ts911 เข้าสู่ระบบ

[Marinas]

ts911 เข้าสู่ระบบ

TS911 เข้าสู่ระบบ ภายหลังที่แวดวงบอลไทยกลับมามีกระแสอีกรอบเมื่อ "ช้างศึก" TS911 กลุ่มบอลกลุ่มชาติไทย สามารถได้แชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มาครอบครองได้เป็นอย่างมากใหญ่ต้อนรับปี 2565 ก่อนหน้าที่ผ่านมา ปัจจุบันก็จำต้องพูดว่ากระแสบอลยังคงนำโดยตลอด เนื่องจากปัจจุบันนักฟุตบอลที่นับว่าเป็นความมุ่งมาดของแฟนบอลไทยทั่วราชอาณาจักรอย่าง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรโลภระสินธ์ กำลังจะยกฐานะตนเองอีกรอบใน เจลีก ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการย้ายจาก "นกเค้าแมวภาคเหนือ" คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปอยู่กับยอดเยี่ยมกลุ่มที่ พ.ศ.นี้ อย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ กลุ่มที่ครองแชมป์เจลีกถึง 4 ยุคจาก 5 ฤดูหลังสุด
"ชนาธิป" นั้นนับว่าเป็นต้นแบบของนักฟุตบอลไทยซึ่งสามารถก้าวผ่านผ่านลีกในประเทศ ไปสู่ลีกที่สูงกว่าในระดับทวีปเอเชียอย่างเจลีกได้อย่างเต็มสง่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ชนาธิปนั้นบรรลุ กติกาสำหรับการย้ายจาก "กิเลนทะนง" เมืองทองคำ ยูไนเต็ด ไปร่วมกลุ่ม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยคำสัญญายืมตัวช่วงเวลา 1 ปีครึ่ง ย้ายไปในตอนเริ่มเลกสองของลีกดินแดนซามูไร
แน่ๆว่านักเตะไทยทุกคนเมื่อไปเล่นยังต่างถิ่นจำต้องพบกับกำแพงมากไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งยังเรื่องของภาษา, การปรับตัว, การไกลห่างถิ่นกำเนิดซึ่งทีแรกๆเองชนาธิปนั้น ก็พบกับปัญหาไม่น้อยในครึ่งฤดูแรกของเขากับเจลีก แม้ว่าจะได้ลงในสนามอย่างสม่ำเสมอ แต่ว่าก็มีเพียงแค่ 1 แอสซิสต์เพียงแค่นั้น รวมทั้งยังไม่สามารถที่จะทำคะแนนได้
แต่ว่าการเข้ามาของ ไม่ซ่า ไม่ไฮโล เปโตรพิช ผู้จัดการทีมชาวเซอร์เบีย ในตอนปี 2018 นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชนาธิปเลยก็ว่าได้ เมื่อถูกปรับตำแหน่งมาให้เป็นผู้เล่นคนสำคัญมากยิ่งขึ้น ได้ลงสู่สนามถึง 31 นัดหมายในทุกรายการ แล้วก็ทำไปได้ถึง 9 ประตู 3 แอสซิสต์ นอกเหนือจากนั้น ชนาธิปยังได้รับการโหวตจากแฟนบอลซัปโปโร เป็นนักฟุตบอลมีคุณค่าของสมาคมประจำฤดูนั้น
แถมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้มีชื่อติดกลุ่มเยี่ยมยอดประจำฤดูของ เจลีก 2018 อีกด้วย โน่นเป็นจุดที่ทำให้ชนาระอุงเริ่มเป็นที่สรรเสริญของแฟนคอนซาโดเล่มากเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะกลุ่มจะตกลงใจซื้อตัวจากเมืองทองคำฯ มาร่วมทีมด้วยราคาค่าตอบแทนราว85 ล้านบาทร่วมกัน พร้อมเซ็นสัญญายาวถึงปี 2025 อย่างยิ่งจริงๆ
ซึ่งจากผลงานอันดีที่สุดของชนาธิปก็เป็นจุดที่ทำให้ตลาดนักฟุตบอลของเจลีก ประเทศญี่ปุ่น เริ่มหันมาพอใจนักฟุตบอลไทยเยอะขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนเป็นผู้กระทำรุยทางให้กับนักฟุตบอลไทย ทั้งยัง "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน, "มุ้ย" ธีรศิลป แดงดา รวมทั้ง "นิว" การเป็นไปพันธ์ พ่วงจันทร์ สบโอกาสไปค้าลำแข้งที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยเหมือนกัน
อย่างไรก็ดี ตอนที่รุ่นพี่ในกลุ่มชาติอย่าง "ธีราทร" ซึ่งสามารถแจ้งกำเนิดกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จนถึงสามารถเป็นอย่างยิ่งสำคัญของกลุ่มสำหรับในการคว้าชัยชนะเจลีกได้เมื่อฤดู 2019 เรียกว่าแซงหน้ารุ่นน้อง ทำประวัติศาสตร์เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ทว่าช่วงชีวิตของชนาธิป จำเป็นต้องพูดว่าไปสู่ตอนพระวันศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พบกับการบาดเจ็บโจมตีอยู่เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งครึ่งฤดูข้างหลังของปี 2020 ที่แทบจะมิได้ลงเล่นเลย สม่ำเสมอมาจนกระทั่งปี 2021 ที่ยังได้ลงเล่นบ้าง สลับกับมีลักษณะอาการเจ็บบ้างมาตลอด จนถึงชนาธิปได้มีการแปลงผู้ฝึกสอนฟิตเนสประจำตัวคนใหม่เป็นชาวบราซิล ที่เจ้าตัวถึงกับสารภาพว่าราวกับได้ยกเครื่องร่างกายใหม่ทั้งหมดทั้งปวง สามารถกลับมาลงเล่นได้โดยตลอดช่วงท้ายฤดู และก็กดไป 3 แอสซิสต์จาก 7 เกมที่ลงเล่นร่วมกัน
แล้วหลังจากนั้นก็กริ้วเบิดฟอร์มในศึกชิงชนะเลิศอาเซียน ในฐานะ "กัปตันกลุ่มช้างศึก" ทำไปถึง 4 ประตูคว้าดาวซัลโวร่วมกับ "มุ้ย" ธีรศิลป รวมทั้งเอารางวัลนักฟุตบอลมีคุณค่าของทัวร์นาเมนต์เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งไม่เคยมีนักเตะในอาเซียนผู้ใดกันสามารถทำเป็นขนาดนี้อีกด้วย
ในตอนก่อนหน้านี้เริ่มจากสมัยก่อนนักฟุตบอล-ผู้ฝึกสอน รวมทั้งแฟนบอลเริ่มต้องการมองเห็นชนาธิปนั้นยกฐานะตนเองอีกขั้น ด้วยเหตุว่าการอยู่กับซัปโปโรนั้น ชนาธิปอาจจะได้เพียงแค่มีฟอร์มดี พาทีมอยู่ตอนกึ่งกลางตาราง หรือรอดตกชั้นได้ แม้กระนั้นการสอบถามหาการบรรลุผลนั้นเกิดเรื่องยาก ทุกคนต้องการมองเห็นชนาธิปย้ายไปอยู่กับกลุ่มในยุโรปบ้าง หรือย้ายไปอยู่ในกลุ่มที่ได้โอกาสลุ้นแชมป์เจลีกบ้างซึ่งจริงๆประเด็นนี้ "บิดาจุ้ง" ก้องโลก สรตระหนี่ระสินธ์ เองก็เคยพูดว่าตัวลูกชายเองต้องการย้ายกลุ่มอยู่เนืองๆตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ว่าด้วยเรื่องสภาพร่างกายและก็การบาดเจ็บทำให้ยังไม่มีข้อเสนอแนะเข้ามา กระทั่งท้ายที่สุดความรู้ความเข้าใจของชนาธิปนั้นก็ไปเข้าตากลุ่มอย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ กลุ่มระดับแชมป์เจลีกสุดท้าย แล้วก็ได้มีการสนทนากับซัปโปโรเพื่อดึงนักฟุตบอลไทยรายนี้ไปร่วมกลุ่มคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เป็นกลุ่มที่มีสมญานามว่า "อัซซูร่า เนโร่" ซึ่งมาจากภาษาอิตาเลียน อัซซูร่า ที่หมายความว่าสีฟ้า แล้วก็เนโร่ ที่หมายความว่าสีดำ มันก็คือ สีประจำชมรมนั่นเอง ฟรอนตาเล่จำเป็นต้องนับได้ว่าเป็นยอดกลุ่มที่ยุคนี้ของดินแดนปลาดิบก็ว่าได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่มีลุ้นแชมป์มาอย่างสม่ำเสมอ เป็นกลุ่มที่ตั้งมั่นหนทางบอลเกมรุกแบบสุดขั้ว ครอบครองบอลเหนือกว่าคู่ต่อสู้และก็เพียรพยายามหาทางทำแต้มเรื่อยซึ่งในช่วงฤดูกาล 2017 ที่พวกเขาปลดล็อกคว้าชัยชนะลีกคราวแรกของชมรม ก็เป็นแชมป์ด้วยการที่มีแต้มพอๆกับ ค้างชิม่า แอนท์เลอร์ส ที่ 72 คะแนน แม้กระนั้นมีประตูได้เสียที่ดีมากยิ่งกว่าก็เลยได้แชมป์ไปครอบครอง แล้วก็ครองแชมป์ตลอด พลาดเพียงแค่ปีเดียวเป็น 2019 ที่จบชั้น 4 แค่นั้นแต่ ด้วยความเป็นกลุ่มชั้นแนวหน้า ทำให้นักฟุตบอลในกลุ่มนั้นก็ถูกกลุ่มในยุโรปดึงตัวไปโดยตลอด ซึ่งในปีนี้ฟรอนตาเล่จะต้องเสียอีกทั้ง ค้างโอรุ ไม่โตมะ ปีกตัวเก่งไปให้ ไบรท์ตัน ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมทั้ง เรโอ ฮาตาเตะ ไปอยู่กับ กลาสโกว์ เซลติเตียนก รวมทั้ง อาโอ ทานากะ ไปอยู่กับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ฉะนั้น ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องมองหาผู้แทนเข้ามาก่อนที่จะจิ้มมาที่ ชนาธิป เนื่องจากเป็น นักฟุตบอลที่คาดว่าจะเข้ามาแทน เรโอ ฮาตาเตะ ในแผงกึ่งกลางของฟรอนตาเล่ที่เล่นระบบ 4-3-3 ซึ่งคือระบบที่ชนาธิปเองก็ถนัด เพราะว่าในกลุ่มชาติไทยก็เล่นระบบเดียวกัน รวมทั้งจะขยับไปเล่นหน้าซ้ายแทนที่ไม่โตมะก็ได้เช่นเดียวกันการย้ายมาฟรอนตาเล่ของชนาธิป จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งสำหรับในการยกฐานะตนเองไปสู่กลุ่มที่ใหญ่มากยิ่งกว่าเดิม จุดหมายสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเดิม และก็มีแรงกดดันมากยิ่งกว่าเดิม แต่ว่าลักษณะเด่นก็คือจะได้ความเจริญเล่นของตน อีกทั้งการเล่นในบอลถ้วยทวีปเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งการจะได้ร่วมกลุ่มกับนักฟุตบอลฝีเท้าชั้นแนวหน้าของลีกอีกทั้ง เลอันโดร ดามิเยา แนวรุกเชื้อชาติบราซิล แล้วก็กลุ่มชาติประเทศญี่ปุ่นอย่าง โชโก ทานิเราจิ, ไม่กิ ยามาเนะ รวมทั้ง ยาสุโตะ วากิซากะ ฯลฯซึ่งหากทดลองดูภาพว่าการส่งบอลของชนาธิป แม้กระนั้นมีตัวจบสกอร์ที่ดีมากยิ่งกว่าตอนอยู่กับซัปโปโร จะมีผลให้ชนาธิปได้ปรับปรุงตนเองมากมายแค่ไหน แต่ว่าการย้ายกลุ่มใหม่ แน่ๆว่ามันก็จะต้องมีเรื่องเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรม การฉกฉวยตำแหน่งในกลุ่มกับนักฟุตบอลที่เป็น "พระภูมิ" ในตำแหน่งของชนาธิป ทั้งยัง ยาสุโตะ วากิซากะ ที่มีดีกรีกลุ่มชาติประเทศญี่ปุ่น, เรียวตะ โอชิมะ และก็ยังมีตัวที่ย้ายมาใหม่อย่าง ทัตสึกิ เซโกะ ด้วยโน่นเป็นสิ่งที่ชนาธิปก็จำเป็นต้องพิสูจน์ตนเองอีกทีหนึ่ง เพราะว่าไม่ใช่ที่ของเขาแบบ ตอนอยู่ซัปโปโรแน่ๆ อย่างไรก็แล้วแต่ นับเป็นก้าวที่น่าดึงดูดของเมสซี่พบปิ้งแน่ๆ กับการลุ้นเป็นนักฟุตบอลไทยผู้ที่ 2 ที่ไปถึงแชมป์เจลีก ซึ่งถ้าหากได้ปีนี้จะพาฟรอนตาเล่ครอบครองแชมป์ 3 ปีติดอีกด้วย เพียงแค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!