ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 0.56 จุด แกว่งไร้ทิศทางรอปัจจัยใหม่-Bond yiled สูงกังวลขึ้นดอกเบี้ย
SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,657.06 จุด ลดลง 0.56 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 79,544.57 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งขึ้น-ลงไร้ทิศทาง ช่วงบ่ายลงตามตลาดหุ้นยุโรป และ Bond Yield ขึ้นมาแตะ 1.80% ทำให้กังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ขณะเดียวกันรอปัจจัยใหม่ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและถ้อยแถลงประธานเฟดที่ได้นั่งเก้าอี้สมัย 2 แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์เช่นกัน ให้แนวรับ 1,650 จุด แนวต้าน 1,665 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,,657.06 จุด ลดลง 0.56 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 79,544.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบสลับแดนบวก โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,664.23 จุด และระดับต่ำสุด 1,654.05 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 605 หลักทรัพย์ ลดลง 1,062 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 517 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นภาคบ่ายเพิ่มขึ้นไปแต่ก็ถอยกลับหลังจากตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) สูงขึ้นแตะ 1.8% จึงกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีแรงขายออกมา ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบ้านเราวันนี้ก็ทรงตัวไม่ได้เร่งขึ้น
ตลาดหุ้นวันนี้ถือว่าปรับขึ้น-ลงสลับกันอย่างไร้ทิศทาง มองว่านักลงทุนคงรอดูปัจจัยใหม่ ได้แก่ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐกลางสัปดาห์ และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภา หลังจากมีการเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2
แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ นายณัฐพล คาดว่าตลาดน่าจะแกว่งไซด์เวย์ต่อเนื่องเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
พร้อมให้แนวรับที่ 1,650 จุด แนวต้านที่ 1,665 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,552.56 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,755.14 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,500.57 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,497.09 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
TIPH มูลค่าการซื้อขาย 1,488.36 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 19.75 บาท
SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,657.06 จุด ลดลง 0.56 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 79,544.57 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งขึ้น-ลงไร้ทิศทาง ช่วงบ่ายลงตามตลาดหุ้นยุโรป และ Bond Yield ขึ้นมาแตะ 1.80% ทำให้กังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ขณะเดียวกันรอปัจจัยใหม่ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและถ้อยแถลงประธานเฟดที่ได้นั่งเก้าอี้สมัย 2 แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์เช่นกัน ให้แนวรับ 1,650 จุด แนวต้าน 1,665 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,,657.06 จุด ลดลง 0.56 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 79,544.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบสลับแดนบวก โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,664.23 จุด และระดับต่ำสุด 1,654.05 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 605 หลักทรัพย์ ลดลง 1,062 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 517 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นภาคบ่ายเพิ่มขึ้นไปแต่ก็ถอยกลับหลังจากตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) สูงขึ้นแตะ 1.8% จึงกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีแรงขายออกมา ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบ้านเราวันนี้ก็ทรงตัวไม่ได้เร่งขึ้น
ตลาดหุ้นวันนี้ถือว่าปรับขึ้น-ลงสลับกันอย่างไร้ทิศทาง มองว่านักลงทุนคงรอดูปัจจัยใหม่ ได้แก่ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐกลางสัปดาห์ และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภา หลังจากมีการเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2
แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ นายณัฐพล คาดว่าตลาดน่าจะแกว่งไซด์เวย์ต่อเนื่องเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
พร้อมให้แนวรับที่ 1,650 จุด แนวต้านที่ 1,665 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,552.56 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,755.14 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,500.57 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,497.09 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
TIPH มูลค่าการซื้อขาย 1,488.36 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 19.75 บาท
