• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บ.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - iammu

#41


โดยปกติแล้วในห้องนอนโดยมากนั้น เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสำคัญและขาดไปไม่ได้เลยก็คือตู้เสื้อผ้า  เพราะว่าโดยทั่วไปแล้วถ้าหากที่บ้านไม่มีห้องสำหรับแต่งตัวแยกออกมาต่างหากก็มักจะมีตู้เสื้อผ้าเอาไว้ในห้องนอนด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนั้นจึงต้องมีการเลือกให้เหมาะสมทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานและสัดส่วนที่พอเหมาะกับห้องนอนด้วย คราวนี้เราจึงมีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับการเลือกตู้เสื้อผ้ามาฝากกัน

จัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบด้วยตู้เสื้อผ้าแต่ละแบบ 
แบบลอยตัว เป็นรูปแบบที่เห็นกันได้บ่อยและหาซื้อได้ไม่ยากเนื่องจากมีจำหน่ายอยู่ทั่วไป เป็นตู้เสื้อผ้า ราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง เพราะว่ามีขนาดให้เลือกหลากหลาย และใช้วัสดุที่มีความแตกต่างกันออกไป สามารถเคลื่อนย้ายได้ ประกอบได้ง่าย เหมาะกับห้องนอนที่มีพื้นที่จำกัดหรือคนที่ชอบมีการตกแต่งเปลี่ยนการจัดวางของห้องอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงผู้ที่ยังต้องเช่าบ้านหรือเช่าห้องอยู่ทั้งนี้เพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้หากมีการย้ายที่อยู่ 

แบบบิ้วท์อิน เป็นการติดตั้งโดยคำนึงถึงพื้นที่การใช้งานของห้องให้มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ มีความสวยงาม แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาค่อนข้างแพงและจะต้องมีการออกแบบและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ลักษณะและจำนวนของประตูที่นิยมใช้
สำหรับลักษณะประตูที่ใช้งานกันโดยทั่วไปก็จะมีทั้งแบบบานพับ โดยเป็นการเปิดดึงบานประตูออกมาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเสื้อผ้าแบบปิดทึบเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและป้องกันฝุ่น แต่ก็ต้องมีพื้นที่สำหรับการเปิดประตูออกมาด้วย ในขณะที่ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนก็จะมีลักษณะการเปิดประตูเป็นแบบเลื่อนจึงไม่เปลืองพื้นที่ในการเปิดประตูออกมา เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการความสวยหรู นอกจากนี้ก็ยังสามารถออกแบบให้ประตูของตู้นั้นเป็นกระจกเสื้อส่องสำรวจความเรียบร้อยในขณะที่แต่งตัวได้อีกด้วย ในขณะที่จำนวนประตูตู้เสื้อผ้าก็มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก 2 ประตูซ้ายขวา เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก แบบ 3 ประตูก็จะเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาโดยจะมีประตูตรงกลางเพิ่มเข้ามาทำให้มีพื้นที่ในการจัดเก็บมากขึ้น แต่ถ้าหากห้องนอนมีขนาดใหญ่และมีเสื้อผ้าจำนวนมาก การเลือกใช้ขนาด 4 ประตูก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี 

ฉะนั้นการเลือกตู้เสื้อผ้าจึงควรพินิจพิเคราะห์จากขนาดของห้องก่อนว่ามีพื้นที่มากน้อยขนาดไหน ต่อไปจึงค่อยเลือกรูปแบบและการออกแบบรวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานว่าตอบสนองตรงกับความต้องการหรือไม่ และที่สำคัญก็คือควรจะมีราคาที่เหมาะสม อยู่ในงบที่ตั้งเอาไว้ด้วย

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0104
#42


อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในห้องน้ำที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คืออ่างล้างหน้า  ซึ่งในปัจจุบันก็มีดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และรูปแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์สำหรับความต้องการใช้งานของห้องน้ำในแต่ละบ้านได้อย่างตรงจุดมากที่สุด มาดูกันว่าห้องน้ำของบ้านท่านนั้นควรที่จะเลือกอ่างล้างหน้า ชนิดไหนมาใช้งานถึงจะเหมาะและตรงกับความต้องการใช้งานได้มากที่สุด

อ่างล้างหน้า อุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้งานแทบตลอดทั้งวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเช้าและก่อนนอน 

แบบวางบนเคาน์เตอร์ ถูกออกแบบมาสำหรับการติดตั้งหรือฝังอยู่ใน เคาน์เตอร์ อ่างล้างหน้า ซึ่งก็จะมีทั้งแบบฝังด้านบนเคาน์เตอร์ ฝังครึ่งเคาน์เตอร์ และฝังใต้เคาน์เตอร์ ซึ่งภายใต้เคาน์เตอร์ก็อาจจะทำเป็นตู้สำหรับเก็บข้าวของเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและจัดระเบียบของใช้ รวมไปถึงปกปิดท่อระบายน้ำทิ้งทำให้ห้องน้ำดูเรียบร้อยสะอาดตา อีกทั้งยังทำให้ห้องน้ำดูสวยงามหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยตัวเค้าเตอร์ที่ใช้วางอ่างก็ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานและสามารถกันน้ำได้ดี สามารถซ่อมบำรุงได้ง่ายๆ เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้าง

แบบแขวนผนัง สามารถติดตั้งเข้ากับผนังของห้องน้ำได้ทุกมุม ส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดเล็กกระทัดรัดจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่มากนัก มีราคาประหยัด สามารถหาซื้อได้ง่าย การดูแลรักษาทำได้ง่าย แต่ด้วยความที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักจึงอาจทำให้เกิดการกระเด็นของน้ำในขณะที่ใช้งานได้ง่ายกว่าและไม่สามารถจัดเก็บหรือวางอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานในห้องน้ำได้อย่างเต็มที่

แบบตั้งพื้น ออกแบบมาให้มีขาตั้งพื้นที่เพื่อรองรับน้ำหนักของตัวอ่าง จึงมีความมั่นคงแข็งแรงและยังช่วยซ่อนระบบท่อระบายน้ำทิ้งเอาไว้ด้านในเพื่อความสวยงาม เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัดแต่อาจจะเข้าไปทำความสะอาดด้านหลังของขาตั้งได้ยาก

แบบขาตั้งลอย เป็นการนำเอาจุดดีของแบบแขวนผนังและแบบตั้งพื้นมารวมไว้ด้วยกัน โดยจะมีลักษณะเป็นแบบแขวนผนังแต่จะมีขาตั้งลอยมาให้เพื่อสำหรับปกปิดท่อระบายน้ำทิ้งเพื่อความสวยงาม

ดังนั้นการเลือกอ่างล้างหน้า สำหรับติดตั้งในห้องน้ำ ก็ควรที่จะดูในเรื่องของพื้นที่สำหรับการติดตั้งก่อนว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเพียงใด แล้วจึงพินิจพิจารณาเลือกใช้งานตามความเหมาะสม และนอกจากนี้ก็คือควรเลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้เช่น อ่างล้างหน้า cotto, American Standard, MOYA, KARAT เป็นต้น เนื่องด้วยนอกจากจะมั่นอกมั่นใจได้ถึงคุณภาพแล้วก็ยังสามารถหาซื้อได้ง่าย และอะไหล่หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็หาได้ไม่ยากอีกด้วย 
    
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BAT01
#43


ในสถานการณ์ที่หลายท่านต้อง work from home ทำงานอยู่กับบ้าน บางครั้งเก้าอี้ทำงานที่บ้านก็รู้สึกนั่งทำงานไม่สบายเหมือนกับเก้าอี้สำนักงานที่ออฟฟิศเท่าไหร่นัก หากใครกำลังต้องการเก้าอี้เอาไว้นั่งทำงานที่บ้าน เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกเก้าอี้เอาไว้นั่งทำงานมาฝากกัน


การเลือกเก้าอี้ทำงานให้นั่งสบายเหมือนกับอยู่ในออฟฟิศ
มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้
การนั่งทำงานนาน ๆ แน่นอนว่าต้องมีอาการเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดไหล่กันบ้าง ด้วยเหตุนั้นจึงควรเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้ ไม่แข็งทื่อเมื่อต้องการเปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องดูว่าพนักพิงด้านหลังมีความลาดเอียงที่พอเหมาะ สามารถโยกหรือเอียงตามเมื่อมีการพิงมาด้านหลังหรือไม่  โดยอาจจะเลือกแบบที่สามารถหมุนเก้าอี้ได้รอบ หรือมีล้อเลื่อนแบบเก้าอี้สำนักงานด้วยก็ได้ 

วัสดุที่ใช้
เก้าอี้สำนักงานโดยรวมก็มักจะใช้วัสดุเป็นหนังหรือผ้าหุ้มภายนอก โดยที่เบาะด้านในก็จะใช้ฟองน้ำหรือโฟม รวมไปถึงฟองน้ำ Memory Foam ซึ่งหากอยากนั่งสบายเหมือนกับเก้าอี้ที่ออฟฟิศ ไม่รู้สึกปวดเมื่อยและช่วยป้องกันการกดทับของเส้นเลือดที่ขาจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานก็ควรเลือกใช้วัสดุภายในที่เป็นเบาะแบบ Memory Foam ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าเก้าอี้ทำงานแบบอื่นอยู่พอสมควร แต่ก็เพื่อสุขภาพในการนั่งทำงานที่ดีกว่าในระยะยาวนั่นเอง  

ควรมีที่วางแขน
การนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊คสำหรับทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าก็จะต้องมีการพิมพ์ การใช้เมาส์ ซึ่งถ้าหากเก้าอี้ที่ใช้นั่งทำงานไม่มีในส่วนของที่วางแขนก็จะทำให้เราต้องยกแขนโดยไม่มีอะไรรองรับอยู่บ่อย ๆ จนส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อยได้ ดังนั้นจึงควรเลือกเก้าอี้ทำงานแบบมีที่วางแขน ก็จะช่วยให้สามารถนั่งทำงานได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น

สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
ควรดูด้วยว่าเก้าอี้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยขนาดไหน สามารถรองรับน้ำหนักตัวของคุณได้หรือเปล่า นอกจากนี้ก็ต้องดูในเรื่องของความสมดุลในการถ่ายเทน้ำหนักโดยทดลองดูว่าเมื่อนั่งลงไปแล้วพิงเอนไปด้านหลังเก้าอี้ก็สามารถเอียงตามได้โดยที่ไม่เสียสมดุลไม่หงายหลัง รวมไปถึงมีระยะฐานล้อที่ค่อนข้างกว้าง
แต่ถ้าใครอยากได้เก้าอี้ทำงานที่นั่งสบายสามารถรองรับการใช้งานได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเล่นเกม การนั่งดูซีรีส์หรือดูหนัง ไม่ใช่เพียงแค่นั่งทำงานเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะเลือกเก้าอี้คอมพิวเตอร์ หรือเก้าอี้เกมมิ่ง ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับกับสรีระช่วยให้สามารถนั่งได้อย่างสบายไม่รู้สึกปวดเมื่อยเมื่อต้องใช้เวลาอยู่บนเก้าอี้เป็นเวลานาน ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะมีดีไซน์ที่คล้ายกับเก้าอี้รถแข่ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีราคาสูงกว่าเก้าอี้สำนักงานตามปกติ

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR1004
#44


สำหรับระบบประปาภายในบ้าน นอกจากจะต้องมีการติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อให้แรงดันของน้ำมีความสม่ำเสมอทำให้น้ำไหลแรงได้ในทุกจุดของบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือระบบกรองน้ำ ไม่ว่าทางน้ำที่ใช้อุปโภคและบริโภค หากใครกำลังหาเครื่องกรองน้ำเอามาไว้ใช้งานกัน ครั้งนี้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม มาฝากกัน

เครื่องกรองน้ำใช้
ใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพน้ำใช้ให้ดีขึ้นสำหรับการอุปโภคโดยทั่วไป หรืออาจจะใช้กรองน้ำก่อนในเบื้องต้นเพื่อผ่านไปยังเครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้ในกรณีที่แหล่งน้ำมาจากธรรมชาติหรือเป็นน้ำบาดาล น้ำกร่อย น้ำเค็ม ซึ่งที่ได้รับความนิยมก็จะใช้วัสดุเป็นถังกรองน้ำไฟเบอร์ เพราะว่ามีราคาถูกและมีน้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน ราว 10-15 ปี ส่วนอีกชนิดหนึ่งก็จะเป็นถังสแตนเลสที่มีอายุการใช้งานนานกว่าแต่ค่อนข้างมีน้ำหนักมากและดูแลรักษาได้ลำบาก ดังนั้นตามบ้านเรือนโดยทั่วไปก็มักจะเลือกใช้เป็นถังไฟเบอร์มากกว่าถังสแตนเลส 

เครื่องกรองน้ำดื่ม
มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องกรองน้ำใช้แต่จะมีประสิทธิภาพในการกรองที่สูงกว่า เพราะเป็นน้ำที่จะต้องนำไปรับประทานจึงต้องมีการกำจัดสิ่งปนเปื้อนรวมไปถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ในระบบกรองน้ำด้วย โดยสามารถติดตั้งเอาไว้ได้หลายจุดในบริเวณบ้านที่ต้องการใช้น้ำสำหรับบริโภค โดยทั่วไปแล้วก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดคือ 
· แบบ UF (Ultra Filtration System) เป็นเครื่องกรองชนิด 3 ขั้นตอน โดยเป็นการใช้ไส้กรองที่มีการกรองละเอียดมากสามารถกรองเชื้อจุลินทรีย์ไวรัสและแบคทีเรียได้ทุกชนิด รวมถึงโลหะหนักและคลอรีน สามารถทำงานโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า  
· แบบ UV (Ultra Violet Filtration System) เป็นระบบการฆ่าเชื้อด้วยหลอด UV เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการติดตั้งมาพร้อมกับระบบกรองน้ำเพราะแสง UV ทำได้เพียงแค่ฆ่าเชื้อไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีอยู่ในน้ำได้ 
· แบบ RO (Reverse Osmosis System) เป็นการกรองโดยใช้แรงดันน้ำผ่านไส้กรองเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องกรองแบบ 5 ขั้นตอน จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรค และโลหะหนักได้อย่างสะอาดหมดจด ทำให้ได้น้ำที่มีความสะอาดมากกว่าการกรองแบบอื่น เรียกได้ว่าเป็นระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด แต่เนื่องจากต้องอาศัยแรงดันจึงต้องมีการทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าซึ่งจะทำให้ค่อนข้างมีราคาสูงมากกว่าเครื่องกรองน้ำระบบอื่นนั่นเอง 
    
ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูก่อนว่าแหล่งน้ำที่มายังระบบประปาของบ้านนั้นเป็นชนิดไหน เพราะถ้าเป็นแหล่งน้ำที่จำเป็นต้องมีการกรอง ก็ควรที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้เสียก่อน ส่วนในบ้านก็ลองพิจารณาดูว่าจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มหรือเปล่า และควรติดตั้งทั้งหมดกี่จุด จะได้วางแผนในการติดตั้งได้อย่างถูกต้องและเพียงพอสำหรับความต้องการใช้งาน 

ติดต่อสอบถามได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/KIT09
 
#45


การจัดระเบียบให้กับบ้านนอกจากจะเลือกใช้ตู้เก็บของแล้ว ก็ยังมีชั้นวางของซึ่งนิยมใช้กันเพื่อจัดเก็บของใช้รวมไปถึงเอาไว้วางของแต่งบ้านต่าง ๆ ในแนวตั้งเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ และเป็นการใช้พื้นที่ในแนวตั้งของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด ท่านใดกำลังต้องการชั้นวางของมาใช้ในบ้าน วันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของทั้งชั้นวางของเหล็กและชั้นวางของไม้มาฝากกัน 


ใช้พื้นที่ในแนวตั้งให้เป็นประโยชน์ด้วยชั้นวางของ 
ชั้นวางของเหล็ก
 
ในปัจจุบันการตกแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์รวมไปถึงสไตล์โมเดิร์นก็นิยมที่จะเลือกใช้ชั้นวางของเหล็กกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีทั้งชั้นวางของเหล็กที่เป็นเหล็กทั้งอันมาประกอบกัน และแบบที่เป็นโครงเหล็กและใช้ไม้เป็นชั้นสำหรับวางของ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นชั้นลอยไม่มีบานปิด โดยมีให้เลือกทั้งแบบตั้งพื้นธรรมดาและแบบแขวนติดผนัง ข้อดีของชั้นวางของเหล็กก็คือมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก มีอายุการใช้งานที่นานกว่าชั้นวางของที่ทำนจากไม้เพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้วางของได้อย่างหลากหลายมากกว่า อย่างเช่นสามารถใช้วางจานชามในห้องครัวที่เปียกน้ำได้ นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่มีความเรียบง่ายทันสมัยจึงสามารถเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านได้ทุกแบบ  

ชั้นวางของไม้
ชั้นวางของไม้นั้นก็มีให้เลือกหลากหลายแบบหลากหลายราคา แล้วแต่วัสดุของไม้ที่นำมาใช้ อย่างเช่น ชั้นวางของที่ใช้ไม้จริงก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง มีน้ำหนักมาก แต่ก็มีความทนทานสามารถใช้วางของเปียกได้ ซึ่งก็มีทั้งแบบไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน แต่ถ้าหากใช้เป็นพวกไม้อัดที่มีการเคลือบปิดผิว ก็จะมีราคาถูกกว่า มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชั้นที่สามารถถอดประกอบได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีความทนทานมากนัก โดยทั่วไปแล้วชั้นวางของไม้ก็มักจะมาในรูปแบบ ชั้นวางติดผนัง ชั้นวางตั้งพื้น และชั้นวางแบบ Built in ที่มีความสวยงามและประหยัดพื้นที่  มีดีไซน์และขนาดให้เลือกหลายขนาด ซึ่งชั้นวางของไม้ก็อาจจะมีการทำบานปิดทึบ หรือใช้กระจกปิดเอาไว้สำหรับตั้งโชว์ของแต่งบ้านหรือของสะสมต่าง ๆ คล้ายกับตู้โชว์ก็ได้ รวมไปถึงใช้ร่วมกับโครงเหล็กทำให้มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น 

ดังนั้นในการเลือกชั้นสำหรับวางของต่าง ๆ ภายในบ้าน นอกจากจะดูในเรื่องของวัสดุที่ใช้ ดีไซน์ที่มีความสวยงามเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านแล้ว ความแข็งแรงทนทานและความสามารถในการวางข้าวของต่าง ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปด้วย ก็จะช่วยทำให้บ้านของท่านมีทั้งความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความสวยงามไปได้พร้อม ๆ กัน

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR0906
#46


ในการสร้างบ้านรวมไปถึงการรีโนเวทบ้าน สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกกระเบื้อง ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นสำหรับประกอบการตัดสินใจเพื่อทำให้บ้านของคุณดูสวยงามด้วยการเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมมาฝากกัน
    
วิธีการเลือกสรรกระเบื้องปูพื้นควรพิจารณาจากอะไรบ้าง 

ขนาดของพื้นที่
อันดับแรกก็ลองคำนวณพื้นที่ของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ ดูก่อน ว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเพียงใด จะได้เลือกขนาดกระเบื้อง ให้พอเหมาะกับพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เช่นว่าในบริเวณห้องรับแขกก็อาจจะเลือกเป็นขนาด 12 x 12 นิ้ว ขนาด 40 x 40 ซม. หรือในห้องโถงที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างก็อาจจะเลือกใช้เป็นขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักก็แนะนำให้ใช้ขนาดที่เล็กลงมาอยู่ที่ 8 x 8 นิ้ว เป็นต้น 

พื้นที่การใช้งาน 
กระเบื้องปูพื้นก็มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกันซึ่งก็กำลังดีสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในห้องน้ำก็ควรที่จะใช้กระเบื้องแผ่นขนาดเล็กและมีพื้นผิวด้านหน้าที่ค่อนข้างหยาบเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ของผิวสัมผัสในการระบายน้ำและช่วยลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม ตัวอย่างเช่น เซรามิค แกรนิตโต้ หรือโมเสค ในห้องครัวซึ่งมักจะเลอะคราบอาหารและคราบไขมันก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนที่มีความทนทานและมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้ง่ายและไม่สะสมคราบสกปรก ส่วนในห้องทำงานที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็อาจใช้เป็นแบบยางที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ 

สีสันและลวดลาย
การเลือกสีสันและลวดลายของกระเบื้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ส่งเสริมความสวยงามให้กับบ้านของคุณ เช่นเลือกใช้โทนสีอ่อนสบายตาหรือลายไม้ภายในห้องนอนเพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมไปถึงช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนั้นดูกว้างขวางมากขึ้น ใช้โทนสีเข้มหรือมีลวดลายกราฟฟิกในบริเวณที่สามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่ายเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ตัวอย่างเช่นในห้องครัว ห้องซักล้าง หรือห้องน้ำ รวมไปถึงการเลือกแบบที่มีลวดลายแบบสวยงามเพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับพื้นที่บริเวณนั้น ๆ เป็นพิเศษ เช่นในห้องโถงรับแขก เป็นต้น 

ราคา
ราคา กระเบื้องปูพื้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายราคา ซึ่งโดยมากก็มักจะคิดเป็นราคาต่อตารางเมตร ฉะนั้นก็ต้องดูงบที่มีว่าในแต่ละห้องจะใช้แบบไหน ซึ่งถ้าหากมีงบไม่มากก็อาจเลือกเป็นแบบเซรามิคที่มีราคาไม่แพงและมีความสวยงามรวมไปถึงมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าอยากให้บ้านดูภูมิฐานมากขึ้นก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนหรือแกรนิตโต้ที่มีราคาแพงขึ้นมาก็ได้   

โดยรวมแล้วการเลือกกระเบื้องปูพื้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเราเป็นหลักว่าอยากได้เป็นอย่างใด แต่ก็ควรที่จะพิจารณาดูด้วยว่าได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพื่อรื้อเปลี่ยนใหม่กันอีกรอบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/FLO0203
#47


ก็เพราะว่าการขับถ่ายคือเรื่องสำคัญของทุกวันในชีวิต การเลือกสุขภัณฑ์ให้เหมาะสำหรับห้องน้ำที่บ้านของท่านจึงเป็นเรื่องที่ควรจะเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อให้ทุกการขับถ่ายของคุณเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความสุข วันนี้เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกซื้อโถส้วมมาฝากกัน 
    
การเลือกโถส้วมให้เหมาะสมสำหรับบ้านและการใช้งาน

แบบนั่งยอง 
เป็นรูปแบบที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ค่อยนิยมใช้ตามบ้านกันแล้วเนื่องจากการนั่งยองเป็นเวลานานในขณะที่กำลังทำธุระส่วนตัวก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและปวดเมื่อยขึ้นมาได้ และค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ที่ไม่สามารถนั่งยองได้ตามปกติ เช่นคนที่มีรูปร่างอ้วน ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก ผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อม รวมไปถึงคนพิการ และยังมีกลิ่นเหม็นได้ง่ายอีกด้วย แต่จุดแข็งก็คือสามารถดูแลรักษาได้ง่าย ทนทาน มีราคาไม่แพงจึงนิยมใช้กันตามห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งก็มีทั้งระบบราดน้ำและระบบกดน้ำแบบฟลัชวาล์ว

แบบนั่งราบ 
เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบันหรือที่เราเรียกกันว่าชักโครกนั่นเอง ซึ่งก็จะถูกออกแบบให้มีความสวยงามหรูหรา มีการใช้งานที่สะดวกรวมไปถึงท่านั่งในระหว่างการขับถ่ายที่คล้ายกับการนั่งเก้าอี้ตามปกติ จึงทำให้ไม่รู้สึกเมื่อยเมื่อต้องนั่งทำธุระส่วนตัวเป็นเวลานาน ซึ่งก็จะมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบชิ้นเดียวที่มีการดีไซน์ให้ตัวโถและถังพักน้ำเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งอัน ใช้ระบบการชำระล้างที่เรียกว่า Siphon vortex ซึ่งจะไม่ค่อยมีเสียงดังแต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง และแบบแยกตัวโถออกจากตัวถังพักน้ำเป็นคนละชิ้น ซึ่งก็มีทั้งระบบการชำระล้างแบบ wash down ซึ่งมีราคาถูกและนิยมใช้กันตามทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านจัดสรร และระบบน้ำหมุนวนแบบ Siphon jet ซึ่งเป็นระบบที่ค่อนข้างใช้น้ำในปริมาณมากและทำงานเสียงดังกว่าแบบ Siphon vortex

แบบเคลื่อนย้ายได้
เป็นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นแบบชักโครกที่ดีไซน์มาให้สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ โดยมักจะนำมาใช้กับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการภายในบ้านที่ไม่สามารถไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำได้ด้วยตนเอง  โดยทั่วไปแล้วก็จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความเหนียวและแข็งแรง น้ำหนักเบา และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก 

ฉะนั้นนอกจากการเลือกโถส้วมให้พอเหมาะและตอบโจทย์สำหรับการใช้งานของทุก ๆ คนในบ้านแล้ว ก็ควรที่จะคำนึงถึงดีไซน์ที่มีความสวยงาม ระบบน้ำที่ใช้ในการชำระล้าง ความง่ายในการการดูแลความสะอาด และความสะดวกในการใช้งานด้วย ซึ่งถ้าเป็นในบ้านเรือนตามปกติในปัจจุบันนี้ก็แนะนำให้เป็นแบบนั่งราบหรือแบบชักโครกจะเป็นการดีที่สุด เพื่อสุขอนามัยที่ดีและยังช่วยทำให้ห้องน้ำของคุณดูงดงามน่าใช้อีกด้วย 

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BAT11
#48


ประตูคือด่านแรกที่จะพาคุณ ๆเข้ามาในบ้าน และห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งในบ้านก็จะมีแยกห้องต่าง ๆ ออกไปอีกหลากหลายห้อง ฉะนั้นการเลือกประตูบ้านที่มีความสวยงาม แข็งแรง ปลอดภัย จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความเอาใจใส่ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ ครั้งนี้เราก็มีรูปแบบของการติดตั้งประตูบ้านชนิดต่าง ๆ มาฝากกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรจะออกแบบประตูบ้านในแต่ละจุดให้เป็นรูปแบบไหนถึงจะถูกใจและเหมาะสมมากที่สุด 
   

รูปแบบของการติดตั้งประตูแบบต่าง ๆ 
· แบบบานเปิด มีลักษณะการใช้งานเป็นบานเปิด โดยจะใช้การเปิดเข้าหรือเปิดออกทางฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งแบบบานเปิดนี้ก็เป็นแบบที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด สามารถติดตั้งได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้ทั่วไปในเกือบทุกตำแหน่งของบ้าน แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของพื้นที่การใช้งาน เพราะในการติดตั้งจะต้องมีการเว้นพื้นที่เอาไว้ให้มีช่องสำหรับการเปิดบานประตู จึงอาจไม่เหมาะกับห้องหรือบริเวณที่มีพื้นที่ไม่มากนัก
· แบบบานเลื่อน มีลักษณะการเปิดด้วยการเลื่อนไปทางด้านข้าง หรือที่เรียกว่าประตูบานเลื่อนนั่นเอง โดยจะติดตั้งรางสำหรับเอาไว้เลื่อนอยู่ที่ด้านบนหรือด้านล่าง นอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นแบบรางแขวนได้ ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ก็จะเป็นอลูมิเนียมและกระจก จุดดีก็คือไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้งจึงนิยมใช้ตามคอนโดหรือห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็จะมีราคาในการติดตั้งที่แพงขึ้นมา
· แบบบานสวิง มีลักษณะคล้ายกับบานเปิดแต่จะสามารถผลักเข้าออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง จึงเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการเข้าออกบ่อย ๆ อาทิเช่นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น 
· แบบบานเฟี้ยม มีลักษณะเป็นบานประตูขนาดเล็กมาต่อกันเป็นบานพับ ใช้การเปิดแบบพับบานทบไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งคล้ายกับการใช้ฉากกั้นห้อง นิยมติดตั้งเพื่อทำการขยายและเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องโดยเมื่อเปิดออกมาก็จะทำให้พื้นที่ของทั้ง 2 ห้องเชื่อมต่อกันทำให้กว้างมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

นอกจากจะดูในเรื่องของรูปแบบการติดตั้งแล้ว การเลือกประตูบ้านก็ควรเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสำหรับตำแหน่งต่าง ๆ ตัวอย่างเช่นถ้าเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านกับภายนอก ต้องเจอแดด เจอลม เจอฝน ความชื้นอยู่เป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานต่อภาวะแวดล้อมได้ดี ตัวอย่างเช่นไฟเบอร์กลาส ไม้จริง และ WPC เป็นต้น หรือถ้าหากอยู่ภายในร่มที่ไม่โดนแดดก็อาจจะเลือกใช้วัสดุเป็น UPVC ก็ได้ ส่วนภายในบ้านก็สามารถเลือกประตูแบบสวย ๆ ได้ตามต้องการ แต่ประตูห้องน้ำควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานอย่างเช่น UPVC เพราะต้องเจอกับความชื้นอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/DOW03
#49


การนอนหลับที่ดีก็ขึ้นอยู่กับการเลือกที่ที่นอนให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน การที่เราสามารถพักผ่อนนอนหลับได้อย่างเต็มที่ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังสำหรับการทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกที่นอนมาฝากกัน

เลือกจากวัสดุ
สำหรับที่นอนที่วางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งก็สามารถแบ่งออกได้ตามวัสดุที่ใช้ ดังนี้
· ยางพารา หรือที่เรียกกันว่าที่นอน ยางพารา นั่นเอง โดยเป็นการใช้วัสดุจากยางพาราที่มีความยืดหยุ่น มีแรงต้านสูง ไม่ยุบตัว สามารถปรับตามสรีระได้ดี จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการนอนหลับสบายไม่ปวดหลัง แต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากและมีราคาแพงกว่าที่นอนแบบอื่น ๆ
· นุ่น  มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ระบายอากาศได้ดีและทำให้รู้สึกเย็น มีราคาประหยัด แต่สามารถเสียรูปทรงได้ง่ายและมีอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนานนัก และเมื่อเกิดการยุบตัวก็จะทำให้นอนปวดหลังได้
· ใยมะพร้าว จุดเด่นก็คือสามารถระบายอากาศได้ดี มีราคาถูก สามารถคงสภาพได้ดีพอสมควร แต่ก็ค่อนข้างจะแข็ง มีน้ำหนักมาก และมีความยืดหยุ่นน้อย เมื่อใช้ไปนาน ๆ ใยมะพร้าวก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพและเกิดเป็นขุยหรือฝุ่นที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้
· ฟองน้ำ เป็นการนำเอาฟองน้ำมาบีบอัดแล้วขึ้นรูปซึ่งโดยมากก็มักจะนำไปผสมกับวัสดุประเภทอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้สามารถรองรับน้ำหนักในการนอนได้ดียิ่งขึ้น มีความนุ่มและมีน้ำหนักเบาแต่มีอายุการใช้งานที่สั้น ระบายอากาศไม่ดี เกิดการยุบตัวได้ง่าย
· สปริง เป็นการนำเอาสปริงมาใช้เพื่อช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นและสามารถคืนตัวได้ดี โดยจะมีความหนามากกว่าปกติเนื่องจากต้องมีการใส่สปริงเอาไว้ด้านใน นิยมนำมาใช้ร่วมกับที่นอนจากวัสดุต่าง ๆ

เลือกจากขนาด
· ขนาด 3 ฟุต (Single Size) มีขนาดกว้าง 3 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต หรือกว้าง 91 ซม. ยาว 192 ซม. เหมาะกับห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัดและใช้นอนคนเดียว
· ขนาด 3.5 ฟุต (Twin Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 3.5 ฟุต หรือ 106 ซม. ยาว 6.5 ฟุต เหมาะกับการนอนคนเดียวหรือใช้ในห้องนอนเด็ก รวมไปถึงห้องที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก และยังนิยมนำไปใช้ในโรงแรมที่เป็นเตียงแบบ Twin bed อีกด้วย
· ขนาด 5 ฟุต  (Queen Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถใช้นอนได้ 2 คน หรือนอนคนเดียวแต่ต้องการพื้นที่ในการนอนมากขึ้น หรือเป็นห้องที่ต้องนอนด้วยกันสองคนแต่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางเตียงได้
· ขนาด 6 ฟุต ( King Size) ที่นอน 6 ฟุตถือได้ว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด โดยมีขนาดกว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถนอนได้ 2 คน เหมาะสำหรับห้องนอนที่มีขนาดใหญ่

การเลือกที่นอนจึงควรดูในเรื่องของพื้นที่ของห้องนอนว่าสมควรจะใช้เตียงขนาดไหน ที่สำคัญก็คือควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อการนอนหลับอย่างสบายตลอดทั้งคืน และตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นผ่อนคลาย ไม่รู้สึกปวดหลัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BED03
 
 
#50


ในยุคที่หลาย ๆ ท่านต้องอยู่กับบ้านกันมากขึ้น แน่นอนว่าการทานข้าวที่บ้านก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไปไม่ได้สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งนอกจากจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับทำครัวอย่างครบครันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือหม้อหุงข้าว ยิ่งถ้าหากได้ข้าวสารคุณภาพดีก็จะยิ่งทำให้ข้าวที่หุงออกมานั้นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นในคราวนี้เราก็จะมาเลือกหม้อหุงข้าวให้กับห้องครัวของคุณ 

ประเภทของหม้อหุงข้าว ของคู่ครัวที่ขาดไม่ได้
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบ่งออกเป็นแบบฝาปิดธรรมดาซึ่งมีราคาถูกและมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยจะประกอบไปด้วยฝาหม้อ หม้อชั้นใน และหม้อชั้นนอก อาจมีหรือไม่มีระบบอุ่นอัตโนมัติก็ได้ ส่วนหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอีกแบบก็คือแบบฝาล็อค ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นมาจากแบบธรรมดา โดยจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยฝาหม้อก็จะถูกออกแบบให้อยู่ติดกับตัวมอบชั้นนอกโดยใช้บานพับ มีฉนวนกันความร้อนและฝาที่ปิดสนิทจึงสามารถเก็บความร้อนได้นานยิ่งขึ้น  

หม้อหุงข้าวดิจิตอล 
เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบันเหตุเพราะนอกจากจะใช้หุงข้าวแล้วก็ยังสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายมากกว่า เนื่องด้วยมีระบบควบคุมอุณหภูมิและการทำงานต่าง ๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ จึงสามารถประกอบอาหารอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการนึ่ง การทำข้าวต้ม การทำเค้ก โดยมีโปรแกรมในการเลือกเมนูต่าง ๆ และตั้งค่าสำหรับการใช้งาน สามารถควบคุมเวลาและอุณหภูมิได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถหุงข้าวออกมาได้สวยและรวดเร็ว มีการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อหุงข้าวหรือโรงอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีการออกแบบที่สวยงามล้ำสมัยเหมาะกับครัวยุคใหม่อีกด้วย 

ในการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวนอกจากจะดูที่รูปแบบการทำงานแล้ว สิ่งที่จะต้องนึกถึงด้วยก็คือจำนวนสมาชิกในบ้านว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน จะได้เลือกขนาดได้อย่างพอเหมาะเพียงพอสำหรับความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ก็ควรจะดูไปถึงกำลังไฟฟ้าที่ใช้เพราะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องมีการใช้งานอยู่ทุกวันและอาจจะต้องเสียบปลั๊กค้างเอาไว้เพื่อทำการอุ่นอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากเลือกเป็นหม้อหุงข้าวดิจิตอลก็ควรที่จะดูในเรื่องของฟังก์ชันหรือเมนูต่าง ๆ ที่ให้มาว่าตอบโจทย์ความต้องการในการประกอบอาหารของเราหรือไม่ อย่างเช่น สามารถหุงโจ๊กหรือข้าวต้มได้ สามารถทำขนมเค้กได้ ใช้นึ่งข้าวเหนียวได้ หรือมีเมนูหุงข้าวด่วน เป็นต้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0810
#51


สนามหญ้าคือพื้นที่สีเขียวภายนอกบ้านที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายสบายตา เป็นพื้นที่เพื่อทำกิจกรรม พื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และเพิ่มความงดงามให้กับบริเวณบ้าน สำหรับบ้านไหนที่มีสนามหญ้า ในวันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อเลือกหาเครื่องตัดหญ้าที่เหมาะสมสำหรับบ้านคุณ ๆมาฝากกัน 

วิธีเลือกเครื่องตัดหญ้า ผู้ช่วยจัดการสนามหญ้าที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ 

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า
เป็นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเครื่องที่มีด้ามจับยาวเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถยืนตัดหญ้าบนสนามได้อย่างสะดวกไม่ต้องก้มให้เมื่อย มีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นสนามหญ้าที่มีความเรียบและไม่กว้างจนเกินไป ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าก็จะมีสายไฟสำหรับเสียบปลั๊กใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน และมีราคาถูก รวมถึงมีเสียงเบาไม่รบกวนเพื่อนบ้าน แต่ข้อเสียก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะต้องมีการลากสายไฟเพื่อเสียบปลั๊ก จึงอาจทำให้เกะกะและรู้สึกไม่สะดวกเมื่อต้องใช้งานอยู่บ้าง หรือสายไฟอาจยาวไม่พอถ้าหากต้องตัดหญ้าที่อยู่ในบริเวณห่างจากจุดที่เสียบปลั๊ก และจะต้องมีการพักมอเตอร์เป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ก็ยังไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงและมีความยาวมากจนเกินไปเหตุเพราะมีกำลังของมอเตอร์ไม่เพียงพอนั่นเอง

เครื่องตัดหญ้าไร้สาย
ถือว่าเป็นการปรับปรุงข้อด้อยของเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าที่ต้องมีการดึงสายไฟมาเสียบเพื่อใช้งาน ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไร้สายก็จะเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้ จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปตัดหญ้าบริเวณต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย มีน้ำหนักเบา จับถนัดมือจึงสามารถใช้ตัดหญ้าทั้งบนพื้นสนามและตัดแต่งต้นไม้ในแนวตั้งได้อย่างสะดวก ผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย  มีเสียงเบาไม่รบกวนในขณะตัดหญ้า ใช้งานสะดวก แต่ข้อเสียก็ยังคงเป็นในเรื่องของกำลังตัดที่ไม่มาก จึงไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงหรือมีลำต้นหนาจนเกินไป 

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน 
มีให้เลือกทั้งแบบสะพายบ่าและเป็นแบบรถเข็น เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสายไฟแบตเตอรี่ มีความแข็งแรงทนทานให้กำลังการตัดที่ดี จึงสามารถใช้ตัดหญ้าสนามได้ทุกแบบแม้ในบริเวณที่มีหญ้าขึ้นสูงหรือหญ้าเปียก สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน แต่ข้อด้อยก็คือจะมีเสียงดังในการทำงาน มีราคาแพงรวมไปถึงมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้การสตาร์ทเครื่องยนต์ก็อาจจะค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานอีกด้วย 

ด้วยเหตุนั้นการตกลงใจซื้อเครื่องตัดหญ้ามาใช้งานที่บ้านก็ลองพิจารณาดูจากความกว้างของพื้นที่และชนิดของหญ้าส่วนใหญ่ที่ต้องการตัด จะได้เลือกซื้อมาใช้งานกันได้อย่างเหมาะสม
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0709
#52

อีกหนึ่งวิธีในการจัดเก็บข้าวของภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามก็คือการเลือกใช้ตู้เก็บของ  เพราะนอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้ความสวยงามกับบ้านแล้วก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อทำให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกใช้ตู้เก็บของมาฝากกัน เพื่อช่วยให้คุณได้นำไปพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ตู้ชนิดไหนกันดี

ห้องรับแขก/ห้องนั่งเล่น
ก่อนที่จะเข้ามาในบ้านก็ควรมีการใช้ตู้เก็บรองเท้าตั้งเอาไว้ใกล้กับประตูเข้าบ้านเพื่อเก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนภายในก็อาจจะมีตู้เก็บรองเท้าอีกอันเอาไว้เก็บพวกรองเท้าสลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้าน โดยรวมแล้วห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นก็มักจะมีการติดตั้งชั้นวางทีวีที่มีตู้สำหรับเก็บของในตัวและมีชั้นวางของแบบติดผนัง นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ตู้เตี้ยแบบมีลิ้นชักในการจัดเก็บเครื่องใช้จุกจิกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนของตกแต่งหรือสิ่งที่ต้องการตั้งโชว์ก็สามารถเลือกใช้ตู้โชว์มาตั้งไว้ก็ได้ รวมถึงเลือกใช้ตู้วางของที่มีลักษณะเป็นชั้นวางแบบเปิดโล่ง ซึ่งนอกจากจะตั้งโชว์ของตกแต่งได้แล้วก็ยังสามารถช่วยจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ห้องครัว
ในห้องครัวโดยมากก็มักจะใช้เก็บพวกอุปกรณ์การทำครัวต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นของที่ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้และของที่นำมาใช้เป็นประจำ เพราะฉะนั้นของที่ใช้เป็นประจำก็ควรที่จะวางอยู่ในจุดที่หยิบมาใช้งานได้ง่าย ซึ่งก็อาจจะใช้ได้ทั้งราวแขวน ชั้นวางของ รวมไปถึงตู้วางของแบบที่ไม่ต้องมีบานปิด ส่วนของที่นาน ๆ ทีจะหยิบเอามาใช้งานกันสักครั้ง ก็ควรหาตู้ที่มีบานปิดมิดชิดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก 

ห้องน้ำ 
โดยมากแล้วลักษณะของตู้ที่นำมาใช้เก็บของในห้องน้ำก็จะเป็นพวกตู้ใต้บานซิงค์ล้างหน้า ตู้ข้างเคาน์เตอร์ ตู้แบบแขวนติดผนัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อความชื้นตัวอย่างเช่นพลาสติก  PVC  รวมถึงอาจจะเป็นไม้จริงเช่นไม้ยางพาราที่มีการปิดผิวหน้ากันน้ำ และมีขาตั้งเป็นเหล็ก โดยหน้าห้องน้ำก็อาจจะมีการนำเอาตู้เก็บรองเท้ามาตั้งเอาไว้เพื่อใส่รองเท้าสำหรับเปลี่ยนเวลาที่เข้าไปใช้ห้องน้ำด้วย 

ห้องนอน
สำหรับห้องนอนก็มักจะมีตู้เสื้อผ้าเอาไว้จัดเก็บเสื้อผ้า แต่ต้องบอกว่าห้องนอนนั้นเป็นห้องที่มีข้าวของกระจุกกระจิกอยู่เยอะมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นการเลือกใช้ตู้วางของ หรือตู้เก็บของก็เป็นตัวช่วยจัดระเบียบภายในห้องนอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็อาจจะเลือกใช้เป็นชั้นวางของแบบติดผนัง ตู้วางของแบบประตูบานเลื่อนเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ หรืออาจจะเลือกเตียงที่มีช่องเก็บของอยู่ด้านใต้และมีชั้นวางของอยู่ที่หัวเตียง รวมไปถึงโต๊ะข้างเตียงหรือตู้ข้างเตียง เป็นต้น

เป้าหมายหลักของตู้เก็บของ  ก็คือการวางระเบียบข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกรูปแบบที่มีความสวยงามทันสมัยเข้ากับการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดีและตอบโจทย์การใช้งานได้ตามความต้องการ ก็จะทำให้บ้านของคุณนั้นทั้งดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและดูสวยงามได้มากยิ่งขึ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR0902
#53
Biohyalux ไฮยาเซรั่มนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล ที่สุดของการดูแลผิวจากศูนย์ Biotech ระดับโลก ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่าด้วยไฮยา 4 โมเลกุล มอบผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

Biohyalux (ไบโอยาลักซ์) สกินแคร์สำหรับการดูแลอย่างล้ำลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอน จุดบรรจบที่สามารถนำสุนทรียะแห่งความงามมาผนวกเข้ากับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว จากจุดเริ่มต้นของศูนย์กลางด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต "กรดไฮยารูลอน" ส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ให้กับยี่ห้อชั้นนำทั่วโลก นำมาสู่การพลิกผันบทบาทใหม่ ในฐานะสกินแคร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอนที่มีนวัตกรรมการฟื้นบำรุงที่เหนือกว่า ด้วย Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) กรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล เอกสิทธ์เฉพาะของทางแบรนด์ บรรจุลงในซอฟต์แอมพูลหลอดเล็กกระทัดรัด ใช้งานง่ายดาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่บิด บีบ และทา! ก็ช่วยบำรุงล้ำลึกถึงเซลล์ผิวชั้นใน ให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ตอบโจทย์ทุกการดูแลผิวที่แตกต่าง รับประกันความปังด้วยยอดขายกว่า 200 ล้านแอมพูล และเดินหน้ากวาดรางวัล Beauty Awards ที่สุดของสกินแคร์มาแล้วทั่วโลก

จุดเริ่มต้นจากศูนย์วิจัยระดับเวิล์ดคลาสสู่แบรนด์สกินแคร์จากงานวิจัย
Bloomage Biotech R&D Center ศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับเวิล์ดคลาส แหล่งผลิต HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และส่งออกให้กับแบรนด์สกินแคร์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งได้รับรางวัลกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม ISO 14001: 2015 โรงงานมาตรฐานระดับสากล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และมีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 300 ทีม อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและผลการวิจัยที่ทันสมัย ก่อนจะพลิกผันมาสู่การพัฒนาสกินแคร์แบรนด์ Biohyalux ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการผลิต และบรรจุซอฟต์ แอมพูลประสิทธิภาพสูงด้วย BFS (Blow-fill-seal) เทคโนโลยีการผลิตแบบปลอดเชื้อขั้นสุด เพื่อคงความสดใหม่ของเนื้อผลิตภัณฑ์ มอบการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ


การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ จุดหมายใหม่ของการฟื้นบำรุงผิว
คุณสมบัติอันน่าทึ่งของ HA ที่ทำให้หลายๆ คน เลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าต่อ 1 หน่วยโมเลกุล แต่ Biohyalux ค้นพบที่สุดของนวัตกรรมการดูแลผิวจาก HHAF (Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation) ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่า HA ทั่วๆ ไป โดยการพัฒนาให้ HA แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับที่แตกต่างกัน ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งป้องกันผิวได้ดี ยิ่งโมเลกุลเล็กยิ่งซึมซาบได้อย่างล้ำลึก ซึ่งประกอบด้วย โมเลกุล HA ขนาดใหญ่ - เกราะป้องกันผิวชั้นนอก ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะ โมเลกุล HA ขนาดกลาง - ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ใต้ผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย โมเลกุล HA ขนาดเล็ก - ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ประสานชั้นผิวเข้าด้วยกัน ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการทำงานของเซลล์ โมเลกุล HA ขนาดเล็กพิเศษ - บำรุงอย่างล้ำลึก ป้องกันการอักเสบ เสริมเกราะป้องกันผิว ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี และป้องการผิวที่เกิดจากผลกระทบจากรังสียูวี

ยิ่งไปกว่านั้นยังอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว เพื่อการดูแลผิวที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อาทิเช่น "กลาบิดิน" ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ "กาบาแคร์" ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวกระชับเต่งตึง "เอ็กโทอิน" ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย และ "ไนอาซินาไมด์" ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว ลดอาการแดง/ระคายเคืองบนผิว กระตุ้นการผลิตเซราไมด์ และยังปราศจากน้ำหอม และสารสังเคราะห์กลิ่น ไม่ทดลองกับสัตว์

 
ผลิตภัณฑ์ขายดี เพื่อการบำรุงทุกสภาพผิว 
⭐️⭐️HA Hydro Intense Serum มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️
 
 
เซรั่มเนื้อเข้มข้นในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตตลอดกาลของ Biohyalux เหมาะสมกับทุกสภาพผิว มีส่วนผสมของ Patented mini HA "ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็ก" มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงถึงเซลล์ผิว ช่วยตรงเข้าเอาใจใส่ดูแลผิวได้อย่างล้ำลึก ตลอดจนเสริมเกราะป้องกันผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีอย่าง "ครีเอทิน" ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก เพิ่มความยืดหยุ่นผิว เผยผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก 
✔️ ขนาด 1.5 มล..จำนวน 30 แอมพูล ราคา 1,990 บาท



⭐️⭐️HA Lifting & Firming Serum ให้ผิวกระชับอิ่มน้ำตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
มอบความยืดหยุ่นให้ผิวกว่า 70% ด้วยสารสกัดจากสารแบคทีเรียหมักบ่ม Bifida Ferment และ Natto ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองถึงระดับเซลล์ พร้อม Hyacross ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง ให้ผิวเนียนเด้ง กระชับตลอดวัน *ผิวกระชับเพิ่มขึ้น 60% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,290 บาท



⭐️⭐️HA Brightening & Boosting Serum คืนความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และผิวอิ่มน้ำ เหมาะกับผิวหมองคล้ำ⭐️⭐️

 
เผยผิวคุณให้เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ด้วยการฟื้นบำรุงจาก Glabridin ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ป้องกันการระคายเคือง มอบผิวที่เนียนนุ่ม อิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากพืช Anastatica *ผิวสว่างขึ้นกว่า50% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Soothing Recovery Serum ปกป้องและดูแลผิวบอบบางเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย⭐️⭐️

 
อัดแน่นอรรถประโยชน์ที่ช่วยลดรอยแดง ลดการอักเสบด้วยสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ เติมน้ำให้ผิวด้วยเซราไมด์ พร้อม Ectoin ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย *อาการระคายเคืองลดลง 75% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Purifying Serum เติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวมัน⭐️⭐️

 
ช่วยผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน ดูแลให้รูขุมขนสะอาดด้วยพลังจาก 3D Salicylic acid พร้อมควบคุมความมัน และเพิ่มความกระจ่างใน เติมน้ำให้ผิวอิ่มเด้ง และลดการอักเสบ บวมแดงด้วย Niacinamide acid (Vitamin B3) *อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม ผิวกระจ่างใสและผุดผ่องยิ่งขึ้น
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Ultimate Hydration Mask มาส์กบำรุงผิว เติมความชุ่มชื้น เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
แผ่นมาส์กจากส่วนผสมฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว แผ่นบางแต่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพลังการเติมน้ำให้ผิวจาก HHAF มอบการบำรุงล้ำลึกทุกชั้นผิว พร้อมพลังการบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ และเติมน้ำให้ผิวด้วย Niacinamide acid และสารสกัดจากDendrobium Nobile 
✔️ ขนาด 28 มิลลิกรัม จำนวน 7 แผ่น ราคา 950 บาท



สัมผัสการฟื้นบำรุงผิวขั้นสุดจากศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับโลก พร้อมนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์แอมพูล เพื่อการดูแลอย่างตรงจุดได้แล้ววันนี้ ที่ Shopee Official Store: https://shopee.co.th/biohyaluxthailand
และสามารถรับชมข้อมูลข่าวสารอื่น ๆเพิ่มเติมที่ได้ 
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Biohyalux-Thailand-103453905329768/
IG : https://www.instagram.com/biohyaluxthailand/


Biohyalux ไบโอยาลักซ์ Biohyalux ไฮยาเซรั่ม เติมน้ำให้ผิวด้วย Biohyalux เซรั่มจากกรดไฮยารูลอน เซรั่ม Biohyalux เซรั่มไบโอยาลักซ์
#54


ระบบประปาภายในบ้านนอกจากจะต้องมีการเดินท่อต่าง ๆ ให้ถูกต้องและเพียงพอกับความต้องการแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือระบบที่ใช้ส่งน้ำไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะว่าถ้าหากกำลังของน้ำแรงไม่พอก็จะทำให้น้ำไหลช้าหรืออาจจะไม่ไหลในบางจุด การติดตั้งปั๊มน้ำจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี ในคราวนี้เราก็จะพามาดูประโยชน์และความคุ้มค่าของปั๊มน้ำอัตโนมัติแต่ละแบบกัน
   
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ตัวช่วยที่ทำให้น้ำภายในบ้านไหลแรงทุกจุด ไอเทมที่ควรติดตั้งเอาไว้สำหรับบ้านท่าน

แบบถังความดัน
หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าแบบถังกลม ซึ่งก็จะมีลักษณะตามชื่อเลยก็คือจะเป็นถังทรงกระบอก ด้านบนก็จะเป็นตัวปั๊มส่วนทางด้านล่างก็จะเป็นถังความดันสำหรับเก็บน้ำเพื่อรอส่งจ่ายไปยังจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซึ่งเมื่อมีการเปิดใช้งานก็จะทำการดันเอาน้ำที่อยู่ในถังออกมา และเมื่อความดันในถังลดลงจนถึงระดับ ตัวปั๊มก็จะเริ่มทำงานเพื่อให้น้ำกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกครั้ง จุดแข็งของปั๊มชนิดถังความดันก็คือมี ราคา ปั๊มน้ำ ที่ไม่แพงมากนัก การทำงานไม่ซับซ้อนจึงดูแลรักษาได้ไม่ยาก อะไหล่ค่อนข้างหาง่าย แต่ข้อเสียก็คือตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่เนื่องจากต้องมีถังแรงดันติดตั้งมาด้วย ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดวางตัวปั๊มค่อนข้างมาก และเมื่อใช้น้ำไปได้สักพักความแรงก็จะเบาลงเนื่องจากแรงดันในถังน้ำที่ลดลง และจะกลับมาแรงขึ้นเมื่อตัวปั๊มกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ได้น้ำที่ไหลแรงไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ยังค่อนข้างมีเสียงดังเมื่อใช้งาน

แบบแรงดันคงที่
หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าแบบถังเหลี่ยม โดยเป็นการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อด้อยต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแบบถังความดัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไหลของน้ำที่ไม่คงที่ หรือการกินพื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างมาก ก็เพราะว่าปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบแรงดันคงที่นี้ก็จะไม่มีการใช้ถังเก็บแรงดันแต่จะใช้เป็นถังแรงดันขนาดเล็กซึ่งใช้แรงดันจากก๊าซไนโตรเจนจึงทำให้มีตัวเครื่องขนาดเล็กกว่า ใช้พื้นที่ติดตั้งไม่มาก ตัวเครื่องจะมีการทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดน้ำใช้งานและจะหยุดเมื่อไม่มีการใช้น้ำ ให้การไหลของน้ำที่คงที่ มีน้ำหนักเบาและการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ แต่จุดด้อยก็จะเป็นในเรื่องของ ราคา ปั๊มน้ำ ที่สูงกว่า รวมไปถึงค่อนข้างเปลืองไฟมากกว่าแบบถังความดันทั้งนี้เพราะจะทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานนั่นเอง ซึ่งปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบนี้ก็มีให้เลือกในท้องตลาดอยู่มากมายหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็นิยมใช้เป็น ปั๊มน้ำ mitsubishi และปั๊มน้ำ Hitachi เป็นต้น

ดังนั้นในการตกลงใจเลือกซื้อเลือกหาปั๊มน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูในเรื่องของกำลังมอเตอร์ว่าแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้านหรือไม่ มีพื้นที่ในการติดตั้งมากน้อยแค่ไหน ปริมาณในการจ่ายน้ำเป็นอย่างไร รวมถึงเลือกซื้อยี่ห้อที่ไว้ใจได้  อะไหล่หาง่าย และมีบริการหลังการขายที่ดี เนื่องด้วยถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีการใช้งานทุกวัน ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องแน่ใจได้ว่าสามารถซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เดือดร้อนจากการไม่มีน้ำใช้นั่นเอง 
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU06
#55


ในช่วงที่หลาย ๆ คนต้องทำงานที่บ้าน หรือ Work from home แบบนี้ต้องมีบ้างที่รู้สึกว่าโต๊ะทำงานดูรก ไม่เรียบร้อย รวมถึงโต๊ะต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในบ้านไม่ว่าจะเป็นโต๊ะวางคอม ใช้อ่านหนังสือ ฯลฯ เพื่อให้การใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ลองจัดวางสิ่งของตามทริคต่อไปนี้ดูไหม รับรองหาของได้ไม่หลงลืม จัดเก็บเป็นระเบียบ ใครเข้ามาเห็นก็ต้องชื่นชม
สัดส่วนของโต๊ะใช้ทำงานที่ควรรู้
ก่อนที่จะไปเรียนรู้ถึงเทคนิคการจัดวางสิ่งของบนโต๊ะที่ไว้ทำงาน หรือโต๊ะคอม โต๊ะอ่านหนังสือ ขออธิบายถึงสัดส่วนที่ควรเป็นก่อน ซึ่งความลึกและความกว้างควรพิจารณาจากพื้นที่ทำงานใกล้ตัวอย่างเหมาะสม สามารถวาดมือบนโต๊ะได้โดยที่ศอกชิดลำตัวลักษณะครึ่งวงกลม ศอกถึงข้อนิ้วหยิบของได้ควรยาวออกไป 35 - 45 เซนติเมตร สามารถเปลี่ยนเหยียดแขนได้ ความยาวโต๊ะควร 160 เซ็นติเมตร (ครึ่งวงกลม) ทั้งนี้ สามารถออกแบบโต๊ะที่อยู่ในรูป L ได้ ช่วยให้หมุนเก้าอี้ง่าย หยิบของได้สะดวก
หาของไม่เจอ หลงลืมไม่รู้อยู่ตรงไหน ลองจัดโต๊ะทำงานตามนี้ช่วยได้
1. ของมีน้ำหนักแล้วไม่ใช้บ่อย
สำหรับสิ่งของที่มีน้ำหนักแล้วไม่ได้ใช้งานบ่อย ๆ ด้วยเอาไปวางไกลตัวผู้ใช้งาน อย่างขอบโต๊ะทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องลุกหยิบบ่อย ๆ  แต่ถ้าอยากใช้ก็เลื่อนเก้าอี้ไปใกล้ ๆ ได้ อย่าวางลึกเข้าไปเนื่องด้วยการเอื้อมทำให้ไหล่ใช้งานหนัก เสี่ยงเกิดแรงกดหมอนรองกระดูกสันหลัง อย่างเช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อาจมีหนังสือหลาย ๆ เล่มไม่ได้ใช้บ่อย
2. ใช้งานบ่อยจำเป็นต้องไว้ใกล้ตัว
เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนคงรู้กันในระดับหนึ่ง เมื่อของที่เราใช้งานบ่อย ๆ ก็ควรวางให้อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด เช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์ใช้แป้นพิมพ์ ใช้เมาส์ประจำ ก็ควรวางไว้กลางโต๊ะ ใกล้ขอบโต๊ะ หรือโต๊ะอ่านหนังสือที่มีหนังสือเล่มโปรดก็ควรวางใกล้ ๆ ด้านซ้ายหรือขวา เป็นต้น
3. น้ำหนักเบาใช้งานบ่อยแต่ยังไม่มาก
แอบสงสัยกันใช่ไหมว่าสิ่งของน้ำหนักเบาใช้งานไม่ได้บ่อยมากคืออะไร เช่น ปากกา กรรไกร สก็อตเทป ฯลฯ แนะนำว่าให้วางในพื้นที่ครึ่งวงกลม กล่าวคือสามารถเอื้อมหยิบได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อหมอนรองกระดูก
4. วางให้เหมาะกับลำดับการใช้งาน
ปิดท้ายคือการวางให้เหมาะกับลำดับการใช้งานอย่าง โต๊ะคอมถ้าต้องมีการอ่านแล้วพิมพ์งานไปด้วยให้วางแผ่นงานทางด้านซ้าย แล้วใช้คอมพ์ หรือโน้ตบุ๊กกลางโต๊ะ ช่วยให้การทำงานสะดวก ง่ายดายมากยิ่งขึ้น 
ต่อจากนี้ไปโต๊ะทำงาน รวมถึงโต๊ะวางเครื่องคอมพิวเตอร์ วางหนังสือของท่านจะจัดวางสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเอื้อมจับ หยิบใช้สิ่งของได้ง่ายดาย ใครยังไม่ได้จัดลักษณะที่แนะนำรีบไปปรับเปลี่ยนกันเลย ไม่หวงสูตร
ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR1005
 
#56

สภาพภูมิอากาศอันแสนอบอ้าวของบ้านเรา ทำให้หลายบ้านต้องติดตั้งแอร์เพื่อเพิ่มความเย็นให้ร่างกาย แต่คุณ ๆเคยเจอะเจอปัญหาเปิดแล้วไม่เย็นกันบ้างหรือเปล่า? จริงๆเป็นเพราะอะไร สามารถสังเกตอาการได้เพื่อลดความผิดพลาดดังกล่าวได้อย่างไร เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ยุ่งยาก ขอนำเสนอข้อมูลมาช่วยไขข้อสงสัยให้การใช้งานของคุณ ๆเย็นฉ่ำโดนใจ อากาศร้อนแค่ไหนก็หมดห่วง
ทำไมแอร์ที่ใช้งานอยู่ถึงไม่เย็น?
ที่จริงแล้วต้นสายปลายเหตุที่เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ไม่เย็นขึ้นมาดื้อ ๆ มีหลายปัจจัยด้วยกัน อาจมาจากผู้ใช้เปลี่ยนโหมดใช้งานผิดเพี้ยนไป กลายเป็นเปิดแบบใช้พัดลมบ้าง หรืออื่น ๆ ซึ่งปกติแล้วก็แค่เปิด - ปิด และเพิ่ม - ลดอุณหภูมิเท่านั้น แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการทำงานให้ชัวร์ 
ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ เครื่องมีรอยรั่ว คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ หรือน้ำยาหมด เป็นต้น และหากระดับความเย็นลดลงจากปัจจัยเหล่านี้ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ไข ด้วยเหตุว่าด้วยราคาแอร์แต่ละเครื่องค่อนข้างสูง จึงไม่ควรเสี่ยงแก้ไขเอง
พาไปสังเกตสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็น
1. ให้ตรวจสอบโหมดหรือฟังก์ชันใช้งาน
อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนโหมดของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เครื่องไม่เย็น จึงควรสังเกตโหมด หรือฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ ดูว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในโหมดปกติหรือเปล่า โดยสังเกตที่รูปไอคอน กรณีไม่เย็นจะอยู่ในรูปไอคอนพัดลม ก็ให้เปลี่ยนกลับให้อยู่ในโหมดเย็น โดยจะเป็นรูปไอคอนเหมือนหิมะ มีแฉก ๆ รับรองว่ากลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม
2. ให้ตรวจสอบที่คอมเพรสเซอร์
ด้วยกลไกของเครื่องปรับอากาศในบางรุ่นป้องกันเวลาไฟตก เมื่อไฟตกขึ้นมาเครื่องจะยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่ก็มีบ้างที่ความเย็นลดลง และเมื่อยกเบรกเกอร์ขึ้นความเย็นก็จะกลับมา นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ดังเช่น เครื่องมีเสียงดังแปลก ๆ หรือตัวเครื่องคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดีกว่า 
3. ให้ตรวจสอบที่ฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรอง
สุดท้ายให้ลองไปตรวจสอบฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองดู เปิดหน้ากากของเครื่องออก ดูว่ามีสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม เส้นขนเกาะตามแผงหรือไม่ หากพบว่ามีเป็นจำนวนมาก หรืออุดตันการไหลเวียนให้ถอดออกแล้วทำความสะอาดใส่กลับเข้าไปใหม่ ทำให้อากาศไหลเวียนดีขึ้นได้ อุณหภูมิก็จะกลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ซึ่งผู้ใช้งานควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อทราบว่าต้นสายปลายเหตุที่แอร์ไม่เย็นเป็นเพราะอะไรแบบนี้แล้ว ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาขึ้นรับรองว่าผู้ใช้งานทุก ๆ คนจะสามารถตั้งรับ และตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมแก้ไขได้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทันที ทั้งนี้ บ้านเราก็มีขายอยู่หลายแบรนด์ ราคาแอร์ก็มีตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลายหมื่นเลยทีเดียว อย่าลืมเลือกที่ตอบโจทย์กันนะ
เข้ารับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP01
#57


เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหลายคนที่เป็นมือใหม่อาจยังไม่เข้าใจในเรื่องของการทำความสะอาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งคราบและกลิ่นบนชุดเครื่องนอน และหากคุณ ๆมีความต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีจัดการทั้งคราบและกลิ่นอยู่แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน อย่างไร ไม่ต้องกดออกไปไหนอีกแล้ว ก็เพราะว่าบทความนี้ได้รวบรวมมาบอกต่อ 6 วิธีด้วยกัน พร้อมแล้วตามมาให้ไว เพื่อการนอนหลับที่ราบรื่น
6 วิธีจัดการคราบ - กลิ่นไม่พึงประสงค์บนชุดเครื่องนอน
1. ใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วย
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่แล้วไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก แนะนำว่าให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดเอาทั้งฝุ่น คราบสกปรกที่ไม่ได้ฝังลึก ไรฝุ่น ฯลฯ ให้หลุดออกจากชุดที่นอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มให้หมด อย่ามีหลงเหลือ ทั้งนี้ ควรนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนไปซักทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อความสะอาดที่ดีมากขึ้น
2. จัดการคราบเลือดด้วยสูตรผสม
สูตรผสมที่ว่าก็คือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ + ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วยตวง และเกลืออีก 1 ช้อนโต๊ะ ต่อไปก็ผสมให้เข้ากัน ใครที่ชุดผ้าปูที่นอนมีคราบเลือดให้นำไปถูคราบเลือดที่ติดอยู่ สุดท้ายใช้ผ้าขาวมาซับออก นอกจากนี้ควรผสมน้ำเย็นกับน้ำยาล้างจานแล้วคนให้เข้ากัน ใช้ฟองน้ำชุบแล้วซับคราบซ้ำ จากนั้นนำผ้าแห้งมาเช็ดออก เป็นอันเสร็จ
3. รอยด่างดำ - เชื้อรา ก็กำจัดได้
สำหรับใครที่สังเกตแล้วพบว่าชุดที่นอนมีรอยด่างดำ เชื้อรา ต้องยกไปตากแดด แล้วทำความสะอาดให้ทั่วด้วยเครื่องดูดฝุ่น จากนั้นผสมน้ำอุ่นกับแอลกอฮอล์ นำฟองน้ำไปชุบ แล้วมาซับลงบนที่นอนเน้นจุดที่เป็นรอยด่างดำ เชื้อราอีกครั้ง ช่วยจัดการได้อย่างดี
4. จัดการคราบเครื่องดื่มต่าง ๆ
เผื่อว่าบ้านไหนเอาเครื่องดื่ม ทั้งน้ำผลไม้ กาแฟ หรือนม ขึ้นไปดื่มแล้วเกิดทำหกชุดผ้าปูที่นอนกลายเป็นคราบ ไม่ต้องตกใจไป ทำความสะอาดโดยใช้สูตรน้ำส้มสายชู หรือมะนาวใส่ในขวดสเปรย์แล้วฉีดลงไปที่คราบนั้น ๆ หรือใครเลือกใช้ผ้าไปชุบแอลกอฮอล์มาซับโดยตรงก็ได้เช่นกัน แล้วนำไปซักอีกรอบ
ทั้งหมดนี้คือวิธีการจัดการทั้งคราบ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มีอยู่บนชุดเครื่องนอน ไม่ว่าจะที่นอน ผ้าปู ปลอกหมอน หรือใด ๆ ก็ตาม ดังนี้ไม่เพียงนำวิธีทำความสะอาดมาบอกต่อเท่านั้น อาจเลือกปกป้องสิ่งสกปรกด้วยวิธีคลุมผ้าปูไวนิลไปก่อนแล้วจึงใส่ผ้าปูหรือปลอกหมอน ซึ่งผ้าปูไวนิลจะช่วยให้ที่นอน หรือหมอนไม่เจอสิ่งสกปรกอันเนื่องมาจากวัสดุทำมาจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์นั่นเอง
เข้ารับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/BED0101
#58

สำหรับท่านใดที่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อลำโพงบลูทูธมาใช้งานดีหรือเปล่า เรื่องนี้อยากให้ลองไปศึกษาหาจุดดีกันสักเล็กน้อย เชื่ออย่างยิ่งว่าจากที่ลังเลจะสามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว ว่าแต่จะมีจุดเด่นอะไร น่าสนใจเท่าใด ใครใคร่อยากทราบอย่ามัวรอช้ารีบไปดูพร้อมกันกับเราในบทความนี้ได้เลย มีข้อมูลจัดเต็มให้เหมือนเดิม
จุดเด่นที่อยากบอกต่อของลำโพงบลูทูธ ทราบแล้วตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
1. สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้
แน่นอนว่าลำโพง Bluetooth เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีสายเชื่อมต่อ แต่ใช้งานเสียงออกมาจริง ฉะนั้นจึงสามารถหยิบพกพาไปวางไว้ที่ไหนก็ได้ สะดวกสบาย ตั้งในบ้าน นอกบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ ช่วยให้ยังคงฟังเพลงอย่างสบายใจได้ แม้กำลังทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ก็ตาม
2. สามารถกันน้ำได้
ลำโพงประเภทนี้บางแบรนด์ได้ถูกผลิตขึ้นมาให้มีฟังก์ชันกันน้ำ จึงไม่ต้องกลัวว่าเอาไปใช้งานแล้วเผลอทำน้ำหกใส่ หรือถูกน้ำสาดมาจะพังเสียหาย อย่างลำโพง JBL เป็นต้น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อยากแนะนำให้ถูกน้ำบ่อย ๆ เนื่องจากถึงยังไงก็ยังคงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า
3. มีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย
แต่ละแบรนด์ก็จะมีลักษณะการออกแบบที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเราสามารถเลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะชนิดยาว วงกลม ชนิดแบน มีหูจับ ฯลฯ ทั้งนี้วัสดุที่ใช้ทำยังแข็งแรงทนทาน สีสันสวยงาม ขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมวางได้ทุกที่ เปิดใช้งานได้ทุกเวลา แน่นอนว่า ลำโพง JBL หรือรุ่นอื่น ๆ มีให้เลือกหลากหลายครบครัน
4. สามารถปรับระดับเสียงได้ด้วย
ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือความสามารถในการปรับระดับเสียง ลำโพง Bluetooth สามารถทำได้ตามความต้องการ อยากได้เสียงดังแค่ไหน หรือเสียงเบาขนาดไหน หรือกดปรับได้หมด ที่สำคัญเสียงไม่แตกอีกด้วย เรียกได้ว่ามีความนุ่มนวล ไพเราะ วางตรงไหนก็ได้ยิน
5. สามารถเสียบต่อ USB หรือต่อลำโพงหลายตัวได้
เป็นอีกฟังก์ชันการใช้งานที่หลาย ๆ แบรนด์ผลิตออกมาให้เราเลือกใช้งาน กับความสามารถในการเสียบต่อ USB ที่จะเพิ่มแบตเตอรี่โทรศัพท์ที่บางครั้งอาจใกล้หมดให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ หรือต่อเพิ่มลำโพงอื่น ๆ แบบ Stereo ได้ด้วย เสียงกว้างขวางมากขึ้น ฟังชัดสะใจกว่าเดิม
เป็นอย่างไรกันบ้างกับจุดแข็งของลำโพงบลูทูธ คงช่วยให้การดูหนัง ฟังเพลงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แอบบอกว่าแบตเตอรี่มีความจุพอตัว เปิดใช้งานได้ 5 - 20 ชั่วโมง ที่สำคัญการชาร์จแบตเตอรี่ก็ใช้เวลาไม่มากด้วย อย่างต่ำก็ประมาณ 2 ชั่วโมง บางแบรนด์มีกระเป๋าใส่สำหรับพกพาสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวเลอะเปื้อน แบบนี้คงไม่มีใครลังเลอีกต่อไปแล้วจริง ๆ 
เข้าดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA0109
 
 
#59

หลายคนที่กำลังจะซื้อตู้เย็น คงสงสัยว่าตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี? ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด แต่ก่อนจะไปศึกษาเรื่องนี้ ควรรู้ถึงสิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบด้านเพื่อให้ได้สิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ แล้วจึงค่อยไปเลือกยี่ห้อ เป็นการเพิ่มความมั่นใจและการันตีความคุ้มค่าในการลงทุนของทุกคน ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเปรียบเทียบได้เลย
สิ่งที่ต้องพิจารณา เรื่องต้องทราบก่อนเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็นมาใช้งาน
1. คุณสมบัติพื้นฐานของตู้เย็นที่มีให้
ก่อนซื้อตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี? ขอเริ่มต้นถึงสิ่งที่ต้องพิจารณานั่นคือการดีไซน์ คุณสมบัติต่าง ๆ ที่ตู้เย็นมีให้ใช้งานก่อน ได้แก่
-    ช่องใส่ผักและผลไม้ ที่ตู้เย็น 2 ประตูควรมีความเย็นหมาะสม เพื่อผักหรือผลไม้ที่ใส่ไปจะได้รับความเย็นอย่างสม่ำเสมอ เต็มที่ คงความสดของผัก ผลไม้ได้นาน
-    ชั้นวางควรต้องถอดเข้า - ออกได้อย่างไหลลื่น เพื่อให้เราสามารถปรับขนาดช่องแช่ รวมถึงทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี
-    นอกจากชั้นวางปกติแล้ว ก็ควรพิจารณาถึงชั้นวางข้างประตูด้วย ต้องมีขนาดกว้างเหมาะสม แช่ทั้งขวดน้ำ ขวดนม หรือกระป๋อง ฯลฯ ได้อย่างดี
-    ลิ้นชักช่องแช่ควรต้องชั้นแยกภายใน ช่วยให้อุณหภูมิปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมกับอาหาร หรือเครื่องดื่มที่เราแช่
2. ฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ที่มี
เรื่องของฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ก็สำคัญ เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมในการใช้งาน แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ราคา ตู้เย็น 2 ประตูจะขึ้นอยู่กับฟีเจอร์เสริมด้วย ได้แก่ 
-    ระบบกรองอากาศ จะมีช่องให้กรองอาการเป็นพิษที่เพิ่มกลิ่นอับในตู้เย็นอย่างคาร์บอน
-    ระบบทำความเย็นแบบคู่ ที่ช่องแช่ของตู้เย็น 2 ประตูจะสามารถกระจายลมเย็นออกมาจากช่องแช่ธรรมดาได้ อุณหภูมิช่องแช่ต่าง ๆ ก็จะมีประสิทธิภาพ
-    แผงควบคุมการทำงาน สามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้ รวมถึงระดับน้ำต่าง ๆ ล็อกความเย็น หรือเช็กตัวกรอง เป็นต้น
-    ระบบประหยัดไฟฟ้า ที่จะช่วยงดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ทำให้ค่าไฟในแต่ละเดือนลดลง 
3. ขนาดความจุที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว
ปกติหน่วยของตู้เย็นคือลูกบาศก์ฟุต หรือคิว ซึ่งแต่ละครอบครัวควรเลือกดังนี้ กรณีมีสมาชิก 2 คน ให้เลือกอย่างต่ำสุด 3 คิวขึ้นไป หากมีสมาชิกตั้งแต่ 3 - 4 คนให้เลือกที่เหมาะสมเป็น 7-12 คิว ส่วนครอบครัวใหญ่ที่สมาชิกมากกว่า 5 คน ให้เลือกเหมาะสมเป็น 15 คิวขึ้นไป แน่นอนว่าราคา ตู้เย็น 2 ประตูก็จะสูงตามขนาดความจุ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนรู้ตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการ รู้ถึงความเหมาะสม และสามารถเลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์ได้ที่สุด ใช้งานมีประสิทธิภาพ สบายใจไร้กังวล อยากแช่สิ่งของชนิดไหนจัดไปเลย
เลือกซื้อเลือกหา ตู้เย็น 2 ประตู หลากหลายแบรนด์ ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0905
#60


ตกเป็นไอเท็มสำคัญที่ต้องพกไปด้วยเมื่อออกจากบ้านสำหรับ "หน้ากากอนามัย" ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายลักษณะ ไม่ว่าจะแบบผ้า แบบทางการแพทย์ N95 ฯลฯ แต่อย่างไรแล้วแต่ละประเภทย่อมมีประสิทธิภาพด้านการป้องกันที่แตกต่างกัน จึงจะมาเสนอแนะให้อย่างหมดเปลือก พร้อมแถมวิธีสวม - ถอดที่ถูกต้องเพิ่มเติมให้ด้วย
หน้ากากอนามัยแต่ละแบบมีประสิทธิภาพการป้องกันอย่างไร?
1. หน้ากากทางการแพทย์
หรือที่รู้จักกันดีว่ามาสก์สีเขียว ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส เชื้อแเบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นขนาดเล็ก หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงมากเฉลี่ย 2.5 บาทขึ้นไป ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อที่มาจากสารคัดหลั่งคนสู่คน แต่หากขนาดไม่พอดีกับหน้ามีโอกาสเลื่อนหลุดง่าย ต้องใช้มือมาสัมผัส ทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น
2. หน้ากาก หน้ากาก N95
ต่อมาเป็นหน้ากากชนิด N95 ที่สามารถป้องกันไวรัสได้ถึง 95% ทำจากโพลีโพรพีลีน มีประสิทธิภาพการป้องกันเกี่ยวกับไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นละอองขนาดเล็กไปจนถึงเชื้อโควิด - 19 ได้ดี แต่จะกระชับหน้ามาก เพิ่มความอึดอัดเวลาสวมใส่ ใส่แล้วพับเก็บยาก เนื่องด้วยลักษณะเป็นฝาครอบ
3. หน้ากากแบบผ้า
สำหรับหน้ากากผ้าใช้วัสดุทำหลากหลาย ทั้งใยสังเคราะห์ ผ้าฝ้าย ฯลฯ ราคาจึงแตกต่างกันออกไป สามารถนำมาซักใช้งานซ้ำได้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ละอองเกสร และฝุ่นเท่านั้น มีหลายสีหลากหลายลายให้เลือก แต่จะไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็ก ๆ ได้ 
4. หน้ากากแบบคาร์บอน
ปิดท้ายด้วยหน้ากากแบบมีชั้นกรองคาร์บอนที่ประสิทธิภาพจะเหมือนกับหน้ากากทางการแพทย์ คือประสิทธิภาพการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ละอองเกสร และฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ที่ต่างคือสามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี ต้องสังเกตว่าสีที่เห็นเป็นการเสริมชั้นกรองคาร์บอน หรือแค่สีสันที่คล้ายหน้ากากทางการแพทย์ เพราะไม่อย่างนั้นประสิทธิภาพการป้องกันจะต่ำลงกว่าเดิม
สอนวิธีใส่ - ถอดหน้ากากที่ถูกต้อง
ในส่วนของการใส่และถอดที่ถูกวิธีนั้นไม่ว่าจะ หน้ากาก N95 หน้ากากผ้า หรือหน้ากากใด ๆ ก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการล้างมือให้สะอาด ต่อจากนั้นให้สวมหน้ากากปิดทั้งปาก จมูก โดยดึงลงให้ถึงใต้คาง กรณีเป็นหน้ากากทางการแพทย์ หรือหน้ากากคาร์บอน ให้กดเหล็กดามลงที่สันจมูกด้วย 
สำคัญมากคือพยายามไม่สัมผัสโดยตรงกับหน้ากากระหว่างวัน หากต้องสัมผัสให้ล้างมือด้วยเจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ สบู่+น้ำทุกครั้ง หากชื้นต้องถอดออกและใส่อันใหม่ทันที การถอดออกต้องถอดจากด้านหลัง แล้วทิ้งในถังขยะแบบปิด
ในยุคที่ทุก ๆ คนต้องเอาใจใส่ตัวเองอย่างดีที่สุดให้ห่างไกลจากความเสี่ยงแพร่ - รับเชื้อโควิด - 19 เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างที่สำคัญ ด้วยเหตุนั้น การหาความรู้เกี่ยวกับเลือกสวมใส่ - ถอดอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
เข้าดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TOO020106