นส่วนยางปิดปากขวดแตกเป็นชิ้นเล็กๆ และปนเปื้อนในขวดวัคซีน

อย่างไรก็ดี ทามูระสำทับว่า ไม่พบปัญหาความปลอดภัยหรือปัญหาอื่นๆ และทางกระทรวงจะรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ข่าวการปนเปื้อนของวัคซีนโมเดอร์นาจนต้องระงับการฉีดถึง 1.63 ล้านโดสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดขึ้นขณะที่ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดจากสายพันธุ์เดลตา ซึ่งทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละเกิน 25,000 คนเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ขณะที่แผนการฉีดวัคซีนยังคงล่าช้า

เตือนยุโรปจำนวนคนตายจะพุ่งแรงสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกัน จากการที่ยุโรปก็ประสบปัญหาความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเช่นกัน รวมทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อก็พุ่งขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ทำให้หน่วยงานในยุโรปขององค์การอนามัยโลก แถลงเตือนเมื่อวันจันทร์ (30) ว่า ภายในเดือนธันวาคม อาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในภูมิภาคนี้ถึง 236,000 คน

คำเตือนนี้ออกมาขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกทะลุ 4.5 ล้านคน ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักข่าวเอเอฟพี

ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการ WHO ประจำยุโรปยังระบุว่า เวลานี้ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนเสียชีวิตเพราะโควิดกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในประเทศยากจนแถบ.ข่าน คอเคซัส ไปจนถึงเอเชียกลาง เฉพาะสัปดาห์ที่แล้ว ยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 11% และจากการคาดการณ์ที่เชื่อถือได้ ภูมิภาคนี้จะมีผู้เสียชีวิต 236,000 คนภายในวันที่ 1 ธันวาคม

ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิดในยุโรปขณะนี้อยู่ที่ราว 1.3 ล้านคน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)
#2856
 ทำไมข้าวอินทรีย์ถึงแพงกว่าข้าวธรรมดาที่ใช้สารเคมี

ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ ( ข้าวปลอดสารพิษ) ถึงแพงกว่าข้าวธรรมดา     'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ   กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างก็ให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น  อย่างยิ่งกับการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยซึ่งมีมากมายหลากหลายในปัจจุบัน  รวมถึงผลผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคทั้งหลายให้ความไว้วางใจ  แต่ก็ยังมีคำถาม ข้อสงสัย ติดอันดับยอดนิยมจากผูบริโภคว่า  "ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ถึงราคาแพงกว่า ทั่วไป ทั้งที่ข้าวในนาผลิตตามธรรมชาติ ไม่ต้องมีต้นทุนปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง"    การผลิตข้าวอินทรีย์  ข้อมูลจากเวปไซด์ขององค์กรการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวถึงข้อเท็จจริงบางประการ ข้าวเกษตรอินทรีย์ที่เป็นเหตุผลของราคาผลผลิตและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สูงกว่าเอาไว้  ดังนี้- ฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีขนาดเล็ก ใช้แรงงานต่อหน่วยในการผลิตมากกว่าฟาร์มทั่วไป (สาเหตุหนึ่งที่ต้นทุนการผลิตสูง)
- ค่าใช้จ่ายในขบวนการหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรอินทรีย์  ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค  สูงกว่าเพราะในการขนส่ง หรือแปรรูปจะต้องแยกออกจากผลผลิตทั่วไปอย่างชัดเจน
- ปริมาณของข้าวเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างน้อย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้าต่อหน่วยของ ข้าวอินทรีย์  ออกสู่ตลาดนั้นสูงกว่าผลผลิตทั่วไป
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ทำให้เกษตรกรได้รายได้ที่เป็นธรรมและพอเพียง
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์   มีการจัดการมาตรฐาน คุ้มครองสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
- และสุกท้ายที่สำคัญที่สุด ข้าวเกษตรอินทรีย์มีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค
เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา  




ข้าวฮอร์ (HOR)  ข้าวปลอดสารสุรินทร์ ได้รับมาตรฐาน 
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้"  จากกรมการข้าว  จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ในประเภทของ 
2.1  ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)  
2.2  ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)  
2.3  ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวเกษตรอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ข้าวปลอดสารพิษสุรินทร์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : xn--22c6daqhyo0am1a6t.net/
Facebook :   www.pinterest.com/horboutique/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ ข้าวเพื่อสุขภาพ  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย
1. ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
3.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์กรมการข้าว
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก
6. ข้าวมะลินิลออแกนิคคือ
7. ข้าวไรซ์เบอรี่   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค  #ข้าวออแกนิก #ข้าวอินทรีย์ 
#ข้าววสุขภาพ  #ข้าวเกษตรอินทรีย์
 

 

 
 
#2858


นครปฐม - นครปฐมเตรียมรับการปลดล็อกดาวน์ หนุ่มพนักงานเสิร์ฟงานหาย รายได้หด นั่งตบยุงหลายเดือน ปิ๊งไอเดียจับรถบิ๊กไบค์ปรับเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ตั้งริมฟุตปาธ แถมคิดราคาลูกค้าจับต้องได้ โดยตอนนี้พร้อมรับคำสั่งให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้าน 1 ก.ย.นี้ เชื่อจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน

วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ริมถนนสวนตระไคร้ ใกล้กับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครปฐม นายมนตรี ขันทอง หรือเดียว อายุ 26 ปี ได้ใช้พื้นที่ริมทางเปิดเป็นร้านขายกาแฟเคลื่อนที่ โดยการดัดแปลงเอาแผ่นไม้กระดานวางพาดบนเบาะรถจักรยานยนต์ซูเปอร์ไบค์ และนำอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟเป็นกาแฟดริฟท์ โดยสามารถชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าที่มาติดต่อประสานงานกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครปฐม และชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา เป็นรูปแบบร้านที่แปลกตาและเป็นอีกหนึ่งสีสันของการปรับตัวในการหารายได้ในช่วงที่จังหวัดนครปฐมถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงซึ่งยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้

นายมนตรี หรือเดียว กล่าวว่า เดิมทีตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร แต่ในช่วงก่อนหน้าร้านอาหารที่ทำอยู่นั้นไม่สามารถเปิดให้ลูกค้านั่งได้ ทำให้ไม่มีงานทำมาหลายเดือน ประกอบกับเงินเก็บที่มีการเริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ จึงได้มานั่งคิดหาอาชีพเพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในช่วงนี้ ซึ่งได้มาสำรวจดูแล้วว่าตัวเองมีอุปกรณ์ในการชงกาแฟและมีรถจักรยานยนต์คู่ใจ จึงได้หาวิธีดัดแปลงนำไม้กระดานมาพาดกับเบาะรถแล้วนำอุปกรณ์ทั้งหมดเปิดเป็นร้าน โดยใช้เนื้อที่เล็กแต่สามารถสร้างงานสร้างรายได้ในช่วงนี้ได้

"ผมขายมา 3-4 วันแล้ว รายได้ก็ถือว่าดีเพราะได้วันละ 700-800 บาท ซึ่งมีรายได้ที่ดีกว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟ ซึ่งตอนนี้ที่ร้านจะมีเมนูกาแฟดำ ราคาแก้วละ 35 บาท กาแฟใส่นม 45 บาท โกโก้ ชาเขียว แก้วละ 25 บาท ซึ่งราคาไม่ได้ขายแพงแต่ให้ลูกค้าที่รายได้น้อยในช่วงนี้สามารถซื้อเราได้ ถ้าขายดีผมก็ขายไปเรื่อยๆ และจะเพิ่มเมนูกับรูปแบบที่มากขึ้น และผมเตรียมตัวรับกับการปลดล็อกดาวน์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เพื่อให้ลูกค้าได้มานั่งชิมริมถนนได้ เพราะกาแฟถ้าจะกินอร่อยต้องนั่งกินที่ร้านได้บรรยากาศไปด้วย ผมคิดว่าน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน" นายมนตรี หรือเดียว กล่าวปิดท้าย
#2859


ผลการศึกษาที่ชื่อ Mega Sales & Holiday 2021 จาก Facebook IQ เผยให้เห็นถึง 4 เทรนด์สำคัญสำหรับการชอปปิงช่วงปลายปีนี้ในประเทศไทยประกอบด้วย

1. เหล่านักช้อปให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวก่อนช้อปในเทศกาล Mega Sales Day เป็นอย่างมาก เหล่านักช้อปจะเตรียมตัวสำหรับ Mega Sales Day ล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ 

โดย 75% ของนักนักช้อปชาวไทยบอกว่าพวกเขาจะวางแผนสิ่งที่ต้องการจะซื้อล่วงหน้า โดยเดือนธันวาคมจัดเป็นช่วงเดือนที่นักช้อปมีการวางแผนมากที่สุด สะท้อนให้เห็นจากร้อยละ 54 ของนักช้อปชาวไทยบอกว่ามีการวางแผนช่วงนี้

นอกจากนี้ Mega Sales Day ยังเป็นช่วงที่การค้นหาสินค้านอกเหนือจากหมวดที่ได้รับความนิยมอย่าง เสื้อผ้า แฟชั่น และอาหาร เกิดขึ้นมาก โดยล 76% ของนักช้อปชาวไทยกล่าวว่าในช่วง Mega Sales Day พวกเขาซื้อสินค้าในหลากหลายหมวดหมู่มากกว่าช่วงปกติ และ 93% กล่าวว่าพวกเขาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่เคยซื้อมาก่อน 

แบรนด์ที่ถูกค้นพบในช่วงของ Mega Sales Day นี้มีแนวโน้มที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่มีความรักในแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย 75% ของนักช้อปในประเทศไทยที่ซื้อของในช่วง Mega Sales Day นั้นมีแนวโน้มที่จะใช้และซื้อสินค้าที่พวกเขาค้นพบในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง มากกว่าที่จะกลับไปใช้แบรนด์เดิมๆ

2. แบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์การชอปปิงแบบไร้รอยต่อได้ จะมีความได้เปรียบ นักช้อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าเมื่อพวกเขามีความมั่นใจในคุณภาพ และรู้ว่ามีช่องทางติดต่อกับร้านค้า 

โดยจะชอบมากหากสินค้าได้รับการรีวิว (92%) มีรูปภาพคุณภาพสูงหรือวีดิโอที่มีคุณภาพสูง (88%) และความง่ายในการติดต่อสื่อสารกับแบรนด์ (91%) ที่น่าสนใจกลุ่ม Gen X นั้น คาดหวังที่จะได้รับความสะดวกที่มากขึ้นไปอีก โดยพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สามารถติดต่อผ่านการส่งข้อความได้มากกว่า

3. การค้าขายข้ามพรมแดนจะเข้ามาชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อการเดินทางข้ามประเทศยังถูกจำกัดด้วยโรคระบาด เหล่านักช้อปในช่วง Mega Sales Day จึงหันมาซื้อของข้ามพรมแดนมากขึ้น เพราะว่าตอบโจทย์ในเรื่องความแปลกใหม่ และมีคุณค่าในตัวของมันเอง 

การที่พวกเขาสามารถค้นพบและเข้าถึงแบรนด์จากอีกมุมโลกได้ ทำให้การซื้อสินค้าข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยมีนักช้อปช่วง Mega Sales Day กว่า 55% ทำการซื้อสินค้าจากต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงวันหยุด โดยยอดขายนั้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Millennials และเสื้อผ้าเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดสำหรับหมวดสินค้าต่างประเทศ

4. นักช้อปให้ความสำคัญกับความจริงใจของแบรนด์ ความเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อในช่วง Mega Sales Day โดยลูกค้าต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อและปลอดภัย 

โดย 88% ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์และสินค้า ขณะที่  81% บอกว่าพวกเขาเชื่อเนื้อหาที่มีคนจริงๆ อยู่ในนั้น ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงนักช้อปและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ด้วยการร่วมมือกับเหล่าครีเอเตอร์ เพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแบบที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในช่วง Mega Sales Day

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า ก้าวเข้ามาสู่ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว และผู้คนจำนวนมากก็ยังคงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นตัวเลือกหลักในการชอปปิง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่แบรนด์ต่างๆ ควรประเมินว่าจะสร้าง engagement หรือปฏิสัมพันธ์กับเหล่านักช้อปอย่างไร 

โดยเฉพาะในเรื่องของการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าและมีความสามารถในการตอบโจทย์ตรงความต้องการเฉพาะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในรูปแบบที่ดึงดูดและสร้างการมีส่วนร่วมที่ดีกับตัวแบรนด์ด้วย เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่กำลังจะมาถึงในช่วงเทศกาลนี้
#2860


หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง ถือเป็นสัญญาณบวกว่าช่วงพีคได้ผ่านพ้นไปแล้ว

โดยในเฟสแรกนี้ยังให้คงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดตามเดิม และเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านในช่วง 21.00-04.00 น. ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น

สำหรับการผ่อนคลายเริ่มตั้งแต่ร้านอาหาร โดยร้านอาหารที่ไม่ติดแอร์ อยู่นอกอาคาร อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 75% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ส่วนร้านอาหารที่เป็นห้องแอร์นั่งได้ 50% และยังคงให้งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน และเปิดให้บริการได้ถึง 20.00 น. แต่มีเงื่อนไขที่คุมเข้มขึ้น เพราะกำนหนดให้ผู้ใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ผ่านการตรวจ ATK ไม่เกิน 7 วัน

นอกจากนี้ ไฟเขียวให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวดเฉพาะนวดเท้า รวมทั้ง สนามกีฬากลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ และสวนสาธารณะ เปิดให้บริการไม่เกิน 20.00 น.

ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้กลับมาเปิดบริการได้ทุกแผนกถึง 20.00 น. แต่บางกิจกรรมยังมีการกำหนดเงื่อนไขในการเข้าใช้บริการ ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ที่อยู่ในห้าง ให้บริการเฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงามเปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น

แต่สถาบันกวดวิชา โรงหนัง สวนสนุก สวนน้ำ สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุมห้องจัดเลี้ยงในห้างและศูนย์การค้าต่างๆ ยังไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดบริการในรอบนี้

การผ่อนคลายล็อกดาวน์ของศบค. น่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังรอบนี้มีการใช้ยาแรงคุมเข้มล็อกดาวน์กิจกรรมกิจการต่างๆ มานานกว่า 1 เดือน

อย่างศูนยการค้าที่ก่อนหน้านี้ให้เปิดเฉพาะโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ตามด้วยธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วนร้านอาหารยังห้ามนั่งทานในร้านต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น แต่หลังวันที่ 1 ก.ย. นี้ เมื่อคลายล็อกแล้ว ร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้นั่งทานได้ น่าจะทำให้บรรยากาศในห้างเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ประชาชนสามารถออกมาชอปปิง เดินเล่น ซื้อของได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด การ์ดห้ามตก ขณะที่ภาครัฐออกข้อบังคับที่คุมเข้มขึ้น ทั้งตัวสถานที่ ผู้ให้บริการ รวมทั้งลูกค้าที่จะเข้าไปใช้บริการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดรอบใหม่ขึ้น

สำรวจดูหุ้นศูนย์การค้าของไทยดูจะตอบรับข่าวดี "เปิดห้าง" ราคาหุ้นบวกสดใสหลังมีมติออกมา อย่างบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เจ้าของเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส ปิด 13.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.72% หวังว่าจุดต่ำสุดของธุรกิจได้ผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของ "เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์" ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของบริษัท เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นกว่าที่ธุรกิจจะกลับมาคัมแบ็คอย่างเต็มรูปแบบคงต้องรอการเปิดประเทศ

ส่วนบริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ปิด 3.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 6.21% บวกรับข่าวดีเช่นกัน หลังที่ผ่านมาได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 จนผลประกอบการปี 2563 พลิกขาดทุน 249.70 ล้านบาท ปีนี้ยังสาหัสครึ่งปีแรกขาดทุนไปแล้ว 271.49 ล้านบาท หลังต้องปิดศูนย์การค้าขวัญใจขาช้อปทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ย่านประตูน้ำ

ด้านบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ดูจะเป็นหุ้นตัวเดียวในกลุ่มที่ราคาพุ่งติดจรวดสวนทางเพื่อนๆ ในกลุ่ม ล่าสุดปิดที่ 11.80 บาท ถามว่าไม่ได้รับกระทบจากโควิดเหรอ? คงไม่ใช่

แต่ที่พุ่งติดจรวดขึ้นมาทำนิวไฮแบบนี้ เพราะมีสตอรี่เฉพาะตัว หลังกลุ่มบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR และผู้ถือหุ้นใหญ่ ตัดสินใจขายหุ้น 52.15% ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะบุ๊คเป็นกำไรเข้ามา โดยกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จวันนี้ (30 ส.ค.)

ส่วน CPN ในฐานะกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย ราคาปรับตัวลงเล็กๆ ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.47% ส่วนหนึ่งนักลงทุนอาจมองว่ายังมีภาระรายจ่ายพิเศษจากดีลซื้อกิจการอยู่ แต่ถ้ามองในพื้นฐานธุรกิจ กูรูหลายๆ สำนักมองไปในทิศทางเดียวกันว่าจุดต่ำสุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว ครึ่งปีหลังจะเริ่มสดใสขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดที่ค่อยๆ คลี่คลาย