• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - fairya

#2921



นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรเส้นทางบินให้กับผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564

โดยได้ทำการปลดล็อคเปิดโอกาสให้สายการบินสามารถขออนุญาตทำการบินเข้า-ออกสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา –ระยอง- พัทยา เพิ่มเติม จากเดิมที่กำหนดให้มีสายการบินให้บริการได้ไม่เกิน 3 ราย เพราะสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา -ระยอง -พัทยา เป็นเส้นทางสายย่อย ที่มีผู้โดยสารใช้บริการไม่ถึง 1 แสนคนต่อปี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 ต.ค. 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง


สำหรับการออกประกาศดังกล่าว เพื่อต้องการเพิ่มทางเลือกและบรรเทาปัญหาการเดินทางให้กับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาและเพื่อประโยชน์สาธารณะ ในการส่งเสริมให้มีการใช้บริการขนส่งทางอากาศที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

รวมถึงช่วยบรรเทาผลกระทบของสายการบินให้สามารถดำรงสถานะทางการเงินและให้บริการประชาชนต่อไปได้ ในช่วงที่สายการบินไม่สามารถบินรับ-ส่งผู้โดยสาร เข้าหรือออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลประกาศควบคุมเที่ยวบินเข้าออก ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค

นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้สายการบินใดสนใจที่จะทำการบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ก็สามารถยื่นขออนุญาตได้มากกว่า 3 สายการบิน โดยจะเป็นการอนุญาตให้บินแบบประจำ มีกำหนดเวลาการทำการบินรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้กำหนดให้บินจนถึงแค่วันที่ 30 ต.ค.2564


อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสายการบินนกแอร์ได้แจ้งขอเริ่มทำการบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยยื่นขอจำนวน 5 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช อีกทั้งล่าสุดสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้แจ้งขอเปิดทำการบินเช่นกัน โดยจะเริ่มทำการบินเที่ยวแรก วันที่ 2 ส.ค. นี้ รวม 1 เส้นทาง คือ อู่ตะเภา-ภูเก็ต

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ท่าอากาศยานอู่ตะเภามีสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และบางกอกแอร์เวย์ส ทำการบินอยู่ก่อน และได้ยกเลิกการทำการบินชั่วคราวไปอย่างไม่มีแผนกำหนด ว่าจะกลับมาเปิดบินอีกครั้งเมื่อไหร่ ขณะที่สายการบินไทยสมายล์ ไม่สนใจที่จะเข้ามาทำการบินเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสถานีให้บริการภาคพื้นที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา
#2922


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คณะทำงาน ส.อ.ท. เตรียมหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทาง ส.อ.ท. จะสอบถามความคืบหน้าการจัดสรรวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดให้กับภาคอุตสาหกรรมล่าสุดเป็นอย่างไร รวมทั้งจะแจ้งมาตรการที่ ส.อ.ท. กำลังดำเนินการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขการติดเชื้อในโรงงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ต้องเร่งกันช่วยกันป้องกัน ไม่เช่นนั้นจะกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบการแพร่ระบาดในชุมชน หากต้องปิดโรงงาน จะกระทบต่อกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจะกระทบทั้งสินค้าในภาคการส่งออก และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก หรือถ้ารัฐสั่งปิดเอง ต้องจ่ายเงินเยียวยาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ได้เร่งผลักดันให้ทุกโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ประเมินตนเอง และโรงงาน ผ่านไทย สต็อป เซอร์วิส พลัส และไทย เซฟ ไทย รวมทั้งล่าสุดได้ยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทุกแห่งดำเนินการมาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีล (bubble and seal) ซึ่งเป็นการควบคุมคนในโรงงาน ให้มีกิจกรรมปะปนกันเอง และกับคนนอกโรงงานให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานที่อาศัยนอกโรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัย ไม่แวะทำธุระระหว่างเดินทาง และเมื่อกลับถึงที่พัก ต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ขณะที่แรงงานที่พักอาศัยในโรงงาน ต้องมีการควบคุมไม่ให้แรงงานออกนอกพื้นที่แรงงาน

นอกจากนี้ ได้แจ้งให้โรงงานขนาดใหญ่เตรียมพร้อมแผนรับมือหากมีการติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก โดยให้จัดโรงพยาบาลสนาม และพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงานหรือในชุมชน เป็นที่พักสำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วย แต่ยังตรวจไม่พบเชื้อหรือยังไม่มีอาการ จัดเตรียมระบบเดินทางรับ-ส่ง คนงาน จากที่พักถึงโรงงานหรือสถานประกอบการ ป้องกันการแวะระหว่างทาง จัดหาร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ราคาย่อมเยา ในบริเวณโรงงานหรือที่พัก ลดการสัมผัสระหว่างคนงานและคนในชุมชน และให้จัดหาสถานพยาบาลที่พร้อมให้บริการตรวจหาเชื้อ ด้วยพีซีอาร์ (PCR) และแอนทิเจน เทสต์ คิต (Antigen Test Kit)

ส่วนการบริหารจัดการคนทำงานร่วมกันในพื้นที่โรงงาน ให้จัดพนักงานแยกเป็นกลุ่มย่อย หรือแยกเป็นบับเบิล แต่ละกลุ่มสามารถทำงานร่วมกันโดยป้องกันตนเอง แต่ไม่ให้มีการทำงานหรือกิจกรรมข้ามกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มมีสัญลักษณ์แสดงชัดเจน ไม่ให้มีกิจกรรมข้ามกลุ่มจำนวนคนแต่ละกลุ่มยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น โรงงานมีพนักงาน 500 ราย กลุ่มหนึ่งไม่เกิน 20 ราย ถ้าเป็น 1-5 คน จะดีที่สุด หากบับเบิลใดมีผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงก็จะถูกจำกัดในบับเบิลนั้น ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง คนที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ให้จัดทำงานที่ไม่สัมผัสคนจำนวนมาก หากให้อยู่ในบับเบิลเฉพาะกลุ่มนี้ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยสำหรับกลุ่มนี้มากขึ้น

รวมทั้งให้มีการสุ่มคนงานตรวจหาเชื้อในสถานประกอลการขนาดใหญ่ ให้สุ่ม 75 ราย ต่อคนงานทุกๆ 500 ราย สถานประกอบการขนาด 100-500 ราย สุ่ม 75 ราย โดยกระจายการสุ่มให้ครอบคลุมกลุ่มต่างๆ ที่แยกไว้ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้แยกไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย หรือรักษาตนเองที่บ้าน ส่วนคนงานที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ติดเชื้อ ถือว่าเป็นผู้สัมผัส ให้หยุดงานและกักตัว 14 วันทุกราย
#2923



ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับนางเอกหน้าหวาน มิน พีชญา วัฒนามนตรี ที่ก่อนหน้านี้ลงครัวทำอาหารไปมอบให้กับคนงานที่แคมป์ก่อสร้างต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร

แต่ล่าสุดนางเอกคนดังก็ครีเอทไอเดียเจ๋งช่วยประชาชนที่เดือดร้อนกับพิษโควิด-19 แบบคูณสอง กับการเหมาอาหาร ขนมและเครื่องดื่มจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนจากโรคระบาดดังกล่าวได้กินฟรีรอบกรุงฯค่ะ

"กับโครงการนี้จริงๆ มินได้มีโอกาสทำมาพักนึงแล้วค่ะ คือตอนแรกอย่างที่ทุกคนได้เห็นว่ามินทำอาหารแจกพี่ๆ น้องๆ ที่แคมป์คนงาน แต่ตอนนี้เราก็ลองปรับมาดูว่าเราสามารถช่วยอะไรได้มากกว่านั้นไหม


มินเลยลองเปลี่ยนจากการทำอาหารเองมาเป็นการซื้ออาหาร ไปเหมาอาหารจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้ดีกว่า แล้วมินก็เอาของที่ซื้อมาแจกจ่ายให้กับพี่ๆ น้องๆ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิดแทน

ถือว่าเราได้ช่วยคนแบบสองต่อเลยค่ะ เพราะบางร้านค้าขายของไม่ได้เลย บางร้านก็ขายได้แต่ก็ไม่พอค่าเช่าที่ แถมพ่อค้าแม่ค้าบางคนยังมีลูกเล็กๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอีก

คือเราเห็นแล้วก็สงสารพ่อค้าแม่ค้าทุกคนค่ะ เราเลยมาช่วยตรงจุดนี้ เพราะพอเราซื้อของเค้า เหมาของเค้าพ่อค้าแม่ค้าเองก็ยิ้มได้ มีเงินกินเงินใช้เลี้ยงดูครอบครัว

มินเห็นเค้ามีความสุขเราเองก็ดีใจ ส่วนคนที่มารับของที่เราซื้อไว้ทุกคนก็ยิ้มได้ ได้กินของอร่อย ได้ยินแค่คำขอบคุณเราเองก็ปลื้มใจเช่นกันค่ะ


เพราะเรารู้ว่าตอนนี้พี่ๆ น้องๆ บางคนก็ตกงาน บางคนทำงานเป็นรายวัน ตอนนี้โรงงานปิดก็ขาดรายได้ บางคนก็โดนลดเงินเดือน เราก็ถือว่าเราได้ช่วยให้เค้ามีความสุข ได้อิ่มท้องในแต่ละวัน

เราเองก็มีความสุขมากแล้วค่ะ เพราะถ้าทุกคนมีข้าวกินในแต่ละวัน ทุกคนก็จะมีแรงต่อสู้กับปัญหาที่จะเข้ามาและมินก็คิดว่าจะทำโครงการดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ" 
#2924

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ โพสต์คลิปวิดีโอของ ป๋าเทพ หรือ เทพ โพธิ์งาม บางช่วงกล่าวถึง กระแสการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมถึงการออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื้อหาในบางช่วง ป๋าเทพ กล่าวว่า

"ผู้ใหญ่บางคนที่แก่ๆ กันแล้ว ก็ควรแนะนำเด็กๆ ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เด็กๆ บางคนสร้างประโยชน์ สร้างความดี สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่บางคนกลับทำลายประเทศ หยุดกันสักทีเถอะ ตอนนี้รักษาเอาไว้ สักวันก็ต้องตาย อย่ามาคุยเก่ง ใครคิดทำให้ชาติไขว้เขวไปไม่รอด ทำให้คนส่วนใหญ่ลำบาก แล้วมาสร้างปัญหา ต้องเห็นใจคนทำงาน ผู้นำต้องแข็งแกร่ง มองไปข้างหน้า เค้าว่าอะไรก็อย่าไปสวน"

"พวก-ึงทำอะไรกันมีความคิดบ้าง พูดเก่ง พูดกันเก๊งเก่ง แต่ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ไม่เคยเห็นประเทศไทยมีแบบนี้เกิดขึ้น เกิดมา 71 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครมาด่าทอ"

"คนรุ่นใหม่ หน้าตาหล่อๆ ดีๆ ความคิดยิ่งกว่าคนรุ่นเก่า มาพูดมาด่าคนทำงานอยู่นั่นแหละ มาช่วยกันสิ มาช่วยหมอสิ มาช่วยคนทำงานดีกว่า จะเบื่อใครก็แล้วแต่ จะเกลียดหรือชอบก็อยู่ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็เป็นไปตามกรรม ตอนนี้อึดอัดมากแล้ว มาช่วยกันออกความคิดกันดีกว่า ไม่ใช่มาด่าทอกัน -ูว่า-ูโง่แล้ว แต่เห็นคนโง่กว่า-ูอีก ไม่น่าเชื่อ"


"มาเถียงกันต้องเอาความจริง พวกผู้ใหญ่ ที่เป็นดอกเตอร์กันเนี่ย แก่มาแล้วหัวล้านแล้ว หัวหงอกแล้ว เป็นอาจารย์คนแล้วมาสอนให้คนแตกแยกกันเนี่ย อยุธยาแตกก็เพราะพวก-ึงนี่แหละ เป็นก๊กเป็นเหล่า มันต้องร่วมใจกันสิ"

"การที่-ึงพูดออกไป พวก-ึงรู้รึเปล่าว่ามันแรงสะเทือนไปถึงขนาดไหน มันทำบ้านเมืองวุ่นวายทำไมช่วงนี้ คิดบ้างว่าวิกฤติขนาดนี้-ึงต้องรวมใจกันแล้วไอ้ค-ย รวมใจกันสิไอ้-ัส มาเกลียดชังกันอะไร เค้ารักษากันมาขนาดนี้แล้ว -ูว่าระบบเมืองไทยเนี่ยดีที่สุดในโลกแล้วไอ้ค-ย -ึงจำไว้"

"เห็นไหมว่าตั้งแต่ยุคไหนมา เคยมีเรื่องปัญหาอะไรมากมายเหมือนประเทศอื่นเค้าไหม คิดซะบ้างอย่าคิดแต่ชีวิตพวก -ึงมองชีวิตข้างๆ บ้าง ต้องขออภัยที่ต้องพูดไอ้-ัส ไอ้เ-ี้ยบ้าง แต่เพราะมันอัดอั้น แต่ปล่อยไปก็จะเลอะเทอะกันใหญ่"

"พูดให้มีสาระจะไม่ว่า แต่บอกแต่จะให้ออกไป ออกไป พูดเหมือนคนปัญญาอ่อน พูดแล้วไม่คิดบ้างว่าจะเป็นยังไงต่อ จะเอาคนที่ไม่ดีเข้ามาอีกหรือ เด็กรุ่นหลังคิดแบบนี้แล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร จะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล"

"ผู้นำไม่ต้องไปสนใจ เราทำงานให้ประเทศเดินไปได้ ไอ้คนนั้นอ่ะ ดีที่สุดที่ตั้งแต่เห็นมา ผู้นำประเทศคนนี้พอได้นะ เรื่องการปกครองคน ต้องให้เป็น ไม่ใช่เอาใครก็ได้มาปกครอง ในสภาดูที่พูดกันซิ พูดอะไรกัน เป็น ส.ส.มาได้อย่างไร จะมาดูแลบ้านเมือง พี่น้องคนไทย แบบนี้ได้หรือ คนไหนไม่ดีคนไหนดี -ูดูออก ถึงจบ ป.4 แต่ก็วิเคราะห์ได้เพราะ-ูติดตามไง"

"จะเชียร์ใครจะทำอะไรดูเหตุผลด้วย ไม่ใช่เอาแต่มันอย่างเดียว บ้านเมืองนะ ไม่ใช่บ้านของ-ึง เป็นบ้านคนอื่นด้วย บ้านของคน 70 ล้านคน จะมาแสดงความเห็นคนเดียวหรือ ต้องเห็นความเป็นส่วนมากเข้าไว้ นี่คือมนุษย์ไม่ใช่จิงโจ้"

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น
#2925



จากความคืบหน้าของโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่เริ่มต้นไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาซึ่งในด้านของการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น แม้จะยังไม่ชักเจนมากนัก แต่ล่าสุด พล.เอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน และ เกาะเต่า จังหวัดกระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง และ ไร่เล และจังหวัดพังงา ในพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ส.ค.64 นี้

จังหวัดพังงา เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับภูเก็ตโดยมีสะพานสารสินเชื่อมเกาะภูเก็ตทำให้ง่ายต่อการตั้งด่านคัดกรองนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างจังหวัด ทั้งนี้ภายหลังการเปิดภูเก็ตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ จังหวัดพังงานเริ่มีการเตรียมการสู้โควิดด้วยแนวคิด "พังงาพร้อม" เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เข้ามาพักอยู่ในภูเก็ตแล้ว 14 วัน ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวไทยที่ฉีดวัคซีนครบ หรือมีใบรับรองครบถ้วนตามมาตรการสาธารณสุขสามารถเดินทางเข้ามาได้ โดยไม่ต้องกักตัว แต่การเดินทางเข้ามายังเปิดให้เฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ และต้องปฏิบัติตัวตามหลักท่องเที่ยวแบบ New Normal

สำหรับจังหวัดพังงา เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ต้องมาหยุดชะงักเพราะสถานการณ์โควิด -19 แต่ภายหลังการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เริ่มต้นขึ้น ชาวพังงา ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ประกาศรวมพลังต่อสู้กับโรคโควิด 19 ภายใต้แนวคิด "พังงาพร้อม" ด้วยการรณรงค์ให้ชาวพังงาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ให้ได้ 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเป็นการเดินตามรอยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โดยหวังจะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวได้อีกครั้ง



ทั้งนี้ กำหนดการเปิดจังหวัดพังงาจะเริ่มขึ้นในวันที่1 ส.ค.64 ทำให้ขณะนี้จังหวัดพังงา เร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการยกระดับ10 กิจการ ที่ได้มาตรฐานSHA : Amazing Thailand Safety & Health Administration ซึ่งมีอยู่ประมาณ140 แห่งไปสู่SHA Plus+ อันเป็นมาตรฐานที่รับรองว่าสถานประกอบการมีมาตรการทางสุขอนามัยในการควบคุมโรคโควิด -19 อีกทั้งมีพนักงานในสถานประกอบการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ2 เข็มแล้วเกินกว่า70% เพิ่มขึ้นให้มากที่สุดเพื่อให้ทันการเปิดเมืองพังงา

โดยเฉพาะหลังการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มต้นทำแล้วใน2 พื้นที่นำร่อง คือจังหวัดภูเก็ต และสุราษฎร์ธานีผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล ซึ่งขาดอีกไม่กี่วันโครงการPhuket Sandbox ซึ่งเป็นเฟสแรกของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะครบ1 เดือน ซึ่งจากการประเมินความก้าวหน้าของโครงการ Phuket Sandbox พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 – 21 ก.ค. รวม9,358 ราย ขณะที่ยอดการจองห้องพักตามมาตรฐานSHA+ สะสมระหว่างเดือนก.ค.- ก.ย. อยู่ที่244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพัก10.12% สร้างรายรับการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท


นายคาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนถึง90% ของรายได้ของภาคการท่องเที่ยวในภูเก็ต จึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมตกลงอย่างมาก ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในภูเก็ตค่อยๆเปลี่ยนไปจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ไปสู่ชาวจีน ที่ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด และชาวรัสเซีย ณ ช่วงครึ่งปีแรก 64 จีนยังไม่เปิดประเทศสำหรับต่างชาติ ซึ่งมีผลมาตั้งแต่เดือนม.ค.63 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ดังนั้น แผนการเปิดประเทศในรูปแบบของ'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ค.นี้อาจมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากภูเก็ตพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นความพยายามที่ภูเก็ตจะกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่จำเป็นต้องกักตัว14 วัน ซึ่งโมเดลนี้ถือเป็นการปูทางที่จะเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น พังงา สุราษฎรธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขรรธ์รวมไปถึง จังหวัด ระยอง และชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ขณะเดียวกัน รัฐบาลตั้งเป้าที่จะกระจายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสให้เข้าถึง70% ของประชาชนทั้งหมดภายในสิ้นปี64 ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ การกระจายการฉีดวัคซีนต้องดำเนินการให้เร็วขึ้น เนื่องจากมีเพียง 3% ของประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.64 ขณะที่ประชาชนกว่า60% ในจังหวัดภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในประเทศไทย เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วโดยไม่จำเป็นต้องกักตัว ภายใต้ โครงการแซนด์บอกซ์ ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ค.64 แต่ถึงอย่างนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่น ๆ เช่น การเข้าพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ โดยมีการรับรองSHA+ และตรวจRT-PCR หลายครั้งก่อนและหลังเดินทางมาถึงภูเก็ต

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมต่างก็คาดหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง 64 ด้วยอัตราการเข้าพักเป็นตัวเลขสองหลัก แต่รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพียง 100,000 คนภายใต้โครงการแซนด์บ็อกซ์ในไตรมาส3 ปี64 ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก และอาจคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 20% ต่อไป ในขณะเดียวกัน ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) ยังคงจะอยู่ในระดับต่ำตลอดเดือนที่เหลือของปีนี้หรืออาจนานกว่านั้น เนื่องจากโรงแรมที่เปิดอยู่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนโรงแรมใหม่ที่ถูกเลื่อนเปิดตัวมาและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มทยอยกลับมาเปิดบริการมากขึ้น



"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นโครงการนำร่องในการพยายามที่จะกลับมาเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยจะขยายไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ หากภูเก็ตประสบความสำเร็จ แต่ความเสี่ยงอยู่ตรงที่ว่าอาจมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้มาตรการและข้อจำกัดด้านการเดินทางมีผลบังคับใช้อีกครั้ง และทำให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทยถือว่ามีความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดระดับหนึ่ง ด้วยอัตราการติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งตรงนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้โครงการ 'แซนด์บอกซ์' ในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว"

สำหรับสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ณ ปัจจุบัน พบว่าโรงแรมที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณหาดป่าตอง ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลเป็นหลัก โดยคิดเป็น24% ของจำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริหารในภูเก็ต รองลงมา คือ หาดกะรน15% หาดบางเทา14% หาดกะตะ13% และหาดกมลา10% ขณะที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมยังคงลดลงอย่างมาก โดยในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่8% สำหรับโรงแรมระดับลักลักซูรี่และระดับอัพสเกล มีอัตราการทเข้าพักลดลง30% ปีต่อปี อัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่3% เนื่องจากการระบาดระลอกที่3 ในจังหวัดสมุทรปราการในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวได้ส่งผลต่อราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) ของโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลลดลงไป 39% ปีต่อปี อยู่ที่2,342 บาท ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุด เนื่องจากภูเก็ตไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ โรงแรมต่าง ๆ จึงต้องเสนอส่วนลดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความต้องการภายในประเทศที่มีจำกัด แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก64 จะไม่มีโรงแรมระดับลักชัวรี่และระดับอัพสเกลเปิดใหม่และจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ซับพลายสะสมโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีจำนวนห้องพักรวมอยู่ที่22,824 ห้องในภูเก็ต มีโรงแรมใหม่กว่า 20 แห่งที่วางแผนจะเปิดตัวในช่วงปี63 และ64 แต่นื่องจากความไม่แน่นอนในการกลับมาของนักท่องเที่ยวโรงแรมที่วางแผนจะเปิดตัวจำต้องชะลอการเปิดตัวออกไปถึงช่วงครึ่งปีหลัง64 และปี65 มีเพียงโรงแรมวี วิลล่า ภูเก็ต บาย เอ็มแกลเลอรี (24 ห้อง) เปิดตัวในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรก64 ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมระดับซูเปอร์ลักซูรี่


นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า แม้จะมีโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่ผุ้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังมีความกังวลอยู่ว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวของภูเก็ตนั้นจะเป็นความหวังในแง่ดีหรือร้าย ทั้งนี้ในกลุ่มของผู้ประกอบการอสังหาฯ และการท่องเที่ยวภูเก็ต มีความกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ1. จำนวนนักท่องเที่ยวไทยจะลดลลงหลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะแม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการฉีดวัคซีนครบ2 โดสแล้ว แต่ก็ไม่การันตีว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็น 2.หลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากอย่างที่หวังหรือไม่ เพราะหลายๆประเทศมองไทยมีการแพร่ระบาดในระดับสูง ซึ่งอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามามีจำนวนน้อยกว่าที่คาดการณ์ ผลที่จะตามมาคือภูเก็ตจะต้องประสบปัญหามากขึ้น

" ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตหลักๆ คือ จีน อินเดีย รัสเชีย ซึ่งในปัจจุบันนี้อินเดียมีการระบาดหนักมาก ขณะที่จีนก็ยังไม่เปิดประเทศเดินทางเข้าไทยได้ รัสเซียเองก็ยังไม่เปิดประเทศดังนั้นทั้งสามประเทศนี้ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในระยะแรกจะยังไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามการเปิดภูเก็ตถือเป็นโครงการนำร่องที่จะทำให้ไทย สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องยอมให้มีการเปิดภูเก็ตใช้เป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศขณะเดียวกันในช่วงสามเดือนแรกนี้ผู้ประกอบการเองก็หวังว่าการควบคุมการแพ่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้นและการฉีดวัคซีนมากกว่า70% นั้นจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ตามที่เราหวังไว้ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะทยอยกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น แต่ในส่วนของอสังหาฯ นั้นจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าทำให้ยอดซื้อขายในช่วงปลายปีขยายตัวได้ไม่มากนัก"

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยข้อมูลตลาดอสังหาฯในงานสัมมนาออนไลน์ "Thailand Resort Real Estate Update" ที่จัดขึ้นโดย ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คสบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโรงแรมและอสังหาฯ และ เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ ผู้ให้บริการด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมการบริการการท่องเที่ยว และอสังหาฯ พบว่าในช่วง18 เดือนในระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19คนไทยมีความต้องการที่พักตากอากาศปรับตัวมากขึ้น ทำให้ยอดการซื้อ "บ้านตากอากาศ" หรือ "บ้านหลังที่สอง" เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ "ฟาสวาส" (FazWaz) เว็บไซต์อสังหาฯ รายงานว่าพื้นที่รีสอร์ทชายทะเลยอดนิยมของ "หัวหิน" กลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้มีการสอบถามข้อมูลทางออนไลน์มากขึ้นในแต่ละปี โดยนายเบรนแนน แคมป์เบล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟาสวาส กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลตั้งแต่ไตรมาส2 ปี63 ถึงกลางปี64 พบว่า แรงจูงใจในการซื้อบ้านพักตากอากาศ หรือ เพื่อการลงทุน มีการเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้ซื้อมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ต เกาะสมุย และพัทยา โดยยอดซื้อขายสูงที่สุด อยู่ในพื้นที่หัวหินคิดเป็น64% ของธุรกรรมมาจากตลาดในประเทศ

ขณะที่บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัดได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ โครงการภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ในฐานะต้นแบบสำหรับการเปิดประเทศของไทย แต่โครงการนี้กลับมาพร้อมกฎเกณฑ์หลายประการ ซึ่งถ้าการปฎิบัติและผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนดไว้โครงการก็จะถูกยกเลิก ทั้งนี้ ข้อกำหนดที่มีความซับซ้อนสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา เช่น การขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องวัคซีน และข้อกำหนดในการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ที่ต้องตรวจหลายครั้ง อาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาลดลง

นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดินแหล่งพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ประจำภูเก็ตกล่าวว่า โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นโครงการที่ทำให้เกิดความหวังในกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตและเกาะอื่น ๆ ที่กำลังเฝ้าติดตามโครงการนี้อย่างใกล้ชิด โดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี รายงานว่ามีธุรกิจมากกว่า 300 แห่งเข้าร่วมโครงการ SHA Plus โดยที่ SHA คือการรับรองว่าธุรกิจมีมาตรการด้านสาธารณสุข และPlus หมายถึงพนักงานมากกว่า70% ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการขยายระยะเวลากักตัวจาก 7 วันเป็น14 วัน ผู้ประกอบการในท้องถิ่นจึงมองว่าโครงการ มีศักยภาพน้อยลง และกังวลว่าการที่ต้องพำนักอยู่นานขึ้นอาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาภูเก็ตลดลง รวมทั้งโรงแรมบางแห่งจะชะลอการกลับมาเปิดให้บริการจนกว่าจะถึงเดือนส.ค.

แม้ข่าวล่าสุดจะรายงานว่ามีผู้ยื่นขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศเกือบ8,000 ราย แต่น่าเสียดายว่าก่อนที่โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์จะเริ่มต้นขึ้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากได้ยกเลิกเที่ยวบินและการจองโรงแรมเนื่องจากการขอหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศและกระบวนการอื่นๆ มีความล่าช้า โดยก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่านักท่องเที่ยวมากกว่า 100,000 คนจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตในช่วง3 เดือนแรกของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความสมดุลระหว่างมาตรการด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามโครงการได้จริง ตลอดจนการจัดการขั้นตอนการต้อนรับอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากขณะนี้ไทยยังอยู่ใน "รายชื่อประเทศที่ต้องระมัดระวังในการเดินทาง" ของหลายๆประเทศทำให้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจากนี้ไปจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามคาดการร์หรือไม่
#2926



"เราต้องการผลักดันให้คนในชุมชน เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ป่า ผ่านการทำโครงการที่ทำให้มีรายได้ จากการสร้างอาชีพ การท่องเที่ยว  เพื่อเป็นตัวจุดประกายว่า ทำไมเราต้องอนุรักษ์ป่า ทำไปแล้วได้อะไร"

เสียงสะท้อนจากชาวบ้านต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร  "ชัชวาล ชาวสมุทร "อายุ 55 ปีหรือ น้าหนุ่ย  อาชีพต่อเรือประมงจำลองขาย และมีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ มาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น จนถึงปัจจุบันที่มีป่าชายเลน ทั้งต้นแสมขาว ต้นแสมทะเล เขียวเต็มแนวชายฝั่ง

น้าหนุ่ย  หนึ่งในคณะกรรมการอนุรักษ์ป่าชายเลน ในโครงการ "ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน" เป็นตัวแทนของชุมชนในพื้นที่ ที่ทำงานอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และภาครัฐ คือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ซึ่งในระยะที่หนึ่งของโครงการ (ปี 2557 -2561) อนุรักษ์ป่าไปแล้ว 500 ไร่ และปลูกใหม่ 104 ไร่ และในระยะที่สอง(2562-2566) บริษัท ชุมชน และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะร่วมกันอนุรักษ์ป่า 14,000 ไร่ และปลูกป่าเพิ่มเติมอีก 266 ไร่

ซีพีเอฟสานต่อความยั่งยืนของโครงการฯ สนับสนุนตั้งกองทุนอนุรักษ์ป่าชายเลนที่บริหารโดยคณะกรรมการของชุมชนเอง  พัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนต.บางหญ้าแพรก และส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และมีรายได้เติมกองทุนฯเพื่อดูแลป่า

น้าหนุ่ย บอกว่า เกลือสปาขัดผิว เกลือหอมอโรม่า มีทั้งกลิ่นดอกโมก กลิ่นมะลิ  สบู่เกลือบาธบอมบ์ ถ่านไบโอชาร์ดูดกลิ่น  เป็นสินค้าที่ชุมชนช่วยกันคิด ปรับปรุงคุณภาพและรูปแบบให้ดูน่าใช้  หรือแม้แต่เรือประมงจำลอง อาชีพที่ต้องใช้ประสบการณ์และฝีมือ เป็นส่วนเติมเต็ม อัตลักษณ์ของชุมชนบางหญ้าแพรก ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้อยู่แล้ว

ด้วยวิถีอาชีพดั้งเดิมของชาวบางหญ้าแพรก  คือ  ทำประมงพื้นบ้าน ทำนาเกลือ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ จึงมาจากแนวคิดใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น เกลือ มาผลิตเป็นสินค้าชนิดต่างๆ  เกลือสปาสมุนไพรผลิตจากดอกเกลือแท้ ผสมสมุนไพร 5 ชนิด คือ ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ไพล ว่านนางคำ ทานาคา ใช้ขัดผิว   ถ่านไบโอชาร์ สินค้าขึ้นชื่อของท้องถิ่น ทำจากเปลือกผลไม้ กิ่งไม้ ลูกไม้ต่างๆ ผ่านกระบวนการเผาด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างจากถ่านหุงข้าว ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ดี

แต่วันนี้ ... โควิด -19 ทำให้รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นศูนย์   ป้าปราณี หอมทอง อายุ 71 ปี มีอาชีพทำนาเกลือ แต่ตอนนี้เข้าฤดูฝน ป้าต้องหยุดทำนาเกลือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงตุลาคม

ป้าณี บอกว่า  ตอนที่ไม่มีโควิด-19  ซีพีเอฟช่วยจัดกรุ๊ปนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมฐานการเรียนรู้ต่างๆของชุมชนบางหญ้าแพรก ทั้งทำสปาเกลือ ต่อเรือประมง ทำถ่านไบโอชาร์ ชาวบ้านก็มีรายได้จากสาธิตวิธีการให้นักท่องเที่ยวชม  ป้าณีเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมกิจกรรมฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่มาเกือบทุกกิจกรรม จนต่อยอดมาสู่การเป็นเส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชนตำบลบางหญ้าแพรก ป้าณีก็มีส่วนร่วมดูแลฐานสาธิตสปาผิวด้วยเกลือสปา แต่ตอนนี้มีโควิด นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ได้เลย รายได้จากที่เคยได้หรือขายผลิตภัณฑ์เป็นศูููนย์ ตัวป้าเองเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วย  ยังพอมีรายได้จากการเป็นอสม. ส่งข้าวให้ผู้ที่ถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน อยากให้สถานการณ์กลับมาปกติเร็วๆ จะได้มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ได้เหมือนเดิม

ขณะที่ลุงวิรัตน์ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำถ่านไบโอชาร์  ลุงเคยมีรายได้เสริมจากการขายถ่านให้ชุมชนนำไปผลิตเป็นถุงสวยงามเพื่อบรรจุถ่านดูดกลิ่น ใช้แขวนในตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ตู้เย็น  วันนี้ลุงต้องหยุดเผาถ่านเช่นกัน เพราะไม่มีชาวบ้านมาซื้อถ่านไปทำผลิตภัณฑ์  ถึงจะไม่ได้กระทบรายได้ของลุง เพราะมีอาชีพเลี้ยงกุ้งเป็นหลัก แต่ลุงบอกว่าโควิด-19 ทำให้กิจกรรมต่างๆของชุมชนหยุดลง

ในสถานการณ์ที่โควิด-19 ทำให้กิจกรรมต่างๆต้องหยุดลง รวมทั้งชุมชนบางหญ้าแพรกแห่งนี้ที่ได้รับผลกระทบ แต่ทั้งลุงหนุ่ย ป้าณี ลุงวิรัตน์  และชาวชุมชน ยืนยันว่า พร้อมเดินหน้าดูแลป่าชายเลนในพื้นที่ต่อไปเพราะนี่คือทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าที่ต้องรักษาไว้เพื่อส่งต่อให้กับรุ่นลูกหลาน เช่นเดียวกับ กองทุนอนุรักษ์ป่าชายเลน เป็นความตั้งใจของชาวบ้านที่จะนำเงินกองทุนฯส่วนหนึ่งใช้ดูแลรักษาป่า และอีกส่วนหนึ่งจะต่อยอดสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนอีกหลายๆคน ช่วยอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชน เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างความเข้มแข็งให้ชาวชุมชนที่จะช่วยดูแลป่าชายเลนต่อไป ผู้สนใจสามารถติดต่อ ตัวแทนชาวชุมชนบางหญ้าแพรก คุณเมธา พุฒคง
095 -524 9245 
#2927



เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากๆ ตัวช่วยที่ใกล้มือที่สุด ณ ปัจจุบันนี้คงหนีไม่พ้นแอพพยากรณ์อากาศ เพราะ แอพ ประเภทนี้ซึ่งมีมากมาย ช่วยให้เรารู้ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า เพียงแค่ปลายนิ้วก็รู้ได้อย่างง่ายดาย

แต่สภาพแวดล้อมมหาสมุทรซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันล่ะ มีแอพ "พยากรณ์อากาศ" หรือเปล่า? ล่าสุดผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นได้สร้าง "แอพ" มือถืออย่าง Global Ocean on Desk (GOOD) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า "GOOD APP" เพื่อให้คนทั่วโลกเข้าถึงการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้ง่ายๆ

"GOOD APP" เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกดูข้อมูลพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้โดยตรงตามใจต้องการบนมือถือของตัวเอง โดย "แอพ" นี้พยากรณ์ภัยพิบัติทางทะเล อย่างคลื่นพายุซัดฝั่งและคลื่นสึนามิได้ ทั้งยังช่วยทีมชายฝั่งทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ป้องกันและลดภัยอันตรายทางทะเล บริหารจัดการการประมง และแม้แต่การท่องเที่ยว

"แอพ" นี้ใช้งานได้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย มาเล และอังกฤษ โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างไทย มาเลเซีย และจีน ด้วยการสนับสนุนจากกองทุน China-ASEAN Cooperation Fund แอพดังกล่าวแสดงผลการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรเชิงตัวเลขให้เป็นภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นความสูงของคลื่นพื้นผิว ระยะเวลาของคลื่น ระดับน้ำทะเล กระแสน้ำมหาสมุทรแบบสามมิติ อุณหภูมิและความเค็มของทะเล เป็นต้น ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกในช่วง 120 ชั่วโมงข้างหน้า (5 วัน) ผ่านสมาร์ทโฟน


แน่นอนว่า "GOOD APP" ไม่ได้ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นในคืนเดียว เพราะก่อนที่จะเปิดตัวแอพนี้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ระบบ Ocean Forecast System (OFS) ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแอพนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเวลากว่าหลายทศวรรษ และมีการนำไปทดลองใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561


โดยที่ OFS ใช้โมเดลเชิงตัวเลขที่คอยประสานการไหลเวียน คลื่น และกระแสน้ำพื้นผิว โมเดลใหม่นี้แตกต่างจากโมเดลมหาสมุทรอื่นๆ ที่พยากรณ์คลื่น กระแสน้ำ และการเคลื่อนไหวแยกกันโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระหว่างกันของปัจจัยเหล่านี้ เพราะโมเดลใหม่ดังกล่าวนำปัจจัยทั้ง 3 นี้มาพิจารณาพร้อมกัน และยกระดับความแม่นยำและประสิทธิภาพของการพยากรณ์มหาสมุทรได้อย่างมาก

ตัวอย่างเช่น ข้อผิดพลาดจากการพยากรณ์ความลึกของชั้นผสม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปกป้องระบบนิเวศทางทะเล การก่อตัวของไต้ฝุ่น และการพยากรณ์สภาพอากาศ นับว่าเป็นจุดติดขัดมาถึงครึ่งศตวรรษ แต่บัดนี้ปัญหาดังกล่าวหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์


ศาสตราจารย์ Qiao Fangli หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบัน First Institute of Oceanography (FIO) ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน กล่าวว่า "โมเดลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบแล้วจากการสังเกตและการทดลองในห้องปฏิบัติการ โดยช่วยยกระดับความแม่นยำของการพยากรณ์มหาสมุทรได้ถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์"

ย้อนกลับไปยังปี 2551 เมื่อ Qiao Fangli ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับความสำเร็จของแบบจำลองมหาสมุทรของเขาในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติของ IOC/WESTPAC ครั้งที่ 8 เขาได้พบกับ ศาสตราจารย์ สมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ จากศูนย์ชีววิทยาทางทะเล จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย เป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของระบบสังเกตการณ์ในทะเลและมหาสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGOOS) และ ศาสตราจารย์ Fredolin Tangang จากมหาวิทยาลัย Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) ของมาเลเซีย หลังจากการอภิปรายกันอย่างดุเดือด แนวคิดความร่วมมือระหว่างทีมนักวิจัยจากจีน ไทย และมาเลเซีย ในการพัฒนาระบบพยากรณ์มหาสมุทรแบบใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น โครงการนี้ได้รับการอนุมัติโดย IOC/WESTPAC ในปี 2553 และในอีก 2 ปีถัดมา OFS แบบปฏิบัติการ ก็เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2555


ศาสตราจารย์ Qiao กล่าวว่า "ประเทศไทย มาเลเซีย จีน และประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถได้รับประโยชน์จากโครงการ OFS และความร่วมมือของเราก็เข้ามาเสริมสร้างมิตรภาพและความร่วมมือในระหว่างประเทศต่างๆ ได้อย่างมาก"

OFS มีบทบาทสำคัญในการค้นหากู้ภัยในเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งเรือท่องเที่ยว 2 ลำ พร้อมนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 130 ราย โดยส่วนมากเป็นชาวจีน จมลงนอกเกาะภูเก็ตทางภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องมาจากพายุที่รุนแรงในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

นอกจากภารกิจค้นหาและกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว ทีมวิจัยระหว่างประเทศของจีนและไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางวิทยาศาสตร์อย่างแข็งขัน พวกเขาใช้ OFS คาดการณ์กระแสน้ำในมหาสมุทรและคลื่น ตลอดจนลดพื้นที่การค้นหาลงเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการคาดการณ์กระแสน้ำบริเวณรอบเรือที่จมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ทีมกู้ภัยของไทยปฏิบัติภารกิจกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

OFS จึงนับเป็นระบบ "พยากรณ์" สภาพแวดล้อมในมหาสมุทรระดับชาติของทั้งประเทศไทยและมาเลเซียในขณะนี้ นอกจากความช่วยเหลือทางทะเลแล้ว ยังมีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ด้าน เช่น การปกป้องแนวปะการัง ความปลอดภัยของการขนส่งทางทะเล การติดตามแหล่งที่มาและการพยากรณ์ขยะที่ลอยอยู่ในทะเล รวมถึงการรั่วไหลของน้ำมัน เป็นต้น สำหรับชาวประมง OFS และ "GOOD APP" ที่พัฒนาขึ้นมาจาก OFS คาดการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงเพื่อที่จะรับรองความปลอดภัยและการผลิต
#2928



เบปเป มารอตตา ประธานฝ่ายบริหารของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ยืนยัน โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ไม่ได้มีไว้ขาย และจะอยู่ล่าตาข่ายในถิ่น จูเซปเป เมอัซซา ต่อไปอย่างแน่นอนในฤดูกาลใหม่

ลูกากู ระเบิดฟอร์มยิงไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในเซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา และมีส่วนสำคัญในการพา "งูใหญ่" คว้า "สคูเดตโต" ไปครองได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 จนทำให้หลายสโมสรให้ความสนใจ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ เชลซี ที่กำลังมองหากองหน้าตัวใหม่ไปเสริมคม

อย่างไรก็ตาม มารอตตา ยืนยันว่า ลูกากู คือนักเตะคนสำคัญของ อินเตอร์ และไม่ได้มีไว้ขายแต่อย่างใด โดยระบุว่า "จากมุมมองของฝั่งเรา เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ลูกากู ไม่ได้มีไว้ขาย ลูกากู เป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับ ซิโมเน อินซากี (กุนซือคนใหม่ของอินเตอร์)".

ภาพ REUTERS... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/95841/
#2929
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม

พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขายก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์คาถากำกับโอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปากตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5  
#2930



ลิเวอร์พูล เผยว่า เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังคนสำคัญว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

แนวรับชาวดัตช์ ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขาต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาล แม้กลับมาซ้อมได้พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องสามเกมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามล่าสุด ลิเวอร์พูล ยืนยันผ่านเว็บไซต์สโมสร ระบุว่า ฟาน ไดจ์ค มีสภาพร่างกายที่ดีพอจะกลับคืนสนามในเกมอุ่นเครื่องพบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ โจ โกเมซ กองหลังอีกคนที่พักยาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็ใกล้ที่จะกลับคืนสนามได้แล้วเช่นกัน

ลิเวอร์พูล ลงอุ่นเครื่องมาแล้ว 3 นัด เสมอ วัคเกอร์ อินน์สบรู๊ค และสตุ๊ตการ์ท 1-1 ซึ่งเป็นรูปแบบมินิเกม 30 นาที เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม ต่อด้วยเกมปกติ 90 นาที เอาชนะ ไมนซ์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะเล่นเกมต่อไปเจอกับ แฮร์ธ่า ที่ติโวลี่ สตาดิโอน ติโรล วันที่ 29 กรกฏาคมนี้
#2931



วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2564 บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี ผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ สนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์พร้อมอุปกรณ์ปรับลดแรงดันผ่านกลุ่มเส้นด้าย เพื่อนำไปสำรองและใช้งานสำหรับรักษาผู้ป่วย Covid-19 ขั้นวิกฤตที่กำลังรอเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยบีไอจีเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อผู้ป่วย Covid-19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นและมีความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนและการเข้าถึงออกซิเจนสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วย Covid-19          

"สถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ในขณะนี้มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Covid-19 ตกค้างตามบ้านเรือนและชุมชนซึ่งรอเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนักหลายรายมีความจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน บีไอจีเองได้พยายามอย่างยิ่งในการจัดสรรและส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์ให้แก่มูลนิธิและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ มูลนิธิกระจกเงา โครงการคลองเตยดีจัง จุดกักตัวชั่วคราว ณ วัดสะพานภายในชุมชนคลองเตย ซึ่งในครั้งนี้ได้เร่งให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์ พร้อมอุปกรณ์ปรับแรงดันแก่กลุ่มเส้นด้ายเพื่อนำไปกระจายต่อสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน" นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด กล่าว
          
บีไอจีตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ Covid-19 โดยที่ผ่านมาบีไอจีให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์กับหน่วยงานสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้แทนจำหน่ายของบีไอจีรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑลในการเติมออกซิเจนทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับมูลนิธิหรืออาสาสมัครกู้ภัยต่าง ๆ ด้วยถังออกซิเจนที่ได้ตามมาตรฐาน มอก. ออกซิเจนทางการแพทย์ และอายุถังไม่เกิน 5 ปี หรือหากเป็นถังบรรจุที่เกิน 5 ปี ต้องผ่านการทดสอบภาชนะบรรจุ ตามมาตรฐานการทดสอบภาชนะบรรจุก๊าซ (มอก–358-2551) และไม่เกิน 5 ปี
#2932



วันนี้ (26ก.ค.) พันโทหญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา กองทัพบกระดมสรรพกำลัง ทั้งกำลังพล สิ่งอุปกรณ์ ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์สนับสนุนรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพบก ทำหน้าที่ ดูแลรักษากำลังพล ครอบครัวและประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อลดภาระงานของกระทรวสาธารณสุข ถือเป็นการระดมกำลังพลเหล่าแพทย์ครั้งใหญ่ของกองทัพบก ทั้งส่วนกลาง จากกรมแพทย์ทหารบกโดย รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นกำลังหลักในการทำหน้าที่และเพิ่มเติมด้วยกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงของกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงแต่เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งเรียกว่ากำลังพลสายแพทย์ แถว 2 ได้แก่ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า, โรงเรียนเสนารักษ์ กรมแพทย์ทหารบก, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, สถาบันพยาธิวิทยา และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แพทย์ทหาร  

ทั้งนี้เป็นการนำความรู้และทักษะในวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ และเภสัชกร มาทำหน้าที่เสริมให้กับส่วนอื่นๆที่มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์มาทำหน้าที่ อาทิสนับสนุนศูนย์ห่วงใยคนสาคร รพ.สนามวัฒนาแฟคตอรี่, รพ.สนามบางขุนเทียน กทม., รพ.สนามกองทัพบก เกียกกาย และ รพ.สนามกองทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก ปัจจุบัน ในส่วนของรพ.สนามกองทัพบกทั้ง 2 แห่ง รับดูแลผู้ติดเชื้อ จำนวน 224 ราย (25 ก.ค.64) ล่าสุด ได้จัดชุดตรวจเชิงรุกเคลื่อนที่ดำเนินการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Rapid test ให้กับกำลังพลและครอบครัวอย่างเร่งด่วน ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการตรวจไปแล้ว จำนวน 23,567 ราย (25 ก.ค.64)  

นอกจากนี้ สนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจ"วาระแห่งชาติ ฉีดวัคซีนโควิค"  ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาลเพื่อเร่งฉีดวัคซีนโควิดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชนโดยเร็ว กองทัพบกจึงได้จัดกำลังพลที่มีขีดความสามารถ แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ในหน่วยแพทย์ (กำลังพลแถว 3) ที่สมัครใจและมีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชน จำนวน 85 นาย มาทำหน้าที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน ณ รพ.พระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 เป็นต้นมา และปัจจุบันได้เข้าร่วมการฉีดวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด ณ สถานีกลางบางซื่ออีกด้วย  

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญและเห็นถึงความทุ่มเท เสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถมาโดยตลอด พร้อมกำชับให้หน่วยทหารทุกแห่งสนับสนุนงานของรัฐบาลในทุกเรื่อง ทั้งนี้กองทัพบกขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางแพทย์ทั่วประเทศ ที่เสียสละทำงานอย่างหนักตลอด 24 ชม.และพร้อมสนับสนุนเคียงข้าง เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนและประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปได้อย่างปลอดภัย
#2933


ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 332.8 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง หากดูค่าเฉลี่ยอัตราขยายตัวย้อนหลังไป 5 ปี ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2563 พบว่าดัชนีราคาที่ดินเปล่าในแต่ละไตรมาสเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 17.7ต่อไตรมาสเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าจากการจัดทำรายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาและติดตามความเคลื่อนไหวของราคามาอย่างต่อเนื่องศูนย์ข้อมูลฯมีข้อสังเกตว่าแม้ว่าราคาที่ดินยังเพิ่มขึ้นแต่เป็นอัตราการขยายตัวของดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีของอัตราการขยายตัวของดัชนีราคาที่ดิน ซึ่งต่อเนื่องกันรวม 3 ไตรมาสแล้วนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 2 ปี 2564 โดยเห็นได้ว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลยังคงเพิ่มขึ้นแบบชะลอตัวลงแสดงให้เห็นถึงเจ้าของที่ดินส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบน้อยจากการระบาดของไวรัส COVID-19 อาจมีการถือครองที่ดินต่อไปเพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นและอาจมีเจ้าของที่ดินอีกส่วนหนึ่งที่ได้ขายที่ดินในช่วงนี้ประกอบกับความต้องการซื้อที่ดินอาจน้อยลงด้วยจึงทำให้ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปหากเจ้าของที่ดินมีความต้องการระบายที่ดินมากขึ้นก็อาจส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ที่จะยังคงชะลอตัวลงต่อเนื่องในระยะเวลาต่อไป

 

ทั้งนี้ จากรายงานพบว่าในไตรมาส 2 ปี 2564ราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในทำเลที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน 5 อันดับแรกที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ อันดับ 1 ได้แก่ สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4)

 

ซึ่งเป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคตโดยเป็นที่ดินโซนตะวันตกของกรุงเทพมหานครมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.4เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่าราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตหนองแขม และบางแคเป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก โดยที่ดินในบริเวณนี้มีราคาเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมา 3 ไตรมาสแล้ว

 

ทั้งนี้ราคาที่ดินที่เปลี่ยนเปลงในพื้นที่ดังกล่าวเป็นผลต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินในบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค)ที่เปิดให้บริการแล้ว

 

อันดับ 2 ได้แก่ สายสีทอง (ธนบุรี-ประชาธิปก) และ สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วส่วน รวมถึง สายสีส้ม(ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) เป็นโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และ สายสีส้ม(ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) เป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต โดยทั้ง 4 โครงการมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตบางกอกใหญ่ คลองสาน พระนคร ห้วยขวางและบางกะปิ เป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีทอง (ธนบุรี-ประชาธิปก)ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อปลายปี 2563 มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 2 ติดต่อกันมา 2 ไตรมาสแล้ว

 

อันดับ 3 ได้แก่ MRT ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้วมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.1เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตบางซื่อ และจตุจักรเป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมากมาอย่างต่อเนื่อง

 

อันดับ 4 ได้แก่ สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง)ซึ่งเป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายเป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมากมาอย่างต่อเนื่องและ อันดับ 5 ได้แก่ BTS สายสุขุมวิท ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้วมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.0เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตคลองเตย บางนา และพระโขนงเป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมากมาอย่างต่อเนื่อง
#2934


บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส ล็อตแรกจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายส่งร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป
 
 
นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน ชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) จาก อย. ไทยแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศในร้านขายยาและสถานพยาบาล ได้ราวต้นเดือนสิงหาคม นอกจากนี้  ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดแบบแรพิด  แอนติเจน เทสต์ (Professional Use) ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียน อย. ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้วเช่นกัน และอนุญาตให้ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพ และบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น 
 

"ขณะนี้ เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรก ที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้วมีจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุดตรวจ โดยในหนึ่งกล่องจะประกอบไปด้วยเทสต์ตรวจ 5 ชุด สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ คาดว่าน่าจะมีวางจำหน่ายในร้านขายยา และสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตเร็วที่สุดคือต้นสัปดาห์หน้า หรือช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้แน่นอน และจะมีการนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด 19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน"
#2936


เปิดโปรแกรมแข่งขันโอลิมปิก "โตเกียว2020" ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564
โปรแกรม "นักกีฬาไทย" ในโอลิมปิก "โตเกียว2020" ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. 2564

เทเบิลเทนนิส 07.00 น.

สุธิสินี เสวตบุตร
แบดมินตัน รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มเวลา 07.00 น. 

หญิงคู่ : จงกลพรรณ กิติธรากุล และ รวินดา ประจงใจ พบ คิม โซยอง และ คอง ฮียอง (เกาหลีใต้) ลงแข่งขันเวลา 08.40 น. โดยประมาณ

 
คู่ผสม : เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พบ ทอม กีเซล และ เมลฟิน เดอรูร์ (ฝรั่งเศส) ลงแข่งขันเวลา 10.40 น. โดยประมาณ

 
หญิงเดี่ยว : รัชนก อินทนนท์ พบ ลอร่า ซาโรซี่ (ฮังการี) ลงแข่งขันเวลา 17.20 น. โดยประมาณ

 
ชายเดี่ยว : กันตภณ หวังเจริญ พบ ไค แชเฟอร์ (เยอรมนี) ลงแข่งขันเวลา 18.00 น. โดยประมาณ
 

มวยสากล รอบแรก เริ่มเวลา 09.00 น.

รุ่นฟลายเวต 51 กก. หญิง จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบ รูเมซ่า บูอาลัม  (แอลจีเรีย)
 

จักรยาน ชิง 1 เหรียญทอง เริ่มเวลา 09.00 น.

ประเภทถนน บุคคลหญิง จุฑาทิพย์ มณีพันธ์
 

ยูโด ชิง 2 เหรียญทอง เริ่มเวลา 09.00 น. 

รุ่น 52 กก. หญิง กชกร วรสีหะ พบ ซูมิย่า (โมร็อกโก)
 

ยิงปืน ชิง 2 เหรียญทอง เริ่มเวลา 07.00 น.

ยิงเป้าบิน สกีตหญิง รอบคัดเลือก สุธิยา จิวเฉลิมมิตร, อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข 
#2937
 5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ


ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกันสนใจติดต่อ โค้ชเอก

โทร 0846623662

line id คลิก : teerapat999
facebook คลิก https://www.facebook.com/teerapat992018
website http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1228
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#2939


นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้ทำการสำรวจและทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวนกว่า 400 ราย พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านมากถึง 72% ส่วนที่เหลือ 28% ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้าน ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าเป็นกลุ่มบ้านราคาแพงซึ่งตลาดยังพอไปได้ต่างจากบ้านขนาดเล็กหรือตลาดทั่วไป ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาก ด้วยเหตุนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านที่เดิมเน้นตลาดทั่วไป ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้ขยับมาจับตลาดบ้านราคาแพงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป


เมื่อถามว่าต้องการจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่ใช้เวลาในการปลูกสร้างกี่ปีนั้น พบว่าพร้อมปลูกสร้างไม่เกิน 6 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 24% และใช้เวลามากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปีคิดเป็นสัดส่วน 65% และ ใช้เวลา 2-3 ปี คิดเป็นสัดส่วน 11% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ต้องการสร้างบ้านส่วนใหญ่ จะไปสร้างบ้านในปี 2565- 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 น่าจะคลี่คลาย ส่วนทำเลที่เลือกปลูกสร้างบ้านนั้น 3 ทำเลที่ต้องการปลูกสร้างมากสุดคือ อันดับหนึ่งยังเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วน 37% อันดับสองและอันดับสามคือ ภาคกลาง และภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 18% จากสัดส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าความต้องการของลูกค้ากลุ่มรับสร้างบ้านกว่า 55% ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง

พร้อมกันนี้จากแบบสอบถามที่ได้จากกลุ่มผู้บริโภคที่ยังตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ถึง 84.2% นั้นสะท้อนภาพได้ว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่น ดังนั้นทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021" จากเดิมจะจัดในเดือนสิงหาคม ไปเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564

แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกสมาคมฯ จึงได้จัดงาน งานรับสร้างบ้าน Online 2021 ในรูปแบบ Virtual Online Exhibition เน้นสร้าง Data Base ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้นโดยจะกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 27 ส.ค. - 6 ก.ย.2564 นี้ ขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดหวังว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นนี้จะกระตุ้นการตลาดและการขายก่อนการจัดงานในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการเข้าชม ป้องกันการระบาดของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิด-19 อีกทั้งยังสร้างมิติใหม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านต่างจังหวัด จะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมฯ ได้มากขึ้นเช่นกัน
#2940
Metang Application คือแพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce
สามารถสร้างรายได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

Metang แพลตฟอร์มของคนมีตังค์ สร้างรายได้ หลักแสน หลักล้าน
เร็วกว่าที่คุณคิด ไม่ต้องสปอนเซอร์ให้เจ็บคอ

แพลตฟอร์มจะขับเคลื่อน ด้วยแพลตฟอร์มในตัวของระบบเอง
เพียงแค่แชร์ลิ้งค์ออกไป

Metang มีตังค์ คืออะไร?
Metang คือ แพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce ที่ผสมผสานระหว่าง Affiliate Marketing และ ธุรกิจ eCommerce อย่างลงตัว
เจ้าแรกของประเทศไทย ที่ตอบโจทย์ การสร้างรายได้ออนไลน์
ในยุค Covid-19 เหมาะกับปัจจุบัน

Affiliate eCommerce คืออะไร?
Affiliate eCommerce คือการที่เจ้าของธุรกิจทำการตลาดออนไลน์ โดยจะขายสินค้าหรือบริการผ่านตัวแทนโฆษณา หรือจะเรียกว่าตัวแทนการขาย หรือนักแอฟฟิลิเอทก็ได้ โดยตัวแทนเหล่านี้จะนำลิ้งค์สินค้าหรือลิ้งค์ร่วมธุรกิจ ไปโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆเช่น เว็บไซต์, blog, ไลน์, เฟสบุ๊ค, IG, tiktok หรือแฟนเพจของตัวเอง และหากมีลูกค้าสนใจ
คลิกลงทะเบียนและเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิ้งค์ของตัวแทน
หรือนักแอฟฟิลิเอท ตัวแทนหรือนักแอฟฟิลิเอทเหล่านั้น
ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในแพลตฟอร์ม
ช่องทางการหารายได้นี้ ในแพล็ตฟอร์ม Metang Platform เราเรียกว่า
นัก Affiliate eComerc โดยที่ไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง
ไม่ต้องทำการจัดส่งเองไม่ต้องสต็อกสินค้า
เพียงแค่โปรโมทหรือโฆษณาให้ลูกค้ามาสนใจซื้อสินค้าหรือบริการ
ผ่านลิ้งค์ Affiliate ของเราเท่านั้นเอง

แพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce สามารถสร้างรายได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat