• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - damonshoppu

#181
เครื่องปรับอากาศหรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่า "แอร์" นั้น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเรทราคาค่อนข้างกว้างตั้งแต่ 7-8 พัน ไปจนถึง 8-9 หมื่นบาท ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งแอร์ราคาสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณภาพและมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้งานได้มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าแอร์คุณภาพดี ๆ จะต้องมีราคาสูงเสมอไป เพราะในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ผลิตแอร์ระดับไฮเอนด์ออกมาขายในราคาที่คนทั่วไปก็สามารถซื้อได้ เช่น แอร์ mitsubishi, แอร์ carrier, และ แอร์ samsung ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิวแอร์จากทั้ง 3 แบรนด์ว่าจะมีคุณภาพคุ้มเกินราคาขนาดไหน ถ้าอยากรู้ก็ตามมาดูกันได้เลย

1. แอร์ MITSUBISHI MSY-KT18VF

ราคา 32,000 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 1,500 บาท)



MSY-KT18VF แอร์คุณภาพสูงฟังก์ชั่นครบจาก MITSUBISHI เป็นแอร์ผนังขนาด 17742 บีทียู ดีไซด์สวยดูทันสมัย ทำงานเงียบและประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ มาพร้อมฟังก์ชั่นนำสมัยครบครันทั้ง Long Air Flow เทคโนโลยีการกระจายลมที่สามารถส่งลมได้ไกลถึง 12 เมตร ทำความเย็นได้แม้ในห้องกว้าง, Fast Cool ฟังก์ชั่นทำความเย็นที่ช่วยให้ห้องเย็นเร็วภายใน 15 นาที, Sleep mode เทคโนโลยีเพื่อการพักผ่อนสุดล้ำที่จะช่วยควบคุมบรรยากาศ(เสียงและอุณหภูมิ) ในห้องให้เหมาะแก่การนอนหลับมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Nano Platinum Filter ฟังก์ชั่นกำจัดกลิ่น และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียรวมถึงไวรัส ให้ห้องของคุณมีคุณภาพอากาศที่ดีมากยิ่งขึ้น

2. แอร์ CARRIER 42TVAB028-B/38TVAB028

ราคา 39,400 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 2,540 บาท)



CARRIER 42TVAB028-B/38TVAB028 แอร์ผนังขนาด 25200 บีทียู ทำงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ อีกหนึ่งแอร์ระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นสุดล้ำมากมาย ทั้งระบบส่งลมเย็น 4 ทิศทาง ช่วยกระจายลมได้อย่างทั่วถึง, ระบบฟอกอากาศแบบปะจุ X-Ionizer ที่ช่วยดักจับสิ่งสกปรกในอากาศ กลิ่นไม่ถึงประสงค์ ไปจนถึงฝุ่น pm 2.5 ตัวเครื่องมีการใช้ Aqua Resin สารชนิดพิเศษในการเคลือบแผงคอยล์ เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก อีกทั้งยังใช้สารทำความเย็น R32 refrigerant ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่นอีกด้วย

3. แอร์ SAMSUNG AR24TYHZCWKNST

ราคา 30,690 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 2,200 บาท)



SAMSUNG AR24TYHZCWKNST แอร์ผนังขนาด 21500 บีทียู มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เสียงเงียบ และยังทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นถึง 43% มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากมายทั้ง Auto Clean ฟังก์ชั่นทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติในขณะปิดการทำงานช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราในตัวเครื่อง, Good sleep โหมดการทำงาน ที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับการนอน,  Eco mode โหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยคุณลดค่าไฟที่ไม่จำเป็น
#182
เครื่องปรับอากาศหรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่า "แอร์" นั้น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเรทราคาค่อนข้างกว้างตั้งแต่ 7-8 พัน ไปจนถึง 8-9 หมื่นบาท ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งแอร์ราคาสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณภาพและมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้งานได้มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าแอร์คุณภาพดี ๆ จะต้องมีราคาสูงเสมอไป เพราะในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ผลิตแอร์ระดับไฮเอนด์ออกมาขายในราคาที่คนทั่วไปก็สามารถซื้อได้ เช่น แอร์ mitsubishi, แอร์ carrier, และ แอร์ samsung ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิวแอร์จากทั้ง 3 แบรนด์ว่าจะมีคุณภาพคุ้มเกินราคาขนาดไหน ถ้าอยากรู้ก็ตามมาดูกันได้เลย

1. แอร์ MITSUBISHI MSY-KT18VF

ราคา 32,000 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 1,500 บาท)



MSY-KT18VF แอร์คุณภาพสูงฟังก์ชั่นครบจาก MITSUBISHI เป็นแอร์ผนังขนาด 17742 บีทียู ดีไซด์สวยดูทันสมัย ทำงานเงียบและประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ มาพร้อมฟังก์ชั่นนำสมัยครบครันทั้ง Long Air Flow เทคโนโลยีการกระจายลมที่สามารถส่งลมได้ไกลถึง 12 เมตร ทำความเย็นได้แม้ในห้องกว้าง, Fast Cool ฟังก์ชั่นทำความเย็นที่ช่วยให้ห้องเย็นเร็วภายใน 15 นาที, Sleep mode เทคโนโลยีเพื่อการพักผ่อนสุดล้ำที่จะช่วยควบคุมบรรยากาศ(เสียงและอุณหภูมิ) ในห้องให้เหมาะแก่การนอนหลับมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Nano Platinum Filter ฟังก์ชั่นกำจัดกลิ่น และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียรวมถึงไวรัส ให้ห้องของคุณมีคุณภาพอากาศที่ดีมากยิ่งขึ้น

2. แอร์ CARRIER 42TVAB028-B/38TVAB028

ราคา 39,400 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 2,540 บาท)



CARRIER 42TVAB028-B/38TVAB028 แอร์ผนังขนาด 25200 บีทียู ทำงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ อีกหนึ่งแอร์ระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นสุดล้ำมากมาย ทั้งระบบส่งลมเย็น 4 ทิศทาง ช่วยกระจายลมได้อย่างทั่วถึง, ระบบฟอกอากาศแบบปะจุ X-Ionizer ที่ช่วยดักจับสิ่งสกปรกในอากาศ กลิ่นไม่ถึงประสงค์ ไปจนถึงฝุ่น pm 2.5 ตัวเครื่องมีการใช้ Aqua Resin สารชนิดพิเศษในการเคลือบแผงคอยล์ เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก อีกทั้งยังใช้สารทำความเย็น R32 refrigerant ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่นอีกด้วย

3. แอร์ SAMSUNG AR24TYHZCWKNST

ราคา 30,690 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 2,200 บาท)



SAMSUNG AR24TYHZCWKNST แอร์ผนังขนาด 21500 บีทียู มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เสียงเงียบ และยังทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นถึง 43% มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากมายทั้ง Auto Clean ฟังก์ชั่นทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติในขณะปิดการทำงานช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราในตัวเครื่อง, Good sleep โหมดการทำงาน ที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับการนอน,  Eco mode โหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยคุณลดค่าไฟที่ไม่จำเป็น
#183
เครื่องดูดฝุ่นถือเป็นเครื่องมือทำความสะอาดที่ทุกบ้านจะขาดไปไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยเบาแรงในการทำความสะอาดมากกว่าการกวาดด้วยไม้กวาดแล้ว เครื่องดูดฝุ่นยังสามารถจัดการกับเศษฝุ่นได้ดีและละเอียดกว่าด้วย โดยในปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ ก็ได้มีการผลิตเครื่องดูดฝุ่นออกสู่ตลาดกันหลายรุ่น หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมารีวิวเครื่องดูดฝุ่น 3 สไตล์ จาก 3 แบรนด์ดัง ถ้าใครอยากรู้ว่าจะมีเครื่องดูดฝุ่นรุ่นอะไรจากแบรนด์ไหนบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. เครื่องดูดฝุ่น Electrolux EC41-6CR



EC41-6CR คือเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องจากแบรนด์ Electrolux ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นรูปแบบนี้จะมีราคาถูก แรงดูดสูง และสามารถเก็บฝุ่นได้เยอะ โดยตัวกล่องเก็บฝุ่นของ EC41-6CR นั้นสามารถเก็บฝุ่นและสิ่งสกปรกได้มากถึง 1.8 ลิตร มีมอเตอร์กำลังไฟ 2,000 วัตต์ และมีจุดเด่นที่ระบบกรองฝุ่น 4 ขั้นตอน ทำให้สามารถสามารถแยกอนุภาคของฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เครื่องดูดฝุ่น dyson SV10Kv8 SLIM FLUFFY+



SV10Kv8 ที่ดูดฝุ่นแบบด้ามจับของแบรนด์ dyson เป็นเครื่องดูดฝุ่นตัวท๊อปราคาสูงแต่รับรองว่าคุ้มค่า ด้วยระบบหัวดูดพื้นลูกกลิ้งแบบใหม่ ที่ dyson ตั้งใจพัฒนาให้เล็กและเบาลงสามารถใช้ทำความสะอาดได้ทุกมุมของบ้าน มาพร้อมหัวดูดไซโคลน 2 ชั้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดเป็นเท่าตัว ตรงหัวดูดมีไฟส่องให้มองเห็นฝุ่นได้ง่าย ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม ชาร์จได้ยาวนานกว่า 5 ชม. ข้ดดีอีกอย่างของ SV10Kv8 ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ มอเตอร์ระบบดิจิตอล V8 ให้แรงดูดสูงถึง 19.5 แอร์วัตต์ แต่มีความดังเพียง 82 เดซิเบลเท่านั้น ถ้าจะพูดถึงข้อเสียก็คงจะเป็นส่วนของกล่องเก็บฝุ่นที่ค่อนข้างเล็กเพียง 0.54 ลิตร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับที่ดูดฝุ่นแบบด้ามจับ

3. เครื่องดูดฝุ่น xiaomi XMI-SKV4093GL



xiaomi XMI-SKV4093GL คือโรบอทดูดฝุ่น อุปกรณ์อัจฉริยะที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว ช่วยให้การทำความสะอาดของคุณง่ายขึ้นอีกเป็นเท่าตัว โดยความพิเศษของ XMI-SKV4093GL คือมันเป็นตัวช่วยที่สามารถกำจัดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ความจุ 2600 mAh มีพลังดูดสูงถึง 2500 Pa ขนาดถังเก็บฝุ่น 600 มิลลิลิตร และถังเก็บน้ำ 200 มิลลิลิตร มีระบบกลับแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติเมื่อแบตเหลือต่ำกว่า 20% ซึ่งเมื่อชาร์จเต็มแล้วสามารถกลับไปทำงานต่อได้ มีระบบ Visual Dynamic Navigation System ของตัวเครื่องที่จะวิเคราะห์โครงสร้างของห้องและออกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มันยังสามารถสั่งการด้วยเสียงและควบคุมผ่านมือถือได้อีกด้วย
#184
"ทีวี" ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับให้ความบันเทิงที่ทุกบ้านจะขาดไปไม่ได้ โดยในทุกวันนี้ตลาดทีวีมีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะทีวีจอแอลอีดีซึ่งเป็นหน้าจอรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มีการผลิตทีวีแอลอีดีรุ่นต่าง ๆ ออกมากันมากมาย ซึ่งก็จะมีเรทราคาแตกต่างกันไปตามขนาดและฟังก์ชั่น โดยในวันนี้เราก็จะมารีวิวทีวีแอลอีดี ขนาด 55 นิ้ว จาก 3 แบรนด์ดังทั้งในส่วนของราคาและฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาทีวีแอลอีดี ขนาด 55 นิ้ว อยู่ ก็สามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย

1. ทีวี Samsung UA55AU7700KXXT

ราคา 20,990 บาท ซื้อออนไลน์ลดเพิ่ม 3,400 บาท



UA55AU7700KXXT คือ Smart tv รุ่นยอดนิยมจาก Samsung ที่มีฟังก์ชั่นที่สูงเกินราคา ด้วยความคมชัดระดับ 4K ความละเอียดสูง 3,840 x 2,160 พิกเซล มาพร้อมชิพประมวลผล Crystal Processor 4K ใช้ระบบปฎิบัติการ TIZEN ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี PurColor ให้คุณได้รับชมภาพสีสันสวยงามเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีระบบเอฟเฟกต์ Q-Symphony พลังเสียงรอบทิศทาง ความดังรวม 20 วัตต์ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานของทีวีได้อย่างง่ายดายด้วยการสั่งงานผ่านระบบ Multiple Voice Assistants ของตัวรีโมต เรียกได้ว่าเป็นทีวีแอลอีดีที่ครบเครื่องไม่แพ้เจ้าอื่น ๆ เลยทีเดียว

2. ทีวี lg 55NANO80TPA

ราคา 23,990 บาท ซื้อออนไลน์ลดเพิ่ม 3,900 บาท



55NANO80TPA แอลอีดีทีวีตัวท๊อปจาก LG ซึ่งโดดเด่นเรื่องดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย เข้าได้กับการแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ มาพร้อมความคมชัดระดับ 4K ความละเอียดสูง 3,840 x 2,160 พิกเซล โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี NanoCell Display ที่ LG ภูมิใจ สามารถแสดงเม็ดสีอันสมบูรณ์แบบและให้รายละเอียดที่สูงเหนือกว่าทีวีรุ่นอื่น ๆ ในมาตรฐานเดียวกัน มีเทคโนโลยี Local Dimming ที่สามารถควบคุมความสว่างของหน้าจอตามภาพที่แสดงออกมาโดยอัตโนมัติ สุดท้ายคือ Magic Remote แสนสะดวกที่สามารถใช้งานเสมือนเมาส์ไร้สาย และรองรับการสั่งการด้วยเสียง

3. ทีวี sharp 4T-C55CJ2X

ราคา 16,290 บาท ซื้อออนไลน์ ลดเพิ่ม 1,500 บาท



4T-C55CJ2X smart tv led จาก sharp ที่สุดของความคมชัดจากหลอดภาพ LED Blacklight ความละเอียดระดับ 4K (3,840 x 2,160 พิกเซล) เป็นสมาร์ททีวีสำหรับทุกคนในบ้าน รองรับการใช้งานผ่าน Netflix, Youtube, Prime Video, Web Browser และแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถืออย่างง่ายดายด้วยฟังก์ชั่น Cromecast built-in มีช่อง HDMI สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภาพและเสียง มีตัวรับสัญญาณ Digital ในตัว สามารถทำงานร่วมกับระบบปฎิบัติการ IOS และ android ได้อย่างไหลลื่น เป็นอีกหนึ่งทีวีแอลอีดีที่มีความลงตัวสำหรับครอบครัว
#185
"น้ำ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 80% แต่ในทุกวันนี้หลายคนไม่ได้ให้ความใส่ใจกับน้ำดื่มมากเท่าที่ควร ซึ่งมันอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ  ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำที่สะอาดและถูกสุขอนามัย เครื่องกรองน้ำจึงถือเป็นตัวช่วยในการผลิตน้ำสะอาดเพื่อดูแลร่างกายของเรา และหลายคนอาจจะไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วเครื่องกรองน้ำยังสามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ว่าแล้ววันนี้เราก็จะมาบอกประโยชน์ของเครื่องกรองน้ำว่ามีอะไรบ้าง ถ้าใครอยากรู้ก็ตามมาดูกันได้เลย



1. ดีต่อสุขภาพร่างกาย

เครื่องกรองน้ำนั้นสามารถกรองเอาสิ่งสกปรก สารตกค้าง และเชื้อโรคแบคทีเรียทั้งหลายออกจากน้ำ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าน้ำที่เราดื่มเป็นดื่มน้ำที่สะอาดจริง ๆ และยังสามารถดื่มได้ตลอดเวลาเพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้ในปัจจุบันเครื่องกรองน้ำจากหลาย ๆ แบรนด์ เช่น เครื่องกรองน้ำ stiebel, เครื่องกรองน้ำ Philips, หรือเครื่องกรองน้ำ pure ยังมีการใส่ฟังก์ชั่นที่จะช่วยเพิ่มแร่ธาตุบางชนิดลงไปในน้ำ จึงทำให้น้ำที่ได้เป็นน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ต่างจากการดื่มน้ำแร่อีกด้วย

2. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

เครื่องกรองน้ำดี ๆ ถึงแม้จะมีราคาสูงแต่มันก็ถือเป็นการลงทุนในระยะยาว เพราะการซื้อเครื่องกรองน้ำแค่ 1 ครั้ง จะช่วยประหยัดค่าน้ำที่เราจำเป็นต้องซื้อในแต่ละเดือนได้มหาศาล

แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าอยากประหยัดน้ำทำไมถึงไม่ดื่มน้ำประปา เหตุผลก็เพราะถึงแม้รัฐบาลจะมีการโฆษณามาอย่างยาวนานว่าน้ำประปาสามารถดื่มได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำประปาบ้านเรานั้นใช้การบำบัดด้วยคลอรีน ซึ่งคลอรีนเป็นสารที่หากร่างกายรับเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดอันตราย ดังนั้นการติดตั้งเครื่องกรองน้ำจะช่วยกรองคลอรีนออกจากน้ำประปาและช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้โดยไม่เสียสุขภาพ

3. ช่วยลดขยะจำพวกพลาสติก

อีกหนึ่งข้อดีของเครื่องกรองน้ำและถือเป็นข้อดีสำหรับสังคมส่วนรวมก็คือ มันสามารถช่วยลดขยะจำพวกขวดพลาสติกได้ ลองนึกดูว่าถ้าหากเรากินน้ำวันละ 3 ขวด เท่ากับว่าในหนึ่งอาทิตย์เราจะสร้างขยะขวดพลาสติกถึง 21 ขวด และมากถึง 84 ขวด ในหนึ่งเดือน ซึ่งนี่เป็นการคำนวณสำหรับคนแค่คนเดียว แต่ในทุกวันนี้มีคนหลายล้านคนที่ยังซื้อน้ำกินอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นภาระอย่างหนักสำหรับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นถ้าหากเราหันมาใช้เครื่องกรองน้ำก็จะช่วยลดขยะพลาสติกลงไปได้อย่างมาก
#186
สำหรับคนไทยเครื่องล้างจานอาจจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้รรับความนิยมสักเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศเครื่องล้างจานถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่มีใช้กันแทบทุกบ้าน ซึ่งสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าควรจะซื้อเครื่องล้างจานมาใช้ดีไหม วันนี้เราก็จะมาแชร์ข้อดีข้อเสียของเครื่องล้างจาน เพื่อช่วยทุกท่านประกอบการตัดสินใจ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีอะไรบ้างก็ตามไปดูกันได้เลย



ข้อดีของเครื่องล้างจาน

เบาแรงและสะอาดกว่าการล้างด้วยมือ

สำหรับหลายคนการล้างจานถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่แสนน่าเบื่อ แต่ปัญหาจะหมดไปถ้าหากคุณมีเครื่องล้างจานมาช่วยเบาแรง ซึ่งโดยปกติแล้วการล้างจานด้วยเครื่องนั้นจะมีมาตรฐานเรื่องความสะอาดมากกว่าการล้างด้วยมืออีกด้วย

สามารถล้างจานจำนวนมากได้

เครื่องล้างจานนั้นสามารถล้างจานทีละจำนวนมาก ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่อง ทำให้เหมาะจะใช้ในร้านอาหารหรือบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวจำนวนมากนั่นเอง

ฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำอุณหภูมิสูง

เครื่องล้างจานนั้นจะทำการล้างสิ่งสกปรกด้วยน้ำอุณหภูมิสูง ซึ่งนอกจากจะทำให้พวกคราบและเศษอาหารหลุดออกง่ายกว่าเดิมแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าจะไม่มีเชื้อโรคและแบคทีเรียหลงเหลือติดจานอย่างแน่นอน

สะดวกมากขึ้นด้วยโปรแกรมการล้าง

เครื่องล้างจานรุ่นใหม่ ๆ จากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น เครื่องล้างจาน electrolux หรือ เครื่องล้างจาน xiaomi จะสามารถตั้งโปรแกรมการล้างรูปแบบต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ เช่น โปรแกรมประหยัดน้ำ หรือโปรแกรมสำหรับจานที่สกปรกมาก ทำให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีก

ข้อเสียของเครื่องล้างจาน

มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

เป็นเรื่องปกติที่ความสะดวกสบายมักจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ในกรณีของเครื่องล้างจานนั้นนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายของตัวเครื่องที่ค่อนข้างสูง(สำหรับเครื่องล้างจานคุณภาพดี) แล้ว ยังมีค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าน้ำยาล้างจานที่ใช้เฉพาะสำหรับเครื่องล้างจาน ซึ่งหาซื้อยากและมีราคาสูงกว่าน้ำยาทั่วไปอีกด้วย

ไม่เหมาะกับบ้านที่ใช้จานน้อย

เครื่องล้างจานนั้นถูกออกแบบมาสำหรับล้างจานจำนวนมากในคราวเดียว ซึ่งสำหรับบ้านไหนที่ล้างจานครั้งละไม่กี่ใบก็จะไม่คุ้มค่าน้ำ กับค่าน้ำยาล้างจาน

ไม่ควรใช้ล้างเครื่องครัวบางชนิด

เครื่องล้างจานนั้นมีข้อจำกัดว่าไม่ควรใช้ล้างเครื่องครัวที่ผลิตจากวัสดุบางชนิด เช่น จาน หรือ ช้อนส้อม ที่ทำจากอลูมิเนียม ไม้ คริสตัล เงิน ทองแดง และพลาสติกที่ไม่ทนความร้อน หรือเครื่องครัวมีคมอย่างมีดถ้าหากนำเข้าเครื่องล้างจานก็อาจจะทำให้ความคมหายไปได้
#187
อย่างที่ทราบกันดีว่าเดือนมกรานั้นเป็นช่วงหน้าหนาวและอากาศเย็น จนทำให้หลายคนอาจมีปัญหากับการอาบน้ำ ซึ่งตัวช่วยที่นึกออกเป็นอย่างแรกก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องทำน้ำอุ่นดี ๆ สักเครื่อง แต่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นมีเครื่องทำน้ำอุ่นผลิตออกมาขายกันมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อ คำถามก็คือเราควรจะเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นไหนของแบรนด์อะไรดี?

ว่าแล้วถ้าหากใครกำลังมอหาเครื่องทำน้ำอุ่นคุณภาพดี และราคาไม่แพงอยู่ล่ะก็ วันนี้เราก็จะมารีวิวเครื่องทำน้ำอุ่นจาก 3 แบรนด์ดัง ได้แก่ เครื่องทําน้ำอุ่น stiebel, เครื่องทําน้ำอุ่น panasonic, และเครื่องทําน้ำอุ่น sharp ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละเครื่องจะมีจุดเด่นอย่างไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลย

1. เครื่องทำน้ำอุ่น stiebel DE 45 E

ราคา 2,800 บาท (ซื้อออนไลน์ลดเพิ่มทันที 160 บาท)



DE 45 E เครื่องทำน้ำอุ่นจาก stiebel เป็นเครื่องทําน้ำอุ่นแบบหม้อต้มกิลลอน ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานและสามารถทนต่ออุณหภูมิความร้อนได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีกำลังไฟสูงถึง 4500 วัตต์ ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย มีปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว สามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ตามต้องการ มีระบบตัดไฟอัตโนมัติแบบ 2 ชั้น ซึ่งจะหยุดการทำงานของตัวเครื่องทันทีที่เกิดไฟรั่วช่วยเสริมความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีมีมาตรฐานกันน้ำ IP25 อีกด้วย เรียกได้ว่านี่คือหนึ่งในเครื่องทำน้ำอุ่นที่ครบเครื่องที่สุดในเรทราคาไม่เกิน 3,000 บาท

2. เครื่องทำน้ำอุ่น panasonic DH-3LL1TW

ราคา 2,590 บาท



Panasonic DH-3LL1TW อีกหนึ่งเครื่องทำน้ำอุ่นคุณภาพดีในราคาจับต้องได้ ถูกดีไซน์ให้มีความโดดเด่นนำสมัยตามแบบฉบับของ Panasonic ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงเพื่อความแข็งแรงทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ตัวเครื่องมีกำลังไฟ 3,500 วัตต์ ใช้ตัวทำความร้อนแบบ polyamide ควบคุมการทำงานด้วยระบบแรงดันน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของน้ำสูงจนเกินไป ไม่เพียงเท่านั้นอีกส่วนสำคัญที่ Panasonic ใส่ใจอย่างเห็นได้ชัดก็คือระบบความปลอดภัย ถึง 9 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจความปลอดภัยของ DH-3LL1TW ได้อย่างสูงสุด

3. เครื่องทำน้ำอุ่น SHARP WH-B55

ราคา 2,900 บาท



เครื่องทำน้ำอุ่น SHARP WH-B55 กำลังไฟ 3,500 วัตต์ ใช้เทคโนโลยีขดลวดทองแดง INCOLOY 800 ในการทำความร้อน ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด สวยงาม ใช้วัสดุกันน้ำผ่านมาตรฐาน IP25 ตัวแผงวงจรมีการเคลือบสารป้องกันความชื้นช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวเครื่อง สามารถควบคุมอุณหภูมิของน้ำได้ดั่งใจด้วยปุ่มหมุนระบบ manual ปลอดภัยยิ่งด้วยด้วยระบบนิรภัย ELCB ซึ่งจะทำการตัดไฟโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดกรณีกระแสไฟฟ้ารั่ว
#188
ปัจจุบันวิวัฒนาการของเครื่องโกนหนวดจากใบมีดโกนหนวดได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องโกนหนวดไฟฟ้ากันหมดแล้ว เพราะเนื่องจากประสิทธิสิทธิภาพ เทคโนโลยี และการดูแลผิวจึงทำให้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยวันนี้เราจะพาทุกคนมาตามที่สุดของเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าไปพร้อม ๆ กัน กับการรีวิวเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า นวัตกรรมใหม่ที่คุณผู้ชายต้องหลงรัก แต่จะน่าเลิฟน่าลองแค่ไหนตามมาพิสูจน์กัน

1.เครื่องโกนหนวด FLYCO FS0002 (ราคา 1,490 บาท)



เครื่องโกนหนวด FLYCO เป็นที่โกนหนวดไฟฟ้า ที่มาพร้อมคุณสมบัติล้ำ ๆ หลายประการด้วยกัน ประการแรกมาพร้อมที่โกนหนวดไฟฟ้า 3 หัว จึงสามารถโกนได้ทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง และยังสามารถกันจอนได้อีกด้วย จึึงเพิ่มความสะดวกสบายในแง่ของการใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับพกพาเพราะมาในรูปแบบไร้สาน โดยใช้เวลาชาร์ตเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้สูงถึง 60 นาทีเลยทีเดียวค่ะ ลักษณะของหัวโกนแบบเดือยลูกลอย Floating dual-track foil จึงสามารถโกนให้เข้ารูปทุกรูปทรงของใบหน้า ช่วยให้โกนได้ลื่นขึ้น อ่อนนุ่มต่อผิวหนัง มาพร้อมใบมีด 2 ชั้นคู่ กระชับเข้ารูปกับผิวหน้าช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสผิว 50% จึงให้โกนได้ไวมากขึ้น เรียบเนียนขึ้น และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ใช้ได้นานอีกด้วยค่ะ

2.เครื่องโกนหนวด PHILIPS S7783/50  (ราคา 5,990 บาท)



เครื่องโกนหนวด PHILIPS ที่ถึงมาจะมาในราคาที่ค่อนข้างจัดเต็มไปบอกได้คำเดียวว่าประสิทธิภาพก็ดีควรค่าแก่ราคาที่สุด เพราะหัวโกนสามารถหมุนได้รอบทิศทาง จึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุก ๆ การใช้งาน โดยสามารถโกนได้ทั้งแบบเปียก แห้ง อีกทั้งยังโกนได้แบบแนบสนิท แม้กระทั่งกับหนวดเคราที่ขึ้นมาได้ถึง 3 วัน เพราะด้วยเทคโนโลยี SkinIQ Power AdapSensor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเซนเซอร์อันแสนล้ำสมัยจึงช่วยตรวจจับความหนาแน่นของเส้นขน โดยไม่ทำอันตรายต่อผิวในขณะที่กำลังโกนอยู่ นอกจากนี้ ระบบใบมีด Steel Precision Blade ทำให้รอบการตัดหนวดสูงสุด 90,000 ครั้งต่อนาที จึงได้เคราสะอาดเกลี้ยงเกลาภายในเวลาไม่กี่นาที อีกทั้งยังมี Motion Sensor ที่ช่วยแนะนำทิศทางของการโกน และยังเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Philips GroomTribe เพื่อปรับแต่งการโกนให้เหมาะกับความต้องการ และพัฒนาเทคนิคให้ใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด ยังไม่จบเพียงเท่านั้นยังมี One Touch Open ล้างทำความสะอาดหัวโกนง่ายเพียงแค่คลิกเดียว และระบบ Quick Charge สามารถชาร์จไฟเต็มได้อย่างรวดเร็ว โดย 1 ครั้งใช้ได้ 60 นาที โดยชาร์ตด่วน 5 นาทีสามารถโกนได้ 1 ครั้ง ด้ามจับยังจับถนัดมือดีต่อผู้ใช้งานที่สุด

3. เครื่องโกนหนวด REMINGTON SF-4880 (ราคา 3,920 บาท)



เครื่องโกนหนวด จาก REMINGTON มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างครบช่วยให้ทุกการโกนหนวดในทุกเช้าเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่าย เพราะด้วยใบมีดออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ง่ายและสะดวก โดยไม่ทำให้เกิดขนคุด มาพร้อมกับสารเคลือบจากว่านหางจระเข้จึงช่วยป้องกันการระคายเคืองในขณะที่กำลังโกน อีกทั้งยังสามารถตกแต่งหนวดเคราได้อย่างง่ายดาย หากใช้ร่วมกับโฟมโกนหนวด มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม จึงสะดวกต่อการชาร์ตไฟ โดยชาร์จไฟเต็มที่ใช้งานได้ 45 นาที ซึ่งใช้เวลาชาร์ตเพียง 120 นาทีเท่านั้น โดยมีสแตนด์สำหรับชาร์จไฟ พร้อมรับประกันสินค้าเป็นเวลา 2 ปี
#189
วันนี้มนุษย์ต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ถึงจะดีต่อสุขภาพของคุณมากที่สุด ดังนั้นคุณต้องหาตัวช่วยพิเศษเพื่อช่วยให้คุณสามารถดื่มน้ำได้ครบ แล้วมาจบที่สุขภาพดีด้วย การหาถังน้ำดื่มที่ทั้งคงทนและมีความปลอดภัย เพื่อคงคุณภาพของน้ำดื่ม โดยตัวถังมีมาตรฐานดังนั้น เราจะพาทุกคนพาไปหาถังน้ำดื่มดี ๆ ที่สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยตามมาเลยค่ะ

1.กระติกน้ำแข็ง HAPPY WARE PB-275 16 ลิตร สีน้ำเงิน (ราคา 590 บาท)



เป็นกระติกน้ำแข็งที่ผลิตขึ้นจากพลาสติกคุณภาพดี ปราศจากสารอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อการใช้งาน สามารถกักเก็บความเย็นได้นาน 6-8 ชั่วโมง โดยดีไซน์ตัวถังที่มีฐานกว้าง จึงสามารถป้องกันการตกกระแทกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้วยขนาดที่แสนกะทัดรัด จึงสามารถบรรจุทั้งน้ำแข็ง น้ำดื่ม รวมถึงสามารถนำมาแช่อาหารในขณะที่ต้องเดินทางไกลได้ ซึ่งมาพร้อมกับหูหิ้วเพื่อช่วยให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายมากขึ้น

2. คูลเลอร์สเตนเลส 14 ลิตร SEAGULL



เป็นถังน้ำดื่มสเตนเลสคุณภาพดี มีดีไซน์อยู่ในทรงกลม ผลิตโดยเทคนิคพิเศษจึงไม่มีรอยเชื่อมต่อ อีกทั้งยังปราศจากสารตะกั่ว จึงปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ที่ดื่มน้ำ อีกทั้งยังทนทานมาก ๆ หมดปัญหาถังรั่วซึม และสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดยสามารถบรรจุน้ำในปริมาณถึง 14 ลิตร จึงสามารถบรรจุน้ำดื่มได้เยอะเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับใส่ดื่ม น้ำเย็น น้ำหวาน น้ำชา ได้ทุกชนิด เพื่อใช้ในการจัดงานเลี้ยงทั้งในและนอกสถานที่

3.ถังเก็บความเย็น DOMETIC CI85W (ราคา 19,900 บาท)



ถังเก็บความเย็นจากแบรนด์ DOMETIC แบรนด์ชั้นนำจากประเทศสวีเดน ตัวถังผลิตจากพลาสติก Polyethylene (PE) ด้วยกระบวนการหล่อขึ้นรูปแบบชิ้นเดียว  จึงไม่มีรอยต่อให้เห็น นอกจากนี้ ตัวถังมีปริมาณความจุ 86 ลิตร เก็บความเย็นยาวนานได้ถึง 3 วัน หรือประมาณ 48 - 72 ชั่วโมง โดยมีฉนวนกันความร้อน และมีระบบฝาปิดภายในที่มีซีลยาง ช่วยป้องกันอุณหภูมิความเย็นรั่วไหล นอกจากนี้ยังแข็งแกร่งทนทาน ทนทุกแรงกระแทก และทนกับทุกสภาวะ รับน้ำหนักกดทับได้มากกว่า 100 กิโลกรัม อีกทั้งยังสามารถเคลื่อยนย้ายได้ง่ายเพราะมีมือจับด้านข้างและล้อเลื่อน รวมถึงมีก๊อกระบายน้ำในตัวจึงสะดวกต่อการถ่ายน้ำ

4.ถังแช่อเนกประสงค์ WELL WARE AG993



เป็นถังน้ำเย็นที่ช่วยกักเก็บความเย็นได้อย่างเป็นเริ่ด เพื่มความเย็นยาวนาน ผลิตจากพลาสติก Polypropylene จึงแข็งแรงไม่แตกหักงาน ทนต่อการใช้งานทุกรูปแบบ สามารถรองรับได้สูงสุด 35 ลิตร สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย ฝาถังเปิด-ปิดได้โดยสะดวก ไม่ติดขัด เหมาะกับการมาใช้งานแบบอเนกประสงค์เป็นอย่างยิ่ง
#190
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหูฟังกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพราะถ้าหากว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของมนุษย์ รับรองว่าหูฟังต้องเป็นอวัยวะชิ้นที่ 34 อย่างแน่นอน ฉะนั้น เราจะพาเพื่อน ๆ ไปตามหาหูฟังที่ดีเหมาะกับการใช้งานของตนเองกันค่ะ เชื่อได้เลยว่า รีวิวของเราต้องมีหูฟังที่เพื่อน ๆ หมายตาอยู่อย่างแน่นอน

1.หูฟังไร้สาย JBL JBLENDURSPRINTBNL (ราคา 1,592 บาท)



หูฟังไร้สาย JBL เป็นหูฟังที่ผลิตจากพลาสติกแข็งและซิลิโคน จึงมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์แบบ MagHook หรือแบบตะขอเกี่ยวหูจึงใส่ได้กระชับขึ้น และไม่หลุดง่ายอีกด้วย ความพิเศษของหูฟังตัวนี้ก็คือสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชั่วโมง โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที เหมาะกับคนที่รักในการออกกำลังกายเป็นอย่างมากเพราะถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้สำหรับทุกสภาพอากาศ ซึ่งไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออกก็ไม่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานของหูฟังตกลง และช่วยให้การฟังเพลงและการโทรเข้าโทรออกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้ว ระบบสัมผัสมาพร้อมคุณภาพเสียงคมชัดเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.2 ระยะการเชื่อมต่อได้ไกลสูงสุกถึง 50 เมตร สามารถกันน้ำและกันฝุ่นละอองได้ระดับ IPX7 โดยสามารถลงน้ำลึกได้สูงสุด 1 เมตร ต่อเนื่องยาวนานถึง 30 นาที ช้ไดรเวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตร จึงตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 20-20,000 Hz จึงมีคุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ ฟังเพลงเพลิดเพลินด้วยเบสแน่นกระหึ่ม

2.หูฟัง TRULY WIRELESS JBL LIVE FREE NC (ราคา 5,990 บาท)



มาถึงหูฟังแบบ WIRELESS สีชมพูสดใสจาก JBL ซึ่งคุณสมบัติอันแสนโดดเด่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนภายนอกสุดอัจฉริยะ  ละรับเสียงรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก สามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth กับมือถือสมาร์ตโฟนได้แบบง่าย ๆ จึงสามารถรับฟังเสียง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ หรือการสนทนาทางโทรศัพท์  เหมาะกับกิจกรรมทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย นอนพักผ่อน หรืออ่านหนังสือก็สามารถใส่หูฟังเครื่องนี้ได้ สำหรับการทำงานของแบตเตอรี่ ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยี Speed Charge และ Wireless Charging Case จึงทำให้ชาร์ตได้อย่างรวดเร็ว พร้อมควบคุมการทำงานเพียงปลายนิ้วสัมผัสร่วมกับผู้ช่วยเสียง Google และ Amazon Alexa มีมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นละอองระดับ IPX7

3.หูฟังเกมมิ่ง 7.1 SIGNO HP-831 (ราคา 850 บาท)



เมามันส์ไปกับการเล่นเกมอันแสนเพลิดเพลนกับ หูฟังเกมมิ่ง 7.1 SIGNO  มาพร้อมกับระบบเสียง 7.1 ที่จำลองเสียงเกมส์ได้รอบทิศทาง เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมส์มากขึ้น  ตัวหูฟังถูกดีไซน์มาอย่างสวยงาม ด้วยไฟ RGB สำหรับสายคาดหัว ที่มีความยืดหยุ่นและทนทานสูงมาก ส่วนหูฟังสามารถปรับระดับให้เข้ากับสรีระของผู้สวมใส่ได้อย่างพอดี ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น สำหรับไมค์โครโฟนก็สามารถปรับหมุนได้ ซึ่งมาพร้อมกับพร้อมระบบช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง  ไฟ LED สี RGB ที่หูฟังและไมค์ที่แสนจะโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว รวมทั้งหูฟังปรับระดับให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานได้ วัสดุทำจากฟองน้ำแบบหนา หุ้มด้วยหนังเทียมจึงทำให้สวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน นั่ง 24 ชั่วโมงก็ไม่ใช่ปัญหาแถมหูฟังยังมีน้ำหนักเบา ทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน มีสายยาว 2.2 ม. และสามารถเชื่อมต่อกับ USB ได้
#191
ผู้หญิงหลายคนอาจไม่เชื่อว่าแค่มีเส้นผมสวย ก็ทำให้ผู้หญิงอย่างเราสวยขึ้นแล้วค่ะ เราเลยต้องเสริมความสวยด้วยอุปกรณ์ทำผม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องหนีบผม โรลม้วนผม รวมถึงไดร์เป่าผมซึ่งเป็นสารพัดอุปกรณ์สำหรับเติมความสวยให้เส้นผม ซึ่งหากสาว ๆ คนใดกำลังตามหาเครื่องม้วนผมเครื่องใหม่ที่ทำให้ผมของคุณอยู่ทรงยิ่งขึ้น เราจะพาไปติดตามค่ะ

1.แกนม้วนผม LESASHA LS1361(ราคา 2,990 บาท)



แกนม้วนผม LESASHA เป็นที่ม้วนผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ โดยเป็นแกนม้วนผมแบบ Tulip Auto Twist ที่มีดีไซน์การออกแบบเหมือนกับดอกทิวลิป มาพร้อมกับนวัตกรรม Lotus auto rotating curler ที่เพียงแค่กดปุ่มของเครื่องม้วนก็ทำให้เส้นผมเป็นลอนสวยได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม นอกจากนี้ยังจับถนัดมือเพราะถูกออกแบบให้มาเป็น Easy Styling พร้อมมี Tourmaline + Argan Oil ที่ช่วยถนอมเส้นผมช่วยให้เส้นผมไม่ชี้ฟู รวมถึงดูเงางามมากยิ่งขึ้น โดยแกนหมุนออโต้จะมีเสียงเตือนขึ้นให้เอาผมออกเมื่อความร้อนคงที่แล้ว รวมถึงป้องกันไม่เส้นผมของเราหยิกจากการไหม้อีกด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกปุ่มคำสั่งสำหรับซ้ายขวาได้ตามต้องการ รวมถึงหมดกังวลเรื่องแกนม้วนไม่ติดเส้นผม  และช่วยลดปัญหาผมติดแกนม้วนจนทำให้เกิดอันตราย

2.แกนม้วนผม REMINGTON CI-9132 (ราคา 1,890 บาท)



แกนม้วนผม REMINGTON รุ่นนี้เป็นเครื่องม้วนผมที่มีเทคโนโลยี OPTI ซึ่งจะปล่อยความร้อนในระดับที่คงที่และเหมาะสม รวมถึงสม่ำเสมอในระหว่างม้วน ช่วยให้เส้นผมอยู่ทรงได้นานมากขึ้น และด้วยแกนม้วนขนาด 32 มม. ซึ่งผ่านการเคลือบเซรามิกเคลือบสารกันลื่น จึงช่วยล็อกช่อผมให้ง่ายต่อการม้วนผม มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Pro+ สำหรับการม้วนและการเซ็ทผมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมอบความร้อนสูง 120 -210 องศาเซลเซียส ช่วยให้เครื่องม้วนผมร้อนเร็วขึ้นภายใน 30 วินาที โดยมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ อีกยังเป็นระบบไฟที่สามารถใช้กันได้ทั่วโลก โดยรับประกันสินค้าทั้งหมด 2 ปี

3.แกนม้วนผม DYSON HS01 COMPLETE NICKEL/FUCHSIA (ราคา 17,900 บาท)



แกนม้วนผม DYSON HS01 เป็นแกนม้วนผมที่แม้ราคาแรง แต่ทว่ามีประสิทธิภาพเยี่ยมโดยมีผูัใช้มากมายยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าดีและเหมาะสมกับการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นแกนม้วนผมขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ดิจิทัล จึงสามารถเป่าผม และจัดแต่งทรงผมได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ โดยมี อฟฟกต์ Coanda ช่วยดึงเส้นผมให้ม้วนเข้าไปยังผิวหน้าของแปรงจึงสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังผ่านระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ โดยหากว่าวัดอุณหภูมิได้ 40 ครั้งต่อวินาที ป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายเส้นผมนอกจากนี้ยังมีระบบ One-Click และ Cool-Touch Tips ที่ช่วยในการเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถปรับความร้อน และความแรงลมได้ 3 ระดับ ประกอบด้วน สูง ต่ำ และเย็น โดยมีระบบไอออนประจุลบ ช่วยลดไฟฟ้าสถิตในเส้นผม มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม 6 ชิ้นในชุ พร้อมรับประกันการใช้งาน 2 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
#192
เพิ่มความสดชื่นให้ห้องของคุณด้วยผลิตภัณฑ์ปรับอากาศภายในห้อง ซึ่งในปัจจุบันมีด้วยกันหลายรูปแบบทั้งก้านไม้หอมปรับอากาศ สเปรย์ปรับอากาศ เจลปรับอากาศ ซึ่งหากใครยังไม่รู้ว่าควรซื้อประเภทไหน ยี่ห้ออะไร หรือกลิ่นแบบไหนดี เรามีมาแนะนำซึ่งจะช่วยให้ห้องของคุณหอมและสดชื่นขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ ตามมาดูกันเลย

1.สเปรย์ปรับอากาศ POLAR (ราคา 240 บาท)



สเปรย์ปรับอากาศ POLAR กลิ่นยูคาลิปตัสผสมแอคทีฟ โพลาร์ จึงมอบความหอมสดชื่นให้ห้องทันทีที่ฉีดพ่นสเปรย์ รวมทั้งมอบความเย็น สดชื่น โล่งจมูก โดย Activ Polar เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจาก Nova Health คิดค้นโดยแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ จึงมีประสิทธิภาพเปลี่ยนอากาศให้สะอาดขึ้น สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อราที่ก่อโรคร้ายได้อย่างง่ายดาย พร้อมขจัดสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้เรื้อรัง ใช้สำหรับขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ทั้งกลิ่นอับ กลิ่นขยะ และกลิ่นอาหาร โดยละอองสเปรย์ไม่ฟุ้ง ไม่แสบตา ไม่เป็นน้ำละอองเหนียวเหนอะหนะ

2.เจลปรับอากาศ GLADE SCENTED (ราคา 159 บาท)



มาถึงเจลปรับอากาศ กลิ่นลาเวนเวอร์ ซึ่งสามารถปรับระดับความหอมให้มากน้อยได้ตามความต้องการได้ โดยเนื้อเจลสามารถกระจายความหอมได้อย่างต่อเนื่อง มอบความหอม ความสดชื่น ลดกลิ่นอับภายในห้อง  พร้อมมอบความหอมยาวนานต่อเนื่องถึง 30 วัน พร้อมกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มีอยู่ทั่วทุกที่ เพียงปรับระดับความหอม โดยดึงตรงฝาครอบด้านบนขึ้นหรือลงตามความต้องการก็ทำให้ห้องของคุณได้รับความหอมตามที่คุณต้องการแล้วค่ะ

3.น้ำหอมปรับอากาศ FARCENT LES PARFUMS DE FARCENT (ราคา 159 บาท)



น้ำหอมปรับอากาศ FARCENT LES PARFUMS DE FARCENT เป็นน้ำก้านน้ำหอมที่ทำให้ภายในห้องของคุณหอมสดชื่นอยู่เสมอ ด้วยกลิ่น Sea salt & wood sage ซึ่งเป็นกลิ่นคลาสสิกจากยุโรป ซึ่งเป็นหัวน้ำหอมชั้นชี อยู่ในขวดแก้วที่มีดีไซน์สวยงาม หรูหรา และสร้างบบรรยากาศภายในบ้านที่อบอวลไปด้วยความหอมอันบริสุทธิ์ โดยสร้างความผ่อนคลายให้ภายในบ้าน รวมถึงมีก้านสำลีช่วยในการกักเก็บ และกระจายความหอมต่อเนื่องยาวนาน

4.เครื่องพ่นปรับอากาศ FARCENT (ราคา 109 บาทแบบรีฟีล)



รีฟีลน้ำหอมปรับอากาศแบบแห้ง ซึ่งต้องติดตั้งใช้งานร่วมกับเครื่องพ่นสเปรย์อัตโนมัติ อยู่ในกลิ่นลาเวนเดอร์ ซึ่งผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติจึงเติมความหอมสดชื่นได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยละอองสเปรย์มีขนาดเล็ก จึงกระจายตัวในอากาศได้ช่วยขจัดกลิ่นอับได้อย่างทั่วถึง โดยสามารถฉีดได้ 3,000 ครั้ง หรือประมาณ 60 วัน สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีภายในห้องนอน ห้องรับแขก หรือห้องทำงาน พร้อมทำให้คุณสัมผัสกลิ่นหอมที่ช่วยให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
#193
เราคนรักการทำขนมเตรียมหาgเครื่องผสมอาหารหรือเครื่องตีแป้งเครื่องใหม่เพื่อมาทำให้การทำขนมของคุณเป็นเรื่องง่าย โดยเครื่องตีแป้งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้เพื่อน ๆ ทำของหวานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเรามีเครื่องตีแป้งมานแนะนำ ทั้งราคา ฟังก์ชันการใช้ครบ รุ่นไหนที่ต้องกับที่เพื่อน ๆ ค้นหาต้องรีบหามาเป็นเจ้าของได้แล้วนะคะ

1. เครื่องผสมอาหาร ELECTROLUX รุ่น EKM3437W (ราคา 8,990 บาท)



เครื่องผสมอาหาร ELECTROLUX รุ่น EKM3437W เป็นเครื่องผสมอาหารเครื่องเล็กกะทัดรัดที่เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งทำขนมเป็นอย่างยิ่ง มาพร้อมกับโถผสมอาหารสแตนเลสขนาดใหญ่ 4 ลิตร และโถปั่น BPA FREE สามารถติดตั้งได้ด้านบนของตัวเครื่อง โดยมีอุปกรณ์เสริมมอบให้ อาทิอุปกรณ์สำหรับนวดแป้ง ตีส่วนผสมให้ขึ้นฟู รวมถึงที่ขูดและบดส้ม ข้อดีสำหรับเครื่องผสมอาหารเครื่องนี้คือสามารถเข้าเครื่องล้างจานได้ และมีสายไฟที่ยาวมากกว่า 1.2 เมตร ให้การผสมอาหารของแม่ครัวมือใหม่เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ

2.เครื่องผสมอาหาร BRAUN รุ่น HM1010WH (ราคา1,920 บาท)



เป็นเครื่องผสมอาหารหรือเครื่องตีแป้งมือถือ โดยหัวตีผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดีมี 2 แบบ หัวตะกร้อ และหัวเกลียวทำให้การตีแป้งง่ายขึ้นและให้แป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกันง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ปราศจากสาร BPA free จึงสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยไม่มีอันตราย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Turbo จึงช่วยในการเร่งความเร็วให้ผสมแป้งได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ และประหยัดเวลามากขึ้น รวมถึงช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลาย อาทิ ตีแป้ง ผสม และทำวิปปิ้งครีมก็ทำได้ตามที่ใจต้องการ และได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ โดยสามารถปรับระดับความเร็วได้ 4 ระดับ โดยสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม มีกำลังมอเตอร์ 400 วัตต์ โดยรับประกันสินค้า 1 ปี

3.เครื่องผสมอาหาร MINIMEX รุ่น MSM2-BLU (ราคา 10,900 บาท)



เครื่องผสมอาหาร MINIMEX มาพร้อม โถผสมอาหารผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพมาพร้อมความจุ 4.5 ลิตร สามารถปรับความเร็วสูงสุดได้สูงถึง 12 ระดับจึงสามารถได้ตามความเหมาะสม โดยเครื่องผสมอาหารเครื่องนี้ผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์สีสันสวยงามทันสมัยเหมาะกับการใช้งานเป็นประจำ สามารถสับ นวด ปั่น ตีครีม และเตรียมอาหารได้อย่างหลากหลายแบบ โดยทั้งประหยัดแรงและก็ประหยัดเวลาเป็นอย่างยิ่ง มีกำลังไฟ 1,000 วัตต์ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Planetary Mixing System 2 แกนหมุนที่ช่วยในการผสมอาหาร และรับประกันคุณภาพ 2 ปี จึงตอบโจทย์ทุก ๆ การทำอาหารและตัวช่วยพิเศษในการเข้าครัวของทุกคน
#194
หลายคน หลายครอบครัว กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำที่จะมาสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตัวเอง และคนในครอบครัว สรรหาอยู่นาน เปรียบเทียบอยู่หลายยี่ห้อ ก็ไม่ค่อยจะเห็นความแตกต่างเท่าไร เนื่องจากน้ำที่ออกจากเครื่องกรองน้ำก็หน้าตาเหมือนกัน รสชาติคล้ายกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ เมื่อเราดื่มน้ำจากเครื่องกรองน้ำตัวนั้นผ่านไปสักระยะหนึ่งจึงทราบได้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพของเราว่าดีขึ้นอย่างไร

เครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ คือ เครื่องกรองน้ำที่ผลิตน้ำอัลคาไลน์ ส่งผลดีต่อสุขภาพระยะยาว อีกทั้งน้ำอัลคาไลน์เป็นน้ำที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ง่ายที่ร่างกายจะทำการดูดซึมน้ำเข้าไปใช้ประโยชน์ยังส่วนต่างๆ จึงทำให้น้ำด่างมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำธรรมดา หันมาดื่มน้ำอัลคาไลน์ด้วยกันนะครับ เครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า



น้ำอัลคาไลน์ คืออะไร ?

น้ำอัลคาไลน์ (Alkaline Water) คือ น้ำดื่มที่มีค่าความเป็นด่าง รวมถึงมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการผสมอยู่อย่างมากมาย อาทิเช่น แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม และโปรเทสเซียม อีกทั้งน้ำอัลคาไลน์เป็นน้ำที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ง่ายที่ร่างกายจะทำการดูดซึมน้ำเข้าไปใช้ประโยชน์ยังส่วนต่างๆ จึงทำให้น้ำด่างมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำธรรมดา อีกทั้งยังมีความเป็นกรดด่างที่ให้สมดุล พอเหมาะกับร่างกายของมนุษย์ จึงเข้าไปช่วยป้องกันร่างกายจากการทำลายของกรดส่วนเกินที่เป็นต้นเหตุของโรคร้ายต่างๆ และช่วยฟื้นฟูร่างกายด้วยการชะล้างของเสียลงลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ง่ายและแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง

ประโยชน์ของการดื่ม น้ำอัลคาไลน์

- ช่วยปรับสมดุลกรดเกิน (Neutralize pH Balance)
- ช่วยชะลอวัย (Anti Oxidant and Anti Aging)
- มีโมเลกุลเล็กดูดซึมและช่วยในการขับถ่าย (Small Clustered of water Molecule)
- มีแร่ธาตุ แคลเซียม แมกนีเซียม
- เครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ ทำได้ทั้งน้ำร้อน-น้ำเย็น ผลิตน้ำอัลคาไลน์ที่ค่า pH 8.5-9.5
- ไอออนประจุลบ (ORP) -150mv ถึง -350mv ,มีระบบป้องกันการกดน้ำร้อนจากลูกน้อย (Safety Faucet for Children) ,ไส้กรอง Nano กรองน้ำสะอาดปราศจาดเชื้อโรค
- มีปริมาณอ๊อกซิเจนเหมาะสม ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า (Plenty of Oxygen in water)
#195
ทั้งฝุ่นควัน มลพิษ และ PM 2.5 ลอยอยู่ในอากาศมากมาย ทำให้ในแต่ละวันเราต้องสูดลมหายใจที่ไม่สะอาดเข้าไปซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวันจึงทำให้มีเครื่องฟอกอากาศพกพา และหน้ากากฟอกอากาศเกิดขึ้นจึงทำให้เราได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง ซึ่งเราจะพาไปดูว่าเครื่องดังกล่าวนั้นทำงานอย่างไร และดีต่อสุขภาพของเราอย่างไร ตามมากัน

1.เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา JEWELION (8,190 บาท)



เครื่องฟอกอากาศพกพา JEWELION เป็นเครื่องฟอกอากาศที่สร้างพื้นที่ส่วนตัวของคุณให้สะอาดและปลอดภัยมากขึ้นอีกขั้น ด้วย JEWELION ซึ่งเป็นเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้อยคอ ซึ่งทำหน้าที่ปล่อยไอออนลบ 19 ล้านประจุต่อตารางเซนติเมตร ช่วยดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ รวมถึง PM 2.5  ภายใน 0.6 วินาที และยังรวมไปถึงสารก่อมะเร็งต่าง ๆ จะเครื่องนี้ก็สามารถกำจัดได้อย่างอยู่หมัดในรัศมีความกว้างประมาณ 1 เมตร อีกทั้งยังมีอัตราการกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ได้สูงสุดถึง 99.9% จึงทำให้รอบตัวของคุณเต็มไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ เหมาะสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้ป่วยทั้งหลาย ซึ่งชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้ได้ยาวนานถึง 2-3 วัน จึงทำให้อากาศที่คุณได้รับสะอาดและปลอดภัยอย่างแน่นอน

2.เครื่องฟอกแบบพกพาหน้ากาก LG  AP551AWFA.ABAE (ราคา 6490 บาท)



เครื่องฟอกแบบพกพาหน้ากาก LG เป็นหน้ากากฟอกอากาศ ที่ผสานเทคโนโลยีที่คืนอากาศบริสุทธิ์ โดยผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบา สวมใส่ได้สบาย สามารถฟอกอากาศได้สะอาดหมดจด โดยสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการใช้ซิลิโคนทางการแพทย์แบบเดียวกับที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ช่วยหายใจในโรงพยาบาลเป็นวัสดุในการผลิตหน้ากากตัวนี้ขึ้นมา มาพร้อมพัดลม Dual Fans ช่วยระบายอากาศที่สามารถปรับความเร็วได้ตามจังหวะการหายใจช่วยให้คุณหายใจได้สะดวกยิ่งกว่า มีแผ่นกรองอากาศ HEPA H13 class ที่ช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศที่เป็นอันตรายได้ถึง 99.95% แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 2 ชั่วโมง รวมถึงมีดีไซน์ที่รองรับทุกสรีระ จึงรู้สึกสบายในขณะที่สวมใส่ มาพร้อมเทคโนโลยี Voice On มีไมโครโฟนและลำโพงขนาดเล็ก จึงทำให้พูดได้ชัดขึ้น รองรับการใช้งานแบบอัจฉริยะ (Bluetooth) เพื่อติดตามการหายใจ และการบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์

3.เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา JYE DOUGHNUT



เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา JYE DOUGHNUT โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด  สามารถสวมเป็นสร้อยคอเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยการปล่อยประจุลบประมาณ 5 ล้านประจุต่อลบ.ซม. จึงสามารถดักจับฝุ่นควัน มลพิษต่าง ๆเพื่อทำให้อากาศสดชื่น รวมถึงสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 รวมถึงเกสรดอกไม้ และควันบุหรี่ได้ เหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ รวมถึงเด็กและผู้ป่วยก็ควรสวมใส่เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาพกติดตัวเอาไว้ สำหรับการชาร์ตซึ่งจะใช้เวลาชาร์ตประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ใช้ได้นานถึง 3 วันจึงไม่จำเป็นต้องชาร์ตแบตบ่อย ๆ สำหรับเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาจะช่วยกรองอากาศภายในรัศมี 1 ตร.ม. พร้อมคืนอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้หายใจอย่างปลอดภัย